แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
คือพ่ายแพ้อำนาจของวัตถุนิยมที่คนเขาส่งเสริมกันมากขึ้น ปรับปรุงกันมากขึ้น นิยมกันมากขึ้น นี่แปลว่าเราอยู่ในฐานะที่ค่อนข้างเคราะห์ร้าย คือต้องเกิดมาหรือว่าต้องอยู่ ต้องเป็นอยู่ ในท่ามกลางหมู่คนบ้าที่บ้ามากขึ้น งั้นเราก็ยากเหมือนกันที่เราจะปลีกตัวออกมาได้ เรียกว่ามันเป็นปัญหาที่เพิ่มมากขึ้น เป็นบทเรียนที่ยากยิ่งขึ้น เพราะว่าโลกทุกวันนี้มันเป็นโลกของคนบ้ามากขึ้น อาการแห่งความบ้ามันมีมากขึ้น ไม่เหมือนกับโลกสมัยก่อน ซึ่งมันเป็นบ้าน้อยกว่า เย็นกว่า สงบกว่า นิ่งกว่า หรือหยุดกว่า เดี๋ยวนี้มันเป็นโลกที่เร่าร้อน เดือดพล่าน วิ่งว่อน ไปด้วยความอยากความกระหายของสัตว์ที่บ้าคลั่งด้วยอำนาจความเป็นบ่าวเป็นทาสของอารมณ์ คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ นั่นเอง สรุปความแล้วก็เรียกว่า โลกทุกวันนี้มันเป็นโลกของคนบ้ามากขึ้นกว่าที่แล้วมา ตามปกติถ้าเรียกว่าโลกแล้วมันก็เป็นคนบ้าอยู่แล้ว เพราะหลงใหลใน รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ ซึ่งเรียกว่าโลก ถ้าอยู่ในโลกก็เป็นคนบ้าอยู่แล้ว เดี๋ยวนี้คนบ้าในโลกนี้ ขยาย ขยาย ปรับปรุง หรือขยายรสชาติ น้ำหนักของ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ นี่ให้มากขึ้น มากขึ้น มากขึ้น ความเป็นโลกมันก็จัด เป็นโลกจัดมากขึ้น นี่คนที่อยู่ในโลกก็เป็นคนบ้ามากขึ้น นี่เป็นเหตุผลที่พอที่เพียงพอแล้ว ที่ไม่น่าจะสงสัยอะไรกันอีกแล้ว ที่จะพูดว่าคนในโลกนี้กำลังเป็นคนบ้าที่รุนแรงกว่าแต่ก่อนมากขึ้น ทำให้โลกนี้เป็นโลกที่บ้า เป็นโลกของคนบ้ามากขึ้น นี้เป็นหัวข้อสำคัญที่เสนอแก่ท่านทั้งหลายต่อไป หลังจากที่ได้บอกให้รู้ว่าเราเป็นคนบ้า แล้วก็บอกให้รู้ว่าทั้งโลกก็เป็นคนบ้า เป็นโลกของคนบ้า และโลกทุกวันนี้เป็นโลกของคนบ้าที่มาก ที่จัด หรือที่รุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก ตามความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าของคนในโลก ซึ่งเขาเรียกตัวเองว่า นักศึกษา ที่เขาเรียกว่า นักศึกษา คนในโลกยิ่งเป็นนักศึกษาของโลกมากขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งเป็นคนบ้ามากขึ้นเท่านั้น แต่ถ้าเขาเป็นนักศึกษาของพระพุทธเจ้า หรือของธรรมะมากขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งเป็นคนบ้าน้อยลงเท่านั้น ฟังดูให้ดีๆ จนถึงกับรู้จักแยกออกจากกัน พอเป็นนักศึกษาของคนในโลกตามประสาโลกอย่างชาวโลกสมัยนี้มากขึ้นเท่าไรก็เป็นคนบ้ามากขึ้นเท่านั้น ถ้าเป็นคน นักศึกษาธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นต้น หรือของพระศาสดาในศาสนาไหนก็ได้มากขึ้นเท่าไรก็เป็นคนบ้าน้อยลงเท่านั้นจนกระทั่งหายบ้าและไม่เป็นคนบ้าเลย เอ๊ะ ทำไมพูดว่านักศึกษาของโลกสมัยปัจจุบันนี้มีแต่เป็นคนบ้ามากขึ้น ก็เพราะเหตุผลอย่างที่กล่าวมาแล้วว่า ศึกษาแต่ในเรื่องทางวัตถุ แล้วศึกษาไปในลักษณะที่ทำให้ตัวเอง โง่ หลงในรสอร่อยของวัตถุนั้นมากยิ่งขึ้น เมื่อก่อนนี้วัตถุไม่เป็นที่ยั่วยวน เย้ายวนอะไรมากนัก เดี๋ยวนี้คนมีสติปัญญาแก้ไขปรับปรุงให้วัตถุต่างๆในโลกนี้มีความยั่วยวนมากขึ้น มากขึ้น มากมายหลายร้อยหลายพันเท่า ยั่วยวนตา ยวนใจ ยวนตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ นี่ให้มันมากขึ้น ให้ไม่รู้จักเบื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางเนื้อหนัง ทางโผฏฐัพพะ ทางอารมณ์ ทางเนื้อหนัง ไม่ให้รู้จักเบื่อทั้งวันทั้งคืน นี่มันอยาก มันกระหายจนเวลาวันหนึ่งคืนหนึ่งมีไม่มากพอไม่ยาวพอ ที่จะไปดื่มไปกินอารมณ์เหล่านั้น ที่นี้บางคนอาจจะคิดว่ายังมีวิชาความรู้แขนงอื่นที่ไม่เกี่ยวกับอารมณ์ยั่วยวนเหล่านี้โดยตรง เช่น ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่บริสุทธิ์ ความรู้ทางคณิตศาสตร์ที่บริสุทธิ์ ความรู้ทางปรัชญา ทางจิตวิทยา อะไรที่บริสุทธิ์ ที่ไม่เกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ก็ยังมีอยู่มาก แล้วทำไมความรู้เหล่านี้จะไม่ช่วยให้คนมีหูตาสว่างและหายเป็นบ้า ข้อนี้ตอบได้ง่ายๆอย่างกำปั้นทุบดิน ว่าอะไรจะดีวิเศษอย่างไรก็ตาม ถ้ามันมีอยู่ในมือของคนบ้าแล้วมันก็ใช้ไปอย่างบ้าๆทั้งนั้น เมื่อคนมันเป็นบ้าในอารมณ์ทางวัตถุนิยมเสียแล้ว มันจะมีความรู้อะไรมา มันก็ใช้ไปเพื่อวัตถุประสงค์อันนั้นทั้งนั้น มันยิ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์ มันก็ยิ่งรู้จักใช้วิทยาศาสตร์มาสร้างเหยื่อเย้ายวนอารมณ์ให้มากขึ้น ถ้ามันเป็นนักจิตวิทยามันก็รู้จักใช้จิตวิทยาในการเย้ายวนให้มากขึ้น ถึงแม้มันจะเป็นนักปรัชญามันก็ค้นคว้าหามูลเหตุที่จะสร้างสรรค์สิ่งเย้ายวนให้ได้มากขึ้น แม้แต่ที่สุดมันจะมีความรู้ทางอินดินเนีย ทางวัตถุแท้ๆ มันก็ใช้ความรู้ทางอินดินเนีย ทางวัตถุแท้ๆนี้ ให้เป็นเครื่องช่วยส่งเสริมแก่กิเลสตัณหาในทางความเย้ายวนอย่างเดียวกันอีก ไม่มีอะไรที่ถูกนำไปใช้เพื่อการต่อต้านกิเลส หรือต่อต้านความเย้ายวน ดูมันระดมทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเอาไปรุมกันใช้ในการสร้างสรรค์สิ่งซึ่งเป็นความเย้ายวน แล้วทุกคนก็ทนไม่ได้ คือตกไปเป็นเหยื่อของความเย้ายวนเป็นบ่าวเป็นทาสของกิเลสตัณหา คนในโลกที่มีการศึกษาก้าวหน้าชนิดนี้มันจึงเป็นคนบ้ายิ่งขึ้น นี้ไม่ใช่คำด่า ไม่ใช่การกล่าวกระแหนะกระแหน หรือการกล่าวตีสำนวนโวหาร แต่เป็นการกล่าวตามความรู้สึกจริงๆ แล้วมีเหตุผลชัดเจนอยู่ที่พอจะให้ท่านทั้งหลายรู้สึกได้จริงๆ มองเห็นอยู่ได้จริงๆ เพราะคนที่เล่าเรียนศึกษาก้าวหน้าในสมัยนี้ตกเป็นเหยื่อของสิ่งเย้ายวนแล้ว ก็ใช้ความรู้ทั้งหมดทุกแขนงเพื่อส่งเสริมสิ่งเย้ายวน สร้างอะไรขึ้นมา เป็นการสร้างเพื่อส่งเสริมสิ่งเย้ายวน สร้างเครื่องมือที่ดี เครื่องมือสื่อสารที่ดี เช่น วิทยุ เช่น การพิมพ์โฆษณา อะไรก็ใช้วิทยุนั่นเองส่งเสริมความเย้ายวนให้มากขึ้น ทีนี้มันก็ได้ผลดีแต่ในทางฝ่ายของการเย้ายวนกิเลสตัณหาของคนในโลกนี้มันก็มีมากขึ้น เห็นได้ชัดจากการที่มีการเบียดเบียนแก่กันและกันรุนแรงมากขึ้น มีการกระทำที่เป็นลามกอนาจารเต็มไปหมดอย่างเปิดเผย อย่างโจ่งแจ้ง อย่างไม่มีความละอาย เพราะคนเหล่านี้ตกอยู่ในวิสัยของกิเลสตัณหาชนิดนี้หมด เรื่องนี้ทุกคนก็รู้ดีอยู่แล้ว ที่เห็นด้วยตา ที่อ่านหนังสือข่าว หรือเสียงเล่าลือ หรือเสียงรับรองของรัฐบาล หรือของใครก็ตาม ล้วนแต่รับรองต้องเป็นอันเดียวกันว่า อาการที่ไม่พึงปรารถนาด้วยความเสื่อมเสียทางศีลธรรมลามกอนาจารนี้มันมีมากขึ้น การเบียดเบียนชีวิตร่างกายกันขึ้นก็มีมากขึ้น แล้วมีอย่างรุนแรง มีอย่างไม่น่าเชื่อ มีอย่างที่ไม่เคยมีมาแต่กาลก่อน นี่คิดดูว่าในโลกของคนบ้านี้มันเป็นอย่างไร เรามีอายุยืนยาวมาหนึ่งปีแล้วก็ได้เห็นสิ่งเหล่านี้เพิ่มขึ้นมากเท่าที่มันมีอยู่หนึ่งปี ในช่วงหนึ่งปีมันแปลกมันก้าวหน้าไปเท่าไรเราก็ได้เห็นสิ่งนี้ที่มันแปลกออกไป ที่มันก้าวหน้าออกไป เราจึงมาพิจารณาดูถึงข้อที่ว่าเรามีอายุยืนมาถึงเท่านี้ปี เราได้เห็นสิ่งหล่านี้ในลักษณะอย่างนี้ เราจึงถือว่าเป็นสิ่งที่ควรนำมาคิดดู ว่าทำอย่างไรสิ่งต่างๆจึงจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่น่าปรารถนา มันก็เป็นการยากมากที่จะเปลี่ยนอย่างกลับหลังหันได้ในเวลาอันสั้น เพราะสิ่งต่างๆนี้กำลังรุนแรงมาก กำลังพุ่งแรงมาก มันต้องไปจนสุดเหวี่ยง คือสุดเหวี่ยงของความบ้าความหลังนี้แล้ว มันจึงจะชะงัด แล้วมันจึงจะค่อยรู้สึกตัว หรือส่างซา หรือเหวี่ยงกลับ สิ่งเหล่านี้ก็ขึ้นอยู่กับเวลา ปีหนึ่งหรือสิบปีหรือร้อยปีหรือพันปี มันก็จะเหวี่ยงกลับไปกลับมาอยู่อย่างนี้
เดี๋ยวนี้มันเป็นยุคที่ว่ามนุษย์กำลังเป็นบ้าจัด เพราะว่าเป็นยุคที่มนุษย์บูชาวัตถุ บูชาเรื่องทางวัตถุ คือทางธรรมชาติปรุงแต่ง ไม่บูชาธรรมชาติบริสุทธิ์ แต่บูชาธรรมชาติปรุงแต่ง ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ มันจึงเป็นไปทางที่หลงใหลมืดมน เราเรียกมันว่าความมืดสีขาว เพราะว่าความมืดนี้เกิดมาจากการศึกษา การศึกษานั้นก็ถือว่าเป็นการทำให้รู้ แล้วจัดมันว่าเป็นแสงสว่างหรือเป็นสีขาว แต่เดี๋ยวนี้เรามาพบว่ามีความมืดอยู่ในแสงสว่าง เป็นความมืดสีขาวที่ทำให้คนเหล่านี้ทั้งโลกเป็นบ้ามากขึ้น เป็นบ้าหนักขึ้น คือหลงใหลในการที่จะสร้างสรรค์สิ่งเย้ายวนเป็น รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส มากขึ้น เรามีโชคดีมากที่สุดที่ได้อยู่มาจนถึงได้เห็นความบ้าที่สุดอันนี้ ในส่วนนี้เราก็พอใจ ถ้าเราได้อยู่มาจนเห็นความบ้าที่สุดของโลกในทุกวันนี้ และเราก็จะรุ่งอยู่อย่างหนึ่งในข้อที่ว่า เราจะพลัดตกลงไปในความบ้าอันนั้นกับเขาด้วยหรือไม่เท่านั้น เดี๋ยวนี้มาพิจารณาดูยังรู้สึกอยู่ว่าธรรมะที่บริสุทธิ์ของพระพุทธเจ้า หรือว่าธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของธรรมชาติเอง ยังช่วยคุ้มครองเราอยู่ไม่น้อยทีเดียว เราจึงมานั่งกันอยู่ที่นี่ได้ในลักษณะอย่างนี้ หรือว่าพูดอย่างนี้แล้วฟังกันรู้เรื่องบ้าง อย่างนี้ก็ยังนับว่าเป็นโชคดีอยู่มากทีเดียว ถ้าเราเดือดจัดหรือเป็นโรคขนาดบ้าคลั่งกับเขา พูดกันไม่รู้เรื่องแล้ว เราก็ไม่รู้ว่าจะเสียใจได้อย่างไร เราก็มีความรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่น่าเสียใจ ต้องเสียใจ เราก็จะถือว่าเป็นโชคดีที่ได้สนุกสนานกับเขาด้วยเหมือนกัน นี่คือพลัดตกลงไปในเหวของความบ้า ความหลง ความมืดมน หรือแสงสว่างสีขาว เราอาจจะถูกหาว่าบ้าเดี๋ยวนี้ที่ตรงนี้ก็ได้ที่พูดว่าแสงแห่งความมืดสีขาว ในแสงสว่างสีขาวก็มีความมืดและความบ้า และยิ่งกว่าความมืดความบ้าในแสงสว่างสีดำ ข้อนี้หมายความว่า ความโง่ ความหลง ความยึดมั่นของพวกนักศึกษานั่นแหละ มันร้ายกาจยิ่งไปกว่าของพวกที่ไม่มีการศึกษา พวกที่มีการศึกษามีปริญญาดีกรียาวเป็นหางของการศึกษาสมัยนี้นั่นแหละ มันเป็นบ่าวเป็นทาสของอารมณ์ทางเนื้อทางหนังยิ่งกว่าบรรพบุรุษที่ไม่เคยมีการศึกษาชนิดนี้ ที่ไม่เคยมีปริญญายาวเป็นหางอย่างนี้ ฉะนั้นแสงสว่างสีขาวแต่มีความมืดอย่างร้ายกาจอยู่ในนั้นเป็นความมืดสีขาวของพวกนักศึกษาในโลกในสมัยปัจจุบันนี้นั่นแหละคือสิ่งที่น่ากลัวที่สุด นั่นแหละคือสิ่งที่เป็นอันตรายที่สุด ขอให้จำไว้ว่าความมืดสีขาวนี้อันตรายที่สุดยิ่งกว่าความมืดสีดำ เพราะว่าความมืดสีดำมองเห็นได้ง่าย เข้าใจได้ง่าย หลีกเลี่ยงได้ง่าย ไม่ถลำลึกลงไปได้ง่าย ส่วนความมืดสีขาวนี้มันหลอกลวงสองชั้นสามชั้น มันทำให้ถลำลึกโดยไม่รู้สึกตัว แล้วถลำลึกได้มาก ได้ไกล ได้ง่าย จึงเป็นอันตรายกว่า ผลที่พิสูจน์ได้ง่ายๆคือ โลกในสมัยปัจจุบันนี้เป็นโลกของนรกมากขึ้น มีความเดือดร้อนระส่ำระสายในลักษณะของความเป็นนรกนี้มากขึ้นทั่วทั้งโลก ไม่มีใครนอนหลับสนิท จึงต้องเป็นโรคจิต โรคเส้นประสาทกันมากมายกว่าเมื่อยี่สิบปีหรือสามสิบปีหรือห้าสิบปีมานี้ เมื่อห้าสิบปีมานี้โรคเส้นประสาทนี้หาทำยายาก อีกสามสิบยี่สิบปีมานี้ก็มีมากขึ้น เดี๋ยวนี้ก็มีมากขึ้นจนมีอยู่ในวัดในวา ในเขตของพระศาสนาของพระพุทธเจ้า ที่ไม่ควรจะมีโรคเส้นประสาทมันก็ยังมี พระเณรบางองค์เป็นโรคเส้นประสาทตาแดงเหมือนเลือด เพราะว่ามีความมืดสีขาวครอบงำอยากดิบอยากดีทะเยอทะยานไม่มีที่สิ้นสุดจมอยู่ในเหวอันนี้ นี้เรียกว่าโรคนี้ระบาดเข้ามาถึงในวัดในวาแทบจะไม่มีที่ต้านทานอยู่แล้ว ไม่มีค่ายปราการหรืออะไรที่ไหนจะต้านทานมันไหวอยู่แล้ว เพราะความเจริญก้าวหน้าของนักศึกษาในโลกปัจจุบันนี้ ซึ่งสร้างขึ้นมาแต่ความมืดสีขาว ความมืดสีขาวระวังให้ดีว่าความมืดสีขาวที่เขากำลังหว่านโปรยมานี้อย่าได้รับเอามาเป็นแสงสว่างเป็นอันขาดมันเป็นความมืดสีขาวเท่านั้น มันไม่ได้เป็นแสงสว่างที่ส่องให้เห็น ให้เห็นความจริงของชิวีตจิตใจ ของกิเลส ของความทุกข์เลย แต่มันทำให้คนหลงใหลในกิเลสในความทุกข์มากขึ้น นั้นมันจึงเป็นโลกของความทุกข์มากขึ้น ซึ่งเราเรียกว่าเป็นโลกของคนบ้าที่เดือดจัด บ้าอย่างคลั่งจัดมากขึ้นมากขึ้น ไม่มีใครนอนหลับสนิทสักคนเดียวแล้วเวลานี้ พวกนักการเมืองก็นอนหลับไม่สนิท พวกนายทุนก็นอนหลับไม่สนิท พวกกรรมกรก็นอนหลับไม่สนิท ชาวไร่ ชาวนา ชาวสวน ก็ล้วนแต่ทะเยอทะยานที่จะเป็นให้เหมือนกับพวกคนเหล่านั้นซึ่งล้วนแต่นอนหลับไม่สนิท มีโรคทางจิตทางวิญญาณมากขึ้น จนไม่รู้ว่าจะมากอย่างไร จนเต็มไปด้วยคนวิกลจริต คนเป็นโรคเส้นประสาทในทางร่างกาย และก็เป็นคนเป็นบ้าจัดในทางวิญญาณ ทางมิจฉาทิฐิ หลงกลับตรงกันข้าม เอาสิ่งที่เป็นไปเพื่อความทุกข์นั้นมาเป็นสิ่งที่น่าปรารถนา เขาสมัครที่จะเป็นบ่าวเป็นทาสของกิเลสที่เป็นไปเพื่อความทุกข์นั้น นี่คือโลกในสมัยปัจจุบันนี้ ซึ่งยืนยันว่าในวันที่ ๒๗ พฤษภาคมนี้ก็ยังเป็นอย่างนี้และกำลังเป็นอยู่มากขึ้น
นี่คือเรื่องที่จะพูดกันในวันที่ ๒๗ พฤษภาคมนี้ ไม่มีเรื่องอะไรที่น่าพูดกว่าเรื่องนี้ ไม่มีอะไรที่น่าคิดกว่าเรื่องนี้ ไม่มีอะไรที่น่ากลัวกว่าเรื่องนี้ ฉะนั้นจึงได้เอามาพูดในฐานะที่เป็นวันสำคัญวันหนึ่งของผู้พูด แล้วผู้ฟังแต่ละคนก็มีวันสำคัญทำนองนี้กันคนละวันในปีหนึ่งด้วยกันทั้งนั้น เอาไปช่วยแห่กันคิด เอาไปช่วยกันพูดในวันของตนของตนก็แล้วกัน มันจะเป็นการหยุดยั้งความบ้าหลังของหมู่มนุษย์เราได้ ในโอกาสอันสั้นเข้ามา คือถ้าเราจะปล่อยไปตามเรื่องเสียทีเดียว โอกาสที่มนุษย์ในโลกจะรู้ความจริงข้อนี้มันยังยาวนานอีกนัก มากนัก แต่ถ้าเราขยัน ขยัน เอาเรื่องนี้มาพูดกันอยู่ทุกวันๆ มากคนขึ้น มากคนขึ้น โอกาสที่ว่าคนบ้าในโลกจะนึกได้นั่นมันก็จะมาถึงเร็วเข้าสักหน่อย เราจะทันเห็นจะตายเสียก่อนหรือจะทันเห็นนี่มันก็พูดยาก แต่ว่าถ้าเราช่วยกันทำจริงๆพรึบเดียวมากๆเราก็ทันเห็นโลกนี้หมุนกลับมาในทางที่ตรงกันข้ามก็ได้ ถ้าใครมีอำนาจหรือมีอะไรอิทธิพลอะไรที่ทำให้คนที่มีอำนาจในโลกนี้เปลี่ยนจิตใจกันเสียใหม่ได้ โลกนี้มันก็หมุนกลับมาได้ นักศึกษาที่เป็นคนบ้าเหล่านั้นจะกลายเป็นนักศึกษาที่เป็นคนดีได้ แสงสว่างสีขาวก็จะเป็นแสงสว่างที่แท้จริงขึ้นมาได้ ไม่มีความมืดสีขาวในโลกนี้อีกต่อไป การศึกษาทั้งหมดทุกแขนงในโลกนี้เวลานี้กำลังเป็นความมืดสีขาว กำลังเป็นความมืดสีขาว ที่ครอบงำคนทุกคนในโลกให้เป็นบ้าด้วยอาการของคนมีสีขาว คืออาการของคนที่สมมุติกันว่าดี ที่คนทั้งโลกเขาสมมุติกันว่าดี นั่นแหละคืออาการบ้า เดี๋ยวนี้เขาถือเอาอาการลามกอนาจารหลายอย่างหลายประการเป็นอาการที่ไม่น่าละอาย เขาทำกันอยู่อย่างเปิดเผย เขาพูดจากันอยู่อย่างเปิดเผย เขาแสดงกันอยู่อย่างเปิดเผย แล้วก็หลอกลวงกันให้ลุ่มหลงในเรื่องอย่างนี้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกผู้หญิง เดี๋ยวนี้ถูกหลอกให้ปิดร่างกายเนื้อตัวน้อยลงทุกที น้อยลงทุกที น้อยลงทุกที เพราะพลอยโง่ไปตามพวกที่โง่อยู่ก่อนแล้ว หรือเป็นบ้าไปตามพวกที่เป็นบ้าอยู่ก่อนแล้ว เพราะการกระทำอย่างนั้นมันก็ไม่ได้แก้ไขอะไรให้ดีขึ้น มีแต่ทำให้เป็นมากขึ้นไปกว่าเดิม นี่คือวัฒนธรรมสมัยใหม่ความเจริญสมัยใหม่ที่กำลังครอบงำอยู่ในโลกเวลานี้ อะไรๆก็ล้วนแต่จักทำให้เป็นไปในการที่จะส่งเสริมกิเลสตัณหาให้มากขึ้น ให้เป็นบ้ามากขึ้น จนเลวกว่าสัตว์เดรัจฉานซึ่งมันหยุดอยู่เพียงเท่านั้น มันไม่บ้าเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นเหมือนพวกมนุษย์ นั้นพวกมนุษย์จึงเป็นพวกที่เลวกว่าสัตว์เดรัจฉานในสมัยนี้ สัตว์เดรัจฉานบ้าเท่าเดิม พวกมนุษย์บ้ามากขึ้น มากขึ้น มากขึ้น มากขึ้น มากขึ้น หลายร้อย หลายพัน หลายหมื่น หลายแสนเท่า มนุษย์จึงเป็นสิ่งที่มีความทุกข์ เป็นสัตว์ที่มีความทุกข์มากกว่าสัตว์เดรัจฉาน
สัตว์มนุษย์กำลังมีความทุกข์มากกว่าสัตว์เดรัจฉาน เพราะมันบ้ามากขึ้น เพราะมันไปหลงใหลในธรรมชาติปรุงแต่งมากขึ้น ไม่ยินดีในธรรมชาติอันบริสุทธิ์เหมือนสัตว์เดรัจฉานที่ยังอยู่ตามในป่า ตามธรรมชาติเดิมๆของมัน นี่โลกทุกวันนี้กำลังเป็นอย่างนี้ คือเป็นโลกของคนบ้ามากขึ้น มากขึ้น โดยเฉพาะเป็นไปแต่ในหมู่มนุษย์ ส่วนสัตว์เดรัจฉานนั้นเป็นได้น้อย คือเป็นแต่สัตว์เดรัจฉานบางตัวที่อยู่ในกำมือของมนุษย์ สัตว์เดรัจฉานเป็นอันมากยังเป็นอิสระอยู่ในป่า ยังไม่อยู่ในอำนาจของพวกมนุษย์ จึงมีความบ้าน้อยกว่า มีความทุกข์น้อยกว่า พวกนี้อาจจะเป็นครูของมนุษย์ในโอกาสหนึ่งในวันข้างหน้า จะสอนให้รู้ว่าความบ้าชนิดนั้นนำมาซึ่งความทุกข์ เป็นธรรมชาติปรุงแต่งหลอกลวง แล้วสอนให้รักธรรมชาติบริสุทธิ์ดั้งเดิม หันมาหาความสงบได้จากธรรมชาติอันบริสุทธิ์ดั้งเดิมไม่ต้องลงทุนลงแรงมาก เดี๋ยวนี้มนุษย์โง่จนมันคิดว่าถ้าจะให้ดีให้เป็นสุขแล้วต้องมีวัตถุมากต้องใช้เงินมากต้องลงทุนลงแรงมาก นั้นจึงสะสมวัตถุหามาลงแรง หามาให้มีวัตถุเจริญก้าวหน้า แล้วอุบายพลิกแพลงต่างๆที่เขาเรียกว่าความเจริญของเขานั้น มนุษย์จึงได้มีปัญหาเกิดขึ้นใหม่และมีความทุกข์เหลือประมาณ ที่ทำให้สัตว์เดรัจฉานนั่งหัวเราะเยาะอยู่ได้ ว่าสมน้ำหน้าของพวกมนุษย์ที่ไปไกลในความมืดสีขาว ถูกความมืดสีขาวหลอกลวงไปไกลถึงขนาดนี้ สัตว์เดรัจฉานก็หัวเราะเยาะได้ นี่คือเรื่องสำคัญที่สุดที่เข้าใจว่าเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดที่พวกเราในสมัยนี้โดยเฉพาะในวันนี้จะต้องนำมาคิดนึกดูพิจารณาดูว่าโลกนี้กำลังเป็นอย่างไร เรามีปัญหาต่อเนื่องกันอยู่กับเขาด้วย ก็ต้องรู้จักสะสางปัญหานี้ให้หลุดไปอย่าให้มันลากคอเราให้ติดบ่วงติดพวงกันไปกับเขาด้วย จึงจะไม่เสียทีที่ว่าเราเป็นพุทธบริษัท มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง โลกทุกวันนี้มีปัญหาอย่างนี้เรามี พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นเครื่องคุ้มครองก็ต้องทำให้ถูกวิธี ให้เป็นพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์จริง อย่าเป็นพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แต่เพียงเปลือกๆเหมือนของคนสมัยนี้ ซึ่งช่วยอะไรให้ได้ ต้องเป็นพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์จริง คือสติปัญญาที่มองเห็นอย่างนั้นมันเป็นความบ้า ความหลง ความโง่ เป็นกิเลส เป็นความทุกข์ ต้องหยุดจากความเป็นอย่างนั้น เป็นผู้ที่อยู่ในร่องในรอยของพระธรรม หรือธรรมชาติอันบริสุทธิ์ไปตามเดิม
โลกทุกวันนี้สัตว์โลกในสมัยพุทธกาลนั้นต่างกันมาก หรือแม้แต่โลกทุกวันนี้กับโลกเมื่อร้อยปีหรือห้าสิบปีมาแล้วนี้ก็ยังต่างกันมาก ถ้าไม่รู้จักวัดที่ตรงไหนก็วัดเอาตรงที่ว่าคนเป็นบ้ากันมากเป็นโรคเส้นประสาทกันมาก มีการกระทำที่เป็นลามกอนาจารเกลื่อนกลาดไปทั่วทุกถนนหนทางและมากที่สุดก็คือ ในสิ่งโฆษณา เช่น การพิมพ์โฆษณา และวิทยุกระจายเสียง เป็นต้น ซึ่งเต็มไปด้วยสิ่งลามกอนาจารที่ถูกติดฉลากให้ใหม่ว่าไม่ใช่สิ่งลามกอนาจาร ติดฉลากให้ใหม่ว่าเป็นสิ่งที่ไม่เป็นอันตราย แต่เป็นศิลปะเป็นวัฒนธรรมของมนุษย์สมัยนี้ แต่ที่แท้นั้นเป็นความลามกอนาจารที่คนบ้า คนโง่ คนโกหกพกลม เหล่านี้เขาเสกสรรขึ้น เขาปลอมแปลงมันขึ้น เขาปิดฉลากกันเสียเป็นอย่างอื่นให้เด็กๆของเราหลงใหลไป จนเป็นเด็กๆที่สูญเสียจิตใจหรือความเป็นธรรมะไปแล้วตั้งแต่เด็กๆ โตขึ้นก็จะเป็นปัญหาที่จะเพิ่มความยุ่งยากลำบากขึ้นในสังคมนี้ในมนุษย์นี้ยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม ถ้าไม่มีทางที่จะทำอะไรได้ ก็จงปลงสังเวชกันไปก่อน หรือว่าจงช่วยกันพยายามสวดมนต์ภาวนา ว่าให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงเริ่มมีสติปัญญารู้จักผิดชอบชั่วดีเสียแต่โดยเร็วเถิด ที่จะมัวแต่สวดมนต์ภาวนาอธิษฐานจิตว่า สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงมีความสุขรู้จักรักษาตนเถิดนี้ไม่พอเสียแล้ว เพราะว่าสัตว์ทั้งหลายเหล่านี้มันจมอยู่ในความทุกข์ทนทรมาน คือจมอยู่ในนรกถึงขนาดที่เรียกว่า เป็นนรกแห่งความบ้าหลังเสียแล้ว ถ้าเราจะอธิษฐานจิตแผ่เมตตาแก่สัตว์เหล่านี้แล้ว จงช่วยกันแผ่เมตตาว่า ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงเริ่มมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ละความเห็นผิดมาสู่ความเห็นถูกโดยเร็วเถิด มิฉะนั้นโลกนี้คือท่านทั้งหลายนั้นก็จะถึงความวินาศ ไม่มีอะไรเหลืออยู่เป็นที่น่าพออกพอใจเลย ทายก ทายิกา ทั้งหลายช่วยกันสวดมนต์ภาวนาอธิษฐานจิตแผ่เมตตาในลักษณะอย่างนี้ ภิกษุสามเณรที่ฉลาดขึ้นไปอีกหน่อย ก็ช่วยกันสวดมนต์ภาวนาแผ่เมตตาในลักษณะอย่างนี้แต่ให้มันยิ่งๆขึ้นไป เพราะรู้จักคิดรู้จักนึกได้มากกว่า ได้กว้างขวางกว่า ว่าโลกทุกวันนี้ วันที่ ๒๗ พฤษภาคมนี้อยู่ในลักษณะอย่างไร พูดมาให้ฟังเป็นตัวอย่าง ให้สังเกตดูเป็นตัวอย่างก็มากพอแล้ว เหลืออยู่อีกมากมายหลายร้อยหลายพันเท่าที่ไปมองดูเองก็จะเห็น เมื่อเห็นแล้วก็จะได้แน่ใจในการที่จะนึกว่าการช่วยกันแก้ไขสิ่งเหล่านี้เท่านั้น ที่จะเป็นบุญกุศลอันสูงสุด ฉะนั้นเราจะทำอะไรที่นี่หรือที่ไหนก็ไปเป็นเพื่อการแก้ไขทางจิตทางวิญญาณ ให้เป็นโรงพยาบาลทางวิญญาณ ให้เป็นโรงมหรสพทางวิญญาณ หรือเป็นอะไรอะไรที่เป็นในทางวิญญาณ เพื่อแก้ไขความเป็นบ้าในทางวิญญาณ นี้ให้มันค่อยๆส่างซาไปและเหือดหายไปตามเหตุตามปัจจัยที่จะพึงกระทำได้ อย่าไปนอนใจเสียว่าสิ่งทั้งหลายตายตัวแก้ไขไม่ได้ สิ่งทั้งหลายไม่เที่ยง เปลี่ยนแปลงได้ เมื่อมันเปลี่ยนแปลงไปในทางชั่วทางร้ายทางผิดได้ มันก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปในทางดีทางถูกได้เหมือนกัน มันเหลืออยู่แต่เราเองนี้รู้จักความดีความชั่วความผิดความถูกแล้วหรือยัง ถ้าเราไปตกหลุมของความมืดสีขาวเราก็เป็นคนบ้าโดยไม่รู้สึกตัว แล้วจะรักษาคนบ้าด้วยกันอย่างไรได้ เราเป็นคนหลงเองโดยไม่รู้สึกตัว ถ้าจะไปช่วยคนอื่นให้ลืมหูลืมตาอย่างไรได้ นั้นสิ่งสำคัญสิ่งแรกที่สุดอันแรกที่สุดก็คือ เราอย่าได้หลงในความมืดสีขาวอีกต่อไป จงมองให้เห็น จงลืมตาขึ้นให้ดีๆมองให้เห็นว่า ความมืดสีดำยังไม่ร้ายเท่าความมืดสีขาว เราจะต้องทำลายความมืดสีขาว คือความหลงในการศึกษาชนิดที่เป็นบ่าวเป็นทาสของกิเลสตัณหากันนี้เสีย อย่าได้มีความหลงอีกต่อไป อย่าได้มีความหลงในการศึกษาที่โง่เขลา ความเจริญก้าวหน้าในทางการศึกษาที่โง่เขลา ที่เพิ่มความทุกข์ให้แก่มนุษย์มากขึ้นนี้อีกต่อไป ก็จะเป็นการดีที่สุดสำหรับการมีชีวิตอยู่กับเขาในโลกนี้ ในเวลานี้ ในวันหนึ่งนี้ ไม่มีอะไรที่ดีกว่านี้ อื่นๆไม่มีปัญหา อื่นๆไม่เป็นปัญหาที่น่ากลัว ข้าวก็มีกิน ผ้าก็มีนุ่ง เรือนก็มีอยู่ อะไรๆก็มีพอที่จะไม่ต้องตาย แต่แล้วปัญหาที่เป็นปัญหาจริงๆก็คือว่า ความบ้าของคนในโลกกำลังจะครอบงำเราโดยไม่รู้สึกตัว นี้คืออันตรายที่ร้ายกาจที่สุด ที่จำเป็นที่สุด ที่ด่วนที่สุด จึงต้องเอามาพูดเวลานี้ ที่นี่ และพูดกันอย่างยืดยาว อย่างกับเป็นคนบ้าพูดไปอีกคนหนึ่ง แต่ว่าการที่จะบ้าพูดในทำนองที่ตรงกันข้ามอย่างนี้ มันก็คงจะเป็นเครื่องมือสำหรับแก้ไขความบ้าชนิดนู้นได้บ้างเป็นแน่ เพราะว่ามันตรงกันข้ามนั่นเอง งั้นถ้าจะต่างฝ่ายต่างบ้ากันแล้วก็ควรจะบ้าให้มันตรงกันข้ามเข้าไว้ มันจะช่วยกันแก้ไขหรือเกลื่อนให้มันเป็นกลาง ทำโลกนี้ให้มีความสงบได้ นี้เรียกว่า เป็นความรู้สึก เป็นความคิดนึกที่รู้สึกอยู่จริงๆ ในโอกาสที่ชีวิตล่วงมาถึงวันที่ ๒๗พฤษภาคม อีกครั้งหนึ่ง จึงได้นำมาพูดจาให้ฟังตามที่จะพูดไหว พูดทีเดียวหลายชั่วโมง หรือทั้งวันทั้งคืนก็ไม่ไหว จึงขอโอกาสพูดทีละสองสามชั่วโมง พูดเรื่อยๆไปจนกว่าจะไม่มีใครฟัง เพราะเบื่อที่จะฟังเรื่องซ้ำๆซากๆนี้ก็ได้ ตอนนี้ขอยุติไว้แต่เท่านี้ก่อน เรื่องยังไม่จบ ไปนั่งพักผ่อนกันตามสบาย รอเวลาสักหน่อย พอหายเหนื่อยแล้วก็จะพูดอีก บ่ายสองโมงมาฟังอีกก็ได้