แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ขอโอกาส ในการกระทำธรรมะปฏิสันถาร ในวันนี้ ในระหว่างเราทั้งสองฝ่าย เป็นอริยวังสปฏิปทา (นาทีที่3:20) การกระทำสืบๆกันมาของพระอริยเจ้า เพื่อความยั่งยืนมั่นคงแห่งธรรมะ ฟั่นเกลียวธรรมะไปไม่รู้จักคืนคลาย ให้ยืนยง ให้ยืนยงคงกระพันต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด ข้อนี้เป็นความมั่นคงของทุกๆฝ่าย สำหรับกระผมโดยเฉพาะ มีเรื่องที่จะปรารภ ถวายความคิดความเห็นและความรู้ เพื่อความกว้างขวางในการศึกษาธรรมะ คือมันจะมีเรื่องแค่ควรจะให้ทราบไว้ ในการศึกษา สำหรับศึกษาธรรมะ
ในการป่วยคราวนี้เป็นเวลาหลายเดือน มันต้องเรียกว่าให้คุณค่ากว้างขวางในทางการเจ็บป่วยหรือในทางธรรมะนั่นเอง พูดเป็นเรื่องส่วนตัวไปเลยไม่ต้องอ้อมค้อมหรือเกรงอะไร เพื่อความรู้ ในการป่วยอันยืดยาวคราวนี้ ได้รับความรู้ ไม่ใช่จะพูดไปในทางที่จะอวดอะไรไม่ใช่ แต่ว่าเป็นความจริง แค่ควรจะทราบไว้ ว่าชีวิตของคนเรานี่มันง่ายนิดเดียว เหมือนแขวนอยู่บนเส้นด้ายเล็กเล็กเส้นเดียว บางคราวก็มีอาการเหมือนจะขาดสูญไปอย่างนั้น ในบางคราวก็กลับมา จะเล่าโดยเฉพาะใจความที่มีอาการเหมือนจะว่างไปลึกๆ เรียกว่าตายไป หมายความว่าหมดความรู้สึก หมดความรู้สึก นี่ถ้าจะเรียกเป็นภาษาฝรั่ง เป็นวิทยาศาสตร์เป็นอะไรบ้าง มันเรียกว่า มันมีความเฉย ปล่อยวาง ขนาดไม่รู้สึกตัว ไม่รู้สึกตัวแต่ไม่ตายนะ มันไม่รู้สึกตัว ไม่รู้สึกยิ่งกว่าตายนะ แต่มันไม่ตาย มันมีสภาพ เรียกว่า ไร้น้ำหนัก ไม่มีความรู้สึกในน้ำหนัก
แต่ว่าเรายังอยู่ ไม่รู้สึกว่าเรายังอยู่ และก็ไม่รู้สึกในน้ำหนัก แม้แต่น้ำหนักสักนิดนึง เช่นว่าใครอยู่ที่ไหนมันก็มีน้ำหนัก แบบนั้นนะ น้ำหนักมันต้องมีน้ำหนักลงแบบนี้ ลงเรียกว่าเกิดการต่อต้าน ดันทางข้าง ทางซ้าย ทางขวา มันก็มีน้ำหนัก สภาพที่มีน้ำหนักนั่นหายหมดสูญหมด สูญหมด แม้แต่ว่าน้ำหนักของตัวเอง ว่ากด ตั้งอยู่บนอะไรก็ไม่รู้สึก นี่ประหลาดหล่ะ ถ้าไม่เคยพบเห็นมาด้วยตนเอง มันประหลาด ไม่มีน้ำหนัก มันเบายิ่งกว่าสำลี เบายิ่งกว่าสำลี แล้วก็คล้ายๆกับใยสำลีอะไรหน่อยหนึ่ง มันไม่มีน้ำหนัก กดลงก็ไม่มี ทางซ้ายก็ไม่มี ทางขวาก็ไม่มี ตรงไหนก็ไม่มี สภาพไร้น้ำหนักนี่หล่ะปรากฏ บอกไม่ถูก มันยิ่งกว่าตาย มันยิ่งกว่าตาย มันไม่มีความรู้สึก รู้สึกที่ว่าหนัก ลองคิด ลองทำความเข้าใจเอาเองว่ามันไม่มีน้ำหนัก เป็นสิ่งที่ไม่มีน้ำหนัก เบาเกินเบา ไม่มีน้ำหนัก และมันก็เลยไม่ต้องรู้สึกอะไรหมด ใน 2 ชั่วโมงนั้น ไม่รู้ว่าเป็นอะไร ไม่รู้ว่าเป็นอะไร เป็นสภาพไร้น้ำหนัก ถ้าพูดก็เท่ากับว่าไร้ชีวิต ไร้ชีวิต มันไม่มีความสำคัญสำนึกว่า ว่าชีวิตมีอยู่ มันเหมือนกับของที่ไม่มีชีวิต เบายิ่งกว่าเบา แล้วจึงค่อยๆ รู้สึกว่ามีน้ำหนัก สภาพไร้น้ำหนักคืนมากลับมามีน้ำหนัก จนเกิดความรู้สึก โอ้..อยู่กันดี ยังอยู่ ยังมีชีวิต ก็เลยรู้สึกตัวขึ้นมา
รู้สึกตัวขึ้นมาจนกระทั่งรู้สึกว่า อยู่ภายใน (นาทีที่ 9:58) ค่อยรู้สึกขึ้นมา รู้สึกขึ้นมา จนรู้สึก จากปัสสาวะนี้จะมาก่อน ความรู้สึกจากปัสสาวะมาก่อน ในระยะเจ็บป่วยนี่ก็รู้สึก อุจจาระห่างไปเล็กน้อย มา มา มา แต่ว่าไอ้ความรู้สึก ระบบประสาท ไม่รู้ว่าใคร ไม่รู้ว่าใคร ไม่รู้ว่าพระองค์ไหน ไม่มีหวัง คือนึกไม่ออกว่าชื่ออะไร เรียกชื่อก็ไม่ถูก เรียกชื่อก็ไม่ออก นึกก็ไม่ออก จนว่าค่อยๆรู้ว่า องค์นี้ หลายชั่วโมงมาแล้ว เป็นชั่วโมงมาแล้วนี่จึงรู้สึกว่า โอ้.. องค์นี้ องค์นี้ ไม่รู้ว่าองค์ไหน ชื่ออะไรก็ไม่รู้ ก็อยู่ด้วย 2-3 องค์ด้วยกันแต่ไม่รู้ จึงค่อยๆรู้ จึงค่อยๆรู้ 2 คืน 3 คืน จึงค่อยฟื้น รู้ว่าองค์นี้ชื่ออะไร นี้ชื่อไร แต่ก็ยังเรียกชื่อไม่ถูก ยังอัดอั้นตันใจ มันชื่ออะไร มันชื่ออะไร จนว่ารู้สึกว่าพระองค์นั้น องค์นี้ ก็ต้อง 2 คืนล่วงแล้ว 3 คืนล่วงแล้ว จึงจะนึกขึ้นมาได้ว่า มีพระชื่อนั้น ชื่อนี้ นี่มันสูญเสียน้ำหนัก ก็คือสูญเสียความรู้สึก และเรียกชื่อไม่ถูก เรียกชื่อไม่ออก เรียกชื่อไม่ถูก
จนค่อยๆ เรียกชื่อถูก เมื่อเรียกชื่อถูกนี่มันฟื้นกลับมามากแล้ว เรียกชื่อถูกออกมาเอง เรียกชื่อออกมาเองโดยบังเอิญ จึงค่อยๆ อ่อ..องค์นี้ องค์นี้ชื่อนี้ องค์นี้ชื่อนี้ 2-3 องค์ จำได้ก่อน นี้แสดงว่ามันมาครบแล้วหล่ะชีวิต ความรู้สึกของประสาท กลับมาพร้อมกับสภาพที่มีน้ำหนัก มีน้ำหนัก ในเวลาที่ไร้น้ำหนัก นี่มันไม่รู้ว่าตรงไหน มันไม่มีเสียทีเดียว มันไม่มีความรู้สึก เช่นว่า คือตรงนี้น่ะมันไม่รู้สึกได้ว่าอยู่บนอะไร ตั้งอยู่บนอะไรนี่ไม่มี คล้ายๆกับชีวิตมันลอยอยู่บนปุยขาวๆ ไร้น้ำหนัก ไร้สีสัน ไร้ความรู้สึกโดยประการทั้งปวง นี่หล่ะสภาพไร้น้ำหนัก เหมือนกับไม่มีชีวิต โดยธรรมชาติ ชีวิตที่เป็นทาสโดยธรรมชาติน่ะมันสูญสิ้น จนกว่าจะกลับแล้วค่อยๆกลับมา นี่เป็นสิ่งที่มีได้นะ ผมจึงสรุปความว่าสภาพไร้ชีวิตที่ไม่ตายนะ คือหมดความรู้สึกโดยประการทั้งปวง เรียกว่าสภาพไร้น้ำหนักโดยประการทั้งปวง เหมือนกับว่าออกไปนอกอวกาศและก็ไม่มีบน ไม่มีล่าง ไม่มีกลาง ไม่มีเหนือ ไม่มีใต้ มันมี มันก็มี แต่ว่ามันมีนิดเดียว มีนิดเดียว และคำนวณ(นาทีที่ 14:11) นะโหถ้าตายเวลานี้นะ สบาย สบายจนบอกไม่ถูก สบายอย่างยิ่ง จนบอกไม่ถูกว่าสบายอย่างไร ถ้ามันตายไป ถ้ามันดับเลยไปเสียคราวนั้นมันสบายอย่างบอกไม่ถูก สภาพที่ไร้ความรู้สึก แต่มันก็ไม่ตาย
นี่มันก็กลับมาในเวลา ชั่วโมง 2 ชั่วโมง 3 ชั่วโมง 2 วัน 3 วัน ค่อยๆกลับมา มันก็ลืม ลืม ลืม แต่มันแปลกว่าไอ้อุจจาระปัสสาวะนี่ไม่ลืม ไม่ลืม แต่สิ่งต่างๆที่ว่าเป็นความสัมผัสเป็นสิ่งความรู้สึกนี่มันลืม อะไรคืออะไร อะไรที่เรียกว่าอะไร ของสิ่งนี้เรียกว่าอะไร ไม่ ไม่ต้อง แม้สุดท้ายก็ยังลืมนาฬิกา ทุ่มยาม ชั่วโมงนี่ไม่รู้ ไม่รู้ คิดเท่าไหร่ก็ไม่ออก กี่ทุ่มแล้วก็คิดไม่ออก นาฬิกาก็วางอยู่ตรงหน้านี่แหล่ะนึกไม่ออก กี่โมงแล้ว ด้วยเหตุที่ว่ามันเกิดสภาพไร้น้ำหนัก เบา จนไม่รู้จะเบาอะไร ไม่มีสี ไม่มีแสง ไม่มีอะไร นี่นะมันเป็นได้ มันเป็นได้ แต่มันไม่ตายเลย มันมีสภาพไร้น้ำหนักอยู่ชั่วคราวชั่วขณะ ปรากฏว่าคนที่อยู่ด้วยเวลานั้น เค้ายืนยันว่ายังได้ยินเสียง อือ อา อือ อา ในบางคราวเมื่อล่วงมาแล้วพอสมควรยังมีเสียง อือ อา อือ อา นิดหน่อย จนกระทั่งค่อยรู้สึกตัว ชีวิตที่ยังไม่สิ้นสูญเหลือแต่สภาพไร้น้ำหนัก
อย่าไปคิดว่าเรียกว่าอะไร หรือเป็นคุณวิเศษอะไร ไม่มีเลย ไม่เกี่ยวกับคุณวิเศษไม่เกี่ยวกับสิ่งอะไร มันเกี่ยวกับเป็นโรค ซึ่งหมอเรียกว่าเส้นโลหิตอุดตัน แห้งกรัง โลหิตแห้งกรัง และเส้นโลหิตอุดตัน สูญเสียความรู้สึกไปหมด เป็นกันมากนะบางคน ไม่ค่อยมีใครตาย ไม่ได้ตาย แต่กลับฟื้นขึ้นมาได้ บางคนลืมอยู่เดือนสองเดือน บางคนลืมอยู่ตั้งสี่ห้าเดือน แกก็พูดให้ฟังว่า บางคน คนไข้บางคนเป็นฝรั่ง ห้าหกเดือน ก็ยังไม่รู้สึกตัว นี่มันแรงมาก หมอประเวศ บอกว่า นายกรุณา กุศลาสัย ที่เค้าเรียก บางคนก็รู้จัก เป็นเหมือนกับผม เป็นเอามากมากเหมือนกัน แต่ก็ฟื้นขึ้นมาได้ ก็เป็นกันมากแต่ก็ไม่มีใครตาย ไม่ได้ตายเลย เป็นสภาพไร้น้ำหนัก ไร้ความรู้สึก ไร้. เค้าเรียกว่าไร้อะไร ไร้ระบบประสาทน่ะ ระบบประสาทไม่รู้สึก เป็นเรื่องอัศจรรย์ใจ ถ้ามันตายไปเลย จะสบาย สบาย หมดปัญหา หมดปัญหาอย่างยิ่ง แต่นี้มันไม่ตาย ยังไม่ตาย มันกลับมาอีก ถ้าตายหล่ะ ต้องใช้คำว่าวิเศษที่สุด มันไม่รู้สึกว่าเจ็บปวดอะไร ว่างไปหมด ว่างไปหมด
ในคำว่าว่างอย่างนี้ไม่ใช่ว่างทางธรรมะ ไม่ใช่ว่างทางบังคับกิเลส ไม่ใช่ มันว่างด้วยร่างกายมันเสื่อมสภาพ แล้วอายุมันมาก ทำให้นึกคิดไปในทางพระพุทธเจ้า ท่านชิงไปเสียตั้งแต่อายุ 80 ปี 80 ปี ไปแล้ว ไอ้เราเกิน 80 ปีแล้ว ทรมาน มันทรมาน เผชิญโรคสภาพไร้น้ำหนัก สภาพว่างอย่างไร้น้ำหนัก ซึ่งไม่ใช่ความตายโดยตรง ทำให้อยากมีอายุไม่เกิน 80 แต่นี่มันก็เลยมาเสียแล้ว ก็เป็นมาเสียแล้ว ก็ต้องสู้กันไปตามเรื่อง แค่ขอบอกให้ทราบว่ามันมีได้ มันมีได้ ศึกษาไว้แล้วว่ามีได้ มีได้ มันก็อัศจรรย์แบบว่าน่าอัศจรรย์ ผมก็ไม่รู้ว่าจะเรียกชื่ออะไรถูก ไอ้เรื่องโรค เรื่องไรนี่ก็ไม่เข้าใจ ประมาณเอาตามแบบความรู้สึกที่คำนวณได้ ก็เรียกว่าสภาพไร้น้ำหนัก ไม่มีน้ำหนักโดยประการทั้งปวง มันเบายิ่งกว่าสำลี เบายิ่งกว่าสำลีรู้ว่าขาวอยู่เฉยๆ(นาทีที่ 19:55)
ขอถวายเป็นความรู้ เป็นความรู้ อายุยังไม่ถึง 80 ปี นี่หล่ะยังไม่ค่อยมีโอกาส แต่ก็เป็นความรู้ไว้ว่ามัน ว่ามัน มันมีได้ ก็อย่าประหลาดใจ อายุ 70.. 70เศษมันนี่ก็น่าจะมีได้เหมือนกัน มีได้เหมือนกัน เพราะว่าคนก็เส้นโลหิตอุดตันตั้งแต่อายุ 60-70 มันมีบ้าง มีได้เล็กน้อยกระทั่งมีได้มาก กระทั่งไม่รู้สึกตัวเป็นเดือนๆ นี่แหล่ะรู้สึกว่าไม่ประมาท ไม่ประมาทกับโรคภัยอันนี้ ประมาณกันว่าเป็นกัน 100 คน 1000 คน เหมือนกัน แต่ว่าไม่ตาย น้อยคนที่จะตาย หายากหล่ะที่ตายไปเลย แต่สภาพไร้น้ำหนักเหมือนกับไม่มีอะไรอยู่ในชีวิต ชีวิตไร้น้ำหนัก ชีวิตไร้ความรู้สึกโดยประการทั้งปวง ขอถวายเป็นความรู้ เครื่องสังเกต อย่าประหลาดใจ อย่าตกใจ อย่าประหลาดใจ อย่าอะไร มันเป็นแบบนี้เอง เป็นแบบนี้เอง ขอให้ได้ความรู้ไว้สักอย่างน่ะ ไอ้โรคชนิดนี้มันมาแล้วหล่ะประหลาดที่สุด ประหลาดที่สุด สภาพไร้น้ำหนัก สภาพไร้น้ำหนัก ไร้ความรู้สึก ก็เรียกว่าความรู้สึก ประสาทประเสริท ไม่มีโดยประการทั้งปวง ประสาทไม่มี มันเบายิ่งกว่าเบา เบาจนว่าไม่มีสีมีสัน นี่แหล่ะโรค มันเป็นได้ถึงขนาดนี้ โรคมันมีได้ถึงขนาดนี้ ทุกคนหล่ะอย่าประมาท อย่าประมาท
ผมไม่ได้ไปไหนตั้งเดือนๆ เพราะมันเกิดโรคสภาพนี้ สภาพไร้น้ำหนัก และก็มาเป็นคราวๆ นี่มันก็เกิดความรู้สึก จนพอเดินได้ เดินได้ รู้สึกว่าเดินย่างแล้วดับไปที ก็เดินตามนี้ไม่กี่ก้าว มันยังมีความรู้สึกว่า เดินที เดินย่างก็ดับไปทีนึง แต่ว่าไม่เบา หรือว่าไม่ไร้น้ำหนัก เหมือนกับเมื่อกำลังป่วย แต่พอจะสังเกตเห็นได้ว่า เดินย่าง ย่างอย่างนี้ มีดับทีนึง ดับทีนึง มันคือระบบประสาทนั้นหล่ะมันยังมีอะไรเหลืออยู่บ้าง เดินย่างก็ดับไปทีนึง แล้วบางทีเอาศรีษะมากด กดกับฝา กดกับผนังกับฝานี่มันยังรู้สึกว่า วู๊บไปที วู๊บไปที วู๊บไปที เป็นของเช่นเดียวกัน (นาทีที่ 22:38) แต่ว่าก้าวย่างไปได้ ดับไปที ก้าวย่างดับไปที จนกว่าจะไม่ค่อยจะดับนั้นหล่ะ ชัดเจนขึ้นมา ไม่ค่อยจะดับ ไม่ติดต่อกัน ดับไม่ติดต่อกัน
นี่ขอถวายไว้เป็นความรู้ เป็นความรู้เรื่องพยาธิ โรคาพยาธิ ชาติชรามรณะ เมื่อเรายังไม่ตาย มันยังมีอาการชนิดนี้ ให้รู้ ให้รู้ ให้ศึกษา แต่ถ้าพูดถึงความน่ากลัว ก็น่ากลัวเหมือนกัน น่ากลัวเหมือนกัน สภาพไร้น้ำหนัก ที่ว่าน่ากลัวเหมือนกันนี่เราจะได้ทำใจเสียตั้งแต่เนิ่นๆ มันก็พลอยผสมโรงกัน (นาทีที่ 24:44) มันก็ไม่กลัวเอง มันไม่รู้สึกกลัว ไม่รู้จักกลัว ไม่มีความกลัว ไม่รู้สึกกลัวขึ้นมาเอง มันจะเฉย ไม่รู้อะไรแหละ ก้อนหินก็ไม่ใช่ รู้สึกว่าเป็นฝุ่นขาวๆ อยู่หน่อยนึง หน่อยนึง ไม่มีน้ำหนัก นี่ก็กี่เดือนแล้ว สี่เดือน ห้าเดือน สภาพไม่รู้สึกตัว ไม่รู้สึกตัว ไม่รู้สึกตัว แรง แรงขึ้น มันแรงสูงสุด แรงสูงสุดมันเป็นสภาพไร้น้ำหนัก ถวายไว้เป็นความรู้
ถ้ามันบังเอิญหรือว่ามันโชคดีมันกลับมาได้ รับรู้ระบบประสาท ใช้ได้เหมือนเดิมก็ดี ก็ดี จะได้ทำการทำงาน ได้สืบอายุพระศาสนาต่อไป แต่ว่ามันคงฉลาดขึ้นเยอะที่เดียว ถ้าได้ผ่านสภาพไร้น้ำหนักมาสักคราวมันจะฉลาดขึ้นเยอะ เรียกว่าเตรียมตัวสำหรับไม่กลัว สำหรับไม่กลัว สำหรับไม่หวั่นไหว แต่มันก็ไม่ได้โอกาสถึงขนาดนั้น ก็มันบังคับไม่ได้นิ มันบังคับให้รู้สึกก็ไม่ได้ มันไม่รู้สึกเอง ไม่รู้สึกเอง เรียกว่ามันไม่รู้สึกชนิด ไม่รู้สึกกันเสียจริงๆ นี่ขอถวายเป็นความรู้พิเศษไว้
ไอ้มนุษย์ ไอ้คน ไอ้ชีวิตนี้ไม่ มันไม่มั่นคงเลย มันยิ่งกว่าฝุ่นลมปลิวพัด นี่ถ้าว่ามันเกิดสภาพแบบนี้ขึ้นมา อย่าตกใจ อย่าตกใจ พยายามทำสมาธิ ผสมโรงผสมร้อยให้มันนิ่ง มันนิ่ง แล้วมันก็จะมีคุณ จะมีคุณ ถ้าว่าตายก็ตายดี ดับดี จะเป็นชั้นไหนก็ไม่รู้ แต่ว่าเป็นชั้นที่แบบว่าไม่ได้ให้โทษ ไม่ให้โทษ ไม่เกิดโทษ มันเงียบหายไป นี่หล่ะแค่นี้หล่ะ มีแค่นี้หล่ะ ถวายให้เป็นความรู้พิเศษสำหรับ ชีวิต สำหรับชีวิต ก็ผ่านกันมาจนถึงว่า ต้องเรียกว่าไร้น้ำหนัก ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดี ไร้ความรู้สึก ไร้ความรู้สึก เช่นว่าอยู่แค่นี้ (นาทีที่ 27:51) มันไม่มีบน มันไม่มีความรู้สึกว่าอยู่บนอะไร มันจะกด อะไรจะกดอยู่ก็ไม่มี อะไรจะชูไว้ก็ไม่มี อะไรจะซ้ายก็ไม่มี อะไรจะขวาก็ไม่มี แปลก แปลกที่สุด สภาพไร้น้ำหนักของโรคเส้นโลหิตอุดตัน สอบถามแล้วว่ามันปรากฏกันทุกทุกคนผู้ที่เป็นเส้นโลหิตอุดตัน ไม่มากก็น้อย แต่สำหรับผมอาจจะอวดได้สักนิด เป็นได้มาก เป็นได้แรง เป็นได้สูงสุด สภาพไร้น้ำหนัก ไร้น้ำหนัก ช่วยกันเก็บไว้เป็นความรู้ เป็นความรู้ สำหรับจะไม่ต้องตกใจ ไม่ประหลาดใจ ไม่ดีใจ ไม่เสียใจ ถ้าเกิดสภาพนี้ขึ้นมา ก็ต้องพูดว่า โอ้..ถ้าดับไปในเวลานั้นดีที่สุด สบายที่สุด ประเสริฐที่สุด ถ้าดับไปเสียในเวลานั้น แต่มันบังคับไม่ได้ บังคับไม่ได้จะให้มันดับ มันไม่อยู่ในวิสัยการบังคับ มันดับไม่ได้ มันก็แล้วแต่มัน มันก็มีสภาพไร้น้ำหนักเรื่อยมา เรื่อยมา จนกลับเป็นสภาพมีน้ำหนัก รู้สึกน้ำหนักตา (นาทีที่ 29:14)
ช่วยจำไว้เป็นวิชาความรู้ว่ามนุษย์นี้มันไม่..ไม่มั่นคง ไม่มีแก่นสาร สาระมั่นคง (นาทีที่ 29:25) มีได้แม้กระทั่งสภาพไร้น้ำหนักก็จะดับเมื่อไหร่ก็ได้ ขอให้ช่วยกำหนดจดจำเรื่องว่าไอ้ชีวิตนี่มันเป็นถึงขนาดนี้ ไม่มีหลักประกัน โรคที่ว่านี้ เส้นโลหิตอุดตันนี่ พอเอ็กซเรย์ดูเลือด เลือดก็มาปรากฏในจอ ดวงแดงๆ เหมือนกับดอกกุหลาบแดง เป็นดวง เป็นดวง เป็นดวง จนกว่าจะเลือนหายกันไป หมอก็มาฉายเอ็กซเรย์ดูตั้ง 2-3 หน จนกระทั่งค่อยๆ ปกติขึ้นมา รู้สึกว่าเริ่มปกตินี่ หมอว่าผมจะอยู่ในสภาพจำอะไรไม่ได้ จำอะไรไม่ได้ สูญความจำระบบประสาทนี่ไม่น้อยกว่า 9 เดือน ไม่น้อยกว่า 9 เดือน คิดดู 9 เดือน ต้องสู้กับสภาพแบบนี้ 9 เดือน แต่ว่ายาแกก็ให้กินทุกวัน ทุกวัน ช่วยให้กลับคืนมานิด คืนกลับคืนมานิด กลับคืนมานิด วัดด้วยความดัน หรือวัดด้วย.. มันดีขึ้น นิด นิด นิด แต่นี่เรียกว่าค่อนข้างปกติแล้ว ความดัน ไม่เกิน 90 ไอ้ร้อยกว่านั่นมีแต่ข้างบน ไม่เคยตกลดมา 90 ก็อยู่มาได้ ก็อยู่มาได้ แต่ต้องลำบากกับความลืม ความลืมต่อไปอีก ต่อไปข้างหน้าอีก ตอนนี้ไอ้นาฬิกากี่โมงก็ไม่รู้หมดจำได้หมด วันที่ ขึ้นแรม นี่มันลืม ลืม ลืม หมอมาทุกทีก็เช็คทุกที ตรวจสอบเช็คทุกที ให้นับวันถอยหลัง อาทิตย์ จันทร์ อังคาร ว่านับถอยหลังได้หรือไม่ได้ นับเดือน มกรา กุมภา มีนา นับถอยหลังได้หรือไม่ได้ แต่มันก็ไม่ได้ ให้จำของ 3 อย่าง จำของสัก 3 อย่าง ต้นไม้ รถยนต์ ไก่ ก็ยังจำไม่ได้ ยังจำไม่ได้ คือมันเสื่อม มันเสื่อม เสื่อม ผิดๆถูกๆ แต่ว่าค่อยดีขึ้น ค่อยดีขึ้น ค่อยๆจำได้ขึ้น ถ้าจำได้ขึ้นก็หมายความว่ามันจะหายไปคราวหนึ่ง น่ะขอถวายเป็นความรู้ไว้ว่าชีวิตนี่ไม่มั่นคง ไม่อะไร เรียกว่าโรคภัยไข้เจ็บบางชนิดนี่ไม่มีความมั่นคงเลย
ขอถวายปฏิสันถารข้อสุดท้ายไว้ ทุกๆองค์ ทุกๆองค์ เพื่อนสหธรรมิกทุกองค์ อย่าประมาท อย่าประมาท อย่าประมาท เรื่องโรคภัยไข้เจ็บ พยายามรักษากายให้ดีๆ รักษาจิตให้ดีๆ เข้าไว้ มันก็จะไม่ค่อยผิดปกติ ทำอะไรได้ดีตลอดไป ผมพูดได้ไม่เก่งแล้ว เหลือแต่ว่าความถูกต้อง ความถูกต้อง จงรักษาความถูกต้อง ความถูกต้อง เป็นภาษาบาลีว่า เป็นคำสำคัญที่สุดว่า สัมมา น่ะ สัมมาหรือสัมมัตตา สัมมัตตะตา สัมมะ สัมมา สัมมา สัมมา แปลว่าถูกต้อง สัมมาต้องแปลว่าถูกต้อง สัมมาโดยชอบ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปโป สัมมาวาจา สัมมากัมมันโต สัมมา 8 สัมมา ฝ่ายเหตุ และ 2 สัมมา ฝ่ายผล คือ สัมมาญานะ สัมมาวิมุตติ รวมกันเป็น 10 สัมมา เอาเถอะ ถือเป็นสรณะให้มี สัมมา สัมมา สัมมา มันจะวิปริตหรือวิปลาสคลาดเคลื่อน นี่ก็ขอให้คง สัมมา สัมมา สัมมานี่ไว้ให้ได้ มันจะไม่เสียที (นาทีที่ 34:55)
พูดกับประชาชนว่าต่อไปนี้ มีแต่พูดแต่เรื่องสัมมา สัมมา ความถูกต้อง ความถูกต้องทางกาย ถูกต้องในเรื่องของกาย ความถูกต้องทางจิต ถูกต้องในเรื่องของจิต สัมมา สัมมาในเรื่องตัวตน ตัวตน อัตตาตัวตน เป็นอหังการ มมังการ ให้ถูกต้อง ถูกต้อง ถูกต้อง ถูกต้องทางจิตไป อันสุดท้ายก็สัมมาสุญญตา ว่าง ว่าง ว่างอย่างถูกต้อง ว่างอย่างถูกต้อง ถูกต้องทางกาย ถูกต้องทางจิต ถูกต้องทางตัวตน ถูกต้องทางความว่าง สุญญตา แล้วสู้ได้ทุกแห่ง เป็นหลักธรรมะหล่ะสู้ได้ด้วยประการทั้งปวง ทุกหนทุกแห่ง ทุกแห่ง
ถ้าสังเกต สังเกตหล่ะว่าช่วยได้อย่างไร ช่วยได้เท่าไร ถ้ามันถือหลักสัมมา สัมมาแล้วมันผิดไม่ได้ มันผิดไม่ได้ มันเป็นบทรวมความของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ สัมมา สัมมาถูกต้อง ของพระพุทธ ของพระธรรม ของพระสงฆ์ และของทุกๆศาสนา มันเกี่ยวเนื่องไปถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แล้วมันจะเป็นของที่ว่าเอามาใส่กันได้ เอามาเจือกันได้ ให้มันมีแต่สัมมา สัมมา สัมมามากขึ้น ทีนี่ศาสนาคริสต์ไม่ถูกต้อง ศาสนาอิสลามไม่ถูกต้อง ศาสนายิวไม่ถูกต้อง เพราะมันขาดแค่นี้ มันขาดแค่นี้ ถ้าเอาความถูกต้องเข้ามาใส่ได้ก็ถูกต้องหมดก็ไม่มีปัญหา เราจะมีศาสนาเดียวกันหมดถ้ามีความถูกต้อง ความถูกต้อง เราจะไม่มีปัญหาทางการเมือง ทางเศรษฐกิจ ทางสังคม ทางอะไรไม่มี เพราะถ้ามีมันก็คือความไม่ถูกต้อง ยึดหลักความถูกต้องไว้แค่อย่างเดียว อย่างเดียว ก็แปลว่าผิดไม่ได้ แต่ปรับปรุงให้มันถูกต้องได้ เมื่อมีสัมมาทิฏฐิแล้วมันถูกต้องหมด ในที่สุดแม้ว่าเรื่องไสยศาสตร์ ความรู้ทางไสยศาสตร์ ก็เลวร้ายเหลวไหลที่สุด ก็มันทำให้ถูกต้องได้ ทำให้ถูกต้องได้ กลายเป็นไม่ใช่ไสยศาสตร์ นี่ทุกๆศาสนามันจะกลับฟื้นไปหาความถูกต้องได้ สมบูรณ์ สมบูรณ์อย่างยิ่งก็คือของพระพุทธเจ้า ถูกต้องอย่างของพระพุทธเจ้า โดยคำว่า สัมมา สัมมา คำเดียว นี่เป็นสัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปโป สัมมาวาจา สัมมากัมมันโต สัมมาอาชีโว สัมมาวายาโม สัมมาสติ สัมมาสมาธิ นี่แปดอย่าง สัมมาญานะ สัมมาวิมุตติ นี่สอง ก็รวมกันแล้วเป็น 10 สัมมามี 10 ไปดูตามบาลีอีก (นาทีที่ 38:16) เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด สัมมัตตะ 10 เป็นตัวพรหมจรรย์ เป็นตัวพรหมจรรย์โดยสมบูรณ์
นี่ขอถวายเป็นปฏิสันถาร ขอบพระคุณอย่างยิ่ง มาเยี่ยม มาเยี่ยม มาเยี่ยมคนเจ็บ มาเยี่ยมคนป่วย ขอบพระคุณอย่างยิ่ง ขอทำปฏิสันถารกลับไป ด้วยการที่ให้ความรู้ เรื่องที่มีประโยชน์ สำหรับเป็นความรู้เรื่องโรคภัยไข้เจ็บ สภาพไร้น้ำหนัก และให้ได้ความรู้ทางธรรมะโดยตรง คือ สัมมา สัมมา สัมมา สัมมา ถูกต้องทางกาย ถูกต้องทางจิต ถูกต้องทางตัวตน ถูกต้องทางว่าง สุญญตา ว่าง ไม่มีอะไรดีกว่านี้ ไม่มีอะไรหนักแน่นเข้มข้นเท่ากับเรื่อง ถูกต้อง ถูกต้อง ถูกต้อง ถูกต้อง ถ้ามีความถูกต้องแล้วไม่มีปัญหา ไม่มีปัญหาใดๆ มีแต่สันติภาพ มีแต่สันติสุข ไม่ว่าชาติไหนภาษาไหน ชนชาติไหนภาษาไหน จะเป็นชาติเลวทรามแบบไหนก็แล้วแต่ ถ้ามันมีความถูกต้องแล้วใช้ได้หมด ขอให้มุ่งมั่นในความถูกต้อง ความถูกต้อง ทางการเมืองเลวร้ายที่สุด มันไม่ถูกต้อง ทางเศรษฐกิจนี่ไม่ถูกต้อง มีแต่มุ่งหมายเบียดเบียน ทางสังคมมันก็มีแต่เห็นแก่ตัว เห็นแก่ตัว ไม่ถูกต้อง ช่วยกันทุกองค์ ทุกคน ทุกผู้ทุกนาม ให้มันเกิดความถูกต้อง ถูกต้อง
ถูกต้องทางกาย ข้อแรก กายนี่ก็เรียกว่า กายลมกับกายเนื้อ ลมเรียกว่าลมทั้งหมด(นาทีที่ 40:17) เรียกว่าเนื้อหนังร่างกายกระดูกนี่หล่ะกาย กายถูกต้อง แล้วจิตก็ถูกต้อง ไม่รัก ไม่โกรธ ไม่เกลียด ไม่กลัว ไม่ตื่นเต้น ไม่อาลัยอาวรณ์ ไม่วิตกกังวล นี่เป็นจิตถูกต้อง และตัวตนถูกต้อง ไม่มีอหังการ ไม่มีมมังการ ไม่มีมานะนุสัย ถูกต้องอย่างยิ่ง ถูกต้องทางตัวตน และถูกต้องที่สุด สุดท้ายคือว่าง ถูกต้องคือว่าง ขอให้สนใจในเรื่องนี้ เท่ากับได้สังเกตเรื่องถูกต้อง ดีที่สุด คำว่าถูกต้องนี่ดีที่สุด จะเป็นคำรวมของศาสนาทุกศาสนา ถ้ามันเกิดถูกต้อง มันจะถูกต้องกันหมดทุกๆศาสนา ถ้าเกิดความถูกต้องได้เท่าไหร่ ก็จะได้เกิดเป็นศาสนาที่ถูกต้องขึ้นมาเท่านั้น
ขอให้ศาสนาพุทธของเราถูกต้องนำหน้าศาสนาใดๆ ศาสนายิว ศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลาม ศาสนาพราหมณ์ ศาสนาซิกซ์ มันถูกต้องตามหลัง ตามหลัง ตามหลังมาเป็นลำดับ จนว่าไสยศาสตร์ก็ไม่มีเหลือ มันกลายเป็นสิ่งถูกต้องไปเสียหมด แม้แต่ไสยศาสตร์ก็กลับสภาพเป็นความถูกต้องให้หมด พูดให้ชาวบ้านฟังว่าถูกต้อง ถูกต้อง เช่นมันถูกต้องทางลมในร่างกาย มันถูกต้องแบบนี้ อุจจาระก็ไม่เหม็น ตดก็ไม่เหม็น มันตดมันก็ไม่เหม็น เพราะมันมีความถูกต้องในทางกาย ถูกต้องในทางจิต ไม่เกิดกิเลส ถูกต้องในทางตัวตน ก็ไม่เกิดตัวกูไม่เกิดของกู ถูกต้องในทางสุญญตา ก็ว่างไปหมด นี่สี่หัวข้อ สี่หัวข้อนี่เข้มแข็งมั่นคง เข้มแข็งที่สุด เหมือนกับเหล็กเพชร เหมือนกับเพชร ภูเขาก็เป็นเพชร แข็งโป๊ก (นาทีที่ 42:18)
ขอบพระคุณ ขอบพระคุณอย่างยิ่ง ที่มาเยี่ยม ที่มาเยี่ยมผมป่วย นี่แหล่ะป่วยจนไม่ได้ไปเยี่ยมผู้อื่น เยี่ยมผู้อื่น อาจารย์พลป่วยก็ไม่ได้ไปเยี่ยม มันป่วยเสียเอง อาจารย์พลกับผมนี่เพื่อนรัก เพื่อนรักอย่างตายแทนกันได้ แต่เสร็จแล้วมันก็ตายแทนกันจริงๆ ตายแทนกันจนไม่ได้ไปเยี่ยมกัน ไม่ได้ไปเยี่ยม ตายแทนกันจนไม่ได้ไปเยี่ยม ขอฝากไว้ในความจำด้วย เรื่องพยายามต่อสู้ ต่อสู้ไปเรื่อยๆ ให้มันได้ฟื้นตัว ให้มันได้ทำประโยชน์ ทำหน้าที่ต่อไป ขอบพระคุณ ขอบพระคุณ ขอบพระคุณที่มาเยี่ยม ขอบพระคุณที่มาเยี่ยม มาเยี่ยม มีแค่นี้เรื่องที่จะแสดงเปิดเผยความในใจให้ได้รู้ไว้มีเท่านี้ ซึ่งเป็นหัวข้อสำคัญ
หลักธรรมะ ขอให้สนใจเรื่อง ปฏิจจสมุปบาท กับอานาปานสติ 2 เรื่องพอ 2 เรื่องสมบูรณ์แล้ว สมบูรณ์แล้ว มีความถูกต้องเหลือประมาณ ถูกต้องเหลือประมาณ ถูกต้องทุกความหมาย ถูกต้องด้วยปฏิจจสมุปปาบาท ด้วยอานาปานสติ ถูกต้องเหลือประมาณ สุดสิ้นความหมายที่ฟังได้ (นาทีที่ 43:55) ขอให้ช่วยฟัง ช่วยพิจารณา ช่วยใคร่ครวญเรื่องสิ่งสำคัญสิ่งสูงสุดของพระพุทธศาสนา สรุปความในคำคำพูดเพียงคำเดียว จะพูดได้กี่ร้อย กี่หมื่น กี่แสน กี่ล้านคำ สรุปความได้เพียงคำเดียว ถูกต้อง ถูกต้อง ถูกต้อง ถูกต้อง ถูกต้องนี่คือพระรัตนตรัย ด้วยประการทั้งปวง
ขอขอบพระคุณอีกครั้งนึงที่มาเยี่ยม มาเยี่ยม ขอขอบพระคุณ ขอให้ทุกอย่างเป็นไปเพื่อความถูกต้อง ทุกอย่าง ทุกอย่าง ทุกอย่าง ทำไปอย่างไหนให้เป็นไปเพื่อความถูกต้อง ถูกต้อง ถูกต้อง ถูกต้อง สูงสุดแห่งความถูกต้องก็หมดปัญหา โลกนี้มีสันติภาพ มนุษย์ไม่มีสันติภาพเพราะมันไม่มีความถูกต้องทางการเมือง ทางเศรษฐกิจ ทางสังคม อะไรนี่มันไม่ถูกต้อง ขอบพระคุณ ขอบพระคุณ ขอบพระคุณ ขอบพระคุณอย่างยิ่งที่มาเยี่ยม เราได้ปฏิสันถารกันโดยธรรม โดยธรรม ขอให้มีแต่ความถูกต้อง มีแต่ความถูกต้อง ถูกต้อง ถูกต้อง ถูกต้องโดยประการทั้งปวง..........
...............ท่านพุทธทาสแจกหนังสือ..............
มีคนช่วยกันพิมพ์ขึ้นมากหนังสือ หนังสือจึงมีให้อ่านมาก ช่วยอ่านให้ดี ช่วยอ่านให้เข้าใจ ช่วยอ่านให้ได้เรื่องได้ราว เรื่องสูงสุดที่จะเป็นที่พึ่งได้จริงก็คือเรื่องปฏิจจสมุปบาท กับเรื่องอานาปานสติ เรื่องปฏิจจสมุปบาท เป็นเรื่องสำคัญที่สุด ขอให้แตกฉาน ขอให้แตกฉาน ขอให้แตกฉานในเรื่องอานาปานสติ และปฏิจจสมุปบาท.....
ที่มา ธรรมะปฏิสันถารแก่ภิกษุสามเณรจากวัดพระบรมธาตุไชยา ให้โอวาทแก่ พระภิกษุ สามเณร ญาติโยม และอื่นๆ