แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
พุทธบริษัทเรา มารวมกันพร้อมเพรียงกัน เพื่อมารับรู้รับเห็น ของเท็จของจริงอย่างไร อันเป็นพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า หมู่สงฆ์ก็ร่วมกันปฏิบัติมา มาชาร์จแบตเตอรี่ มาเข้าค่าย เข้าแคมป์กรรมฐานกัน ถ้าได้ทบทวน การที่เราได้ทำมา ก็ได้รู้ได้เห็นอะไรต่าง ๆ ประสบการณ์มากมายสำหรับพระผู้ทำงานเผยแพร่ในด้านกรรมฐาน ซึ่งเป็นลูกพ่อเดียวกันคือหลวงปู่เทียน เป็นผู้ให้กำเนิดปรมาจารย์ผู้สอนในด้านการเจริญสติปัฏฐาน พวกเรามารวมกันเป็นหมู่เป็นกลุ่มเป็นสายงาน ทำกันมาไม่ขาด นานมาแล้ว นับดูก็ 30 กว่าปีมาแล้ว พวกเราก็ยังเหนียวแน่น ได้ดำเนินกันมาตามแบบที่เราได้เห็นพ้องต้องกัน ทุกปีเราก็มีการเข้าค่ายกรรมฐานเข้มกัน 40 วัน ปีนี้...มาลงที่สุคะโต เวียนมาที่นี่ พวกผมที่อยู่ที่นี่ ก็อุ่นอกอุ่นใจ มีผู้ที่มารับผิดชอบ มารับรู้รับเห็นในเรื่องนี้ แต่เรื่องกรรมฐานนี่คงไม่มีใครหลอกเราได้ ว่ามันคืออะไร มันเห็นอะไร มันผ่านอะไร มันเป็นวิปัสสนา มันเป็นอย่างไร กรรมฐานเป็นอย่างไร พวกเราก็ลุยมาแล้ว ในด้านการกระทำ 39 วันที่ผ่านมา เราก็ได้บทเรียนจากตัวเราเอง ไม่มีใครบอกใครสอนเราได้ ท่านผิดท่านก็ผิดเอง ผิดท่านก็แก้เอง นี่คือบทเรียนที่มีค่ามาก ประสบการณ์ที่มีค่า คนอื่นจะไปชี้ผิดชี้ถูกให้ท่านไม่ได้ ก็เป็นอย่างนี้เรียกว่าวิชากรรมฐาน ไม่เหมือนวิชาทางโลกที่คนไปเรียนมา อันนั้นเป็นวิชาที่มีหลักสูตรตายตัวอันเดียวกัน เช่น (2)(2) เป็น 4 (2)(5) เป็น 10 แต่ว่าสูตรกรรมฐานนี้ต่างกัน
ต่างกันตรงไหน ต่างกรรมต่างวาระกัน บางท่านก็หลง บางท่านก็รู้ บางท่านก็สุข บางท่านก็ทุกข์ บทเรียนที่ท่านรู้ท่านหลงกับบทเรียนที่คนอื่นไม่หลงไม่รู้เหมือนท่าน มันก็ต่างวาระกัน แต่ความหลงอันเดียวกัน แต่บางท่านหลง อาจจะไม่มีความรู้ไปเป็นคู่ ไม่ได้เปลี่ยนหลงเป็นรู้ แต่บางท่านที่เปลี่ยนหลงเป็นรู้ได้ หลายโอกาสหลายครั้งหลายคราว เราก็มีบทเรียนเรื่องนี้กัน เรียกว่ากรรมฐาน เป็นตัวใครตัวมัน ถ้ามีทุกข์ก็มี ต้องมีแน่นอน ปัญหาทางกายก็มีเกิดขึ้น ปัญหาทางใจก็มีเกิดขึ้น ท่านแก้อย่างไร ท่านทำยังไงเกี่ยวกับปัญหาต่าง ๆ หลาย ๆ อย่าง สารพัดสารเพที่มันเกิดขึ้นจากกายจากใจเรา มากมายก่ายกอง ถ้าเป็นกิเลสก็พันห้า ถ้าเป็นตัณหาก็ร้อยแปด มันก็อยู่ที่ตัวเรา เราก็ได้บทเรียนมาแล้ว น่าอนุโมทนา
ถ้าเรียนกรรมฐานนี่ ไม่ได้เหมือนยืนหน้าชั้นเหมือนเรียนนักเรียน อนุบาล ประถม มัธยม ชั้นอุดม ไม่ใช่แบบนั้น เป็นการ…ห้องเรียนในตำราคือกายใจของเรา เป็นหลักสูตร มีสติเป็นนักศึกษา ผู้เข้าไปดูไปศึกษา เหมือนกับเห็นของเท็จของจริง คำว่าเข้าใจไม่มี มีแต่พบเห็น มันเป็นการพบเห็น เห็นอะไร เห็นอะไรก็ได้ ถ้ามันเกิดกับกายกับใจเรานี่ นอกกายนอกใจเราก็มี มันพบเห็น ไม่ใช่คิดเห็น กรรมฐานนี่มันพบเห็น มันไม่ใช่คิดเห็น การพบเห็นนี่มันของจริง ถ้าหลงก็หลงจริง อันความหลงมันก็ไม่จริง เพราะมันไม่จริง เราก็เห็นความหลงมันไม่ยิ่งใหญ่ แต่ก่อนความหลงเป็นใหญ่ ความทุกข์เป็นใหญ่ ความสุขเป็นใหญ่ พอเรามารู้แล้ว (หัวเราะ) ไม่เป็นใหญ่เลย จิ๊บจ๊อยที่สุดเลย เพราะตัวรู้มันใหญ่กว่า มันเป็นเจ้าบ้านเจ้าเรือน แต่ก่อนไม่มีใครเป็นเจ้าบ้านเจ้าเรือน เปลี่ยนกัน สำส่อน ความร้ายความดี เนี่ยคือกรรมฐานที่เราได้เรียนมา 39 วัน ไม่ใช่ 39 วันเท่านี้ พระเถรานุเถระหลายรูป ประสบการณ์เรื่องนี้มาพอสมควร จะรู้สึกชำนิชำนาญ เป็นปริญญารอบรู้มากกว่าเก่า ปริญญาคือรอบรู้ชำนาญ ในด้านของภาวะที่สุขที่ทุกข์ที่รู้ที่หลง ชำนาญมาก นิดเดียว แป๊บเดียว เอาไปเอามาจนไม่มีอะไรเลย หมดงานหมดการ การบ้านไม่มี (หัวเราะ)นี่คือกรรมฐาน
เจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นหมอก็ดี เป็นพยาบาลก็ดี บุคลากรของรัฐบาล เจ้าหน้าที่ของรัฐ ผู้เป็นปัญญาชนทั้งหลายได้มาดูมาเห็นด้วยกัน เห็นกับตาท่าน เห็นกับมือท่าน ทำกับมือท่าน ทำกับกายของท่าน ทำกับใจของท่าน ไม่ต้องไปเชื่อใคร มาพิสูจน์เรื่องนี้ดู ฐานะที่เราเป็นคนไทย มีคำสอน มีศาสนามากศาสนา มันคืออะไร กรรมฐานมันคืออะไร วิปัสสนามันคืออะไร บาปมันคืออะไร บุญมันคืออะไร ไม่มีวิธีอื่นที่จะต้องเรียนรู้เรื่องนี้ได้ นอกจากกรรมฐานเท่านั้น มีเงินมีทองไปซื้อเอาบุญ เอาเงินเอาทองไปจ้างให้บาปหนีก็ไม่ได้ เราต้องกระทำเอาเอง เรียกว่ากรรมฐาน
เพราะฉะนั้นท่านผู้เป็นปัญญาชนทั้งหลาย ให้มาดู มาพิสูจน์ดูด้วยตนเอง พิสูจน์ยังไง เคยไปสอนที่สหรัฐ ฝรั่งบอกว่าอย่าสอนเรานะ จะทำยังไง ทำให้เราดู แสดงว่าเขามีความรู้มาก อันที่พูดนี่ ไม่ได้หมายถึงว่าท่านทั้งหลายไม่รู้ รู้หมดทุกคน รู้ผิดรู้ถูก รู้ทุกข์รู้สุข สุขก็ดี ทุกข์ไม่ดี โกรธไม่ดี หลงไม่ดี แต่ความรู้ที่มันเป็นเหตุเป็นผลมันยังใช้ไม่ได้ ให้ไปเห็นเข้าจริง ๆ เรียกว่าวิชากรรมฐาน พอฝรั่งเขาชี้ให้เรา ให้สอนแบบหลวงปู่เทียนนะ อย่างอื่นไม่ต้องสอนหรอก ทำให้เราดู เราก็พายกมือสร้างจังหวะ ความรู้สึกตัว ไม่ใช่ไปจำเอามา เอากายไปต่อลองดู ภาษาฝรั่งเรียกว่า Aware Aware (หัวเราะ) นะ..เคลื่อนมือ 14 จังหวะ 1 เนื่ย Aware Aware คือ รู้…รู้นั่นแหละ ตัวรู้ตัวนี้ไม่ใช่คำพูด (หัวเราะ) มันเป็นการสัมผัสเอา พลิกมือ 14 จังหวะ 14 รู้ ทันใจที่สุดเลย วินาทีหนึ่งรู้ทีหนึ่งพอดี๊พอดี ก็พาเขาทำดู พาให้เขาทำดู เขาก็สัมผัสไปได้ ถามเขาว่าคุณเคยรู้อย่างนี้ไหม ไม่เคย…No ชั่วโมงหนึ่ง ไม่รู้เหรอ ไม่…ไม่รู้ 30 นาทีรู้ไหม ไม่รู้ 10 นาทีรู้ไหม ไม่รู้ 5 นาทีรู้ไหม ไม่รู้(หัวเราะ) อ้าว…คุณไปรู้อะไรล่ะ คุณไปโลกพระจันทร์กันมาแล้ว คุณไม่รู้ตัวเองเหรอ เขาบอกว่าเขาไม่รู้ ทั้ง ๆ ที่เขาเป็นประเทศอารยาประชาธิปไตย…อารยะประชาธิปไตย ประเทศที่ไม่ตาย เขาไม่รู้เรื่องความรู้สึกตัวนี่ พอให้เขาทำดู เขาก็ทำไป คือไม่สอนเขา พาเขาทำดู เขาก็ทำไปทำไป เขาก็เข้าใจ เขาก็ไม่มีคำถาม มีแต่คำตอบ เขาก็ตอบเอาเอง เวลารู้ เวลาหลง มันคู่กันพอดี เวลามีตัวรู้ มันจึงเห็นตัวหลง ถ้าไม่มีตัวรู้ภาวะที่รู้ มันก็ไม่เห็นตัวหลง ถ้ามีภาวะตัวรู้เป็นที่ตั้ง เป็นฐานเป็นที่ตั้งไว้ มันก็เห็นตัวหลง ตัวหลงก็มี ตัวรู้ก็มี สัมผัสตัวหลงตัวรู้ลองดู สัมผัสไป สัมผัสไป มันเป็นยังไง ภาวะที่รู้ที่หลงน่ะ มันต่างกันไหม อะไรเป็นธรรมกว่า ภาวะที่รู้ที่หลงน่ะ เขาก็รู้จัก แต่ว่าภาวะที่หลง ไม่มีใครทำให้เขาหลง เขาทำเอง เกิดขึ้นกับเขาเอง ภาวะที่รู้ ก็ไม่มีใครช่วยเขา เขาก็ช่วยตัวเขาเอง โดยการพลิกมือ หงายมือ ยกมือ เป็นนิมิต ที่ตั้ง
ทำไมจึงทำที่ตั้งอย่างนี้ เพราะว่าชีวิตของเราไม่เคยตั้งเลย ไหล…ไหลไปทางไหน ไหลไปอดีต อดีตที่ผ่านมาแล้ว อนาคตข้างหน้ายังมาไม่ถึง 10 วัน 5 วัน บางทีก็เดือนหนึ่ง ปีหนึ่งก็มี มันไหลเกินไป อนาคตที่ยังไม่มาถึง มันก็ไหลไปข้างหน้า ปัจจุบันคือเดี๋ยวนี้ วินาทีนี้ วินาทีหนึ่งนี่ มันไม่มีสักทีเลย จึงมีวิชากรรมฐานแบบนี้ เป็นคู่ชีวิต ที่เป็นฐานเพื่อให้อยู่เป็นวินาที ให้มันถี่ ๆ ลองดู เขาก็จะรู้ล่ะ สัมผัสดูแล้ว อ๋อ…เขาก็…เห็น ภาวะอันนี้ พอเขาเห็น เขาก็โตวันโตคืนขึ้นมา พอเห็นตัวรู้ตัวหลง มันก็มาเห็นตัวนี้ มันเห็นไปตะพึดตะพือ มันจับหลักได้ เหมือนเรามีตา เห็นอะไรบ่อย ๆ มันก็คุ้นตา อย่างหลวงพ่อเห็นพวกเราอยู่ร่วมกันนี่ หลายปีมาแล้ว มันก็คุ้น ไม่มีผิด ถ้าเห็นใหม่ก็ไม่คุ้นล่ะ หลง ๆ ลืม ๆ กัน การเห็นตัวรู้ตัวหลง เห็นกายเห็นใจเราที่มันมีอาการต่าง ๆ เกิด รู้หมดเลย รู้หมดรู้ครบรู้ถ้วน รู้แจ้งด้วย ไม่ต้องสงสัย ถ้ามีตัวรู้เข้าไปดู เหมือนเรามีตา
เหมือนหลวงตานี่ สอนให้คนดูสมุนไพร พาเดินดูต้นไม้ที่เป็นสมุนไพรในป่า ดูทีแรก เขาบอกว่า ต้นไม้ต้นไหนก็เหมือนกันนะ มันต่างกันที่ตรงไหน ดูใหม่ ๆ มันเป็นอย่างนั้นนะ ไปดู…พญารากดำ สมัยนั้น ตะขาบมันกัดคน หลวงตาเลยพาไปดูยาถอนพิษ คือพญารากดำ ไม่ต้องมาถามเรา ให้ไปดูไปเห็นเอา อาจจะมีปัญหาเกิดขึ้นที่ใดก็ได้ กับคนอื่นก็ได้ ให้เรารู้เอาไว้ พาเขาไปดูพญารากดำ ไปดูพญารากดำ ไปดูต้นอื่น ก็เหมือน ๆ กันเขาว่า พญารากดำ ไปดูลำดวน ไปดูอะไรต่าง ๆ มันคล้าย ๆ กัน (หัวเราะ)เขาว่าอันเดียวกัน เพราะดูใหม่ ๆ อ่ะ พอไปดูไปดูไป เขาก็เลือกดู โอ๊ะ..ไม่ใช่อันเดียวกัน คนละอันกัน
การมาเห็นตัวเรา เห็นตัวรู้ตัวหลงน่ะ เห็นตัวสุขตัวทุกข์เนี่ย มันคนละอันกัน คนละทิศละทาง เหมือนหน้ามือกับหลังมือ แต่เกิดที่เดียวกันนะ ความทุกข์เกิดขึ้นที่ใจ ความสุขเกิดขึ้นที่ใจ ความหลงเกิดขึ้นที่ใจ มันก็อันเดียวกัน แต่ว่ามันก็เปลี่ยนได้ ความหลงเหมือนกับหน้ามือ ความไม่หลงเหมือนกับหลังมือ เรียกว่าปฏิบัติ ลองเปลี่ยนดู ลองเปลี่ยนดูซี่ ความหลงน่ะ ให้มันทันทีทันใดลองดู มันจะเป็นยังไง ผิดหรือถูกเนี่ย เวลามันทุกข์ ลองเปลี่ยนความทุกข์ให้เป็นตัวรู้ ลองดู ผิดหรือถูกเคยทำไหม เราจึงมีหลักอย่างนี้จริง ๆ นะ ไม่ใช่สุ่มสี่สุ่มห้า ไม่ใช่สุ่มหา เรามีพระศาสดา มีพระพุทธเจ้าเป็นผู้…พระสูตร…เป็นพระสูตรที่ตรัสไว้อย่างนี้ เราไม่ต้องยุ่งยากเลย เรามาทำตามไปเลย จะว่าโง่ยังไง จะว่าฉลาดยังไง ตรงนี้แหละจะบ่งบอกเรา เป็นบุญยังไง เป็นบาปยังไง มันจะบอกเรา เขามีอะไรบ้างที่จะมาชัดเจนอย่างนี้ในเรื่องการศึกษา แล้วก็ไม่ต้องรอเลย…ทันที เช่นเราเจริญสติ พลิกมือขึ้นก็รู้ได้ทันที ยกมือขึ้นก็รู้ได้ทันที ไม่รอแม้แต่วินาทีหนึ่งกับวินาทีหนึ่ง เสี้ยวออก เสี้ยว(เน้นเสียง) เท่าไหร่ก็ไม่มีเลย ถ้ารู้เนี่ย อันเดียวกันทันทีเลย ไม่ต้องรอ
ไม่เหมือนเราทำงานทำการอันอื่น เราทำอันอื่น ปลูกข้าว ปลูกมัน ปลูกอ้อย ปลูกพริก หรือทำงานเป็นข้าราชการ เงินเดือน 30 วัน ที่จะได้เงินมา บางทีต้อง…ไม่พอใช้ เช่น ชาวบ้านน่ะยากจน ทำงานวันนี้ ใช้หนี้วันก่อน ไม่พอ เพราะมันไม่มี ความรู้สึกตัวของเราเหมือนกันแหละ มันไม่มีให้ใช้เลย เพราะเราไม่ได้ประกอบขึ้นมา ทั้ง ๆ ที่มันมีอยู่ เพราะเราไม่มีเสียแล้ว เหมือนกับเราไม่มีเงินแหละ เพราะเราไม่มี ก็ไม่มี คนอื่นเขาก็มี เราไม่มีเหมือนเขา แต่เงินก็เราก็หาได้ เป็นอะไรล่ะ เป็นทรัพย์ภายนอก จึงไม่มีวิธีอันใดที่จะให้ทันอกทันใจ เป็นแก้วสารพัดนึกเหมือนกรรมฐานเลยทีเดียวในโลกนี้
พระธรรมอันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ดีจริง ๆ เป็นอกาลิกธรรม ไม่มีกาล ไม่มีเวลา อย่าเอาความหนุ่มความสาวมาอ้าง อย่าเอานักบวชฆราวาสมาอ้าง อย่าเอาลัทธินิกายมาอ้าง อย่าเอาวันเวลามาอ้าง ภาวะที่รู้ที่หลงน่ะ มันอยู่กับเราอย่างนี้ จึงขอ…ท้าทายตามพระพุทธเจ้าด้วย ประหนึ่งเป็นธุลีน้อย ๆ มาอยู่ในหัวใจเรา พระองค์ทรงตรัสว่า ผู้ใดมีสติต่อเนื่อง 1 วันถึง 7 วัน ลองดู พระคุณเจ้านี่ (หัวเราะ) 1 วันถึง 40 วันนี่ พิสูจน์ดูเลย ถ้าหลอกก็หลอกตัวเอง ถ้าไม่เชื่อก็ไม่เชื่อตัวเอง ถ้ามีศรัทธาก็ศรัทธาตัวเอง ถ้าไม่มีศรัทธาก็ไม่ศรัทธาตัวเอง นี่คือของจริง อย่ามาศรัทธาอะไรที่ไหน ถ้าเสื่อมศรัทธาก็เป็นความเสื่อมของตัวเอง ไม่เชื่อตัวเอง ถ้ามีศรัทธาก็เชื่อตัวเอง ก็มั่นคงเรื่อยไป เป็นมรรคเป็นผลของคนผู้นั้นไป นี่คือศรัทธาอันแน่วแน่ก้าวหน้าไม่ถอยหลัง เพราะฉะนั้นเราจึงมีหลักอย่างนี้
พวกเราไม่ต้องกลัว คุณหมอ พยาบาล ทุกชีวิตไม่ต้องกลัวเรื่องกรรมฐาน ไม่มีใครหลอกเราได้ อาจารย์ก็หลอกไม่ได้ ลูกศิษย์หลอกอาจารย์ก็ไม่ได้ อาจารย์หลอกลูกศิษย์ก็ไม่ได้ เช่น เราเอามือวางไว้บนเข่า ใครเป็นคนรู้ เราพลิกมือขึ้นใครเป็นคนรู้ อาจารย์มองอยู่เนี่ย มือของท่านอยู่บนเข่า อาจารย์บอกว่ามือของท่านอยู่ข้างหลัง จะเชื่อไหมล่ะ ไม่มีใครเชื่อ มือของเราวางอยู่บนเข่าแท้ ๆ ทำไมอาจารย์ถึงว่าอยู่ข้างหลัง ใครเป็นคนตอบ อาจารย์ตอบให้ถูกไหม ไม่ถูกเลย ใครเป็นคนตอบ เราตอบเอง กรรมฐานเป็นวิชาที่ตอบเอง ไม่เหมือนวิชาทางโลกนะ มันหลงก็ตอบเอง มันทุกข์ก็ตอบเอง ไม่มีวิธีแก้ทั้งนั้น เกี่ยวข้องกับกายกับใจ มีตัวอย่างที่สุดเลย มันหลงก็รู้ มันคู่กันนะ ตัวรู้ ตัวภาวะที่รู้ตัวนี้ สารพัดประโยชน์เลย เอาไปเกี่ยวข้องความสุขก็รู้ ความทุกข์ก็รู้ ลองดู ความโกรธก็รู้ ความวิตกกังวล เศร้าหมอง ความยากความง่ายก็รู้ไปเลย ร้อนหนาวรู้ไปเลย หิวก็รู้ไปเลย เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าก็รู้ไปเลย ง่วงเหงาหาวนอนก็รู้ไปเลย บุกไปเลยอย่างนี้อะ จึงเรียกว่าแก้วสารพัดนึก ถือว่าทุกอย่างก็ว่าได้ อันภาวะที่รู้นี้ เป็นคำสอนที่รวมลง
เหมือนรอยเท้าของช้าง ใหญ่กว่ารอยเท้าของสัตว์อื่น รอยเท้าสัตว์อื่นมารวมลงที่รอยเท้าของช้างได้ ภาวะที่รู้เหมือนรอยเท้าของช้าง อันอื่น…มาลงตรงนี้ทั้งหมดเลย นี่ขนาดนี้นะ จริงไม่จริงมาพิสูจน์ช่วยกันดู คุณหมอทั้งหลายภายใน 7 วันนี้ เราอุ่นใจ อย่างน้อยก็ต้องมาประสบการณ์กับตัวรู้ตัวหลง ให้มีบทเรียนจากตัวเองบ้าง จะได้ไปใช้ชีวิตของเราอย่างสง่างาม พอตัว อ่านออกเขียนได้ เหมือนท่านเป็นหมอ พอเห็นคนป่วยมาท่านก็ตอบเอง ไม่รู้ว่าใครเป็นหมอเป็นพยาบาลหรอก ถึงคราวที่ท่านพบเห็นคนป่วยมาท่านก็ดูออก เพราะอะไร เพราะท่านมีความรู้ สามารถทำได้ เป็นงานที่แน่นอนที่สุด งานหมองานพยาบาล หลวงตานี่มองพยาบาลเหมือนเทพธิดาของเรา มองคุณหมอเหมือนเทพบุตรของเรา เพราะเราเคยรอดตายจากหมอพยาบาลเหล่านี้มา เห็นฝีมือแล้ว ท่านมีความรู้จริง ๆ แต่ความรู้สึกตัวเนี้ย มันยอดเยี่ยมกว่านั้นอีก อันนั้นท่านมีความรู้ช่วยดูแลคนอื่นได้ อาจจะช่วยตัวเองไม่ได้ ถ้าอันตัวรู้ตัวเนี้ย มันช่วยคนอื่นเขาอาจจะได้ด้วยแนะนำ ช่วยตัวเองได้ยอดเยี่ยมที่สุดเลย
การที่จะช่วยคนอื่นก็มีวิธีเยอะแยะ เวลานี้กำลังสร้างกลุ่ม 5 นาทีทองก่อนใจจะขาด ขึ้นมา เพื่อไปช่วยคนใกล้จะตาย เคยไปช่วยอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ที่บอสตัน มหาวิทยาลัยบอสตันน่ะ คนป่วย ไปยืนสวดพระสูตรต่าง ๆ ให้คนป่วยฟัง เรียกร้องความรู้สึกเขาคืนมา คนป่วยคนใกล้จะตายเนี่ย มัน (เน้นเสียง) … มืดแปดด้านเลย เราจึงไปสวดพระสูตรบางบท ให้เขาได้ยิน เรียกเขากลับคืนมา ก็มีผลตอบสนองเกือบทุกราย เมื่อนั่นอันนั้นมันก็สายเกินไปแล้ว จนใกล้จะตาย นี้…เรามาตื่นแต่ดึกศึกแต่หนุ่ม ยามสงบเราฝึกยามศึกเรารบได้ เพราะอะไร เรามีความรู้ เหมือนท่านเป็นหมอ สามารถยืนหยัดอยู่กับอาชีพของท่านได้ ได้จริง ๆ หมอดูโรคหลวงตา ก้อนเนื้อในตับอ่อน เกิดจากก้อนเนื้อโตในลำคอไปสู่ตับอ่อน รักษาได้ ใช้คีโมตัวใหม่เข้าไปเลย ข้าพเจ้าปฏิเสธวิธีการรักษาอื่นใดทั้งสิ้น ให้คีโมหลวงพ่อโดยด่วน เพื่อให้ก้อนเนื้อในลำคอ ให้ท่านหายใจได้ โห…มีความรู้จริง ๆ ก็ให้คีโมลงไป เป็นคำพูดที่เด็ด
นี่มันตัวหลงจริง ๆ(เน้นเสียง) ตัวหลงไม่เป็นธรรมจริง ๆ ตัวรู้เป็นธรรมกว่าจริง ๆ ใครบอกเรา เราตอบเอง ชี้ขาดไปได้เลย นี่เรียกว่าประชาธิปไตยหรือว่ามาตรฐาน มาตรฐานของชีวิต มาตรฐานของวิชาการต่าง ๆ จบเลย จากศาสตร์ต่าง ๆ มา เพราะฉะนั้นเนี่ย กรรมฐานเนี่ย มันก็ครบวงจรนะ มากกว่าอันอื่น นะ…ถ้าเรามาศึกษาเรื่องนี้กัน เอาล่ะ…เป็นวิชาเอกของเรา เอกเรื่องนี้กัน เอกะ มัคโค วิสุทธิยา เป็นหมายเลข 1 ทางฟรีเวย์ของพวกเรา ไม่มีจนเลยในโลกนี้ ถ้าเป็นทางก็ฟรีเวย์ (หัวเราะ) ประเทศไทยเรามีฟรีเวย์ไหม มีแต่ไฮเวย์ ประเทศที่พัฒนาแล้วมีฟรีเวย์ ไม่มีไฟแดงไฟเขียว วิ่งได้ทั่วประเทศเลย ถ้าฟรีเวย์นี่ มีแต่รถนั่งวิ่ง รถโดยสาร รถบรรทุกไม่ต้องมาวิ่งกับรถนั่ง ก็ปลอดภัยเกือบ 100% ไม่มีรถชนข้างหน้า แต่รถก็ชนด้านหลังกัน เรียกว่าฟรีเวย์ ชีวิตเราควรจะมีฟรีเวย์ ผ่านได้ทุกสถานการณ์ อันเรื่องเกิดขึ้นกับกายกับใจนี้ เราจะจนหรือเรื่องมันเกิดขึ้นกับเราแท้ ๆ เนี่ย
มาเถอะ มาศึกษาเรื่องนี้กันเนี่ย ให้สุดความสามารถ 7 วันเนี่ย (หัวเราะ)ทำลองดู เราจะอยู่ร่วมกัน สุขทุกข์ร่วมกันที่นี่ พออยู่กันได้ มีทั้งพระสงฆ์องค์เจ้า อุบาสกอุบาสิกา พุทธบริษัททั้งสี่เนี่ย จะท้อถอยอะไรล่ะ อุ่นใจ…อุ่นใจหลวงตานะ เพราะฉะนั้นก็ ยินดีต้อนรับทุก ๆ ท่านที่เข้าสู่สุคะโต มันเป็นธรรมวินัยของเราอยู่แล้ว ท่านมาที่นี่ไม่ต้องเกรงอกเกรงใจอะไร คิดยากลำบากอะไร เหมือนกันพวกเราอยู่ที่นี่ ไม่ต้องคิดเรื่องกินเรื่องอะไรต่าง ๆ คนอื่นจะคิดให้เราแล้ว แต่เราต้องช่วยตัวเองในธุระของส่วนตัว จึงพออยู่กันได้ ผู้ที่ยังไม่มา ขอให้มาสู่อาวาสของเรา มีธรรมวินัย มีอย่างนั้น ไม่ต้องมาแจ้งให้ใครทราบ ที่นี่…ถ้าต้องการมาก็มาเมื่อไรก็ได้ บางทีก็มากบ้างน้อยบ้าง อาจจะไม่สะดวก ความไม่สะดวกความลำบากอาจจะทำให้เราเข้มแข็ง ความสะดวกสบายอาจจะทำให้เราอ่อนแอได้ ความยากความจนทำให้เราเข้มแข็ง ได้เหมือนกัน อย่าไปท้อถอย…นะ แม้แต่เราเจ็บไข้ได้ป่วย มะเร็งอันดับที่ 4 แล้วหลวงพ่อ เอ้า…หายก็ไม่เป็นไร ตายก็ไม่เป็นไร ไม่ต้องไปอ่อนแอ เราไม่ต้องตายเพราะโรคมะเร็ง เราไม่ต้องดีใจมีสุขเพราะโรคมะเร็งหาย เราอยู่ของเราเอง จะว่ายังไงอะ หายก็ไม่เป็นไรนี่ ตายก็ไม่เป็นไรเนี่ย มันทำได้ไหมชีวิตเราคนหนึ่ง มันต้องทำได้ พระพุทธเจ้านี่เหนือการเกิดแก่เจ็บตายคือเรื่องเนี่ย วิธีที่จะทำเป็นเรื่องนี้ได้ คือเจริญสตินี่แหละ
เนี่ย…มาพิสูจน์ลองดู ท้าทายมาสองพันกว่าปีมาแล้ว แล้วเราก็ดีใจอุ่นใจ(เน้นเสียง)อุ่นใจนะ ให้สบายใจได้เลย สุขด้วยกันทุกข์ด้วยกัน ไม่เป็นไร 7 วันเท่านั้นเองนะ อย่าไปคิดหน้าคิดหลังอะไร จะทำได้หรือไม่หนอ กลัวจะไม่ได้อะไร ไม่ใช่อย่างนั้น ได้ก็ไม่เป็นไร ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ผิดก็ไม่เป็นไร ถูกก็ไม่เป็นไร ตรงนี้เรียกว่า…ตั้งไว้ถูก มรรค แปลว่าอะไร ไม่ใช่ว่าจะเอาให้ได้ จะเอาไม่ได้ แม้เวลามันผิด ก็…ไม่พอใจ เวลามันถูก…พอใจ ก็ไม่ใช่กรรมฐาน มันถูกก็เห็นมันเนี่ย มันผิดก็เห็นมัน มันทุกข์ก็เห็นมัน มันรู้ก็เห็นมัน มันไม่รู้ก็เห็นมันเนี่ย ไม่มีทางเสียเลย มันรู้ก็เห็นมัน มันไม่รู้ก็เห็นมัน มันผิดก็เห็นมันเนี่ย ภาวะตัวรู้มันอย่างนี้อะ มันเหนือ เหนือโลกไปเลยแหละ เนี่ยมันรู้เนี่ย มันสุขก็รู้…เห็นมัน มันทุกข์ก็รู้มันเนี่ย วิธีที่ให้รู้ ก็มีอยู่แล้ว