แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
โอกาสนี้ขอกล่าวคำขอบคุณท่านทั้งหลายที่มาประชุมกันอยู่ที่นี่ เพราะต้องขอโอกาสแสดงธรรมะที่สั้นที่สุด สั้นที่สุด เป็นใจความที่สั้นที่สุด ขอได้โปรดกำหนดจดจำไว้ให้ดี มันจะคุ้มค่ายิ่งกว่าเกินค่า ถ้ามันจะกล่าวอะไรตรงๆ ไปบ้าง หยาบคายไปบ้างมันก็ต้องขออภัย ใจความสำคัญมีแต่เรื่องเดียว เรื่องเดียว ที่สำคัญที่สุด สำคัญที่สุด ซึ่งจะต้องรู้จัก และจดจำกันไว้ตลอดกาล หรือตลอดชีวิต เป็นเรื่องที่อาตมาต้องการจะกล่าว เป็นเรื่องเดียวที่สำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่สุดของพระพุทธศาสนา จงตั้งใจฟังให้ดีว่าอาตมาจะพูดว่าอะไร
อาตมาจะพูดว่า ไอ้ชาติโง่มันไม่รู้จักความถูกต้อง คำเดียวเท่านั้น คำเดียวเท่านั้น คำเดียวเท่านั้น ความถูกต้อง ไอ้คนชาติโง่ทั้งหลาย มันไม่รู้จักไอ้ความถูกต้อง มันจึงมีการลำบาก ยุ่งยาก รบรา ฆ่าฟันกัน ทางการ เมือง ทางเศรษฐกิจ ทางสังคม ทางอะไรต่างๆ เพราะว่ามันไม่รู้จักสิ่งๆ เดียว คือ ความถูกต้อง ความถูกต้องนี่เป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา ทั้งหมดทั้งสิ้น ทั้งกลุ่ม ทั้งพระพุทธศาสนา ทุกๆ ศาสนาด้วย ทุกๆ ศาสนาด้วย พุทธ คริสต์ อิสลาม ฮินดู และทุกๆ ศาสนาด้วย ทุกๆ ศาสนาไปรวมอยู่ที่คำพูดคำเดียวว่า ความถูกต้อง แต่ถ้าพูดเป็นไอ้ภาษาบาลี ก็ต้องออกเสียงว่า สัมมา สัมมา สัมมา คำนี้แปลว่า ถูกต้องๆ รู้จักแต่ความถูกต้องเพียงอย่างเดียวมันคุ้มหมด คุ้มหมด ไม่ยกเว้นอะไร มีความถูกต้องแล้ว จะไม่มีปัญหาใดๆ เหลืออยู่ ปัญหาที่มันฆ่ากันตายแต่ละวัน ละวัน นี่ยังหลบ ยังซ่อน ยังแอบ ยังแฝง ยังอะไรกันอยู่ มันไม่มีความถูกต้อง ถ้ามันไม่มีความ ถูก ถ้ามีความถูกต้องแล้ว มันจะไม่เป็นอย่างนั้น มนุษย์ทั้งหลายรู้จักรักใคร่กัน รู้จักสันติภาพ เดี๋ยวนี้มันไม่รู้ ต้องพูดว่า ไอ้มนุษย์ชาติไหนก็ตามมันโง่ มันยังเป็นบรมโง่ มันยังไม่รู้จักความถูกต้อง ถ้ามันรู้จักความถูกต้องแล้ว มันจะไม่มีปัญหาใดๆ เหลืออยู่ ไม่มีมีปัญหาใดๆ เหลืออยู่ คุณลองคิดดูเถอะว่า ไม่มีปัญหาใดๆเหลืออยู่นั้น มันมีประโยชน์กับอะไร เดี๋ยวนี้ยังมีปัญหาทางการเมือง ทางเศรษฐกิจ แม้แต่ทางสังคมเหลืออยู่เป็นความ เห็นแก่ตัว เป็นความเห็นแก่ตัว เป็นความผิดพลาด ต้องฆ่ากันตายแล้วตายอีก ทั้งต่อหน้าและลับหลัง เพราะมันไม่มีความถูกต้อง ใจความสำคัญมันก็อยู่ที่ว่า มันไม่มีความถูกต้อง เพราะฉะนั้นจึงอยากจะพูดเรื่องความถูก ต้อง ถ้ารู้จักความถูกต้องเพียงสิ่งเดียวแล้วจะไม่มีปัญหาใดๆ เหลืออยู่ เพราะฉะนั้น ขอให้ท่านทั้ง หลายทุกคนรับเอาไปแต่เรื่องธรรมะที่สำคัญที่สุดคือเรื่องความถูกต้อง ความถูกต้อง
นี่เพื่อจะให้มีประโยชน์แก่การจดจำที่แน่นอน ก็จะแบ่งความถูกต้องออกเป็น ๔ เรื่อง ช่วยตั้งใจฟังให้ดี จำไว้ให้แม่นยำที่สุดว่า ความถูกต้องทางกายนี่เรื่องที่หนึ่ง ความถูกต้องทางจิต เรื่องที่สอง ความถูกต้องทางตัวตน และความถูกต้องเรื่องที่สี่เรื่องสุดท้าย ก็ความถูกต้องเรื่องความว่าง ช่วยจำกันเดี๋ยวนี้เลยว่า ถูกต้องทางกาย ถูกต้องทางจิต ถูกต้องทางตัวตน และก็ถูกต้องทางความว่าง ถูกต้องทางกายนี่ก็คือว่า เกี่ยวกับร่างกายมันถูกต้อง คำว่ากายถ้าไม่โง่เกินไป ถือเอาตามภาษาบาลี เพราะว่ามี ๒ กาย กายลม กายเนื้อ ลมหรือลมหายใจทุกชนิดก็เรียกว่า กาย และกายเนื้อคือร่างกาย เนื้อ หนัง ไส้ พุง ตับ ไต ก็เรียกว่ากาย กายลมก็ต้องถูกต้อง กายเนื้อหนังนี่ก็ต้องถูกต้อง ก็เรียกว่าถูกต้องทางกาย ถ้ามันมีความถูกต้องทางกายแล้ว คนมันจะเจ็บไข้ได้อย่างไร อาตมานี่มีความผิด ผิดทางกายมาก ยังเจ็บไข้ ไม่มีความสุขอยู่นี่ มันไม่ถูกต้องทางกาย ถูกต้องนับตั้งแต่ลมหายใจ ลมหายใจนี่ ลมอากาศ หรือลมที่หายใจเข้ามา ลมหายใจหล่อเลี้ยงร่างกาย ลมหายใจที่ทำให้เกิดกำลังพลัง เช่น ลมปราณ เป็นต้น ที่ทำให้เกิดพลังทางลมนี่ ก็เรียกว่าถูกต้องทางกาย กายเนื้อ กายหนัง เรื่องกระดูก เรื่องอะไร เรื่องเนื้อ เรื่องหนัง เรื่องทุกอย่าง ก็รวมเรียกว่าทางกาย สิ่งที่มันเนื่องอยู่ด้วยกาย ทีนี้ก็ขอให้ทางกายมันถูกต้อง ถ้ามันมีความถูกต้องทางกาย ใครมันจะตดเหม็นบ้าง คิดดู ถ้ามันมีความถูกต้องทางกาย แม้แต่ตดมันก็ไม่เหม็น จะเอาหลักฐานอะไรกันไปถึงไหน มันถูกต้อง มันถูกต้อง นี่ขอให้ถูกต้องทางกาย กายเนื้อก็ดี กายลมหายใจก็ดี
ทีนี้ถูกต้องที่สอง ก็ถูกต้องทางจิต จิตกุศล หรือจิตอกุศล ก็ต้องเรียกว่าจิต ทีแรกจิตอกุศลนี่ต้องไม่อกุศล ไอ้จิตกุศลก็ต้องถูกต้อง ถ้าจิตกุศลไม่ถูกต้อง มันก็ใช้ไม่ได้เหมือนกัน แม้จิตที่เป็นกุศล ถ้าไม่ถูกต้อง มันก็ใช้ไม่ได้ ไอ้ที่ว่าดีๆ มันใช้ไม่ได้ ถ้ามันไม่ถูกต้อง ถ้ามันดีจริงมันก็ต้องถูกต้อง อกุศลแปลว่ามันไม่ตัดสิ่งที่ควรตัด กุศลแปลว่าตัดสิ่งที่ควรตัด นี่ช่วยจำไว้ให้ดีเถอะว่า ถ้าพูดว่ากุศลๆ นี่ ( ๑๐.๑๕ ) มันตัดสิ่งที่ควรตัด กุศะละ ตัด(หญ้า) ผ้าที่ควรตัด อกุศล มันไม่ตัด(หญ้า) ผ้าที่ควรตัด พูดง่ายๆ ก็ว่า มันตัดสิ่งที่ควรตัด มันหมดปัญหามันเป็นกุศล มันไม่ตัดส่วนที่ควรตัด มันเหลืออยู่เป็นปัญหา นั่นล่ะคืออกุศลนานาชนิด ร้อยอย่าง พันอย่าง แสนอย่าง ล้านอย่าง ให้ถูกต้องทางจิตเถอะ ให้มีการตัดสิ่งที่ควรตัด ก็เรียกว่า ถูกต้องทางจิต
เรื่องจิตเป็นอกุศลนี่มันมากมาย นับได้ตั้งร้อย ตั้งพัน ตั้งหมื่น ตั้งแสน ความรัก ความโกรธ ความเกลียด ความกลัว ความตื่นเต้น ความวิตกกังวล ความอาลัยอาวรณ์ ความอิจฉาริษยา ความหึง ความหวง นับได้ตั้งร้อยอย่าง พันอย่าง หมื่นอย่าง แสนอย่าง ล้านอย่าง มันไม่ตัดสิ่งที่ควรจะตัดออกไป แล้วมันก็เป็นความไม่ถูกต้อง มันถูกต้องทางจิตนี่ ถูกต้องทางจิตเป็นถูกต้องที่สอง ใครๆ ก็ระวังรักษา อย่าให้เกิดความผิดพลาดทางจิต นี่มันยิ่งกว่าทางกาย ถูกต้องทางจิตแล้วมันจะไม่มีปัญหาใดๆ เหลืออยู่ แม้แต่เถ้าปรมาณู ก็ไม่มีปัญหาอะไรเหลืออยู่ ถ้าถูกต้องทางจิตอย่างเดียวเท่านั้น มันไม่มีสิ่งที่รบกวนจิต จิตมันบริสุทธิ์ เกลี้ยงเกลา มันไม่มีความรบกวน ช่วยจำไว้เป็นเรื่องที่สองว่า ถูกต้องทางจิต จะแจกเป็นชื่อกิเลสตัวไหนก็ได้ มันก็ถูกต้อง ไม่มีกิเลสตัวนั้น
ถูกต้องที่สาม ก็ถูกต้องทางอัตตา ทางตัวตน ทางตัวตนนี่มันละเอียดลึกยิ่งขึ้นไปกว่าทางจิตทางเดียว มันเรียกว่า ทางตัวตน ทางตัวตน ทางอัตตา ถูกต้องทางอัตตา อัตตาก็แปลว่าตัวตน ถูกต้องทางกาย เรียกว่า สัมมากายา ถูกต้องทางกาย ถูกต้องทางจิต เรียกว่า สัมมาจิตตา ถูกต้องทางจิต เรียกว่า สัมมาอัตตา ถูกต้องทางตัวตน มีตัวตนที่ถูกต้อง ไม่มีปัญหา ตัวตนที่ถูกต้องนั้นคือ ไม่มี อหังการ มมังการ มานะ อนุสัย พูดเป็นบาลีเดี๋ยวมันยุ่งยาก ลำบาก มันลืมเสียอีก ไม่มีตัวกู ไม่มีของกู นั่นน่ะถูกต้องทางอัตตา ถ้าเป็นบาลี มันยาวเฟื้อย อหังการะ มมังการะ มานานุสัย อหังการ มันคือว่าตัวกู มมังการว่าของกู มานะ คือ สำคัญมั่นหมาย อนุสัย คือความเคยชิน ความเคยชินที่จะเกิด มานะ คือยึดถือว่าตัวกู ว่าของกู ถ้าไม่มีความรู้สึกเป็น อหังการะ มมังการะ มานานุสัย แล้วก็เรียกว่าถูกต้องทางตัวตน ทางอัตตา ทางตัวตน เป็นพระอรหันต์ ยิ่งกว่าเป็นพระอรหันต์ ถูกต้องทางอัตตา ถูกต้องทางตัวตน
อันที่สี่ ข้อสุดท้ายว่า ถูกต้องทางความว่าง เรียกว่าถูกต้องทางสุญญตา หรือ สัมมาสุญญตา ถูกต้องทางเรื่องของความว่าง ระวังให้ดีนะ จะพูดจังๆ จริงๆ จังๆ ว่า ไอ้ชาติโง่มันไม่รู้เรื่องความว่างเอาเสียเลย ไม่รู้เรื่องความว่างเอาเสียเลย ไม่รู้ว่างคืออะไร คำว่าว่างมันไม่ได้หมายความว่า มันไม่มีอะไร แต่มันไม่มีความรู้สึกว่า ตัวตน มันก็เกิดกิเลสใดๆ ไม่ได้ มันว่างจากกิเลส ไม่มีกิเลสโดยประการทั้งปวง กิเลสเล็ก กิเลสใหญ่ กิเลสต้นเหตุ กิเลสปลายหาง มันว่างไปเสียหมดเรียกว่า สัมมาสุญญตา ว่างจากสุญญตา คำซ้ำ คำทับศัพท์ จำเป็นที่จะต้องทำอย่างนี้แหละ
สัมมากายา ว่างทางกาย ถูกต้องทางกาย
สัมมาจิตตา มันว่างทางจิต มันถูกต้องทางจิต
สัมมาอัตตา มันว่างจากอัตตา มันถูกต้องทางอัตตา
สัมมาสุญญตา มันว่างด้วยประการทั้งปวง คือว่างอย่างพระนิพพาน พระนิพพานไม่มีเหตุ ไม่มีปัจจัย ไม่มีอะไรที่เป็นบัญญัติอย่างนั้น อย่างนี้ มันว่าง สัมมาสุญญตา
ชักจะสงสัยเสียแล้วว่า แม้แต่ ๔ อย่างนี้ ท่านทั้งหลายก็ยังอาจจะจำไม่ได้ ไม่ไว้ใจคุณแล้ว ขอย้ำอีกทีว่า ขอให้จำไอ้ความถูกต้อง ๔ อย่างนี้ไว้ให้ได้
ว่างทางกาย เรียกสัมมากายา ถูกต้องทางกาย ว่างทางจิต เรียกสัมมาจิตตา ถูกต้องทางจิต ว่างอัตตา เรียกว่าสัมมาอัตตา ว่างจากตัวตน สัมมาสุญญตา ว่างโดยประการทั้งปวง ว่างโดยประการทั้งปวง ถ้า ๔ อย่าง จำไม่ได้อย่างนี้แล้ว ก็จะขอพูด ไปตายเสียดีกว่า ไปตายเสียดีกว่า เพราะว่ามันไม่รู้ความถูกต้อง ความถูกต้องนี้ มันต้องว่าง ๔ อย่างนี้ เมื่อมันไม่รู้ความถูกต้อง มันก็มีแต่ความผิดพลาด งั้นขออย่าให้มันมีความผิดพลาด มันมีแต่ความถูกต้อง
ขอย้ำอีกทีว่า บาลีว่า สัมมา สัมมา สัมมา แปลว่าความถูกต้อง ไม่มีคำพูดคำไหนที่ดีกว่านี้ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มันรวมอยู่ที่สัมมา รวมอยู่ที่สัมมา คือความถูกต้อง ความถูกต้องเป็นพระพุทธ เป็นพระธรรม เป็นพระสงฆ์ ถูกต้องทางกาย ถูกต้องทางจิต ถูกต้องทางอัตตา และก็ถูกต้องทางความว่าง สัมมา สัมมา แปลว่าความถูกต้อง ท้าว่าไปหาคำๆ ไหนในปทานุกรม ชาติไหน ภาษาไหน ท้าว่าชาติไหน ภาษาไหนบ้างที่มันค้านคำว่าความถูกต้อง คำว่าความถูกต้อง มันใช้ไม่ได้ในคนชาติไหน ภาษาไหน ไปหามาดูซิ มันไม่มี เพราะว่าถ้าพูดถึงความถูกต้องแล้ว มันใช้ได้ทุกชาติ ทุกภาษา ไม่ยกเว้นภาษาไหน ไม่มีความถูก โดยเฉพาะภาษาพุทธของเรา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ก็คือความถูกต้อง ความถูกต้องจนรู้จักความถูกต้อง รู้จักความถูกต้อง รู้จักความถูกต้อง ยิ่งกว่ารู้จัก ยิ่งกว่ารู้จักความถูกต้อง มีความถูกต้องแล้วมันก็จะหมดปัญหาน่ะ คำว่า หมดปัญหาคือ หมดไอ้สิ่งที่ไม่น่าปรารถนา หมดกิเลส หมดตัณหา หมดอะไร หมดไปหมดเลย ถ้าว่ามันหมดปัญหา คือความถูกต้อง ถ้ามันยังมีปัญหาอยู่มันยังใช้ไม่ได้ ไม่ว่าใครไม่ว่าจะคนไหน คนชนิดไหน ชาติไหนก็ตาม ถ้ามันยังมีปัญหาอยู่นิดหนึ่ง ก็ยังใช้ไม่ได้ ปัญหานี่ต้องไม่มี ต้องไม่มี แล้วจะหมดปัญหา เป็นคนหมดปัญหา เรียกว่าสุญญตา คือคนมีความว่าง ถ้าว่าง ถ้าไม่ว่างเหลืออยู่นิด มันก็ยังมีปัญหา ปัญหานิดหนึ่งมันก็เหลืออยู่เป็นปัญหา มันต้องไม่มีปัญหา คนหมดปัญหา ก็เป็น สัมมา ที่ถูกต้องที่สุด ถูกต้องที่สุด มีเท่านี้ พูดเท่านี้
๔ คำพูด ว่างทางกาย ว่างทางจิต ว่างทางอัตตาตัวตน และก็ว่างทางสุญญตา ขอท้าทายว่า จะให้พูดกันสักกี่วัน กี่เดือน กี่ปี มันก็ไม่มากไปกว่านี้ มันไม่มากไปกว่านี้ มันไม่เกินนี้ไปได้ มันไม่มากไปกว่านี้ ถูกต้องทางกาย ถูกต้องทางจิต ถูกต้องทางตัวตน ถูกต้องทางสุญญตา ว่างทางกาย ว่างทางจิต ว่างทางอัตตา ว่างทางสุญญตา
ขอท้า ขอรับประกันว่า มันๆ คุ้มค่าที่สุดแล้วถ้ามีความรู้เรื่องนี้เพียง ๔ คำนี้ มันคุ้มค่าที่สุด หาค่าคุ้มค่าที่ไหนไม่มีอีกแล้ว มันคุ้มค่าที่สุด มันหมดจดครบถ้วนที่สุด มีพระพุทธ มีพระธรรม มีพระสงฆ์ อยู่ในคำ ๔ คำนี้ หรือเพียงคำเดียวก็ได้ว่า สัมมา ถ้าคุณพูดว่า สัมมา มันแปลว่า ความถูกต้อง มันรวมพระพุทธ รวมพระธรรม รวมพระสงฆ์ รวมทุกอย่างที่จะเป็นที่พึ่งของคนแต่ละคนได้ ไม่ว่ามันจะนับถือศาสนาไหนนะ ไม่ว่ามันจะนับถือศาสนาไหนนะ พุทธ คริสต์ อิสลาม พราหมณ์ ฮินดู อะไรก็ตาม ทุกๆ ศาสนาถ้ามันรู้จัก สัมมา มันก็รู้จักใช้ สัมมา มี สัมมา แล้วก็มีความถูกต้องแล้ว คุ้มครองไป ไม่ว่าศาสนาไหน ทุกๆ ศาสนา มันรวมอยู่ในคำว่าถูกต้อง ถูกต้อง เดี๋ยวนี้มันไม่ถูกต้อง ดูซิ ทางการเมืองก็ไม่ถูกต้อง ทางเศรษฐกิจก็ไม่ถูกต้อง ทางสังคมมันก็ไม่ถูกต้อง มันมีแต่คนแก้แค้น ความเลวร้ายที่สุด สังคมมันมีแต่คนแก้แค้น มันหาความถูกต้องเท่าขี้เล็บมันก็ไม่ได้ ถ้ามันมีความถูกต้องหมดแล้ว มันไม่มีความผิดพลาดเหลืออยู่แม้แต่สักเท่าขี้เล็บ มันมีความถูกต้อง มีความถูกต้อง
ทีนี้จะพูดภาษาโง่ๆ ง่ายๆ สำหรับคนบ้านนอก พูดด้วยอุปมา คำเปรียบเทียบ คำเปรียบเทียบเป็นอุปมา แม้เราจะร้องบทร้องเพลง กล่อมลูกให้นอน เราก็ยังรู้จักร้องไอ้เรื่องที่มันลึกซึ้ง ถูกต้อง “มะพร้าวนาฬิเกร์ ต้นเดียวโนเน กลางทะเลขี้ผึ้ง ฝนตกไม่ต้อง ฟ้าร้องไม่ถึง กลางทะเลขี้ผึ้ง ถึงได้แต่ผู้พ้นบุญ” พ้นบุญล่ะ คือ ว่าง พ้นบุญมันพ้นยิ่งกว่าบาป มันพ้นบุญไปพ้นเป็นพ้นบุญไปเสียอีก นี่น่ะมันว่าง แต่เดี่ยวนี้เราอยากให้ได้ยินได้ฟังอีกบทว่า ส้มซ่า ส้มซ่าคือส้มที่ดำๆ เขียวๆ เปรี้ยวๆ ส้มซ่า
“น้องเอย คือน้องส้มซ่า ลูกดกหราร่า ร่มฟ้าร่มดิน อีกาตัวไหนจะกล้าเจาะ กระรอกตัวไหนจะกล้ากิน ร่มฟ้าร่มดิน ร่มหัวแม่มันทั้งเมืองโว้ย ร่มหัวแม่มันทั้งเมืองโว้ย” ยกเว้นคนไหน ที่ไม่ๆ รวมอยู่ในคำว่า แม่มันทั้งเมือง ถ้ามันร่มหัวแม่มันคนทั้งเมืองแล้ว มันก็ไม่มีปัญหาอะไร ไม่มีอะไรเหลืออยู่ มันถูกต้องถึงที่สุด ถูก ต้องถึงที่สุด ถ้าจำไม่ได้ก็พูดอีกทีว่า “น้องเอย คือน้องต้นส้มซ่า ลูกดกหราร่าร่มฟ้าร่มดิน อีกาไหนจะกล้าเจาะ กระรอกไหนจะกล้ากิน ร่มฟ้าร่มดิน ร่มหัวแม่มันทั้งเมืองโว้ย” ทำไมพูดอย่างนี้ ทำไมพูดหยาบคายอย่างนี้ เพราะว่าพูดให้มันเด็ดขาดลงไปว่า มันไม่ยกเว้นอะไร มันไม่เหลืออะไรที่จะยกเว้นให้ที่ไม่ต้องเป็นอย่างนี้ นี่จะพูดถึงเรื่องความว่าง ถ้าว่ามันสามารถทำให้เป็นสุขกันทั้งบ้านทั้งเมือง หมดปัญหาทั้งบ้านทั้งเมือง แล้วก็ต้องเรียกว่ามัน ร่มหัวแม่มันทั้งเมือง ร่มหัวคนทั้งเมือง เราก็พลอยจำไอ้คนแก่ๆ เขาจำเขาก็ร้องเพลงกล่อมเด็กให้นอน เรียกว่าเพลงร้องเรือ อะไรน่ะ “มะม่วงหิมพานต์สุกงอมหอมหวาน อยู่กลางแม่น้ำทะเลหลวง พ้นลิงพ้นค่างพ้นสัตว์ทั้งปวง พ้นเข้เหรา หมดสิ้นแม่มันทั้งบ้านทั้งเมือง” ถ้าเป็นมะม่วงหิมพานต์มันก็สุกงอมหอมหวาน ที่ใครมันไม่รู้จัก สุกงอมหอมหวานชนิดที่ใครไม่รู้จัก มันรู้จักกันแต่เรื่องสุกงอมหอมหวานของกิเลส เปลี่ยน เป็นสุกงอมหอมหวานของสุญญตา มันไม่มีเรื่องอะไรที่ว่าจะต้องให้เป็นปัญหา มันหมดปัญหา นี่เราอยากจะให้รู้สิ่งที่ลืมไม่ได้ รู้จักสิ่งที่ลืมไม่ได้ จำสิ่งที่ลืมไม่ได้ จำแล้วจะลืมไม่ได้ ต้นส้มซ่าที่ร่มหัวแม่มันทั้งเมือง ว่าอีกทีก็ได้ “น้องเอย คือต้นส้มซ่า ลูกดกหราร่าร่มฟ้าร่มดิน กระรอกไหน อีกาไหนจะกล้าเจาะ กระรอกไหนจะกล้ากิน ร่มฟ้าร่มดิน ร่มหัวแม่มันทั้งเมือง” มันหยาบคายนะ มันหยาบคายที่สุดแล้วนะ มันดูถูกดูหมิ่น มันหยาบคายที่สุดแล้วนะ สมน้ำหน้ากับคนโง่ที่มันไม่รู้จักว่าอะไรมันว่าง อะไรมันว่าง จะพูดให้ธรรมะมันลึกขึ้นไปอีก ก็ต้องพูดถึงเรื่องว่ามีอยู่ ๒ สิ่งเท่านั้น สังขาร สังขารมันปรุงแต่ง อวิสังขารมันไม่มีการปรุงแต่ง ถ้ามันเป็นสังขารมันก็ปรุงแต่งมันก็มีปัญหาเรื่อยไป ไม่หมดปัญหา มันต้องหมด สังขารมันไม่มีการปรุงแต่ง ต้องเป็น วิสังขารไม่มีการปรุงแต่ง สังขารน่ะมันยังเป็นความไหล เพราะมันมีการปรุงแต่งอยู่ สังขารยังมีการไหล เพราะมีการปรุงแต่งอยู่ อวิสังขารไม่มีการไหล เพราะไม่มีการปรุงแต่ง พูดให้คนโง่ฟังสักหน่อยก็พูดว่า ตลิ่งมันไหล น้ำมันไม่ไหล ตลิ่งมันไหล ตลิ่งที่ไหนมันไหล ใครเห็นบ้าง ใครรู้จักบ้างนั่นล่ะคือความโง่ มันไม่รู้จักว่าตลิ่งมันไหล ตลิ่ง ฝั่งตลิ่งของใครก็ตามมันไหลไปนี้ ไม่น้ำไหล ก็ตลิ่งมันไหล เพราะมันมีสังขารมีการปรุงแต่ง ถ้าเป็นน้ำจริงๆ เขาเรียกว่า ความว่าง ความว่างมันไหลไม่ได้ มันไหลไม่ได้ น้ำมันไม่ไหล ตลิ่งมันไหล วิสังขารมันไม่ไหล ให้รู้จักว่าคำพูดที่เขาพูดว่า ตลิ่งมันไหล น้ำมันไม่ไหล ฟังให้ถูกเถอะ ถ้าฟังถูกแล้วมันก็ฉลาดขึ้นมาเท่าตัวนะเต็มตัวนะ ถ้ามันยังฟังว่า ตลิ่งไหลไม่ถูกแล้ว มันก็ยังโง่บรมโง่อยู่นั่นแหละ เพราะว่าสังขารมันต้องปรุงแต่ง มันต้องไหลเกะกะๆๆๆ ไปทั้งดิน ทั้งก้อนหิน ทั้งกรวด ทั้งทราย ทั้งไม้ ไปดูที่แม่น้ำคงคาที่อินเดีย ตลิ่งมันไหลๆ อยู่ไม่รู้กี่ล้านๆ ปีจนก้อนหินทุกก้อนกลมหมด ไม่ว่าก้อนเล็กก้อนใหญ่ เพราะตลิ่งมันไหลอยู่เรื่อย ทำให้ก้อนหินทุกก้อนมันกลม ตลิ่งมันไหล แต่ถ้ามันไม่เกิดการปรุงแต่ง ไม่มีการปรุงแต่งแล้ว มันไม่มีอะไรไหล มีแต่ความว่าง มันว่างไปเสียหมด แม้แต่น้ำก็ว่าง แม้แต่อากาศก็ว่าง แม้แต่อัตตามันก็ว่าง นี่มันไม่มีอะไรจะไหล ถ้าไหลมันหมายความว่ามันมีอะไร อะไรมันไหลอยู่ คือมันเป็นสังขาร เป็นสังขารธรรม มีเหตุมีปัจจัยไหลอยู่ ถ้ามันไม่ไหลมันไม่มีอะไรมันว่าง ถ้าไม่มีอะไรไหล มันว่างๆๆ อย่างยิ่ง นี่เรียกว่าถึงว่าตลิ่งก็ไม่ไหล ถ้าฟังถูกก็จะจะถือว่า ฟังธรรมะถูก ฟังธรรมะลึก ฟังธรรมะลึกซึ้งถูก และฟังถูกต้องจนเห็นได้ว่า โอ้, ตลิ่งมันไหลโว้ย ไอ้ที่ไม่ไหลน่ะ มีแต่ความว่างเท่านั้นแหละ น้ำที่แท้จริงไม่ไหล เพราะมันเป็นความว่างไปเสีย เพราะมันเป็นความว่างไปเสียแล้ว มันไม่ต้องไหล ถ้าไม่ไหลจะเป็นยังไง ถ้าไม่ไหลจะเป็นยังไง ตลิ่งก็ไม่ไหล น้ำมันก็ไม่ไหล ก็มีความถูกต้อง ถูกต้อง ถูกต้อง จะเอาถูกต้องกันถึงไหน มันถูกต้องจนว่าตลิ่งก็ไม่ไหล ตลิ่งมันไหลเป็นความถูกต้องของไอ้โง่ๆ ของคนโง่ ของตลิ่งมันไหล ถ้าตลิ่งก็ยังไม่ไหล มีความถูกต้องที่สุด จนถึงว่า แม้แต่ตลิ่งมันก็ไม่ไหล มันก็มี สัมมา สัมมา มีความถูกต้อง ถูกต้อง ถูกต้อง ถ้าถูกต้องเป็น สัมมา มันก็มีสันติ ช่วยจำไว้อีกคำว่า ถ้าเป็น สัมมา มันถูกต้อง แล้วมันจะเป็น สันติ สงบ ระงับ ถ้ามันมีสันติ สงบ ระงับแล้ว มันจะเป็น มัชฌิมา มัชฌิมาเป็นกลาง ไม่มีบวก ไม่มีลบ ไม่มีบุญ ไม่มีบาป ไม่มีได้ ไม่มีเสีย ไม่มีเลว ไม่มีกุศล ไม่มีอกุศล ไม่มีไปหมด มันเป็นมัชฌิมา ไม่อาจจะจัดเป็นบุญ เป็นบาป เป็นดี เป็นชั่ว เป็นสุข เป็นทุกข์ เป็นนรก เป็นสวรรค์ จัดไม่ได้ มันเป็นมัชฌิมา มันเกลื่อนเป็นกลางไปเสียหมด นี่ล่ะคือสุญญตา สุญญตา ความว่าง ความว่างก็นิพพุติ สุญญตาก็นิพพุติ ดับเย็น ดับเย็นก็เป็นนิพพาน นิพพานก็เป็นอมตะ เป็นสิ่งที่ไม่รู้จักตาย ต้องขอให้ท่านไม่รู้จักตายอีกต่อไป ไม่รู้จักตายอีกต่อไป นี่เป็นอมตะ สัมมามันถูกต้อง สันติ สงบ ระงับ มัชฌิมา มันกลาง มันกลางไปหมดมันจนบอกไม่ได้ว่าบวกหรือลบ ไม่เป็นบุญไม่เป็นบาป ไม่เป็นสุข ไม่เป็นทุกข์ ไม่เป็นอะไร ไม่มีความเป็นของคู่ แล้วก็เป็นสุญญตาคือว่าง คำว่าว่างนี้ เป็นคำสูงสุดไม่มีคำไหนสูงเท่า ก็มัน สงบ ระงับ ดับเย็น เป็นนิพพานเป็นอมตะ ถ้าพูดเป็นบาลีมากนัก เดี๋ยวก็ลืมเสียอีก อย่าพูด เอาเป็นว่ามันเป็นอมตะ มันเป็นสงบระงับแห่งสังขาร มันไม่มีอุปาทิ มันไม่มีตัณหา มันเป็นวิราคะ มันเป็นนิโรธะ มันเป็นนิพพาน เป็นนิพพาน เป็นธรรมธาตุแท้ เป็นธรรมธาตุแท้ เป็นธาตุแห่งธรรมะแท้ เป็นตัวธาตุแท้ เป็นธาตุ(ไม่แน่ใจว่า ทาส หรือ ธาตุ) แห่งธรรมะแท้ นั่นน่ะคือ ความถูกต้อง นั่นน่ะคือ พระรัตนตรัย พระรัตนตรัย
ถ้าฟังคำว่าตลิ่งไหลเข้าใจ คำว่าความว่างก็ต้องเข้าใจ ในที่สุดมันก็รู้จักไอ้สิ่งที่ยังไม่เคยรู้จัก รู้จักสิ่งที่ไม่เป็นปัญหาเหมือนกับต้นส้มซ่าน่ะ อุปมาเหมือนกับความว่าง มันครอบหัวคนทั้งเมือง ครอบหัวแม่มันทั้งเมือง ถ้ามันมีความว่างแล้ว มันครอบงำหมด ไม่ยกเว้นอะไร ครอบงำทั้งเมือง ถ้ามันมีความว่าง มันไม่มีอะไรที่ไม่ถูกความว่างครอบงำ ความว่างมันจะครอบงำทุกสิ่งไม่ยกเว้นอะไร เราจึงว่าไอ้ต้นส้มซ่าใบดกนี่ ร่มหัวแม่มันทั้งเมือง หยาบหรือไม่หยาบ ถ้าหยาบก็ไปเข้าใจเสียให้ถูกต้องซิ ถ้าเข้าใจถูกต้องแล้วมันจะไม่เป็นคำหยาบหรอก มันจะเป็นคำธรรมดา เป็นคำธรรมดา หรือเป็นความจริงที่สุด จริงอย่างที่ไม่มีอะไรยิ่งกว่า นี่คือความ หมายของคำว่า สัมมา สัมมา คุณจงพอใจในคำว่า สัมมา แปลว่าถูกต้อง สัมมะตะ สัมมะตะ สัมมะตะตาก็ได้เหมือนกัน แต่ว่ามันยุ่งเปล่าๆ เอาคำว่า สัมมา สัมมา แล้วก็นึกถึงคำว่า สัมมาทิฐิ สัมมา ทิฐิสัมมา สัมมาทิฐิ สัมมาอะไร สัมมาทิฐิ สัมมาสังกะโป สัมมาวาจา สัมมากัมมันโต สัมมาอาชีโว สัมมาวายาโม สัมมาสติ สัมมาสมาธิ
สัมมา ๘ สัมมา นี้เป็นฝ่ายเหตุ แล้ว สัมมายานะ สัมมาวิมุติ ๒ อย่างนี้เป็นฝ่ายผล สัมมามันมีแต่ ๑๐ทั้งนั้นแหละ พอ สัมมา แล้วไม่มีอะไรเหลือ มันถูกต้องหมด งั้น ขอให้สนใจคำว่าความถูกต้อง ความถูกต้องเพียงคำเดียวแล้วคุ้มได้หมด ไม่เป็นคนไอ้ชาติโง่อีกต่อไป ไม่เป็นไอ้ชาติโง่อีกต่อไป ไม่มีคำพูดคำไหนที่มันเด็ดขาด เฉียบขาด จริงจัง มีค่าสูงสุดยิ่งกว่าคำว่า สัมมา สัมมา ความถูกต้อง
นี่ทั้งโลกทั้งจักรวาล มันจะฉิบหายกันหมดแล้ว มันไม่มีความถูกต้อง ประชาธิปไตย และไม่ใช่ประชาธิปไตย มันจะฉิบหายกันหมดแล้ว มันไม่มีความถูกต้อง มันอยู่ที่ความถูกต้อง มันต้องมีความถูกต้อง ความถูกต้องนั้นน่ะ มันเหนือไปกว่าดีนะ ถ้าดีไม่ถูกต้องมันก็ใช้ไม่ได้ ยิ่งดียิ่งบ้า ถ้าว่าถูกต้อง ถูกต้องแล้ว มันไม่มีทางจะผิดพลาด ไม่มีทางที่จะสูญเสียความหมาย ขอให้สนใจคำนี้ เอาเป็นเนื้อ เป็นตัว เป็นชีวิต เป็นดวงจิต เป็นวิญญาณ ว่าความถูกต้อง ความถูกต้อง ความถูกต้อง คำอื่นๆ มันๆๆ บ้าๆ บอๆ ทั้งนั้น มันขาดไปครึ่ง หนึ่ง หรือ มันแหว่งไปครึ่งหนี่ง หรือมันผิดไปครึ่งหนึ่ง มันแย้งไปครึ่งหนึ่ง คำว่าบุญ คำว่าบาปนี่ บาปนี่คือบ้าที่สุด ไอ้บุญมันก็บ้าที่สุด อีกทางหนึ่ง เพราะว่าบุญนี่มันก็จะเอาแต่ความสนุกสนาน เอร็ดอร่อย มันเป็นความบ้าฝ่ายบวก ไอ้บาปมันความบ้าฝ่ายลบ ไม่ถูกต้อง มันไม่ถูกต้อง มันไม่ถูกต้อง มันไม่ถูกต้อง จะขอพูดตั้งร้อยครั้ง พันครั้ง หมื่นครั้ง แสนครั้ง ล้านครั้ง ว่ามันไม่ถูกต้อง มันใช้ได้ มันใช้ได้คำเดียวแต่ว่า ถูกต้อง ถูกต้อง
นึกถึงพระพุทธเจ้า ก็นึกถึงคำว่า สัมมา สัมมา ความถูกต้อง ถูกต้อง ถูกต้อง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อยู่ที่ความถูกต้อง เราจะใช้คำอย่างอื่นอีกก็ได้ เป็นพระเจ้า พระเป็นเจ้าของศาสนาอื่นก็ได้ ของศาสนาฮินดู ของศาสนาพราหมณ์ ของศาสนายิว ศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลาม อะไรก็ตาม ถ้าถูกต้องแล้วเป็นความปลอดภัยทั้งนั้น ไม่มีคำไหนที่จะ ไม่ ไม่มี ไม่มีความถูกต้องอันไหนที่จะเป็นอันตราย ถ้ามันมีความถูก ต้องแล้ว ภาษาไหนมันก็ใช้ได้ทั้งนั้น ขอให้สนใจคำว่าความถูกต้อง คือมันเป็นธรรมะทั้งหมด รวมธรรมะไว้ทั้งหมด สัพเพธัมมา ธรรมะทั้งปวง เกวลา เกวลา ทั้งปวง อยู่รวมอยู่ที่ความถูกต้อง ไกวัลยะ ไกวัลยะ คำนี้เป็นของฝ่ายชัยนะ ของฝ่ายนิครนถ์ด้วยซ้ำไป ไกวัลยะนี่ แปลว่าทั้งปวง ถูกต้องทั้งปวง ถูกต้องทุกสิ่ง ถูกต้องทุกสิ่ง เป็น เกวละ ภาษาบาลีก็มี คือคำว่า เกวละ ถ้าเป็นชื่อบุคคลเรียกว่าเกวลี เกพะลี เกพะลี เกพะลีก็คือ ไกวัลยะ ความถูกต้องโดยประการทั้งปวง มายกเว้นไม่มีอะไรเหลือ คือจะไม่ถูกต้อง งั้นถ้าว่า คำว่า ถูกต้อง คำเดียวแล้วมันหมดจด สิ้นเชิง ไม่ต้องเป็นห่วง ไม่ต้องอะไรกันอีกต่อไปแล้ว สมบูรณ์อยู่ในตัว แค่คำว่าความถูกต้อง ขอให้ทุกคนทุกท่านทุกผู้มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องความถูกต้อง ความถูกต้อง สัมมา แล้วคุณก็จะมีความถูกต้อง มีความดี ความงาม ความถูกต้องของทุกๆ ศาสนานะ ของทุกๆ ศาสนานะ ไม่ต้องไปดูถูกว่าเป็นศาสนาคริสต์ ศาสนายิว ศาสนาอิสลาม ถ้ามันมีความถูกต้องแล้ว มันใช้ได้ทั้งนั้น จะเป็นพระเจ้าในศาสนาไหน มันก็อยู่ที่ความถูกต้อง พระเจ้าของทุกๆ ศาสนากี่ร้อยกี่พันศาสนา ก็จะแยกออกไป อยู่ที่ความถูกต้อง มันต้องอยู่ที่ตัวความถูกต้อง แต่คนไม่มีปัญญา ที่จะแยกออกจะแยกออกเป็นหลายร้อย หลายพันศาสนา มันโง่ แต่ถ้ามันไปหยุดๆๆ ที่ ความถูกต้องตัวเดียวแล้วมันหมด มันจบหมด มันรวบหมด มันรวบหมด มันเป็นความถูกต้อง เป็นความถูกต้อง
นี่อาตมาจะบ้าเสียแล้ว จะเป็นบ้าเสียแล้ว เพราะคำว่าความถูกต้องนี่ เพราะว่าหลงใหลในความถูกต้อง สนใจในความถูกต้องอย่างหลงใหล จึงมาขออ้อนวอน อ้อนวอนให้ท่านทั้งหลาย ขออ้อนวอนให้ท่านทั้งหลายสนใจในความถูกต้อง ประพฤติปฏิบัติในความถูกต้อง เพื่อที่จะได้ธรรมะสูงสุด ธรรมะสูงสุดคือสุญญตามันว่างจากปัญหา ว่างจากปัญหาโดยประการทั้งปวง ขอบอกเรื่องส้มซ่า “น้องเอ๋ยคือต้นส้มซ่า ลูกดกหราร่าร่มฟ้าร่มดิน อีกาไหนจะกล้าเจาะ กระรอกไหนจะกล้ากิน ร่มฟ้าร่มดิน ร่มหัวแม่มันทั้งเมือง” คิดดูซิ แม่มันทั้งเมืองน่ะ มันมีอะไรยกเหลือมันมีอะไรเหลือ มันไม่มีอะไรเหลือแล้ว งั้นขอให้สุญญตานี่ ร่มร่มฟ้า ร่มดิน ร่มหัวแม่มันทั้งเมือง สุญญตา คือความว่างนี่ ขอให้ร่มหัวมันทั้งแม่มันทั้งเมือง ถ้ามันไม่มีความทุกข์ มันก็เป็นนิพพานโดยสมบูรณ์ นิพพานโดยประการทั้งปวง นั่นน่ะจะร่มหัวแม่มันทั้งเมือง คือนิพพานนั่นน่ะ คือสุญญตา จะร่มหัวแม่มันทั้งเมือง หยาบคายมาก เพราะว่ามันจะตายแล้ว รู้สึกว่าไม่มีชีวิตยืนยาวแล้ว มัน ชีวิตนี่มันร่อแร่ มันจะตายอยู่แล้ว มันถึงกล้าพูด กล้าพูดอะไรตรงๆ พูดอะไรเร็วๆ พูดให้เข้าใจกันเร็วๆ
อาตมารู้สึกว่าชีวิตนี้มีความ มีนิมิตแห่งความตายเข้ามาแล้ว บอก บอกแล้วจะต้องตายในเวลาอันไม่นานเสียแล้ว รีบบอกท่านทั้งหลายว่าให้สนใจสิ่งที่สูงสุด ประเสริฐที่สุด สำคัญที่สุด จำเป็นที่สุด คือคำว่าความถูกต้อง ให้ขลังสักหน่อยก็จะใช้คำว่า สัมมา สัมมา สัมมัตตัตตา เป็น ความถูกต้อง ลุกไปจากนี่อย่าให้ความถูกต้องกระจาย ละลายไปเสียหมด ขอให้เอาความถูกต้องยึดไว้เป็นหลักให้จนได้ ความถูกต้อง ความถูกต้อง ความถูกต้อง ความถูกต้อง ทบทวนอีกหน่อยว่า ถูกต้องทางกาย ถูกต้องทางจิต ถูกต้องทางตัวตนหรืออัตตา และก็ถูกต้องทางความว่าง คือ สุญญตา ให้เข้าใจคำพูดที่ๆ ลึกๆ ที่ว่าตลิ่งมันไหล คือสังขาร สังขารมันไหล ถ้ามันเป็นวิสังขาร มันไม่ใช่สังขารแล้ว ไม่มีอะไรไหล มีแต่ความว่าง งั้นขอให้รู้จักสังขารว่าปรุงแต่ง แล้วก็ไม่ว่าง วิสังขารไม่ปรุงแต่งแล้วมันก็ว่าง นั่นละคือยอดสุดของ สัมมา สัมมา
ขออภัยถ้ามันพูดคำหยาบ พูดอะไรเป็นคำสะกิดกันแรงๆ แล้ว มันก็ขอให้ให้อภัยเพราะว่ามันจำเป็นรู้สึกว่ามันจำเป็นเสียแล้วที่จะต้องพูดด้วยคำรุนแรง เพราะมันไม่เขยื้อนเคลื่อนไหว ต้องการให้มันเขยื้อนเคลื่อนไหว ให้มันรู้จัก ให้มันเข้าใจ ให้มันฟังคำนี้เพียงคำเดียวได้ถูกต้องว่า สัมมา สัมมา ถูกต้อง สัมมา สัมมา ถูกต้อง ขอขยายออกเป็น ๔ ถูกต้อง คือ ถูกต้องทางกาย ถูกต้องทางจิต ถูกต้องทางตัวตน และ ถูกต้องทางความว่าง นี่ก็มันไม่มีอะไรจะพูดแล้ว เพราะพูดเสร็จหมดแล้ว พูดเสียจบแล้ว พูดจนไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ถ้าคุณรู้เรื่อง สัมมา สัมมา ใน ๔ ความหมายนี่แล้ว ไม่มีเรื่องอะไรจะพูดอีกแล้ว ไม่มีเรื่องอะไรที่เหลือไว้ให้พูดอีกแล้ว หรือจำเป็นจะต้องพูด มันไม่มีแล้ว มันพูดเสียครบถ้วนแล้วว่า สัมมา สัมมา ถูกต้องโดยทางกาย โดยทางจิต โดยทางตัวตน โดยทางสุญญตาคือความว่าง
นี่อาตมารู้สึกเหนื่อยแล้ว ดื้อหมอ หมอเขาไม่ให้พูดก็พูด ชักจะดื้อหมอแล้ว หมอว่าอย่าให้พูด ขอให้พูดไม่ต้องพูด แต่เดี๋ยวนี้มันดื้อหมอ แต่เพราะเหตุที่เห็นว่า ไอ้คำนี้มันสำคัญมาก สำคัญเหลือเกิน มีค่าเหลือ เกิน จึงขอพูด ถ้าว่ามันจะตายลงเดี๋ยวนี้ ก็ขอสมัครตายให้ได้พูดไอ้สิ่งที่มันมี คำที่มีความสำคัญที่สุด พูดแล้วตายก็ สัมมา สัมมา สัมมา ถูกต้องทางกาย ถูกต้องทางจิต ถูกต้องทางตัวตน ถูกต้องทางความว่าง แล้วก็ขอเตือนไว้อีกหน่อยว่า อย่าลืมเรื่องต้นส้มซ่า ต้นส้มซ่าที่พุ่มดก ร่มหัวแม่มันทั้งเมือง มีเท่านี้ ถ้ามันเป็นสัมมาจริง สัมมาจริง มันมีความว่าง แล้วมันก็เป็นพุ่มของต้นส้มซ่า ที่ร่มหัวแม่มันทั้งเมือง
ขอยุติการบรรยาย ด้วยคำหยาบเพื่อเข้าใจง่าย ด้วยกันเพียงเท่านี้นะ ขอยุติการบรรยาย ขอให้ไปจัดทำ
ไอ้การศึกษา สนทนา มีความรู้ ความเข้าใจต่อไปๆ จนกว่าจะหมดเวลารุ่งสว่าง แต่ขอย้ำ ขอยืนยัน ขอรับประ กันว่ามันไม่มีอะไรมากไปกว่า คำว่าความถูกต้อง หรือ สัมมา ปัญหาทางการเมืองจะหมดสิ้นไป ถ้ามันมี สัมมา คือความถูกต้อง ไม่มีความถูกต้องแล้วให้มันทำกันจนตายแล้วตายเล่ากี่ร้อยชาติ พันชาติ มันก็ไม่มีความสงบทางการเมือง ทางเศรษฐกิจ และทางสังคม
ขอยุติการพูดในวันนี้ เพียงคำพูดคำเดียวว่า ความถูกต้อง ความถูกต้อง มันผิดมาเป็นพันๆ ปีแล้ว มันไม่มีความสงบ มันผิดมันทำผิดมาเป็นพันๆ ปีแล้ว ขอให้มันถูกถูกเสียที เป็นความถูกต้อง เป็นความสงบ แล้วก็สันติ แล้วก็มัชฌิมา แล้วก็นิพพาน