แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
อาตมภาพขอแสดงความยินดีในการมาของท่านทั้งหลายมาสู่สถานที่นี้ และรู้สึกว่ามีประโยชน์ การมาที่นี่ และโปรดทราบว่าเป็นสถานที่ที่จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการมีอยู่แห่งธรรมะในโลกนี้ เนื่องจากเห็นว่าโลกจะวินาศเพราะความหายไปแห่งธรรมะหรือศีลธรรม อย่าว่าแต่อยู่ในรูปของวัฒนธรรม ถ้าว่าธรรมะในลักษณะนี้ไม่กลับมา โลกนี้ก็จะมีแต่ความยุ่งยาก ลำบาก เดือดร้อน จนกระทั่งวินาศไปในที่สุด ได้โปรดทราบว่าท่านได้มาแล้วสู่สถานที่ซึ่งจัดขึ้นด้วยความมุ่งหมายของการกลับมาแห่งธรรมะ เราใช้คำว่า รื้อฟื้น ส่งเสริม การปฏิบัติธรรมะ ในฐานะที่ท่านเป็นศิลปินหรือเป็นนักโบราณคดี ก็อยากจะบอกว่า ไม่มีอะไรที่จะเก่าหรือโบราณยิ่งไปกว่าธรรมะ เพราะธรรมะนั้นมันเก่ากว่าโลกเสียอีก เมื่อเอาอายุของธรรมะมาเป็นหลักแล้ว ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และโลกนี้เป็นของเมื่อวานนี้เอง ขอได้มองในสิ่งที่เรียกว่าธรรมะในฐานะเป็นสิ่งที่เก่าก่อนสิ่งทั้งปวง ถ้าจะศึกษาโบราณคดีกันโดยแท้จริง ควรจะศึกษาเรื่องธรรมะนั่นเอง
คำว่าธรรมะโดยเนื้อหาที่รัดกุมมีความหมายอยู่ ๔ อย่างว่า ธรรมะคือตัวธรรมชาติทั้งหลายทั้งปวง ภาษาบาลีก็เรียกว่าธรรมหรือธรรมะ จะเป็นวัตถุหรือจิตใจ รูปธรรม นามธรรมอะไรที่มีอยู่ตามธรรมชาติ นี้ก็เรียกว่ารูปธรรม วัตถุธรรม สภาวะธรรม เรียกสั้น ๆ ก็ว่าธรรม ธรรมะคือตัวธรรมชาติที่มีปรากฎการณ์ อันที่ ๒ ธรรมะคือกฎของธรรมชาติ กฎของธรรมชาตินี้มีก่อนธรรมชาติเสียอีก เพราะว่าธรรมชาติมันเกิดขึ้นโดยอำนาจของกฎธรรมชาติ การจะเกิดดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดาวพระเคราะห์ทั้งหลาย ตัวโลก ดวงอาทิตย์ มีศูนย์กลางของจักรวาลใด ๆ มันก็เป็นไปตามกฎของธรรมชาติ กฎของธรรมชาติมีอยู่ก่อนธรรมชาติ กล่าวนำขึ้นไปอีกจนบอกไม่ได้ว่าตั้งแต่เมื่อไร ทีนี้ธรรมะในความหมายที่ ๓ คือหน้าที่ที่มนุษย์จะต้องปฏิบัติตามกฎของธรรมชาติ เรียกว่าสิ่งมีชีวิตทั้งหลายทั้งปวงก็แล้วกัน ก็มีหน้าที่ที่จะต้องปฎิบัติตามกฎของธรรมชาติอย่างถูกต้อง มิฉะนั้นเขาก็จะต้องตายหรือว่าหาความเจริญไม่ได้ มนุษย์รู้จักหน้าที่อันนี้มาตั้งแต่แรกมีมนุษย์ขึ้นมาในโลก เขาสอนกันมาตามลำดับว่า เราจะต้องทำอย่างนั้น เราจะต้องทำอย่างนี้ เพื่ออยู่รอดหรือเพื่อเจริญ นี่คงเป็นหมื่นปีแสนปีมาแล้ว ตามที่ว่ามนุษย์มันได้มีขึ้นมีมาในโลกและมีความรู้สึกคิดนึก ว่าจะต้องทำอย่างไร
นี่ธรรมะคือหน้าที่ แม้แต่เพียงธรรมะที่เป็นหน้าที่เมื่อเร็วๆ นี้ มันก็ยังเก่าก่อนโบราณคดีทั้งปวง มัน มัน มันก่อนประวัติศาสตร์ ยิ่งกว่าก่อนประวัติศาสตร์ เพราะว่าประวัติศาสตร์นี้มันมีอายุจำกัดเมื่อเร็วๆ นี้ มนุษย์รู้จักหน้าที่ที่จะต่อสู้เพื่อรอดชีวิต เพื่อเจริญรุ่งเรืองเป็นลำดับมา นี่ก็เรียกว่าธรรมเหมือนกัน โดยภาษาบาลีไม่มีคำอื่นเรียก ทีนี้ผลที่ได้รับจากการปฏิบัติหน้าที่เป็นความเสื่อมก็ได้ เป็นความเจริญก็ได้ แล้วแต่ว่าจะปฏิบัติผิดหรือปฏิบัติถูก ผลเหล่านี้ก็เรียกว่าธรรมหรือธรรมะในภาษาบาลี ได้โปรดทราบว่า ภาษาบาลีคำนี้ประหลาดที่สุด เป็นคำพูดของมนุษย์ที่ประหลาดที่สุด ที่มันมีความหมายกว้าง กว้างจนครอบคลุมไปหมดทุกสิ่ง จนไม่อาจจะแปลเป็นภาษาต่างประเทศได้ พวกฝรั่ง พวกนักศึกษา พวกอะไรก็ตาม พยายามที่จะแปลคำว่าธรรม ธรรมะนี่ออกเป็นภาษาของตน ในที่สุดมันแปลไม่ได้ คำในภาษาของตนมันไม่มีพอที่จะให้มีความหมายเต็มตามความหมายของคำๆ นี้ ก็แปลไม่ได้ ก็เลยใช้คำว่าธรรมตามเดิม คือยืมคำว่าธรรมเข้าไปใส่ไปในพจนานุกรมของตน ๆ
ถึงแม้แต่ประเทศไทย เราก็เหมือนกัน ไม่อาจจะแปลคำว่าธรรมนี้ออกมาเป็นภาษาไทยได้ จึงใช้คำว่าธรรมตามภาษาบาลีเดิมหรือภาษาสันสกฤตก็ได้ มันก็เหมือนกัน คือมันหมายถึงทุกสิ่ง ไม่ยกเว้นอะไร ตัวธรรมชาติทั้งหลายก็ดี ตัวกฎของธรรมชาติทั้งหลายก็ดี ตัวหน้าที่ตามกฎของธรรมชาติก็ดี ตัวผลที่จะเกิดขึ้นโดยมนุษย์สร้างสรรค์นี่ก็ดี มันเรียกสั้น ๆ ว่าธรรมเพียงคำเดียว เมื่อแรกขอให้รู้เถิดว่ามันเก่ายิ่งกว่าอะไร โบราณคดีก่อนประวัติศาสตร์ที่เรียนกันอยู่นี้มันเมื่อวานนี้เอง ถ้าไปเทียบกับสิ่งที่เรียกว่าธรรม ฉะนั้นในฐานะที่ท่านเป็นนักโบราณคดีก็เลยขอให้สนใจสิ่งนี้ด้วย จึงจะจริง จึงจะตรง จึงจะไม่ จึงจะยุติธรรม จึงจะไม่งมงาย ว่ากันอย่างนั้นดีกว่า ขอให้สนใจศึกษาธรรมะต่อไปตามโอกาสที่จะทำได้ เพื่อรู้จักสิ่งที่โบราณที่สุดสำหรับมนุษย์คือธรรม คือธรรมะหรือธรรมใน ๔ ความหมายดังที่กล่าวแล้ว
ทีนี้ก็อยากจะพูดถึงคำถัดมาก็คือคำว่า “ศิลปะ” มนุษย์กำลังหลงใหลนิยมศิลปะกันทั้งโลกและก็ยิ่งๆ ขึ้นไป แม้ไม่ตรงตามความหมายของคำว่าสิปปะหรือศิลปะแต่โบราณ หรือแต่ทีแรกที่มนุษย์ต้องการจะใช้คำนี้ เขาต้องการจะใช้แก้ปัญหาความยุ่งยากลำบากของมนุษย์ ด้วยการกระทำที่ถูกต้องและงดงาม ก็สรุปความว่าศิลปะนั้นต้องเป็นไปเพื่อดับทุกข์ ถ้าไม่เป็นไปเพื่อดับทุกข์ มันก็เป็นไปเพื่อเพิ่มความทุกข์ มันก็เป็นศิลปะบ้า ในโลกนี้กำลังเฟ้อด้วยศิลปะบ้ามากขึ้นทุกที ขอให้ดูเอาเองก็แล้วกันว่าอะไรที่เรียกกันว่าศิลปะแห่งยุคนี้ ถ้าไปทำแล้วมันเป็นไปเพื่อยุ่งยาก ลำบากมากขึ้น หมดเปลืองมากขึ้นหรือถึงกับว่าทำให้เห็นแก่ตัวมากขึ้น แล้วก็เป็นศิลปะบ้าทั้งนั้น มนุษย์ในโลกกำลังหลงกำลังเฟ้ออยู่ด้วยศิลปะบ้าที่ทำให้เห็นแก่ตัว แล้วก็เกิดกิเลส เกิดความเห็นแก่ตัว ได้รบราฆ่าฟันเบียดเบียนกัน เป็นวิกฤตการณ์ถาวรอยู่ในโลก จนชาวตะวันตกเขาเฉียบแหลมเขาก้าวหน้ามากในเรื่องนี้ คนไทยเราเป็นประเทศด้อยพัฒนา ยังต่ำด้วยสติปัญญาก็ไปตามก้นเขาในการศึกษาก็ดี ศิลปะก็ดี อะไรก็ดีก็คือไปตามก้นพวกฝรั่ง แล้วแต่ว่าพวกฝรั่งเขาจะนำไปในทางไหน ในฐานะที่เป็นพุทธบริษัทและเป็นไทยขอให้ระลึกไว้ดีๆ ว่าการไปตามก้นกันอย่างหลับหูหลับตานั้น มันสูญเสียความเป็นไทย คำว่า “ไท” แปลว่าอิสระ แม้โดยกระทั่งทางความคิดความนึก ถ้าเป็นอิสระโดยความคิดความนึก แล้วมันก็ไปตามก้นไม่ได้ ถ้าไปตามก้นในทางที่ถูก คือมันดับทุกข์ได้ก็น่าชื่นใจอยู่ แต่ถ้าไปตามก้นในทางที่จะเกิดวิกฤตการณ์ในโลกมากขึ้นมันก็น่าสงสารตัวเอง จึงขอร้องว่าทุกท่านได้โปรดพิจารณาดูให้ดี การที่จะไปจับฉวยอะไรเอามาจากการศึกษาในยุคปัจจุบันนี้มาใช้กับความเป็นไทยของเรานี้ ต้องดูกันในเรื่องนี้ดีๆ ว่ามันแก้ปัญหาของมนุษย์หรือเปล่า หรือว่ามันรักษาความเป็นอิสระของความเป็นไทยไว้ได้หรือเปล่า
ศิลปะที่เป็นธรรมะ คือศิลปะแห่งการทำลายความทุกข์ ความทุกข์ในจิตในใจของมนุษย์นั่นแหละมันยากที่จะขจัดออกไป ถ้าขจัดได้มันต้องมีฝีมือมาก มันต้องเก่งมาก มันจะต้องเป็นยอดของศิลปะ ยอดของศิลปะในโลกมันมาอยู่ที่สามารถกำจัดความทุกข์ของมนุษย์ได้นั่นเอง ไม่ใช่เรื่องสีสัน ลวดลาย อะไรแปลก ๆ ประหลาด ๆ ที่เป็นไปในทางส่งเสริมกิเลสเสียอีกก็มี ถ้าอย่างนี้มันไม่กำจัดความทุกข์ มันไปส่งเสริมความทุกข์ ในโลกมันเต็มไปด้วยศิลปะชนิดนี้อยู่ จึงจะต้องระวังให้ดี ถ้ามันดับทุกข์ได้อย่างน่าอัศจรรย์ นั่นแหละคือยอดของศิลปะ
ขอให้พิจารณาดูว่าไอ้ความ ความโลภ ความโกรธ ความหลง หรือกิเลสนั้นน่ะมันร้ายกาจเท่าไหร่ มันแก้ไขยากเท่าไร มันดับไปได้โดยยากเท่าไร ถ้าใครดับได้ คนนั้นต้องเก่งมาก คนแรกที่รู้จักและดับได้ก็คือพระพุทธเจ้า ท่านจึงเป็นยอดของศิลปิน คือทำสิ่งที่ทำยากที่สุด แล้วก็ทำสิ่งที่งดงามที่สุด ไม่มีอะไรจะงดงามเท่ากับความหมดกิเลส ความงามอื่นๆ นั้นไปหลอกลวงด้วยความโง่ ต้องไปเรียน ต้องไปโง่ ให้เห็นว่างาม ศิลปะปัจจุบันบางอย่างต้องไปยอมโง่กันตั้งพักใหญ่จึงจะเห็นว่างาม แล้วก็หลงใหลว่ามันงาม มันงามไปตามความโง่ที่สมมติให้ใหม่ มันไม่ดับทุกข์ เรื่องอย่างนี้ ถ้ามันดับทุกข์ได้ตามธรรมชาติ นั่นคือความงามตามธรรมชาติ ที่เราก็ควรจะมองเห็นว่าเป็นสิ่งที่ทำยากและมีความงาม ศิลปะแห่งการฆ่ากิเลสเสียให้ได้นี่แหละคือศิลปะแท้จริง แม้จะไม่ได้ใช้คำว่าศิลปะ มันก็เป็นศิลปะอยู่ในตัว
ถ้าถือเอาความงามเป็นหลักแล้ว การปฏิบัติธรรมะเป็นศิลปะที่สุด เพราะไม่มีอะไรจะงามมากเท่ากับการปฏิบัติธรรมะ ในฐานะที่เราเป็นพุทธบริษัทไทย เราก็มีหลักเกณฑ์อันนี้เรื่อยๆ มาจนฝังอยู่ในเลือดในเนื้อของคนไทย มีธรรมะ มีการเอาชนะกิเลส เป็นงานฝีมือที่ละเอียดที่สูงสุดเป็นความงาม ควรจะเรียกว่าพุทธศิลปะกันที่นี่ ฝรั่งหลายคนแล้วที่เคยพบปะกัน เขาถามถึงไอ้ Buddhist Art อาตมาบอกว่ามันไม่ใช่ Buddhist Art อย่างที่พวกคุณต้องการ เช่น รูปแบบของพระพุทธรูป หรือสถาปัตกรรม เอ่อสถาปัตยกรรมของพุทธบริษัท นี่ไม่ใช่ Buddhist Art พุทธบริษัทไม่สนใจ ไม่รับรอง พระพุทธเจ้าไม่รู้จัก แต่ Buddhist Art ที่แท้นั้นคือวิธีชนะความทุกข์ให้ได้ ที่พระพุทธเจ้าท่านมีท่านสอน และพุทธบริษัทก็รับรอง ปฏิบัติกันมา จนเกิดมีรูปแบบขึ้นมาว่าเราจะต้องทำกันอย่างไร รูปแบบที่เป็นพื้นฐานที่สุดก็คือความรักผู้อื่น
นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย ขอให้สังเกตดูให้ดีทุกๆ ท่าน แล้วท่านก็จะพบว่าไอ้สิ่งที่ทำยากที่สุดนั่นคือความรักผู้อื่น ไอ้สิ่งง่ายที่สุดก็คือความรักตัวกู ไอ้ที่จะรักผู้อื่นนั่นแหละทำยากที่สุด มันทำอย่างหน้าไหว้หลังหลอกกันทั้งนั้นน่ะ ทั่วโลกน่ะที่มันบอกว่ารักผู้อื่น ช่วยผู้อื่น องค์การนั้น องค์การนี้ มันเป็นเรื่องหน้าไหว้หลังหลอกเพื่อจะเอาประโยชน์อย่างอื่นกันต่อไปอีก ก็สุมหัวกันเอาประโยชน์อย่างอื่นมากต่อไปอีก ไม่มีการรักผู้อื่นโดยแท้จริง เอาตัวเองแต่ละคนๆ เป็นหลักก็แล้วกันว่าจะรักผู้อื่นนั้นมันยากหรือง่ายสักเท่าไร ดูจะหาทำยาหยอดตาก็ไม่ค่อยจะได้ ไอ้ความรักผู้อื่นโดยบริสุทธิ์
มองดูกันอย่างนี้ก็แล้วกันว่า ถ้าว่ามันรักผู้อื่นจริง มันก็ฆ่ากันไม่ได้ ในโลกนี้จะไม่มีการฆ่ากันได้ถ้ามันรักผู้อื่น ศีลปาณาติบาตนี่ ไม่ฆ่าคน ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ฆ่านั้นก็จะมีได้เพราะความรักผู้อื่น เดี๋ยวนี้มันเต็มไปด้วยการฆ่า จนคิดจะฆ่ากันทั้งโลก ไม่ได้เป็นเรื่องการเมืองก็เป็นเรื่องคิดที่จะฆ่ากันนั้น ประชาธิปไตยเพ้อเจ้อ ประชาธิปไตยตัวใครตัวมัน ตัวกูนี้ ก็ยังเป็นเรื่องที่คิดจะฆ่ากันระหว่างพรรคการเมือง ดังนั้นไม่มีความรักผู้อื่น ไม่มีธรรมะในพระพุทธศาสนา
ทีนี้ถ้าว่ารักผู้อื่นมันก็ขโมยไม่ได้ ลักขโมยไม่ได้ ศีลข้อที่ ๒ มันเกิดไม่ได้ มันก็รักษาได้ดี ไม่มีการขโมยกันได้ มันไม่มีคอรัปชั่นในรูปแบบใด ๆ ถ้ามันมีรักผู้อื่น คือถ้าว่าต่อไปอีก ถ้ารักผู้อื่นมันก็ล่วงเกินของรักของผู้อื่นไม่ได้ ฉะนั้นความประพฤติผิดในทางกาเมประเพณีมันมีไม่ได้ ถ้ามันรักผู้อื่น เดี๋ยวนี้มันเลวร้าย มันเต็มไปหมดทั้งบ้านทั้งเมือง กลางวันแสก ๆ ในนครหลวงกรุงเทพนี่แหละ แม้แต่บนรถเมล์ มันก็มีอาการเลวร้ายเกี่ยวกับเพศ ถ้ามันมีการรักผู้อื่น มันทำอย่างนั้นไม่ได้ ทีนี้ถ้ามันมีการรักผู้อื่นข้อต่อไปอีก ข้อมุสาวาทมันก็มีไม่ได้ คนเราจะโกหกใครได้อย่างไรถ้าเรารักเขา เดี๋ยวนี้มันเต็มไปด้วยคำโกหกหลอกลวงกันทั้งโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขอบเขตของนัก ของพวกการเมือง ถ้าเรารักผู้อื่นก็ไม่ปล่อยตัวให้เมามายด้วยของมึนเมา ซึ่งมันกระทบกระเทือนกับความรักผู้อื่น
นี่เป็นเครื่องวัดว่าไอ้ความรักผู้อื่นนั้น มันมีหรือไม่ในหมู่มนุษย์ รวมทั้งตัวเราเองด้วย เรารักผู้อื่นจนไม่ฆ่า เรารักผู้อื่นจนไม่ลักขโมย เรารักผู้อื่นจนไม่ล่วงละเมิดของรักของเขา เรารักผู้อื่นจนไม่พูดโกหกได้ เรารักผู้อื่นจนไม่ไปทำสิ่งเสพติดมึนเมา เพราะเกรงว่ามันเป็นการกระทบกระทั่งเขาทั่วไปหมด นี่ทำง่ายหรือทำยาก ขอให้ไปคิดดู
ถ้าในโลกนี้ทั้งโลกมันมีธรรมะข้อเดียวนี้คือรักผู้อื่น โลกนี้ก็เป็นโลกของพระศรีอาริย์คือ พระศรีอริยเมตไตรยโดยสมบูรณ์ เมตไตรยแปลว่าความเป็นมิตร อริยะ อันประเสริฐ ศรีที่แปลว่าสูงสุด เป็นศาสนาของบุคคลผู้มีเมตตาอันสูงสุดก็คือรักผู้อื่น เดี๋ยวนี้เรามันยิ่งไม่มี เรายิ่งศึกษามาก เรายิ่งเห็นแก่ตัวเองมาก ดังนั้นการไปเล่าไปเรียนมา ได้ปริญญายาวเป็นหางยิ่งกว่าลิง มันก็เพิ่มความเห็นแก่ตัวมากขึ้น มันไม่อาจจะรักผู้อื่น เพราะปริญญามันยาวเป็นหาง ฉะนั้นจะต้องไปทำกันเสียให้ดีว่าการศึกษาทุกแขนงที่มีมานี่ มันต้องมาเพื่อสร้างสรรค์โลกมนุษย์นี้ให้ดี คือให้มันมีสันติภาพส่วนบุคคลและส่วนรวม
ทีนี้ปริญญาวิชาทั้งหลายเขาไม่มุ่งหมายที่จะทำอย่างนี้ มันมุ่งหมายเฉพาะวิชา เฉพาะแขนง เฉพาะเทคโนโลยีส่วนนั้นๆ ทั้งนั้น มันไม่ได้เล็งถึงสันติภาพของมนุษย์ ฉะนั้นจึงจัดการศึกษาเท่าไร ไอ้โลกนี้ก็ยิ่งไม่มีสันติภาพ นี่ลองไปคิดพิจารณาดู การศึกษาที่จัดอยู่อย่างปัจจุบันนี้ ยิ่งจัดเท่าไร โลกนี้ก็ยิ่งไม่มีสันติภาพ เพราะมันเปิดโอกาสให้เพิ่มความเห็นแก่ตัว นี่การศึกษาที่ได้รับมา มันเป็นไปในทางเพิ่มความเห็นแก่ตัว มันก็รักผู้อื่นไม่ได้ อาตมาจึงเอามาพูดกับท่านทั้งหลายในฐานะที่ว่าเป็นเพื่อนมนุษย์ ว่าเราจะต้องมองดูกันในข้อนี้ ว่ามนุษย์กำลังมีความผิดอันเลวร้ายคือยิ่งเป็นไปเพื่อความเห็นแก่ตัว เพราะก้าวหน้าในการศึกษา การงาน การประดิษฐ์ การพัฒนาการ การอะไรต่างๆ ในโลกปัจจุบันมีแต่ความยุ่ง การที่ต้องวิ่งไปวิ่งมาว่อนกันไปทั้งโลกนี่ ก็เป็นเรื่องไม่ได้เกี่ยวกับรักผู้อื่น เกี่ยวกับการเอาเปรียบผู้อื่นหรืออย่างน้อยก็ต่อสู้ป้องกันตัวทั้งนั้น มันไม่มีเรื่องรักผู้อื่น ในองค์การสหประชาชาติไม่มีการปลูกฝังส่งเสริมรักผู้อื่น มัวแต่แก้ไขเรื่องการทะเลาะวิวาทกันจนหมดเวลา จนไม่มีเวลาพูดถึงเรื่องการรักผู้อื่น พูดแต่จะชำระปรองดองการทะเลาะวิวาท แล้วก็ไม่ประสบความสำเร็จ มันมีลักษณะเหมือนกับจับปูใส่กระด้ง มันก็ลงเรื่อย
นี่ เมื่อชาติทั้งหลายมันเต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัว สหประชาชาติก็ไม่มีความสามารถที่จะปรองดองใอ้คนเห็นแก่ตัว ให้เป็นคนที่มีความมุ่งหมายร่วมกันในการที่จะสร้างสันติภาพในโลกนี้ได้ นี่ถ้าจะศึกษากันในแง่ของมนุษย์ เรื่องเกี่ยวกับมนุษย์ หรือมนุษยวิทยา เรื่องอะไร ก็ขอให้มองดูว่า มันกำลังมีปัญหาเพราะว่าขาดธรรมะในฐานะเป็นของจริงอันประเสริฐที่มนุษย์ได้ค้นพบมานับเวลานานแล้ว และขาดธรรมะในฐานะที่เป็นศิลปะสำหรับจะควบคุมกิเลส ฉะนั้นขอให้เรามีธรรมะในฐานะเป็นศิลปะที่จะควบคุมกิเลส
การที่จะไปศึกษาในทางโบราณคดีก็ควรจะศึกษาให้ครบ ในแง่ที่ว่าหากมันเป็นเรื่องของธรรมะที่จะเอาชนะกิเลส ที่คนแต่ก่อนเขาเคยทำกันมาแล้ว ถ้าพบในแง่อื่นก็ไม่มีประโยชน์อะไร นอกจากว่าเป็นความหลงใหลของมนุษย์พวกนั้น จะพบในแง่ที่ว่าจะดับความทุกข์หรือแก้ปัญหาของมนุษย์ได้อย่างไร นั่นแหละคือความถูกต้อง ก็ขอให้มองธรรมะในฐานะเป็นยอดของศิลปะสำหรับมนุษย์ ที่จะทำมนุษย์ให้งดงามที่สุด ทำมนุษย์ให้อยู่เย็นเป็นสุขที่สุด
ตรงนี้อยากจะพูดสักนิดหนึ่งถึงเอกลักษณ์ไทย อาตมายืนยันแล้วยืนยันเล่า พูดอยู่บ่อยๆ ว่าเอกลักษณ์ไทยคือความรักผู้อื่น ถ้ามีลักษณะแห่งความรักผู้อื่นที่ไหนก็มีเอกลักษณ์ไทยที่นั่น ไม่ใช่เรือนทรงไทยอย่างเดียวจะเป็นเอกลักษณ์ไทยได้ ซึ่งไม่อาจจะเป็นก็ได้ แต่ว่าไอ้หม้อน้ำ เรือนเล็กๆ ที่ตั้งหม้อน้ำไว้ให้คนกินประตูบ้าน หรือว่าม้าตักบาตรที่ฝังลงไปในดินเป็นการถาวรสำหรับตักบาตรทุกเวลาเช้า อันนี้ต่างหากเป็นเอกลักษณ์ไทย ไอ้ตัวเรือนไทยอันสวยงามนั้นมันไม่แน่ เพราะมันยังไม่เป็นสัญลักษณ์แห่งการรักผู้อื่น ให้ดูที่การกระทำของบรรพบุรุษ ทำอะไรก็เป็นไปเพื่อสงเคราะห์ผู้อื่น การทำบุญให้ทานตามแบบโบราณนั้น มันเต็มไปด้วยลักษณะแห่งการรักผู้อื่น คนโบราณจะปลูกจะฝังอะไรลงไปในแผ่นดิน รุ่นอาตมาเป็นเด็กๆ นี้ได้รับคำบังคับ ต้องเรียกบังคับ คือโยมเขาจะบังคับบอกว่า ต้องประกาศออกไปว่า “นกกินเป็นบุญ คนกินเป็นทาน” แล้วก็เอาเมล็ดใส่หลุมแล้วกลบดิน หรือเอาหน่อกล้วย หน่อสับปะรด ใส่หลุมแล้วกลบดินเป็นเสร็จการปลูก นี่การปลูกนั้นประกาศก้องไป ๓ ครั้งว่า “นกกินเป็นบุญ คนกินเป็นทาน” เราคิดดูเถิดว่าจิตใจของบรรพบุรุษชนิดนี้มันดีอย่างไร ถ้านกหรือสัตว์มากินก็ให้กินเอาบุญ ไม่เอาปืนมายิง ถ้าผู้คนคนอื่นก็มาเก็บกินบ้าง คือขโมยอย่างนั้นน่ะ ก็ไม่ต้องเอาตำรวจมาจับ เป็นการให้ทานไว้ล่วงหน้า นี่แหละคือเอกลักษณ์ไทย ความรักผู้อื่น ก็ยังมีอีกมากมาย มากมายหลายสิบเรื่องในลักษณะอย่างนี้ ทำไมไม่ยกเอาสิ่งเหล่านี้มาเป็นเอกลักษณ์ไทย
เรื่องที่พูดกันนัก เรื่องลายไทย เรื่องรำไทย เพลงไทย ดนตรีไทย นั้นมันไม่แน่ ถ้ามันไม่มีลักษณะแห่งความรักผู้อื่นแล้วไม่ใช่เอกลักษณ์ไทย อย่างรำไทยสูงสุดเช่นโขนอย่างนี้ มันมีลักษณะไหนที่ว่ารักผู้อื่น ไปดูที่ตัวทศกันฐ์สิ มันไม่มีลักษณะแห่งความรักผู้อื่น แล้วก็มันไม่มีลักษณะที่น่ารักสำหรับผู้อื่นจะรักด้วย ฉะนั้นอย่าเอาไอ้เรื่องลายไทย รำไทย นี้มาเป็นเอกลักษณ์ไทย ถ้ามันไม่มีลักษณะแห่งความรักผู้อื่น คือมันไม่มีธรรมะนั่นเอง ศิลปะของกรมศิลปากรก็เหมือนกันแหละ ขอเอาไปแยกแยะดูเถิด ถ้ามันไม่มีลักษณะแห่งความรักผู้อื่นแล้ว มันไม่ใช่เอกลักษณ์ไทย
ฉะนั้นเราควรจะสร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่ ไม่เรียกว่าสร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่ เรียกว่ารักษาของเก่า หรือดึงของเก่ากลับมา ให้อะไรๆ มันมีลักษณะแห่งเอกลักษณ์ไทย คือความรักผู้อื่น เรื่องสร้างวัดวาอารามนี้ เขาเคยสร้างขึ้นมาด้วยความรักผู้อื่น แม้ที่สุดจะสร้างเพื่อให้ลูกเด็กๆ มันวิ่งเล่น สร้างวัดให้ลูกเด็กๆ วิ่งเล่นนี้ มันก็เป็นเจตนารมณ์ของความรักผู้อื่น จะไปวัดนี่ต้องหาบ ต้องถึงกับหาบไปทีเดียว เพราะว่าไม่ใช่เอาไปเลี้ยงพระอย่างเดียว ต้องเอาไปเลี้ยงสุนัข เลี้ยงสัตว์ เลี้ยงแมว เลี้ยงนก เลี้ยงกา อะไรด้วย นี่มันเป็นเรื่องสัญลักษณ์แห่งความรักผู้อื่น ติดมาในสายโลหิตไทย รักผู้อื่นจนเกิดนิสัยยิ้ม พวกฝรั่งเขาบูชาคนไทยอยู่อย่างหนึ่งว่ามีลักษณะยิ้ม เพราะความรักผู้อื่นมันอัดแน่นอยู่ในใจเป็นเวลาหลายๆ ร้อยปีมาแล้ว เดี๋ยวนี้คนไทยมันเปลี่ยนไปตามก้นฝรั่ง มันก็เลยไม่ยิ้มเหมือนฝรั่ง ฝรั่งก็หมดนับถือกันตรงนี้เอง ไอ้ความยิ้มของคนไทยมันจะหายไป เพราะธรรมะหรือวัฒนธรรมไทยมันค่อยๆ หายไป ช่วยกันคิดนึกดูให้ดี ๆ
ก็ขอย้อนไปข้างต้นอีกทีหนึ่งว่า ไอ้สิ่งที่ทำยากที่สุดนั้นคือ ความรักผู้อื่นนะ ขอฝากไว้เท่านี้ว่า ถ้าจะประสบความสำเร็จในการปฏิบัติธรรมะแล้ว วัดดูได้ด้วยความรักผู้อื่น ถ้าความรักผู้อื่นยังไม่มี ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จในการปฏิบัติธรรมะ การเอาชนะกิเลสนี้เป็นยอดของศิลปะ การประพฤติปฏิบัติเพื่อให้คนอยู่กันเป็นผาสุกนี้ เป็นสิ่งเก่าแก่ที่สุด มีอายุเป็นพันๆ ปี หรือเป็นหมื่นๆ ปีมาแล้ว ขอให้สนใจโบราณคดีไกลออกไปถึงนั่น อย่าเพียงแค่สมัยทวาราวดีศรีวิชัย แค่เมื่อวานนี้เลย ขอให้เลยออกไปถึงเรื่องของมนุษย์ที่มันเคยสูงสุด เคยใช้แก้ปัญหาอย่างงดงามในรูปแบบของศิลปะทางจิต คือความคิดความนึก
อาตมาขอแสดงความยินดีในการมาของท่านทั้งหลายสู่สถานที่นี้อีกครั้งหนึ่ง วัดนี้เราจัดขึ้นเป็นวัดป่า อยู่กันอย่างวัดป่า พระเถื่อน เพื่อส่งเสริมการปฏิบัติธรรม สำหรับผู้ที่เรียนมาแล้ว เป็นเปรียญมาแล้ว เป็นนักธรรมเอกมาแล้ว แล้วก็มาอยู่ที่นี่ เพื่อปฏิบัติของตน ที่นี่ไม่ได้รับสอนในส่วนปริยัติ ต้องการให้ผู้ที่เรียนปริยัติเสร็จแล้วมาอยู่ปฏิบัติของตน เผื่อเกิดปัญหาอะไรบ้าง ก็ปรึกษากันได้ เรามีกุฏิเล็กๆ สำหรับอยู่คนเดียวๆ องค์เดียว ตั้งเจ็ดสิบกุฏินะ หมายความว่าจะต้อนรับคนที่ปฏิบัติส่วนตัวได้ตั้งเจ็ดสิบคน อยู่ด้านหลังของภูเขา แล้วก็มีอะไรบ้างสำหรับช่วยเหลือคนมาเที่ยว รูปภาพ รูปเขียน หินสลัก อย่างที่ในตึกหลังนี้ เป็นการศึกษาธรรมะตามแบบของบรรพบุรุษสมัยโบราณที่ประชาชนไม่รู้หนังสือ เขาก็สอนธรรมะกันสำเร็จโดยรูปภาพฝาผนัง หรือรูปภาพในสมุยข่อย ประชาชนไม่รู้หนังสือแต่กลับรู้ธรรมะมากลึกฝังลงไปในจิตใจ ยิ่งกว่าประชาชนสมัยนี้ซึ่งรู้หนังสือเกินรู้ไปเสียอีก สมัยนี้เรารู้หนังสือเกินรู้ไปเสียอีก แต่ความมีธรรมะในจิตใจนี่ เราสู้บรรพบุรุษของเราในสมัยที่ไม่รู้หนังสือน้นไม่ได้ เขาไม่รู้หนังสือ ก็สอนด้วยธรรมะ อธิบายกันจนเข้าใจแล้วมันลืมยาก มันฝังแน่น และมีศรัทธามั่นคง ยึดเอาไว้อย่างมั่นคง ประพฤติปฏิบัติจนเป็นวัฒนธรรมไทย
ขอให้เห็นประโยชน์ของการใช้รูปภาพในการสอนธรรมะแก่ประชาชนที่ยังไม่รู้หนังสือ มันใช้ประโยชน์ได้แม้ในยุคที่ประชาชนรู้หนังสือแล้ว เราก็ยังจัดทุกอย่างให้มันง่ายที่จะเข้าถึงธรรมะคือธรรมชาติ จัดพื้นดินอย่างที่นั่งอยู่นี้ นี่ก็เป็นเรื่องมุ่งหมายโดยเฉพาะ ถ้าจัดพื้นดินให้สะดวก ที่จะมาถึงแล้วก็นั่ง นั่งแล้วก็ถึงธรรมชาติ คือตัวธรรมชาติ ตัวกฎของธรรมชาติ ตัวหน้าที่ตามกฎของธรรมชาติ กระทั่งผลของมันเป็นความสงบสุข โดยให้เข้าถึงความจริงข้อหนึ่งที่ว่า พระพุทธเจ้าท่านประสูติกลางดิน พระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าเมื่อนั่งกลางดิน พระพุทธเจ้าท่านสอนพระสาวกทั้งหลายจนเกิดพระไตรปิฏกขึ้นมา ก็ท่านนั่งสั่งสอนกลางดิน แต่ในที่สุดเมื่อท่านจะปรินิพพาน เป็นวาระสุดท้าย คือตาย ท่านก็ตายกลางดิน ฉะนั้นก็ขอให้พอใจที่จะนั่งกลางดินอย่างที่กำลังนั่งอยู่เดี๋ยวนี้ ว่าพระพุทธเจ้าประสูติกลางดิน ตรัสรู้กลางดิน สอนกลางดิน ตายกลางดิน กุฏิของท่านก็พื้นดิน
ฉะนั้นก็เป็นโอกาสที่ว่าเราจะมาทำพุทธานุสติ คือระลึกถึงพระพุทธเจ้าด้วยการมานั่งที่ตรงนี้ ในลักษณะอย่างนี้ ให้ความสะดวกอย่างนี้ แล้วจิตใจก็จะน้อมไปสู่ธรรมะได้โดยง่าย ธรรมะคือธรรมชาติ เป็นอยู่ให้ใกล้ชิดธรรมชาติจะรู้ธรรมะได้โดยง่าย และจะเข้าใจธรรมะของพระพุทธเจ้าได้โดยง่าย ถ้าเราไปอยู่กันเสียบนสวรรค์วิมาน ในเมื่อพระพุทธเจ้าท่านประสูติกลางดิน ตรัสรู้กลางดิน นิพพานกลางดิน มันก็ยากที่จะพบกัน ฉะนั้นขอให้อย่างน้อยที่สุด ก็มาชิมการนั่งนอนกลางดิน เหมือนที่พระพุทธเจ้าท่านได้ทรงผ่านมาแล้วตลอดเวลา นี้เรียกว่าสวนโมกข์ ให้ความสะดวกแก่การที่จะใกล้ชิดธรรมชาติ เพื่อรู้ธรรมะ ซึ่งเป็นตัวธรรมชาติ ตัวกฎของธรรมชาติ ตัวหน้าที่ตามกฎของธรรมชาติ ตัวผลที่จะเกิดจากหน้าที่นั้นๆ ฉะนั้นขอให้ท่านทั้งหลาย ผู้ได้มาแล้ว จงได้รับประโยชน์ในส่วนนี้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ด้วยกันทุกคน
ในที่สุดนี้ ขออวยพรแก่ท่านทั้งหลายทุกคนที่กำลังนั่งอยู่ที่นี่ว่า ด้วยอำนาจของคุณ ของพระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ซึ่งเป็นสิ่งสูงสุด เก่าแก่ งดงามที่สุดของพุทธบริษัทนี้ จงทำให้จิตใจของท่านสว่างไสว มีความเชื่อในพระธรรม มีความกล้าหาญในการที่จะปฏิบัติธรรม และก็ปฏิบัติอยู่จนเป็นปกตินิสัยแห่งตน มีความสะอาด สว่าง สงบ ที่กาย ที่วาจา และจิตใจ มีความผาสุกอยู่ มีความก้าวหน้าในหน้าที่การงานอยู่ พร้อมกันไปกับความผาสุกนั้น ทุกทิวาราตรีกาล เทอญ