แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
เราก็ได้ยินว่าพระพุทธเจ้าแสดงธรรม แต่เราสาธยายคำสอนของพระพุทธเจ้า ชัดเจนเหลือเกิน ไม่จนเลย ไม่จนต่อความชั่ว จะละความชั่ว ไม่จนต่อการทำดี ที่จะทำความดีมีอยู่ที่ตัวเรานี้ ความผิดมันก็บอก ความถูกมันก็บอก ผู้ที่มีการกระทำก็รู้เอง ผู้มีการกระทำก็ต้องปฏิบัติเอาเอง สามารถทำความดีได้ ละความชั่วได้ มีเครื่องมือ มีกาย มีวาจา มีจิตใจ วิธีเราทำความดีปฏิบัติก็เอาเรื่องกาย เรื่องวาจา เรื่องใจนี้มาทำ เวลาเราจะละความชั่วเอาเรื่องกายเรื่องใจนี้มาละ วิธีปฏิบัติตามก็ไม่ต้องใช้หัวคิดเหตุผลอันใด พร้อมทันทีที่เดียวกันนั้น เหมือนกุญแจเปิดปิดในดอกเดียว เปิดก็ได้ ปิดก็ได้ เหมือนโทรทัศน์ที่เราเปิด เราดูรายการไหนไม่ดี ปิดได้ ปิดได้ไม่ต้องดู รายการไหนที่ดีๆ เราก็เปิดได้ดูไป ก็ได้เห็นสิ่งที่ดี ไม่ดี เฉพาะผู้ที่ดูนั้น ก็ได้บทเรียนว่า ถ้าความดีก็ทำตาม ถ้าความไม่ดีก็ละเสีย นี่คือหลักการทำความดี ละความชั่ว ยิ่งเราทำความดีที่เป็นให้เกิดมรรคเกิดผลนี้ ก็ยิ่งสะดวก
พระพุทธเจ้าก็ประกาศอยู่ บอกอยู่แล้ว มีสติไปในกายอยู่เป็นประจำ สติก็เป็นความรู้สึกตัว รู้สึกระลึกได้ขณะที่ทำ ขณะที่พูด ขณะที่คิด ก่อนจะพูดจะทำก็คิดระลึกได้อยู่อย่างนี้ อะไรที่เกิดขึ้นก็มีจิตชี้วัดแล้ว มีสติพร้อมอยู่แล้วก็รู้ได้ สิ่งที่ไม่ใช่ความรู้สึกตัวก็เปลี่ยนได้ง่ายๆ ตรงกันข้ามเหมือนกุญแจเปิดปิดนั่นแหละ ตรงกันข้าม ในคราวเดียวกันนั้นถ้าเรามีสติตั้งไว้ มีความเพียร มีศรัทธา มีสติ หลายอย่างถ้ามีสติ มีครบ ละความชั่วแล้ว ทำความดีแล้ว จิตบริสุทธิ์แล้ว แม้มีความไม่ดีเกิดขึ้น ก็ไม่ให้เกิดขึ้นแล้ว ในคราวเดียวกันนั้น ก็ได้ความดีเกิดขึ้นแล้วในคราวเดียวกันนั้น ไม่ใช่อยู่คนละที่
ดังที่เราสาธยายพระสูตรนี้ สัมมาวายามะ เมื่อกี้นี้ มีศรัทธา มีความเพียร มีสติ มีปัญญาอยู่ในคราวเดียวกันนั้น ตั้งใจอยู่ มีศรัทธาเชื่อ เชื่อแล้ว ทำแล้ว เหมือนมีเนื้อนาแล้ว มีความเพียรเหมือนกับฝนตก น้ำก็เต็มทุ่งแล้ว พร้อมแล้ว มีสติ เตรียมพื้นที่แล้ว ปลูกลงไปแล้ว ดูแลแล้ว ได้ปลูกจริงๆ ได้ปลูกข้าวลงไปในเนื้อนาจริงๆ ดูต้นข้าว เป็นต้นข้าว เป็นอย่างไร ดูอยู่ ขณะที่เราดูอยู่นี้ เนื้อนาต้องมีน้ำพอดีนั้น มีต้นข้าวที่ปลูกลงไป มีผู้ดูแลอยู่ ข้าวก็งอกงามขึ้นเอง ไม่ต้องไปปลอบ ไม่ต้องไปยึด ไม่ต้องไปหาเหตุผลว่าจะได้ ว่าจะขาดทุน ว่าจะได้กำไร ไม่ต้องไปคิดว่าจะดูดีๆ จะขาดทุนจะได้กำไรไม่ใช่อยู่เรื่องที่ปลายเหตุ มันอยู่ที่ต้นเหตุคือเราไม่ได้ดูแล
การปฏิบัติธรรมกระทำความดีก็เหมือนกัน ตั้งไว้ มีสติตั้งไว้ที่กายนั้น อะไรเกิดขึ้นมาก็รู้สึก สิ่งที่เกิดขึ้น เป็นสุขบ้าง ทุกข์บ้าง ผิดบ้าง ถูกบ้างก็รู้สึก เรียกว่า เวทนา หรือว่าทุกขเวทนา สุขเวทนา อย่าให้มันถึงกับเป็นสุขเป็นทุกข์ ให้มันเป็นความรู้ซะ เปลี่ยนอย่างนี้เรียกว่าปฏิบัติ เลยเกิดขึ้นมาที่ไม่ใช่เฉพาะเรื่องกาย มันเกิดขึ้นมีอีกหลายอย่าง ก็อย่าพักไป ตั้งไว้เป็นเสาหลัก เสาหลักทำอะไรต้องเน้นหลักอย่างนี้ ถ้ามีหลักมันก็มีที่ตั้งสามารถอยู่ได้ ตั้งไว้ๆ กลับมาตั้งไว้ๆ มันก็มีความชำนาญ เมื่อมีความชำนาญก็เป็นใหญ่มีอำนาจ มีอำนาจได้ความเพียรทน ได้ความคงทน มันจะงามเพราะสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ความถูกต้องจะงามในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เรียกว่ากระแส ได้เปลี่ยนความไม่ถูกต้องให้เป็นความถูกต้อง เราเห็นกระแส ผู้ปฏิบัติธรรมเห็นกระแสพระนิพพาน เจริญสติปัฏฐานเห็นกระแสพระนิพพานอย่างนี้
พระพุทธเจ้าตรัสไว้อย่างนี้ เห็นจริงๆ เห็นความหลงกับเห็นความไม่หลง ไปทางความไม่หลงได้ เห็นทางแล้ว เห็นความทุกข์ก็เห็นความไม่ทุกข์ ได้เห็นทางแล้ว ไปทางความไม่ทุกข์ได้แล้ว ง่ายๆ มันจะงามในสิ่งที่ผิด ในความถูกจะงามในความผิด ในความไม่ทุกข์จะงามอยู่ในความทุกข์ เหมือนพื้นเพมันดี ที่ไหนดินดีต้องมีหญ้าปก ถ้าหญ้าขึ้นรกก็รู้ว่าดินดี เหมือนชาวนาไปดูนา หาซื้อนา ไปหาซื้อที่นา ถ้านาแปลงไหนต้นหญ้าขึ้นมากๆ หญ้างามๆ ในฤดูแล้งเห็นต้นหนาดเขียวๆ เห็นต้นหญ้าเขียวๆ นั่นเรียกว่านาดี ปลูกข้าวงาม ดินดี ถ้าที่ใดนาไม่มีหญ้า นาตรงนั้นก็ไม่ดี เป็นดินเอียดเป็นดินด้านไปแล้วไม่มีหญ้าขึ้น ทุกวันนี้เขาจะฆ่าหญ้ากัน กรัมม็อกโซน (ยาฆ่าหญ้า) ให้แผ่นดินนี้ไม่มีหญ้า ถ้าแผ่นดินนี้ไม่มีหญ้าสัตว์ก็อยู่ไม่ได้ มรรคผลนิพพานจะเกิดขึ้นเพราะมีตรงกันข้ามกันได้ ผู้ปฏิบัติธรรมก็ชำนาญ
บางคนก็พูดว่าปฏิบัติไม่ได้กิเลสตัณหามาก อันนั้นไม่ถูกต้อง ไม่ใช่คำพูดออกมาจากความถูกต้อง เป็นคำพูดมาจากความผิด เป็นคนล้มเหลวแล้ว จะทำยากทำง่าย ถามเรื่องยากเรื่องง่ายเป็นคนล้มเหลวแล้ว แต่ถ้าเป็นนักกระทำต้องทำจริงๆ เห็นงานก็ทำ มันจึงสำเร็จมีงานให้ทำ ปฏิบัติธรรมมีงานให้ทำเรียกว่ามีสติตั้งไว้ในกาย ถ้ามันหลงก็งานเสร็จแล้วได้เปลี่ยนความหลงเป็นความรู้ ละความชั่วละอกุศล อกุศลไม่เกิดไม่ให้มันเกิดขึ้นมันก็หมดไป กุศลเกิดขึ้น กุศลที่เกิดขึ้นแล้วก็เจริญมากขึ้น ตั้งอยู่ไม่เลอะเลือนงอกงามไพบูลย์เต็มรอบ อย่างนี้เป็นธรรมชาติที่มันมีการกระทำ เรียกว่ากรรมฐานนี้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ลิขิตสิ่งที่ให้เกิดความดี จนถึงมรรคถึงผลได้ อย่าให้ขาดตกบกพร่องตรงนี้ มีประโยชน์ ถ้าไม่ทำตรงนี้ให้เกิดก็เสื่อมประโยชน์ เป็นคนลามกในทางกุศลทำประโยชน์ของตนให้เสื่อมด้วย ทำประโยชน์ของคนอื่นให้เสื่อมด้วย
ยิ่งพวกเราเป็นนักบวชอยู่วัดวาอาราม ได้ฉัน ได้นุ่งห่มจีวร ได้ฉันอาหาร ได้อยู่เสนาสนะ คิลาเภสัชของคนทั้งหลายเหล่าใดที่ให้เราก็สูญเปล่าประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ถ้าเราทำความดีเปลี่ยนความร้ายเป็นความดีปฏิบัติธรรมมันก็ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย อานิสงส์ใหญ่กุศลใหญ่ นี้จึงเป็นงานที่ชอบที่สุด เราได้ละความชั่วต่อหน้าต่อตา ต่อทำกับมือมันสุดหัวใจ อยากเห็นความไม่ดีที่เกิดขึ้นกับกายกับใจ ที่เกิดขึ้นภายนอกๆ ใจ จะได้แก้ไขตามกำลังของเรา เราแก้คนเดียวไม่ได้ก็ชวนคนอื่นไปช่วย ให้ทำความดี ให้ความดีเกิดขึ้นจากชีวิตของเราไม่มากก็ให้น้อย
ยิ่งพวกเราเป็นสัตว์สังคม ครอบครัวผัวเมียพ่อแม่ลูกหลานเพื่อนบ้าน ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะทำความดีมีประโยชน์จริงๆ ขุดน้ำบ่อก่อศาลาทำต่างๆ เป็นประโยชน์ให้เป็นส่วนรวม ชีวิตของเราเป็นส่วนรวม ถ้าเราทำความดีก็เป็นส่วนรวม ถ้าเราทำความชั่วก็เป็นส่วนรวม เราทำความชั่วเราก็เดือดร้อน คนอื่นก็เดือดร้อน เราทำความดีเราก็ไม่เดือดร้อน คนอื่นก็ไม่เดือดร้อน นี่จึงเป็นความจำเป็นสำหรับปฏิบัติธรรม ในการเริ่มต้นมีสติตั้งไว้ในกาย การละความชั่วก็ทำอย่างนี้ การทำความดีก็ตั้งต้นที่นี่ มีกาย มีวาจา มีใจ จะผิดจะถูกก็ตรงนี้ผิดตรงนี้ เป็นสูตรสำเร็จแล้วที่มนุษย์คนหนึ่งที่เป็นสามัญชนค้นพบ สองพันหกร้อยปีมาแล้วเป็นของจริง เราก็สามารถพิสูจน์ได้ทุกวันนี้ จะไปทำอย่างอื่นมันก็ไม่จบไม่สิ้นที่จะให้เกิดความดีเป็นสังคม แม้เรามีกองทัพมีอาวุธ มีธรรมนูญ มีกฎหมาย มีคุกมีตารางก็ยังเอาไม่อยู่ถ้าไม่ตั้งอยู่ตรงนี้
ถ้ามาตั้งที่ตรงนี้ทุกคนก็ทำอันเดียวกัน มาอันเดียวกันเป็นอันเดียวกันอยู่ในพิมพ์เดียวกัน ธรรมวินัยนี้เหมือนเส้นด้ายร้อยดอกไม้ ดอกไม้ต่างต้นต่างสีต่างกลิ่นต่างลักษณะ พวกเราทุกคนก็ลูกต่างพ่อต่างแม่ ต่างนิสัยใจคอ นานาจิตตัง เมื่อเอาเส้นด้ายร้อยเหมือนกับดอกไม้ให้เข้าเส้นด้ายซะ มันก็เป็นพวงมาลัยดูสวยงาม เป็นระเบียบ เพราะมันต่างกัน มาอยู่ในระเบียบ ผู้หญิงผู้ชาย คนหนุ่มคนแก่ เพศลัทธิใดนิกายใด เป็นระเบียบอันเดียวกัน หรือเหมือนอิฐหินดินปูนอยู่กันคนละที่ เอามาผสมกับน้ำปูนลงไป เทใส่พิมพ์ จะเป็นพิมพ์แบบไหน ก็เทใส่ต้นเสาเป็นเหลี่ยมๆ ก็เป็น เป็นกลมๆ ก็เป็นกลมๆ พอมันติดมันก็เข้มแข็ง แข็งแรงใช้งานได้ สร้างบ้านได้สร้างตึกยี่สิบสามสิบชั้นได้ ก็อันเดียวกัน ที่เหมือนทางก้านพร้าวอันเล็กๆ ก้านเดียวมันกวาดขยะไม่ได้ มารวมกันซะให้เป็นไม้กวาด กวาดอะไรก็ได้
ชีวิตของเราก็เช่นกัน ต้องเรียกร้องให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นมา มีกรรมวิธีมีแบบ ถ้าเป็นศาสนาก็ศาสนา บุคคลมีคน มีศาสนวัตถุก็มีวัตถุสิ่งของ ที่จะต้องใช้ให้มันสะดวกในการสร้างความดี ศาสนพิธีก็มีพิธีธรรม ศาสนธรรมก็มี เกิดขึ้นได้อันเดียวกัน ศาสนบุลคลเป็นคนละอย่างเป็นคนละคน ศาสนวัตถุก็เป็นคนละแบบ ศาสนพิธีอาจจะเป็นคนละแบบ แต่ศาสนธรรมอันเดียวกัน เพื่ออันเดียวกัน คือมีสติอันเดียวกัน ทำแบบใดก็มีสติ
หลักการปฏิบัติธรรมในประเทศไทยนี้มีอยู่สี่ห้าอย่างหกอย่างหรือมากมายก็ตามในโลก ก็เพื่อมีสติในกาย จึงจะเกิดความดี จึงจะละความชั่วได้ ความเชื่อลัทธิในกายใดใด สติเท่านั้นมีในกาย ก่อนพูดก่อนทำก่อนคิด ขณะที่พูดที่ทำที่คิดก็มีสติ กลับไปสู่อันเดียวกัน มีสติทุกคนก็เป็นคนเดียวกัน ถ้ามีความหลงก็เป็นคนละคนกันไป อาศัยไม่ได้ แม้แต่ตัวเรานี้ถ้าหลงก็อาศัยไม่ได้แล้ว ถ้าหลงก็มีโกรธ มีสุขมีทุกข์ มีรักมีชัง มีอะไรต่างๆ เยอะแยะ ถ้ามีรู้สึกตัวก็เป็นอันเดียวกันแล้ว ละความชั่วทำความดีเหมือนกันหมด
นี่คำสอนที่เป็นสัจธรรม เป็นอันเดียวกัน สัจธรรมอย่างนี้ไม่มีคำถาม สัจธรรมอย่างนี้มีแต่คำตอบ ทุกคนตอบได้เอง ถ้าไม่ทำก็ตอบไม่ได้ ความหลงเป็นอย่างไร ความรู้สึกตัวเป็นอย่างไร ความทุกข์เป็นอย่างไร ความไม่ทุกข์เป็นอย่างไร ความโกรธเป็นอย่างไร ความไม่โกรธเป็นอย่างไร ตอบได้เอง ถ้าคนได้เห็นแล้วไม่ทิ้งความทุกข์ความโกรธไว้ในรูปในนาม ในกายในใจ เพราะไม่ถูกต้อง ถ้าคนที่ไม่รู้ก็ยึดเอาเป็นตัวเป็นตน ทำตามความทุกข์ ทำตามความโกรธ เป็นทุกข์เป็นโทษแก่ตัวเองและคนอื่น ผู้ไม่รู้พอใจในความโกรธ ถ้าได้โกรธตายไม่ลืม ทำตามความโกรธ เสียผู้เสียคน คนที่ถูกทำก็เดือดร้อน
เหมือนอ่านหนังสือพิมพ์ คนขับรถรับจ้างสามล้อถูกปล้น ก็ไม่มีเงินๆ ก็ไม่ยอม ถึงกับมีดแทงเข้าไปๆ ก็บอก พอจะตายก็เลยบอก เงินอยู่ใต้เบาะ ก็ไปเอาเงินใต้เบาะได้สามร้อยบาท ยกมือขอโทษอย่าฆ่า คนร้ายได้เงินแล้วก็มาแทงอีก ซ้ำจนตายคามือ อย่างนี้ก็ทำให้คนหาเลี้ยงลูกเลี้ยงเมียเดือดร้อนล้มหายตายไป เพราะคนไม่ดีมันก็เป็นทุกข์เป็นโทษต่อคนดี หนีไม่พ้น เราจึงมาชวนกันให้สนใจเรื่องกายเรื่องใจนี้ มีสติก่อนพูดก่อนทำก่อนคิด มันจะละความชั่วจะทำความดีในคราวเดียวกันนั่นล่ะ ให้เห็นกระแสอย่างนี้ มันจะไม่จนต่อความชั่ว เราอยู่ด้วยกันด้วยความสงบร่มเย็น นี่การปฏิบัติธรรม ประโยชน์ครบวงจร
ถ้าเป็นฆราวาสครองเรือนก็ดี ถ้าเป็นพ่อค้าเป็นครูอาจารย์ก็ดี ถ้าเป็นนักบวชก็ดี ทำหน้าที่ ปฏิบัติธรรมคือทำตามหน้าที่ให้ดีที่สุด ไม่ใช่จะมานั่งหลับหูหลับตาอยู่ในวัดในวา ผู้มีงานมีหน้าที่ก็ไปรับผิดชอบ ผู้ไม่มีหน้าที่ก็มาช่วยกัน เป็นนักบวชไม่มีอาชีพอันใดที่จะมีหวังจะร่ำจะรวย มาเป็นอาชีพเพื่อบอกเพื่อสอนคนอื่น เป็นทั้งภารโรงเฝ้าสถานที่ไว้ให้ ผู้ใดมาก็ช่วยดูแลรักษาปฏิบัติธรรมร่วมกันและก็มีความเป็นอยู่ได้ มีผู้ช่วยมีผู้อุปัฏฐาก บรรดาญาติโยมผู้มีกำลังก็ช่วยเหลือ ผู้ใดไม่มีกำลังก็ไม่เป็นไร ที่ไม่ต้องเช่า ข้าวไม่ต้องซื้อก็ได้ อย่าไปเป็นหนี้เป็นสิน มาใช้ได้เลย
บางคนมาสร้างกุฎิศาลาไว้ พอสร้างเสร็จเขาก็บอกเอากุญแจมอบให้ กุฏิหลังนี้หนูสร้างไว้ให้คนมาอยู่ปฏิบัติธรรม ถ้าคนมาปฏิบัติธรรมบุญออกดอก ถ้าคนไม่มา บุญก็ไม่ออกดอก เขาว่าอย่างนี้ ผู้ที่สร้างกุฏิ ถ้าเรามาพักกุฏิให้เขาคราวใด บุญเขาออกดอก เหมือนเงินฝากธนาคารออกดอก เพราะคนมาใช้ได้ประโยชน์ จะได้สะดวกต่อการทำความดี ทุกวันนี้ก็จำเป็นต้องมีที่อยู่อาศัย ไม่เหมือนสมัยก่อน สมัยก่อนธรรมชาติเป็นเพื่อนกับมนุษย์ ไม่มีโทษมีภัย ทุกวันนี้มนุษย์ทำลายธรรมชาติ ธรรมชาติลงโทษมนุษย์ สัตว์โลกไม่มีมีที่อยู่อาศัย แต่ก่อนกินน้ำไหลวัวไหลควายได้ ที่ไหนก็กินได้อาบได้ ทุกวันนี้ไม่ได้ อากาศต้องมีสถานที่ บางทีก็ต้องซื้ออากาศไปด้วย ฉะนั้นจึงสูญเสียธรรมชาติเพราะคนทำลาย ถ้ามาศึกษาธรรมะจะเป็นการครบวรจรของโลกก็ว่าได้
ยิ่งเรานี้มีจิตวิญญาณซึ่งเป็นใหญ่ ซุกซนดื้อด้าน จิตวิญญาณจริงๆ ที่ว่าวิญญาณธาตุนี้รู้อะไรได้ ใช้ไม่ถูกก็เสียได้ ใช้ถูกก็มีประโยชน์ เรียกว่าจิตวิญญาณ ติดเหล้าติดบุหรี่ติดความชั่วก็ได้ ทำความดีไม่ได้เลย วิญญาณใช้ไม่ถูกต้องติดไป อันที่สองก็คือเศรษฐกิจอาชีพ ต้องมีงานมีการทำเป็นสัมมาอาชีพให้ถูกต้อง มิจฉาอาชีพก็ไม่ถูกต้อง ถ้ามีธรรมมะจะเป็นจิตวิญญาณที่ดี สัมมาอาชีพที่ดี และจะขยันหาทรัพย์ รักษาทรัพย์ ใช้จ่ายทรัพย์ นี่เรียกว่าอาชีพ อันที่สามก็เรียกว่าสุขภาพ เราก็มีกายมีสุขภาพ ใช้ไม่เป็นก็เกิดโรค ถ้าจิตวิญญาณไม่ดีอาชีพไม่ดีก็เป็นทุกข์เป็นโทษต่อสุขภาพ เวลานอนหาเรื่องมาคิดจริง อยากได้ดี แทนที่จะได้พักผ่อน กระทบกระเทือนต่อสุขภาพ อันที่สี่ก็ระเบียบวินัย ระเบียบวินัยสำคัญต่อส่วนรวม
นี่เรียกว่าจำเป็นสี่อย่างนี้ หนึ่งจิตวิญญาณ สองอาชีพ สามสุขภาพ สี่ระเบียบวินัย ถ้าเป็นของส่วนรวม จำเป็นต้องมี โดยเฉพาะปฏิบัติธรรมนี่ครบวงจรทั้งหมด ผิดศีลตั้งแต่คิดเนี่ย มันจะไปทำชั่วได้ยังไง ระเบียบวินัยก็ดี เศรษฐกิจก็ดี หรืออาชีพก็ดี จิตวิญญาณก็ดี สุขภาพก็ดี เดี๋ยวนี้ก็มีมือสอง ความผิดพลาดเกิดจากมือสอง เพื่อนสูบบุหรี่มือสอง เราไม่ได้สูบ คนอื่นเขาสูบบุหรื่มือสอง แต่เราก็เป็นการสูบบุหรี่มือสอง มีทุกข์มีโทษเหมือนกัน ระเบียบวินัยมือสอง เราไม่ได้ทำผิด เดินทางขับรถขับเรือเราก็ตั้งใจ แต่คนอื่นเมามาชนเรา ขาหักไหล่หัก ดูโยมที่เป็นอุปัฏฐากวันนี้อยู่ภูเขียว รถชนในช่วงสงกรานต์ ขาหักไหล่หัก เขามาชน คนนั้นเมามาชน นั่นล่ะมือสอง สุขภาพมือสอง มีภัยเหมือนกันในโลกนี้ ไปทางไหนไม่ค่อยปลอดภัยทำอย่างไรกัน ถึงชวนมาปฏิบัติธรรม แน่นอนที่สุด ตรงนี้แน่นอนเอาคอเป็นประกัน เห็นจากคำสอนพระพุทธเจ้าว่าถูกต้องจริงๆ ชี้ผิดชี้ถูกได้จริงๆ เชื่อมั่นร้อยเปอร์เซ็นต์พันเปอร์เซ็นต์ ทำอย่างนี้ๆ