แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
กระผมขอโอกาสกล่าวคำธรรมะปฏิสันถารตามเคย โดยสมควรแก่เวลา ในที่สุดนี้ก็ต้องกล่าวว่าขอแสดงความเคารพเป็นส่วนตัวและขออนุโมทนาเป็นส่วนรวม ในการที่ท่านทั้งหลายได้พากันมาเยี่ยมส่วนโมกข์ตามที่เคยปฏิบัติกันมาแต่ก่อน เรื่องที่สำคัญที่สุดที่จะต้องกล่าวในวันนี้มีอยู่เรื่องหนึ่งซึ่งถือว่าสำคัญที่สุดเรื่องนั้นชื่อว่า เรื่องความถูกต้อง คำนี้ฟังดูแล้วก็ไม่ใช่ภาษาบาลี มันเปะ ๆ ปะ ๆ ไปตามเรื่อง
ความถูกต้อง จะอยู่อย่างไร ก็ยังไม่เป็นที่เข้าใจกันก็ยังไม่ค่อยจะได้ แต่ขอให้สนใจเป็นพิเศษว่าคำนี้เป็นคำสำคัญที่สุด ที่พระพุทธเจ้าท่านได้ตรัสไว้ ถ้าเป็นภาษาบาลีก็ได้แก่คำว่า สัมมัตตะ บางคนอาจจะไม่เคยได้ยินคำ ๆ นี้ แม้ว่าจะได้ศึกษาธรรมวิภาค ปริเฉท ๒ กันมาแล้ว ก็ยังไม่ได้เคยพบคำๆ นี้ก็ได้
สัมมัตตะ เป็นคำพิเศษสูงสุดกว่าสิ่งใด ความถูกต้องเป็นบาลี คือคำว่า สัมมัตตะ มาจากคำว่า สัมมา ๆๆ รวมกัน ๑๐ คำ แล้วสัมมานั่นน่ะเมื่อประกอบวิภัตติปัจจัย ก็ได้ความว่า สัมมัตตะ หรือ สัมมัตตา หรือ สัมมัตตะตา แต่ที่ตรัสอยู่ในภาษาบาลีนี้คือคำว่า สัมมัตตะ แปลว่าความถูกต้อง สัมมา แปลว่าถูกต้อง สัมมัตตะ ก็คือความถูกต้อง
อันนี้ สูงสุด ๆๆ คือเป็นที่พึ่งได้จริง แต่คนก็ยังไม่ค่อยจะสนใจคำๆ นี้ ให้พระพุทธเจ้ารวมกันทั้งหมดกี่ล้าน ๆ องค์ก็ตามใจ สรุปความได้อยู่ในคำ เพียงคำเดียวว่า สัมมัตตะ คือความถูกต้อง และก็ต่อให้พระเป็นเจ้าทั้งหลายในสากลจักรวาล พระเป็นเจ้าในศาสนาไหนก็ตามใจมา รวมกันหมด ๆ รวมกันให้หมด ก็มาอยู่ภายใต้ความหมายของคำว่า สัมมัตตะ คือมันสูงกว่าพระเป็นเจ้าทั้งหมดรวมกัน สูงกว่าพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์รวมกัน คำนี้คือคำว่า สัมมัตตะ พระเป็นเจ้าทั้งหลายยังไม่มีความถูกต้อง ยังมีปัญหา เพราะมันยังไม่สัมมา ๆๆ
หรือจะเป็นบาลี ทสกนิบาต อังคุตตรนิกาย พระไตรปิฎกก็อยู่ในเรื่องราว ๒๔ โดยเจาะจงก็ ๒๒๖ ไปเปิดดูให้พบคำว่าสัมมัตตะ จะพบว่าเป็นคำสูงสุดยิ่งกว่าสิ่งใดหมด พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์รวมกัน พระพุทธเจ้ารวมกันล้านพระองค์ก็ยังไม่มีความหมายภายใต้คำว่า สัมมัตตะคือความถูกต้อง พระเป็นเจ้าในสากลจักรวาลรวมกัน ก็อยู่ภายใต้ความหมายคำว่า ความถูกต้อง
ขอให้สนใจคำว่าความถูกต้อง โดยพยัญชนะก็ดี โดยความหมายก็ดี จะพบตัวจริงของความถูกต้อง จะต้องถือว่า ศักดิ์สิทธิ์ ก็ศักดิ์สิทธิ์กว่าสิ่งใดหมด สูงสุดก็สูงสุดกว่าสิ่งใดหมด มีคุณประโยชน์ครบถ้วนหมด ไม่มีอะไรเสมอเหมือน เพราะมันประกอบขึ้นด้วยคำว่า สัมมา ๆ ๆ ๑๐ คำ ๆ สัมมาทิฐิ, สัมมาสังกับโป, สัมมาวาจา, สัมมากัมมันโต, สัมมาอาชีโว, สัมมาวายาโม, สัมมาสติ, สัมมาสมาธิ ๘ สัมมาโดยเหตุ และ ๒ สัมมาโดยผลคือ สัมมาญาณะ สัมมาวิมุตติ แล้วมาเป็นสัมมัตตะ ๑๐
ดูเอาเองก็แล้วกันว่าความถูกต้องหมายความว่าอย่างไร สัมมา ๆ นี่ ความคิดเห็นถูกต้อง, ความปรารถนาถูกต้อง, วาจาถูกต้อง, การงานถูกต้อง, อาชีพถูกต้อง, ความพากเพียรถูกต้อง, สติถูกต้อง, สมาธิถูกต้อง มี ๘ โดยเหตุ ๒ โดยผลก็คือ สัมมาญาณะ ญาณะถูกต้อง สัมมาวิมุตติ วิมุตถูกต้อง พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในฐานะเป็นทั้งหมดของพรมจรรย์ ๆ ถ้ามีความถูกต้องเหล่านี้แล้วก็จะสูงสุด ไม่มีสิ่งใดสูงเท่า พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ก็รวมอยู่ในคำว่าสัมมัตตะ ความถูกต้อง
เพราะฉะนั้นขอให้สนใจคำว่า สัมมัตตะ คือความถูกต้อง เพราะถ้ามีความถูกต้องแล้วมันไม่มีปัญหาใด ๆ มันไม่มีอันตรายใด ๆ ไม่มีอุปสรรคใด ๆ ไม่มีความทุกข์ใด ๆ มันกวาดเกลี้ยงหมด อยู่ภายใต้คำว่า สัมมัตตะ เราเอาในภาษาไทยกันก็ได้ ถ้ามันถูกต้อง ถูกต้องแล้วมันจะมีปัญหาอะไร ต้องให้รู้จักความหมายของคำ ๆ นี้ ให้ดี ๆ
ที่พูดว่าดีว่าชั่ว ว่าชั่วว่าดี มันก็ยังไม่ใช่ทั้งหมด ไอ้ชั่ว ไม่ไหว ไอ้ดี บ้าดีก็ได้ เมาดีก็ได้ มันยังไม่ไหว แม้แต่คำว่ากุศล อกุศล อกุศลก็ไม่ไหว กุศลก็ยังไม่ไหว เพราะยังปรุงแต่ง เป็นสังขารปรุงแต่งอยู่เรื่อย ยังไม่ใช่ความถูกต้อง คือ มันยังไม่หมดปัญหา ๆ มันต้องหมดปัญหาแล้วจริง ๆ นี่ขอให้สนใจคำนี้ว่า ความถูกต้อง สูงสุด ยิ่งกว่าพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์รวมกัน ผมขอยืนยันว่า สูงสุดยิ่งกว่าพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์รวมกัน แล้วก็ต่อให้ว่าพระพุทธเจ้าล้าน ๆ พระองค์ มันก็อยู่ภายใต้ความหมายของคำ ๆ เดียวว่า ความถูกต้อง เพราะคำว่าความถูกต้องนี้ประกอบขึ้นด้วยคำว่า สัมมา ๆๆ ๑๐ คำ อย่างที่กล่าวมาแล้ว มันก็เลยครอบจักรวาลหมด
อย่าดูหมิ่นความถูกต้อง เมื่อไม่มีความถูกต้องแล้วก็มีแต่วิกฤตการณ์ ความวุ่นวาย ความเป็นทุกข์ยาก ลำบากลำบน เดี๋ยวนี้การเศรษฐกิจมันก็ไม่ถูกต้อง การเมืองมันก็ไม่ถูกต้อง การสังคมมันก็ไม่ถูกต้อง มันมีอะไรเกิดขึ้นมากมาย เหลือหลาย ๆ เต็มไปหมด ทั้งโลกทั้งจักรวาล คือมันไม่มีความถูกต้อง ถ้ามันมีความถูกต้องแล้ว มันจะไม่มีอันตรายเหล่านี้ มันจะมีแต่ สันติภาพ ๆๆ โลกไหน ๆๆ ก็มีแต่สันติภาพ เดี๋ยวนี้มันไม่มีความถูกต้องทางการเศรษฐกิจแล้วมันก็ยิ่งไม่มีความถูกต้อง เพราะมันคอยแต่จะเอา คอยแต่จะเห็นแก่ตัว คอยแต่จะเอาเปรียบ การเมืองก็คอยแต่จะเห็นแก่ตัว คอยแต่จะเอาเปรียบ การสังคมก็มันเอาแต่จะอยู่ดีกินดี กินเอร็ดอร่อย มันต้องการความสุขที่เรียกว่ามิฬหสุข ขออภัยอย่าถือว่าเป็นคำหยาบคาย มิฬหสุข นี้มันหยาบคายเหลือที่จะหยาบคาย มิฬหสุข แปลว่าสุขเกิดทางช่องปัสสาวะ สุขที่เกิดจากทางท่อปัสสาวะ เพศไหนก็ได้ ท่อปัสสาวะมี แล้วก็สุขที่เกิดทางท่อปัสสาวะ เรียกว่ามิฬหสุข
เดี๋ยวนี้การสังคมทั้งหลายมันมีแต่บูชา มิฬหสุข ๆ ดูเอาเองเถอะว่า มิฬหสุขๆ ทั้งหญิงทั้งชาย ทั้งหนุ่มทั้งสาว ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ มันบูชามิฬหสุข ม.ม้า สระอิ ฬ.จุฬา แล้วก็ห.หีบ แล้วก็ มิฬหะ แล้วก็ สุขะ มิฬหสุข การสังคมมันมีแต่การบูชามิฬหสุข มันไม่มีทางที่จะถูกต้อง ก็ดูเอาเองว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นในการเมืองในปัจจุบันนี้ เพราะมันบูชาความไม่ถูกต้อง จนมีผลว่าการเศรษฐกิจก็ไม่ถูกต้อง การเมืองก็ไม่ถูกต้อง การสังคมก็ไม่ถูกต้อง
ขออวดคำว่าความถูกต้องสักหน่อยเพราะถ้าถูกต้องแล้วมันไม่มีปัญหา อย่าหาว่าพูดคำหยาบเลยเพราะมันสะดวกในการพูดอะไรตรงๆ มันออกจะเป็นคำหยาบ แต่มันสะดวกดี ถ้ามันมีความถูกต้องแล้ว ตดมันก็ไม่เหม็นนะ คุณคิดดู ถ้ามันมีความถูกต้องในร่างกายแล้ว ตดมันก็ไม่เหม็น มันมีความถูกต้องแล้ว มันก็แก้ปัญหาได้หมด ร่างกายก็สบายดี โรคภัยไข้เจ็บก็ไม่มี แล้วจะไม่ตายด้วย ๆ ถ้ามันมีความถูกต้อง ถ้าหมอรักษาโรคถูกต้อง ยาถูกต้อง อะไร ๆ ถูกต้อง มันก็ไม่มีใครตายสิ ความถูกต้องมันหมายถึงความที่ไม่มีปัญหา ไม่มีความทุกข์ ไม่มีอะไรที่เป็นความทุกข์ ฉะนั้นขอให้บูชาความถูกต้อง
ถูกต้องทางกาย แม้ลมหายใจ ลมอากาศนี่ก็เรียกว่ากาย กายลม แล้วกายเนื้อ เนื้อหนัง กระดูก เอ็น นี่ก็เรียกว่ากาย ถ้าถูกต้องทางกายมันก็ไม่มีปัญหาทางกาย ตั้งตนมาแต่ว่า ตดก็ไม่เหม็น เพราะมันมีความถูกต้องทางกาย ทางกายลม นี่ ถูกต้องทางกาย แล้วก็ถูกต้องทางจิต คิดนึกถูกต้องที่เรียกว่าจิตถูกต้อง ไม่มีปัญหาอะไรเลย มันไม่ทำผิดอะไรเลย แล้วก็มันมีถูกต้องทางสังคม คือทางตัวตน ทางความมีตัวตนน่ะ ให้มีตัวตนถูกต้อง ๆ แล้วก็ไม่มีปัญหาอะไรเลย แล้วข้อสุดท้ายก็ต้องยกให้ถูกต้องทาง ความว่าง ๆ มันเป็นความถูกต้องสูงสุด ๆ ไม่มีปัญหาอะไรเลย ไม่มีความทุกข์อะไรเลย
ถูกต้องทางกายมาก่อน ถูกต้องทางจิตมาทีหลัง ถูกต้องทางตัวตนมาเป็นอันดับที่ ๓ ถูกต้องทางความว่าง หรือสุญญตา เป็นอันดับที่ ๔ แล้วจะมีปัญหาอะไรเหลือในโลก ในสากลจักรวาลโลกนี้ ทั้งหมดทั้งสิ้นไม่มีอะไรที่เป็นปัญหา เพราะว่ามันมีความถูกต้อง ฉะนั้นขอให้สนใจคำพูดเพียงคำเดียวว่า ความถูกต้อง ครอบคลุมครอบงำพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ไว้ และรวมทั้งพระพุทธกี่ล้านๆ ก็ได้ พระเป็นเจ้า พระเจ้า พระเป็นเจ้า ผีสางเทวดาที่ไหนก็ได้ กี่ร้อยล้าน พันล้าน หมื่นล้าน แสนล้าน มันก็อยู่ในภายใต้ความหมายของคำว่า ความถูกต้อง แต่คนมันก็ไม่สนใจความถูกต้อง สนใจเรื่องสังคม สนใจเรื่องอะไรไปตามเรื่องของมัน คือมาสรุปรวมอยู่ที่คำว่ามิฬหสุขทั้งนั้นน่ะ สัตว์โลกทั้งหลายมันไปสนใจบูชามิฬหสุขทั้งนั้น ความสุขทางสังคม กินดีอยู่ดี ๆๆ แล้วมันก็ไม่ได้พบกันกับความถูกต้องจึงจะแก้ปัญหาได้
ถ้าจะพูดกันให้มันชัดเจนสักหน่อย สำหรับโลกปัจจุบันนี้ บูชาประชาธิปไตย คือ ความไม่ถูกต้อง มีแต่ความเห็นแก่ตัว แผ่นดินทอง แผ่นดินอะไรบ้า ๆ บอ ๆ มันก็ไม่มีความถูกต้องขึ้นมาได้เพราะมันเห็นแก่ตัว ต่อให้เป็นแผ่นดินเพชร มันก็ยังไม่แก้ปัญหาอะไรได้ เพราะมันยังไม่มีความถูกต้อง มันไม่ประกอบอยู่ด้วยคำว่า สัมมา ๆๆ ตั้ง ๑๐ คำ อย่างที่กล่าวแล้ว ถ้าจะอยู่สักแผ่นดินหนึ่งก็คือแผ่นดินธรรม แผ่นดินพระธรรม แผ่นดินธรรมะ มันก็มีความหมายเป็นความถูกต้องไปอีก คำว่าธรรม ธรรมคือความถูกต้อง สิ่งที่จะทรงตัวอยู่ได้ก็คือธรรมะทั้งนั้น สิ่งที่เรียกว่าถูกต้องก็คือธรรมะ นี่ขอให้สนใจเถอะว่า เรื่องการเมืองเป็นเรื่องไม่ไหว เรื่องแผ่นดินทอง แผ่นดินเพชรก็ยังไม่ไหว เพราะมันยังเห็นแก่ตัวๆ มันมีแต่เรื่องของการปรุงแต่ง ๆๆ
นี่อยากจะพูดถึงเรื่องการเมืองในปัจจุบันสักหน่อยว่า มันมีแต่การปรุงแต่ง มันมีแต่การเศรษฐกิจ การเมือง การอะไรต่าง ๆ นี่ หัวใจของมันก็มีแต่เรื่อง อุปสงค์ อุปทาน ขอพูดภาษาฝรั่งสักหน่อยว่า ซัพพลาย และ ดีมานด์ๆ อุปสงค์คือมันควาต้องการ มันต้องการและอุปทานคือความต้องให้ ความที่มันต้องการๆๆ เต็มไปทั้งโลก และความที่มันต้องให้ ต้องผ่อนให้ ต้องผ่อนตาม ต้องผ่อนให้ นี่เป็นอุปทาน ดีมานด์คือความต้องการ ซัพพลายคือความต้องให้และในโลกนี้ ๆ ทั้งโลกทั้งจักรวาล มันมีแต่ความต้องให้ สนองความต้องการทั้งนั้น ความต้องให้และความต้องการเต็มไปทั้งโลกไม่ว่าโลกไหน ไม่ว่าบ้านไหน เมืองไหน ไม่ว่าจักรวาลไหน มันมีแต่ความต้องการและความต้องให้ ในโลกนี้ทั้งโลกนี้มันมีแต่เรื่องซัพพลาย และเรื่องดีมานด์ เรื่องอุปสงค์ เรื่องอุปทาน เรื่องความต้องการและเรื่องต้องให้ มันจะหาสันติภาพมาจากไหนสักขี้เล็บ มันรวมหัวกันทั้งจักรวาล ทั้งโลกนี้ มันไม่มีความหมายสักขี้เล็บที่จะเป็นสันติภาพ มันไม่มีสันติภาพสักขี้เล็บเลย
เอ้า, นักศึกษา นักปราชญ์ ศาสตราจารย์ที่ไหน มันมีแต่เรื่องเศรษฐกิจ มีแต่เรื่องการเมือง เรื่องการสังคม มันไม่มีสันติภาพได้สักขี้เล็บหนึ่ง ต่อเมื่อมันไม่มีอุปสงค์อุปทาน มันไม่มีความต้องการ มันไม่มีความต้องให้ นี่เรื่องสำคัญลึกซึ้งที่สุดของมนุษย์ในโลก มันมีอยู่ทั้ง ๒ อย่างนี้ มันมีเรื่องต้องการและมีเรื่องต้องให้ แม้ต้องให้โดยสมัครใจ ต้องการตามบังคับอะไรก็ตามนั้น มันมีแต่เรื่องต้องการและเรื่องต้องให้ ทั้งโลกทั้งจักรวาล ทั้งพวกไหนก็ตามใจ ประเทศชาติไหนก็ตามใจมันยังมีเรื่องอุปสงค์อุปทาน เป็นเรื่องเศรษฐกิจ เป็นเรื่องการเมือง เป็นเรื่องการสังคม มันไม่มีสันติภาพสักขี้เล็บเลย ไม่ต้องประหลาดใจที่มันไม่มันมีสันติภาพกันเลย
แล้วเรื่องที่มันสำคัญนัก เรื่องที่ว่าจะต้องมีวัตถุ แล้วก็ต้อง มีพลังงาน ๆ มีวัตถุ พลังงานคอยเสนอสนองให้ ตามที่พลังงานมันต้องการ แล้ววัตถุก็เสนอสนองให้ มีสสาร มีพลังงาน มันไม่รู้จักอิ่มจักพอ มันไม่รู้จักสิ้นจักสุด สำหรับเรื่องสสารและพลังงาน ดังนั้นสันติภาพมันก็ไม่มีสักขี้เล็บเลย สักขี้เล็บมันไม่มีสันติภาพ เพราะมันต้องมีสสารและพลังงาน พลังงานมันจะเอาไปเทคโนโลยีทั้งหลายมันมีแต่ต้องการจะเอาไปให้เกิดพลังแล้วก็สสาร วัตถุสสารก็ต้องการก็ สนองกันไปๆๆ นี่มันไม่มีสันติภาพสักขี้เล็บ
ในที่สุดมันก็มีแต่เรื่องว่า ดีชั่วๆๆๆ มันยังไม่ใช่ความถูกต้องนะ ถ้ามันยังมีความหมายว่าชั่วอยู่ ยังมีความหมายว่าดีอยู่ ไอ้ดีนี่มันเป็นสังขารมันต้องสนอง สนองอะไรมากมากมาย มันยังไม่ใช้สันติภาพ มันต้องพ้นดีพ้นชั่ว เหนือดีเหนือชั่ว เหนือบวกเหนือลบ เหนือได้เหนือเสีย เหนือแพ้เหนือชนะ เหนือกำไรเหนือขาดทุน เหนือของเป็นคู่ ๆ เหล่านี้ ไม่มีนรกไม่มีสวรรค์ ถ้ามันถูกต้อง
ญาติโยม อุบาสก อุบาสิกา จะด่าผมเท่าไร ผมก็ยอมว่า ถ้ามันมีนรกมีสวรรค์อยู่ มันไม่มีความถูกต้อง ถ้ามันมีความถูกต้อง มันจะอยู่เหนือนรกและอยู่เหนือสวรรค์ สวรรค์มันเป็นที่บ้ากาม เป็นที่หลั่งไหลออกมาแห่งมิฬหสุข มันต้องไม่นรก มันต้องไม่สวรรค์ มันต้องเหนือนรก มันต้องเหนือสวรรค์ แล้วมันจึงจะมีความถูกต้อง เรียกว่า ความถูกต้องๆ
มันยังมีกรรม มันก็ยังมีผลกรรม ยังมีกิเลสเป็นเหตุให้ทำกรรมอยู่เสมอไป ถ้ามันไม่มีความถูกต้อง มันก็จะสร้างกรรม สร้างผลกรรม สร้างวิบากของกรรม มันจะมีลักษณะเป็นสัสสตะ เป็นอุจเฉทะ เป็นมิจฉาทิฐิทั้ง ๒ ประการ ผมขออภัยพูดตรงไปตรงมา ถ้อยคำมันคงจะไม่ค่อยจะเรียบร้อย ในคราวนี้เราจะขอใช้ถ้อยคำว่า เรา พวกเราช่วยกัน มาทำความถูกต้อง บูชาคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พระเป็นเจ้าทั้งหลาย ไม่ต้องบูชาก็ได้ เพราะพระเป็นเจ้ายังไม่ใช่เป็นความถูกต้อง ต้องเป็นพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จึงจะรวมความหมายของคำว่าความถูกต้องไว้ทั้งหมด
แล้วก็ชักชวน จะชักชวนต่อไปเลยไปว่า เรามาทำอะไรกันให้เป็นพิเศษสักอย่างหนึ่ง เราจะปิดปากพระพุทธเจ้า ปิดหูพระพุทธเจ้า ปิดตาพระพุทธเจ้า ถ้อยคำมันค่อนจะหยาบไปหน่อยแล้ว จะต้องปิดพระโอษฐ์ ปิดพระกัณฑ์ ปิดปากนั่นมันปิดพระโอษฐ์ ปิดหูมันปิดพระกันฑ์ ปิดตามันก็ปิดจักษุ ปิดตา ปิดหู ปิดปากพระพุทธเจ้าเสีย คือทำแต่ความถูกต้อง มีแต่ความถูกต้อง แล้วพระพุทธเจ้าองค์ไหนล่ะที่จะมา เอ้า, นี่ผิดแล้ว นี่ผิดวินัยข้อนั้นข้อนี้ นี่ผิดธรรมะข้อนั้นข้อนี้ มันมีแต่ความถูกต้อง พระพุทธเจ้าก็ไม่มีโอกาสที่จะทักท้วงผู้ใดว่าทำผิดอะไร นี่เราจะปิดปากพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ไม่ให้มีที่กินแหนงระคายใจอะไร ปิดปากพระพุทธ ปิดปากพระธรรม ปิดปากพระสงฆ์ ถ้าเราไม่มีผิดวินัยข้อไหน พระพุทธเจ้าก็ไม่มีทางที่จะเอ่ยปากติเตียน แล้วก็ไม่มีตาที่จะคอยเฝ้าดูว่ามันไปทำผิดตรงที่ไหน ไม่มีหูที่ไปคอยฟังว่ามันไปทำชั่วทำผิดกันที่ไหน นี่เป็นเรื่องสามารถที่จะ ปิดปากพระพุทธ ปิดหูพระธรรม ปิดตาพระสงฆ์ หรือว่า ปิดปากพระพุทธเจ้า ปิดตาพระพุทธเจ้า ปิดหูพระพุทธเจ้า ด้วยธรรมะเพียงข้อเดียวว่าความถูกต้อง และคำว่าความถูกต้องนั้นก็ไม่ใช่เอามาจากไหน เอามาจากพระพุทธเจ้า ๆ คือสัมมัตตะ ๑๐ อย่างที่ว่ามานี้
ผมอยากจะประมาทพวกคุณสักหน่อยว่า นักธรรมตรี โท เอก ยังไม่เคยเปิดหมวดธรรมที่ว่า สัมมัตตะดูก็ได้นะ ไม่เคยผ่านหูผ่านตาคำว่าสัมมัตตะ ๑๐ มิจฉัตตะ ๑๐ สัมมัตตะ ๑๐ มันเรียนสะเพร่าเกินไปจนไม่ผ่านคำเหล่านี้ สัมมัตตะ ๑๐ มิจฉัตตะ ๑๐ ตรงกันข้าม ไม่เคยผ่านคำเหล่านี้ในธรรมวิภาค ปริเฉท ๒ คุณไม่เคยพูดคำเหล่านี้ ไม่เคยสนใจพระธรรมเหล่านี้ แต่ว่ามันเป็นคำ สูงสุด ๆๆๆ ของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์รวมกัน ถ้าพระพุทธเจ้ามีตั้งล้าน ๆ องค์ มันก็รวมอยู่ในคำเดียวว่าความถูกต้อง คือสัมมัตตะๆ ใครจะประหลาดใจว่าพระพุทธเจ้ามีเป็นล้านๆ องค์ได้อย่างไร ในบทสวดพุทธมนต์ สัมพุทเธ คำว่าสัมพุทเธ น่ะ มีเอ่ยชื่อ มีเอ่ยพระพุทธเจ้าแสนองค์ แสนๆ องค์ เป็นล้านๆ องค์ เพราะฉะนั้นพระพุทธเจ้าจะมีสักกี่ล้าน ๆๆ องค์ มันก็รวมอยู่ในคำ ๆ เดียวว่าสัมมัตตะ ถ้ามันมีธรรมะเพียงอย่างเดียวว่า สัมมัตตะ ๆๆ คือความถูกต้อง เดี๋ยวนี้มันไม่สนใจกัน อุบาสก อุบาสิกา พระเจ้า พระสงฆ์ ไม่สนใจคำว่า สัมมัตตะ ไม่เคยได้ยิน ปิดเงียบอยู่ในพระไตรปิฎก
พวกนักการเมืองทั้งหลาย พวกนักเศรษฐกิจทั้งหลาย พวกนักสังคมทั้งหลาย มันสนใจแต่มิฬหสุข สุขเกิดจากท่อของปัสสาวะ มันไม่สนใจ ๆ มันจะพูดแผ่นดินทอง แผ่นดินอะไรของมันก็ไม่รู้ มันไม่สนคำว่าสัมมัตตะๆ นี่จะต้องสนใจคำว่าสัมมัตตะ ๆ ที่มีความหมายเป็นความถูกต้อง ถ้าถูกต้องแล้ว มันไม่เป็นบวก มันไม่เป็นลบ มันไม่เป็นอุปสงค์ มันไม่เป็นอุปทาน มันไม่เป็นนรก มันไม่เป็นสวรรค์ ถ้ามันมีความถูกต้อง มันเป็นความว่างไปเสีย ว่างจากปัจจัย ว่างจากการปรุงแต่ง มันจะไม่ต้อง มีสุขมีทุกข์ มันเหนือสุขเหนือทุกข์ ถ้ามันมีความถูกต้อง มันจะเหนือสุขและเหนือทุกข์ คำ ๆ นี้เป็นอัพยากฤต คือเหนือดีเหนือชั่วจึงจะเป็นอัพยากฤตหรือกล่าวไม่ได้ว่าเป็นดีหรือเป็นชั่ว จึงจะเป็นอัพยากฤต
กุศลเป็นกุศล อกุศลเป็นอกุศล อัพยากฤตมีอยู่อีกคำ ขอช่วยฟังให้ดีว่า คำนี้กล่าวไม่ได้หรือพระพุทธเจ้าไม่ได้กล่าวว่าเป็นอะไร อัพยากฤต อัพยากตา กุสลา ธัมมา อกุสลา ธัมมา อัพยากตา ธัมมา ไอ้สิ่งที่สอนนั้น ไม่ได้กล่าวว่าเป็นอะไร คือมันอยู่เหนือการที่จะกล่าวว่าเป็นอะไร มันเป็นความว่าง ว่างจากความที่ต้องถูกกล่าวเป็นอสังขตะ ไม่มีเหตุไม่มีปัจจัยปรุง เป็นอตัมมยตา อยู่เหนือเหตุเหนือปัจจัยใดๆ ไม่ต้องอาศัยเหตุ อาศัยปัจจัยอะไรใด ๆ มันเป็น ตถาตา มันเป็นเช่นนั้นเอง ๆ เป็นไกวัลย์ทั้งหมดทั้งสิ้น
คำนี้ผมขอให้สนใจกันอีกหน่อย คำว่า ไกวัลยะ ไม่ใช่คำใหม่ เดี๋ยวจะถือว่าเป็นคำใหม่ ว่าเอาเอง คือมันคำว่า เกวะละ มาจากคำว่าเกวะละ สำเร็จรูปเป็นสัณกฤต มาเป็น ไกวัลยะ บาลีเป็น เกวะละ คำว่าเกวะละ ทั้งหมดทั้งสิ้น เกวะละปะริสุทธัง เกวะละปริปุณณัง นั่นหมายความว่าบริสุทธิ์ หมดจน หรือ สูงสุดเป็นทั้งหมดทั้งสิ้น ถ้าพูดว่าไกวัลยธรรม นี่อย่าไปหาว่าเป็นเรื่องของฮินดู หรือเป็นเรื่องของไชนะ ที่จริงไอ้พวกนี้ก็เอาไปใช้มาก พวกไชนะ พวกนิครนถ์ เอาคำว่าไกวัลยตา นี่ไปใช้มาก ไกวัลยธรรม ไกวัลยตา แต่ที่จริง เป็นคำของพุทธ ตรงกับคำว่า เกวัลละ ๆ บาลี ไกวัลยะ เป็นสันสกฤต ไกวัลยธรรม คือธรรมทั้งหมด ธรรมทั้งสิ้น ธรรมที่เป็นความถูกต้องทั้งหมดทั้งสิ้น ถูกต้องทั้งหมดทั้งสิ้นๆ นี่เป็นไกวัลยธรรม เรียกชื่อเพราะๆ เป็นสันสกฤต
เกวัลยธรรม ธรรมทั้งหมด ธรรมทั้งสิ้น ธรรมทั้งปวง คือความถูกต้อง ความถูกต้องทั้งหมดทั้งสิ้นทั้งปวงคือเกวัลยธรรม จะชอบธรรมไกวัลย์ ไกวัลยธรรม ก็แล้วแต่จะพอใจ มันจะต้องเป็นสิ่งที่เรามองเห็น เข้าใจ รู้จักดี แจ่มแจ้งดี ในความหมายของคำว่า ถูกต้อง ในความหมายของคำว่าสัมมัตตะ ซึ่งเป็นภาษาคำพูดของพระพุทธเจ้าโดยตรง มันเป็นนิรันดร ๆ ไม่เปลี่ยนแปลง ๆ ไม่มีเหตุปัจจัยอะไรมาทำให้เปลี่ยนแปลง นั่นแหละขอให้สนใจเถอะ
ผมอยากจะขอดูถูกท่านทั้งหลาย ซ้ำอีกคำ เรียนนักธรรม ตรี โท เอก กันมาแล้วไม่เคยได้พบคำว่า สัมมัตตะ แม้แต่คำว่ามิจฉัตตะ ก็อาจจะไม่เคยพบ ฉะนั้นขอให้พบไว้เถอะว่า มันเป็นที่รวมของสิ่งสูงสุดทั้งปวง ให้พระพุทธเจ้ารวมกันล้านองค์ พระเป็นเจ้า ๆ พระเจ้า พระเป็นเจ้าของศาสนาไหนก็ตาม รวมกันกี่แสนกี่ล้าน มันก็ไม่สูงสุดเท่ากับคำว่าความถูกต้องหรือคำว่าสัมมัตตะ ๆ ความถูกต้อง ๆ สัมมัตตะของพระพุทธเจ้า
นี่ผมก็ควรจะหยุดพูด เพราะมันเหนื่อย แต่ก็อุตส่าห์ทนพูดเพราะ เพื่อจะให้ท่านทั้งหลายได้ยินคำ ๆ นี้ ซึ่งเป็นคำสูงสุดเพียงคำเดียวว่าสัมมัตตะ ๆ ความถูกต้อง ถ้ามันมีความถูกต้องแล้ว มันไม่มีปัญหาอะไร มีความถูกต้องแล้ว ตดก็ไม่เหม็น มันไม่มีเผลอพลาดให้เกิดบาดแผล หรือเจ็บป่วยอะไร หรือโรคภัยไข้เจ็บอะไร ถ้ามันมีความถูกต้องเสียแล้ว โรคมันเกิดไม่ได้ จะเอาศาสตราจารย์พวกไหนมาช่วยพิสูจน์ ว่า ถ้าโรคมันจะเกิดไม่ได้ ก็เพราะมันมี ความถูกต้องไปเสียทั้งหมด ๆ ขอให้สนใจกันต่อไปว่า ถูกต้องทางกาย ถูกต้องทางจิต ถูกต้องทางตัวตน ถูกต้องทางความว่าง นี่คือเรียกว่า ความถูกต้อง ๆ
ที่พระพุทธเจ้าท่านได้ตรัสไว้เป็นอุปมาก็มีเหมือนกัน มีอยู่เหมือนกัน ลองไปค้นดูเองได้ในพระไตรปิฎก ท่านจัดว่า เป็นพรหมจรรย์ทั้งหมด ๆ แล้วท่านก็ใช้เป็นอุปมาว่า วมนะ ยาอาเจียน ยาที่ทำให้อาเจียน อะไร อาเจียนออกมาหมด ๆๆ จนไม่มีโทษอะไรเหลืออยู่ นี่เรียกว่า วมนะ แล้วก็เรียกว่า วิเรจนะ ยาถ่าย ถ่ายออกมา ๆๆๆๆๆ จนมันหมดไม่มีโทษอะไรนี่ แล้วมันจะมีอะไรที่เป็นความไม่ถูกต้อง ความไม่ถูกต้องก็ถ่ายออกมาหมด อาเจียนออกมาหมด มันเหลือแต่ความถูกต้อง แล้วท่านตรัสอุปมาอีกอันหนึ่งว่า เป็นน้ำล้างบาป ๆ สัมมัตตะ ๑๐ อย่างนี้เป็นน้ำล้างบาป อย่างพวกฮินดูเขาเชื่อกันว่า ถ้าบาปเอาจุ่มในน้ำนี้ น้ำศักดิ์สิทธิ์ แล้วบาปมันหายหมด พระพุทธเจ้าท่านก็ใช้คำนี้เหมือนกัน ท่านใช้คำว่าน้ำล้างบาป แก่ผู้ที่มีบาปน้ำที่ล้างบาปเรียกว่า สัมมัตตะ ๑๐ ๆๆ ขอให้สนใจ
แล้วจะอุปมาเลยไปถึงคำว่า ศพก็ไม่เน่า ๆ ถ้าได้ชุบน้ำศักดิ์สิทธิ์ น้ำล้างบาป น้ำศักดิ์สิทธิ์ แล้วศพก็ไม่เน่า ก็หมายความว่า มันไม่ได้ตาย ๆ มันเป็นอมตะ มันไม่ได้ตาย มันเป็นพระนิพพาน ไม่ต้องมีศพ เพราะมันไม่ตาย นี่ท่านตรัสอุปมาของท่านไว้ด้วยคุณค่าอย่างนี้ว่า ยาอาเจียน วมนะ ยาถ่าย วิเรจนะ แล้วก็น้ำล้างบาป คำบาลี คำสันสกฤต ไม่เหมือนกัน น้ำล้างบาป แล้วก็มาว่า ศพไม่เน่า ๆ เพราะมันไม่ต้องมีอะไรที่ผิดพลาดแล้ว
แล้วจะขอเน้นแต่คำว่า ความถูกต้อง ๆๆ ภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา พุทธบริษัททั้ง ๔ ขอให้รู้จักคำเพียงคำเดียวว่า ความถูกต้อง ๆ ซึ่งได้รับการสรรเสริญยกย่องของพระพุทธเจ้าทั้งปวง ของพระพุทธ ของพระธรรม ของพระสงฆ์ ถ้าต่อให้พระเป็นเจ้า พระผู้เป็นเจ้าอะไรก็ตาม ของศาสนาไหนก็ตามมันรวมอยู่ในความหมายของคำว่าถูกต้อง ถ้าไม่ถูกต้องแล้วมันเป็นพระเป็นเจ้าไปไม่ได้ ถ้าพูดอย่างนี้มันคล้ายกับจองหองอวดดี ดูหมิ่นดูถูกศาสนาอื่น ผมไม่มีความคิดไม่มีความประสงค์ที่จะดูถูกศาสนาไหน ๆ จะขอแสดงแต่คำว่า ความถูกต้อง ๆ ซึ่งมันยังไม่มีในศาสนาอื่นหรือว่าในพุทธศาสนาเรา มันก็ยังไม่พอ ฉะนั้นขอให้เพียงพอสำหรับ ความถูกต้อง ๆๆๆ ก็อย่าลืมเสียนะ ช่วยจำกันไว้ให้แม่นยำ
สัมมาทิฐิ, สัมมาสังกับโป, สัมมาวาจา, สัมมากัมมันโต, สัมมาอาชีโว, สัมมาวายาโม, สัมมาสติ, สัมมาสมาธิ นี่ ๘ แล้วโดยเหตุ ๒ โดยผล คือสัมมาญาณะ และสัมมาวิมุตติ นี่เป็นสิ่งสูงสุดที่พระพุทธเจ้าท่านได้ตรัสไว้เอง ท่านยกย่องสูงสุด ตรัสไว้เอง ฉะนั้นขอให้ใช้ สัมมา ๆๆๆๆๆๆ เหล่านี้ให้หมดให้สิ้น ให้ครบถ้วน แล้วก็เท่านั้นแหละ ก็มีเท่านั้น มันเป็นความถูกต้อง ครบถ้วน ๆ และเป็น อัพยากฤต คือว่ามันไม่ดีไม่ชั่ว ไม่บุญไม่บาป ไม่สุขไม่ทุกข์ ไม่อะไรหมด มันเป็นอัพยากฤต ถ้ามันถูกต้อง ทีนี้มันถูกต้องแต่เงินของกู ทองของกู กูได้เปรียบ กูชนะมึง กูนี้มีความถูกต้องกันอย่างนี้ โดยเฉพาะนักการเมืองทั้งหลาย
นี่ขอให้สนใจคำว่าถูกต้องของพวกเรา ขอใช้คำเป็นชาตินิยมหน่อยว่า ของพวกเรา ๆ คือของพวกพุทธบริษัท และเป็นความถูกต้อง ๆ ขอให้สนใจเอาเอง ใคร่ครวญคิดค้นเอาเอง ทุกคำ ๆ แต่ละคำ ๆ มันมีความหมาย สัมมาทิฐิ ถูกต้องทางความคิด ความเห็น ความเชื่อ หรือการศึกษา หรือความรู้ หรือทิฐิ ความคิด ความเห็น สัมมาสังกัปะ ก็แปลกันว่าดำริชอบ ตามตัวหนังสือคล้ายๆ แปลว่าความปรารถนาถูกต้อง มันปรารถนาถูกต้อง ปรารถนาตรงจุด ตรงความถูกต้อง สัมมาวาจา การพูดจาถูกต้อง สัมมากัมมันตะ การทำงานถูกต้อง สัมมาอาชีวะ อาชีพถูกต้อง สัมมาวายามะ ความพยายามถูกต้อง สัมมาสติ สติสัมปะชัญะถูกต้อง สัมมาสมาธิ สมาธิถูกต้อง อย่าทำเล่นกับคำเหล่านี้ ขอให้สนใจสุดความสามารถ สุดเหวี่ยง สุดความสามารถที่จะมีได้ สนใจคำว่า สัมมา ๆๆ ๘ คำทีแรกนี่ เป็นส่วนเหตุ ๒ คำทีหลังเป็นส่วนผล สัมมาญาณะ สัมมาวิมุตติ และไม่มีอะไรเหลือ ๆ มีสรุปรวมอยู่ในคำว่า สัมมาสัมมัตตะ คำเดียว ความถูกต้องเพียงคำเดียว
สัมมัตตะ ความถูกต้องเพียงคำเดียว รวบรวมความสูงสุดทั้งหมดทั้งสิ้นไว้ด้วยกัน ผมนี่ทำไมพูดคล้าย ๆ กับว่ามันวิปริตแล้ว คือผมรู้สึกว่าความตายจะมาถึงในเวลาอันใกล้แล้ว เลยอยากจะพูดในเรื่องที่เห็นว่าสำคัญที่สุด หรือมีประโยชน์ที่สุด แล้วผมนี่รู้สึกว่า บอกไม่ถูกที่มีอายุมากเกินพระพุทธเจ้าไป ๗ ปีแล้ว ถ้าว่ามีอายุเพียง ๘๐ ปีเหมือนพระพุทธเจ้า ก็จะไม่มีเรื่องคับอกคับใจอย่างนี้ นี่เรามันทำผิดซะแล้ว มีอายุมากเกินพระพุทธเจ้าไป ๗ ปี อยากจะขอลดไปอยู่เท่าพระพุทธเจ้า โดยความประสงค์ที่บริสุทธิ์ที่แท้จริง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังขอร้องท่านทั้งหลายทุกคน ทุกผู้ ทุกนาม ทุกรูป ทุกท่าน ว่า ขอให้สนใจคำว่าความถูกต้อง ๆๆ
ถ้ามันมีความถูกต้องแล้วมันไม่ตายนะ คิดดู มันไม่ตาย ถ้ามันมีความถูกต้องเสียแล้วมันจะตายได้อย่างไร โรคภัยไข้เจ็บมันไม่มี มันมีแต่ความถูกต้อง มันก็คือไม่ตาย เป็นอมตะ เป็นพระนิพพาน นี่ขอให้เห็นแก่ผมเถอะ ถ้าจะไม่เห็นแก่ใครก็ ขอให้สนใจๆ ศึกษาความหมายของคำว่าสัมมัตตะ ความถูกต้อง ๑๐ ประการ โดยเหตุ ๘ ประการ โดยผล ๒ ประการ แล้วก็ขอให้ถือว่าเป็นสิ่งที่ผมพยายามอย่างยิ่ง อย่างสูงสุดที่จะให้ท่านทั้งหลายได้ยินได้ฟังคำสำคัญ เพียงคำเดียว ๆๆ ว่า ความถูกต้อง ๆ แต่ถ้าว่าเป็นภาษาบาลีก็ใช้คำว่า สัมมัตตะ ๆ ความถูกต้อง ๑๐ ประการ ดังที่ว่ามาแล้ว
นี่ผมก็รู้สึกว่าไม่มีแรงจะพูดแล้ว แต่ขอแสดงความหวังอย่างยิ่ง แสดงความหวังอย่างสุดความสามารถว่า ขอให้สนใจความถูกต้อง สนใจคำว่าความถูกต้อง มีความถูกต้องแล้วจะไม่มีปัญหาอะไร จะดับทุกข์สิ้นเชิง จะกลายเป็นความว่าง
สุญญตา แปลว่าความว่าง ถ้าว่างแล้วมันไม่มีสังขาร ไม่มีการปรุงแต่ง มันว่าง มันก็ไม่มีทางจะผิดพลาด มันจึง เป็นความถูกอยู่ในตัวโดยอัตโนมัติ ๆ ไม่มีปัญหาอะไร
ชีวิตทั้งหลายทั้งหมดทั้งสิ้นในโลก ในจักรวาลไหน ๆ ก็ตาม มันมีความถูกต้องแล้วก็พอแล้ว พอแล้วสำหรับคำ ๆ เดียวว่า ความถูกต้อง แล้วอย่าลืมว่าเป็นคำของพระพุทธเจ้า คำเดียวก็จริง แต่เป็นคำของพระพุทธเจ้า คือคำว่าสัมมัตตะๆ ขอไปใช้ประโยชน์เป็นยาให้อาเจียน เป็นยาให้ถ่ายออก เป็นน้ำล้างบาป จนไม่มีความผิดพลาดเหลืออยู่ มีแต่ความถูกต้องอย่างเดียวเท่านั้น
นี่ผมขอแสดงความหวัง ขออ้อนวอนๆ อ้อนวอนให้สนใจคำ ๆ นี้ แล้วให้ปฏิบัติคำ ๆ นี้ คำเดียว ความถูกต้อง แล้วขอใช้คำที่มันค่อนข้างจะหยาบคายว่า ปิดพระโอษฐ์พระพุทธเจ้า ปิดจักษุพระพุทธเจ้า ปิดพระกัณฑ์พระพุทธเจ้า ปิดหู ปิดตา ปิดปากพระพุทธเจ้าเสียให้หมด พระพุทธเจ้าจะไม่มีโอกาสที่จะตำหนิเรา ๆ ถ้าเราถูกต้องเสียทั้งหมด โดยธรรมะ โดยวินัย ไม่มีสิกขาบทไหนที่คาราคาซังอยู่ เป็นความไม่ถูกต้อง ถ้ามันมีความคาราคาซังอยู่ ทำให้ถูกต้องเสีย ถ้ามันไม่เป็นอาบัติปาราชิก ก็ทำให้มันถูกต้องเสีย ถ้ามันเป็นอาบัติสังฆาทิเสส ก็ทำให้เป็นถูกต้องเสีย นี่คือการปิดปากพระพุทธเจ้า ปิดตาพระพุทธเจ้า ปิดหูพระพุทธเจ้า ไม่ให้มาตำหนิ ไม่ให้มีโอกาสตำหนิติเตียนผู้หนึ่งผู้ใดได้ ในทางที่ปิดปาก ปิดตา ปิดหูพระพุทธเจ้าเสียอย่างนี้ แล้วมันก็หมดปัญหา ไม่มีใครที่จะไปเปลี่ยนใครแทนพระพุทธเจ้าได้ พระพุทธเจ้าท่านก็มีแต่ความถูกต้องๆ ท่านเองมีแต่ความถูกต้อง ๆ มันเต็มไปด้วยความถูกต้อง
ขอได้โปรดเห็นแก่ผม สนใจคำพูดเพียงคำเดียวว่า ความถูกต้อง หรือสัมมัตตะ แล้วไม่เชื่อ ขอให้ลองปฏิบัติดู มันจะไม่มีความทุกข์ใดๆ เหลืออยู่ มันจะมีแต่ ความเป็นอมตะ ๆๆ หรือ เป็นพระนิพพาน
ขอจบการธรรมปฏิสันถาร ท่านทั้งหลายอุตส่าห์ มาเยี่ยมสวนโมกข์ ๆ ผมขอร้องว่าไม่ให้ถือว่าเยี่ยมสวนโมกข์ นี้จะกันได้เพียงไม่กี่ปี ขอทำจนนิรันดร ให้เยี่ยมสวนโมกข์นิรันดร ช่วยเหลือ สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ๆๆ ให้มีสันติภาพ ๆๆๆ ให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงมีสันติภาพ ๆ แล้วขอให้สนใจที่จะเยี่ยมเยียนสวนโมกข์ รักษาสวนโมกข์ ไว้ให้มีเป็นที่ตั้ง เป็นที่อาศัยแห่งสันติภาพ ๆ ซึ่งมีมูลมาจากความถูกต้อง ๆๆ เพียงอย่างเดียว
ขอให้สนใจคำว่าความถูกต้องเพียงคำเดียว สนใจให้ถูกตามความหมายโดยแท้จริง โดยอรรถะ โดยพยัญชนะ โดยความหมาย ทุก ๆ อย่าง ทุก ๆ ประการ แล้วก็จะได้ชื่อว่าเราได้ทำหน้าที่ของพุทธบริษัทถูกต้องแล้ว ด้วยประการทั้งปวง มีพระพุทธ มีพระธรรม มีพระสงฆ์ อยู่ในคำพูดเพียงคำเดียวว่า ความถูกต้องๆ
ผมขอขอบพระคุณในการที่มาเยี่ยมสวนโมกข์ และขออนุโมทนาในการที่จะทำสวนโมกข์ให้เป็นสวนโมกข์ ส่วนนี้ขออนุโมทนา ๆ และขอขอบพระคุณ ๆๆ ในการที่มาเยี่ยมสวนโมกข์ ขอให้สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นไปสำเร็จสมตามความปรารถนาของทุก ๆ ชีวิต ทุก ๆ ท่าน คือความถูกต้อง ๆๆ ผมขอยุติธรรมฏิสันถารไว้แต่เพียงเท่านี้ เพราะว่าหมดกำลังที่จะพูด
(สาธุ)
ผมขอพูดแทน...ว่าครั้งเมื่อไม่กี่เดือนมานี่ ผมได้ประสบกับโรคภัยไข้เจ็บ ก้าวย่างทีหนึ่ง ดับทีหนึ่ง เดินมานี่ เดินก้าวหนึ่ง ดับทีหนึ่ง เดินก้าวหนึ่ง ดับที่หนึ่ง ๆ คือไม่มีความรู้สึก คือหมดความรู้สึกไปทีหนึ่งๆ ที่มันจะมีเหตุอย่างนี้ก็คือว่ามันมีโรคภัยไข้เจ็บ บอกไม่ถูกว่าเป็นโรคอะไร มันเหลืออยู่แต่เป็นดวงขาวๆ ที่มันไม่ใช่ดวงไม่ใช่เดิงอะไร มันไปรู้แต่ว่า มันขาว มันไม่มีน้ำหนัก มันมีในสภาพไร้น้ำหนัก เงียบกริบ ๆ ดับหาย เงียบกริบ มีสภาพไร้น้ำหนัก ไม่รู้สึกว่าตั้งอยู่บนอะไรหรืออยู่กับอะไร บอกไม่ถูกว่ามันตั้งอยู่กับอะไร แต่มันยังไม่ตาย แต่ ๒ – ๓ ชั่วโมง มันก็ค่อย ๆ กลับมา แล้วมันก็จะค่อย ๆ กลับมา ค่อย ๆ กลับมา จนเดียวนี้ยังพอมีความจำได้บ้าง จำธรรมะ จำอะไรได้บ้าง มันก็เลยไม่ตาย แต่ถ้าว่ามันตายไปคราวนั้น มันก็จะดี เหลือแต่ดวงขาวๆ ขอให้ศึกษาไว้ด้วย มันเป็นสิ่งที่ประหลาด มันเป็นสภาพที่ไร้น้ำหนัก ไร้ความรู้สึก ไม่มีสูงไม่มีต่ำ ไม่มีบนไม่มีล่าง ไม่มีอะไรเลย สภาพไร้น้ำหนัก แล้วก็ลืม พวกฝรั่งก็เป็นกันมากเหมือนกัน เขาเรียกกันอย่างขบขำว่า Stolen Memory คือความจำนี่ถูกขโมยไปหมด พวกนักบินอวกาศเป็นกันมาก ความจำถูกขโมยไปหมด Stolen Memory ผมกำลังเป็นอย่างนี้หลายชั่วโมง ความจำค่อย ๆ จำได้ขึ้นมา จนจำคนนั้นได้ จำคนนี้ได้ แต่มันก็ยังไม่สมบูรณ์ ความจำยังไม่สมบูรณ์ ถ้าไม่สมบูรณ์มันก็ มีปัญหา ๆ ขอฝากกันไว้ว่าให้ช่วยกันรักษาสุขภาพอนามัยให้ดี อย่าให้เป็นโรคเหมือนผมเป็น เขาเรียกกันว่าเส้นโลหิตอุดตันแห้งกรัง ไม่มีความจำ ไม่มีความรู้สึกอะไร ไม่สมบูรณ์ของโลหิต หมอเขาพูดว่าจะต้องใช้เวลา ๙ เดือน กินยาอย่างถูกต้อง ๙ เดือน ไอ้ความจำจะค่อย ๆ กลับมา ความจำค่อย ๆ กลับมา เดี๋ยวนี้ผมยังลืมอะไรอยู่มากเหมือนกัน และขอขอบพระคุณๆ ขอแสดงความหวังให้ประสบความสำเร็จในการ มีความถูกต้อง ๆๆ ทุกอย่างทุกประการ ขอขอบพระคุณ ๆ และขออนุโมทนา ๆ จนกว่าความถูกต้องมันจะสมบูรณ์ ความถูกต้องมันจะสมบูรณ์ในชีวิต ในทุกสิ่ง
โอวาทในวันทำวัตรเยี่ยมสวนโมกข์ ปี 2535 โอวาทแก่พระที่มาทำวัตร ที่สวนโมกข์และอื่นๆ