แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [ลองพูดคุยกับ AI ทาง Line]
หัวรุ่งมีบรรยายทุกคืนทุกคืนและก็ดับทุกข์ได้ ปฏิจจสมุปบาทเป็นหลักวิชา ให้รู้ว่าความทุกข์เกิดอย่างไร ดับอย่างไร ที่ไหน เมื่อไร โดยวิธีใด แล้วก็ปฏิบัติอานาปานสติ เพื่อควบคุมมัน ควบคุมมัน อย่าให้มันเกิดทุกข์ มีสองเรื่องเท่านั้นพอ
พระเจ้าท่านตรัสว่าผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ผู้ใดเห็นเรา ผู้นั้นเห็นธรรม ผู้ใดไม่เห็นธรรม แม้จะจับจีวรเราถือไว้ไม่ยอมปล่อย มันก็ไม่เห็นเรา เพราะมันไม่เห็นธรรม
ทีนี้อีกบทหนึ่งว่า ผู้ใดเห็นปฏิจจสมุปบาท ผู้นั้นเห็นธรรม ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นปฏิจจสมุปบาท ผู้ใดเห็นปฏิจจสมุปบาท ผู้นั้นเห็นธรรม ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ต่อเมื่อเห็นปฏิจจสมุปบาทน่ะ จึงจะเห็นพระพุทธเจ้าพระองค์จริง ปฏิจจสมุปบาทเป็นกฏของธรรมชาติ เอาควบคุมอยู่ว่า ความทุกข์เกิดขึ้นอย่างนี้ ความทุกข์ดับลงอย่างนี้ อาศัยปัจจัยอย่างนี้ ความทุกข์เกิดขึ้น อาศัยปัจจัยอย่างนี้ ความทุกข์ดับลง นี้เป็นกฏ ปฏิจจสมุปบาทเป็นกฏของธรรมชาติ มีอยู่ในทุกปรมาณูในจักรวาลนี้ ผู้ใดเห็นปฏิจจสมุปบาทที่ว่าเห็นธรรม ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา เห็นแต่พระ...พระพุทธเจ้า พระองค์คน พระองค์คน นั่นเป็นชื่อสิทธัตถะ
ลูกพระเจ้าสุทโธทนะ เกิดในอินเดีย ประสูติแล้ว ตรัสรู้แล้ว นิพพานแล้ว นี่พระองค์คน พระองค์คน แต่พระองค์ธรรมน่ะ คือ กฎปฏิจจสมุปบาท เห็นปฏิจจสมุปบาท คือ เห็นธรรม เห็นธรรมคือเห็นเรา พระพุทธเจ้าองค์นี้ ถาวร นิรันดร ไม่ประสูติ ไม่ตรัสรู้ ไม่นิพพานเลย อยู่เป็นนิรันดร คือ พระพุทธเจ้าพระองค์ธรรม พระพุทธเจ้าเกิดมีอยู่สององค์เป็นพระองค์คนองค์หนึ่ง เป็นพระองค์ธรรมองค์หนึ่ง พระพุทธเจ้าพระองค์คนนั่นแหละช่วยให้รู้จักพระพุทธเจ้าพระองค์ธรรม ถ้าไม่มีพระพุทธเจ้าพระองค์คนแล้วก็ไม่มีใครรู้จักพระพุทธเจ้าพระองค์ธรรม นี่เราติดต่อกันแต่กับพระพุทธเจ้าพระองค์คน บุคคลนี่ ไม่ค่อยเข้าถึงพระองค์ธรรม พระเจ้าจึงตรัสว่าผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ผู้ใดเห็นเรา ผู้นั้นเห็นธรรม ผู้ใดเห็นปฏิจจสมุปบาท ผู้นั้นเห็นธรรมน่ะ ขอให้รู้จักพระพุทธเจ้าพระองค์ธรรม พระองค์จริง พระองค์นิรันดร พระองค์ที่อยู่นอกประวัติศาสตร์ ไม่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ประวัติศาสตร์ไม่ทำอะไรได้ เดี๋ยวนี้เราเรียนกันแต่พระพุทธเจ้าพระองค์คน ในประวัติศาสตร์ตายแล้วเผาแล้วนี้ไม่ไหวนี่
พวกฝรั่งเหมือนกันมันรู้กันแต่พระพุทธเจ้าพระองค์คน ในประวัติศาสตร์น่ะมันไม่รู้พระพุทธเจ้าพระองค์ธรรม เนื้อประวัติศาสตร์นี่อ่ะ ขอให้พวกเราชาวพุทธทุกคน ทุกคน รู้จักพระพุทธเจ้าพระองค์ธรรม พระองค์ธรรม เป็นนิรันดร ไม่ประสูติ ไม่ตรัสรู้ ไม่นิพพานอะไรหมด มีตายตัว คงที่ อยู่อย่างนั้นตลอดนิรันดร เห็นธรรมะนี่ชื่อว่าเห็น เห็นเรา เห็นพระพุทธเจ้าพระองค์จริงน่ะ คล้ายๆ พระพุทธเจ้าองค์เจ้าเนื้อหนัง ที่เป็นลูกพระเจ้าสุทโธทนะ นี่ไม่ใช่พระองค์ ไม่ใช่พระองค์จริงน่ะ พระองค์ชั่วคราวอ่ะ เพราะมีประสูติ ตรัสรู้และนิพพาน พระองค์ชั่วคราว พระองค์คน แต่ต้องอาศัยพระองค์คนนี่ ได้รับคำสั่งสอน จึงรู้จักพระพุทธเจ้าพระองค์ธรรม ฉะนั้นขอให้รู้จักพระพุทธเจ้าพร้อมกันทั้งสององค์ ทั้งพระองค์คนและพระองค์ธรรม พระพุทธเจ้าพระองค์จริง พระองค์หนึ่งเป็นชั่วคราว ไม่เป็นนิรันดร องค์หนึ่งเป็นนิรันดรนี่
ในระหว่างที่บวชช่วงไม่กี่สัปดาห์นี่ก็ขอให้รู้จักพระพุทธเจ้าพระองค์จริง นิรันดร ไม่ประสูติ ไม่ตรัสรู้ ไม่นิพพาน แต่ยังคงอยู่ตลอด กัปกัลป์ นิรันดร กฎปฏิจจสมุปบาท ความทุกข์เกิดอย่าไร ความทุกข์ดับอย่างไร เห็นได้ในที่ทุกหนทุกแห่ง เห็นได้ในทุกอย่าง กระทั่งเห็นได้ในตัวเรา ในตัวเราเอง รู้สึกได้ในตัวเราเอง แต่เดี๋ยวนี้ไม่เห็น อ้าวไม่เห็น เพราะอวิชชาบังไว้
เพราะอวิชชาบังไว้ อวิชชาเป็นเหมือนม่านกั้นและบังไว้ไม่ให้เห็น พระพุทธเจ้าพระองค์จริง ดังนั้น เราจึงมีรูปภาพล้อคน สอนคน ด่าคน ภาพหนึ่งในตึกนั้นน่ะรูปแรกด้านซ้ายมือประตูนั่นน่ะ พระพุทธเจ้าท่านประทับนั่งอยู่ที่หลังม่านแห่งความโง่ของคุณน่ะ พระพุทธเจ้าพระองค์จริงนั่งอยู่หลังม่านแห่งความโง่ของคุณ หาม่านแห่งความโง่ของคุณให้พบแล้วเผาเสียเลย จะได้พระพุทธเจ้านั่งอยู่ตรงนั้น นี่พระพุทธเจ้าพระองค์จริงอยู่หลังม่านแห่งอวิชชาของคนแต่ละคน เร็วๆๆๆ หาม่านแห่งอวิชชาให้พบแล้วสับเสียฟันเสีย เผาเสีย จะพบพระพุทธเจ้าพระองค์จริง ไม่ต้องบ้าไปหาถึงอินเดีย ไม่ต้องไปหาที่วัด ไม่ต้องไปหาที่ไหนล่ะ หาที่หลังม่านแห่งความโง่ของคุณเอง ที่มันอยู่ในใจของคุณเองอ่ะ หาให้พบที่นั่น พบพระองค์จริงที่หลังม่านแห่งความโง่ที่มีอยู่ในใจ
เผาม่านแห่งความโง่เสีย กระแสแห่งปฏิจจสมุปบาทก็หยุดสิ้นสุด ความทุกข์ก็ดับไม่มีเหลือ ฉะนั้น เราจึงเรียนเรื่องปฏิจจสมุปบาทในฐานะเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์จริง สิงสถิตอยู่ในทุกๆ ปรมาณูในจักรวาล ในจักรวาลนี้หาให้พบเถิด ทีพอรู้ปฏิจจสมุปบาทเกิดทุกข์อย่างไร ดับทุกข์อย่างไรแล้วก็ศึกษาพระองค์ธรรมอีกอันหนึ่งที่เรียกว่าอานาปานสตินี่ เกิดมีสติสัมปชัญญะ สมาธิปัญญามากพอที่จะควบคุม แล้วก็ไปทำลายม่านอวิชชาเสีย ม่านอวิชชาถูกทำลายไปแล้ว มันก็พบพระพุทธเจ้าพระองค์จริง ดับทุกข์ได้ สิ้นเชิง ขอให้ท่านทั้งหลาย เพื่อนสหธรรมิกเหล่านี้ จงประสบความสำเร็จในการพบพระพุทธเจ้าพระองค์จริง อยู่ด้วยพระพุทธเจ้าพระองค์จริง ปราศจากกิเลสเออ...เป็น...อันเป็นมารร้ายนั้น มีความเจริญงอกงามในพระธรรมนี้ ในพรหมจรรย์นี้ ให้อยู่ตลอดทุกทิพาราตรีกาล เทอญ (เสียงคนตอบ สาธุ)
ที่มา : ธรรมะปราศรัยแก่ภิกษุสามเณรนำโดยพระไชยศ จากเชียงราย ให้โอวาทแก่ พระภิกษุ สามเณร ญาติโยม และอื่นๆ