แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ขออนุโมทนาเนื่องในวันซึ่งทราบกันดีอยู่แล้วว่าเป็นวันปีใหม่ ความสำคัญก็คือ ขอให้มันมีอะไรใหม่ไปในทางดีสมกับปีใหม่ อย่าให้เหมือนปีเก่าหรือต่ำกว่าปีเก่าเลวกว่าปีเก่า จึงจะเป็นปีใหม่ ต้องตั้งใจแท้จริงเป็นสักที่สุดแหละ ที่สุดเลยจึงจะมีอะไรเกิดใหม่ขึ้นมา ขอให้มองเห็นชัดเจนว่าในชีวิตของคนเราเป็นสิ่งที่ปรับปรุงได้ ถึงแม้ว่าจะเป็นธรรมชาติก็เป็นธรรมชาติที่ปรับปรุงได้ ในชีวิตนี้จะต้องปรับปรุงกันตลอดเวลา มันก็จะเป็นไปในทางที่ดีขึ้นๆ แล้วก็จะเต็มถึงที่สุดสักวันหนึ่ง ขอให้เชื่อมั่นในขั้นต้นเสียก่อนว่า ชีวิตเป็นสิ่งที่ปรับปรุงได้ หรือจะพูดให้ง่ายไปกว่านั้นอีก ก็คือ เป็นสิ่งที่เติมธรรมะลงไปได้
ชีวิตของเราเหมือนกับตุ่มน้ำ สามารถจะเติมน้ำใหม่ๆ ลงไปได้ ถ้าน้ำเก่ามันสกปรกมันไม่ดี ก็เทออกเสียหรือไขออกเสีย แล้วก็เติมน้ำใหม่ๆ ที่ดีลงไป ก็เป็นตุ่มน้ำที่มีน้ำดีๆ ชีวิตนี้ก็เหมือนกัน ถ้ามันได้ทำผิดพลาดไปแล้วแต่หนหลัง ก็พยายามเอาออก แล้วก็เติมของใหม่ของดีของถูกลงไป ถ้าไม่เอาออกมันเติมไม่ลง มันจะล้น เราจึงต้องทำให้เติมได้ สิ่งที่เรียกว่าเติมนี้ก็คือ เติมพระธรรม พระธรรมที่เคยมีน้อย เติมให้มาก บางทีมีอธรรม คือธรรมะที่ผิดๆ อยู่มาก ต้องไขออกไป
แต่คำว่าธรรมะหรือพระธรรมนั้นแปลความกันหลายอย่าง คำแปลที่ดีที่สุด ก็คือ เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความเป็นมนุษย์ ทุกขั้นทุกตอนแห่งวิวัฒนาการ ธรรมะคือ สิ่งที่ทำให้เป็นความมนุษย์เพิ่ม ความเป็นมนุษย์เพิ่มขึ้นๆทุกขั้นทุกตอนแห่งวิวัฒนาการ เมื่อก่อนนี้เรามีความเป็นมนุษย์น้อยและไม่สมกับความหมายของคำว่ามนุษย์ แต่เติมธรรมะ เริ่มทำให้เป็นมนุษย์ ลงไปๆๆ แห่งความเป็นมนุษย์มันเพิ่มขึ้น ที่ว่าทุกขั้นตอนของวิวัฒนาการนี้หมายความว่า ตั้งแต่เด็ก จนเติบโต วัยรุ่น หนุ่มสาว พ่อบ้าน แม่เรือน คนแก่ คนเฒ่า คนชรา นี่เรียกขั้นตอนแห่งวิวัฒนาการ ให้มันเต็มถูกต้อง ให้มันเต็มขึ้นทุกๆขั้นตอนของวิวัฒนาการ เป็นเด็กที่ประกอบไปด้วยธรรมะเต็มที่ของเด็ก เป็นวัยรุ่นก็เป็นธรรมะเต็มที่ของวัยรุ่น เป็นหนุ่มสาวก็มีธรรมะเต็มที่ของหนุ่มสาว เป็นพ่อบ้านแม่เรือนก็เต็มที่ของพ่อบ้านแม่เรือน เป็นคนแก่คนเฒ่าก็มีธรรมะเต็มที่ของคนแก่คนเฒ่า อันนั่นแหละคือเต็ม พูดกันหยาบคายก็คือ มันไม่เสียชาติเกิด ถ้ามันได้เกิดมาเติมให้เต็มแล้วมันก็ไม่เสียชาติเกิด ถ้ามันไม่ได้เติมให้เต็มมันก็เสียชาติเกิด หรือมันเต็มด้วยของสกปรกคือไม่ใช่มนุษย์ มันก็เสียชาติเกิด เพราะฉะนั้นช่วยอบรมเด็กๆ ลูกหลาน ทารกของเราให้ดีๆ ให้มันมีความถูกต้อง มาเสียตั้งแต่เล็กๆ แล้วมันจะถูกต้องยิ่งขึ้นและสมบูรณ์ ถ้ามันผิดพลาดมาตั้งแต่เล็กๆ มันก็จะผิดพลาดหรือยากที่จะแก้ไขในภายหลัง ดังนั้นใครมีเด็ก มีลูกมีหลาน มีเด็กเล็กๆในขั้นทารกละก็ต้องอบรมให้ดีๆ ให้เข้าใจอย่างถูกต้องในความเป็นมนุษย์
ถ้าบางอย่างเด็กยังไม่เข้าใจ อธิบายยังไม่ได้ ก็รอไว้ก่อนก็ได้ แต่ว่าแนะให้ทำในสิ่งที่จะต้องทำ และให้ถูกต้องตามเรื่องจริง อย่าหลอกหรือสอนให้เด็กมันโง่ กลัวผี กลัวเสือ กลัวตุ๊กแก กลัวโชคร้าย กลัวอะไรซึ่งมันไม่ ไม่ใช่ความจริง เด็กมันก็โง่และก็แก้ยากภายหลัง ให้เด็กมันรู้ว่าทำดีมันดี ทำชั่วมันชั่ว ทำดีมันจะไม่เดือดร้อน ทำชั่วมันจะเดือดร้อน และเราทำเอง เราเป็นที่พึ่งของตัวเราเอง ในสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นเขาพูดกันแต่ปาก แต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สุดก็คือ เราทำเองนั่นแหละศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ลองทำเถอะ ทำชั่วมันก็ชั่ว ทำดีมันก็ดี นั่นแหละศักดิ์สิทธิ์ที่สุด
ตามหลักพระพุทธศาสนามันต้องช่วยตัวเอง ต้องทำเอง และเป็นที่พึ่งแก่ตัวเอง นั่นแหละคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในการที่เราทำดีที่สุดนั่นแหละคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่ใช่เป็นผีสาง เทวดา พระเจ้า บุคคลอะไรที่ไหน นั่นเป็นโบราณสมัยป่าเถื่อนที่เชื่อกันมาตั้งแต่สมัยป่าเถื่อน สมัยคนป่าเชื่อกันมานานแล้ว และมันยังเหลือมาจนถึงบัดนี้ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริงก็คือ ความดีที่เราทำ ทำให้มาก ทำให้เต็ม จะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ต้องอ้อนวอน พอทำและก็ช่วยแหละ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แท้จริงไม่ต้องอ้อนวอนให้ช่วย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ต้องอ้อนวอนให้ช่วย นั้นปลอม เก๊ กินสินบน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่กินสินบนเราไม่เอา เราไม่ต้องอ้อนวอน ไม่ต้องบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้มาช่วย เราทำให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์มันช่วยทันที ทำดีดี ทำชั่วชั่วทันที เมื่อรักที่จะทำดี ให้เต็มที่ ให้สุดความสามารถไว้เสมอ พอทำแล้วมันก็จะช่วยแหละ ไม่ต้องอ้อนวอนว่า จงช่วย จงช่วย เพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริงเท่านั้นเองจะช่วยเอง
เราเป็นพุทธบริษัท ไม่ถือไสยศาสตร์ ไม่อ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไหนมาให้ช่วยอีก แต่พยายามให้สิ่งที่เราทำดีและศักดิ์สิทธิ์นั้นแหละ ช่วยทันทีเลย ช่วยทันที ไม่ต้องอ้อนวอน ไม่ต้องขอร้อง นี่เรียกว่า พุทธบริษัท ถือพุทธศาสตร์ พึ่งตัวเอง ทำดีด้วยตนเอง แล้วมันก็ช่วยในตัวเอง ไม่ต้องไปอ้อนวอนให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นๆที่เราไม่มองเห็นตัว แล้วต้องไปเชื่อๆตามที่เขาว่าๆๆกันนั้น อันนั้นไม่ใช่พุทธศาสตร์ แต่ว่าเวลานี้มันมาปนกันอยู่แยกไม่ออก มันมาปนกันอยู่แยกไม่ออก ถ้าแยกไม่ออก ก็กลายเป็นถือสองอย่างพร้อมกันไป ทั้งพุทธศาสตร์ทั้งไสยศาสตร์ แต่ขอให้ช่วยสังเกตดูให้ดี ให้แยก แยกไสยศาสตร์ออกไปเสียเรื่อยๆ ให้เหลือแต่พุทธศาสตร์ ยิ่งขึ้นๆ เมื่อเป็นเด็กยังโง่ ถือสองศาสตร์ก็ได้ แต่พอเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ถือศาสตร์เดียวดีกว่า คือ ถือพุทธศาสตร์ศาสตร์เดียวดีกว่า จะได้เป็นพุทธบริษัทของพระพุทธเจ้า เรื่องมันเป็นมาแบบนี้
ตอนนี้ปีใหม่ขอให้มันเป็นแบบนี้ยิ่งขึ้น ปีใหม่ให้มันเป็นชนิดนี้ ยิ่งขึ้นๆ ใหม่ขึ้นๆ ทุกๆปี เติมความถูกต้องลงไปในชีวิต ให้ใหม่ๆ ยิ่งขึ้นทุกๆ ปี แล้วจะไม่เสียทีที่จะทำบุญปีใหม่ ทำบุญเนื่องด้วยปีใหม่เป็นที่ระลึกแค่ปีใหม่ ที่น่าเป็นห่วงที่สุดก็คือ ลูกเด็กๆของเรา มันไม่ค่อยจะรู้เดียงสา เพราะพ่อแม่มันไม่รู้เดียงสา เพราะพ่อแม่มันสอนผิดๆ เด็กๆมันก็เลยไม่รู้เดียงสา ถ้าจะให้เด็กๆเขารู้ประสีประสาพ่อแม่ก็จะต้องรู้ประสีประสาเสียก่อน สอนให้ถูกต้องแล้วเด็กๆมันก็จะรู้ประสีประสา จะมีธรรมะที่แท้จริงซึ่งไม่ใช่ไสยศาสตร์ ธรรมะแท้จริงไม่ใช่ไสยศาสตร์ ช่วยตัวเองได้ ขึ้นมาตามลำดับ ซึ่งเขาจะไม่เที่ยวโทษผี โทษสาง ไม่ต้องไปหวังในปัจจัยภายนอกและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ตัวเองแหละศักดิ์สิทธิ์ที่สุด สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สุดคือการทำดีของตัวเอง ขอให้มันกลับมาที่นี่มากขึ้นๆๆ จนเหลือแต่ความจริงข้อนี้ล้วนๆ จนกว่าจะตายหรือเมื่อตาย อย่างน้อยเมื่อตายขอให้กลับตัวเป็นพุทธศาสตร์ ให้แท้จริง ให้สมบูรณ์ได้ พระเจ้าพระสงฆ์ก็เหมือนกันช่วยกันสอนให้ถูกต้อง บิดามารดาก็ช่วยสอนให้ถูกต้อง ไอ้ลูกเด็กๆทารกมันจะได้เข้าใจถูกต้อง มันจะได้ดำเนินมาถูกต้อง แล้วปีใหม่ของเราก็จะดีขึ้นๆ จริง เป็นปีใหม่จริง คราวนี้จะได้ไม่เสียทีที่มาทำบุญปีใหม่ มาทำบุญปีใหม่ มาจากสถานที่ไกลๆก็มี ขอให้ได้รับประโยชน์ ได้รับผลคุ้มค่าที่อุตส่าห์มาจากสถานที่ไกลๆ ถ้าไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นคนโง่ ใช้เวลาใช้เงินทองไม่คุ้มค่า ไม่เต็มตามประโยชน์ที่ควรจะได้ ยมบาลเอาตาย ถ้าพูดหยาบคาย ยมบาลเขกหัวตายเลย ใครใช้เวลาไม่คุ้มค่า ใช้เงินไม่คุ้มค่า ใช้เรี่ยวแรงไม่คุ้มค่า แล้วมันก็ไม่ไหวแหละ ให้ทุกคนไม่ประมาท ไม่ประมาทอย่างเดียว อย่าประมาทเป็นเรื่องที่ดีเลย ต้องพยายามทำให้ดีที่สุดนะ
วันนี้รับศีล ก็ขอให้เป็นศีลที่ใหม่ที่ดีกว่าปีที่แล้ว ปีที่แล้วอาจรับศีลโง่ๆไปก็ได้ ปีนี้รับศีลที่ฉลาด ปาณาติปาตา เวระมะณี อย่าประทุษร้ายชีวิตร่างกายของผู้ใดโดยวิธีใดๆก็ตาม อย่าประทุษร้ายชีวิตและร่างกายซึ่งไม่ตายแล้วจะใช้ร่างกายไม่ได้ อย่าประทุษร้ายชีวิตและร่างกายของผู้ใดโดยวิธีใดๆ ในศีลข้อ ๑
ศีลข้อที่ ๒ อย่าประทุษร้ายทรัพย์สมบัติใดๆ ชนิดไหนก็ตาม ของผู้ใดก็ตาม ด้วยวิธีใดๆ ก็ตาม
ศีลข้อที่ ๓ อย่าประทุษร้ายของรัก ของพอใจของผู้อื่นด้วยวิธีใดๆก็ตาม ศีลข้อนี้เคยสอนกันผิดๆ จนเด็กๆไม่ต้องถือ คนสอนมันโง่ พระพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว กาเมสุมิจฉาจารา ประพฤติผิดในของรักใคร่ทั้งหลาย ถ้าเด็กเล็กๆ มันมีของรักของใคร่ของมัน ก็อย่าไปประทุษร้ายให้มันเสียใจ เจ้าเด็กคนนี้มันรักตุ๊กตาเหลือประมาณ เด็กคนอื่นอย่ามาแตะต้อง อย่ามาทำให้มันเสียใจ ทำแบบนั้นแล้วประทุษร้ายของรักของผู้อื่น ศีลนี้ต้องถือตั้งแต่เด็กๆ จนเป็นหนุ่มเป็นสาวถึงถือสูงขึ้นไป ของรักต้องขยายความหมายยิ่งๆ ขึ้นไป ของรักที่สุด อย่าไปประทุษร้ายของรักของผู้อื่น ด้วยวิธีใดๆก็ตามให้เจ้าของเขาเสียใจร้อนใจ
ศีลข้อที่ ๔ อย่าประทุษร้ายความเป็นธรรมหรือความยุติธรรมของผู้อื่นด้วยวาจา
ศีลข้อที่ ๕ อย่าประทุษร้ายสติสมประดีของตัวเอง เรามีสติสัมปชัญญะสมประดีของตัวเราเอง เราอย่าทำในสิ่งใดๆที่ประทุษร้ายสติสมประดีของเราเอง ไม่ใช่เฉพาะดื่มเหล้า ไม่ว่าทำอะไรให้มันมัวมันเสียสมประดี เช่น ไปดูหนัง ดูละครมากเกิน มันก็เสียสติสมประดี ทุกอย่างที่ทำให้จิตใจเขวไป ไม่เป็นสติสมประดีอย่าไปทำ ศีลข้อ ๕ นี่แปลว่าไม่ประทุษร้ายสติสมประดีของตนเองด้วยวิธีใดๆ อย่านั่งเล่นไพ่ได้จนสว่างแบบนี้ มันก็ถือว่าประทุษร้ายสติสมประดี ที่มากไปเสียแล้ว
ศีล ๕ ปีนี้ขอให้ใหม่กว่าปีที่แล้ว ศีล ๕ ปีนี้ขอให้มีความหมายดีมาก ถูกต้องใหม่ยิ่งขึ้นกว่าปีกลาย ในการทำบุญปีใหม่ของเราก็จะมีความหมาย เด็กๆของเราจะต้องได้รับการอบรมที่ถูกต้อง เดินถูกทางยิ่งขึ้นกว่าปีกลาย อย่าเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย เห็นว่าไม่สำคัญนั่นแหละถึงได้เกิดเรื่องเสียหายหมด บิดามารดาเป็นผู้ทำลายลูกหลานเสียเอง ให้ลูกหลานกลายเป็นเวรภัยไพรีศัตรูแก่บิดามารดาเสียเอง นี่เป็นเรื่องที่น่าเศร้าๆ ถ้าละเลยไม่เอาใจใส่เด็กๆ เด็กๆมันจะดีจะเลวก็เพราะครู ครูคนแรกคือบิดามารดา ครูที่สอง คือ ครูที่โรงเรียนวัดวาอารามไกลออกไปๆ นี้เป็นครูทั้งนั้นแหละ เด็กๆมันจะดีหรือจะเลวก็เพราะครูนั่นแหละ ก็ขอให้ครูทั้งหลายทำหน้าที่อย่าได้บกพร่อง เป็นครูที่ดีกว่าปีกลายแหละ เป็นพ่อแม่ก็เหมือนกัน ก็เป็นพ่อแม่ที่ดีกว่าปีกลายแหละ เป็นพ่อแม่ที่ฉลาดยิ่งขึ้น และก็นำบิดามารดาเอ้ย, นำลูกหลานของเราให้ฉลาดยิ่งขึ้นนั้นแหละดีกว่าปีกลายหมด
ปีใหม่นี้อย่าปวดหัวให้มากกว่าปีกลาย ปีใหม่นี้อย่าปวดหัว อย่านอนไม่หลับให้มากกว่าปีกลาย มันจะละอายหมาละอายแมว เพราะหมาหรือแมวมันไม่ได้ปวดหัว ไม่ได้นอนไม่หลับ มากขึ้นทุกปี แต่คนระวังให้ดี มันนอนไม่หลับ มันปวดหัวยิ่งกว่าปีกลาย ระวังปีนี้จะต้องรู้ธรรมะมากขึ้น ป้องกันไม่ให้เป็นโรคประสาท ไม่ให้นอนหลับยาก ให้เยือกเย็น ให้สบายหมด ให้ชีวิตใหม่ๆๆๆกัน ที่ว่าเย็นๆสงบ ปกติมากขึ้น จึงจะได้เป็นมนุษย์ที่ไม่เสียทีที่ได้รับพระพุทธศาสนา เป็นมนุษย์ที่เต็มๆๆขึ้นมาของความเป็นมนุษย์ ทุกๆ ปี และก็ไม่เสียทีที่ได้มาประชุมใหญ่กันวันนี้ ข้าวของเงินทองเวลาก็เสียไปมาก ขอให้ได้ผลคุ้มค่า ถ้าได้ผลคุ้มค่ามันก็มันไม่ใช่จะได้เราคนเดียว แต่ได้แก่ทั้งโลก เช่น มาทำทานบำรุงภิกษุสงฆ์ไว้ให้มีอยู่ในโลก ภิกษุสงฆ์มีอยู่ในโลกก็ศึกษาเล่าเรียนปฏิบัติสั่งสอนธรรมะในโลก โลกก็มีธรรมะ เอ้ย, โลกก็มีความสุข มีความเจริญ เราทำกันที่นี่เท่านี้ แต่ขอให้ประโยชน์ไปทั้งโลก ไปทั่วโลก นั่นแหละมันน่าพอใจ ให้มีความเป็นมนุษย์ที่มีคุณค่าสูงสุด เป็นประโยชน์ทั้งตนเองและเป็นประโยชน์ทั้งผู้อื่น ขอให้สำเร็จประโยชน์ตามที่ว่านี้ เป็นพุทธบริษัท สาวกของพระพุทธเจ้า ผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบาน ผู้รู้ของจริงที่ควรรู้ ผู้ตื่นจากหลับคือกิเลส ผู้เบิกบานด้วยความสุขที่แท้จริง เบิกบาน เบิกบานด้วยความสุขที่แท้จริง ไม่ใช่ความสุขหลอกลวงแล้วก็คิดเองว่าเป็นสุข
เรื่องมีเท่านี้สำหรับปีใหม่ ให้ดีกว่าปีเก่า เราเป็นมนุษย์ต้องทำได้ สัตว์เดรัจฉานถึงมันจะไม่ทำให้มาก ดีกว่าปีเก่า อย่างน้อยมันก็ไม่เลวกว่าปีเก่า แต่ดูมันก็ฉลาดยิ่งขึ้นทุกๆปี สุนัข แมว สัตว์อะไรทุกตัวแหละ มันฉลาดขึ้นนิดนึงๆ ทุกปี เท่าที่สังเกตเห็น เพราะมันได้ผ่านเหตุการณ์ในๆๆชีวิตตลอดปีๆ หมาตัวนี้ยืนยันได้ว่าฉลาดขึ้นทุกปี ทีนี้คนเราก็ขอให้อย่าให้น้อยหน้ากว่านั้นเลย ขอให้ปีใหม่เป็นปีใหม่ ขอให้เราทุกคนรับผิดชอบ รับผิดชอบเพื่อพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าทรงหวังว่าเราจะมีความสุขยิ่งขึ้น เราอย่าทำให้พระพุทธองค์ผิดหวัง อย่าทำเพื่อเราเอง หรืออย่าทำเพื่อวัดนี้หรือวัดไหนโดยเฉพาะเลย ทำเพื่อพระพุทธเจ้าแล้วก็จะเพื่อคนทั้งโลกเลย นี่แหละใหม่ ใหม่กว่าปีเก่า ขอให้มีอะไรใหม่ๆ กว่าปีเก่า พูดมาเยอะแล้ว มันจะผิดเวลาไปหมด นั้นต้องขอยุติ
แต่ขออนุโมทนาให้การกระทำของท่านทั้งหลาย ที่ได้มากระทำ ที่ได้เสียสละ ที่ได้มาจากที่ไกลด้วยความยากความลำบาก ขอให้ท่านได้รับความรู้ความเข้าใจในเรื่องนี้ชัดเจนแจ่มแจ้งยิ่งขึ้นๆ คุ้มค่าที่มา คุ้มค่าที่มา จนตัวเองรู้สึกว่าได้ผลคุ้มค่าที่มา แบบนี้ใช้ได้ ถ้าไม่ได้รับผลคุ้มค่ามา ตัวเองเสียใจ นั่นแหละคือ ยมบาลเขกหัวแล้ว เราเองก็ไม่พอใจในการกระทำของเราเองได้ ก็เป็นทุกข์อยู่ นี่ยมบาลเล่นงานเอาแล้ว ขออย่าให้ใครผิดหวัง อย่าให้มีอาการที่เรียกว่า ยมบาลเล่นงานเราแล้ว ทุกคนแหละ ทุกคนแหละรอดตัว ถ้าใครทำผิดพลาดไปสักคนสักสองคน มันก็เสียหายกันหมดแหละ เพราะเป็นสาวกของพระพุทธเจ้ากันทั้งนั้น รวมกันเป็นสาวกของพระพุทธเจ้ากันทั้งนั้น ถ้าทำผิดไปสัก ๒-๓ คน มันก็เสียชื่อสาวกของพระพุทธเจ้า พูดอย่างโลกๆมันก็เสียชื่อของพุทธศาสนา ทุกคนเป็นพุทธบริษัท อย่าทำอะไรให้เสียชื่อแก่พุทธศาสนา ให้เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานตามอย่างพระพุทธเจ้า อย่าให้เป็นคนโง่ อย่าให้เป็นคนหลับ อย่าให้เป็นคนเหี่ยวแห้งซบเซามีความทุกข์เลย
ขอแสดงความหวัง ขอตั้งใจ แต่ไม่ได้ให้พรนะ พรที่ให้นั้นไม่จริง แต่พรที่ทำเองแหละจริง พรนั้นแปลว่าดี ทำเอาเองเป็นพรจริง พรที่ให้เป็นแค่ลมปากไม่จริง พรที่แท้จริงคือทำเอาเอง ทำดีทำดี นั่นแหละคือพร แล้วไม่ต้องกลัว ไม่ต้องกลัวจะไม่ดี แล้วมันโง่อีกแหละ ทำดีแล้วยังกลัวอยู่นี่มันก็โง่แล้ว ทำดีแล้วไม่ต้องกลัว ให้มันแน่ใจ ให้มันกล้าหาญ ขอให้ทุกคนไม่ต้องกล้ว อย่ากลัว เรารู้ความจริงแล้วมันไม่มีอะไรที่ต้องกลัว ความตายเป็นของเด็กเล่น จะไปกลัวมันทำไม มันก็ต้องตายเป็นธรรมดาเช่นนั้นเอง ไม่ต้องกลัว ความแก่ ความเจ็บ ความตาย เราถือธรรมะแล้วไม่ต้องกลัว พระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งแล้วเราไม่ต้องกลัว ความแก่ ความเจ็บ ความตายนี้ หลุดพ้นไปได้เพราะ ถือพระพุทธเจ้าเป็นหลัก คือ ไม่มีตัวกู ไม่มีของกู แล้วใครมันจะตาย ใครมันจะเกิด มีแต่จิตที่บริสุทธิ์เหลืออยู่ จิตที่บริสุทธิ์เหลืออยู่ แล้วเสวยความสุขไปเรื่อย ไปจนกว่ามันจะหมดเหตุ หมดปัจจัย มันจะดับ ไม่มีอะไรเหลือ ในที่สุดก็ขอให้พรตามธรรมเนียม โดยแท้จริงไม่ต้องให้ หรอกพร เพราะพรมันทำเอาเอง แต่นี้ธรรมเนียมยังมีอยู่