แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ท่านสาธุชนผู้มีความสนใจในการทำบุญล้ออายุในวันนี้ หัวข้อที่สามที่จะได้พูดดังต่อไปนี้คือธรรมะสัจจะเพื่อสังคมนิยมที่จะช่วยโลกได้ ขอทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปตามลำดับนับตั้งแต่ข้อแรกที่สุดว่าทำไมจะต้องพูดเรื่องสังคมนิยม เป็นเรื่องบ้าบอหรือว่าเป็นเรื่องเห่อการเมืองตามโลกอะไรกับเขาด้วยหรือเปล่า ข้อนี้มันมองกันได้หลายแง่หลายมุม คือเราไม่จำเป็นจะต้องไปเห่อระบบสังคมนิยมอะไรที่ไหน เพราะว่าในพระพุทธศาสนานั้นมีระบบสังคมนิยมที่ดีเลิศและวิเศษอยู่แล้ว เนื่องจากเหตุที่ว่าในปัจจุบันนี้โลกนี้กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับสังคมนิยม และมีสังคมนิยมบางชนิดซึ่งเป็นเหมือนกับเชื้อโรคร้ายที่จะนำมาซึ่งการนองเลือด เป็นเหมือนกับโรคภัยไข้เจ็บของมนุษย์ในโลก โดยเหตุที่คำว่าสังคมนิยมมันกำลังระบาดไปในการพูดจาอย่างนี้ก็มี ด้วยเหตุที่มันกำลังจะระบาดเข้ามาจริง ๆจนเป็นปัญหาให้บางคนนอนไม่ค่อยหลับก็มี ที่พุทธบริษัททั้งหลายก็อยู่ในโลกนี้อยู่ในประเทศนี้บ้านเมืองนี้ซึ่งจะต้องพบกันเข้ากับปัญหาเหล่านี้ จึงควรจะรู้เรื่องนี้บ้างพอสมควร คนทั่วไปเขาก็เป็นห่วงเรื่องนี้กันมากเหมือนกัน แม้ว่าจะไม่ได้เป็นห่วงเพราะกลัว แต่ก็เป็นห่วงเพราะอยากจะรู้หรือจะปฏิบัติให้มันถูกต้องให้มันปลอดภัยมากกว่า ในการบรรยายอบรมผู้ที่จะเป็นผู้พิพากษาปีสุดท้ายนี้ก็มีหัวข้อกำหนดมาตามทางการจากทางการให้ช่วยบรรยายโดยหัวข้อนี้ครั้งหนึ่ง เรียกว่าสังคมนิยม นี่ก็เป็นเครื่องวัดหรือเครื่องแสดงว่ากำลังตื่นตัวตื่นใจ ตื่นอะไรก็สุดแท้ กำลังตื่นในสิ่งที่เรียกว่าสังคมนิยม เราควรจะรู้เรื่องนี้กันอย่างไรจึงจะได้ผลดีที่สุดสำหรับการเป็นมนุษย์ที่มีลมหายใจอยู่ในโลกนี้ในทุกวันนี้ สำหรับอาตมาเองก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องน่าล้อเล่นมากกว่า ไม่มีคุณค่าอันใดนักถ้าลองมาเปรียบเทียบกับข้อที่ว่าในพุทธศาสนามีสังคมนิยมหรือเป็นสังคมนิยมอันประเสริฐอยู่แล้ว ก็อยากจะเอามาเล่าว่าเรานี่ช่างโชคดีเสียเหลือเกินที่เผอิญมามีชีวิตอยู่ในยุคในสมัยที่กำลังตื่นกันในเรื่องนี้ เมื่อมาเทียบกันดูกับหลักพระพุทธศาสนาก็รู้สึกว่าไอ้สังคมนิยมของชาวโลกนั้นเป็นเรื่องเด็กเล่นเด็กอมมือที่ไม่รู้อะไร เข้าใจอะไรต่าง ๆไปในลักษณะที่ว่าไปติดตันหาทางออกไม่ได้ ถ้าจะพูดว่าโดยธรรมชาติแท้ ๆมนุษย์หรือสัตว์ทั้งหลายจะรอดอยู่ได้โดยอุดมคติของสังคมนิยมที่เป็นธรรมสัจจะโดยแท้จริง และก็พูดได้ว่าไอ้ระบบสังคมนิยมที่กำลังเห่อกันอยู่ในโลกนี้มันเป็นสัจจาภินิเวส ความโง่ความหลงไปติดไปตันอยู่ที่แห่งใดแห่งหนึ่ง ถ้าไม่มีปัญหาเกิดขึ้นมาระส่ำระสายในโลก คำว่าสังคมนิยมตามที่มีอยู่ในตำรับตำราหรือในการศึกษาอะไรต่าง ๆนั้นมันก็มีหลาย ๆแบบ โดยปลีกย่อยแล้วก็มีหลายสิบแบบด้วยซ้ำไป สังคมนิยมเข้มข้น สังคมนิยมอ่อน ๆ สังคมนิยมพวกนั้นพวกนี้ยุคนั้นยุคนี้ ล้วนแต่ไม่เห็นมีอะไรดีไปกว่าสังคมนิยมที่เป็นอุดมคติของพุทธบริษัท เมื่อเรามีอุดมคติสังคมนิยมอยู่แล้วโดยไม่รู้สึกตัว แต่ว่าอยู่ในระบบของการปกครองของคณะสงฆ์ในทางพุทธกาลเรื่อย ๆมาอย่างนี้ก็ยังได้ หรือว่าจะมีอยู่แล้วในระบบธรรมะในพระพุทธศาสนาที่เป็นส่วนพระธรรม อย่างนี้ก็ได้ หรือจะดูว่าพระพุทธองค์ทรงประพฤติต่อสัตว์โลกทั้งหลายอย่างไร ก็ยังเห็นได้ว่าเป็นระบบสังคมนิยมที่สูงสุด จึงไม่ประหลาดใจอะไรในการที่จะมีระบบสังคมนิยมประเภทสัจจาภินิเวส เกิดขึ้นมาในโลกตั้งมากมายหลายสาขา เมื่อมนุษย์ไม่อาจไปสู่ระบบสังคมนิยมที่แท้จริงของธรรมชาติได้ก็ไม่ถึงธรรมสัจจะเพราะเรื่องนี้ มันก็ไปติดตันอยู่ที่ความคิดเห็นเป็นสัจจาภินิเวสเกี่ยวกับคำ ๆนี้อยู่หลายรูปแบบทีเดียว นี่เผิอญมันมาเนื่องกันเข้ากับเรื่องของการเมืองในสมัยปัจจุบัน คำนี้เกิดขึ้นหรือว่าจะยืมมาใช้อย่างที่เรียกว่าแปลกประหลาดเสียเต็มทีก็มี คนเห่อมันในลักษณะด้วยความแปลกประหลาดก็มี หรือเห่อกันไปในทางที่ว่าเป็นของดีวิเศษที่จะช่วยโลกสมัยปัจจุบันนี้ได้ ถ้าอย่างนี้ล่ะก็ขอให้นึกกันเสียใหม่ว่ามันไม่ใช่ของใหม่ที่ควรจะต้องเห่อ ถ้าเราย้อนกลับหลังไปสักสองพันปีกว่านี่ก็จะพบระบบสังคมนิยมที่ดีที่สุดอยู่แล้ว แล้วก็มีอยู่ในเลือดในเนื้อของพุทธบริษัทเป็นลำดับมา จนกระทั่งว่าถ้านับถือพุทธศาสนาแล้วมันจะมีเจตนารมณ์แห่งสังคมนิยมอยู่ในเลือดในเนื้อ มันจึงเห็นเพื่อนมนุษย์เป็นเพื่อนเกิดเพื่อนแก่เพื่อนเจ็บเพื่อนตาย เป็นเพื่อนทุกอย่างที่จะดูดายกันไม่ได้ พูดอย่างนี้คงจะฟังถูกกันทุกคน ยิ่งคนมีอายุมากสักหน่อยแล้วก็พอจะจำความได้ว่าปู่ย่าตายายของเราสอนกันมาอย่างไรในการที่จะให้เห็นแก่ผู้อื่น สอนให้เห็นแก่ผู้อื่นทุกคนว่าเป็นเพื่อนทุกข์เกิดแก่เจ็บตาย นี่คืออุดมคติของสังคมนิยมที่บริสุทธิ์ และก็ทำกันจริง ๆไม่ใช่ทำแต่ปาก และก็ไม่ใช่ทำอย่างการเมืองคือโกหกพกลมเพื่อหาประโยชน์ใส่ตน อ้างนั่นอ้างนี่หาความจริงใจไม่ได้ พุทธบริษัทก็ควรแล้วที่จะรู้จักสังคมนิยมของพุทธบริษัทหรือของพุทธศาสนา ก็ควักออกมาเป็นอาวุธสำหรับต่อต้านสังคมนิยมบ้าเลือดของพวกสัจจาภินิเวสที่ทำผิดด้วยตัวเองแล้วก็ยกบาปให้ผู้อื่น จะอย่างไรก็ตามพุทธบริษัทนี่มันก็เป็นระบบสังคมนิยมอันประเสริฐอยู่ในเลือดในเนื้อในตัว ขอให้ยึดหลักพระพุทธศาสนาไว้ให้มั่นคงไปตามเดิม คือแม้แต่ศีลธรรมหรือสัจจธรรมไม่ว่าข้อไหนมันก็มีวิญญาณแห่งสังคมนิยมทั้งนั้น เมื่อมีอะไรดีและประเสริฐสูงสุดอยู่อย่างนี้แล้วก็อย่าไปหลงในของเด็กเล่นมันน่าสงสาร พูดนี้ก็ขอให้ถือว่าเป็นเครื่องบอกกล่าวแก่ท่านทั้งหลายไว้ล่วงหน้าว่าไม่เท่าไรไอ้คำว่าสังคมนิยมมันก็จะอื้ออึงไปหมดในโลกนี้ ไม่ต้องแตกตื่นหรือว่าตื่นตูมไปตามเขา ไม่ได้ประโยชน์อะไร มันจะน่าหัวคล้าย ๆกับว่าเมื่อไม่กี่ปีมานี้มีคนขนเอาไอ้ลัทธิที่เขานิยมยกย่องกันนักหนาว่าเป็นของใหม่ คือลัทธิ MRA ให้รักกันอย่างนั้น อภัยกันอย่างนี้ ไม่มีมึงมีกูอย่างนี้ แล้วก็เอามายื่นให้กับพระพุทธบริษัท มันก็น่าหัวที่สุด อาตมาก็เป็นผู้ที่ได้รับการเสนอให้รับนี่เหมือนกัน แล้วมันจะกระอักกระอ่วนสักเท่าไรในเมื่อเรามีหลักธรรมที่ดีกว่านั้นตั้งหลายเท่าแล้วเขาเอามายื่นให้ในฐานะเป็นของใหม่ดีที่สุดวิเศษที่สุด จะมาเกณฑ์พระเกณฑ์ชีไปเป็น MRA น่าหัวจะตาย นี่ก็เหมือนกันแหละ ถ้าหากว่าจะสังคมนิยมบ้าเลือดนั้นมาให้พวกพุทธบริษัทอีกมันก็น่าหัวอย่างนั้น เพราะเรามีสังคมนิยมโดยจิตโดยวิญญาณที่ลึกซึ้งแท้จริงอยู่ในเลือดในเนื้อ นี่เป็นเรื่องที่จะต้องพูดกันต่อไป หัวข้อที่เราวางไว้นี้เรียกว่าธรรมสัจจะแห่งสังคมนิยมที่จะช่วยโลกได้ สังคมนิยมมีหลายชนิด ชนิดที่จะช่วยโลกได้นั้นเป็นอย่างไร แล้วมันมีธรรมสัจจะของมันอย่างไร เอ้า, พูดกันด้วยคำว่าธรรมสัจจะอย่างตั้งต้นไปใหม่อย่างที่ได้พูดไปแล้วตั้งแต่กลางวันว่าไอ้ธรรมสัจจะนี่คือตัวแท้ตัวจริงของธรรม ของธรรมะก็ได้ ของธรรมชาติก็ได้ เป็นสิ่งเดียวกัน ตัวแท้ตัวจริงของธรรมชาตินั้นก็เป็นสังคมนิยม คือว่ามันไม่ได้มีอะไรที่มันอยู่โดดเดี่ยวได้ มันต้องอาศัยกันแหละกัน ไม่มีแผ่นดินแล้วต้นไม้จะอยู่ได้อย่างไร ไม่มีต้นไม้แผ่นดินจะอยู่ได้อย่างไร หรือว่าน้ำมันจะอยู่ได้อย่างไรถ้ามันไม่มีต้นไม้หรือมีแผ่นดิน ดินฟ้าอากาศที่เหมาะสมที่มนุษย์จะอยู่สุขสบายนี้มันมีอะไรแต่เพียงสิ่งเดียวไม่ได้ มันเป็นเพื่อนกันหลาย ๆอย่าง ถ้าดูให้ลึกลงไปอีก ว่าถ้ามันมีแแต่ธาตุดินมันจะมีประโยชน์อะไร มันต้องมีธาตุน้ำธาตุไฟธาตุลมอากาศธาตุวิญญาณธาตุ เป็นต้น ถ้ามันเนื่องกันสัมพันธ์กันเป็นอย่างดีมันถึงจะมีอะไรขึ้นมาได้ และเป็นธรรมชาติดังที่ปรากฏให้เห็นอยู่นี้ว่ามันเป็นมนุษย์บ้างเป็นสัตว์บ้างเป็นต้นไม้บ้างเป็นแผ่นดินบ้างเป็นห้วยหนองคลองบึงบางอะไรต่าง ๆ มันอยู่ในสภาพที่เหมาะสม มีความชื้นพอดีมีความอบอุ่นพอดี มีอะไรพอดีมันจึงมีชีวิดตอยู่อย่างนี้ได้ หรือว่าในคน ๆหนึ่งนั้นก็มีเจตนารมณ์ของสังคมนิยมคือต้องมีอะไร ๆหลาย ๆส่วนหลาย ๆอย่างทำงานสัมพันธ์กันอย่างที่จะแยกกันไม่ได้ เรื่องนี้พวกที่ได้เล่าเรียนมาทางสรีรศาสตร์หรือเรื่องการแพทย์การหมอนี่ก็รู้เรื่องดี ตาก็เนื่องกับหู หูก็เนื่องกับจมูก จมูกก็เนื่องกับปาก ไม่มีอะไรที่จะแยกอยู่ตามลำพังได้ แต่ว่าถ้าไม่ได้เรียนก็ไม่รู้ เพราะจะสังเกตเอาเองก็จะยากเต็มที แต่ขอให้เชื่อเถอะว่าผิดที่เราจะพูดว่าอวัยวะใหญ่น้อยทั้งหลายต้องร่วมกันทำงานทำหน้าที่ให้ถูกต้องตามธรรมสัจจะของสิ่งที่จะประกอบกันขึ้นเป็นร่างกาย มันจึงอยู่ได้ เพราะฉะนั้นไอ้วิญญาณแห่งสังคมนิยมมันจึงมีอยู่ในตัวคนทุกคน ก็ต้องอยู่กันด้วยความสัมพันธ์กันอย่างถูกต้องที่เราเรียกว่าความรักความสามัคคีนั้นมันจึงจะเป็นสังคมนิยมที่เป็นที่พึ่งได้ ถ้ามันเป็นการเกี่ยงงอนเกี่ยงแย่งทะเลาะวิวาทกันแบ่งพรรคแบ่งพวกกันสำหรับจะประหัตประหารกันมันก็เป็นสังคมนิยมบ้าอยู่ในโลกนี้ แม้ในหมู่สังคมนิยมด้วยกันเองมันก็ยังเข่นฆ่ากันเพราะมันมีหลายแบบ แต่ถ้ามันเป็นความถูกต้องตามธรรมสัจจะของธรรมชาติแล้วมันจะมีแต่เพียงแบบเดียว ก็เลยไม่รู้ว่าจะฆ่าใคร เพราะไม่มีข้อขัดแย้ง ที่ว่าสังคมนิยมมันก็ต้องหมายถึงว่ามันอยู่ด้วยกันได้ คือเพราะว่านิยมสังคม คือความรวมกันอยู่ได้ ก็ไม่มีข้อขัดแย้ง ถ้ามีข้อขัดแย้งมันก็มีไม่ได้ ที่มนุษย์พวกหนึ่งเอาเปรียบพูดเอาข้างเดียว ให้อีกฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายผิดเสมอไป ยกตัวเองเป็นฝ่ายถูก นี้ไม่มีวิญญาณแห่งสังคมนิยมเลย นี่เรียกว่าเราดูโดยทัศนะกว้าง ๆในธรรมสัจจะของธรรมชาติว่าสิ่งที่มันมีอยู่ได้นี่มันก็มีวิญญาณแห่งสังคมนิยมทั้งนั้น และที่มันเนื่องกันอย่างน่าอัศจรรย์ก็มีอยู่มากเราก็ยังไม่รู้เสียที ไม่ค่อยมองเห็นเสียที เรียกว่ายังขาดความรู้ในด้านนี้อยู่มากทีเดียว ยกตัวอย่างเช่นจะพูดขึ้นมาสักข้อหนึ่งว่า ถ้าไม่มีพวกนกเล็ก ๆที่มีอยู่ทั่วไปตามในวัดนี้แล้ว ไม่มีนกประเภทนี้แล้วคนก็จะตายหมด พูดอย่างนี้ถ้าเป็นนักพฤษศาสตร์อะไรอยู่บ้างมันก็คงจะฟังออก แต่คนทั่วไปคงจะฟังไม่ออกว่าถ้าไม่มีนกเล็ก ๆนี่สักตัวเดียวคนก็จะตายหมด นั่งดูอาจจะเห็นว่าไอ้นกเล็ก ๆนี้มันช่วยปราบศัตรูคือหนอนที่จะคอยกินยอดไม้ หนอนที่จะกัดกินยอดไม้ นกเล็ก ๆมันเป็นผู้ปราบ วันหนึ่งตั้งพันตัวหมื่นตัวแสนตัว นกตัวหนึ่งจะทำลายหนอนนี้นับเป็นร้อย ๆตัวพันตัวต่อวัน แล้วนกเท่าไหร่ หนอนกี่ล้านล่ะที่มันปราบไปแล้วต่อวันต่อเดือนต่อปี ถ้าว่ามันไม่มีนกพวกนี้มันก็มีแต่หนอน ความไม่สมดุลก็เกิดขึ้นก็มีแต่หนอนก็กัดกินยอดไม้ จนต้นไม้ทนอยู่ไม่ได้เพราะถูกกันกินยอดไม้หรือกินบางส่วนของมันหมดจนต้นไม้จะต้องตายลงทั้งแผ่นดิน ถ้าต้นไม้ตายลงทั้งแผ่นดินแล้วอะไรจะเกิดขึ้น ก็เล่าร้อนระอุแห้งแล้งหรือว่าโรคภัยไข้เจ็บอย่างใดอย่างหนึ่ง ประดังกันเข้ามาทีเดียวแล้วมนุษย์ก็อยู่ไม่ได้แล้วก็จะต้องตาย ถ้าไม่มีต้นไม้อย่างเดียวแล้วฝนก็จะไม่ตกลงมา นี่พูดสั้น ๆว่าถ้าไม่มีนกตัวเล็ก ๆเหล่านี้แล้วมนุษย์จะตายหมดบางคนก็จะฟังไม่ถูก นี่ปู่ย่าตายายโบรมโบราณเขาก็รู้เรื่องนี้ ฉะนั้นเขาจึงสอนไปในทางที่ว่าให้มันกระทำไปในทางที่ชีวิตทั้งหลายมันอยู่ด้วยกันให้เมตตาปราณีกันถูกต้องตามกฎเกณฑ์ของธรรมชาติที่มันมีอยู่ในเวลานี้ก็เพราะว่ามันทำสังคมกันสหกรณ์กันประพฤติประโยชน์ร่วมกัน นี่เป็นฝีมือของธรรมชาติ หรือว่าถ้ามันไม่มีธรรมชาติข้อนี้ก็ตายหมดแล้ว เราก็ไม่ได้มานั่งพูดกันอย่างนี้ นี่ธรรมชาติมันมีของมันอย่างนั้นมันจึงรอดอยู่ได้และเราก็ได้มานั่งพูดกันอย่างนี้ ทีนี้ผู้ที่รู้เรื่องนี้ดีก็จะยึดหลักนี้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นเพื่อช่วยประคับประคองทุกอย่างมันมีอยู่ตามที่ธรรมชาติต้องการหรือที่พระเจ้าต้องการ ฉะนั้นเขาจึงทำนาเผื่อลิง อย่างที่ประเทศอินเดียพูดแล้วว่าคนบ้านเราก็จะงงว่าทำนาเผื่อลิง มันทำข้าวให้มากไว้ลิงกินมันก็ไม่ว่า ไม่ว่าอะไรเพราะมันได้ทำนาเผื่อลิง เพราะคิดว่าลิงจะต้องมีอยู่ในโลกจึงจะมีความสมดุลในโลก นี่มันมีสังคมนิยมลงไปถึงสัตว์เดรัจฉานขนาดนี้ ไม่ต้องพูดถึงคนด้วยกัน ประเพณีวัฒนธรรมในประเทศอินเดียที่ให้รักสิ่งที่มีชีวิตนี่เป็นไปแรงกล้า ไม่กินเนื้อสัตว์ที่มีชีวิต ฉะนั้นนกหนูปูปลานี่มันจึงเต็มไปหมดซึ่งเราจะหาดูไม่ได้ในเมืองไทย ที่จะดูนกมาก ๆปลามาก ๆอย่างในประเทศอินเดียหาดูยากเพราะว่าเรามันไม่มีหัวใจที่เมตตากรุณาต่อสิ่งมีชีวิตทั้งหลายมากเหมือนคนเหล่านั้นนั่นเอง นี่ย่อมแสดงว่าอะไร เจตนารมณ์ของสังคมนิยมนั้นเหลืออยู่ที่ในประเทศอินเดียมากในจิตใจของมนุษย์ที่นั่นมาก ฉะนั้นมันจึงมีอะไรที่ทำลายยาก ถ้าเห็นแก่สังคมนี่มันกว้างนัก
อ้าว, ทีนี้ดูให้สูงขึ้นมาอย่างที่พูดว่าเจตนารมณ์ของสังคมนิยมมีอยู่ในพระพุทธศาสนา ถ้าจะพูดอย่างไม่เอาเปรียบกันก็จะต้องพูดให้กว้างออกไปถึงกับว่าในศาสนาก็แล้วกัน คือมันทุกศาสนาเลย เพราะว่าก่อนพุทธศาสนามันก็ต้องมีศาสนาอะไรอยู่แล้ว จึงพูดว่าในศาสนาและในทุกศาสนา เพราะมีรากฐานที่ตั้งขึ้นมาบนอุดมคติอันนี้เพื่อเมตตากรุณาต่อสิ่งทั้งปวง และก็สูงขึ้นมาถึงกับยอมรับรู้ในความเสมอภาคกันหรือว่าในเสรีภาพกัน ทุกอย่างที่มันจะประสานกกันไว้ได้ มันสัมพันธ์กันไว้ได้ จนกระทั่งว่าเกิดคณะสงฆ์ในพระพุทธศาสนา พระพุทธองค์ทรงบัญญัติระบบวินัย คือทำให้เราเห็นได้ทีเดียวว่ามันเป็นระบบที่ผูกพันกันไว้เป็นพวกเป็นหมู่ ไม่แยกออกจากกันไป รู้ได้ตรงที่คำว่าสงฆ์นั่นเอง เพราะว่า สงฆ์พระ พระสงฆ์ นั้นตัวหนังสือมันแปลว่า หมู่ หรือ พวก มันไม่ได้แปลว่า เดี่ยว คนเดียว เมื่ออยู่เป็นหมู่เป็นพวกมันก็ต้องมีอะไรเป็นเครื่องยึดเหนี่ยว หรือมีหลักธรรมสัจจะอันใดอันหนึ่งที่จะทำให้คณะสงฆ์ตั้งอยู่ได้เป็นหน่วยเดียวจากส่วนประกอบหลายร้อยหลายพันหลายหมื่นหน่วย ดึงเข้าเป็นสังคมที่ถูกต้องที่อยู่อย่างผาสุก ถ้าดูให้ดีก็จะยิ่งเห็นมากขึ้นไปอีกว่านี่การสอดคล้องกับธรรมชาาติที่สุด และยังจะป้องกันเหตุการณ์เลวร้ายที่จะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้า อย่างระเบียบวินัยในพระพุทธศาสนานี้ก็ให้สันโดษพอดี รู้จักพอดีในการที่จะเป็นอยู่ ยิ่งเป็นพระสงฆ์คือเป็นภิกษุก็ได้รับการวางกฏเกณฑ์ไว้เป็นพิเศษไม่ให้กอบโกยส่วนเกิน ใช้คำอย่างนี้คำเดียวก็พอ เพราะพระสงฆ์นี่จะเอาอะไรเกินไม่ได้ ถ้าเกินกว่าที่จำเป็นนี่จะผิดวินัยทั้งนั้น นี่เป็นหลักทั่วไปที่ควรจะทราบไว้ชั้นหนึ่งก่อนว่าถ้าพระสงฆ์ไปเอาอะไรที่มันเป็นของเกินไม่จำเป็นแล้วจะมีผิดวินัยทั้งนั้น แล้วยัง บางอย่างจะผิดธรรมะ คือจะผิดธรรมะด้วย แล้วบางอย่างก็จะผิดวินัยอันร้ายแรงด้วย ดูตัวอย่างเช่นว่าเราจะต้องมีจีวรสามผืน มีมากกว่านั้นมันก็เกิดเป็นปัญหายุ่งยากลำบากถึงกับต้องเป็นอาบัติ แม้แต่บาตรก็ให้มีได้เพียงใบเดียว กุฏิก็ให้มีได้เพียงสิบสองคืบเจ็ดคืบเท่ากับห้องน้ำที่ตรงโน้น นั่นแหละกุฏิที่จะมีได้เอง ยังมีเรื่องที่จะต้องสันโดษอีกมาก สิ่งที่ไม่ควรมีมีไม่ได้ มันไม่เพียงแต่ผิดวินัย มันทำลายความก้าวหน้าในทางธรรมะ ถ้าพระสงฆ์และภิกษุสงฆ์ที่ต้องการก้าวหน้าตามทางธรรมะแแล้วไปมีอะไรที่เกินจำเป็นเป็นส่วนเกินไว้มากมันก้าวหน้าไม่ได้มันจะกลายเป็นผู้ที่รุงรังไปด้วยทรัพย์สมบัติอะไรต่าง ๆ นี่การที่ไม่เอาส่วนเกินนี่มันมีผลดีอย่างนี้ ที่จะต้องมองชั้นหนึ่งว่าถ้าแต่ละคนไม่เอาส่วนเกินแล้วมันก็เหลืออยู่มาก ส่วนเกินนั้นมันก็ตกทอดไปเป็นของคนอื่น คนอื่นก็ไม่ขาดแคลน ถ้ากอบโกยส่วนเกินกันไว้มากแล้วมันก็ต้องขาดแคลน ไอ้พวกยากจนมันก็จะต้องมีโดยเร็ว นี่ถ้าว่าไม่เอาส่วนเกินก็ไม่เกิดคนยากจน คนที่เอาส่วนเกินนั้นมันเอามากเข้า ๆ ได้แต่ความละโมบและก็แผนการสกปรกลึกลับไม่มีที่สิ้นสุด ไม่เท่าไรก็ทำให้เกิดความขาดแคลนใหญ่หลวงผู้อื่นก็เป็นคนยากจน ฉะนั้นอุดมคติอันนี้ที่ว่าไม่เอาส่วนเกินของภิกษุสงฆ์คือรากฐานแท้จริงของสิ่งที่เรียกว่าสังคมนิยม นอกจากนั้นก็ยังมีระเบียบวินัยอะไรต่าง ๆที่วางไว้ชัดเจนว่าต้องช่วยเหลือกันและกัน อุดมคติของโพธิสัตว์นั้นมีมาก่อนพุทธกาลก็ว่าได้ ต้องช่วยเหลือผู้อื่น เสียสละเพื่อผู้อื่น แม้ชีวิตของตัวก็สละได้ นี่ก็เพราะเห็นแก่สังคม ในพุทธศาสนาก็ยอมรับอุดมคติอันนี้ ยอมนับเนื่องเข้าไว้ในพระพุทธศาสนา มันก็มีเจตนาของสังคมนิยมมากไปทุกด้านในทุกแง่ทุกมุมเท่ากับธรรมสัจจะของธรรมชาติที่ว่าไม่มีอะไรที่มันจะอยู่ลำพังเดียว ตัวเดียวโดดโดดเดี่ยวคนเดียวได้ ไม่ว่าต้นไม้ต้นหนึ่งถ้ามันอยู่เดี่ยว ๆมันก็จะหักโค่นล้มได้โดยง่าย สัตว์มันก็ยังต้องอยู่เป็นฝูงเป็นพวก มนุษย์ก็เหมือนกัน เพราะว่าอยู่กันเป็นสังคมนี่เป็นความต้องการของธรรมชาติ ถ้าจะมองกันไปถึงขนาดที่เรียกว่าต้องมีการสืบพันธุ์จึงจะมีลูกหลานเหลืออยู่ นี้ก็เป็นเรื่องสังคนด้วยเหมือนกัน สมัยนั้นก็ไม่มีอะไรที่จะเหลืออยู่เป็นหมู่เป็นพวกเป็นหมู่สัตว์ในโลกนี้ขึ้นมาจึงนึกถึงการประพฤติกระทำให้ถูกต้องในการที่จะมีการสืบพันธุ์มีลูกมีหลานมีอะไรมันถูกต้องอย่าให้มันเป็นอันตรายอย่าให้มันผิดพลาด ในโลกนี้มันจึงมีสัตว์ที่มีชีวิตทวีขึ้นทวีขึ้นในลักษณะที่น่าประหลาด แต่แล้วก็มาถึงยุคที่มนุษย์ใจดำอำมหิตเห็นแก่ตัวเกิดขึ้น มันก็ทำลายล้างธรรมชาติเหล่านี้สูญเสียไปสูญหายไปขาดแคลนลงจนกับว่าสัตว์บางชนิดได้สูญพันธุ์ไป แล้วต้นไม้บางประเภทมันได้สูญพันธุ์ไป และคนบางประเภทมันก็ยังต้องสูญพันธุ์ไป เพราะความคิดประเภทที่ไม่เห็นแก่ส่วนรวมนี้มันมันหนาแน่นขึ้นมา ทีนี้เมื่อมันได้ทำผิดถึงขนาดนั้นแล้ว มากถึงขนาดว่าไอ้พวกหนึ่งก็มั่งมีเกินไป พวกหนึ่งมันก็ยากจนเกินไป มันก็ยังไม่หยุด ก็ยังมีความเห็นแก่ตัวอยู่นั่นเอง ระบบสังคมนิยมมันก็ไม่เป็นไปอย่างถูกต้องทั้งสองฝ่าย ฝ่ายคนยากจนก็จะทำผิดอย่างจึงได้ยากจน ฝ่ายคนมั่งมีก็ทำผิดอีกแบบหนึ่งจนได้ชื่อว่าเป็นนายทุน ถ้าว่าเป็นคนมั่งมีอย่างถูกต้องนั้นไม่เป็นอันตรายอะไรเพราะอยู่ด้วยความรักใคร่ไอ้ไอ้คนที่มีโชคร้ายมีคนโชคไม่ดี แต่ถ้าเขาจะทำตัวแบบนายทุนเขาก็ยังเอาเปรียบอยู่เรื่อยมันก็มีผลขึ้นมาเป็นอย่างอื่น ไอ้คนจนนี่มีการทำผิดหลายอย่างหลายประการด้วยเจตนาก็ได้ไม่เจตนาก็ได้ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์นั่นแหละเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ไม่น้อยเหมือนกันที่ว่ามันบังคับตัวเองไม่ได้ มันถูกกิเลสครอบงำนำไปสู่อบายมุขมันก็ยากจน ใครบ้างที่ยากจนเพราะเหตุอื่นที่ไม่ใช่อบายมุข ไปโทษ ไปโทษเหตุอื่น ไปโทษดินฟ้าอากาศ กระทั่งไปโทษนายนายทุนอย่างนี้ มันเป็นเรื่องหลับหูหลับตาพูด ไม่ดูให้ดีว่าความยากจนนั้นมันเกิดขึ้นเพราะการทำผิดทางศีลธรรม ถ้ามีศีลธรรมมันก็ไม่มีคนประเภทสองประเภทนี้ขึ้นมา คือไม่มีนายทุนที่ขูดรีดและไม่มีคนยากจนที่ไม่มีอะไรจะกิน เพราะว่าศีลธรรมมันทำให้มีระบบที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ หรือที่เราจะเรียกว่าสังคมนิยมอันบริสุทธิ์ ซึ่งมันได้มีมาแล้วไม่รู้กี่หมื่นปีพันปีร้อยปีมานี่ ไม่ใช่ของใหม่ เดี๋ยวนี้มันเป็นยุคหรือเป็นเวลาที่จะปรากฏผลร้ายของการทำผิดพลาดในเรื่องนี้ของคนในโลกที่ทิ้งระบบสังคมนิยมอันบริสุทธิ์จึงเกิดวิกฤตการณ์อย่างนี้ขึ้นมา แล้วจะมาเรียกหาสังคมนิยมโดยใช้อาวุธเข้าประหัตประหารกันนั้นมันจะเป็นเรื่องบ้าต่อไปอีกก้าวหนึ่ง มันจะเหมือนกับเอาน้ำโคลนล้างโคลน ไอ้โคลนทีหลังนี่กลับเหนียวแน่นไปกว่าโคลนทีแรก เป็นความผิดที่มันมากไปกว่าความผิดทีแรก ไม่มีทางที่จะเป็นไปได้ ทำไปมันก็ไม่แก้ปัญหาอะไรได้นอกจากจะตายกันเปล่าออกไปมาก ๆอีกเท่านั้นไม่มีประโยชน์กับใคร จึงต้องหันไปหาสิ่งสูงสุดคือพระเจ้าได้แก่ธรรมสัจจะที่มีอำนาจเด็ดขาดในเรื่องนี้เป็นที่ตั้งแห่งศีลธรรมที่จะมีเมตตากรุณากันเป็นต้น คือต้องต่อสู้ชนิดที่เรียกว่าชนะอธรรมด้วยธรรม ชนะความชั่วด้วยความดี อย่างนี้เท่านั้นแหละจึจะรอดกันไปได้ ถ้าอย่างอื่นมันก็เป็นการผิดธรรมะมันก็ยิ่งเลวร้ายลงไปอีก พุทธบริษัทนี่ควรจะถือว่ามีโชคดีอยู่มากทีเดียวที่ได้เป็นพุทธบริษัท มีธรรมะครบในทุกแง่ทุกมุมกระทั่งธรรมะในแงของการเป็นอยู่อย่างสังคมเพื่อเป็นสังคมที่ดี อาตมาเคยพูดอุปมาให้เขาฟังว่าเดี๋ยวนี้พวกเราอยู่ในสภาพที่ต้องจุดไฟบ้านรับไฟป่า ไฟบ้านก็คือไฟที่อยู่ในระเบียบของศีลธรรมหรือควบคุมได้ ไอ้ไฟป่ามันก็มาอย่างบ้าเลือดไม่มีระเบียบ ถ้าเราจะป้องกันไฟป่าเราต้องรีบจุดไฟทางบ้านนี่เสียให้มันเกลี้ยงเกลาไม่มีเหยื่อของไฟป่า ไม่มีเหยื่อของโมหะทุจริตอะไรต่าง ๆใจจิตใจของเรา ข้างนอกก็เหมือนกันแหละอุปมานี้ มีบ้านอยู่ในดงพงอ้อเชื้อเพลิงทั้งนั้น พอไฟป่าไหม้มามันก็ไหม้หมดทั้งพงและทั้งบ้านเรือนทั้งกระต็อบหรืออะไรก็สุดแท้ แต่ถ้าจุดไว้รอบ ๆแล้วมันไหม้ไม่ได้ นี่คือมีระเบียบที่ถูกต้องป้องกันอยู่แล้ว พุทธบริษัทก็มีระบบสังคมนิยมตามแบบของพระศาสนาเป็นเครื่องรับหน้าระบบสังคมนิยมบ้าเลือดของอันธพาลซึ่งมีแต่ความเห็นแก่ตัวทำให้เกิดการแบ่งแยกแล้วก็โทษคนนั้นโทษคนนี้ ไม่มีความเป็นธรรมแล้วมันก็ไม่มีอะไรที่จะเป็นผลดีอย่างยืดยาวต่อไปได้ เราจะต้องหันหน้าเข้าหาสิ่งที่เรียกว่าธรรมหรือพระธรรมและก็พึ่งพระธรรม พุทธศาสนาก็รู้กันแล้วว่าเป็นศาสนาของผู้รู้ พุทธะ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ศาสนาของพุทธะก็จะต้องเป็นไปด้วยความรู้ ความตื่น ความเบิกบาน มีความถูกต้องในทุกสิ่งที่เข้ามาเกียวข้องกัน จะเป็นบุคคลก็ดีหรืออะไรก็ตาม นี่เท่าที่พูดมานี้มันก็พอจะเห็นกันได้แล้วว่าคำว่าสังคมนิยมนั้นมันไม่ได้ว่าเฉพาะคนอย่างเดียว มันกินความลงไปถึงไอ้ธรรมชาติทั้งหลายทั้งปวง แม้ไม่ใช่คน แม้เป็นสักว่าส่วนประกอบอย่างหนึ่ง ๆ เช่น ธาตุ ขันธ์ อายตนะ อะไรก็ตาม ในคน ๆหนึ่ง มันก็ยังอยู่ในระบบที่เรียกว่าสังคมนิยม คือผูกพันกันสัมพันธ์กันในลักษณะที่ถูกต้อง เดี๋ยวนี้มันถึงคราวที่ว่ามันมีสังคมนิยมที่ผิดไปจากธรรมสัจจะของธรรมชาติของบุคคลบางพวกบางหมู่ที่ได้ประพฤติตัวอย่างเป็นขบถต่อธรรมชาติ เกิดแตกแยกขึ้นเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งมีอำนาจทางการเงิน ฝ่ายหนึ่งก็มีอำนาจทางเรี่ยวแรง เพราะว่าพวกมันมาก มันก็จะได้ประหัตประหารกัน ภัยนี้ก็เกิดมาจากไอ้สังคมนิยมบ้าเลือด คือเห็นแก่พวกตัวเกินไป ไม่เห็นแก่พวกอื่นว่าแม้พวกอื่นก็เป็นมนุษย์ที่อยู่ร่วมโลกกันและควรจะเป็นพวกเดียวกัน การที่ได้แบ่งแยกมนุษย์ออกเป็นพวก ๆและทำตัวเป็นศัตรูกันนั้นไม่ใช่ความต้องการของธรรมชาติและก็ไม่ใช่ความต้องการของศาสนาใด ๆ ทุกศาสนาก็ไม่ต้องการอย่างนั้น ต้องการให้เป็นคนเดียวกันอยู่เสมอ ถ้ามีคนทำผิดก็จะต้องมีความเมตตากรุณาที่จะต้องแก้ไขเขาให้ถูกไม่จำเป็นต้องไปฆ่าเขา เพราะมันทำให้ผิดยิ่งขึ้นและมันจะมีการตอบสนองกันไปตอบสนองกันมาในทางที่จะให้ผิดยิ่งขึ้น ดุร้ายดังสัตว์ป่ายิ่งขึ้น แล้วมันจึงฆ่ากันลงคอ คนสมัยนี้จึงมีใจอำมหิตพอก็จะปล่อยลูกระเบิดพิเศษลงมาสักลูกหนึ่ง ซึ่งตัวก็รู้ดีอยู่ว่ามีคนตายเป็นแสน ๆ แล้วยังมีจิตใจปล่อยลงมาได้ ถ้าเป็นสมัยปู่ย่าตายายของเรามันยอมแพ้ยอมหนียอมทิ้ง แต่ไปไหนก็ไม่รู้ ไม่ยอมปล่อยของอย่างนี้ลงมาเพื่อฆ่าเพื่อนมนุษย์ด้วยกันทีเดียวเป็นแสน ๆ นี่ความเสื่อมทรามทางศีลธรรมในจิตใจของมนุษย์มันมีอย่างนี้ แล้วจะเรียกว่าสังคมนิยมอย่างไร เพราะว่าฝ่ายไหนมันก็พร้อมที่จะใช้อาวุธชนิดนี้กันอยู่ทั้งนั้น ประเทศที่ถือระบบนายทุน ประเทศที่ถือระบบชนกรรมาชีพมันก็พร้อมที่จะเหวี่ยงระเบิดชนิดนี้ใส่กันทั้งนั้น มีความเป็นอำมหิตพอ ๆกันแม้ว่ามันจะคนละแบบ ขอให้คิดดูอีกทีว่าถ้าสังคมนิยมแท้จริงมันจะต้องเห็นเพื่อนตาดำ ๆว่าเป็นสิ่งที่ฆ่าไม่ลง จะต้องแก้ไขกันโดยวิธีอื่นก่อน ไม่คิดถึงการฆ่า แล้วต้องการสันติภาพก็ต้องทำไปตามทางของสันติภาพ การฆ่าเขาจะนำไปสู่การที่เราถูกฆ่า แต่ถ้าว่าเราจะมีความสมัครสมานสามัคคีกันเราก็ต้องแลกเอามาด้วยความเมตตากรุณาซึ่งกันและกัน คำพูดที่ว่ามีเมตตากรุณาแล้วแม้แต่สัตว์ร้ายก็ไม่กัดไม่ทำอันตราย นี่เดี๋ยวนี้ไม่มีใครเชื่อ เห็นเสือเห็นสัตว์ร้ายนี่ก็ไล่ฆ่าไล่ยิงจนมันไม่มีเหลืออยู่ในแผ่นดินนี้ นี่ก็ทำมากไปจนถึงกับว่าคนก็ไม่เว้น ขอให้ดูให้ดี ๆในข้อนี้ว่ามันจะ จะหลอกให้เข้าใจผิดไปมากทีเดียว ข้อที่ว่า ชนะความดีด้วยความดี อย่าชนะความชั่วด้วยความชั่ว ชนะความชั่วด้วยความดี อย่าชนะความชั่วด้วยความชั่ว อย่าเอาน้ำโคลนล้างโคลน ถึงกระไร แต่ก็ยังมีมนุษย์ที่ไม่ควรเรียกว่ามนุษย์ เป็นคนที่มีสังคมนิยมบ้าเลือดจะล้างผลาญกันฆ่าฟันกันในโลกนี้ เราจะทำอย่างไร จะหลบก็หลบไป แต่ถ้าออกโรงไปร่วมกันฆ่าเขานี่เราก็คงทำไม่ได้เพราะว่าเราเป็นพุทธบริษัท รู้ดีว่าทำอย่างนั้นไม่มีประโยชน์อะไร ก็เพียงจุดไฟบ้านรับไฟป่า คือมีธรรมะเพียงพอที่จะขจัดอธรรม แม้ว่าเราจะต้องตายไปเราก็ไม่ยอมเสียในส่วนที่เป็นธรรม จะเอาธรรมะไว้แทนที่จะสงวนชีวิตไว้อย่างที่ไม่มีธรรม ก็จะช่วยให้เป็นธรรมะได้ อย่างไรก็จะช่วยกันหมดเลย นี่สังคมนิยมตามทางธรรม ก็จึงต้องเพิ่มคำเข้าไปข้างหน้าว่าสังคมนิยมที่ประกอบอยู่ด้วยธรรม ซึ่งอาตมาเคยใช้คำว่า ธรรมิกสังคมนิยม สังคมนิยมที่ประกอบอยู่ด้วยธรรม ไม่ใช่สังคมนิยมที่ประกอบอยู่ด้วยการอาฆาตโกรธแค้นน้อยเนื้อต่ำใจใช้กิเลสเข้าใส่กัน สังคมนิยมอย่างนั้นไม่ประกอบไปด้วยธรรม ไม่เข้ากันได้กับพุทธบริษัท เช่นพุทธบริษัทคงจะยอมที่จะตายเองเสียดีกว่าที่จะไปทำอย่างนั้น คือมันไม่มีประโยชน์อะไร มันไม่รู้จบ
นี่ข้อที่ว่าเอาธรรมะเป็นที่พึ่ง เอาพระเป็นที่พึ่ง เอาศาสนาเป็นที่พึ่ง ก็หมายความว่าต้องทำถูกต้องในเรื่องนี้มันจึงจะเป็นที่พึ่ง เหมือนกับว่าที่แล้ว ๆมาปู่ย่าตายายของเรามีธรรมะเป็นที่พึ่งเป็นเครื่องคุ้มครองป้องกันไม่ให้เกิดความแตกแยก เช่น เป็นศัตรูกันอย่าง อย่างถึงที่สุดนะ การทะเลาะวิวาทกันหรืออะไรมันเป็นเรื่องเล็ก ๆน้อย ๆสำหรับสมัยนั้น แต่สมัยนี้กลายเป็นเรื่องที่ว่าจะต้องฆ่ากันทั้งโลกหรือครึ่งโลก ต่างเข้าใจผิดในคำว่าสังคมมนุษย์หรือคำว่าโลกของมนุษย์ที่จะต้องเป็นอย่างไรหรือว่าอยู่กันอย่างไร นี่ควรจะเศร้าสลดสังเวชเอามาเล่ากันเล่น ๆว่ามนุษย์เป็นมนุษย์กันถึงไหนแล้วโว้ย ที่มองเห็นว่าการฆ่ากันคนละครึ่งโลกนี้เป็นของถูกต้อง มนุษย์ได้เดินมาถึงขั้นนี้แล้วเป็นมนุษย์กันอย่างไร มีสังคมนิยมเพื่อจะฆ่ากัน ฝ่ายโน้นมันก็มีพวก ฝ่ายนี้มันก็มีพวก แล้วมันก็ฆ่ากันได้ นี่มนุษย์เดินขึ้นมาถึงขั้นนี้ ยิ่งกระเหี้ยนกระหือรือที่จะยึดถือไอ้สัจจาภินิเวสอันนี้ แม้ว่าเราจะแก้ปัญหาในโลกได้ด้วยการกระทำอย่างนี้ ล้อมนุษย์ก็คงจะไม่พ้นไอ้เรารวมอยู่ในนั้นคนหนึ่งด้วย ก็เรียกว่ายุติธรรมดี ถึงแม้ว่าเราจะไม่รวมอยู่ในพวกนั้นแต่ว่าเราก็รวมอยู่ในโลกนี้ที่จะต้องคอยถูกผลสะท้อนหรือว่าลูกหลงหรืออะไรก็ตาม นี่ก็เป็นเรื่องที่น่าล้อได้เหมือนกัน ช่างโชคดีอะไรที่เกิดขึ้นมาในยุคนี้ได้เห็นอะไรแปลก ๆ แต่แล้วก็ไม่พ้นที่ว่าจะพลอยได้รับไอ้ลูกหลงไปกับเขาด้วย เมื่อโลกมันปั่นป่วนถึงขนาดนี้แล้วก็มันก็ไม่ยกเว้นอะไรที่จะไม่กระทบกระเทือน ไม่โดยตรงมันก็โดยอ้อม เพราะฉะนั้นไอ้ทางที่จะปัดเป่ามันก็ คิดดูให้ดี ๆ จะเอาน้ำโคลนล้างโคลน หรือจะหาน้ำสะอาดมาล้างโคลน ถ้ามีธรรมะแท้จริงมาใช้แก้ปัญหา มันก็เหมือนเอาน้ำสะอาดล้างโคลน กระทั่งจะต้องล้างให้แก่ไอ้คนที่เราเห็นว่าเป็นศัตรู นี่เรียกว่าชนะความชั่วด้วยความดี ขอให้ทุกคนลองสรุปความดูทีว่าคำว่าสังคมนิยมนี้มีความหมายว่าอย่างไร ไม่ต้องเอาเรื่องการเมืองในปัจจุบันมาเป็นหลัก มันเป็นเรื่องเล็กนิดเดียวหยิบมือเดียว เป็นความโง่ของมนุษย์ชั่วไม่กี่ปี ก็ให้นึกถึงความฉลาดของมนุษย์ที่มีมาหมื่นปีพันปีร้อยปี ควรจะเอาความฉลาดนั้นมาใช้ก็จะแก้ปัญหาและไม่ต้องทำให้มันเสียเลือดเสียเนื้อมากยิ่งขึ้นไปอีก ทุกคนก็มองเห็นและก็พูดกันอยู่รู้กันอยู่ประกาศกันอยู่ว่ามันตายไปเท่าไรมันเสียอะไรไปเท่าไร และมันกำลังเดือดร้อนระส่ำระสายโดยอ้อมโดยอะไรอีกมากมายเท่าไร ขอให้คิดดูอย่างนี้แล้วมันก็จะถอยกลับ หรือจะสลดสังเวชให้หยุดยั้งในการที่จะประหัตประหารกัน
อย่างที่ได้พูดไปตอนกลางวันว่าถ้าอยากจะทำบุญก็ขอให้ทำบุญในส่วนนี้ ทำบุญในส่วนที่ให้ศีลธรรมกลับมา ถ้าศีลธรรมกลับมาแล้วระบบสังคมนิยมในโลกนี้จะถูกต้อง ถ้าศีลธรรมหายไปหมดแล้วระบบสังคมนิยมที่ถูกต้องมันก็มีไม่ได้ มันก็มีระบบสังคมนิยมแห่งการเห็นแก่ตัว ในที่สุดมันก็ต้องบ้าเลือดแล้วมันก็ฆ่าฟันกันอย่างที่เรียกว่าเป็นมิกคสัญญี เป็นสัตว์??? (นาทีที่ 47:47) เป็นสัตว์ที่มันจะใช้อาวุธเป็นเครื่องตัดสิน ใช้ความมุทะลุดุดันของกิเลสเป็นเพื่อใช้อาวุธนั้นเป็นเครื่องตัดสินปัญหาต่าง ๆ เป็นความโง่แบบหนึ่งในความโง่หลาย ๆแบบหรือหลาย ๆสิบแบบ ขอให้คิดหันหน้า หันหน้าไปทางพระธรรมในทางธรรมะในทางศาสนาซึ่งเป็นแบบฉบับของความถูกต้องที่ได้ถูกต้องเรื่อยมาตามลำดับเป็นการพิสูจน์ได้อย่างดีว่าธรรมะนี้เป็นสิ่งที่ถูกต้องอย่างไร พูดถึงคำว่าธรรมะแล้วก็ ก็เหลือวิสัยจะเอามาพูดให้หมดสิ้นได้ ทุกคนก็คงจะพอมองเห็นหรือหยั่งเห็นว่าไอ้คำว่าธรรมะนี่มันกว้างขวางเท่าไรเป็นทุกแง่ทุกมุมอย่างไรในบรรดาที่เกี่ยวข้องกับไอ้มนุษย์เรา ถ้าใช้คำ ๆนี้ ถ้าคำว่าธรรมะคำนี้ไปตามหลักของภาษาแล้วมันไม่มีอะไรที่ไม่ใช่ธรรมะ คือ ธรรมะตามธรรมชาติ เนื้อหนังร่างกายอะไรทุกอย่างในคนนี้มันก็เรียกว่ารูปธรรม เป็นธรรมะประเภทที่มันเป็นรูป แล้วจิตใจมันก็เป็นธรรมะประเภทที่เป็นนามธรรม ความที่เป็นไปสัมพันธ์กันก็เป็นธรรมะ เป็น???? (นาทีที่ 49:34) เป็นความสัมพันธ์กันระหว่างรูปธรรมกับนามธรรม รู้ได้ด้วยใจก็เป็นนามธรรม ถ้ารู้ได้ด้วยอาสนะธรรมดาสามัญเป็นรูปธรรม นี่มันเป็นสิ่งที่ไม่มีทางรอด ไม่มีทางหนี ไม่มีทางหลีกว่าอะไรที่มันไม่ใช่ธรรม นี่กฎเกณฑ์ที่จะเข้ามาเกี่ยวข้องกับสิ่งนี้ก็เรียกว่าธรรม การปฏิบัติตามกฎเกณฑ์อันนี้ก็เรียกว่าธรรม ผลเกิดขึ้นมาเป็นสุขเป็นทุกข์เป็นอะไรก็เรียกว่าธรรมไปทั้งหมด เป็นกุศลธรรม อกุศลธรรม ความสุขก็เป็นธรรมความทุกข์ก็เป็นธรรมในฐานะที่เป็นเวทนา แล้วก็ต้องยอมรับว่ามันต้องเอาระบบของธรรมอย่างถูกต้องมาใช้มันจึงจะแก้ปัญหาได้ จึงจะไม่ต้องฆ่าฟันกันอย่างสัตว์ป่าที่มันกัดกัน ชาติ งั้นธรรมชาติอันลึกซึ้งอันใหญ่หลวงนั้นมันจัดให้เป็นมาอย่างนี้ ให้ว่าจะมาได้ในลักษณะอย่างนี้ด้วยวิญญาณแห่งสังคมนิยม คือเป็นธรรมสัจจะแห่งสังคมนิยม ถ้าไม่มารูปนี้ตายหมดแล้วไม่เหลืออยู่ถึงบัดนี้ แล้วที่มันมารูปนี้โดยการจัดของธรรมชาติมันจึงเหลืออยู่ งั้นควรจะขอบคุณสิ่งที่เรียกว่าสังคมนิยมที่เป็นเจตนารมณ์ของธรรมชาติ จะเรียกว่าสัจจธรรมก็ได้ ของธรรมชาติที่ได้จัดให้สิ่งต่าง ๆเป็นมาในแบบนี้ในรูปนี้ มีความหมายเป็นสังคมนิยมโดยสมบูรณ์ อย่างที่กล่าวมาแล้วว่าในร่างกายคนนี้ก็ต้องมีระบบสังคมนิยมมันจึงรอดมาได้ ในหมู่บ้านนี้มันก็ต้องมีระบบสังคมนิยมมันจึงรอดอยู่ได้กระทั่งทั่วทั้งโลก มันก็น่าหัวมากทีเดียวถ้าเราจะพูดว่าในระบบจักรวาลมันก็เป็นสังคมนิยม ถ้าไม่เป็นเมื่อไหร่มันจะต้องวินาศ เราเรียนวิทยาศาสตร์เรื่องโลกเรื่องจักรวาลเรื่องจักรวาลทั้งหมดในโลกในสากลจักรวาลเนี่ยมันก็เป็นระบบสังคมนิยม ดวงดาวไม่รู้ว่ามันมากมายเท่าไหร่ในท้องฟ้ามันอยู่กันด้วยระบบสังคมนิยม มันถูกต้องด้วยตามระบบของสังคมนิยม จักรวาลนั้นมันจึงรอดอยู่ได้ จักรวาลของเราเล็ก ๆนี่มีพระอาทิตย์เป็นแม่มีดวงดาวพระเคราะห์นั่นนี่รวมทั้งโลกนี้ด้วยเป็นบริวาร มันก็อยู่กันอย่างระบบสังคมนิยม แต่มันไม่บ้าถึงกับชนกัน ทีนี่มนุษย์นี่มันจะบ้าขนาดที่มันจะกัดกันมันจะชนกันเพราะมันไปถือเอาระบบสังคมนิยมแบบอธรรม อธรรมไม่เป็นธรรม ไม่ถูกต้องตามกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ ไม่รู้จักธรรมสัจจะของธรรมชาติ นี้เป็นสิ่งที่จะต้องนึกถึงกันแล้วในเวลานี้เพราะว่ามนุษย์ในโลกนี้มันหมดความเป็นมนุษย์กันแล้ว มันบ้าเลือดมันหน้ามืดตาลายที่จะใช้ระบบอธรรมในนามแห่งสังคมนิยมมาล้างผลาญกัน ถ้าเป็นสังคมนิยมแท้ต้องประกอบด้วยธรรม มันต้องประนีประนอมกัน และก็พูดกันรู้เรื่อง ใช้ไอ้ระบบที่ถูกต้องนี่ป้องกันไม่ให้เกิดการแยกแตกหรือว่าฆ่าฟันกัน สรุปความในข้อนี้เสียทีหนึ่งก่อนเพราะว่ามันมีธรรมสัจจะอันหนึ่งโดยเฉพาะสำหรับเจตนารมณ์ของคำว่าสังคมนิยม เป็นไปตามธรรมชาติไปกฎของธรรมชาติ ที่หล่อเลี้ยงสิ่งเหล่านี้ไว้ได้ยังคงเหลืออยู่กระทั่งทุกวันนี้ ทีนี้ก็มาถึงยุคที่ว่ามันจะเป็นบาปกรรมอันเลวร้ายที่สุดของมนุษย์ซึ่งสัตว์เดรัจฉานมันไม่เป็น แต่ว่ามันจะได้พลอยได้รับไอ้ปฏิกิริยาลูกหลงจากมนุษย์ที่บ้าเลือดเหล่านี้บ้าง หมายความว่าถ้ามนุษย์มันรบราฆ่าฟันกันอย่างเข้าหากันแล้วมันก็กระเทือนสัตว์เดรัจฉานบ้างเป็นธรรมดา แต่มันไม่รู้อิโหน่อิเหน่มันไม่มีส่วนมันไม่มีส่วนที่จะบ้าเลือดกับมนุษย์อย่างนี้แต่มันก็พลอยรับบาปโดยไม่ไม่มีไม่มีเหตุผลไม่มีเจตนา ขอให้มนุษย์นี่รู้จักความเป็นมนุษย์เป็นเครื่องหมายถูกต้อง อย่าให้มันเลยแบบสัตว์เดรัจฉานเลย ถ้าเข้าใจคำว่าสังคมนิยมอย่างถูกต้อง คือประกอบอยู่ด้วยธรรมะซึ่งหมายถึงธรรมชาติ ซึ่งหมายถึงกฎเกณฑ์แห่งธรรมชาติ ซึ่งหมายถึงตัวธรรมสัจจะโดยเฉพาะสำหรับความจริงข้อนี้และระบบนี้ อยากจะชักชวนให้สนใจในคำว่าธรรมะกันให้มากกว่าที่แล้วมา เพราะว่าจะมีอะไร ๆที่มันประกอบอยู่ด้วยธรรมให้มากขึ้นไปอีก ถ้าไม่เร่งระดมกำลังกันในส่วนนี้แล้วมันก็จะต้านทานระบบอธรรมในโลกนี้ไม่ไหวเพราะมันกำลังมากขึ้นโดยเร็วหนาแน่นขึ้นโดยเร็ว ทั้งฝ่ายธรรมะนี้ก็จะต้องเร่งรัดขึ้นมาเหมือนกันให้มีกำลังของธรรมะขึ้นมาให้ทันกันให้มันพอกันเพื่อจะรับหน้าอธรรม มนุษย์มันดีเกินไปเห็นไหมที่เปิดโอกาสให้อธรรมเข้ามาคลอบงำโลกในลักษณะที่ว่าน่าสะพึงกลัว มันมี เท่าที่เราทราบนั้นมันยังไม่มีเหตุการณ์ไหนร้ายกาจขนาดนี้ จะเรียกว่าเพราะมนุษย์มันเพิ่มจำนวนมากขึ้นกันได้ แต่นั่นไม่สำคัญ ไอ้ที่เพิ่มมากอย่างร้ายกาจนั้นคือเพิ่มกิเลส เพิ่มอวิชชา เพิ่มตัณหา เพราะมันมีเหยื่อของอวิชชาตัณหาในโลกปัจจุบันนี้มากเหลือเกิน มนุษย์จึงไม่ได้เพิ่มปริมาณมนุษย์หรอก แต่มันไปเพิ่มกิเลสตัณหามากเกินไปจนไม่มีธรรมะเหลืออยู่ ไม่มีสัจจธรรมทุกธรรมสัจจะของธรรมชาติเหลืออยู่ มันจะผิดธรรมชาติถึงขนาดที่จะทำลายธรรมชาติเสียเอง ในทางรูปธรรมบางอย่างเราก็ไปทำลายกันลงไปมากและเรื่อย ๆไป นี้กำลังจะมาถึงในเรื่องทางจิตทางวิญญาณก็กำลังจะถูกทำลาย‑เมื่อสูญเสียหลักของธรรมะ ที่จริงธรรมชาตินี้เป็นสิ่งที่ใครทำลายไม่ได้ ธรรมะก็เป็นสิ่งที่ใครทำลายไม่ได้ ที่ทำลายได้มันก็คือส่วนที่มาอยู่ที่เนื้อที่ตัวของมนุษย์ที่เลวทราม ไอ้ธรรมะที่ดีที่มันเคยดีอยู่ที่เนื้อที่ตัวของมนุษย์นั้นมันถูกทำลายไปโดยมนุษย์นั้น เพราะธรรมะจริงธรรมะของสากลจักรวาลหรือธรรมชาตินั้นเราจะทำลายมันไม่ได้ ถ้าทำลายมันมันก็จะยิ่งลงโทษให้อย่างที่กำลังได้รับอยู่อย่างนี้แหละ ให้อยู่ในเวลานี้แล้วตามสมควรแก่การที่มนุษย์ผู้โง่เขลาได้ไปทำลายธรรมชาติกันแล้วอย่างโง่เขลามากน้อยกระไร มนุษย์สมัยโน้นไม่เคยได้รับปัญหาอย่างมนุษย์ปัจจุบันนี้เพราะว่ามันไม่ค่อยได้ทำลายธรรมชาติหรือว่าทำลายสัจจธรรมของธรรมชาติ มันเป็นอยู่อย่าง ?????คล้อยกัน (นาทีที่ 59:00) กับธรรมชาติ ฉะนั้นเขาจึงไม่เกิดปัญหามากเหมือนพวกเราสมัยนี้ นี่เป็นสิ่งที่จะต้องนึกกันให้ดี ถ้าอย่างไรมันอาจพูดกันรู้เรื่องมันก็เข้าใจกันได้ เราต้องระดมกำลังมาในทิศทางนี้ดีกว่าที่จะไปมุ่งหน้าว่ามึงเป็นมึงกูเป็นกูแล้วก็จะเอาให้เด็ดขาดลงไปเลยด้วยการใช้กำลัง ในร่างกายของมนุษย์นี่มันจะมีความเป็นสัตว์ป่าไปกันหมดเพราะมันถือหลักผิดแล้วมันไกลเกินกว่าธรรมสัจจะของธรรมชาติมากเกินไปแล้ว อาตมาต้องขออภัยที่เอาเรื่องที่ไม่ไม่น่าฟังมาพูดให้ฟังหรือเอาเรื่องที่ทำให้เกิดความยุ่งยากใจแก่ผู้ฟังมาพูดให้ฟัง มันต้องพูดแหละเพราะว่ามันเป็นสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นหรือได้เกิดขึ้นแล้วไม่ใช่น้อยเหมือนกันแต่ยังไม่ทันจะเด่นชัดออกมา ถ้าอย่างไรก็ขอให้ใช้ระบบธรรมิกสังคมนิยมเป็นไฟบ้านที่จุดรอบ ๆบ้านแล้วต้อนรับสังคมนิยมบ้าเลือดซึ่งเป็นเหมือนกับไฟป่า แหละมันจะเป็นไปไกลถึงขนาดว่าถ้ามีธรรมะจริงแล้วจะไม่มีอะไรเป็นปัญหา เพราะว่าผู้ที่ไม่มีการยึดถือเป็นตัวตนของตนนั้นน่ะมันไม่มีอะไรเป็นปัญหาแม้แต่ความตายมันก็ไม่มีอะไรเป็นปัญหา ในเมื่อมันไม่กลัวความตาย หรือความตายไม่มีปัญหาแล้วมันก็ควรจะสมัครใจรับเอาฝ่ายที่ถูกต้องและความถูกต้องนั่นแหละมาถือไว้โดยชีวิตขั้นแรกก็ทำได้ โดยจะได้ชื่อว่าทำถูกต้องที่สุดทำดีที่สุดที่ควรจะทำ สนใจธรรมะไว้เป็นเครื่องแก้ปัญหาของมนุษย์และเป็นเกราะป้องกันตัวเฉพาะคน ๆ (1:01:14.7) จะป้องกันได้มากภึงขนาดที่เรียกว่าป้องกันความเกิดความแก่ความเกิดความตาย ไม่ให้เกิดเป็นทุกข์อะไรขึ้นมา นี่ตามแบบที่เรารู้กันอยู่ดีแล้วว่าอมตธรรมในพระพุทธศาสนานั้นมันไปไกลถึงขนาดนี้ งั้นอย่ามามัวเห็นแต่เรื่องใกล้ ๆเล็ก ๆน้อย ๆ หรือกลัวเรื่องเล็ก ๆน้อย ๆ ควรจะเห็นเรื่องใหญ่และก็กล้าพอที่จะถือเรื่องใหญ่ให้ได้รับประโยชน์จากเรื่องใหญ่และก็เพื่อสังคมจริง ๆ เดี๋ยวนี้มันมีแต่คนโกหกหลอกลวง มันว่าทำเพื่อสังคมนิยม เพื่อสังคม แต่ที่แท้มันเพื่อตัวมันเอง มันทำนาบนหลังสังคม หาเกียรติจากสังคมหาอะไรจากสังคมแต่ว่าเพื่อตัวมันเอง นี่เราอย่าทำกันอย่างนี้เลย เราอาจเสียสละชีวิตของเราเพื่อประโยชน์แก่สังคม มันจึงไม่มีโอกาสที่จะหลอกลวงสังคมหรือทำนาบนหลังสังคมเหมือนคนบางคนกระทำกันอยู่ คนบางพวกกระทำกันอยู่ โฆษณาลัทธิชนิดที่ว่าตนจะเป็นผู้ได้รับประโยชน์แต่ในนามของสันติภาพของโลก นี้มันเป็นการทำบาปเกินไป มันเป็นการทำบาปที่ลึกซึ้งเกินไป เรียกว่าไม่ซื่อตรงต่อสัจจะต่อธรรมะต่ออะไรไปหมดเพราะว่ามันไม่มีความซื่อตรงต่อมนุษย์หรือต่อตัวเองด้วย สังคมนิยมมีความหมายว่าต้องเห็นแก่สังคมเพราะเห็นแต่ตัวคนเดียวไม่ได้ นี่เป็นหลักธรรมะของธรรมชาติและโดยเฉพาะเป็นหลักธรรมะในพระพุทธศาสนา เรียกว่าภิกษุสามเณรนี้จะต้องเห็นแก่คณะสงฆ์ ไม่ต้องเห็นแก่ตัวเองคนเดียวแม้ว่าจะต้องเสียชีวิต อย่างนั้นแหละจึงจะเรียกว่าเห็นแก่คณะสงฆ์หรือเห็นแก่สังคมหรือเห็นแก่พระศาสนาเห็นแก่เพื่อนมนุษย์ทั้งหมด นี้เรามันก็พูดกันมากเกินไป แต่การกระทำจริง ๆนั้นมันมีน้อยมันไม่ค่อยมันไม่ตรงกับที่พูด ปากมันก็พูดสังคมนิยมแต่ใจนั้นเป็นตัวกูของกู คนเดียว นี่ปากมันก็พูดว่าสังคม ๆ ส่วนรวม เพื่อนมนุษย์ มนุษยชาติ แต่ในใจแท้ ๆนั้นมันตัวกู เดี๋ยวมันก็เกิดตัวสูขึ้นมา เดี๋ยวมันก็ได้วิวาทกัน อย่างนั้นขอให้ถือธรรมะอย่างถูกต้องอย่างสุจริต อย่าลืมคำว่าจงประพฤติธรรมให้สุจริต เป็นคำที่ประหลาดที่สุด ธรรมังสุริตังจเร(นาทีที่ 1:04:16) จงประพฤติธรรมไว้ให้สุจริต หมายความว่าคนประพฤติธรรมะคดโกงก็ได้ โดยอ้างเอาธรรมะมาเป็นหลักสำหรับพูดสำหรับยกธงชูขึ้นไปเป็นธรรมะ แต่การประพฤตินั้นมันทุริต นี่แหละ เดี๋ยวนี้กำลังจะเป็นมากอย่างนี้ โดยเฉพาะพวกที่โฆษณาสังคมนิยมอย่างรับจ้าง เพราะว่ามันมีการได้ประโยชน์เสียประโยชน์กันมากมายอย่างใหญ่หลวงทีเดียว เพราะฉะนันระวังให้ดีลัทธิสังคมนิยมอะไรที่กำลังจะแพร่เข้ามาระบาดเข้ามาในประเทศไทยเรานั้นมันจะไม่ใช่สังคมนิยมของธรรมะที่ถูกต้อง มันเป็นสังคมนิยมจำเป็นของคนพวกใดพวกหนึ่งหมู่ใดหมู่หนึ่ง มันก็มีอุบายวิธีโฆษณาชวนเชื่อจนพาให้หลงกันไปได้ตั้งครึ่งโลกค่อนโลกก็ได้
อีกทางฝ่ายหนึ่งมันก็ไม่ใช่ถูกต้อง สิ่งที่ตรงกันข้ามกับสังคมนิยมปัจจุบันนี้มันก็อย่างที่เรียกกันว่าผู้เห็นแก่ตัวเหมือนกัน ฉะนั้นมันจึงได้พบกันพอดี ผู้เห็นแก่ตัวต่อผู้เห็นแก่ตัวนี้แหละมาพบกันพอดี แล้วก็ทำลายกันวินาศ โลกจึงอยู่ในสภาพอย่างนี้ หรือว่ากำลังจะอยู่ในสภาพอย่างนี้ถึงขนาดที่ว่ามันเป็นอันตราย เดี๋ยวนี้เรามานั่งกันอยู่ที่นี่ กลางธรรมชาติในป่าซึ่งเต็มไปด้วยธรรมชาติ เราก็เยือกเย็นอยู่ได้เพราะว่าอิทธิพลของธรรมชาติ ทำให้เรามีความรู้สึกคิดนึกอย่างสังคมนิยมบริสุทธิ์ที่เรามานั่งกันอยู่ที่นี่เวลานี้ เรายังไม่ได้รับอิทธิพลของไอ้สังคมนิยมบ้าเลือด ฉะนั้นใจของเราจึงยังเยือกเย็นอยู่นั่งอยู่ที่นี่เวลานี้ใกล้ชิดกับธรรมชาติด้วยความสัมพันธ์กันเป็นอันดีระหว่างดินน้ำลมไฟอากาศวิญญาณภายนอกภายในที่เป็นก้อนหินก็มีเป็นต้นไม้ก็มีเป็นสัตว์ก็มีเป็นคนก็มี นี้เรายังอยู่ใกล้ชิดสังคมนิยมธรรมชาติ ตัวธรรมชาติซึ่งเป็นสังคมนิยมแท้ไม่หลอกลวงใคร ตัวกูของกูก็ยังไม่เกิด ถ้าใครนั่งอยู่ที่นี่เวลานี้เกิดตัวกูของกูแล้วก็ไปหาหมอเสียเถิด เพราะไม่ไหวแล้ว มันต้องรีบไปหาหมอแล้ว เพราะมันกำลังได้รับอิทธิพลของธรรมชาติชโลมจิตใจไว้ให้เยือกเย็นด้วยอำนาจของธรรมชาติซึ่งไม่มีตัวกูของกู อย่างที่พูดแล้วพูดอีกว่าธรรมชาติแท้ ๆมีลักษณะสังคมนิยมมีเจตนารมณ์ของสังคมนิยม มันเป็นตัวสังคมนิยม เพราะไม่มีอะไรอยู่ได้ตามลำพัง คนเดียว ตัวเดียว ส่วนเดียว ธาตุเดียว อณูเดียว มันมีไม่ได้ มันต้องเป็นกลุ่มเป็นก้อนกันไปทั้งนั้น ในหนึ่งปรมาณูก็อยู่อย่างสังคมนิยม ระหว่างสิ่งของสองสิ่งที่ประกอบกันขึ้นเป็นปรมาณู ในหนึ่งอณูก็มันมีเจตนารมณ์ของสังคมนิยมหลาย ๆอณูเป็นหนึ่งอณู หลาย ๆอณูเป็น ทิชชู (นาทีที่ 1:07:51) ประกอบกันขึ้นเป็นเนื้อเป็นหนังเป็น กระทั่งเป็นใบไม้เป็นอะไรก็ตาม มันเป็นระบบสังคมนิยมไปเสียหมด นี้มันถูกต้องตามธรรมชาติ พอทำผิดเรื่องนี้มันก็มีปัญหาเกิดขึ้น แล้วจะมุทะลุดุดันใช้คำนี้อย่างเข้าข้างตัวอย่างเห็นแก่ตัว ผู้อื่นก็มีสิทธิ์ที่จะใช้อย่างนี้ เขาก็ควรจะเห็นแต่พวกเขาได้เราก็ควรเห็นแต่พวกเราได้ มันก็ได้ฆ่าฟันกัน คอยคิดดูให้ดีเข้าใจถูกต้องและจะได้ต้อนรับไอ้ไฟป่าบ้าเลือดที่กำลังจะคืบคลานแผ่คลุมเข้ามาในดินแดนที่มันยังไม่เคยแผ่เข้ามาปกคลุม ที่พูดอย่างนี้ก็คล้ายกับว่าพูดด้วยความรู้สึกรับผิดชอบ ถ้าไม่มีใครรับผิดชอบกันเสียเลยมันก็คงวินาศ ฉะนั้นในฐานะที่เราเป็นพุทธบริษัทเราต้องรับผิดชอบความเป็นพุทธบริษัทรับผิดชอบหน้าที่ของพุทธบริษัท อะไร ๆที่พุทธบริษัทควรกระทำก็ต้องกระทำ ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่ารักษาธรรมะไว้คงมีอยู่ในสังคมหรือในโลก นั่นแหละคือความรอด ถึงแม้ว่าร่างกายจะแตกสลายไปเพราะอะไรก็ตามแต่ ธรรมะนั้นจะยังอยู่ พูดโดยสมมุติอีกทีว่าตัวตนที่แท้จริงจะยังอยู่ เรายังไม่ตายแม้ว่าร่างกายได้สูญหายกระจัดกระจายไปแล้ว เรายังไม่ตาย เพราะเราเอาตัวธรรมะเป็นตัวเรา เอาเราเป็นตัวธรรมะ มันก็ไม่รู้จักตายอย่างนี้ ธรรมะมีลักษณะมีเจตนารมณ์มีอะไรเป็นสังคมนิยมจึงได้ให้มีสิ่งทั้งหลาายปรากฏออกมาอยู่อย่างผาสุก พอสูญเสียไอ้ความเป็นอย่างนี้เมื่อนั้นก็มีแต่ความระทมทุกข์ เป็น นอนก็ไม่หลับ ล้วนแต่หวาดระแวง และทนทุกข์อยู่ นี้เรียกว่าธรรมะมันตอบแทนเอา ถ้าเราไปเหยียบย่ำธรรมะเข้ามันก็ตอบแทนเอาอย่างนี้
ขอร้องให้ทุกคนมอบกายถวายชีวิตแก่พระธรรม แล้วมันก็จะเป็นการมอบกายถวายชีวิตแก่พระพุทธและพระสงฆ์พร้อมกันไปนั้น เพราะมันแยกกันไม่ได้ แต่เราใช้คำว่า ธรรม เป็นหลัก มอบกายถวายชีวิตแก่พระธรรม รวมพระพุทธพระสงฆ์ด้วย นี่จะเป็นทางรอด และจะรู้หลักปฏิบัติที่เป็นเจตนารมณ์ของพระพุทธ พระธรรมม พระสงฆ์ ได้ยิ่งขึ้นไป ๆไม่มีอะไรผิด ??? (นาทีที่ 1:10:56) ที่ที่ตะโกนอยู่ พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ถือเอาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะ ก็ให้มันสรณะจริง ๆ อย่าให้ปากว่าอย่างนี้แล้วมือตีนมันไปกระทำอย่างอื่น มันไปรับจ้างอุดมคติอันอื่น นี่มันก็ไม่มีอะไรเหลือแล้วสำหรับความเป็นมนุษย์ที่จะเป็นมนุษย์ที่แท้จริง เรื่องนี้บางคนอาจฟังแล้วรู้สึกว่าไม่ใช่ธรรมะอะไรเลยสักนิดหนึ่ง ก็พูดถึงสังคมนิยม ลัทธิการเมืองอะไรต่าง ๆ ถ้าใครกำลังคิดอย่างนี้ก็ขอให้ทบทวนใหม่คิดกันใหม่ ว่าการเมืองถ้าทำถูกต้องมันก็เป็นเรื่องของศึลธรรม ถ้าเป็นศึลธรรมมันก็เป็นสัจจะของธรรมชาติ มันก็อันเดียวกัน คือ เป็นธรรม ไอ้การเมืองที่เราลวงต่างหากที่มันไม่เป็นศีลธรรม มันผิดหลักสัจจะของธรรมชาติมันก็ต้องได้ทำลายล้างกัน ฉะนั้นจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม เรื่องการเมืองก็ตาม เรื่องเศรษฐกิจก็ตาม แม้กระทั่งเรื่องสงครามก็ตาม ถ้าทำถูกต้องตามหลักแล้วมันจะเป็นศีลธรรมทั้งนั้นเพราะเป็นไปเพื่อความปกติสุข อยู่ได้ตามควาามมุ่งหมายเดิมของธรรมชาตินั่นเอง ถ้าต่อสู้เพื่อธรรมะยังมีอยู่ได้ก็เป็นความถูกต้องแน่นอน ขออย่าได้ต่อสู้อย่างอื่นเลย อย่าได้ต่อสู้เพื่อความเป็นอย่างอื่นเลย ต่อสู้เพื่อความมีธรรมะอยู่กับมนุษย์ อยู่กับโลกนี้เป็นการต่อสู้ที่ควรกระทำอย่างยิ่ง แม้จะต้องเสียชีวิตไปเพราะเหตุนี้ก็ควรจะยินดีเพราะมันแลกเอาสิ่งที่มีค่ามหาศาลเข้าไว้เพื่อตัวเราตัวใหญ่ คือ มนุษย์ทั้งโลกนั่นเอง ไอ้ตัวกูตัวเดียวเล็ก ๆนี่แหละมันจะทำพิษ มันจะชักจูงไปในทางที่ผิด อย่าไปเอากับมัน ถือระบบสังคมนิยมที่เป็นตัวกูตัวใหญ่ทั้งสากลจักรวาลเรียกว่า ปรมาตมันต์ มหาตมันต์ (นาทีที่ 1:13:19) อะไรก็ตามแล้วแต่จะเรียก แต่อาตมาจะเรียกว่าธรรมสัจจะของสากลจักรวาล ควรจะเข้าถึงอันนี้รักษาอันนี้เอาไว้ให้ได้ แล้วก็จะไม่เสียทีที่เกิดมาเป็นมนุษย์ ไม่ต้องพูดถึงว่าได้พบพระพุทธศาสนา เพียงแต่เป็นมนุษย์นี่มันก็ไม่เสียทีแล้วถ้ามันรักษาสิ่งที่เป็นของมีค่าสำหรับมนุษย์เอาไว้ได้จริง ๆ อย่าให้มันเสียทีที่เป็นมนุษย์เลย แล้วยิ่งถ้าได้เป็นมนุษย์ที่ได้พบพระพุทธศาสนาเข้าไปอีกมันก็ยิ่ง ยิ่งมีความหมายแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นไปอีก จะเป็นมนุษย์ที่ไม่เสียทีที่ได้พบพระพุทธศาสนาได้ก็เพราะอุดมคตินี้ยังอยู่ เป็นอุดมคติของธรรมะ ก็อยู่รอดของสิ่งที่มีชีวิตทั้งหลายที่รวมกันได้เป็นสังคมหรือว่ากระทั่งเป็นจักรวาลก็แล้วแต่ เราควรจะนึกถึงว่าถ้ามันมีมนุษย์นะในโลกอื่นในจักรวาลอื่นในดวงดาวที่เห็นอยู่ระยิบระยับนั้นก็ควรจะอยู่ในชุดเดียวกัน อยู่ในวงศ์ไพบูลย์ร่วมกันเพราะความเป็นมนุษย์นี้ ฉะนั้นใครแผ่เมตตาแล้วก็แผ่ให้มันกว้างไปถึงโลกอื่น ๆ ในโลกธาตุอื่น ๆด้วย ถ้าใช้คำว่าสัตว์ทั้งหลายแล้วขอให้มันหมายถึงสัตว์ทั้งหลายในโลกอื่นด้วยโดยไม่มีประมาณ ไม่มีประมาณ ใช้คำว่าไม่มีประมาณก็แล้วกัน เป็นอนันตะออกไปไม่มีที่สิ้นสุด นั่นแหละคือธรรมะแท้ ธรรมะที่ไม่หลอกลวงใคร มีจิตใจเนื้อตัวเป็นธรรมะจริง ไม่มีความหมายแห่งตัวกูของกูซ่อนอยู่ในนั้นลย
นี่เป็นการบรรยายรอบสุดท้ายของการทำบุญล้ออายุในปีนี้ อย่าได้ไปหลงให้ถูกล้อเลย คนโง่ที่ควรจะถูกล้อ คนฉลาดไม่ควรจะถูกล้อ ฉะนั้นอย่าไปโง่ให้อยู่ในภาวะที่ควรจะถูกล้อ เดี๋ยวนี้สัตว์ร้ายสองตัวมันกำลังจะกัดกัน เราถอยห่างออกมาเเสีย พยายามทำอย่างสุดความสามารถของเราที่จะให้มันหยุดกัดกัน คงจะเข้าใจได้ดีว่าหมายความว่าอะไรที่เป็นสัตว์ร้ายสองตัวในโลกนี้ที่กำลังจะกัดกันหรือกำลังกัดกันอยู่ ขอให้เจตนารมณ์แห่งสังคมนิยมอันบริสุทธิ์ และก็ครอบไปด้วยธรรมนั่นแหละ (นาทีที่ 1:16:17) เป็นเครื่องป้องกันเป็นเครื่องห้ามกันอย่าให้สัตว์ร้ายสองตัวนี้มันกัดกันอีกต่อไป ก็จะไม่เสียทีที่เป็นมนุษย์และได้พบกับพุทธศาสนา และเราก็ไม่ถูกล้อด้วย ถ้าเราจะล้อคนอื่นก็ไม่เป็นไร ถ้าเรามี ถ้าหากว่าเรามีความถูกต้องอยู่ในตัวเราก็ไม่เป็นบาปเป็นกรรมอะไร เอาละเป็นอันว่าพอกันทีสำหรับการบรรยายเรื่องที่สาม ในหัวข้อที่ว่าธรรมิกสังคมนิยม เป็นธรรมสัจที่แท้จริงของธรรมชาติ เป็นธรรมสัจเพื่อสังคมนิยมชนิดที่จะช่วยโลกได้ อาตมาก็รู้สึกว่าเหนื่อยหรือหมดแรงที่อธิบายพอดี เป็นอันว่ายุติการบรรยายในข้อนี้ ในที่สุดนี้ขอขอบคุณท่านทั้งหลาย ตามธรรมเนียมหน่อย ว่าเห็นอกเห็นใจมาร่วมทำบุญล้ออายุกับอาตมาด้วยความยากและความลำบาก บางคนมาจากต่างจังหวัดไกลมาก และประสบความขาดแคลนในที่พักพาอาศัยเครื่องใช้ไม้สอยก็คงจะเพราะมีเจตนารมณ์แห่งสังคมนิยมอันบริสุทธิ์นั่นเอง จึงได้พลอยมาทนลำบากอยู่ในที่นี้ในสภาพอย่างนี้ ก็ร่วมกันทำบุญล้ออายุ ล้อให้สังคมนิยมถูกต้องกลับมา จึงขอขอบคุณ ของขวัญที่ให้นี้ยินดีรับ การอดอาหาร 24 ชั่วโมง กินแต่น้ำนี่ มันคงจะทำให้เกิดส่วนเกินขึ้นมาสำหรับไปจุนเจือผู้อื่นบ้างโดยปริยายหรือโดยอ้อมซึ่งเรามองไม่เห็น ถ้าสมมุติว่าวันนี้คนร้อยคนไม่กินอาหารนั้นมันจะไปไหนเสีย มันคงจะล้นเหลือไปยังคนอื่นที่เขาขาดแคลนอาหารบ้างไม่โดยยตรงก็โดยอ้อม ฉะนั้นคงไม่เสียหลายคงไม่เป็นการกระทำอย่างที่ไม่มีความหมายในการที่จะให้ขอขวัญคืออดอาหารกันเสียสัก 24 ชั่วโมงเพื่อบูชาอะไรต่าง ๆหลายอย่างว่าพระธรรมนี่มีความมหัศจรรย์ ถ้าเราเอามาใส่ไว้ในใจแล้วไม่หิวข้าว 24 ชั่วโมงก็ได้ 48 ชั่วโมงก็ได้ หรือกระทั่งหนี่งสัปดาห์เต็ม ๆอย่างเช่นวันตรัสรู้ การตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าก็ได้ นี่พระธรรมเข้ามาแล้วมันเป็นอย่างนี้ ดังนั้นขอให้สังเกตดูให้ดีเผื่อมันจะงอกงามก้าวหน้าต่อไป ขอขอบคุณและอนุโมทนาที่มาร่วมงานล้ออายุและขอให้มันเป็นจุดตั้งต้นที่ดีสำหรับท่านทั้งหลายทุกคนที่จะล้ออายุในส่วนที่ควรล้อให้มันกระเจิดกระเจิงสูญหายไป ให้มันยังเหลืออยู่แต่สิ่งที่ควรจะอยู่ คือ ธรรมะที่จะทำความสงบเย็น ด้วยความสะอาดสว่างสงบอยู่ ให้เป็นการทำที่ ให้เป็นการกระทำที่ว่ามันมีประโยชน์ ที่เป็นสิ่งที่ไว้ใจได้ว่ามันจะเป็นประโยชน์ ขอให้เจริญงอกงามก้าวหน้าไปตามทางของธรรมะในลักษณะอย่างนี้ อยู่ด้วยกันจงทุกคนทุทิพาราตรีกาลเทอญ