แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
เอาแหละต้องขอโอกาสก่อนเวลา เพื่อจะพูดอะไรกันบ้าง เอ้อ พลาง มันปีใหม่ มันก็ต้องพูดกันบ้าง เดี๋ยวมันจะไม่รู้จักทำให้มันใหม่ ที่จริงแล้วพูดกันทุกปีนะ พูดกันมาแล้วพูดกันทุกปี เรื่องปีใหม่นี้ แต่ขี้ลืม นี่สิ่งต่าง ๆ มันยังไม่ดีขึ้นนั้นจะ ยิ่งปีใหม่ยิ่งขโมยชุมไม่ใช่หรือ ยิ่งปีใหม่ยิ่งขโมยชุมยิ่งฆ่ากันตายมากขึ้น ปีใหม่อะไรล่ะ พวกขโมยก็ชุมขึ้น ไอ้สิ่งที่ไม่ไม่น่าปรารถนาก็มากขึ้นทุกปี ทุกปี ทุกปีนี่ เทียบกับปีที่แล้ว เปรียบกับปีก่อนมันมากขึ้น ฉะนั้นถ้าจะทำให้มันเป็นปีใหม่ให้มันต้องแก้ไขกันให้ดีขึ้น
บอกแล้วไม่ค่อยเชื่อนี่ บางคนนั้นไม่เชื่อ ว่าต้องเสียสละช่วยเพื่อนมนุษย์ อย่าเห็นแต่ส่วนตัว บางคนเห็นแต่ส่วนตัว ทำงานส่วนตัว ประโยชน์ส่วนตัว หลับตาหลับหูทำ ไม่คิดถึงเพื่อนมนุษย์ ที่คิดถึงเพื่อนมนุษย์นี่ไม่ใช่ว่าจะเอาเงินไปให้ ไม่ใช่ หมายความว่าให้ช่วยเหลียวแลเพื่อนกันบ้าง แล้วชักชวนกันทำ อ่า ที่ดีน่ะ โดยเฉพาะเด็ก ๆ นะ ถ้าคนแก่ ๆ ไม่ชักชวนหรือว่าไม่บังคับให้มันหันมาด้านดีแล้วมันก็ไปกันใหญ่แหละ มันเลวกันใหญ่แหละ นี่พ่อแม่ไม่บังคับหรือไม่ชักชวน ลูกหลานให้ทำให้มันดีขึ้น นี่มันปล่อยว่าช่างหัวมันนี่ แล้วบางคนคิดว่าคนอื่นถือว่าปล่อย เราก็ปล่อยแหละ พอไม่กี่ปีมันก็เป็นอันธพาลนะ มันลำบาก
และอีกอย่างหนึ่งนะ เพื่อนบ้านนะสำคัญ ถ้าว่าไม่ชักชวนให้รักสามัคคีกันแหละ มันก็เบียดเบียนกันแหละ เพราะว่าไอ้การทำดีนั้นมันทำยาก แต่มันต้องได้รับการชักชวน ได้รับการส่งเสริม ฉะนั้นถ้าเรามีเวลาว่างกันบ้างล่ะก็ทำบุญด้วยการชักชวน ไม่ใช่ต้องออกสตางค์ ไม่ใช่ แต่ว่าทำบุญด้วยการชักชวนให้มาปรึกษาหารือกันแต่เรื่องที่จะทำดี ถ้าว่าชวนไปทำอบายมุขล่ะก็มันก็ฉิบหายแหละ เพราะคำว่าอบายมันแปลว่าฉิบหายนี่ แปลว่าเสื่อมนะ อบายมุขแปลว่าปากทางแห่งความฉิบหาย ถ้าเรามันไม่ชักชวนกันมาในทางดี มันก็หันไปหาอบายมุขเอง
อบายมุข พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ ๖ อย่าง ข้อ ตามลำดับ ดื่มน้ำเมา เที่ยวกลางคืน ดูการเล่น เล่นการพนัน เกียจคร้านทำการงาน คบคนชั่วเป็นมิตร ช่วยกันท่องไว้บ้างนะ ถึงถึงเวลาแล้วถึงสมัยแล้วที่จะท่องเรื่องอบายมุขเพื่อไม่ทำนะ ดื่มน้ำเมา เที่ยวกลางคืน ดูการเล่น เล่นการพนัน เกียจคร้านทำการงาน คบคนชั่วเป็นมิตร ในหนังสือนวโกวาทนั่น บวชแล้วมันสึก มัน ทอกถ่ายเลาะ (นาทีที่ 4.38 ไม่ทราบความหมายค่ะ) นวโกวาทจำไม่ได้ นี่มันก็ให้โทษ จนไม่รู้ว่าอบายมุข ๖ คืออะไรนิ พ่อแม่มันก็เลยปล่อยให้ลูกหลานไปเที่ยวทำอบายมุข
ที่เขา ข้อ ๑ เรียกว่าดื่มน้ำเมา ไม่ได้หมายเฉพาะเหล้า เฉพาะน้ำเมา มันหมายถึงของเมาทุกชนิด มันกว้างจนถึงเฮโรอีนแล้วนะเวลานี้นะ เอสเอ็นดี เฮโรอีนอะไรก็ไม่รู้แหละ เมาแรงกว่าเหล้าไปเสียอีก เมาแรงกว่าฝิ่นไปเสียอีก นี่เด็ก ๆ กำลังจะสูบเฮโรอีนนะ คนแก่อย่าหลับหูหลับตาอยู่นะ ไอ้ลูกหลานมันจะไปเสพเฮโรอีนแล้วนะ นี่คนแก่ยังหลับหูหลับตา พ่อก็ดีแม่ก็ดีต้องกวดขันเรื่องนี้นะ ถ้าพอติดเฮโรอีนแล้วไม่เป็นคน คือมันไม่ไม่มีจิตใจอย่างคน ช่วยกันระวัง อย่าให้มีใครเอามาขาย และลูกหลานของเรานั้นอย่าให้มันสูบ พอสูบเข้าแล้วยิ่งกว่าเหล้ายิ่งกว่าฝิ่นอีก แล้วก็แพงกว่าเหล้ากว่าฝิ่นอีก มันก็ตายอยู่ดีแหละ นี่ของเมาทุกอย่างเลย เว้นเถอะ แม้แต่บุหรี่ เว้นไปเถอะ มันทำให้ตายเร็วนี่ เอาไหมพนันกัน เอาไหม คนสูบบุหรี่กับคนไม่สูบบุหรี่ใครตายก่อน เอาเถอะ พนันกัน เพราะว่าคนสูบบุหรี่มันทำให้ปอดเสียนี่ ทำให้สมองเสียนี่ มันก็ตายเร็วแหละ นี่ของเมา นี่ข้อที่ ๑ เขาเรียกว่า พระพุทธเจ้าตรัสว่าอบายมุข
ข้อที่ ๒ เที่ยวกลางคืน มันดังลั่นไปหมดถ้าเที่ยวกลางคืนนี่ ทีมาฟังเทศน์ไม่ แต่มันเที่ยวโห่เที่ยวยิงปืนเที่ยวอะไรมันได้นะ มันเที่ยวกลางคืนมันก็ไปไปตลาดไปไหนต่อไหนโน่น มันเปลืองเงิน แล้วมันเปลืองแรง แล้วมันจะผอมนะ คนที่เที่ยวกลางคืนมาก ๆ มันผอมมันแล้วมันจะไม่สบาย แล้วมันจะตายเหมือนกันแหละ ช่วยห้ามลูกห้ามหลานไว้อย่าเที่ยวกลางคืนเลย ถ้าไม่ได้เรียนไม่ทำงานก็นอนดีกว่า นอนดีกว่าไปเที่ยวกลางคืนนะ นี่ถึงเวลาแล้วแหละที่พ่อแม่จะกักลูกสอนลูกอบรมลูกอย่าเที่ยวกลางคืน แล้วพ่อมันนั่นแหละอย่าเที่ยว นี่พ่อมันพอค่ำถึงไม่รู้ไปไหนนิ แล้วลูกมันก็เที่ยวแหละ ใครจะห้ามมัน ถ้าพ่อมันเที่ยวก่อนแล้วนะ ข้อ ๒ นั้นว่าเที่ยวกลางคืน
ข้อ ๓ ดูการเล่น ดูมหรสพนะ อุตส่าห์ไปถึงตลาด อยู่ที่ป่าดานอุตส่าห์ไปถึงตลาด อยู่ที่คลองน้ำผุดอุตส่าห์ไปถึงตลาดโน่น ไปดูการเล่น แต่ถ้ามามามาฟังเทศน์ไม่มีเวลา เมื่อคืนไม่เห็นใครมาสักคนหนึ่ง เทศน์ปีใหม่ไม่เห็นมาฟังสักคน แน่ะ แต่ถ้าว่ามีอะไรเล่นที่ตลาดแล้วไป เอาเงินไปให้เขา เขามาขนเงินของเมืองเรานะปีหนึ่งหลาย ๆ หมื่นนู้น ตั้งแสนตั้งหลายแสนก็ได้ เดี๋ยวไอ้หนังบ้างเดี๋ยวอะไรไม่รู้บ้างเรียกไม่ถูก นั่นแหละมาเอาเงินแล้วก็ไป ไอ้เราก็ไปดู ทิ้งบ้านทิ้งเรือน แน่ะ มันเสียนิสัยนะ เด็ก ๆ เสียนิสัย พอได้ยินเสียงกลอง ได้ยินเสียงแตร ได้ยินเสียงน่ะอยู่ไม่ได้ จะจะบ้าแล้ว มันเสียนิสัยนะ ไปดูมันก็เสียเงิน แล้วก็เสียเวลา แล้วก็เสียร่างกาย คือไปอดหลับอดนอน มันก็เป็นโรคภัยไข้เจ็บ แล้วมันเป็นอบาย นี่ว่าดูการเล่น
ข้อ ๑ น้ำเมา เอ้ย คือดื่มน้ำเมา ข้อ ๒ เที่ยวกลางคืน ข้อ ๓ ดูการเล่น มันมากเกิน มันมากเกินนิ แล้วแล้วเล่นชนิดไม่มีประโยชน์นิ ถ้าเล่นมีประโยชน์แล้วก็นาน ๆ ทีก็ได้ดีแหละ เพราะเด็ก ๆ นี่ไม่ทันเห็น คนแก่ทันเห็น ว่าสมัยปู่ย่าตายายนั้นนาน ๆ นู้นจะไปดูหนังดูมโนราห์สักทีหนึ่งนะ ไม่ใช่ไปทุกวันเหมือนกับพวกเธอสมัยนี้ แล้วเขาก็ไม่ต้องเสียเงิน แล้วก็ไม่ต้องลำบากยุ่งยากมาก ไม่มีลามกอนาจาร เวลานี้ไปดู ชนิดลามกอนาจารมากขึ้น ในหนังแหละตัวดีแหละ ทำให้จิตใจลามกอนาจารเหมือนกับหนังนั่นแหละ มันไม่อายนี่ มันแสดงอาการที่ไม่ควรแสดงตามถนนหนทางตาม ดูเหมือนกับในหนังนั่นแหละ แล้วก็ไอ้เด็ก ๆ ก็ไม่รู้มันก็ซึมเข้าไปซึมเข้าไปมันเลยไม่อายนะ มันเสียหายข้อนี้น่ะมาก
ทีนี้ข้อที่ ๔ เล่นการพนัน เมื่อมันแทงหวยเบอร์กันเรื่อยไปนี่จนมันจนแล้วนะ มันซื้อเลข ๓ ตัวนะ หนังสือพิมพ์ก็ลง อ่านดูเถอะ มันบ้ากันใหญ่แหละ เรื่องเล่นการพนันและเลข ๓ ตัวนะ แล้วก็มันหมดไปหมดไป ถูกครั้งหนึ่งผิดตั้งร้อยครั้งพันครั้ง แล้วมันจะคุ้มกันหรือ นี่เขาเรียกว่าคนโง่ ไอ้ซื้อสนุก ๆ ปีหนึ่งเบอร์หนึ่งนี่ก็ได้ แต่ว่ามันไม่ควร มันโง่นี่ ถ้าไม่ทำจะดีกว่า นี่ซื้อต้นเดือนปลายเดือนกลางเดือน ซื้อกันใหญ่ นี่ก็ว่าเล่นการพนัน นอกจากนั้นยังเล่นไพ่เล่นโปเล่นอะไรกันอีก มันเสียนิสัย เพราะว่าคนพอชอบการพนันแล้วมันไม่อยากทำงานนิ ไปคิดดูให้ดีนะไม่ใช่แกล้งว่า หรือไม่ใช่เดา ไม่ใช่ พอติดการพนันมันมันไม่อยากทำงาน ติดไพ่ก็ตาม ติดโปก็ตาม ติดอะไรก็ตาม มันไม่อยากทำงาน นี่เขาเรียกว่าอบายมุข เปิดประตูอบายให้ตัวเอง
นี่ข้อที่ ๕ เกียจคร้านทำการงาน ไอ้คนขี้เกียจทำการงาน อย่าว่าแต่จะทำการงานนะ จะแซมหลังคาก็ไม่แซม หลังคาโปร่งเป็นดาวนะ ไอ้พื้นเรือนหักเป็นร่อง เดินต้องระวังเกือบตาย ไม่ดีมันลงไปนอนใต้ถุนแหละ มันเกียจคร้านแม้แต่จะซ่อมแซมบ้านเรือน ทีนี้เรื่องการงานนั้นมันผัดเพี้ยน ยังมีคนที่เกียจคร้านทำการงาน เมืองป่าดานนี้ ยังมีคนที่เกียจคร้านทำการงาน เห็นอยู่นี่ แต่ไม่ใช่ทุกคน เอาแต่สนุก หรือว่าเอาแต่พักผ่อนหรือเอาแต่นอน เรื่องนี้ก็ยังมากเกินไป ทำการงานยังน้อยอยู่ ถ้าเราทำให้มากกว่านั้นมันก็ได้ และทำได้ และไม่ตายนี่ แล้วแล้วจะสบายนี่ การทำการงานนั้นทำให้ร่างกายสบาย แล้วก็ทำให้มีธรรมะ คืออดกลั้นอดทน ขยันขันแข็ง เฉลียวฉลาด รู้อะไรมากขึ้น แล้วมันได้เงินมาใช้สอยให้มันสะดวกสบาย โรคภัยไข้เจ็บ และการศึกษาเล่าเรียนของลูกของหลานนั้นมันต้องทำได้ด้วยว่าการทำการงาน และ แต่ว่าอย่าทำจนโกง จนโกงคนอื่น นั่นน่ะไม่เท่าไรมันจะฉิบหาย ทำการงานสุจริตและอย่าโกง โกงได้ทีสองทีไม่เท่าไรเขาจับได้ แล้วมันก็จะเดือดร้อน ไอ้ที่อุตส่าห์ทำมาเป็นปี ๆ มันจะหมดนะ ทำงานมาเป็นปี รวบรวมไว้หลาย ๆ ปีพอไปทำผิดทีเดียวมันหมดนะ ไม่อย่าเข้าใจว่าไม่น่ากลัว มันน่ากลัวนะ อบายมุขข้อเกียจคร้านนี้มันเหมือนกับสูบเลือด เหมือนกับผีสูบเลือดไม่ทันรู้ตัว
ถึงข้อสุดท้าย ข้อที่ ๖ ว่าคบคนชั่วเป็นมิตร นี่ดูเด็ก ๆ ของเรานะ พอมันได้เพื่อนชั่วถึงมันพูดกันไม่รู้เรื่องนิ พ่อแม่ห้ามไม่ฟังนิ พูดกันไม่รู้เรื่องนิ เขาว่าคบคนชั่วเป็นมิตร เดี๋ยวก็ได้ไปเที่ยวดื่มน้ำเมา เที่ยวกลางคืน ดูการเล่น เล่นการพนัน ก็เห็นง่าย ๆ มันลักไก่นี่นา มันโง่หรือมันเลวเท่าไร มันลักไก่นิ ดูเถอะ มันขี้คร้านขี้เกียจ มันโง่มันเลวมันเห็นแก่ตัวเท่าไรนี่ เพราะมันคบคนชั่วเป็นมิตร นี่อุตส่าห์จำไว้เถอะ คนที่เป็นพ่อแม่ ว่าอบายมุขพระพุทธเจ้าตรัสไว้ ๖ อย่าง ดื่มน้ำเมา เที่ยวกลางคืน ดูการเล่น เล่นการพนัน เกียจคร้านทำการงาน คบคนชั่วเป็นมิตร
ถ้าเรียนมานานแล้วมันลืมแล้วก็เรียนเสียใหม่นะ ขอให้ทุกคนแหละช่วยกันกวดขันลูกหลานในข้อนี้แหละ ให้ดูที่แล้วมามันไม่เท่าไรนะต่อไปข้างหน้ามันจะแรงนะ จะไม่มีความสงบสุขนะ อย่าเข้าใจผิดว่าเราทำดีคนเดียวแล้วมันจะสบายไปทั้งบ้านทั้งเมือง เราทำดีคนเดียวต้องทำแน่ แต่ว่าต้องช่วยให้เพื่อนกันทำดีบ้าง ต้องเอาใจใส่ให้เพื่อนฝูงของเราได้ทำดีบ้าง บางทีเพื่อนของเรากำลังประมาท เราต้องไปช่วยเขาอย่าให้ทำ อ่า อย่าให้ประมาท ไปป้องกันไว้นะถ้าเป็นเพื่อนจริง ๆ นะ ถ้าเขาเกิดประมาท เข้าใจผิดจะไปทำไม่ดีเราก็ช่วยต่อต้านกัน ถ้าเป็นเพื่อนนะ ขอทุก ๆ คนช่วยต่อต้านกันไว้อย่าให้ทำชั่วแล้วบ้านเมืองเป็นสุข แล้วเมืองป่าดานก็จะสงบเป็นสุขยิ่งขึ้นไปอีกนะ ยิ่งขึ้นไปอีกนิ
ถ้าไม่ทำแบบนั้นแหละมันจะมีไอ้เรื่องที่เป็นอันธพาลเรื่องอะไรมากขึ้นทีหลังจะหาความสุขไมได้ จะนอนไม่หลับ เวลานี้มันถึงขนาดว่านอนใต้ถุนเรือนไม่ปลอดภัยแล้วนะ กลัวคนทำอันตราย อีกต่อไปมันจะยิ่งกว่านี้ ว่านอนในห้องบนเรือนก็จะไม่ปลอดภัยนะ ถ้ามันมีอันธพาลมากขึ้นนะ ฉะนั้นช่วยกันสามัคคีป้องกันอันธพาล อย่าให้ไปเกิดเป็นอันธพาล ถ้าอันธพาลมาต้องช่วยกันแก้ไข มาจากที่อื่นนะอย่ารักเขาไว้ ถ้าว่า นี่ก็ต้องช่วยกันแก้ไข มันเดือดร้อนนะ เดือดร้อนกันทั้งบ้านทั้งเมืองนะ อันธพาลคนเดียวก็เดือดร้อนกันตั้งทั้งทั้งบ้านนั่นแหละ
นี่เป็นเรื่องที่สำหรับจะพูดสำหรับวันปีใหม่ เพื่อว่าให้ปีใหม่นี้มันดีกว่าปีเก่านิ นี่จะพูดเป็นข้อปฏิบัติรวม ๆ ไว้สักข้อหนึ่ง ว่าขอให้ช่วยกันใช้ส่วนเกินให้เป็นประโยชน์ ส่วนเกินนั่นน่ะเป็นเงินทองสิ่งของก็มี ถ้ามันเหลือกินเหลือใช้ก็เจียดให้ผู้อื่นบ้าง บำรุงประโยชน์ส่วนรวมบ้าง นี้เรียกว่าเราใช้ส่วนเกินให้เป็นประโยชน์ อย่าคิดว่าเอาไว้หมด ถ้าว่าควักจนไม่มีส่วนเกินเสียเลย เราทำมาหาได้นั้นมัน มันต้องมีส่วนเกินบ้างนะ คือว่าถ้าเราจะให้เพื่อนเสีย ทำบุญเสีย เราก็ไม่เดือดร้อนนะ ส่วนนั้นเขาเรียกว่าส่วนเกิน ควรสละกับบริจาค ช่วยกันทำประโยชน์ส่วนรวม ทุกคนมันจะได้มีจิตใจกว้าง ไม่เห็นแก่ตัว
ทีนี้เวลาส่วนเกินอย่าเอาไปเที่ยวอบายมุขเสีย เวลาส่วนเกินน่ะเอาไปทำประโยชน์ผู้อื่นกันบ้าง เมื่อก่อนเราช่วยกันทำถนนหนทาง ไปแต่งคลอง ป่าไทร ป่าอะไรกันมาก ใช้เวลาที่เหลือนะที่เกินนะทำประโยชน์ผู้อื่นกันมาก เวลานี้ฉันทำไม่ค่อยไหวจึงไม่ได้ชวนไปทำถนนหรือว่ามันไม่ได้ชวนไปแต่งคลอง มันรู้สึกไม่ค่อยจะมีแรง ไม่ค่อยจะมีเวลา แต่ว่ายังขอร้องไว้ ใครที่พอทำได้นั้นช่วยกันทำนะ บำรุงรักษาถนนหนทาง ไอ้คูไอ้คลองไอ้เหมืองอะไรแต่นี้ช่วยกันรักษา ใช้เวลาส่วนเกินน่ะไปทำไอ้แบบนั้น เรี่ยวแรงส่วนเกินน่ะเอาไปทำแบบนั้น เงินทองส่วนที่เจียดได้เป็นส่วนเกินก็เอาไปบำรุงรักษาสาธารณประโยชน์
ที่พูดนี้มีสรุปความว่าขอให้มันมีส่วนเกินที่จะไปช่วยผู้อื่นกันบ้าง อย่าเอาแต่ส่วนตัวหมด เงินก็ดี เวลาก็ดี เรี่ยวแรงก็ดี อำนาจวาสนา น้ำลาย อายปากอะไรก็ดี ให้มันมีส่วนเกินที่จะไปทำประโยชน์ส่วนรวมให้ผู้อื่นบ้าง ถ้าว่าเอาหมด เอาหมด เอาหมด ไม่มีประโยชน์ ส่วนเกินไปทำประโยชน์ส่วนรวม และส่วนรวมมันก็เสื่อมหมด ทุกสิ่งทุกอย่างมันเสื่อมหมดแล้วจะทำอะไรกันล่ะทีนี้ มันก็เดือดร้อนเองแหละ จะรวยไปได้หรือ ถึงรวยหรือจะมีความสุขได้หรือ ถ้ามันเต็มไปแต่ความขัดข้อง หรือว่าเต็มไปแต่คนอันธพาลนี่มันจะรวยอยู่ได้หรือ จะมีความสุขอยู่ได้หรือ
ฉะนั้นมีส่วนเกินเจียดออกไปบ้าง บำรุงรักษาให้บ้านเมืองสะอาด สบาย สงบนะ ช่วยให้เกิดความเห็นถูก ให้เกิดสัมมาทิฏฐิขึ้นในบ้านในเมืองแหละ ทำกับเด็ก ๆ หรือทำกับเพื่อนฝูง เราทำได้ ไม่ใช่ทำไม่ได้ ถ้าต่างคนต่างไม่เห็นแก่ผู้อื่น เห็นแก่ตัว เรื่อยเข้าหนักเข้าหนักเข้าแล้วจะเบียดเบียนกันเลย แม้แต่พ่อกับลูกอะไรอาจจะเบียดเบียนกัน ถ้าว่าเห็นแก่ตัวจัดนะผัวกับเมียก็จะเบียดเบียนกัน พ่อแม่จะเบียดเบียนกัน ลูกก็จะเบียดเบียนกัน มันเบียดเบียนกันอย่างไม่น่าเชื่อแหละ ถ้าเห็นแก่ตัวจัดนะ
เวลานี้มันยังไม่ถึงขนาดนั้นเพราะธรรมะที่มีอยู่มาแต่สายเลือดในก่อน ๆ น่ะมันมีอยู่บ้าง บางคนอาจจะไม่รู้ ไม่อ่านหนังสือพิมพ์ ที่บ้านอื่นเมืองอื่นที่ร้ายกาจกว่านี้ที่น่าเกลียดน่าชังมากน่ะมันมี มันมีขึ้นแล้ว เช่น ลูกฆ่าแม่ ฆ่าพ่อ โกรธนิดเดียวฆ่าพี่ฆ่าน้องอะไรมันมีขึ้นแล้ว พอเห็นแก่ตัวจัดแล้วก็ว่าไม่เห็นแก่ชีวิตเพื่อนแล้ว เห็นเป็นไม่ใช่คนแล้ว มันฆ่ากันเป็นร้อยเป็นพันเป็นหมื่นนะ ลูกระเบิดลูกเดียวฆ่าคนได้ตั้งแสนนะเวลานี้ มันต้องใจดำขนาดหนักแหละ ไอ้พุทธบริษัททำไม่ลงหรอก ถึงโกรธก็จะฆ่ากันตั้งแสนมันไม่ได้ มันมันยอมกันไม่ฆ่า มันยอมลำบากเองไม่ฆ่าผู้อื่นนู่น
แต่เอาแหละ เรามันเอาแต่เพียงว่าไม่เบียดเบียนผู้อื่น และก็ช่วยกันทำความเข้าใจก็ให้มีใจเมตตากรุณา ไม่ฆ่า ไม่เบียดเบียน ไม่ทำอันตรายผู้อื่น นั่นน่ะก็ดีแล้วแหละ
นี่คำว่าส่วนเกิน ส่วนเกินจำกันไว้บ้าง ให้มันมีบ้าง ที่ว่าอย่ากินเสียหมด ให้มันเจียดเหลือไว้บำทำประโยชน์ส่วนรวมบ้าง เมื่อก่อนเขาก็ทำกันมาดีแหละ ไม่ใช่ไม่มีใครทำ เขาทำกันมาดี แต่มันจะน้อยลง ปู่ย่าตายายทำบุญทำทานบำรุงวัดบำรุงศาสนา นั่นแหละใช้ประโยชน์ส่วนเกิน บำรุงวัดบำรุงศาสนา บำรุงสาธารณประโยชน์เขาก็ทำกันมาแล้ว ทีนี้เวลานี้มันจะเอาไปดูหนังเสียหมดนะ ไอ้เงินที่จะใช้บำรุงส่วนรวม มันจะเอาไปดูหนังไปกินเหล้าไปเที่ยวน้ำอะไรเกเรเสียหมดนะ มันจะไม่เหมือนกับสมัยปู่ย่าตายายนะ ปู่ยาตายายเขาเอาประโยชน์ส่วนเกินทำให้มีขึ้นมาแล้วเอามาบำรุงส่วนรวม ไม่เอาไปเที่ยวอบายมุขส่วนตัวนะ เมื่อก่อนเขาฟังเทศน์กันมากกว่านี้ พอถึงเวลาเทศน์ ทิ้งนามาฟังเทศน์ครู่หนึ่งแล้วก็ไปดำนาต่อนี้ก็ยังมี
ที่เมืองอินเดีย เคยเห็น พอได้ยินระฆังที่วัดตีนะ มัน มันดำนาอยู่ พอได้ยินระฆังที่วัดตี เขาเทศน์แล้วเว้ยทีนี้ มันโยนกำกล้ายืนขึ้นประนมมือไปทางวัด ไม่ได้ไปถึงวัดนั่นไปไม่ได้ แต่มันก็ทำในจิตใจเหมือนกับว่าไปฟังไปรู้เรื่องไง แล้วจึงค่อยดำนาต่อไปอีก บ้านเรามีบ้างสิ
ฉะนั้นถ้าหวังพึ่งธรรมะ หวังพึ่งศาสนา หวังพึ่งความดีกันถึงขนาดนี้ และอบรมลูกหลานให้ดีถึงขนาดนี้แล้วลูกหลานจะไม่ทำให้พ่อแม่ร้อนใจ ถ้าว่าเราปล่อยมันไปตามเรื่องมันจะทำให้เราร้อนใจ มันจะเอานรกใส่เรา ไอ้ลูกหลานนั่นมันจะเอาเอานรกใส่เราที่เป็นพ่อเป็นแม่ เพราะว่าเราไม่ดูแลมาให้ดีตั้งแต่แรก หรือว่าเราไม่ทำตัวอย่างให้ดีไปตั้งแต่แรก
เอ้า ที่แล้วไปยกเลิกกันที ไม่พูด ไม่ตำหนิใคร ไม่ว่าใคร ให้มันแล้วไปแล้ว แต่ว่าต่อไปข้างหน้านี้ยังอีกหลายปีกว่าจะตายนะ มันต้องแก้ไข ต้องแก้ไขให้มันดีขึ้น ให้มันถูกขึ้น จะได้ตายสบาย ได้ตายดี ได้ได้พอใจว่าเราได้ทำดีแล้วไม่กลัวตาย ไม่กลัวตกนรก จะต้องไปสวรรค์แน่ ถึงลูกหลานอยู่ข้างหลังก็จะได้ดี ไม่ทำผิดชั้นเลว นี่ก็มันเป็นปี มันก็ มันก็ดีกว่า ดีขึ้นทุกที ดีขึ้นทุกที ดีขึ้นทุกที เราเรียกว่าปีใหม่ ปีใหม่ ปีใหม่ ปีใหม่ ใหม่ขึ้นทุกปีนะ ช่วยทำให้ดีนะ
อีกข้อหนึ่งที่ฉันเห็นว่าสำคัญมากและกำลังปรารภปรารมภ์อยู่ในใจ คือว่าวัดนี้พอถึงคราวที่จะจะให้ประโยชน์ตอบแทนไม่มีใครเอา นี่จะว่าให้เจ็บเลย ว่าเลี้ยงไก่ไว้ไข่ให้หมากิน เลี้ยงไก่ไว้ไข่ให้หมากิน เจ็บไม่เจ็บ เวลาเลี้ยงเลี้ยงได้ พอทีไก่ไข่ปล่อยให้หมากิน ดูมันจะเป็นแบบนี้ทุกวัด ช่วยกันสร้างวัดสร้างวา สร้างเหนื่อยมา ก็สร้างเป็นวัด พอที่จะได้รับประโยชน์คือได้ศึกษาเล่าเรียนได้ฟังเทศน์ฟังธรรมไม่เอา ปล่อยให้หมากิน เรียกว่าเลี้ยงไก่ไว้ไข่ให้หมากิน
เวลานี้ที่วัดนี้มันก็พร้อมเพรียงที่สุดที่จะให้วิชาความรู้ให้ความฉลาดนั่นนี่ แต่ไม่ใคร่เอา เมื่อสร้างวัดช่วยกันได้ พอที่จะเอาบุญเอากุศลเอาความรู้เอาธรรมะไม่ใคร่เอา ไม่สนใจนี่ มันยังผิดอยู่ข้อนี้นะ แล้วจะสร้างทำไม สร้างทิ้งไว้เฉย ๆ สร้างทำไม กว่าจะสร้างเป็นวัดขนาดนี้ขึ้นมาได้ มันเหน็ดเหนื่อยมาก เอาแต่สร้าง ๆ ๆ พอที่จะให้ไม่เอา ไม่ศึกษาให้หมดที่มีไว้ให้นี่ ในตึกนี้มีรูปภาพมีอะไร เทศน์ก็มีอะไรก็มี ไม่เอา ตอนนี้ไม่เอา แต่เมื่อเหน็ดเหนื่อยเหงื่อไหลไคลย้อยเอา ไม่ใช่แกล้งว่าแกล้งด่า มันเปรียบได้เหมือนกับว่าเลี้ยงไก่ไว้ไข่ให้หมากินนะ ทีเลี้ยงไก่ เลี้่ยงเหน็ดเหนื่อยสกปลุกปล้ำมันแหละ พอไก่ไข่ถึงปล่อยแหละ ไม่ไม่เอาไม่เอาไม่เอา มันไม่รู้จักนี่
นี่มันต้องเปรียบแบบนี้ มีใครไหมที่เลี้ยงไก่ให้ไข่ให้หมากินน่ะ นั่นเอาไว้ขายได้มันรู้ แต่ถ้าว่าเปรียบว่าไก่นี่เหมือนกับศาสนาวัดวา เลี้ยงบำรุงรักษามาถึงขนาดนี้แล้ว สะดวกแล้ว ใครจะฟังเทศน์ฟังธรรมศึกษาเล่าเรียนหาความสุข หาความรู้นี่ กลับไม่ใคร่จะสนใจ วัดไหนก็เหมือนกัน ฉันดูดู รวมทั้งวัดนี้ด้วย ถึงคราวที่จะให้วิชาความรู้ไม่ค่อยเอา เว้นไว้แต่ทำให้มันสนุกสนานให้เป็นอบายมุขอีกถึงจะเอา ถ้าแบบนี้ละก็มันไม่ก้าวไม่ก้าวหน้า มันมันถอยหลังแหละ คือไม่ไม่รู้ธรรมะ ไม่ไม่แสงไม่มีแสงสว่างในจิตในใจ ขอให้ถือว่าที่ได้เท่าเวลานี้ยังน้อยนัก
ถูกแหละ ไอ้นี้มันจริงแหละ ว่าบ้านเมืองของเรามันเจริญขึ้นบ้าง เจริญขึ้นกันแหละ แต่มันยังไม่พอ เมื่อก่อนมันแรงกว่านี้ เราทำให้มันเจริญ แต่มันเจริญแต่ส่วนบ้านส่วนเมืองนี่ ส่วนจิตใจมันยังไม่ใคร่เจริญนิ เรามีแต่วัดนิ ถ้าไม่มีการสั่งสอน และไม่มีใครฟังไม่มีใครรับเอาธรรมะนี่ มันไม่เจริญในส่วนนี้ ฉะนั้นต้องใช้วัดให้เป็นประโยชน์นะ วัดที่สร้างขึ้นแล้วนี่ต้องใช้ให้เป็นประโยชน์ ไม่ต้องเหนื่อยแล้ว ไม่ต้องออกเงินอะไรอีกแล้ว มันสร้างขึ้นมาเสร็จแล้ว ทีนี้ต้องใช้ให้มันเป็นประโยชน์ อุตส่าห์มาฟังอุตส่าห์ศึกษาพร้อมเพรียงกันศึกษาแหละ และก็ปรึกษาหารือกันที่จะให้ให้ควบคุมลูกหลานให้ดี ๆ และให้ยึดเหนี่ยวเพื่อนฝูงกันไว้ดี ๆ อย่าให้ตกไปฝ่ายชั่ว ให้ละได้ ทำทำไม่ค่อยดีมาหลายสิบปีแล้ว ที่เหลือนี้เลิกกันที เลิกกันที ตั้งต้นทำใหม่นั่นแหละ ให้วัดนี่มันเป็นที่ปรึกษาหารือในเรื่องจิตใจนี่ หรือว่าเรื่องการงานด้วยก็ได้ จะปรึกษาเรื่องทำมาหากินก็ได้ แต่ว่าความประสงค์อันแท้จริงที่มีวัดนี่ เพื่อจะปรึกษากันในเรื่องจิตใจ แก้ไขความประพฤติทางกายทางวาจาทางใจดี
ฉะนั้นขอให้ทุกคนแหละคิดกันถึงเรื่องนี้ ให้กลายเป็นว่าเลี้ยงไก่ไว้ไข่ กินเอง ขายเองแหละ อย่าอย่าปล่อยให้หมากิน ไอ้เรื่องนี้มันเปรียบยาก คุณถามว่าหมามาจากไหนล่ะ เดี๋ยวฉันไปบอกว่า ชาวเมืองไกลโน่นมาเอา เดี๋ยวชาวเมืองไกลโกรธฉันอีกพอดี ไอ้ชาวบ้านนี้มันเลี้ยงไก่ไว้ไข่ให้หมากิน อาจจะเป็นพวกฝรั่งพวกอะไรที่อยู่ไกลที่ไหนก็ไม่รู้ เขาสนใจก็มาเอามารับ ไอ้ที่อยู่ตรงนี้ไม่เอานี่ ทำอย่างไรถูก นะเอาไปคิดดู จำเป็นจะต้องเปรียบแบบนั้นแหละ ว่าเลี้ยงไก่แล้วไม่สนใจปล่อยให้ไข่ให้หมากิน ถ้ามัวแต่เลี้ยงอยู่นั่นแหละมันเหนื่อยเปล่า ๆ แหละ
ที่ว่าบุญกุศลน่ะมันต้องจิตใจสะอาดสว่างสงบ ถ้าเรียกว่าได้บุญน่ะ จิตใจสะอาดสว่างสงบ ฉะนั้นรีบใช้วัดวาอารามนี้แหละ ให้เรามีจิตใจสะอาดสว่างสงบแล้วดีแหละ ฉะนั้นขอให้ทำให้มากกว่าปีที่แล้วมา ที่ผิดยกเลิก ไม่พูดอีก ไม่เอามาพูดอีก ไม่เอามานึกอีก ต่อไปข้างหน้าทำให้ดี ทำให้ถูก เห็นแก่ผู้อื่นเห็นแก่ลูกหลาน อย่าปล่อยลูกหลาน ให้มันไปทำอะไรตามบุญตามกรรม เราลำบากอดหลับอดนอนก็ช่วยดูแลลูกหลานให้ดี ๆ แล้วเพื่อนฝูงนั่นเรียนมาปรึกษาหารือถ้าใครจะทำดี และต่อต้านอย่าให้ไปทำชั่ว เรื่องนี้สำคัญมากแหละ ต่อต้านเอาเป็นเอาตายกันเลย ถ้ามันจะทำชั่วแล้ว เพื่อนของเรา เราไม่ยอมให้ทำ มันเป็นเพื่อนกันนิ ไม่เท่าไรมันดีหมด ทั้งบ้านทั้งเมืองแหละ
เอาแหละเวลามันก็สมควรแล้ว จะพูดมากไปกว่านี้ มันก็จะจะลำบาก เตรียมตักบาตรกัน (นาทีที่ 29.30 ทำพิธี สวดมนต์ จนถึงนาทีที่ 40.49)
ทีนี้จะอนุโมทนาเสียให้เสร็จไปเลย ถวายทานนี้ดี ที่ว่า อาสะวักขยาวะหัง โหตุ นี่ เป็นการถวายที่สูงสุด บางคนยังไม่ทราบจะบอกให้ทราบ คำว่า อิทัง วะตะ เม ทานัง ในทานของข้าพเจ้านี้หนอ อาสะวักขยาวะหัง โหตุ จงเป็นไปเพื่อการนำมาซึ่งความสิ้นอาสวะ อธิษฐานว่าให้สิ้นอาสวะ ทีนี้อาสวะไม่รู้ว่าอะไร ช่วยจำกันไว้ด้วย ว่าอาสวะนั้นคือความเคยชินในการทำความชั่ว ไม่ใช่ตัวความชั่ว แต่ว่าความเคยชินในการทำความชั่ว อดไม่ได้ พอได้โอกาสเป็นทำทันที นี่เขาเรียกว่าอาสวะ ไอ้ความชั่วนั้นเขาเรียกว่ากิเลส พอทำกิเลสบ่อย ๆ ๆ จนชิน ๆ ๆ ความเคยชินนี้เรียกว่าอาสวะ ขอให้หนทางให้ให้ให้ผลทานนี้เป็นไปเพื่อสิ้นความเคยชินในการทำความชั่ว เพราะฉะนั้นจึงขออนุโมทนา
(เริ่มสวดบทกรวดน้ำ ให้พรนาทีที่ 41.52 จบนาทีที่ 46.13)
นี่กรวดน้ำให้เสร็จไปเสีย มันดีมันสะดวก เพราะว่าตักบาตรแล้วมันขลุกขลักไม่มีทางจะกรวด ขึ้นปีใหม่แล้วทำให้ดีให้ถูกยิ่ง ๆ ขึ้นไป พระเณรนี้เหมือนกันแหละ เวลารับบาตร รับเต็มบาตรเลย พอเวลาสวดให้พรอะไรอ้อมแอ้มไม่เต็มเสียง เอาเปรียบแหละ พระเณรนี้เอาเปรียบ เลิกเสียทีขึ้นปีใหม่แล้ว คุณคอยดู เวลาใส่บาตรเอาเต็มบาตร พอเวลาให้พรแล้วว่าไม่เต็มเสียง ว่าอ้อมแอ้ม เอาเปรียบนี่ มันไม่รู้จะเอาเปรียบกันไปถึงไหน เอ้า ตักบาตรทีนี้