แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
การพูดกับคนลูกเมืองตำปรื้อวันนี้ จะพูด พระรัตนตรัยเกี่ยวข้องกับเราอย่างไร ในครั้งแรกได้พูดว่าไอ้คนลูกเมืองตำปรื้อนี้ จะต้องรักษาเกียรติยศของตนอย่างไร ครั้งที่สองนี้ว่า คนลูกเมืองตำปรื้อนี้ต้องรู้ว่าตัวเกิดมาทำไม ทีนี้ในครั้งที่สามนี้ จะพูดถึงว่าคนลูกเมืองตำปรื้อนี้จะต้องรู้ว่า พระรัตนตรัยเกี่ยวข้องกับเราอย่างไร เธอทั้งหลายเป็นสามเณรหรือว่าเป็นภิกษุหนุ่ม หมายความว่าเป็นผู้ที่แรก แรกเข้ามาในธรรมวินัยนี้ อยู่ในขอบเขตของบรรพชิตในพุทธศาสนา แล้วเป็นคนใหม่เป็นคนแรกเข้ามา ถ้าเข้ามาในธรรมวินัยนี้ ก็คือเข้ามาเกี่ยวข้องกับพระรัตนตรัยนั่นเอง ถึงแม้เป็นว่าฆราวาสเกี่ยวข้องกับพระรัตนตรัยก็จริง แต่ไม่มากเหมือนกับบรรพชิต นี่เรามองดูคราวเดียวพร้อมกันเลยว่าเราในฐานะเป็นบรรพชิตก็ดี ในฐานะเป็นมนุษย์ธรรมดาสามัญก็ดี มีความเกี่ยวข้องกับพระรัตนตรัยอย่างไร ข้อแรกที่สุดจะต้องรู้เสียก่อนว่า พระรัตนตรัยนี้คืออะไร แล้วจึงจะได้รู้ว่ามันเกี่ยวข้องกันอย่างไร เมื่อถามถึงว่าคืออะไร ตอบได้หลายอย่างขอให้ทุกคนจำกฎเกณฑ์อันนี้ไว้ด้วย เมื่อถามว่าอะไรคืออะไร นี่มันตอบได้หลายอย่าง เช่นว่าโดยตัวหนังสือ โดยชื่อโดยนามนั้นมันคืออะไร และก็โดยความหมาย โดยอรรถ โดยคุณสมบัตินั้นมันคืออะไร และยังมีโดยประวัติเป็นมาแต่หนหลังนั้นมันคืออะไร โดยสิ่งที่เราจะต้องเข้าไปเกี่ยวข้องจะต้องทำอย่างไรนี่มันก็บอกเหมือนกันมันคืออะไร ยังมีอีกว่าโดยเปรียบเทียบคืออะไร โดยอุปมาคืออะไรอีก มันมากแหละ ถ้าคนรู้จักสิ่งใดสิ่งหนึ่งดีจะต้องรู้จักสิ่งนั้นโดยหัวข้อเหล่านี้ ว่าโดยตัวหนังสือ หรือโดยชื่อมันคืออะไร หรืออรรถโดยความหมายนั้นคืออะไร โดยประวัติคืออะไร โดยอุปมาคืออะไร โดยหลักปฏิบัติคืออะไร สำหรับว่าตัวหนังสือหรือพยัญชนะพระรัตนตรัยนี้ รู้กันอยู่แล้วบวชก็ต้องเรียนพระรัตนตรัยคือ รัตนสาม รัตนแปลว่าแก้ว หรือของที่ดีเหมือนแก้ว เราก็สังเกตเห็นได้ว่า ไอ้คำว่าแก้วนี้ บางทีมันหมายถึงแก้วก็มี บางทีมันหมายถึงของที่ดีเหมือนแก้วก็มี หรือดียิ่งกว่าแก้วก็มี หรือดีกว่าจะเปรียบด้วยแก้วก็มี เช่น คำว่ารัตนในที่นี้ไม่ได้แปลว่าแก้วโดยตรง ว่าดีเหมือนแก้วประเสริฐเหมือนแก้วหรือเป็นของแก้วที่มันเป็นวิเศษ คำว่าแก้วใน ในกรณีอย่างนี้ก็หมายถึงเลิศวิเศษ แต่ตัวหนังสือรัตนคำว่ารัตนไม่ได้แปลว่าเลิศไม่ได้แปลว่าวิเศษ แปลว่าที่ยินดีหรือเครื่องให้เกิดความยินดี พอใจหรือสบายใจ แปลง่ายๆ ก็ว่าน่ายินดี รัตตะ แปลว่ายินดี นะ แปลว่าเครื่อง เครื่องยินดีมี ๓ อย่างคือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ถ้าแก้วนั้นเขาหมายถึงเพชรพลอย ในทางวัตถุเพชรพลอยเลิศ ในทางนามธรรมสู้พระรัต เอ่อ, สู้พระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ไม่ได้ ภาษาคนเพชรพลอยเป็นแก้ว ภาษาธรรมพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์เป็นแก้ว นี่เธอจะต้องจำไว้ให้ดีๆ พระรัตนตรัยหรือไตรรัตน์นี้มันคือ ของที่ประเสริฐที่สุดของสิ่งที่ว่าน่ายินดีมี ๓ อย่าง คือ พุทธรัตน ธรรมรัตน สังฆรัตน นี้ก็เรียกว่าโดยประเภทหรือโดยจำนวนมี ๓ อย่าง โดยพยัญชนะคือสิ่งที่น่ายินดีหรือควรยินดี ของมีค่าที่สุดควรยินดีหรือน่ายินดี นี่โดยตัวหนังสือ แต่โดยอรรถความหมายก็มันหมายถึงว่า จะทำประโยชน์สูงสุดให้รู้ได้โดยการอุปมา โดยอุปมา พระพุทธเจ้าซึ่งเป็นผู้รู้ผู้สั่งสอน ผู้ปลุก พระพุทธเจ้าตื่นนอนก่อนก่อนใครๆ ในโลกนี้ เรียกพระองค์เองว่าเป็นลูกไก่ตัวพี่ที่สุดที่ถีบกระเปาะฟองคืออวิชชาทำลายออกมาได้เป็นลูกไก่ตัวแรก หมายความว่าเมื่อโลกทั้งโลกมันยังมีอวิชชางมโง่อยู่ พระพุทธเจ้าเป็นคนแรกที่ออกมาได้จากความโง่ เมื่อออกมาจากความโง่ได้แล้ว ก็พยายามช่วยผู้อื่นหรือปลุกผู้อื่นให้ตื่น ทีนี้พระธรรมนั้นหมายถึงสิ่งที่เป็นเครื่องตื่น หรือเครื่องดับทุกข์ แล้วพระสงฆ์เป็นผู้ตื่นตาม ตื่นตามพระพุทธเจ้า นี้เขาเรียกอุปมา ทีนี้อุปมาอื่นก็มีอีก พระพุทธเจ้าเป็นผู้ชี้ทาง พระธรรมนั้นเป็นตัวทาง พระสงฆ์เป็นผู้เดินทาง อุปมานี้มีได้หลายอย่างแล้วแต่เราจะมุ่งหมายอย่างไร แล้วที่มีประ โยชน์ที่สุด อุปมาโดยการเดินทาง พระพุทธเจ้าเป็นผู้ชี้ทาง พระธรรมเป็นตัวทาง พระสงฆ์เป็นผู้เดินทาง ถ้าอุปมาโดยความหลับ พระพุทธเจ้าเป็นผู้ตื่น ปลุกผู้อื่นด้วยพระธรรม แล้วคนทั้งหลายก็ได้ตื่นขึ้นมาจากความโง่ เหมือนกับเราได้มาบวชมาเรียนเพื่อจะได้ตื่นขึ้นมาจากความโง่ ตื่นออกมาจากความโง่ มีหูตาสว่างเดินทางไปถึงจุดปลายทางที่ว่าเราเกิดมาทำอะไร ถ้าพูดถึงโดยประวัติ มันก็มีประวัติอย่างประวัติศาสตร์และประวัติอย่างนิยายหรือว่าเทคโนโลยีในทางศาสนา ถ้าประวัติอย่างประวัติศาสตร์ตามหลักวิชาประวัติศาสตร์ พระพุทธเจ้าก็ ๒,๐๐๐ กว่าปี เป็นลูกคนนั้นเป็นหลานคนนี้ได้มีประวัติ เป็นบุคคลในประวัติศาสตร์ ถ้าพูดทางเทคโนโลยีนั้น เขาถือว่าพระพุทธเจ้าได้เคยมีมาแล้ว ไม่ นับไม่ไหว ไม่รู้กี่ร้อยองค์พันองค์ เอาเมื่อเร็วๆ นี้ถึง ๒๘ องค์ เอาเมื่อเร็วเข้ามาอีกนี่ ๕ องค์ หรือ ๔ องค์ นั่นถ้าเรื่องทางตำนานทางเทคโนโลยีทางศาสนาเป็นอย่างนั้น พระพุทธเจ้ามากมายเหลือเกินไม่รู้กี่กัป หรือกี่อสงไขยกัปมาแล้ว แล้วทางประวัติศาสตร์แท้ๆ ก็ว่าเราก็เรียน มันก็เรียนในประเทศอินเดีย ในประเทศเล็กๆ ชื่อว่าประเทศศากยเกิดพระพุทธเจ้าขึ้นมา มาเที่ยว ทำความเพียรตรัสรู้ในแคว้นมคธ แล้วก็สอนในประเทศอินเดียตรงกลางๆ ตรงกลางประเทศ แล้วจนมีคนนับถือขี้นมา และมาถึงพวกเราโดยการที่ว่าเขาพามาให้ ให้รู้จักศาสนารู้จักพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ แล้วเราก็ได้บวชกัน ที่สำคัญโดยหลักปฏิบัติ พระรัตนตรัยคือสิ่งที่เราต้องรับนับถือด้วย การปฏิบัติ อย่ารับแต่ปากหรือว่าอย่าขึ้นทะเบียน แล้วก็เป็นอันว่าแล้วกัน ต้องนับถือพระรัตนตรัยด้วยการปฏิบัติ ฉะนั้นพระรัตนตรัย คือสิ่งซึ่งเราจะต้องรับเอาด้วยการปฏิบัติ เข้าใจให้ดีๆ นี่พระพุทธเจ้า เอ๊ย, พระรัตนตรัยคืออะไรหมายถึงอย่างนี้ ทีนี้จะไปถึงปัญหาที่สำคัญของเรื่องที่มีว่า พระรัตนตรัยเกี่ยวข้องกับเราอย่างไร โดยเฉพาะเราก็ได้บวชเป็นพระเป็นเณร เข้ามาแล้ว มันแสดงความเกี่ยวข้องชัดเจน เกี่ยวข้องกับเราโดยการบวชของเรา ในฐานะเป็นบรรพชิต อยากจะทบทวนกันลืมว่าเมื่อวันบวชนั้นมีจิตใจอย่างไรให้นึกระลึกนึกไว้เสมอ ถ้าลืมข้อนี้อีกไม่เท่าไหร่จะค่อยเลือนๆๆ ไป แล้วก็จะทำไอ้สิ่งที่ไม่ควรทำ เมื่อวันบวช บวชพระ บวชเณร แล้วมันต้องบวช เริ่มด้วยคำว่า เอสาหัง ภันเต สุจิระปะรินิพพุตัมปิ หรือว่าจะบวชด้วย อุกาสะ แบบเขาก็เหมือนกัน ใจความมันก็หมือนกัน บวชแบบเก่ายังมีระบุชัดว่า สัพพะทุกขะ นิสสะระณะนิพพานะ สัจฉิกะระณัตถายะ เขา เขาบอกชัดว่า บวชนี้เพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง และก็เพื่อออกไปเสียจากความทุกข์ทั้งปวง นี่เราเป็นบรรพชิต เข้ามาบวชเพื่อทำนิพพานให้แจ้ง เพื่อจะกำจัดเสียซึ่งความทุกข์ทั้งปวง ไอ้กำจัดเสียซึ่งความทุกข์ทั้งปวง มัน มันมีทั้งสำหรับฆราวาสทั้งสำหรับบรรพชิต เมื่อเป็นบรรพชิตมีได้ดีกว่ามีได้มากกว่าเร็วกว่า ถึงแม้ว่าเรามาเป็นบรรพชิตชั่วคราว เมื่อออกไปเป็นฆราวาสก็ทำความดับทุกข์อีก เราในฐานะที่เป็นฆราวาสก็ดี ในฐานะที่เป็นบรรพชิตก็ดี เกี่ยวข้องกับพระรัตนตรัยเต็มที่ เมื่อใช้คำว่าเรามันมีความหมายกว้างไปถึงคนอื่นๆ ด้วยทั้งโลกเลย พระรัตนตรัยเกี่ยวข้องกับมนุษย์ทั้งโลกอย่างไร เราต้องเข้าใจที่มันเกี่ยวข้องกับเราคนเดียวโดยตรงเสียก่อน ถ้าเราไม่รู้จักตัวเรา เราก็รู้จักโลกไม่ได้ ถ้าเรายังทำให้แก่ตัวเราไม่ได้เราก็ยังทำให้แก่โลกไม่ได้ เราก็เป็นคนโลกหน่วยหนึ่ง รวมกันทุกคนเรียกว่าโลก ฉะนั้นแต่ละคนละคนทำได้ดีโลกนี้ก็เป็นโลกที่ดี เวลานี้มันไม่ทำกันทุกคน ถึงที่ทำก็ยังทำไม่ได้ใม่ดี คนลูกเมืองตำปรื้อนี้ก็ยังทำได้ไม่ดีเหมือนปู่ย่าตายาย มันจะโลเล โลเลเหลาะแหละเป็นอันธพาล ไปตามแบบสมัยใหม่ สมัยเก่าเขากลัวบาปกลัวกรรม สมัยใหม่เขาไม่ได้กลัวบาปกลัวกรรมเขายกเลิกไปเสีย ศีลบางข้อยกเลิกไปเลย คนหนุ่มสาวสมัยใหม่นี้ไม่ถือศีลข้อกาเม มีอะไรมาช่วยปกปิดกลบเกลื่อน นี่มันเลวลง จิตมันทรามลง แล้วมันก็จะเป็นอันธพาลมากขึ้น ก็จะมีความทุกข์มากขึ้น นั่นนะคือเกี่ยวข้องกับพระรัตนตรัยน้อยลงน้อยลง จนทิ้งไปเลยก็ได้ขืนอยู่แบบนี้นะ เราถ้ายังอยากจะเกี่ยวข้องกับพระรัตนตรัยแล้วก็ต้องทำให้ถูกตามกฎเกณฑ์ตามบทบัญญัติหรือตามความจริง ถ้าเราจะเกี่ยวข้องกับพระรัตนตรัยเราจงทำตัวให้เป็นคนสะอาด สว่าง สงบให้มากเข้าไว้ เพราะพระรัตนตรัยหมายถึงอย่างนั้น หมายถึงความสะอาดสว่างสงบ บวช บวชบวชนี้ก็บวชเพื่อพบกับความสะอาดสว่างสงบ คือพบพระรัตนตรัยนั่นแหละ เมื่อกลับไปอยู่เป็นฆราวาสแล้วก็ให้มันมีพระรัตนตรัย ดีกว่าไม่ได้บวชเพราะมันรู้จักนี่ ทุกๆ คนมีพระรัตนตรัยแล้วโลกนี้ก็มีพระรัตนตรัย ทุกคนถือศาสนาไหนก็ตามใจ ถ้ามันถือหลักปฏิบัติให้สะอาดสว่างสงบแล้วมันเป็นพุทธศาสนาหมดแหละ ถึงเขาจะขึ้นทะเบียนเป็นศาสนาอื่น คริสเตียน อิสลาม หรือศาสนาอะไรก็ตามใจ แต่ถ้าเขาปฎิบัติเพื่อให้ตัวสะอาดสว่างสงบ แล้วมันเป็นพระรัตนตรัยหมด เป็นพุทธบริษัทโดยอัตโนมัติโดยความจริง นี่เราเองในฐานะเป็นมนุษย์คนหนึ่งก็ดี ในฐานะเป็นโลกก็ดีในฐานะเป็นบรรพชิตก็ดี เกี่ยวข้องกับพระรัตนตรัยอย่างนี้ ที่กำลังจะทำให้เหมือน ทีนี้เราจะพูดอีกครั้งว่าเท่าไร เกี่ยวข้องกับพระรัตนตรัยอย่างไร และเกี่ยวข้องเท่าไร นี่หมายความว่าเกี่ยวข้องมากหรือน้อย พระรัตนตรัยเป็นของที่ดีที่สุด เราก็ต้องเกี่ยวข้องมากที่สุด เรียกว่าหมดชีวิตจิตใจเลย เกี่ยวข้องด้วยชีวิตจิตใจทั้งหมดไม่มีอะไรเหลือเลย ทีนี้ถ้าว่าเข้าใจดีแล้ว เราก็จะปฎิบัติเรื่องนี้ถูก ฉะนั้นขอให้นึกถึงคำพูดที่ได้พูดมาแล้วที่ว่าอะไรมันเป็นของดีที่สุดที่มนุษย์ควรจะได้ เกิดมาทำไม เกิดมาเพื่อได้สิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษย์ควรจะได้ แล้วสิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษย์ควรจะได้มันคืออะ ไร ถ้ามันคือไอ้ ชีวิตที่สะอาดสว่างสงบแล้วก็นั่นแหละ เราต้องเกี่ยวข้องกับพระรัตนตรัยหมดเลย หมดชีวิตจิตใจเลย เกี่ยวข้องกับเราที่สุดเกี่ยวข้องกับเราทั้งหมด เพราะว่าพระรัตนตรัยทำให้ได้สิ่งที่ดีที่สุด เราจึงมีคำสวดมนต์ว่า พุทธัสสาหัง นิยยาเทมิ สะรีรัญชีวิตัญจิทัง ธัมมัสสาหัง นิยยาเทมิ สะรีรัญชีวิตัญจิทัง เหมือนกันนั่นแหละ ขอมอบชีวิตร่างกายนี้ให้แก่พระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ ฉะนั้นอย่าเล่นตลก อย่าหลอกลวง จงทำพิธีมอบชีวิตร่างกายชีวิตทั้งหมดนี้ให้แก่พระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ อย่าแบ่งออกไปทำความชั่วความเลวอะไรอยู่เลย ให้พระพุทธเจ้าให้หมดเลย อย่าแบ่งออกมาทำความชั่ว เป็น เป็นอันธพาลหรือเป็นอะไรเล็กๆ น้อยๆ อยู่อีก ถ้าเราพูดจริงเหมือนที่เราสวดมนต์ทำวัตรเย็น เย็นอยู่ทุกวันนี้ เราพูดจริงว่ามอบให้พระพุทธพระธรรมพระสงฆ์จริงแล้ว ปัญหามันไม่มีนะ เวลานี้ปัญหามันยังเหลืออยู่เพราะเรามันไม่จริงพูดแต่ปาก พูดว่ามอบชีวิตร่างกายให้พระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ เราพูดแต่ปากแล้วมันไม่จริง บางทีจริงครึ่งเดียว บางทีจริง ๑๐% บางทีจริง ๕% มันยิ่งไม่ไหว ต้องให้ทั้ง ๑๐๐% ก็หมายความว่าเชื่อฟัง ๑๐๐% ปฏิบัติตาม ๑๐๐% ไม่เห็นอะ ไรที่ว่าใหญ่หรือสำคัญกว่าพระรัตนตรัย ถ้าปัญหามันขัดกันเราเลือกเอาข้างพระรัตนตรัย ไม่ยอม เรายอมลำบากยอมอดทน ยอมเสียสละ ไอ้ส่วนของเราเอง พูดให้ชัดต้องว่า เมื่อพระพุทธเจ้าต้องการอย่างนี้ เราก็ต้องเอาตามความประสงค์ของพระพุทธเจ้า อย่าเอาตามความประสงค์ของเรา และขอให้ไว้ใจได้ว่า พระพุทธเจ้านั้นต้องการให้เราได้ดีที่สุดแน่ พระพุทธเจ้าต้องการให้เราละกิเลสนั้นน่ะเพื่อตัวเราเอง มันจะได้ดีที่สุด ฉะนั้นอย่าไปต่อต้าน ถ้าเธอต่อต้านเธอก็เป็นทาสของกิเลส ไม่เป็นทาสของพระพุทธเจ้า ไอ้ปากมันว่าเป็นทาสของพระพุทธเจ้าแต่จริงไปเป็นทาสของกิเลส พระพุทธเจ้าว่าอย่าไปคบหญิงคนชั่ว เมื่อเธอไปคบหญิงคนชั่ว ก็เธอเป็นทาสของกิเลส ไม่เป็นทาสของพระพุทธเจ้า ทีนี้ปัญหาก็จะเกิดในอนาคต เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสว่าอย่าทำอบายมุข นับตั้งต้นแต่ว่าไอ้สูบบุหรี่มันเป็นของมึนเมาเสียสติสมปฤดีเราก็ไม่เชื่อ นี่เราเป็นทาสของกิเลสแบ่งไปเสีย ๕% ๑๐% แล้ว ไม่เป็นทาสของพระพุทธเจ้าทั้งหมด ถ้าเป็นทาสของพระพุทธเจ้าทั้งหมดไอ้สิ่งที่เป็นอบายมุขข้อแรกคือของมึนเมาทำไม่ได้ ของที่ทำให้เป็นทาสของสิ่งเสพติดหรือว่าทำให้สติสมปฤดีไม่บริบูรณ์ให้ร่างกายไม่บริบูรณ์ทำไม่ได้ นี่โทษของการที่ไม่เป็นทาสของพระพุทธเจ้าให้หมดเหมือนกับที่ได้พูด เพราะชีวิตนี้ทั้งหมดชีวิตร่างกายนี้ทั้งหมดมอบให้พระพุทธเจ้าพระธรรมพระสงฆ์ คนที่เป็นนักศึกษาสมัยใหม่เกินไปอาจจะพูดว่า อ๊าย, นี่ ครึคระ ล้าสมัยแล้วโว้ย ที่เราจะมอบ มอบกายถวายชีวิตให้พระพุทธเจ้า เอาไว้เป็นของเราเองดีกว่า เราเป็นประชาธิปไตยไม่ขึ้นแก่ใครไอ้นั่นแหละคนที่ไม่รู้อะไร คือไม่รู้ว่าพระพุทธเจ้าต้องการจะทำคนให้มีเสรีภาพแท้จริง คนมันเป็นทาสของกิเลสไม่มีเสรีภาพ พระพุทธเจ้าต้องการให้คนมีเสรีภาพ หลุดออกมาจากความเป็นทาสมาเป็นประชาธิปไตย อิสระที่แท้จริง ขอให้ทำให้จริงๆ ไอ้การที่จะมอบกายถวายชีวิตให้กับพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ ในฐานะที่เป็นผู้เกี่ยวข้องอย่างสูงสุดและที่สุดและทั้งหมด ทีนี้อบายมุขข้ออื่นๆ ก็เหมือนกันแหละ ไปเรียนเอาเองในนวโกวาทมีแหละหรือท่องกันได้แล้วก็ได้ ดื่มน้ำเมา เที่ยวกลางคืน ดูการเล่น เล่นการพนัน คบคนชั่วเป็นมิตร เกียจคร้านทำการงาน เราเรียนมาเกือบห้าสิบปีแล้วยังจำได้อีก เพราะมันกลัวนี่ ไอ้สิ่งนี้มันเลว ปากทางแห่งอบาย พระพุทธเจ้าขอร้องว่าอย่าไปทำ ถึงเรามอบกายถวายชีวิตให้พระพุทธเจ้าทั้งหมด แล้วเราก็ทำไม่ได้ เราชำระสะสางให้มันสะอาดอยู่เสมอ อย่าไปเกี่ยวข้องกับสิ่งเหล่านี้ นี่เป็นตัวอย่างเท่านั้น เรื่องอบายมุข ๖ นี่เป็นตัวอย่าง แล้วมีเรื่องอื่นๆ อีกที่มันสูงขึ้นไป สูงขึ้นไป สูงขึ้นไปให้พยายามมีศีล สมาธิ ปัญญา บรรลุมรรคผลนิพพาน ฉะนั้นไว้ใจพระพุทธเจ้าเถอะ อย่าไปสงสัยลังเลว่าจะมีอะไรที่มันใช้ไม่ได้ ถ้าเราทำตามพระพุทธเจ้าหมด ๑๐๐% แล้วก็ไม่มีอะไรที่จะหลงอยู่สำหรับใช้ไม่ได้ หรือว่าล้าสมัยอะไร อย่าเข้าใจผิด ข้อนี้ขอพูดว่าธรรมะหรือพระธรรมทันสมัยเสมอ ทำให้ดีๆ ถ้าไม่ทันสมัยไม่ใช่พระธรรม ถ้าล้าสมัยผิดสมัยถึงใช้ไม่ได้สิ่งนั้นไม่ใช่พระธรรม พระธรรมว่า อะกาลิโก สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฎฐิโก อะกาลิโก บทว่าอะกาลิโกคือไม่มีสมัยสำหรับพระธรรม หมายความว่าจะเป็นของที่ใช้ได้ตลอดกัลปาวสาน ยิ่งกว่ากัลปาวสานด้วยซ้ำไป ฉะนั้นอย่าไปเข้าใจว่าจะมีธรรมะข้อไหนที่ล้าสมัย ถ้าข้อไหนล้าสมัยข้อนั้นไม่ใช่พระธรรม เพราะมันจะต้องดับทุกข์ด้วยหลักการอันนี้เสมอไป อย่าทำตัวเป็นคนสมัยใหม่แล้วก็ดูถูกพระธรรมหรือว่าศาสนา มันจะไม่เป็นพระเป็นเณร แล้วมันจะเลวมากลงไปไม่สมกับเป็นคนเมืองตำปรื้อ ลูกของคนเมืองตำปรื้อ ที่เคยเจริญรุ่งเรืองในพุทธศาสนาอย่างที่ว่าให้ฟังมาแล้ว นี่ให้มองให้เห็นชัดว่าเรามันเกี่ยวข้องกับพระรัตนตรัยทั้งหมดทั้งชีวิตจิตใจทั้งเลือดทั้งเนื้อทั้งทุกอย่างทุกประการไม่มีเหลือ และมากที่สุดด้วย เพราะเหตุว่าพระรัตนตรัยเป็นสิ่งที่ดีที่สุดและเป็นเหตุให้เราได้สิ่งที่ดีที่สุด ทีนี้คำว่าเกี่ยวข้อง เกี่ยวข้องนี้ อย่าพูดแต่ปากหรือว่าอย่ามีความหมายไปในทางอื่น มีความหมายว่าเราปฏิบัติอยู่เสมอ สิ่งใดเราใช้เรากินเราทำอยู่เสมอเราว่าเราเกี่ยวข้องอยู่เสมอ ของบาง มากมายหลายอย่างในบ้านในเรือนในกุฏิ ไอ้สิ่งที่เราเกี่ยวข้องอยู่เสมอมันมีไม่เท่า ไม่เท่าไหร่ ไอ้สิ่งที่เก็บไว้รกรุงรังป่วยการมีมาก คำว่าเกี่ยวข้องอยู่เสมอก็นั่นแหละ หมายความว่าสิ่งที่ใช้อยู่เสมอ ปฏิบัติอยู่เสมอ สิ่งจำเป็น ทีนี้พระรัตนตรัยนี้จำเป็นที่ต้องมีอยู่เสมอ ใช้เสมอ ยิ่งกว่าแปรงถูฟันที่ใช้วันละ ๒-๓ หน ยิ่งกว่าข้าวปลาอาหารที่จะกินวันหนึ่ง ๒-๓ หน ยิ่งกว่า ไอ้หลายๆ อย่างที่เราใช้เพียงวันละไม่กี่หน ถ้าเปรียบให้ดีเหมือนกับผ้านุ่ง นุ่งตลอดเวลา ของพวกนี้ใช้ตลอดเวลา ที่อยู่ที่อาศัยใช้ตลอดเวลา เสนาสนะใช้ตลอดเวลา เราจึงเกี่ยวข้องกับพระรัตนตรัยให้มันตลอดเวลาอย่างนี้ ที่ว่าเกี่ยวข้องนี้หมายถึงปฏิบัติ คำว่าปฏิบัตินี้หมายความว่า ทำให้อยู่กับเราตลอดเวลา เราเข้าไปเกี่ยวข้อง ให้มันเกี่ยวข้องอยู่ตลอดเวลา เธอไปโรงเรียนก็ต้องมีพระรัตนตรัยติดไปด้วย กลับมาวัดพระรัตนตรัยก็ติดมาด้วย กลับอยู่ที่บ้านก็มีพระรัตนตรัยติดไปด้วย เวลากินข้าวก็มีพระรัตนตรัยอยู่ด้วย ถ้าไม่อย่างนั้นมันกินตะกละมูมมาม หรือว่ากินเป็นโทษไปเลย เวลาอาบน้ำก็มีพระรัตนตรัยติดอยู่ด้วยทำให้มันดีๆ กระทั่งเวลาที่สุดแม้แต่เข้าห้องน้ำห้องส้วมนี่ ก็ต้องทำให้ถูกต้อง นี่ทำให้ ให้พ้นทุกข์ให้ดับทุกข์อยู่เสมอ เขาเรียกว่ามีพระรัตนตรัยอยู่ด้วยเสมอ รวมความให้สั้นๆ ว่าตามใจทำอะไรในชีวิตประจำวันกี่ร้อยอย่างกี่พันอย่าง ให้มีพระรัตนตรัยเข้ามาเกี่ยวข้องเข้ามาควบคุมอยู่ด้วยเสมอไปแหละ เราก็เป็นผู้ที่มีพระรัตนตรัยอยู่กับเราตลอดเวลา เธอจำคำว่ามีพระรัตนตรัยไว้ก่อน ทีนี้เราจะพูดต่อไปอีกคำหนึ่งว่า พอมี มี มี มีมากเข้า มีแท้จริงมากเข้าๆ เราเป็นพระรัตนตรัยเสียเอง คำว่ามีกับเป็นนี่มัน มันคำเดียวกันอยู่นะ ทีแรกเรามี มี มี และเรามันต้องปฏิบัติต้องระมัดระวังต้องสำรวมอยู่ คล้ายๆ ว่ามี เดี๋ยวหายไป เดี๋ยวมีมา เดี๋ยวหายไป มี ทีนี้พอเราปฏิบัติถึงที่สุดเข้าจริงๆ มันได้ปฏิบัติได้จริงๆ เราน่ะมันเป็นพระพุทธเป็นพระรัตนตรัยเสียเอง มีจิต ใจสะอาดสว่างสงบเหมือนพระพุทธเจ้าตลอดเวลา เรียกว่าเป็นพระรัตนตรัยเสียเอง ตอนนี้คนที่ฟังไม่ถูกคงไม่ ไม่เห็นด้วย โอ๊ย, อวดดี อวดดีจะเป็นพระพุทธเจ้าพระธรรมพระสงฆ์เสียเอง คนนั้นมันยังไม่รู้อะไรต่ออะไร ถ้าเธอเข้าใจคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว เธอจะเข้าใจได้ว่า พระพุทธเจ้าต้องการให้เราเป็นเสียเอง ในที่สุด เมื่อแรกๆ แหละไปถือไตรสรณคมน์ ไปปฏิญญาว่าจะมีพระพุทธเจ้าจะถึงพระพุทธเจ้า เรามีพระพุทธเจ้าแต่ในที่สุดบรรลุผลของการปฏิบัติในขั้นสุดท้ายแล้วเราเป็นเสียเอง มีจิตใจเหมือนกับจิตใจของพระพุทธเจ้า หรือพระอรหันต์ทั้งหลายทั้งปวง เป็นพระพุทธเป็นพระธรรมเป็นพระสงฆ์อยู่ในจิตใจของเรา นั่นคือสิ่งที่เรียกว่าสะอาดสว่างสงบ เธอจงสนใจคำว่าสะอาดสว่างสงบนี่ให้มาก สามสะนี้ สามสะหรือสาม ส นี้ ส สะอาด ส สว่าง ส สงบ สะอาดในความบริสุทธิ์ไม่มีความชั่วไม่มีความลับ ไม่ต้องแอบทำอะไรต่ออะไรเหมือนกับคนที่ต้องแอบทำ มันมีความลับมันมีความชั่วบังคับตัวเองไม่ได้ นี่ไม่สะอาด ภาษาบาลีเขาว่าบริสุทธิ์ ภาษา ไทยว่าสะอาด ให้ร่างกายสะอาดให้วาจาสะอาดให้จิตใจสะอาดให้ดวงวิญญาณสะอาด ข้อแรกคือสะอาด ข้อที่สองคือสว่างคือไม่โง่ ข้อที่หนึ่งคือไม่สกปรกข้อที่สองคือไม่โง่ คือรู้ รู้สิ่งที่ควรรู้ รู้สิ่งที่ดับทุกข์ได้ ไปรู้อื่นๆ มันป่วยการ เวลานี้เขารู้กันบ้าๆ บอๆ มากขึ้น เราอ่านในหนังสือพิมพ์ หรืออ่านในหนังสือพิมพ์สำหรับนักเรียนนักศึกษา เราเห็นแต่มีเรื่องโง่ๆ บ้าๆ บอๆ ไม่ต้องรู้มาก มาเอาเวลาไปสนใจสิ่งที่ควรจะรู้จำเป็นไปเสียหมด มันไปรู้ไอ้เรื่องอะไรต่ออะไรก็ไม่รู้ แต่เรื่องเกี่ยวกับดับทุกข์พระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ไม่มี หนังสือที่ทำให้นักเรียนอ่าน ทำให้นักศึกษาอ่าน หรือหนังสือให้ชาวบ้านอ่าน มันมีแต่เรื่องให้เลอะเทอะหมด เช่นนักมวยคนนี้เกิดวันที่เท่าไหร่ เมืองไหนบ้านไหนชนะชกกี่ครั้งมันรู้ แต่ทีพระพุทธเจ้าน่ะไม่รู้เกิดเมืองไหน หรือว่าทำอะไรบ้างไม่รู้ นี่มันไอ้คนนอกคอก ไปรู้สิ่งที่นอกคอก นอกเรื่อง นี่เราเรียกว่าโง่ โง่คือไม่สว่าง มันมืด สิ่งที่เป็นแสงสว่างที่จะดับทุกข์มันมืดหมด ไปจำสิ่งที่ไม่มีสาระขยะมูลฝอยไว้มากมาย เรื่องมวยเรื่องกีฬาเรื่องภาพยนตร์เรื่องสารพัดเรื่อง เรื่องที่มันไม่ใช้ประโยชน์ใดใดแก่ตัวเลย เพียงแต่ว่าเขานิยมกัน รู้อะไรมากมันรู้บ้าหอบฟาง หอบฟางไว้ท่วมหัวแต่ไม่มีข้าวสารสักเม็ด ทีนี้เรา เราไม่ต้องถึงกับหอบไว้ท่วมหัวหมด กำไว้ในมือเม็ดๆ เล็กๆ แล้วก็ของเป็นเพชรเป็นพลอย นี่คือความที่ว่าสว่าง แสงสว่างหรือปัญญาคุณของพระพุทธเจ้า ทีนี้อันที่สามเรียกว่า สงบ คือไม่มีความทุกข์สงบเย็นไม่มีความทุกข์ กิเลสแผดเผาร้อนมีความทุกข์ มีความหิวกระหายด้วยความโง่ด้วยความทะเยอทะยานด้วยความโง่ มันไม่มีปัญญานี่ เพราะทีแรกมันไม่บริสุทธิ์ และมันไม่มีปัญ ญา แล้วมันจึงทุกข์ ทุกข์เพราะความโง่ความมืดและความไม่สะอาด ถ้าสะอาดสว่างมาแล้วอย่ากลัว ต้องเย็นต้องสงบสุข ของสามอย่างนี้มันไม่แยกกัน สะอาดสว่างสงบไม่แยกไปด้วยกันเรื่อย ก็เหมือนกับไม้สามขา แยกกันมันตั้งอยู่ไม่ได้ ไม้พลองสามอันเอามาทำให้เป็นสามขาตั้งได้ แยกไปอันหนึ่งล้ม พระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ต้องอยู่มาด้วยกันแหละ ถ้า ถ้าแยกถือว่าไม่ครบไม่บริบูรณ์ พระพุทธเจ้าเป็นผู้ชี้ทาง พระธรรมเป็นทาง พระสงฆ์เป็นผู้เดินทาง พอมีแล้วมันครบมันสำเร็จประโยชน์ พระพุทธเจ้าเป็นนายแพทย์ พระธรรมเป็นยารักษาโรค พระสงฆ์เป็นผู้ที่ปฏิบัติงาน เมื่อรวมกันแล้วมันก็สำเร็จประโยชน์ เขาจึงเรียกว่าพระรัตนตรัยสามอย่างก็จริงแต่รวมกันเป็นอันเดียว ทีนี้ความสะอาดสว่างสงบมีสามอย่างก็จริงแต่ต้องรวมเป็นอันเดียว คือสิ่งที่ดับทุกข์ได้ สะอาดสว่างสงบมี ๓ สิ่งแต่รวมเป็นสิ่งเดียวที่ดับทุกข์ได้ เธอจำไว้เลยว่า ๓ ส นี้สำคัญ ถ้ามีสัก ส แล้วมันก็จะมี มีหมดแหละ เช่นมีบริสุทธิ์สะอาดสว่างสงบ ถ้ามีสงบก็หมายความว่าต้องสะอาดสว่างมาแล้ว ไม่อย่างนั้นมันสงบไม่ได้ต้องมี ๓ ส ทีนี้มนุษย์ส่วนมากมันชอบ ๓ ก ๓ ก พูดมาแล้วไม่ใช่หรือ เรื่องกินเรื่องกามเรื่องเกียรตินั่นน่ะ ๓ ก พวกเธอก็ระวังให้ดี อย่าไปหลง ๓ ก แล้วทิ้ง ๓ ส บวชใหม่ๆ นี้ไปหลง ๓ ก ทิ้ง ๓ ส หลงเรื่องกินเรื่องกามเรื่องเกียรติ ก็จะทิ้งสะอาดสว่างสงบทันที ทีนี้ไกลไกลจากพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ไม่รู้อยู่ทิศไหนแหละ ไม่มีพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ อย่าว่าจะเป็นเสียเอง เราพยายามยึดพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์โดยหลักว่ามีอยู่ในใจเลยเก็บไว้ในใจ คือมีความสะอาดสว่างสงบอยู่ในใจ หนักเข้าหนักเข้าเป็นทั้งเนื้อทั้งตัวเลยไม่ต้องระวังไม่ต้องอะไรแล้ว มันก็มีเสียเองเป็นเสียเอง แต่อย่าลืมว่าทีแรกต้องระวัง แรกเข้าใหม่ๆ เป็นเณรพระหนุ่มอย่างนี้ ต้องระวังรักษา รักษา รักษาไว้ให้มันมีสภาพที่สะอาดสว่างสงบไปเรื่อยๆ หลายๆ หลายๆ ปีเข้า มันก็มากขึ้น มากขึ้นจนกระทั่งชินเป็นนิสัย นี่เราเป็นเสียเองแล้ว เมื่อก่อนสักแต่ว่ามีบ้าง มีจนตลอดกาลเป็นเสียเอง นี่เกี่ยวข้องกับพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ชนิดนี้ ชนิดที่เป็นพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์เสียเอง ให้มันถึงที่สุด ให้มันมากที่สุด ภาวนาแต่เรื่องสะอาดสว่างสงบ ๓ ส นี้ให้มันมีอยู่เรื่อยไป ไอ้ ๓ ก อย่าให้มันโผล่หัวขึ้นมา ให้มันเป็นเรื่องเล็กน้อยให้เป็นเรื่องเกี่ยวข้องเท่าที่จำเป็น เพราะว่ามี ๓ สนี่แหละ ๓ ก มันก็ไม่เป็นพิษเป็นโทษ ไม่ ไม่ร้ายไม่แรงอะไร มันไม่หลงนี่ มันไม่ไปหลง มันไม่ไปนับถือ มันไม่ไปเป็นทาสของมันเป็นทาสพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์แล้ว ก็ไม่เป็นทาสเรื่องกินเรื่องกามเรื่องเกียรติแน่นอน นี่คนลูกเมืองตำปรื้อระวังให้ดีๆ ให้ปู่ย่าตายายได้ทำไว้ดี หวังไว้อย่างไร เราจะเป็น เราต้องแก้ให้ตกแหละ ให้คนเมืองตำปรื้อนี้มันเป็นที่สนใจของคนที่ว่าเรา ให้เห็นว่า เออ, มันไม่เหลวไหลแหละ ว่าเขาเปล่าๆ ว่าเขาคนตำปรื้อว่าเขาเปล่าๆ ความจริงเขาไม่ได้มีอะไรที่น่ารังเกียจเลย มันแก้ได้โดยข้อนี้ เธออุตส่าห์พยายามเกี่ยวข้องกับพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ให้ถึงที่สุด แล้วขจัดไอ้สิ่งที่เขาลบหลู่ดูถูกออกไปได้หมด ความสะอาดสว่างสงบจำให้ดีก่อน นั่นน่ะคือพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ ทีนี้เราจะพูดต่อไปอีกนิดว่า ไอ้สะอาดสว่างสงบนี่ถ้ามีจริงน่ะมันว่าง เธอจำคำว่าว่างไว้ก่อนเธอคงไม่เข้าใจ นักปราชญ์โง่ๆ ในเมืองไทยมีมากไม่เข้าใจคำว่าว่าง เข้าใจว่าว่างคือไม่มีอะไร ที่จริงว่างนะมันมี มีทั้งหมดแต่ไม่มีตัวกู ไม่มีตัวกูที่ยกหัวชูหาง ไม่มีตัวกูที่โลภโกรธ หลง นั่นแหละเขาเรียกว่าว่าง ว่างไม่มีตัวกูมีแต่ร่างกายบริสุทธิ์จิตใจบริสุทธิ์มีคำพูดการกระทำบริสุทธิ์ แล้วมีเบญจขันธ์ที่บริสุทธิ์ปราศจากตัวกูของกูหรือกิเลส นี่ก็มี มีทั้งหมดตามเดิมนั่นแหละทำไปเถอะ ทำแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ แล้วมีแต่ความสะอาดสว่างสงบเต็มไปหมดแหละ ถ้าว่างจากตัวกู คำว่าจิตว่างนี่ก็หมายถึงว่าจิตมันว่างจากกิเลส กิเลสคือตัวกู ถ้ามีตัวกูมันไม่ว่างแหละ พอไม่มีตัวกูมันก็ว่าง เพราะถ้าว่างจากตัวกูไม่มีตัวกูมันมีอะไรอยู่แทนมันมีสติปัญญาอยู่แทน พอตัวกูเข้ามามันโง่ทันทีเลย มันมืดมนมันโง่ทันทีเลย พอตัวกูออกไปปัญญาอยู่แทน ในชีวิตของเราถ้าตัวกูเข้ามามันโง่ทันที ตัวกูออกไปมีแสงสว่างมีปัญญาทันที พอกิเลสเข้ามาก็สกปรกมืดมัวเร่าร้อน พอกิเลสออกไปก็สะอาดสว่างสงบ ขอให้ว่างจากตัวกูเสมอ ว่างจากตัวกูคือไม่เห็นแก่ตัว พอเห็นแก่ตัวมันมีตัวกู ถ้าเราเห็นแก่ตัวแล้วมันมีความโลภมีความโกรธมีความหลง ที่มันชกต่อยกันเพราะมันมีตัวกู มันไม่ยอมตัวกูมันก็ทำให้ชกกันแหละ หรือว่ามีตัวกูมันโลภมันอยากนั่นอยากนี่ มันอยากเอร็ดอร่อยทางเนื้อทางหนังทางรูปเสียงกลิ่นรสสัมผัสมันมีตัวกู โง่ทำไปด้วยความมัวเมา ยังทำให้หลงอย่างอื่นอีกมากมาย ตัวกูมันแสดงบทบาทถึงความโลภความโกรธความหลงเสมอไป เราว่างจากตัวกูก็เหมือนว่างจากความโลภความโกรธความหลง ก็มีแต่สติปัญญามีแต่สะอาดสว่างสงบ นี่คือการที่เราเกี่ยวข้องกับพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ ภิกษุหนุ่มสามเณรจงพยายามที่จะเกี่ยวข้องกับพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ในลักษณะเช่นนี้ แล้วไม่เสียทีบวช แล้วไม่เสียทีมานั่งคุยกันที่นี่ ที่สวนโมกข์นี้ มีอุดมคติว่าจะโมกข์ โมกข์แล้วพ้นออกไป คือเป็นอิสระ คือว่างจากความทุกข์ ว่างจากกิเลส ว่างจากตัวกู นี่มาคุยกันที่สวนโมกข์ก็อย่าให้เสียที ให้มันมีอุดมคติของสวนโมกข์ โมกข์แปลว่าหลุดพ้น แปลว่า พ้นจากความทุกข์ สะอาดสว่างสงบ ถ้าไม่โมกข์แล้วก็ไม่สะอาดสว่างสงบ ถ้าโมกข์จากของสกปรกมันก็สะอาดแหละ ถ้าโมกข์จากความมืดมันก็สว่างแหละ ถ้าโมกข์จากความร้อนมันก็เย็นแหละ แล้วแต่จะโมกข์กันในแง่ไหน โมกข์แปลว่าหลุดพ้น ออกไปเสียได้ ไม่ ไม่ติดยึด เธออุตส่าห์มาที่สวนโมกข์มาพักที่สวนโมกข์ ด้วยความหวังของบิดามารดาครูบาอาจารย์ว่าจะได้รับประโยชน์ เธออย่าทำให้เขาผิดหวังเธอต้องรักตัวเองในทางที่ถูกต้อง มีสติปัญญา อย่าให้กิเลสเข้ามาแทน อย่าไปรักกิเลส และพยายามให้มีความสะอาดสว่างสงบ ให้มีพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ ทั้งในวาระสุดท้ายที่สุดให้เป็นพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์เสียเอง เรามีความเกี่ยวข้องกับพระรัตนตรัยในลักษณะนี้ ตอบปัญหาให้แก่พวกเธอแล้วว่า พระรัตนตรัยเกี่ยวข้องกับเราอย่างไร หรือว่าเราเกี่ยวข้องกับพระรัตนตรัยอย่างไร สรุปความสั้นๆ เป็นการทบทวนว่า พระรัตนตรัยนั้นคือของที่ดีเหมือนแก้ว หรือเป็นแก้ว ๓ ประการ พระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ โดยตัวหนังสือเป็นของที่น่ายินดี โดยความหมายช่วยให้เราดับทุกข์ได้ โดยประวัตินี่ มันมีมาในโอกาสหรือในยุคในสมัยที่มนุษย์เจริญด้วยสติปัญญาเต็มที่ นั่นแหละพระรัตนตรัยคือสิ่งที่เราต้องรับมาปฏิบัติ เราบวชเป็นพระเป็นเณรก็ดี เราจะอยู่เป็นชาวบ้านก็ดี หรือเป็นชาวโลกทั้งสิ้นก็ดีเราก็ต้องเกี่ยวข้อง เพราะถ้าไม่เกี่ยวข้องแล้วก็ไม่เป็นมนุษย์ไม่เป็นพระไม่เป็นเณร ไม่เป็นโลกแห่งความสงบ ทีนี้การเกี่ยวข้องนี่ต้องเกี่ยวข้องที่สุดเลยถึงที่สุดเลย ชนิดที่เรียกว่ามอบกายถวายชีวิตแหละ แล้วก็ทำให้เกิดความสะอาดสว่างสงบขึ้นมา มีพระรัตนตรัยแล้วเป็นพระรัตนตรัย ว่างจากตัวกูของกูว่างจากกิเลส มีแต่สภาพธรรมอันบริสุทธิ์ มีจิตบริสุทธิ์มีร่าง กายบริสุทธิ์มีชีวิตบริสุทธิ์ นี่คือการเกี่ยวข้องกับพระรัตนตรัยมีอาการอย่างนี้มีผลอย่างนี้ ขอให้ลูกคนเมืองตำปรื้อทำให้ได้ อย่าให้เสียทีเกิดมาเป็นลูกคนเมืองตำปรื้อตั้ง ๑,๒๐๐ ปีแล้ว นี่เวลาสำหรับพูดวันนี้มีเท่านี้