แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
กราบ ถ้าตั้งต้นด้วยกราบ ก็จบลงด้วยกราบ แล้วนั่งลงฟังให้เรียบร้อย ทำจิตใจให้ผุดผ่อง เมื่อนั่งก็นั่งให้เรียบร้อยแล้วก็พนมมือเวลาฟัง ถึงจะถูกต้องตามธรรมเนียม เราไม่เคยจะสนใจเรื่องขนบธรรมเนียมจึงยุ่งไปหมด คนหนึ่งทำแบบหนึ่ง อีกคนหนึ่งก็ทำอีกแบบหนึ่ง แล้วก็ไม่ทำเป็นแนวทางเดียวกัน เราต้องจำไว้ เราต้องรักษากันไว้ ว่าเขาทำกันอย่างไร อาราธนาศีลอย่างไร อาราธนาธรรมอย่างไร ลาสิกขาอย่างไร ต้องจำไว้ จะได้ช่วยเหลือผู้อื่น เมื่อเพื่อนของเราหรือว่าใครเขาจะทำกัน เราจะได้สอนได้ สังคมมันจะดีขึ้น สังคมจะดีขึ้น ไม่ทำอะไรผิดๆ
บัดนี้จะลาสิกขาอย่างภิกษุ สำหรับประโยชน์ในการทำให้ถูกต้อง ต้องทำด้วยใจ ให้ถูกต้องด้วย โดยทางกายเราก็แสดงด้วยการเรียน เครื่องนุ่งห่มหรืออากัปกิริยา โดยทางวาจา เราก็กล่าวคืนสิกขา ด้วยคำเป็นภาษาบาลี โดยจิตใจ ก็ต้องรู้สึกตัว มีสติสัมปชัญญะ เราลาสิกขาอย่างภิกษุ ทำในใจให้ถูกต้อง ลาสิกขา เฉพาะสิกขาของภิกษุ สิกขาอื่นๆ สรณะคมน์ เป็นต้น นั้นก็ไม่ได้ลา อย่าเข้าใจว่าต้องรับศีลกันใหม่ สรณคมน์กันใหม่ ทำให้สรณคมน์ขาด หรือยกเลิก ขึ้นๆลงเพราะจิตเราเอง ธรรมเนียมเขาตั้งไว้ไม่ดี คือดีก็พูดยาก ให้สรณคมน์กันบ่อยๆ การรับสรณะคมน์นั้นถือว่ารับกันตลอดชีวิต นี่มารับกันบ่อยๆ ย้ำกันให้แน่นเข้าไป แน่นเข้าไป สรณคมน์นี้ไม่ได้ลา ไม่ได้คืน สิกขาระเบียบวินัยอย่างอื่น แต่ว่าเป็นสุภาพบุรุษไม่ได้คืน คุณคืนเฉพาะสิกขาอย่างภิกษุ อย่างเดียว
ได้เวลากันแล้ว กล่าวคืนสิกขา สิกขัง ปัจจักขามิ ในใจเรารู้ว่าคืนสิกขาอย่างภิกษุ คิหีติ มัง ธาเรถะ หมายความว่าเราเป็นคฤหัสถ์ เขาจะถือว่าเราเป็นคฤหัสถ์ พูดสามครั้งอย่างน้อย ต้องกราบให้เห็น ก็เป็นอันว่ากล่าวคืนสิกขาเรียบร้อย ตามธรรมเนียมของคฤหัสถ์ ทำอะไรจะต้องตั้งนะโม กล่าวคืนสิกขาก็ต้องตั้งนะโม ถ้าเข้าใจเรื่องนี้ดีแล้ว ก็เตรียมตัวคุกเข่า เข้ามาใกล้ๆ ยื่นมือมากราบอย่างถูกต้อง ตั้งนะโม กล่าวนะโม 3 ครั้ง พร้อมกล่าวคำคืนสิกขา
บัดนี้เธอได้กล่าวคืนสิกขาของภิกษุแล้ว ประกาศตัวเป็นคฤหัสถ์แล้ว เธอจึงไม่มีสิทธิมีความสมควรอะไรที่จะนุ่งห่มผ้ากาสายะต่อไป เธอจงไปเปลี่ยนเครื่องนุ่งห่ม
คำกล่าว บูชาเครื่องสักการะ อาราธนาศีล นะโม 3 ครั้ง
ทีนี้ก็เป็นเรื่องให้ศีลให้พร ตั้งใจฟังให้ดีอีกครั้งหนึ่ง มีลักษณะเหมือนตั้งต้นใหม่เหมือนกัน ที่แล้วก็แล้วไป บวชพอสมควรแล้วก็สึก เพื่อตั้งต้นสิ่งใหม่ให้ดี ไม่ให้เกิดสิ่งผิด ให้มีแต่สิ่งถูก ตั้งต้นใหม่ ตั้งต้นใหม่ให้มีแต่สิ่งที่ถูก อย่ากลับไปผิด เรียกว่าเป็นสิ่งมีศีลมีพร พรแปลว่าดี ต้องทำให้ดีแล้วก็จะเป็นพร ถ้าไม่ทำดีแล้วจะเอาพรที่ไหนมาได้ เรื่องทางธรรมทางศาสนาได้ศึกษาเล่าเรียนมาพอสมควรแล้ว สิ่งไหนปฏิบัติได้ สิ่งนั้นต้องปฏิบัติ คิดให้ดีคิดให้รอบคอบ เรื่องทางจิตทางใจ ต้องปฏิบัติให้ได้ดีจริงแล้วก็จะเจริญยิ่งๆขึ้นไปได้
แต่โดยหลักพื้นฐานไม่ค่อยจะดี หลักพื้นฐานของฆราวาสแท้มันไม่ดี เรื่องควรเว้นไม่เว้น เรื่องควรทำไม่ทำ เรื่องควรเว้นอย่างเลวที่สุดคืออบายมุข อย่างเลวที่สุดควรเว้น แล้วควรประพฤติปฏิบัติให้ดีที่สุด ต้องปฏิบัติให้ดี ให้เจริญ ด้วยทรัพย์สมบัติ เกียรติยศ ชื่อเสียง ผู้คนกลายเป็นมิตร ให้เคารพนับถือเรา เรื่องที่ต้องละนี่ คือเรื่องอบายมุข มันกินความไปหมด เรื่องอบายมุขเรื่องที่ไม่ต้องทำ ทำแล้วฉิบหาย ยิ่งกว่าส่วนเกินเสียอีก เรื่องที่ทำให้ฉิบหาย เรื่องดื่มน้ำเมา เที่ยวกลางคืน ดูการเล่น เล่นการพนัน คบคนชั่วเป็นมิตร เกียจคร้านทำการงาน นึกใคร่ครวญอยู่เสมอ อย่าเรียนเปล่าๆ เรียนแล้วต้องได้ประโยชน์ เหมือนของเมาทุกชนิด กินเข้าไปแล้วทำให้ไม่เป็นผู้เป็นคน แล้วยังให้โทษร่างกายโดยตรง สมองวิปริตพิการ ไม่มีใครช่วยได้ ของเมาทุกชนิดไม่เฉพาะเหล้า กินแล้วยุ่งยากลำบาก ให้เสียสติ ให้เสียสมอง ยิ่งกว่าบ้า บ้าไปแล้วก็มี ติดเฮโรอีนเสียยิ่งกว่าบ้า จิตใจเสีย เสียร่างกาย คนรอบข้างเดือดร้อน เสียเศรษฐกิจสูงสุด ถ้าบวชแล้วยังทำอีก ก็ไม่ไหวแล้ว ไม่รู้จะพูดอย่างไรกันแล้ว บวชวัดนี้ เป็นวัดที่เขาเข้ามาทิ้งเหล้าทิ้งอะไรมากมาย แล้วยังไม่ทิ้งก็ไม่รู้จะพูดว่าอะไรแล้วนี่ข้อแรกเรื่องน้ำเมา
ข้อที่สอง เที่ยวกลางคืน เที่ยวไปหาความสนุกสนานเพลิดเพลิน ส่งเสริมกิเลสยิ่งขึ้นไป ในเวลากลางคืน ไม่พักผ่อน ไม่เป็นประโยชน์แก่ร่างกาย ทำให้ร่างกายทรุดโทรม หมดเปลืองมากขึ้น แล้วยิ่งบ้ามากขึ้น ยิ่งเลวมากขึ้น จิตใจไม่มีเหตุผลมากขึ้น เที่ยวกลางคืนอันตรายด้วย ถูกลูกหลงโดยไม่จำเป็น โดยไม่มีเหตุผล ถูกลูกหลงเพราะเที่ยวกลางคืน ดูการเล่น กลางวันก็ดี กลางคืนก็ดี ติดการเล่น มันบ้าชัดๆ จิตใจมันคุมไม่อยู่ สนุกสนานอยู่กับการเล่น ก็มีแต่ความวินาศทางการเงินกับทางจิตใจ การเล่นการพนันมันยิ่งเลว มันคือการโง่ คนจะรวยด้วยการพนันโง่ที่สุด ไม่ต้องไปลอง เหมือนผีสิงมันหมดตัว
เที่ยวกลางคืน ดูการเล่น เล่นการพนัน คบคนชั่วเป็นมิตร มีแต่โง่ ชอบอ้างสังคม สังคมสูบยาเราต้องสูบยา สังคมกินเหล้า เราต้องกินเหล้า เขาทำอะไรเราต้องทำอย่างนั้น ทำจนวินาศหมด ถ้าคบคนชั่วเป็นมิตร ถ้าเพื่อนจำเป็นต้องคบค้ากัน แล้วเขาทำอบายมุข เราก็บอกว่าเราไม่สบาย หมอห้ามบ้าง อาจารย์ขอบ้าง อ้างเป็นเรื่องๆ ก็ได้ คนมันเลวเอง อ้างเห็นแก่เพื่อน แก่สังคม เราต้องทำการทำงาน เห็นแก่สังคม แล้วก็ไปทำอบายมุข นี่มันไม่จริง เพราะไม่จริง มันจะทำให้ฉิบหาย
เกียจคร้านทำการงาน ข้อสุดท้าย มีข้อเท็จจริงอยู่มาก คือไม่อยากจะทำ ทำเพราะจำเป็น คนทำงานขยันแท้จริง จะสนุกสนานในการทำงาน น้อยคนจะสนุกสนานในการทำงาน พอทำซ้ำซากมันเบื่อมันไม่อยากจะทำ ทำเพราะจำเป็น เราต้องทำให้สนุกสนานในการทำงาน เป็นหน้าที่ของมนุษย์ ถ้าเกิดมาไม่ทำการทำงาน ก็ไม่รู้จะทำอะไร สัตว์เดรัจฉานยังต้องทำการงานคือการหากิน คนต้องทำงานมากกว่านั้น จะได้ช่วยผู้อื่น ช่วยชาติ ช่วยบ้านช่วยเมือง ช่วยโลก ให้โลกมันดีขึ้น เราจึงต้องทำการงาน ให้สนุกสนานในการทำงาน แล้วก็จะมีธรรมะอยู่ในการทำงาน คนจะทำงานต้องมีธรรมะมาก ถึงจะทำได้ดี มีความรู้ มีสติ มีปัญญา มีสัมปชัญญะ มีขันติ มีธรรมะ มีสัจจะ มีความพอใจในความถูกต้องสิ่งที่ทำดี ประพฤติธรรม ในการทำงานก็มากมายอยู่แล้ว เลี่ยงอบายมุขเสีย ผิดไปแล้วก็ผิดไปแล้ว ต่อไปก็อย่าให้ผิด เสียทีบวช เสียทีเกิด ถ้าผิดจนตายทีเกิดเสียชาติเกิด เป็นเด็กเชื่อฟังจะได้ดี มีการศึกษาดี ปฏิบัติดี พอโตเป็นหนุ่มสาวแต่งงานมีบ้านมีเรือนก็เป็นพ่อบ้านแม่เรือนเป็นดี รีบสร้างเนื้อสร้างตัวให้ได้เสียตอนนี้ เมื่อเป็นคนแก่ถึงจะได้พักผ่อน คนชราจะได้นั่งสั่งสอนลูกสั่งสอนหลาน ให้สติปัญญาที่เราได้สั่งสมมาตั้งแต่เกิด เราต้องการอย่างนี้ เหมือนอย่างเป็นหนุ่มต้องพยายามหาเงิน ตั้งตัวให้ได้ เมื่อเป็นคนแก่ จะได้พักผ่อน คนชราจะได้นั่งสั่งสอนลูกหลานได้ เราต้องการเป็นกันแบบนี้ คนแก่คนชราฉลาดรอบรู้ไปสอนลูกสอนหลานได้ให้ดีจะวิเศษมาก ทำอะไรไม่ได้แล้ว เตรียมตัวเป็นคนแก่คนชราสอนลูกสอนหลาน อย่าเป็นคนหลงเหมือนกลับไปเป็นเด็ก เรื่องที่ต้องละ ก็ต้องละ เรื่องที่ต้องทำมันก็ต้องทำ หน้าที่ ที่ต้องทำ มีสัจจะ ธรรมะ ขันติ จาคะ ที่สุดของนักธรรมแล้ว ใครมีก็สำเร็จในการหาทรัพย์ สำเร็จในการหาเก็บเกี่ยวชื่อเสียง สำเร็จในการมีคนนับหน้าถือตา มีมิตรสหายมากก็สำเร็จ ถ้าไม่ถือหลักนี้ เงินทองทรัพย์สมบัติก็จะไม่มา ไม่มีหลักทรัพย์ที่มั่นคง มีหลักทรัพย์ที่มั่นคงแล้วบางทีไม่ได้ทำดี ไม่มีชื่อเสียง ทำชั่วโกงเขามา ไม่มีชื่อเสียง ต้องทำให้ดี ให้มีชื่อเสียงด้วย มีชื่อเสียง ต้องมีคนรักด้วย บางทีมีชื่อเสียงไม่มีคนรักก็มี ชื่อเสียงบ้าๆ บอๆ คนไม่รักไม่นับถือ คนไม่ไว้ใจ เราอย่าไปทำแบบนั้น อย่างไรก็ให้มี คนรักคนนับถือ คนไว้ใจ ได้บวช ได้เรียนแล้วทั้งที ต้องมีทรัพย์สมบัติ มีเกียรติยศชื่อเสียง มีคนนับหน้าถือตา เป็นเพื่อนที่ดี ถ้ามีได้ก็พอ ทั้งหมดนี้ จะสำเร็จได้จริงๆ ต้องบังคับตัวเองให้ได้จริง ๆ อย่ากลับไปทำผิดๆ ที่เคยทำก็ต้องละกันเด็ดขาด ที่นี่ให้มีแต่ถูกๆ มีแต่ถูก
ถ้าผิดไปนิดหน่อย เกินไปเพราะประมาท ก็ต้องกลับมาทำให้ถูก ๆๆๆ มากขึ้น ให้ทรัพย์สมบัติ ให้เกียรติยศชื่อเสียง ให้เพื่อนที่ดีรักนับหน้าถือตา ให้มีเพื่อนดีๆนะ ไม่ใช่เพื่อนอันธพาล ให้สัตบุรุษนับถือ มนุษย์คนหนึ่ง เกิดมาทีหนึ่งจะต้องทำอะไรบ้าง ดังเช่นการบวชก็ยังน้อยเกินไปก็ได้
แต่บัดนี้เมื่อได้ลาสิกขาแล้ว ก็ทำไปตามเรื่องฆราวาส ก็ทำให้ดีแล้วก็ปฏิบัติ แล้วก็จะเป็นพร พรแปลว่าดี ทำดีแล้วเป็นพร
ทีนี้ข้อที่ว่า นึกถึงอีกบ้างว่า เราบวชแล้ว อย่าให้เสียเกรียติที่บวชแล้ว เราต้องนำผู้อื่นได้ ในเรื่องที่ได้บวชได้เรียนได้ยินได้ฟังมา
คือนำเพื่อนนำฝูงปฏิบัติอย่างที่เราสอนเธอก็ได้ เธอทำอะไรได้ ในวันที่มีการมีงาน วันไหนเป็นผู้นำ นี้ว่า นะโม ยังผิด นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทตัสสะ มันผิด สัมพุทตัสสะ มันผิด สัมพุทธัสสะ ตัว ทอ นะ ไม่ใช่ ตัว ต ถ้าว่านะโมผิด น่าอาย ว่านะโมก็ยังไม่ถูก สัมพุทธัสสสะ ว่าศีล ว่าอะไรก็ให้ถูก นำคนให้มีหน้ามีตา เขาจะได้เคารพนับหน้าถือตา กรวดน้ำให้ถูก ชักนำคนได้ เราจะได้กำไรฟรีๆ มีคนจำนวนหนึ่งนับหน้าถือตาเรา เป็นชาวบ้านให้มีจิตใจดีๆ ไม่ใช่ คบเพื่อนอันธพาล เพื่อนอันธพาล ไม่ชวนทำอะไรดีๆ แบบนี้
เราต้องนำกันไปให้ได้ ยิ่งวันเรายิ่งอายุมาก ยิ่งต้องนำไปให้ได้ เราต้องเป็นผู้นำกันมากขึ้นมากขึ้นตามอายุที่มากขึ้น ถึงจะมีประโยชน์แก่เราเอง แก่บิดามารดา วงศ์สกุลจะกู้ขึ้นมาได้
บวชที่หนึ่งต้องให้รู้อันนี้ เมื่อเธอไปมีเย้ามีเรือนแล้ว มันก็ต้องบวชเพื่อปรับปรุงเสียใหม่ให้ถูก ถ้าไม่เคยมีก็ตั้งต้นใหม่ให้ถูก ถ้าเคยมีแล้วทำผิดอะไรไปบ้างแล้ว ก็ปรับปรุงเสียใหม่ เปลี่ยนเสียใหม่ให้มันถูก ให้เป็นครอบครัวที่ดี ให้เขารักใคร่นับถือ ทรัพย์สมบัติเกียรติยศชื่อเสียงก็มาด้วยพร้อมกัน
ก็เป็นอันว่า วิธีลาสิกขาก็จบเท่านี้ บาตร จีวร เอาไปไหน เอาไปบูชา เอาไว้ไปเตือน ไม่ให้ทำเลว บางคนก็เชื่อ บางคนก็ไม่เชื่อ คนที่เชื่อจะเจริญทุกคน ผ้าไตรก็เอาไปวางไว้ที่สูง หิ้งพระ เอาไปบูชา เอาไว้ให้ลูกหลานไว้ดูเพื่อเตือนใจ หลังจากนั้นท่านก็พรมน้ำมนต์ และกล่าวว่าให้เธอเย็นเหมือนน้ำมนต์