แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
เรียกว่า เมื่อเรามีการกระทำ ถ้าไม่มีการกระทำก็ไม่สำเร็จซักที ความหลงก็จะเป็นความหลงอยู่เรื่อยไป ถ้าหลงเป็นรู้สึกตัว ความหลงก็จะเกิดแล้ว แม้ยังไม่แล้วก็ใกล้จะแล้ว ถ้าหลงเมื่อไรเป็นรู้ หนึ่งครั้งมันหลง รู้ ทำแล้ว ทำงานแล้ว มีงานแล้ว เหมือนทุกข์รู้ เหมือนโกธรรู้ อะไรที่มันเกิดขึ้นไม่ใช่ปกติ ใจนำเป็นปกติ มันมีอาการเกิดขึ้นต้องทำ ปล่อยทิ้งไม่ได้ นี่เรียกว่ากรรมฐาน ไม่ใช่สอนให้รู้ เรารู้มามากแล้ว แต่ไม่มีการกระทำ จึงมีกรรมฐานคือการงานแห่งการกระทำ งานส่วนตัว ตัวใครตัวมัน ทำเอาเอง เวลาเราหลง เราก็หลงเอง ไม่มีใครเอาความหลงไปยื่นให้เหมือนกับวัตถุสิ่งของ มันเป็นอาการเกิดกับนามกับจิต แล้วก็รู้เข้าไป ถามว่าที่รู้สึกตัวเนี่ยมันเป็นเครื่องมือสำหรับการทำงานเรื่องนี้โดยตรง เราจึงมีสติเอาไว้เพื่อใช้ให้ทำงาน
ทำได้จริง ๆ ถ้ามันหลงรู้นั่นน่ะ ถ้าว่าทุกข์ก็รู้ มันผิดก็รู้ อะไรที่มันเกิดกับจิตกับใจที่เป็นอาการต่าง ๆ แปดหมื่นสี่พันเรื่อง ทำได้สำเร็จ ถ้ามันสำเร็จมันก็งานมันแล้วจริง ๆ งานของจิตของใจของนามธรรมเนี่ย มันราบเรียบ ไม่มีสะดุดอีก เรียกว่าเรียบ ชีวิตที่มีความเรียบ เรียบที่สุดเหนือการเกิดแก่เจ็บตาย เดี๋ยวนี้มันสะดุดไหม สะดุดความหลงไหม แต่ก่อนนมันไม่หลง มันปกติอยู่ ความหลงเกิดขึ้นได้เพราะมีเหตุมีปัจจัย มีตา มีหู มีจมูก มีลิ้น มีกาย มีใจ เป็นวัตถุภายใน วัตถุภายนอกก็มีรูป มีรส มีกลิ่น มีเสียง สัมผัสอารมณ์ต่าง ๆ สองอย่างนี้เมื่อมันสัมผัสกัน มันก็ต้องมีคลื่นขึ้นมาเหมือนดาวเทียม เครื่องรับอะไรต่าง ๆ ที่มันมีคลื่นสัญญาณกัน ให้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
นามธรรมคือจิตใจดี ๆ แต่เดิมปกติ เมื่อยังมีคลื่นเกิดขึ้นก็เหมือนน้ำทะเล มีลมพัด ลมพัดน้ำ น้ำก็เกิดคลื่นขึ้นมาสูงถึงสองเมตรสามเมตร สูงที่สุดถึงสิบกว่าเมตร ยี่สิบสามสิบเมตรสามารถยกเรือรบเท่าศาลาเนี่ย จากทะเลขึ้นไปอยู่บนฝั่งประมาณหนึ่งกิโลเมตร แม่นบ่หลวงพ่อกลม หลวงพ่อกลมไปเบิ่งแล้ว อาจารย์วศินก็ไปดูแล้ว อยู่เขาหลัก จังหวัดพังงา ยกเรือรบขนาดใหญ่ เรือเหล็กเท่าศาลาเนี่ย ขึ้นไปวางอยู่บนบก คลื่นมันใหญ อันคลื่นที่มันอยู่ในชีวิตจิตใจเนี่ยก็ใหญ่เหมือนกันนั่นน่ะ คลื่นมันไม่ใช่น้ำ มันมีเหตุมีปัจจัย ถ้ามันคลื่นใหญ่ก็ทำอะไรเสียหายมาก
คลื่นที่เกิดกับจิตใจเกิดกับนามธรรมเนี่ย ถ้ามันยิ่งใหญ่กว่า ทำมันฉิบหายได้ เป็นปัญหาต่อโลก เป็นปัญหาต่อเราไม่พอ ยังเกิดปัญหาต่อโลกอีก อันคลื่น มันไม่ใช่น้ำ แต่ว่าเมื่อมันเกิดกับจิตแล้ว มีสิ่งที่ตัดคลื่นได้ เหมือนเรือขับน้ำหนักเป็นหลายตัน ตัดคลื่นได้ ทำมันเรียบได้ อันคลื่นของจิตไม่เหมือนน้ำ มันไม่เกิดขึ้นได้ถ้าเราได้ทำลงไป เหมือนหลงรู้ขึ้นมาเ ตัดได้แล้ว เหมือนเรือน้ำหนักหลายตัน ขับน้ำหลายตัน ขับไปได้ ผ่านได้ ไม่กระทบกระเทือน
ผู้มีสติไม่มีวันไหลเพราะความหลง ความทุกข์ ความโกธร แล่นผ่านได้ นี่คือธรรม ธรรมอย่างดี เปลี่ยนหลงเป็นรู้ปฏิบัติอย่างดี ถ้าหลงเป็นหลง ปฏิบัตอย่างเร็วไม่ค่อยจะได้ประโยชน์ ประโยชน์เกิดจากความหลงมันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย กระทบกระเทือนความโกธร ความโลภ ความทุกข์โดยทีเดียว ตัวใหญ่มันคือภาวะที่หลงเนี่ย เจอครั้งแรกเมื่อเรามีสติเนี่ยมันต้องเห็นหลง คู่กับความรู้ ความหลง ความไม่หลง มันให้เราทำ อย่าปล่อยทิ้งไว้ ทำดูเมื่อเรามีสติไปในกายเคลื่อนไหว มันจะเกิดอะไรขึ้น นอกจากเรารู้สึกกายเคลื่อนไหว มันจะมีหลายอย่างเกิดขึ้นมา แต่รู้ไปทั้งนั้น สนุกดี เห็นงานเห็นการปล่อยทิ้งไม่ได้ คนทำงานชอบ คือทำอย่างนี้ เปลี่ยนหลงเป็นรู้ การงานชอบ เปลี่ยนผิดเป็นถูก การงานชอบ เปลี่ยนทุกข์เป็นไม่ทุกข์ การงานชอบ เปลี่ยนโกธรเป็นไม่โกธร เปลี่ยนโลภเป็นไม่โลภ เปลี่ยนได้ที่เรื่องร้ายให้เป็นเรื่องดี เรื่องร้าย ๆ ทั้งหลายให้เป็นเรื่องดี เรื่องหนักให้เป็นเรื่องเบา ปัญหาให้เป็นปัญญา เรียกว่าปฏิบัติธรรม
เป็นเรื่องส่วนตัวของใครของเราต้องทำเอาเอง เข้าให้ถึงเนื้อถึงตัว เข้าถึงงานถึงการ อย่าเพียงลูบๆ คลำ ๆ บางทีเราลูบคลำ มันโกธร ก็ลูบคลำความโกธร ถือว่าเราซะ ทำตามความโกธรซะ อะไรที่มันเกิดขึ้นน่ะ ไม่ใช่ไม่มีการกระทำเลย น่าเสียดายมาก ให้ความโกธรพาแสดงออก เสียผู้เสียคน เสียเปรียบความโกธร คนอื่นเค้ากระทบกระเทือน สิ่งอื่นกระทบกระเทือนไปทั้งหมดเลย มีนะงานของเราเนี่ย งานอย่างนี้ยังยังไม่เท่าไหร่ เป็นงานเบา ๆ อยู่ อันความแก่ ความเจ็บ ความตาย จะทำยังไงถ้าไม่ทำแบบนี้ไปก่อน แต่ทำได้เลย
ปฏิบัติอย่างนี้มันจะเหนือการเกิด แก่ เจ็บ ตายได้ เรามี เราตัดสินใจมาแล้ว เราตัดสินถูกตัดสินมาแล้ว เกิดมามีรูปมีนาม เกิดมาต้องมีแก่ มีเจ็บ มีตาย เกิดหนึ่งคนก็ตายหนึ่งคน เกิดสองคนตายสองคน เจ็บแก่ตายไปด้วย นี่คือมันตัดสินมาแล้ว ที่เราจะต้องมาเป็นทุกข์เพราะเรื่องนั่นเลย ประสาความโกรธเฉยๆก็ทุกข์นะ ถ้าความทุกข์จริง ๆ ทำไง ปวด หายใจไม่ได้ ทำไง เจ็บปวดมาก มีโรค รูปโรค ไม่ใช่ของดีนะ เป็นรูปโรคนั่นแหละ นามรูป ความร้อน ความหนาว ความเจ็บ มีหัวใจก็เป็นโรคหัวใจ มีตับ มีไตมีปอดมีอะไร มีเลือด มีน้ำเหลือง มีอะไรก็มีโรค
น้องสาวหลวงตาเป็นโรคตายไปแล้ว โรคเบาหวาน ตายไปแล้ว ไปเผากระดูกเก็บไม่ได้เลย มันกระดูกผุหมดเลย มันไปกันใหญ่เลย รูปโรคแท้ ๆ เนี่ย เพราะงั้นเราไม่ศึกษามันน่ะ จะคอยรับบาปรับกรรมไปน่ะ ให้หลงเป็นหลง ให้โกธรเป็นโกธรให้ทุกข์เป็นทุกข์ อยู่เช่นนั้นตลอดไปเลย กรรมฐานถ้าไม่สำเร็จ มันหลงรู้ เอาเถอะ มันจะอ่อนล้าความหลงน่ะ มันหลงที่ได้รู้ พอหลงเป็นรู้ไปแล้ว มันก็กระทบกระเทือนไปถึงความโกธร ความโลภ ความทุกข์ ถ้าได้ตัดรากมันตอนนี้เสียก่อน อกุศลนั้นน่ะ รากเหง้าของอกุศลนะ ตั้งแต่วันที่หลงน่ะอย่าปล่อยทิ้ง ให้มันแล้วไปซะ ถ้าเราทำอย่างนี้ มันจะมีความหลงเป็นครั้งสุดท้ายได้ ถ้ามีความหลงเป็นครั้งสุดท้าย ความโกธร ความโง่ ความทุกข์ ปัญหาต่าง ๆ จะค่อยหมดไป บางอย่างไม่ได้ทำอะไร มันหมดไปเลย มีศีลจึงรู้ว่ามีศีล เพราะสิ่งนี้หมดไป เหมือนสุกงอม เหมือนลูกไม้ เหมือนพุทรามันสุกเต็มที่ เมื่อเขย่าต้นนิดเดียว มันก็หล่นลงเลย ไม่ได้ทำอะไรเลย แต่บางอย่างต้องนิ่ง ต้องสอยออก
จึงมีการกระทำตามงาน ตามกรรมที่มันเกิดขึ้น กรรมคือการกระทำ เมื่อไม่มีการกระทำกรรมก็จะไม่มี ซึ่งความคิด คิดเรื่องอะไร คิดเรื่องความรัก ความรักก็ยังมี คิดเรื่องความโกธร ความโกธรก็ยังมี คิดเรื่องความทุกข์ความสุข ความสุขความทุกข์ก็ยังมี เพราะเราไปทำ ทำทางนามธรรม ทำทางจิตใจ นั่งอยู่นี่มันคิดไปไหน นอนอยู่นี่มันคิดไปไหน ยืนเดินอยู่นี่มันคิดไปไหน อะไรมันหิ้วไปบ้าง ถ้าไม่มีสตินะ ถ้ามีสติก็กลับมาได้ ในความหลงกลับมารู้ได้ มันคิด รู้ได้ มันไปไหน รู้ได้ กลับมาได้ นี่กรรมมันตั้งแบบนี้ ฐานอยู่ที่นี่คู้แขนเข้า เหยียดแขนออก เหมือนพระพุทธเจ้า เหมือนพระสิทถัทธะทำวันแรก ที่จะได้ตรัสรู้ มีสติ มากำหนดกาย คู้แขนเข้า เหยียดแขนออก มีสติ ไม่คิดไปไหน ถึงกับเรียกว่ามาร กิเลสมารเกิดทางความคิด ขันธมาร มัจจุมาร เทวบุตรมาร มันหิ้วไปไหน นั่นก็รู้ขึ้นมา
พอรู้ที่หนึ่ง รู้ที่หนึ่งก็ ก็มันก็มีการกระทำเกิดขึ้นแล้ว มันก็พ่ายแพ้ได้ ธรรมย่อมชนะอธรรมอยู่เสมอ โห มันไม่จริงอ่ะ อธรรมอ่ะ ความหลงมันไม่จริง ความรู้สึกตัวมันจริง ความทุกข์มันไม่จริง ความรู้สึกตัวน่ะมันจริง อะไรที่มันเกิดมันเกิดมันเกิดที่มันเป็นคลื่นน่ะ ตัดได้หมด ก็จะเปรียบสติเหมือนกับใบมีด รถแทรคเตอร์ ตัดคลื่นที่มันเป็นหลุมเป็นบ่อให้เรียบได้ ผ่านไปตรงไหนเรียบตรงนั้นนะ สติเป็นอุปมาเหมือนอย่างนั้นจริง ๆ เมื่อมันเรียบจากคลื่น เกิดศีล เกิดสมาธิ เกิดอะไร ศีลคือปกติแล้ว ไม่หวั่นไหวต่อความคิด ไม่หวั่นไหวต่อความโกธรความทุกข์เพราะมันมีปกติเรียกว่าศีลเกิดขึ้นแล้ว ตามมาอีก สมาธิเกิดขึ้นมาอีกแน่วแน่มั่นคง ตรงไปเลย
อะไรที่มันเกิดขึ้นตรงหน้า ที่ตรงปฏิบัติตรง มันหลงตรงต่อความไม่หลง เคารพความไม่หลง เพราะความหลงมันเป็นธรรม ความไม่หลงเป็นธรรม ความทุกข์ไม่เป็นธรรม ความไม่ทุกข์เป็นธรรม ตรงมาอย่างนี้ เคารพนี้ พระพุทธเจ้าเคารพแบบนี้ พระพุทธเจ้าเคารพพระธรรม เคารพความถูกต้อง หลงไม่ถูกอ่ะ โกรธ โลภ ทุกข์ อะไรต่าง ๆ ไม่ถูก ถ้าทำอย่างนี้ก็แล้ว ไม่เหมือนรูปนะ รูปต้องกินข้าว ต้องถ่าย ต้องนอน ต้องยืน ต้องเดิน ต้องนั่ง ต้องห่มผ้า ต้องหายใจเข้าออก ต้องกระพริบตา ต้องกลืนน้ำลาย ทำอยู่ในรูปเนี่ย ต้องเป็นธรรมชาติ แบบไว้ใช้ในการนี้ ขอบคุณที่มันมีรูปนี่ จะได้ใช้งานมันเหมือนมีพ่วงมีแพ มันหลงที่รูปที่รูปที่นาม มันหลงก็ใช้ให้เกิดประโยชน์ ได้ประโยชน์มาก จากรูปจากนามเนี่ย
ยิ่งพวกเรามาเป็นนักบวช อาศัยอุบายการบวช บวชทางกายก็ดี บวชทางจิตใจก็ดี มันเป็นอุบายถือบวชเป็นอุบาย มาอยู่วัดอยู่วา การอยู่วัดก็ทำให้เราสะดวก ไม่ต้องไปคิดถึงอะไร ไม่มีภาระอะไร ไม่มีอะไรมากระทบกระเทือน มีแต่ความคิดที่มันจะได้เห็นมัน ไม่มีอะไรปิดบัง มันตรงไปทีเดียว อะไรไม่ทำแล้ว มานั่งอยู่ ฉันข้าวเสร็จแล้วอุ้มบาตรมานั่งบนกุฏิ ตั้งกายให้ตรงมีสติ ไม่มีลูกมีหลานมารบกวน ไม่มีใครมาแย่ง ไม่มีอะไรที่จะมาทำให้เราหลง มีแต่เราเกิดหลงจากกายจากใจเราเอง มันก็จะเห็นเหมือนน้ำ ที่มันนิ่ง อะไรที่มันเคลิบเคลิ้มนิดหน่อยก็เห็น เสียงที่มันสงบ เมื่อมีเกิดเสียงขึ้นก็ได้ยิน ถ้ามันไม่สงบ อะไรเสียงอะไรรบกวนก็ไม่ค่อยได้ยิน นี่การปฏิบัติธรรม เราต้องอาศัยสิ่งแวดล้อมพอสมควร แล้วเราก็เป็นมิตรเป็นเพื่อนกัน เราบอกกันได้ เรียนมาตามข้อ งอมาตามครู เรามีศิษย์ก็ต้องมีครู
หลวงพ่อเทียนเป็นครูของเรา สอนให้เรารู้จักชีวิตตัวเอง รู้จักธรรมะ เมื่อรู้จักธรรมะก็รู้จักพระพุทธเจ้า รู้จักพระธรรม รู้จักพระสงฆ์ คือคุณธรรม พระธรรมอยู่ในหัวใจของเรา พระพุทธเจ้าอยู่ในหัวใจของเรา พระสงฆ์อยู่ในหัวใจของเรา อยู่กับผู้ใดก็น่าเคารพ อยู่กับผู้หญิงผู้ชาย อยู่กับลูกกับหลาน กับครอบครัวผัวเมียก็น่าเคารพเพราะมีความดี เพราะเขาทำความชั่วออกไปหมดแล้ว พึ่งพาอาศัยกันได้ นี่คือธรรมะ พระพุทธเจ้าเคารพพระธรรมเนี่ย เป็นมาแล้ว กำลังเป็นอยู่และเป็นไปด้วยข้างหน้าด้วย ความผิดก็ต้องเป็นความผิดเรื่อยไป ความไม่ผิดก็มีความไม่ผิดเรื่อยไป ความเป็นธรรมก็มีความเป็นธรรมเรื่อยไป ความไม่เป็นธรรมก็มีความไม่เป็นธรรมเรื่อยไป ต้องเคารพความเป็นธรรม ใช้ชีวิตด้วยเคารพความเป็นธรรม จะอยู่ร่วมกันด้วยความเป็นสุข เป็นความสงบร่มเย็นปฏิบัติธรรมเนี่ย
เราทำส่วนตัวแต่มีผลกระทบไปไกล ถ้าเราดูตัวเองรักษาตัวเองก็ไม่มีอะไรผิดพลาดทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน มันหลงรู้ขึ้นมา ยังไม่ได้พูดออกไปเลย ยังไม่ได้ทำอะไรออกไปเลย มันเกิดหลงขึ้นมาก็รู้เสียแล้ว ไม่ได้ให้กับความหลง ใช้กายใช้ใจ ถ้าให้ความหลงมันบังคับกับใจ ในกายและใจแล้ว โอยทำได้ทุกอย่าง ฆ่าตัวเองก็ได้ ฆ่าคนอื่นก็ได้ ทำอะไรได้ทั้งหมดเลย ถ้าเรารู้ถึงก่อน เรารักษาตัวเรา มีความกระทบต่อสิ่งอื่นเรียบเลยหล่ะ แหม ชีวิตนี่มันเรียบจริง ๆ นะ เรียบกว่าอะไรทั้งหมดเลยชีวิตน่ะไม่มีอะไรกระทบกระเทือนมีแต่เมตตา กรุณา มุฑิตา อุเบกขา วางอุเบกขา มีเมตตา คิดสิ่งใดประกอบด้วยเมตตา อยู่อย่างสบาย นอนก็หลับ กินก็ได้ มันเรียบเหลือเกินชีวิตนี้ ถ้าเราไม่ฝึกมันไม่เรียบนะ คลื่นเยอะแยะเลยนะ หิ้วไปไหนบ้าง ถ้าเราฝึกมันเรียบ มีอานิสงค์มาก ฝึกหัดเถอะ ไม่มีอะไรกระทบกระเทือน ไม่หวั่นไหวกับสิ่งใดในโลกแน่ ภูเขาศิลาแท่งทิพย์ไม่สะเทือนเพราะหลง
ผู้ฝึกตนดีแล้วไม่หวั่นไหวเพราะนินทาเพราะสรรเสริญเพราะว่าสุขทุกข์อะไรต่าง ๆ นี่คือมันจะมีค่าแหละในชีวิตเราที่ได้มา ที่ได้รู้ ได้นำมานี้ถ้าไม่ศึกษาปฏิบัติจะเป็นคนที่ทุกข์ อมทุกข์มากกว่าสัตว์อื่น หนังก็บาง ๆ ยุงกัดก็ตาย อะไรก็ทุกข์มาก ไม่เหมือนไก่ ไก่เขามีขน นอนที่ไหนฝนตกก็ไม่เปียก ยุงก็ไม่กัดได้ นก นกมันนอนอยู่บนโต๊ะ มันพองขนขึ้น กลมไปเลย มองไม่เห็นหัวเห็นขาเลย มองไม่รู้จักตัวนกเลย ดูดี ๆ มันเป็นนก นอนมันพองขนขึ้น กลมเหมือนกับวัตถุสิ่งของ คนเราต้องอาศัยอะไรมากมาย การอยู่การกินการใช้ชีวิตเนี่ย น่าสงสารกว่าสัตว์อื่น ถ้าไม่ศึกษาปฏิบัติ เจ้าทุกข์เจ้ายาก ชีวิตของคนเรานี้ ถ้าปฏิบัติแล้ว โอ ประเสริฐจริง ๆ ได้ประโยชน์จากมัน อันรูปอันนามนี้ใช้ได้สำเร็จ จนมันไม่มีงานทำนั่นแหละ ปฏิบัติธรรมน่ะ ให้ใส่ใจซักหน่อย ใส่ใจในชีวตเจ้าของอย่าปล่อยทิ้ง
มีสติเป็นเจ้าของดูแล มีสติเป็นเจ้าของกายของใจ ดูแลให้มันคุ้ม มันไม่มีอะไรเท่าไหร่หรอก บางที ๆ ถ้าเราไม่ดูแล เพียงแต่ความคิดเฉย ๆ ก็เป็นทุกข์นะ เป็นทุกข์เพราะความคิดนี่ร้อยทั้งร้อย มันทั้ง ๆ ไม่มีอะไร อารมณ์มันร้ายกว่าเสือ ความคิดเนี่ย ทำลายคนมามากแล้ว แค่นี้เราก็ยังทำไม่ได้เลย แล้วที่เค้าเจ็บเค้าตายทำไง เพียงความคิดเฉย ๆ ก็เป็นทุกข์นะ เปราะบางจริง ๆ เราจึงไม่ควรประมาท มาเถอะมาอยู่ด้วยกันนี่แหละ มาศึกษานี่มันเป็นกอบเป็นกำเป็นงานของเราแท้ ๆ ลองมาพลิกมือขึ้น ยกมือให้รู้สึกตัวซิ อะไรมันจะเกิดขึ้นนอกจากความรู้สึกตัวแล้วจะได้ทำมัน จะได้ทำ มันเป็นงานของเรา พลิกมือขึ้นรู้สึกตัว รู้สึกตัวทั้งไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็รู้สึกตัวเลยไป มันก็ไปของมันเอง ความรู้สึกตัวก็ไปที่ไหน ไปจากความหลง ไปแล้ว อย่าไปหา ไม่ได้ หาไม่ได้หรอก พลิกมือขึ้นก็รู้ทันที หรือหายใจเข้าก็รู้ทันที หายใจออกก็รู้ทันที เป็นตัวรู้ทันที ทันทีปัจจัตตังทันที
ผู้ที่มีการศึกษาต้องทำด้วยตนเอง เป็นปัจจัตตัง แก้เองเปลี่ยนเอาเอง รู้เองอยู่ในตัวมันเอง คนละมุมกัน แม้มีฝั่งซ้ายฝั่งขวาก็เกิดจากตัวเรานี้ ความหลงเป็นฝั่งหนึ่ง ความไม่หลงเป็นฝั่งหนึ่ง ความทุกข์เป็นฝั่งหนึ่ง ความไม่ทุกข์เป็นฝั่งหนึ่ง ข้ามได้ ข้ามไปได้ ข้ามความหลงเป็นความรู้ไม่เหนื่อย เหงื่อไม่ออก ไม่ได้มีกิริยาอะไรเลย ไม่ยากเหมือนไล่ยุง ไล่ยุงต้องเอามือไปไล่ แต่ไล่ความหลงนี่เพียงแต่กรรมการกระทำ คือความเปลี่ยนหลงเป็นรู้ อยู่นิ่ง ๆ ก็ได้
มันจึงเป็นงานที่เราจะต้องทำ แล้วก็ถูกต้องที่สุดเลยเป็นการปฏิบัติที่ถูกต้อง เป็นงานชอบ ถ้ามีความหลงเป็นรู้ ความดำริก็ชอบ ความพูดจาก็ชอบ ความคิดก็ชอบ การงานก็ชอบ ความพากเพียรก็ชอบ สติก็ชอบ สมาธิปัญญาก็ชอบ ชอบไปหมดเลย เหมือนรุ่งอรุณว่าหลงเป็นรู้ รู้ ๆ แสงเงินแสงทองได้กระแสแห่งพระนิพพาน คนเจริญสติปัฏฐาน 4 ได้กระแสแห่งพระนิพพานเลยทีเดียว เพราะมันเห็นกระแส เห็นหลงก็เห็นรู้ เห็นความทุกข์ก็เห็นความรู้ มันรู้ไม่ได้เป็นอะไรจนถึงภาวะไม่เป็นอะไรกับอะไร อานิสงค์ของความรู้สึกตัวยิ่งใหญ่มาก เหนือโลก ไม่เป็นอะไรกับอะไร มันหลงเห็นมันหลง มันทุกข์เห็นมันทุกข์ ไม่เป็นอะไรกับมัน เป็นกิริยา เป็นเพียงกิริยาอาการที่มันเกิดขึ้นกับรูปกับนาม ไร้สุขไร้ทุกข์ ไม่มีรสชาติแบบนั้น ไม่มีผิดไม่มีถูก ไม่มีพอใจไม่มีไม่พอใจ มีแต่เห็น ไม่เป็นอะไร
ถ้าชำนาญแล้วเป็นศิลปะ เป็นญาณ เป็นฌาน ไหม้วอดไปเลย ฌาน ฌาปนะ ฌานตัวนี้แปลว่าเผาไหม้ไปเลย หายไปเลย เห็นอะไรไหม้ไปเลย ไม่มีรสชาติ เห็นสุขไม่มีสุข เห็นทุกข์ไม่มีทุกข์ ไม่มีรสชาติ มันเป็นฌาน สติเป็นฌานอย่างยิ่ง ละสุขละทุกข์มีแต่ความรู้สึกตัว ไม่เป็นอะไรกับอะไร ได้นิพพานวันนี้ ชิมลองไปดูก็ดีแล้ว นิพพานชิมลองเห็นไม่เป็นเนี่ย กระแสพระนิพพานเข้าไปแบบนี้ ทั้งเป็นเรื่องนี้ชีวิตเรา ถ้าไม่มีเรื่องนี้ไม่รู้ว่าเกิดมาทำไม
พุทธศาสนาถ้าไม่มีเรื่องนี้ ไม่รู้เราจะนับถือไปทำไม สร้างวัดสร้างวา บวชลูกบวชหลาน ทำบุญอะไรต่าง ๆ มากมายเพื่อการนี้โดยตรง มีผู้บอก มีผู้พูดให้ฟัง มีผู้ทำตาม ก็ยังจะเหลืออยู่ ถ้าไม่มีใครบอกใครพูดใครทำ มีผู้ฟังมีผู้พูด มีผู้ทำตามมันก็เหลืออยู่ มันก็มีอยู่แต่มันก็ไม่มีประโยชน์ นับว่านิพพานมีอยู่แล้ว เมื่อไม่มีผู้ค้นพบก็มีอยู่อย่างนั้น ภาวะไม่เป็นอะไร มีอยู่แล้วในชีวิตเรา แต่ความเป็นอะไรมันกลบเกลื่อนไป แต่ความไม่เป็นไรมาอยู่ ลองดูซิ เห็นไม่เป็น มีแต่เห็นไม่เป็น มันจะเป็นยังงัย เห็นหลงไม่เป็นผู้หลง พ้นจากความหลงแน่นอน เห็นความโกธรไม่เป็นผู้โกธรพ้นจากความโกธร เห็นความทุกข์ไม่เป็นผู้ทุกข์พ้นจากความทุกข์
เห็นทุกเรื่องที่มันเกิดกับกายกับใจเนี่ย เห็นมันเจ็บไม่เป็นผู้เจ็บพ้นจากความเจ็บ เห็นมันจะตายเหลือน้อย ๆ โอ ดีมากนะ เหลือน้อย ๆ เหมือนเส้นใยน้อย ๆ กระดุกกระดิกไม่ได้ตอนนั้นน่ะ กระดุกระดิกไม่ได้ นิ่งโอ...สง่างามเลย สงบเสงี่ยมเหมือนคนเดินไต่เชือกก็ว่า เห็นมั๊ยยายเพียรเห็นคนไต่เชือกบ่ เฮ็ดจังได๋ไต่เชือก ไต่เชือกเส้นน้อย ๆ เขาไต่ได้น่ะโอเขา(...) หลวงพ่อไปสิบสองปันนานะ เห็นแพะเลยนะ เห็นแพะใช่ไหม ไต่เชือก เอาลิงขี่หลังด้วย อันแพะมันสี่ขา แพะหรือแกะก็ไม่รู้นะ สิบสองปันนา ใครไปก็จะไปดูตัวนั้นนะ ประเทศจีนนะ แพะเอาไต่เชือกเอาลิงขี่หลังแล้วก็ขึ้นเอง ขึ้นแล้วก็ไต่ไปเอง ไต่ไปก็กลับมา ไต่ไปกลับมานี่อะไรทำไมทำไรเค้าฝึก อะไรเขาก็ฝึกได้ เสือก็ฝึก หมีก็ฝึก ใส่เสื้อครุยเดินอยู่ใส่หมวก เดินเข้าไปจับแขนไม่กระดุกกระดิกจับแขนเดินยิ้มนะ หมีนะ คนแย่งกันไปถ่ายรูปเขาฝึกมันนิ่ง โห...มนุษย์นี่อะไรนี่มันก็ดีกว่านั่น ถ้าไม่ฝึกมันก็ร้ายนะ มีพยศ มีพิษ มีภัย
เราต้องฝึกหัดซะแล้ว มีกรรมฐานเสียแล้วทุกวันเนี่ย นานเหลือเกินเราเกิดมา ตายไปเท่าไหร่แล้ว สอนพี่ก็ไม่ค่อยได้ สอนน้องก็ไม่ได้ บวชมานี่ มาอยู่นี่สี่สิบห้าสิบปี น้องสาวไม่มาปฏิบัติซักทีเลย จนตายหนีจากกันนะ แล้วก็ช่วยไม่ได้นะ แล้วก็ไม่ได้ทำอะไรตามสมควรนะ ให้ความสำตัญต่อกันเถอะพวกเราอ่ะ คนที่อยู่ใกล้กันนี่เป็นคนที่มีความสำคัญที่สุด อย่าปล่อยกันทิ้ง ต้องบอกต้องสอนกัน ถ้าไม่ให้ความสำคัญต่อคนที่อยู่ใกล้เราน่ะมันจะพลาด เสียดายแก้ไม่ได้ ชั่วโมงหน้าเราจะไปอยู่ที่ไหน แล้วไม่ช่วยอะไรกันเลยนะ นี่เห็นกันอยู่นี่ พูดให้ฟังกันอยู่นี่ ช่วยกันเถอะนะ จะได้ไม่บกพร่อง ถ้าท่านทุกข์ เราก็บอกว่าไม่ถูกแล้ว ได้ยินไหมทุกข์ เห็นมันทุกข์ไม่เป็นผู้ทุกข์นะ บอกแล้วหนา มันหลงเห็นมันหลง ไม่เป็นผู้หลงนะ
ให้ทำลงไป มีผู้บอกแล้ว มีผู้ทำได้แล้ว สิ่งที่ท่านหลง คนอื่นเค้าไม่หลงกันแล้ว คนอื่นมีแล้วหนา สิ่งที่ท่านเป็นทุกข์ คนอื่นเค้าไม่ทุกข์กันแล้ว สิ่งที่ท่านโกธร คนอื่นเค้าไม่โกธรกันแล้ว ต้องเคลื่อนซะแล้ว ต้องปฏิบัติซะแล้ว ถ้ามันยังหลงอยู่ก็ต้องปฏิบัติ อย่าได้ว่าโอยยากกับลูกกับหลาน ไม่ อันความหลงไม่ได้อุ้มลูก อุ้มลูกอยู่ก็ยังเปลี่ยนได้ อยู่ที่ไหนก็เปลี่ยนได้ความหลงน่ะ ยืน นอน เดิน นั่ง อยู่ที่ไหนได้หมด แต่ไม่ทำ เอาไว้ อย่าปล่อยทิ้งไว้นะ อนากุลา จ กมฺมนฺตา การงานยุ่งเหยิงสับสน ไม่ทำให้เสร็จซักที ไม่เป็นมงคล อนากุลา จ กมฺมนตา งานไม่ยุ่งเหยิงสับสนเป็นมงคลไม่ปล่อยทิ้ง ดังนี้หนา ได้ยินไหม บอกแล้วหนา ชั่วโมงหน้าไปอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้เอ้า...ปาเจรา กราบพระพร้อมกัน