อย่างแรก นี่ต้องมาหาความรู้ หรือหาธรรมะ แต่ว่าพร้อมกันนั้น ก็อยากจะขอให้ ใช้คำว่า Retreat เราจะมี Retreat ที่ตรงตามความหมายของคำว่า Retreat เราจะทำความเข้าใจของคำๆนี้ อ่า, กันให้ชัดเจน

/เสียงภาษาอังกฤษ/

ท่านที่เป็นฝรั่งก็ทราบอยู่แล้วว่า Retreat นี่ โดยตัวหนังสือ มันหมายถึงอะไร มันหมายถึงการเอาธงลง ลดธงลง หรือว่าการพักรบ พักการทะเลาะวิวาท หรือการหลบเข้าไปอยู่ในมุมสงบ รวมๆกันหมดนี่แล้ว ก็อยากจะใช้คำพิเศษสักคำหนึ่งว่า Retreat คือ หยุดบ้า หยุดบ้า เลิกบ้า หยุดบ้า นี่จะเป็นความหมายทางธรรมะ ที่ดีที่สุด สำหรับคำว่า Retreat

/เสียงภาษาอังกฤษ/

ธรรมดาคนเรา มีชีวิตอยู่เหมือนกับคนบ้า อย่างภาษาไทยนี่ เอ่อ, บ้ากิน บ้ากิน พูด แล้วก็บ้ากาม Flesh นี่ แทนกาม แล้วก็บ้าเกียรติ Fame อืม, บ้าพูด บ้า Flesh บ้า Fame ท่านก็ไปดูเอาเองว่ามันบ้ากันกี่มากน้อย ในโลกนี้มันบ้ากันกี่มากน้อย Retreat แหละก็หยุด ๓ อย่างนี้ บรรเทาหรือว่าลดมันเสีย จึงจะมีความหมายของคำว่า Retreat

/เสียงภาษาอังกฤษ/

การศึกษาธรรมะของเรา แล้วก็ปฏิบัติให้ได้นี่ มันเป็นการหยุดบ้าในสิ่งทั้ง ๓ นี้

/เสียงภาษาอังกฤษ/

ชีวิตฆราวาส เรียกกันสั้นๆว่า อ่า, เต็มไปด้วย Toil ,Need Toil and need นี่ And then upright in a household life it’s filled with toil and need. ไอ้ Toil and need นี่คือบ้า แต่ว่ามา Retreat นี่ Free and high at the open sky. It’s the light to homeless lead. ใช้เปรียบเทียบคำว่า Re… Retreat ให้มันออกไปเสียจาก Toil and need

/เสียงภาษาอังกฤษ/

เราจะแยกดูเป็นคำๆว่า Retreat หมาย เอา เอาธงลง ลดธงลง นี่เป็นความหมายที่ดีที่สุดในพุทธศาสนา ทุกคนมันยกธงขึ้นมา ด้วยกิเลส ตัณหา มานะ ทิฏฐิ นี่เรียกว่าธง มัน มันยกธง มันแสดงมานะ ทิฏฐิ กิเลส ตัณหา ลดอันนี้ลง ก็เรียกว่าลดธง คำว่า Retreat ตรงกับการปฏิบัติธรรม คือลดตัณหา มานะ ทิฏฐิ

/เสียงภาษาอังกฤษ/

สำหรับคำว่า พักการรบ หยุดการรบ นี่ก็เป็นความหมายทางธรรมะอย่างยิ่ง เพราะว่าเรามีการรบ รบกันอย่างเหน็ดเหนื่อย ก็รบด้วยกิเลส รบด้วยกิเลส รบกันอย่างเหน็ดเหนื่อย ทีนี้เราก็มี อ่า, ความสงบ คือว่ารบชนะ หรือว่าแม้ไม่ชนะ เราก็มีวิธีที่จะหยุดพักการรบ หาความพักผ่อน การหยุดพักการรบนี้แม้ชั่วคราว ก็เรียกว่า Retreat ด้วยเหมือนกัน

/เสียงภาษาอังกฤษ/

ความหมายอีกความหมายหนึ่ง ก็ว่า หยุดวุ่นวาย หยุดการวุ่นวาย หยุดวิกฤต Crisis หยุดวุ่นวายเหล่านี้เสีย เรามันวุ่นวาย กันอยู่ตลอดเวลา ในภาษาธรรมะ เอ่อ, ก็พูดว่า กลางคืนน่ะ อัดควัน อัดควัน คือว่ามีความกดดัน มีความเครียด มีความคิด มีความวุ่น เอ่อ, วุ่นวายด้วยความคิด พอกลางวันก็เป็นไฟ ลุกโพลง โพลงๆๆ คือไปทำนั่นทำนี่ อย่างนั้นอย่างนี้ แสดงบทบาท แม้กลางคืนนอนหลับก็ยังฝัน ด้วยอำนาจของความเครียด นี่ภาษา อ่า, ไทยก็มีง่ายๆว่า กลางคืนอัดควัน ไว้ พอกลางวันก็ลุกเป็นไฟ คำนี้มาจากบาลี นี่ก็หยุดอัดควัน หยุดลุกเป็นไฟเสีย ก็เรียกว่า มีสันติภาพ มีสันติในชีวิต

/เสียงภาษาอังกฤษ/

ในภาษาไทยก็พูดกันติดปากทั่วไปว่า บ้าบุตร ภรรยาสามี บ้าข้าว บ้าของ บ้าเงิน บ้าทอง เรือกสวน วัวควาย ไร่นา บ้าชื่อเสียง บ้าเกียรติยศ ซึ่งมันบ้าหรือเมา ยิ่งกว่าเมาเหล้า หรือบ้ายิ่งกว่าคนในโรงพยาบาลบ้า ไปเสียอีก

/เสียงภาษาอังกฤษ/

แล้วในที่สุด /หัวเราะ/ ที่จะต้อง คิดว่า มีบ้าธรรมะ ท่านทั้งหลายมาที่นี่ เพราะบ้าธรรมะหรือเปล่า ถึงยังมีอีกบ้าหนึ่ง คือบ้าวิปัสสนา นี่เป็นความจริง คนนี้มันคิดมาก มันจะหาวิธีมีฤทธิ์ มีเดช มีปาฏิหาริย์ มันก็มาทำวิปัสสนาเพื่อให้ได้ฤทธิ์ ได้เดช ได้ปาฏิหาริย์ไปหาทางเอาเปรียบคนอื่น แล้วมันเลยบ้า นี่มันบ้าวิปัสสนา ยังมีบ้าที่น่ากลัวอีกบ้าหนึ่ง สุดท้ายนี่ บ้าธรรมะก็ได้ บ้าวิปัสสนาก็ได้ ก็เรียกได้เหมือนกัน

/เสียงภาษาอังกฤษ/

แล้วทีนี้ก็มาดูที่บ้ากันทั้งโลก บ้ากันทั้งโลกเลย รัก Positiveness แล้วก็ เกลียด Negativeness นี่คือบ้ากันทั้งโลก บ้ากันที่สุด ไม่ต้องบ้า ไม่ต้องรัก Positive ไม่ต้องเกลียด Negative นั่นจึงจะหายบ้า

/เสียงภาษาอังกฤษ/

จะไปบ้ามันทำไม ไปรัก Positive แล้วเกลียด Negative บ้านี่ จะไปบ้ามันทำไม เพราะว่าถ้าไปบ้ามัน มันจะกัดเอา Positive ก็กัดเอา แบบ Positive , Negative ก็กัดเอาแบบ Negative ฉะนั้นไม่ต้องบ้าทั้ง ๒ อย่างนั่นแหละดี

/เสียงภาษาอังกฤษ/

              Positive ทำให้เรารัก รักจนเป็นบ้า Negative ก็ทำให้เราเกลียด ให้เราโกรธ จนเป็นบ้า มันไม่ไหวทั้งนั้น สู้ไม่บ้า โดยประการทั้งปวงไม่ได้

/เสียงภาษาอังกฤษ/

เราควรจะมองดูให้ดีว่า ถ้าเราบ้า ในสิ่งใด เราก็กลายเป็นทาส เป็นทาสน่ะ Slave ของสิ่งนั้น ยิ่งกว่าทาสที่ซื้อไป ขายไปใช้ ไปทำงานอย่างแขกดำ ทาสอย่างนี้ร้ายกาจมากกว่า เลวร้ายมากกว่า เป็นทาสของ Positive แล้วก็เป็นทาสของ Negative เดี๋ยวต้องรัก เดี๋ยวต้องโกรธ เดี๋ยวต้องรัก เดี๋ยวต้องโกรธ เดี๋ยวก็ยินดี เดี๋ยวก็ยินร้าย นี่โทษของมัน

/เสียงภาษาอังกฤษ/

จึงขอให้เห็นข้อนี้เสียก่อนเถอะ จะเห็นความจำเป็นในการที่จะมีธรรมะ Retreat ถ้าเรารักเงิน เราก็เป็นทาสของเงิน แม้ที่สุดก็ถ้าเรารักรถยนต์ เราก็เป็นทาสของรถยนต์ ถ้าเรารักหมาของเรา เราก็เป็นทาสของหมาของเรานี่ ไปรักอะไรเข้ามันก็เป็นทาสของสิ่งนั้น มันไม่ใช่ความสงบ มันแถมเป็นความบ้า หรือเป็นความหลงชนิดใดชนิดหนึ่ง เดี๋ยวนี้เราจะมาพูดกันถึง Retreat เพื่อจะหยุดบ้า

/เสียงภาษาอังกฤษ/

ทีนี้เราอยากจะมี Appetite อยากจะมี Appetite ใน Retreat ขอให้มองเห็นโทษ ของการที่มันไม่ Retreat ซึ่งเราจะได้พิจารณาดูกันให้ละเอียด

/เสียงภาษาอังกฤษ/

เราจะต้องดูให้เห็นโทษ ของความไม่ Retreat โทษของความบ้า ในชีวิตประจำวัน อาตมาจะ ยกตัวอย่างมาสักจำนวนหนึ่ง จำนวนหนึ่งมากพอ ที่จะเห็นโทษของมัน จำเป็นที่จะต้องออกชื่อ คราวเดียวกันหมด แล้วท่านสันติกโร จะค่อยอธิบายทีละอย่างให้ท่านฟังว่า เราถูกกัด ถูกตบ ถูกตีอยู่ด้วย Positiveness and negative นี่แหละ คืออะไรบ้างนะ คือด้วย ความรัก ความโกรธ ความเกลียด ความกลัว ความตื่นเต้น ความวิตกกังวล ความอาลัยอาวรณ์ ความอิจฉาริษยา แล้วก็ความหึง ความหวง ความหึงทางเพศ นี่ นี่ท่านคงจะจำไม่ไหว มันตั้งสิบกว่าอย่างแหนะ ท่านสันติกโรจะช่วยอธิบายให้ท่านทีละอย่าง

บอกเขาทีเดียวหมดได้ไหม ความรักความโกรธความเกลียดความหลง

/เสียงภาษาอังกฤษ/

สิ่งนี้มีอยู่ทุกวัน ทุกวัน ทั้งคืนทั้งวัน แล้วก็ไม่รู้จัก แล้วก็ไม่รู้จัก ต้องรู้จักสิ่งนี้ ต้องรู้จักสิ่งเหล่านี้ แล้วก็จะมี Appetite กันใน Retreat จะมี Retreat ได้โดยง่าย ช่วยอธิบายว่าความรักมันกัดอย่างไร ความรักมันกัดคู่รัก รักสิ่งใดก็ถูกสิ่งนั้นกัด นี่เรียกว่าความรัก

/เสียงภาษาอังกฤษ/

เรารักสิ่งใดสิ่งนั้นแหละมันกัด แล้วมันก็กัดหัวใจด้วย กัดหัวใจด้วย /หัวเราะ/ แล้วเราก็ยังบูชาความรักกัน นี่บ้ากี่มากน้อย ขอให้คิดดู

/เสียงภาษาอังกฤษ/

ทีนี้ก็ความโกรธ ความโกรธ ความโกรธนี่เหมือนกับไฟ พอเราโกรธใครมันเผาเราก่อน มันไม่ได้เผาคนโน้นหรอก พอเราโกรธใคร มันไฟเผาเราก่อนไม่ได้เผาคนที่เราโกรธ นี่มันโง่สักเท่าไร แล้วทำไมเราจึงชอบโกรธ

/เสียงภาษาอังกฤษ/

ถ้าเราเกลียดใคร เราเกลียดใคร เราก็นอนไม่หลับเอง นี่มันบ้าสักเท่าไร ที่จะไปเกลียดใคร มันไม่ต้องไปเกลียดเขา แม้ว่าเราไม่ชอบเขาเราก็ทำอันตรายเขาไม่ได้ด้วยความเกลียดของเรา เราก็ทำลายตัวเอง มันไม่ไปทำลายคนที่เราเกลียด ความเกลียดมันทำลายเราเอง มากัดหัวใจเรานี่ ความเกลียด

/เสียงภาษาอังกฤษ/

ทีนี้ก็มาถึงความกลัว ความกลัว รู้สึกว่าท่านทั้งหลายอาจจะรู้จักความกลัวมากกว่าอาตมา อาตมายังกลัวน้อย ท่านทั้งหลายยังกลัวนั่นกลัวนี่ กลัวปรมาณู กลัวอะไรมากกว่าอาตมา รู้เอาเองว่าความกลัวมันกัดอะไร มันกัดจิตใจ กัดเท่าไร

/เสียงภาษาอังกฤษ/

ทำไมคำว่า อาณาจักรแห่งความกลัว คำพูดคำนี้มันเกิดขึ้นมาได้ อาณาจักรแห่งความกลัว มันครอบงำจิตใจคนทุกคนในโลก กลายเป็นอาณาจักรแห่งความกลัว นี่ไม่ไหว มันก็กัดอย่าง กัดไม่มีหยุดไม่มีหย่อน นอนหลับก็ยังกัด ไม่ Retreat ถ้ามีความกลัว

/เสียงภาษาอังกฤษ/

ทีนี้ก็ความตื่นเต้น ตื่นเต้น Excite ตื่นเต้น ทำไมเราชอบความตื่นเต้น ทำไมเราจึงชอบให้มีอะไรมา Excite ให้มันตื่นเต้น ไปดูกีฬา ไปดูมวย ไปดูฟันดาบ ไปดูกายกรรม ไปดูอะไร ไปดูให้มันบ้าน่ะ มันสงบอยู่ดีๆไปดูให้มันตื่นเต้น ตื่นเต้นๆ ก็คืออาการบ้าชนิดหนึ่ง แล้วเราก็ชอบให้มีอะไรมา Inspire ให้มันตื่นเต้นๆ

/เสียงภาษาอังกฤษ/

ที่น่าหัวอีกสิ่งหนึ่งก็คือ Humorism Humorism ท่านลองคิดดูว่าเมื่อเรากำลังถูกกระตุ้นด้วย Humorism นี่ มัน Retreat หรือไม่ Retreat มันต้องเอาออกไป แม้แต่ที่เรียกว่า Humorism ที่ชอบกันนักในทั้งโลกนี้ มันชอบกันนัก มันไม่ใช่ความสงบ

/เสียงภาษาอังกฤษ/

ทีนี้ก็ความ อืม, วิตกกังวลถึงอนาคตที่ยังไม่มาถึง นี่ ที่เรียกกันว่า Hope หรืออะไรก็สุดแท้แต่ ในภาษาไทยเราเรียกกันว่า ความหวัง พวกฝรั่ง ครูฝรั่งมาสอนให้เรามีชีวิตอยู่ด้วย Hope หรือความหวัง ถ้าเป็นเรา เป็นไทยอย่างเดิมๆก็ เรามีชีวิตอยู่ด้วย สติ สติปัญญา สติปัญญา ไม่ให้ Hope เข้ามาครอบงำเรา ไอ้ Hope นี่ มันทำให้วิตกกังวลถึงอนาคต อนาคตจะสร้างวิมานในอากาศกันอย่างไร นี่มันไม่ Retreat เลย ถ้ามีชีวิตอยู่ด้วย Hope ต้องมีชีวิตอยู่ด้วยสติปัญญา

/เสียงภาษาอังกฤษ/

ในชั้นแรกเราก็คิด คิดดู ให้เห็นว่าเราควรจะทำอะไร อะไรมีประโยชน์ เราก็คิด แล้วเราก็ทำ ทำโดยไม่ต้องมี Hope ในระหว่างนั้นไม่ต้องมี Hope ให้มันกัดหัวใจ นี่เราทำด้วยสติปัญญา เราคิดทีแรก คิดให้ออกว่าจะทำอะไร แล้วก็ทำไปด้วยสติปัญญา อย่าให้ Hope ในอนาคตน่ะ เข้ามาครอบงำและกัดหัวใจเรา

/เสียงภาษาอังกฤษ/

Hope ไม่ใช่ Retreat , Retreat ไม่มี Hope ขอให้พยายามมีชีวิตที่ Peace Peaceful ไม่มี Hope ถ้ามี Hope ไม่มี Peacefulness

/เสียงภาษาอังกฤษ/

ทีนี้ก็มาถึงเรื่องอาลัยอาวรณ์อดีต ที่ล่วงลับไปแล้ว ที่มันลืมยาก อ่า, ความคิดถึงอดีตที่เคยรักเคยพอใจ เคยได้เคยมี เคยสนุกสนานเอร็ดอร่อย นี่ก็นึกอาลัยอาวรณ์อยู่เสมอ มันก็ไม่มี Retreat เหมือนกัน ฉะนั้นเราจะต้องเอาออกไป เอาออกไป ความอาลัยอาวรณ์ในอดีต เช่นเดียวกับที่ไม่หวังในอนาคต และไม่อาลัยอาวรณ์ในอดีต นี่ก็เป็นข้อสำคัญข้อหนึ่ง อย่าให้สิ่งที่ล่วงแล้วไปแล้วน่ะ มากัดเราอีกเลย

/เสียงภาษาอังกฤษ/

ทีนี้ก็มาถึงอิจฉาริษยา อิจฉาริษยา ภาษาอังกฤษจะมีตรงตามความหมายของคำว่า ริษยา หรือไม่ ตามหลักธรรมะในพุทธศาสนานี่ ความริษยาน่ะ จะเป็นสิ่งทำโลกให้วินาศ ทำโลกให้ฉิบหาย ทำโลกให้วินาศ โลกจะวินาศ อ่า, เพราะความริษยา นี่ขอให้รู้จัก ริษยาโดยใจความสำคัญเสียทีก่อน ว่าจะทำโลกให้วินาศ

/เสียงภาษาอังกฤษ/

เมื่อ Capitalist ริษยา Communist , Communist ริษยา Capitalist โลกก็ฉิบหาย

/เสียงภาษาอังกฤษ/

ผู้หญิงคนนี้ไม่สวยก็ริษยาผู้หญิงคนที่สวยกว่า คนนี้ยากจนก็ริษยาคนที่มั่งมีกว่า คนนี้ไม่มีอำนาจวาสนา ก็อิจ…ริษยาคนที่มีอำนาจวาสนา แล้วมันจะอยู่กันด้วยความสงบได้อย่างไร ความริษยาน่ะมันกัดตัวเองที่สุด กัดตัวเองที่สุด แล้วก็ไม่ไปกัดผู้ที่เราริษยาหรอก ป่วยการ

/เสียงภาษาอังกฤษ/

ริษยาไม่ใช่ Retreat , Retreat ไม่ใช่ริษยา ฉะนั้นต้องเอาออกไป ต้องเอาออกไป ไม่ให้มีอยู่ในหัวใจ

/เสียงภาษาอังกฤษ/

ทีนี้ก็มาถึง อ่า, หวง ความหวงน่ะทำให้เราไม่มี Generosity ไม่มีอะไรอย่างนั้น เราหวง หวง เราอยากจะเอาทั้งโลกด้วยซ้ำไป ไอ้ความหวงน่ะ มีความ อ่า, มีขอบเขตกว้าง แล้วก็มาถึงความ หึง นี่เฉพาะเรื่องเพศ เรื่องเพศเรื่องความรัก เรื่องฆ่ากันตายเพราะความหึง นี่ ความหวงมันกว้าง และความหึงมันจุด Condense เสียมากทีเดียวของความหวง ทั้ง ๒ อย่างนี้ไม่ใช่ Retreat ต้องเอาออกไป

/เสียงภาษาอังกฤษ/

ความหึงมัน Condense มาจาก ความหวง มันก็เข้มข้นที่สุด มันกัดหัวใจ แล้วมันมีได้แม้แต่เด็กๆ เด็กๆที่มันไม่…ยังไม่มีความรู้สึกทางเพศ เด็กเล็กๆน่ะ มันก็มีความหึง อย่างนี้เขามีดินสอสวย มีปากกาสวย มีหนังสือสวย เขาก็ไม่อยาก ไม่อยากให้เด็กคนอื่นมาจับหรือมาแตะต้องของเขานี่ เขาหึงได้แม้แต่ตุ๊กตา หรือเครื่องใช้ เครื่องเรียน เขาก็มีความหึงได้ แล้วมันก็กัดหัวใจเขาเหมือนกัน อ่า, ความหึงมัน Condense มาจากความหวง ทั้งหวงและทั้งหึงต้องเอาออกไป มันไม่ใช่ Retreat เลย มันบ้า บ้าชนิดหนึ่ง

/เสียงภาษาอังกฤษ/

ขอโอกาส Numbering Numbering กับมันอีกที ท่านสันติกโรช่วยแปลดีให้ดี ทีีละคำ ความรัก

/เสียงภาษาอังกฤษ/

ความรัก / ความโกรธ / ความเกลียด / ความกลัว / ความตื่นเต้น / ความวิตก อ่า, ไปทางอนาคต / ความกังวลไปทางอดีต / อิจฉาริษยา (เสียงขาดหาย 50.55 – 50.57) / ความหวง / แล้วก็หึง /

ช่วยไปหาคำแปลให้ดีที่สุด มันสำคัญ มันเป็นชื่อของศัตรู ศัตรู เป็นซาตาน เป็นมารเป็นอะไรทั้งหมด อยู่ที่สิ่งเหล่านี้ เดี๋ยวนี้เราต้องการ Retreat Retreat คือต้องออกไปจากความบ้า ทั้งหมดนี้ ความบ้าทั้งหมดนี้ ต้องลดลงๆแล้วก็หมดไป จนสิ้นเชิง จึงจะมีสิ่งที่เรียกว่า Retreat

/เสียงภาษาอังกฤษ/

เดี๋ยวนี้ท่านทั้งหลายมาที่นี่ เพื่อจะมาร่วม มา Attend มา Participate ไอ้ Retreat ท่านจึงต้องรู้จัก สิ่งที่มันไม่ใช่ Retreat เสียก่อนอย่างที่เราได้พูดกันมาแล้วค่อนข้างจะยืดยาว นี้มันไม่ใช่ Retreat มันเป็นความบ้า ถ้าเป็น Retreat มันจะต้องลดความบ้า ลดความบ้า จนไม่มีความบ้า นี่เราจึงต้องมารู้จัก ไอ้ตัวปัญหา ตัวปัญหาเสียก่อน คือความบ้า เราจะเลิกเพิกถอนมันออกไปได้โดยวิธีใด ฉะนั้นขอให้ท่านสนใจ จนมี Appetite Appetite อย่างยิ่งใน Retreat แล้วก็จะสำเร็จได้ ตามที่ต้องการ

/เสียงภาษาอังกฤษ/

ข้อสุดท้ายที่จะต้องระวังก็คือ Appetite นั่นเอง ถ้ามัน Appetite ด้วยกิเลสตัณหามันก็เป็นบ้า อยู่ใน Appetite ต้อง Appetite ด้วยสติปัญญา มันจึงจะเป็นไอ้ Appetite ที่ถูกต้อง คือมันประกอบอยู่ด้วยสติปัญญา มีความประสงค์ด้วยสติปัญญา นี่ ขอให้ Appetite ที่ถูกต้องคือด้วยสติปัญญา อย่าด้วยกิเลสตัณหา

/เสียงภาษาอังกฤษ/

ถ้าท่านมี เอ่อ, ถ้าท่านมี Appetite ที่ถูกต้องนั่น Appetite ด้วยสติปัญญา ท่านจะมีความสุขความพอใจ ตลอดเวลา ๑๐ วันที่ Retreat จะสนุกจะพอใจทุกวัน ทุกวัน จะอดทนได้ กี่วันก็ทนได้ แต่ถ้ามันมี Appetite ด้วยกิเลสตัณหาแล้ว มันทนไม่ได้ถึง ๑๐ วันน่ะ มันต้องหนีไป ขอให้มี Appetite ให้ถูกต้อง จึงจะมี Retreat ได้ครบถ้วนสมบูรณ์

/เสียงภาษาอังกฤษ/

ในชั้นแรกนี้ท่านจะต้องทำความเข้าใจว่า ที่มันไม่ Retreat ที่มันบ้า บ้า ไม่ Retreat น่ะมันมาจากอะไร มันมาจากอะไร ถ้าจะรู้ข้อนี้ เราต้องศึกษา เรื่องปฏิจจสมุปบาท เรื่องปฏิจจสมุปบาทจะบอกให้ท่านทราบ อย่างชัดเจนแจ่มแจ้งว่า ไอ้ปัญหามันเกิดมาจากอะไร ความทุกข์มันเกิดมาจากอะไร ไอ้ความที่เลวร้าย ทั้ง ที่ได้ออกชื่อมาแล้ว ความรัก ความโกรธ ความเกลียด ความกลัว เป็นต้นนี้ มันเกิดมาจากอะไร ขอให้ท่านมีความพอใจ อดทนศึกษาเรื่องปฏิจจสมุปบาท ซึ่งอาจารย์เขาจะได้อธิบายให้ฟังว่ามันเป็นอย่างไร มันเป็นอย่างไร ความทุกข์หรือปัญหามันจึงเกิดขึ้น และเป็นอย่างไรๆ มันจึงจะดับลงไป คือหมดบ้า แล้วต้องรู้โดยทฤษฎีนี้ก่อน แล้วเราจึงจะทำมันอย่าง by practice คืออานาปานสติ

/เสียงภาษาอังกฤษ/

อาตมาขอร้องอย่างยิ่ง ขอให้ท่านทั้งหลายอดทน พอใจ พอใจก็ไม่ต้องอดทน ถ้าไม่ค่อยจะพอใจ ก็ขอให้อดทนๆๆ ที่จะศึกษาเรื่องปฏิจจสมุปบาท ให้เข้าใจ ให้เข้าใจ แล้วท่านจะรู้เรื่องปัญหาหรือความบ้า นี่ มันเกิดขึ้นมาอย่างไร จะรู้หมดในแง่ของ When ในแง่ของ Where ในแง่ของ Why ในแง่ของ How ,When Where Why How ที่มันจะเกิดขึ้นมาได้อย่างไรนี้ จะรู้ ชัดเจนโดยการศึกษาเรื่องปฏิจจสมุปบาท แล้วจะสามารถ หยุดมันเสียได้ Retreat จะมี Retreat จะมีเพราะเหตุนี้

/เสียงภาษาอังกฤษ/

แล้วก็ยังมี เป็นเรื่อง Private Private สักหน่อยอีกเรื่องหนึ่ง แต่ขอพูดด้วย บางท่านอาจจะไม่ต้องการ คือพระพุทธเจ้าน่ะ ท่านได้ตรัสไว้ว่า “ผู้ใดเห็นปฏิจจสมุปบาท ผู้นั้นเห็นธรรม ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นฉัน” การเห็นปฏิจจสมุปบาทนั่นคือการเห็นพระพุทธเจ้า ขอให้ท่านสนใจในแง่นี้สักหน่อยแม้มันจะ ออกจะ Private

/เสียงภาษาอังกฤษ/

แม้จะเห็นร่างกายตัวจริงของพระพุทธเจ้าเมื่อ ๒๐๐๐ กว่าปีมาแล้ว พระพุทธเจ้าก็ตรัสว่าไม่ใช่ฉัน ไม่ได้เห็นฉันน่ะ เห็นร่างกายฉันอยู่กับฉัน จับตัวฉันไว้ก็ไม่เห็นฉัน ต่อเมื่อเห็นธรรมะ คือปฏิจจสมุปบาท จึงจะเห็นฉัน ในอินเดียมีคนเป็นอันมากเห็นพระพุทธเจ้าแล้วก็เกลียด แล้วก็โกรธ คิดฆ่าพระพุทธเจ้าก็มี มันเพียงเห็นร่างกาย มันไม่เห็นพระพุทธเจ้า คนจะอ่านพุทธประวัติที่เขียนกันมากมาย ก็ไม่เห็น พระพุทธเจ้าหรอก มันเป็นพระพุทธเจ้าองค์อื่น พระพุทธเจ้าในประวัติศาสตร์ ไม่ใช่ๆ พระพุทธเจ้าพระองค์จริง คือปฏิจจสมุปบาท เป็น Eternity ตลอดเวลา นี่ขอให้พยายามเห็นปฏิจจสมุปบาท แล้วท่านจะเห็น สิ่งที่ดับทุกข์ได้ ดับทุกข์ได้ ดับทุกข์ได้นั่นน่ะ คือเห็นพระพุทธเจ้า เราเรียกว่าเป็น Private หรือของแถมพก ท่านจงพยายามเห็นปฏิจจสมุปบาท แล้วท่านก็จะเห็นพระพุทธเจ้าพระองค์จริง แม้เดี๋ยวนี้แม้จะล่วงลับไปแล้ว ๒๐๐๐ กว่าปีแล้ว ก็พระพุทธเจ้าองค์จริงจะมีมาให้เห็น (นาทีที่ 1.06.33 - 1.06.37) คือไม่ทั่วไป ไม่ทั้งหมด

/เสียงภาษาอังกฤษ/

เราพูดได้ว่าเห็นพระพุทธเจ้า กับเห็นพุทธศาสนาที่แท้จริงนั่นน่ะ คือสิ่งเดียวกันแหละ ถ้าเห็น พระพุทธเจ้าแล้วจะเห็นพุทธศาสนาที่แท้จริง เดี๋ยวนี้เราเห็นพุทธศาสนาแต่ตัวหนังสือ พุทธศาสนาเรื่องที่ ไม่ใช่พระพุทธเจ้าที่แท้จริง ไม่ใช่พุทธศาสนาที่แท้จริง จะเห็นพุทธศาสนาที่แท้จริงก็ต้อง เห็นปฏิจจสมุปบาทด้วย ด้วยเหมือนกัน การเห็นปฏิจจสมุปบาทจะช่วยให้เห็น พุทธศาสนาที่แท้จริง และพระพุทธเจ้าที่แท้จริง พร้อมกันไปในตัว ขอให้อดทน อดทน ทำความเข้าใจเรื่องปฏิจจสมุปบาทให้ได้

/เสียงภาษาอังกฤษ/

เห็นปฏิจจสมุปบาท คือเห็นเนื้อใน เนื้อใน เนื้อ ตัววิญญาน ตัว Essence ตัวเนื้อในของพุทธศาสนา ถ้าไม่เห็นปฏิจจสมุปบาท แม้จะเรียนจะอ่านหนังสือมากมายเท่าไร ก็เห็นเปลือก เปลือกของพุทธศาสนา ขอให้เราพยายามเห็นปฏิจจสมุปบาท ขอให้การมาที่นี่ของท่านทั้งหลายน่ะ เห็นปฏิจจสมุปบาท เห็นปฏิจจสมุปบาทนั่นน่ะ จะทำให้มี Retreat ที่ยิ่งขึ้นไป อาศัย Retreat ทีแรกเพื่อเห็นปฏิจจสมุปบาท ครั้นเห็นปฏิจจสมุปบาทแล้ว มันจะมี Retreat อย่างยิ่ง จนไม่มีปัญหาเหลือ

/เสียงภาษาอังกฤษ/

เราจะเห็นปฏิจจสมุปบาทที่ไหน นี่ จะใช้คำว่าที่ไหน ก็ต้องเห็นภายใน ข้างใน ข้างในจิตใจ คือในตัวเรา และในจิตใจ เห็นข้างในจิตใจ แล้วจะเห็นด้วยอะไร ต้องเห็นด้วยจิตใจที่ปรับปรุงดีแล้ว จัด…จัดแจงดีแล้ว อบรมดีแล้ว ดังนั้นเราจึงทำ อานาปานสติ อานาปานสติ เพื่อให้เรามีจิตใจที่ เตรียมพร้อมดีแล้ว เพื่อจะเห็น ปฏิจจสมุปบาทนั้นข้างใน ดังนั้น อานาปานสติจึงจำเป็นมาก จำเป็นมาก ที่จะช่วยให้เรามีจิตใจที่พร้อมที่จะเห็น ปฏิจจสมุปบาท อ่า, โดย Experience ทีเดียวที่ข้างใน ไม่ใช่เพียงอ่านๆฟังความ ฉะนั้นขอให้สนใจ อานาปานสติด้วย ท่านจะสามารถเห็นปฏิจจสมุปบาท ในข้างใน นี่ พร้อมกันไปในตัวแหละ เตรียมจิตใจพร้อม แล้วก็เห็น ถึงที่สุด ด้วยการทำอานาปานสติ

/เสียงภาษาอังกฤษ/

ขอให้พยายาม สุดความสามารถ ปฏิบัติอานาปานสติ แล้วการปฏิบัตินั้นจะช่วยให้เรา เห็นอย่าง Realize Realize ต่อปฏิจจสมุปบาท แล้วก็จะรู้อย่าง Experience ต่อปฏิจจสมุปบาท การรู้การเห็นปฏิจจสมุปบาทอย่างนี้ มันจะกำจัดไอ้ความบ้าทั้งหลายทั้งหมด ออกไปเสียได้ ความบ้าทั้งหลายออกไปเสียได้แล้ว ก็จะมี Retreat Retreat สูงสุด สูงสุด เป็นนิพพานไปเลย ขอให้สนใจปฏิบัติอานาปานสติอย่างเต็มความสามารถ ด้วยกันจงทุกคน ทุกคน

/เสียงภาษาอังกฤษ/

ปฏิจจสมุปบาทจะให้สิ่งที่มีค่าที่สุด คือกำจัดปัญหา กำจัดปัญหา แล้วอานาปานสติก็จะให้ ปฏิจจสมุปบาท น่ะ แจ่มแจ้งอยู่ในใจตลอดเวลา เราก็เป็นคนที่มีความรู้แจ้ง แล้วก็มีความสงบเย็น แล้วก็มีความบริสุทธิ์ เป็นชีวิตใหม่ ชีวิตที่เรายังไม่เคยมี จึงมีความสะอาดบริสุทธิ์ มีความสงบเย็น มีความแจ่มแจ้ง นี่ เป็นชีวิตใหม่ ขอให้ถือว่ามันเป็นชีวิตใหม่ แล้วก็เป็นชีวิตที่มี Retreat สูงสุดอยู่ในตัว ก็ได้รับสิ่งสูงสุดที่มนุษย์ควรจะได้รับอยู่แล้ว ขอให้ท่านพยายาม ในอานาปานสติ และเห็นปฏิจจสมุปบาท มีสติในปฏิจจสมุปบาทอยู่ทุก…ทุกวินาที ทุกกระเบียดนิ้ว นั่นแหละเรื่องความมุ่งหมาย ขอให้สำเร็จตามความมุ่งหมายด้วยกันจงทุกคน

/เสียงภาษาอังกฤษ/

ถ้าไม่สามารถจะปฏิบัติถึงที่สุดได้ ภายใน ๑๐ วัน ก็ขอให้ได้ความรู้ ความรู้เพียงพอ ที่เราจะปฏิบัติได้ ด้วยตนเองต่อไป ต่อไป จนกว่าจะถึงที่สุด นี่ ถ้าว่ามันไม่สำเร็จได้ภายใน ๑๐ วัน ก็ขอให้ได้ความรู้เบื้องต้น ครบถ้วนถูกต้อง ต่อไปนี้เราจะปฏิบัติถูกต้อง ให้ชีวิตนี้มันได้หนทางที่ถูกต้อง Way of life ที่ถูกต้อง ถูกต้อง ถูกต้อง ต่อไปจนถึงจุดหมายปลายทาง ขอให้ท่านทั้งหลายได้รับประโยชน์อันนี้ด้วยกันจงทุกคน

/เสียงภาษาอังกฤษ/

ขอขอบคุณท่านทั้งหลาย ที่เป็นผู้ฟังที่ดี สำหรับวันนี้ ขอยุติการบรรยาย ถ้าพรุ่งนี้อาจจะพูดได้อีก ก็จะพูดเรื่องปฏิจจสมุปบาท อ่า, ขอปิดประชุม

/เสียงภาษาอังกฤษ/

              อืม, ปิดประชุม