แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ฟังธรรมกันนะ เพื่อให้เป็นส่วนประกอบ การศึกษาปฏิบัติ ให้ปฏิบัติตามธรรม ให้ธรรมนำพา คนเราก็มีกายมีใจ ถ้าเอากายเอาใจมาปฏิบัติตามธรรม เอาเกิดมรรคเกิดผล เกิดความดีขึ้น แก่คนๆหนึ่ง เมื่อคนๆหนึ่งมีความดี ก็จะได้ทำดี มีขา มีแขน มีปาก มีเสียง มีตา มีหู มีคุณชีวิตจิตใจ ก็จะได้ไปทำประโยชน์ ผู้ที่ได้ปฏิบัติ ก็ได้คุณค่า คุ้มค่าที่ได้เกิดมา ตอบบุญแทนคุณพ่อแม่ ซึ่งมีคุณต่อเรามาก เราอยู่กับธรรมชาติ ดิน ฟ้า อากาศ แผ่นดิน ป่าไม้ แม่น้ำ แล้วจะมีประโยชน์ ได้รักษา ช่วยกัน จากคนๆหนึ่งมาปฏิบัตินี่ มันซื่อๆตรงๆ เหมือนกับนักเรียนพุทธศาสนา มาเรียนศาสนาจริงๆ
ถ้าเวลาใดที่เรามีกายมีใจ เอากายเอาใจมา สัมผัสกับความรู้สึกตัวเข้าไป นี่คือศาสนา คือคนนี่ มีกายมีใจนี่ เอามาต่อ เอาศาสนา ศาสนาคือคำสอน สอนกายสอนใจคนเรานี่ ทุกคนก็มีกายมีใจ เราเคยใช้กายใช้ใจผิดพลาดมาก็มี มันก็ไปติดทางอื่นซะ ติดกิเลสตัณหา ติดราคะ ติดโกรธ ติดโลภ ติดหลง ติดสุข ติดทุกข์ ติดความรัก ความชัง ดีใจ เสียใจ เมื่อมันติดความไม่ถูกต้อง ก็เกิดทุกข์เกิดโทษต่อตัวเองและคนอื่น สิ่งอื่น วัตถุอื่น แล้วก็ทำให้เดือดร้อนกัน จนมีตัวบทกฎหมาย มีกองทัพ มีอาวุธ มีคุกมีตารางขึ้นมา เพราะใช้กายใช้ใจผิดนั่นเอง นี่มาโรงเรียน เข้าโรงเรียนพุทธศาสนา พวกเราก็เห็นว่าผู้ที่มาปฏิบัตินี่ เหมือนกับว่ามีหวัง จากคนๆหนึ่งเขามาจุ่มเอาความดีให้พระธรรมนำพาเขาไป แล้วก็มีหวังเป็นที่พึ่ง เขาจะได้ไปทำความดี จะได้ไปบอกไปสอนคนอื่น ต่อไป
ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลามเขามีโรงเรียนปอเนาะ ไม่ใช่วิจารณ์นะ นักเรียนปอเนาะนี่มีค่าหัวปีหนึ่งหลายๆหมื่นบาท คนๆหนึ่งต้องจ้างเรียนปอเนาะ เรียนศาสนาอิสลาม ครูผู้สอนก็คิดเป็นชั่วโมง ชั่วโมงละหลายพันบาท ศาสนาพุทธ ก็เรียนปริยัติสามัญ บาลี แต่มันเรียนออกนอกไปตาม ตามหลังโรงเรียนสามัญทั่วไป เรียนไปทางอื่นเสีย อันนี้ก็มีค่าหัว สามเณรไปเรียนหนังสือปริยัติสามัญ ก็มีค่าหัว ปีหนึ่งก็หลายพันหลายหมื่นบาทเหมือนกัน แล้วก็ ถ้ามีสำนักเรียนมีโรงเรียนเปิดโรงเรียนได้ ผู้ที่เป็นอาจารย์จบ ม.จ.ร.ซะ ได้เปรียญซะ ถ้าสามารถเปิดโรงเรียนได้ ถ้ามีนักเรียน 100 คน ก็ได้เป็นอาจารย์ใหญ่ ตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ก็มีเงินเดือน ถ้านักเรียน 200 คน ก็มี ผอ. ก็มีเงินมีทองมากมาย แต่วิชากรรมฐานนี่ ฟรีเลย ไม่มีค่าหัวอะไร บางคนก็ต้องเสียสละมากันเองอย่างนี้ ถ้ามีเงินมีทองเหมือนอิสลาม ก็จะจ้างเหมือนกันแหละ แต่มันไม่มีเงินมีทอง จะจ้างคนมาปฏิบัติธรรมเนี่ย ให้ค่าหัวคนละเทอม ละเทอมไปเลย แต่นี่เราก็ทุนของเรา คือศรัทธานี่แหละ มีศาสนวัตถุ มีที่อยู่อาศัย เป็นทุนของเรา มีอาหารเป็นทุนของเรา มีเครื่องนุ่งห่มเป็นทุนของเรา มีประชาชนชาวบ้านเป็นทุนของเรา เหมือนกับมูลนิธิ บิณฑบาตก็ได้ข้าวมา พอได้อยู่ได้ฉันกันบ้าง อันนี้ก็ถือว่าภูมิใจนะ
อยากเห็นคนเนี่ย ที่มีกายมีใจเนี่ย เอามาต่อความดี มามีสติรู้ตัว รู้กายเคลื่อนไหว แล้วเวลามีสติเห็นกายเคลื่อนไหวก็จะเห็นใจมันคิด จะได้สอนกายทั้งสอนใจด้วย ใจกายไม่ต้องสอนบ่อยๆ ให้เกิดความรู้สึกตัวนี่ มันเกิดคุณภาพขึ้นมา กลายเป็นศีล เป็นสมาธิ เป็นปัญญา เกิดขึ้นกับกายกับใจของคนเนี่ย เมื่อศีลเกิดขึ้นที่กายที่ใจนี้ คนๆหนึ่งก็จะมีประโยชน์คุ้มค่า ศาสนาก็จะมีที่พึ่ง จะช่วยชาติ ช่วยศาสนา บอกผิดบอกถูก ต่อผู้ต่อคน สืบทอดกันไป ถึงลูกถึงหลาน เห็นการณ์อันยาวไกล หากว่าคนไม่ศึกษาเรื่องความถูกต้องที่กายที่ใจเรา ก็จะมีแต่ทุกข์โทษเกิดขึ้นทั่วไป เดือดร้อนทั่วไป ถ้าคนๆเดียว สองคน สามคน ไม่พอ ก็ความชั่วก็มากกว่าความดี น้ำน้อยก็ย่อมแพ้ไฟ สู้ไม่ได้ เราก็เดือดร้อน คนดีก็เดือดร้อน สมมติว่า คนดีมีร้อยคน แต่คนชั่วมีคนเดียว ก็เดือดร้อนทั้งร้อยคนได้เหมือนกัน ถ้าไม่พอ
จึงมาช่วยกันอย่างนี้ ลงทุนกันแบบนี้พวกเรา มีศรัทธาอย่างนี้ มีกายมีใจ ลงทุนกันเองอย่างนี้ ร่วมหุ้นส่วน เรียกว่าบริษัท บริษัทสี่ มีพระภิกษุสงฆ์ มีแม่ชี มีอุบาสกคือกลุ่มผู้ชาย มีอุบาสิกาคือผู้หญิง เรียกว่าบริษัท หุ้นส่วน ให้ธรรมะเจริญงอกงาม เกิดมรรค เกิดผลขึ้นมากๆ แหละ จะได้อยู่เย็นเป็นสุขร่วมกันไป ชีวิตของเราก็จะมีค่าตรงนี้ ยกมือไหว้ตัวเองได้ที่เกิดมามีค่าแล้ว เงินทอง หรือเรียนจบสูงๆ มันก็ไม่ได้ประโยชน์เรื่องนี้ มันไม่ชูกายชูใจ มันไม่ได้สัมผัสกับความถูกความผิด ไม่ได้สอนความผิดให้เป็นความถูก มันก็จะไม่มีค่า ก็ จึงเป็นเรื่องที่ช่วยกัน ไม่ใช่มอบให้ใครที่ใดที่หนึ่ง เดี๋ยวนี้ชาวพุทธเราเนี่ย ไม่ค่อยรู้จักคำสอนพระพุทธเจ้า ในตำราก็มีอ่าน เป็นตัวหนังสือก็มี เขียนไว้เป็นพระไตรปิฎก ถ้าเป็นภาษาบาลีก็ 45 เล่ม ถ้าแปลเป็นภาษาไทยก็ 80 เล่ม สอนยังไง นำมาปฏิบัติมาสอนตัวเอง พระพุทธเจ้าสอนเรื่องอะไร บางทีเราอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำไป ได้ประโยชน์อะไรจากการศึกษาพุทธศาสนา เราก็อาจจะตอบไม่ได้ ถ้าเราไม่ศึกษาไม่สัมผัสกับความถูกต้องที่มันอยู่ในกายในใจเรานี่ แม้แต่ตัวเองก็ไม่ได้ใช้ สุขก็เป็นสุขอยู่แบบนั้น ทุกข์ก็เป็นทุกข์อยู่แบบนั้น โกรธโลภหลงก็ยังโกรธโลภหลงอยู่เช่นนั้น ไม่ได้ใช้ธรรมะ ไม่ใช้ศาสนาเลย แก่ก็ตาย ทุกข์ เจ็บก็ทุกข์ ตายก็ทุกข์ ร้องไห้ มีเท่าไหร่ก็ร้องไห้เสียใจกันหมด ทำตามความโกรธ เข่นฆ่า เบียดเบียนกันก็ยังมีอยู่ นักโทษในประเทศไทยจะล้นคุก กรมราชฑัณฑ์ต้องงบประมาณหาเงิน สร้างคุกเพิ่มขึ้นอีกถึงจะเพียงพอ งบประมาณที่ได้จากแผ่นดินก็ไปเลี้ยงนักโทษ แทนที่จะมาสร้างประเทศชาติให้มันดี เป็นอู่ข้าวอู่น้ำ เป็นแหล่งอาหาร แต่นี่ก็แม้แต่รัฐบาลคณะ ตัวแทนของประชาชนก็มีปัญหาเดือดร้อนกัน เดินขบวนทั่วประเทศเวลานี้ ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคอีสาน ทะเลาะกันวุ่นวายกันใหญ่ เห็นแก่พรรคแก่พวก เห็นแก่หมู่แก่คณะ เป็นพรรค ขัดแย้งกันทะเลาะกัน เอาสมมติมาเป็นสื่อที่มาทะเลาะกันได้ ความเห็นไม่ตรงกัน ทะเลาะกัน อาจจะเข่นฆ่ากันได้ เช่นประเทศเพื่อนบ้านเขมร 3 ฝ่าย ทะเลาะกัน อันนี้เกิดภัย 3 ฝ่าย 4 ฝ่าย ไปดูหัวกะโหลกในวัดนี่ ประเทศเขมรเป็นหมื่นๆแสนๆหัว เก็บใส่ถังเอาไว้ ใส่โอ่งเอาไว้ กะโหลกที่ถูกฆ่าตาย เวลาเกิดศึกสงคราม ศาสนา ประเทศที่ไม่มีพุทธศาสนาก็อยู่ไม่ได้ เช่น เวียดนาม ไม่มีศาสนา มีคนหนุ่มคนสาวปฏิบัติธรรมอยู่กันเป็นกลุ่ม ตำรวจก็มาจับ รบกวนอยู่อย่างนี้ไม่ทำงานทำการ ก็อยู่ไม่ได้ คนต้องทำงานทำการ ทำมาหากิน จนมาอยู่ประเทศไทยก็ บ้านพลัม ในเขาใหญ่ มีหนุ่มๆสาวๆทั้งนั้น มาศึกษาธรรมะ อยู่ประเทศเขาไม่ได้ อันนี้ประเทศไทยยังมีเดินเข้าวัด ยังสง่างามอยู่จนนี่ ไม่มีใครมาไล่เรา แม้เป็นนักบวชจนตาย มาเป็นญาติเป็นโยมอยู่ในวัดอาราม พระสงฆ์ก็อยู่ที่นี่ ก็ยินดีต้อนรับอยู่เสมอ เห็นคนมาเข้าวัดปฏิบัติ รู้สึกอุ่นใจ ยินดีให้ที่อยู่อาศัย จัดความสะดวกให้ตามฐานะ แล้วก็ นอกจากศาสนบุคคลที่อยู่ที่นี่ ศาสนบุคคลที่อยู่ภายนอก ก็มาสร้างกุฏิให้ ให้เราอยู่ สร้างกุฏิสำเร็จก็มอบกุญแจให้วัด ให้พระสงฆ์ผู้เป็นผู้นำที่นี่ เขาบอกว่า กุฏินี่ หนูมาสร้างไว้ ให้คนมาได้อาศัยปฏิบัติ ถ้าคนมาใช้ปฏิบัติ เขาก็บุญออกดอก ถ้าคนไม่มาใช้บุญก็ไม่ค่อยออกดอก ความประสงค์ของผู้มีศรัทธาสร้างกุฏิไว้ในวัดนี้ อาจจะเป็นถึงร้อยหลัง แล้วก็มีภารโรงก็ว่าได้ ดูแลรักษาไว้ ซักผ้าซักผ่อนไว้ให้ห่มให้ใช้ อันนี่ก็เป็นทุนอยู่ ทำไงพวกเรา
มันไม่มีปัญญาทางใดอื่นแล้วที่ได้สอนคน ที่มีกายมีใจให้เข้าถึงธรรม นอกจากวิชากรรมฐานนี่เท่านั้น ให้มาสัมผัสดู ตัวใครตัวมัน ทำให้กันไม่ได้ ก็อยากได้ อยากได้ญาติได้โยมมาอยู่ที่นี่ พอญาติโยมมีครอบมีครัวมีลูกมีหลานไปทำมาหากิน เขาจะได้ทำประโยชน์ อย่างน้อยก็ญาติ ญาตัดถะ ยังประโยชน์ต่อญาติเขา ถ้าใครมีญาติดี พ่อแม่มีลูกดี พ่อแม่ก็มีความสุข ลูกดีพ่อแม่ดีลูกก็มีความสุข สามีที่มีภรรยาดี สามีก็มีความสุข ภรรยาที่มีสามีดี ภรรยาก็มีความสุข เพื่อนที่มีเพื่อนดีพวกเพื่อนก็มีความสุข ประเทศไทยมีคนดีเราก็มีความสุข สงบร่มเย็นเนี่ย มันก็มีทางเดียวเท่านั้น ไม่ใช่ไปเกณฑ์บังคับเอากฎหมายรัฐธรรมนูญ เอาไม่อยู่ หาลักหาลอบจนได้ คนหนึ่งรักษาคนหนึ่งก็ทำลาย มันไม่เพียงพอ เราจึงมาช่วยกันอย่างนี้ โลกัตถะ ยังประโยชน์ต่อโลก พุทธัตถะ คือยังประโยชน์ต่อพระศาสนา จะได้สืบทอดต่อไปยาวๆ มีหลักมีฐาน เหมือนอย่างที่ได้สืบกันมานี่ ก็มีพระเถระ พระโสณะ พระอนุรุทธะ พระอุตตระ สงฆ์อินเดีย 2 รูปที่นำศาสนามาตะกั่วป่า ประเทศไทยเรียกว่าสุวรรณภูมิ ก็ยังไม่ถึงพวกเรานี่ นานเป็นหลายร้อยปีมาแล้ว มีบรรพบุรุษ มีบูรพาจารย์ จนมาถึงยุค ครูอาจารย์ของเราที่ได้สัมผัสมา ช่วยกันสืบมาประโยชน์ต่อพระศาสนา มีคนสอนกันอยู่จริงๆ แล้วก็สัมผัสได้จริงๆเนี่ย ไม่ใช่หลอกใช่ลวง มาสัมผัสดูสิว่าระหว่างความรู้สึกตัว ไปเป็นผู้ดูแลกายใจ กายใจจะเป็นยังไงเมื่อมีผู้ดูแล แล้วจะเกิดอะไรขึ้นที่ ปัญหาเป็นไปอันกายอันใจที่มันเกิดกับกายกับใจ อะไรมันเกิดขึ้น จะได้ช่วยกายช่วยใจตนเอง จะได้ช่วยให้สิ่งที่ผิด ให้เป็นสิ่งที่ถูก เนี่ย มาดูซิ เช่น ความทุกข์ กับความรู้สึกตัว ความโกรธ กับความรู้สึกตัว ความพอใจกับความรู้สึกตัว ความไม่พอใจกับความรู้สึกตัว ลองดู สิบรอบ ร้อยรอบ พันรอบดูซิ มีสติดูกายเคลื่อนไหวเห็นใจมันคิด ไม่ใช่ฟรีเลยตรงนี้ งานการเกิดขึ้นแล้ว มีตาเกิดขึ้นแล้ว ตาในเกิดขึ้นแล้ว มีตารอบแล้ว จะได้ช่วยกายจะได้ช่วยจิตใจ ร้อยครั้งพันหนดูซิ มันจะเป็นไงกายใจนี้มันสอนได้ ปฏิบัติได้ให้ผลได้อยู่ ธรรมะเนี่ย เรื่องแรก ด่านแรก มีสติ มีสติไปในกายเป็นประจำ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ ถอนความพอใจและความไม่พอใจออกมาซะ ให้มีความรู้สึกตัว
พระพุทธเจ้าสอนอย่างนี้ เบื้องต้นก่อนตรัสรู้ พระพุทธเจ้าสอนตัวเองอย่างนี้ เราก็ยังสอนกันอยู่เดี๋ยวนี้อ่ะ อันเดียวกันกับเดี๋ยวนี้อ่ะ ความรู้สึกตัวสมัยครั้งพระพุทธเจ้า กับความรู้สึกตัวเดี๋ยวนี้ อันเดียวกันเลย คนนั้นมีกายมีใจ อันเดียวกันเลย ไม่ใช่เพศใช่วัย นอกเหนือลัทธิ มีกายทั้งหมดเลย มาสัมผัสดูจะได้คำตอบเองทุกชีวิต ไม่ต้องถาม นี่คือของเท็จของจริง มันไม่มีคำถามดอก มีแต่คำตอบ ตอบตัวเองทุกคน อะไรมันเกิดขึ้นล่ะ ถ้ามีสติ เหมือนตา เหมือนหน้าลอก มันก็ต้องรับผิดชอบเหมือนพ่อเหมือนแม่ เสมือนพ่อแม่ที่มีลูก ก็ต้องรับผิดชอบลูก ป้องกันแก้ไข คุ้มครองทันทีเลยทีเดียว สติคุ้มครองกายสติคุ้มครองใจ มันก็ไม่มีภัย ปลอดภัยได้ ไม่ได้ปล่อยทิ้ง ปล่อยทิ้งไม่ได้ กระตือรือร้น สงสารกายสงสารใจ จะปล่อยให้ทำผิดไม่ได้ เมื่อเราคุ้มครองอะไร คุ้มครองบ้าน คุ้มครองเรือน คุ้มครองทรัพย์สมบัติ มันก็ต้องแก้สิ่งที่ไม่ถูกต้องให้เป็นสิ่งที่ถูกต้องทันที เป็นธรรมชาติ เป็นกฎธรรมชาติ เป็นหน้าที่ธรรมชาติ เรียกว่าธรรมะ อย่างนี้ มาอยู่ด้วยกัน ถ้าไม่เดือดร้อนอะไร พอจะวางอะไรได้ก็ มาใช้ชีวิตอย่างนี้ลองดู เมื่อสอนตนได้แล้ว ก็จะเห็น จะคิดช่วยคนอื่นเป็น การช่วยคนอื่นนี่จำเป็นๆ เหมือนปล่อยกันทิ้งไม่ได้ ปล่อยสิ่งที่ผิดให้เกิดขึ้นไม่ได้ ทุกอย่างที่มันอยู่ในโลกนี้ ถ้าเราไม่เห็นความถูก ความผิดมันก็จะไม่รู้จักป้องกันแก้ไข ความดีก็ไม่เกิดขึ้น มีแต่ความร้ายเกิดขึ้น ฉิบหายวายวอด เอาล่ะนะวันนี้ ก็พอสมควร เอาไปประกอบไปปฏิบัติตาม ไม่มีกายเคลื่อนไหว มีสติดูกายเคลื่อนไหว เห็นใจคิด จะได้สอนกายสอนใจตัวเอง กายใจจะได้มีค่ามีคุณขึ้นมา เป็นมรรคเป็นผล สงบร่มเย็นในชีวิตประจำวันด้วยกันทุกคนเทอญ