แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
อิมานิมะยังภันเต ฟังสุกุระจิวะรานิ ภิกขุสังคสะ โอโนชะยามะ สาธุโนภันเต ภิกขุสังโฆ อิมานิ ปังสุกุระจิวะรานิ ปฏิกันหาตุ กัมหาตัง ทีคะระตัง หิตายะ สุขายะ
ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอถวายผ้าบังสกุลและจีวร กับทั้งบริวารทั้งหลายเหล่านี้ แด่พระภิกษุสงฆ์ขอพระภิกษุสงฆ์ จงรับซึ่งผ้าบังสกุลและจีวรนี้ กับทั้งบริวารทั้งหลายเหล่านี้ เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข แก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย สิ้นกาลนานเทอญ สาธุ
ผ้าป่านะ ชักเมื่อไหร่ก็ได้ แต่อนุโมทนา จะพูดอะไรมากมาย ก็ฝนมันจะตก ขออนุโมทนา เรียกสั้น ๆ ย่อ ๆ ว่า ได้มาพบกันอีกครั้งหนึ่งในวันเยี่ยมสวนโมกข์ ขอแสดงความยินดีบ้าง ขอบคุณบ้าง ขอให้มีความก้าวหน้าในธรรม ธรรมปฏิบัติ ยิ่ง ๆ ขึ้นไปทุก ๆ ปี ปีนี้อยากจะแนะสักนิดนึงว่า เราทำธรรมมานุสติ หรืออุปสัมมานุสติ ทุกขณะ ได้เคลื่อนไหวเปลี่ยนอิริยาบถ ให้มีสติ รู้สึกว่าถูกต้องแล้ว พอใจ ถูกต้องแล้ว พอใจ เพราะว่าได้ประพฤติปฏิบัติอยู่ในกุศลกรรมบถ หรืออริยมรรคมีองค์แปดอยู่ตลอดเวลา ทั้งเนื้อทั้งตัวมันจะมีความถูกต้อง แต่ถ้าไม่กำหนดมันก็ไม่เป็นกรรมฐาน มันควรจะกำหนดความถูกต้องแล้ว ตื่นนอนขึ้นมาก็ถูกต้องแล้ว รอดชีวิตมาคืนหนึ่งนี้ ลุกขึ้นไปล้างหน้าก็ทำความรู้สึกว่าถูกต้องแล้ว หรือว่าจะไปห้องน้ำ ให้มีความรู้สึกว่าถูกต้องแล้ว ไปห้องส้วม จะไปห้องอาหารก็ถูกต้องแล้ว แต่งเนื้อแต่งตัวก็ถูกต้องแล้ว ไปทำงานก็ตลอดเวลาก็ถูกต้องแล้ว กลับจากทำงานก็ถูกต้องแล้ว ทำทุกอย่างทุกอย่างที่เป็นกิจประจำวันก็ถูกต้องแล้ว จนกว่าถึงจะนอนก็ถูกต้องแล้ว ถูกต้องแล้วมาทั้งวัน ก็พอใจอย่างยิ่ง ยกมือไหว้ตัวเอง ยกมือไหว้ตัวเอง ก่อนจะหลับจะนอน นั้นนะคือสวรรค์ พอใจจนยกมือไหว้ตัวเองนะคือสวรรค์ อย่าให้มีอะไรไปรังเกียจตัวเองนั่นนะเป็นนรก สวรรค์จริง นรกจริงนี่ต้องจัดการกันก่อน ขอให้มีสติกำหนดความถูกต้อง ของตน ของตน ทุก ๆ อิริยาบถ ทุก ๆ วินาที อยู่ด้วยความรู้สึกว่าถูกต้องนี้เป็นธรรมมานุสติ หรืออุปสัมมานุสติ มีแต่พระนิพพานเป็นอารมณ์ ขออนุโมทนา
(บทสวดมนต์) ยะถา.................................. พะวันตุเต
(บทสวดมนต์) กาเยมะ...........
นิมนต์ยื่นครับ ลุกขึ้นยื่นครับ จะขึ้นเป็นต้นเสียง แล้วว่าพร้อม ๆ กัน
(บทสวดมนต์) …………..
ผู้ที่มีเครื่องสักการะ ก็โปรดได้มอบถวาย
(บทสวดมนต์) …………..
นิมนต์นั่งลงครับ นิมนต์กราบครับ
(บทสวดมนต์) ……………
อะหัง ธะมามิ ตุงเท จิปิเม ตะมิตะภัง กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม มีโทษน่าติเตียนอันใด ถ้ามีอยู่ในระหว่างเราสองฝ่าย ขอให้เป็นอโหสิกรรม ด้วยอำนาจการทำสามิติกรรมในวันนี้ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จงกราบเท้าเข้าสู่พระนิพพานเทอญ สาธุ
(บทสวดมนต์) ...........
ขอพูดสองสามคำ สำหรับจะบวชใหม่ ไม่เคยเห็นทำวัตรแบบโบราณ แต่ว่าโอกาสะวันทามิภันเต นี้ถ้าเจอเป็นแบบไทย เกิดในเมืองไทย แล้วไปใช้ในลังกา ในคราวถ่ายทอดศาสนา นี่ในลังกายังใช้เต็มที่ ในประเทศเราที่เป็นต้นตอนี้ใช้บ้างไม่ใช้บ้าง ขอให้ถือหลักปฏิบัติที่เป็นความหมายของการทำวัตร อุกาสะวันทามิภันเต ขอแสดงความเคารพ สัพพังอะปะราทัง ทะมังทะเมภันเต ขออภัยโทษ มะยากะตังคุณยังมัยหังแลกเปลี่ยนส่วนบุญซึ่งกันและกัน
เคารพในที่ที่ควรเคารพ ขอให้ทุกคนถือหลักเคารพ จะเป็นเณรเป็นเด็กไรก็ตาม มันก็มีฐานะเป็นคนคนหนึ่ง มีอะไรตามสมควรก็ต้องเคารพว่าเป็นบุคคลคนหนึ่ง ไม่ดูถูกดูหมิ่น เรียกว่าเคารพ เคารพไปตามลำดับ ตามที่อุปชาอาจารย์หรือผู้เทียบเท่าอุปชาอาจารย์ ให้เป็นผู้มีความเคารพอ่อนน้อมอยู่เสมอ
ข้อที่ 2 สัพพังอะปะราทัง ขอโทษ เป็นธรรมดาเรา ย่อมมีโทสะ นึกประทุษร้าย หรือคิด เพียงแต่คิด หรือบางทีก็ได้พูด พูดเลย พูดประทุษร้าย หรือบางทีก็ได้ทำเลย ถ้าโทษมีอยู่ มันเหมือนกับบาปติดตัว ช่วยกัน มีธรรมเนียมประเพณีขอโทษ ก็จะเป็นผู้ที่อยู่โดยไม่มีโทษติดตัว ให้อยู่กันอย่างผาสุก ขอโทษนี่อย่าไปถือว่าเราใหญ่ เราเล็ก ถ้าผิดก็ต้องขอโทษ ขอโทษแม้แต่เด็กๆ ถ้าเราเป็นฝ่ายผิด เมื่อได้รับการขอโทษแล้ว ก็ต้องให้อภัยโทษ อย่าถือเอาไว้ ถือเป็นนิสัยไปเลย
มะยากะตังคุณยัง เป็นการแลกเปลี่ยนส่วนบุญซึ่งกันและกัน เรามีความดีอะไรก็แบ่งปันให้เพื่อน เพื่อนให้ส่วนบุญ เราก็อนุโมทนา ป้องกันไม่ให้เกิดความอิจฉาริษยา ต้องการให้เกิดความสามัคคี อยู่กันผาสุก บวชใหม่ บวชใหม่ ยังไม่รู้เรื่อง ช่วยจำไปด้วย
ประพฤติตามหลัก 3 ข้อ นี้คือ
เคารพที่ควรเคารพ
ขอโทษ ควรขอโทษ
แลกเปลี่ยนส่วนบุญซึ่งกันและกัน
เพียงสามอย่างเท่านี้ จะทำให้อยู่กันอย่างผาสุก หรือว่าให้พระศาสนาเจริญรุ่งเรืองยืดยาว
ขอให้กำหนดไว้ ทุก ๆ องค์ โดยเฉพาะที่บวชใหม่ ยังไม่ทันจะรู้เรื่อง โดยประเพณีมาเยี่ยมวัดนี้ ก็ขอขอบพระคุณ และโดยธรรมก็ขออนุโมทนา ขอให้ถือว่าเป็นวันมาเยี่ยมสวนโมกข์ ซึ่งได้อุทิศทั้งหมดเพื่อการเผยแพร่พระพุทธศาสนา ทำอยู่ตลอดเวลา ได้มาพบปะกันก็เป็นการดี แต่นี่เวลาไม่อำนวย จะพูดเรื่องมากไปก็ไม่อำนวย แต่ว่าถ้าต้องการจะมาเมื่อไหร่ก็ได้ จะมาพูดจากันเรื่องธรรมะ หรือเรื่องเผยแพร่ธรรมะ หรือเรื่องวัตรปฏิบัติได้ ขอพูดอีกสองสามคำว่า ผมได้สังเกตเห็นว่า การทำจิตให้รู้สึกว่าตัวเรามีความถูกต้องอยู่เสมอจะเป็นกรรมฐานที่ดี ทำอย่างกรรมฐาน เอาความถูกต้องของเราเป็นอารมณ์ จะนั่ง จะเดิน จะยืน จะนอน หรือจะทำอะไรสุดแท้ จะกำหนดแค่ว่ามีความถูกต้อง มีความถูกต้อง เป็นอารมณ์ ถ้าไม่มีความถูกต้อง ก็รีบทำเสียให้ถูกต้อง จะได้เอาความถูกต้องเป็นอารมณ์
ถ้าเกิดเจ็บไข้ได้ป่วย เป็นเหตุร้ายขึ้นมา ก็ยังถือว่าถูกต้อง ถูกต้อง ถูกต้องมากฎของอิทัปปัจจยตา เราก็ยินดีที่จะรับและปรับปรุงแก้ไขในสิ่งที่ปรับปรุงแก้ไขได้ ถ้าเป็นสิ่งที่ปรับปรุงแก้ไขไม่ได้ ก็ถูกต้อง ถูกต้อง ตามกฎของธรรมชาติ พอใจ พอใจที่ได้ประสพ ทุกอย่างเลยไม่ว่าอะไร จะต้อนรับมันด้วยความถูกต้องและพอใจ ถูกต้องและพอใจ แต่ว่าต้องทำอย่างละเอียด ประณีต ทุก ๆ อิริยาบถ และกระทั่งทุก ๆ กระเบียดนิ้วเลย เมื่อมีความรู้สึก อยู่ว่าได้เปลี่ยนแปลงอิริยาบถอย่างใด ก็ ถูกต้องและพอใจ เป็นสิ่งที่ควรทำ ถูกต้องและพอใจ
ตื่นนอนขึ้นมา ถูกต้องและพอใจตัวเอง จะได้รอดชีวิตมา และก็ไม่ว่าจะไปทำอะไร จะไปล้างหน้า ถูกต้อง ที่ไปล้างหน้า หยิบขันมาล้างหน้า ก็ถูกต้อง พอใจ ล้างหน้าให้สะอาดก็ถูกต้องและพอใจ จะไปห้องน้ำ ห้องส้วม รู้สึกทุกขั้นทุกตอน ว่าถูกต้องและพอใจ ถูกต้องและพอใจ จะนั่งถ่ายอุจจาระอยู่บนส้วมก็ถูกต้องและพอใจ จนกระทั้งว่าไปบิณฑบาตร ให้มีความรู้สึกว่าเรามีความถูกต้องและพอใจ ทุกก้าว ทุกก้าวย่าง ทุกก้าวย่าง และรับด้วยวิธี ที่พูดได้ว่าถูกต้องและพอใจ แล้วกลับวัด ถูกต้องและพอใจ ทำอะไรก็ถูกต้องและพอใจ จะนั่งฉันมาที่โรงฉัน กำหนดสติในความถูกต้อง ถูกต้อง เมื่อปัจจะเวกก็ดี เมื่อฉันก็ดี อะไรก็ดี บอกตัวเองได้ว่าถูกต้อง ถูกต้องและพอใจ เรามีอุปสะมะ มีพระนิพพานเป็นอารมณ์ มีความพอใจในธรรมเป็นอารมณ์ อยู่ตลอดเวลาที่ว่า ทุกกระเบียดนิ้วการเคลื่อนไหว ทุกวินาทีของเวลาที่ผ่านไป จะเป็นการทำกรรมฐานที่ได้ผลดี มีผลเห็นทันตา
แต่การกระทำแรก ๆ คงจะขรุขระและลำบากบ้าง เพราะต้องการสติสัมปชัญญะที่ละเอียดประณีต จึงจะมองเห็นความถูกต้อง และพอใจได้ทุกกระเบียดนิ้ว ทุกกระเบียดนิ้วของการเปลี่ยนแปลง การเคลื่อนไหว ขอให้พยายามลองดู เหมือนกับเป็นการรวมพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มาไว้ในคำว่าถูกต้อง ในความถูกต้องจะรวมอะไร อะไรที่เป็นสรณะที่พึ่งยึดถือ
คำว่าถูกต้อง ถูกต้องนี่ คือถูกต้องสำหรับจะช่วยให้พ้นทุกข์ ถูกต้องสำหรับจะช่วยให้พ้นทุกข์ ถูกต้อง และก็พอใจ พอใจและก็จะเป็นสุข เป็นความสุขชนิดนิรมิตร ไม่ต้องเจือด้วยอามิส ไม่เจือด้วยกามคุณ จะมีความสุข และสิ่งต่าง ๆ จะไปในทางดี คือ ทางเย็น ไม่ร้อน ไม่ร้อน ไม่เช่นนั้นมันจะร้อน ร้อนมาก ร้อยบ่อย จีวรร้อน อะไรร้อน บวชอยู่เหมือนทนไม่ได้ ต้องสึก มันเสีย ขาดทุนตอนนี้ มีเอาไว้ก็จะทำให้จิต อยู่ตลอดเวลา การเล่าการเรียนก็จะดี จะไม่เสียหายอะไร มีแต่สติว่าถูกต้อง พอใจ ถูกต้อง พอใจ พอถึงวาระสุดท้ายก็จะนอน จะรวบรวมความถูกต้อง พอใจตลอดวันมาชมเชย มาชมเชยเกิดธรรมะปิติ และก็ยกเมื่อไหว้ตัวเองได้ก็ยิ่งดี คำว่ายกมือไหว้ตัวเองได้มีความหมายมาก และก็ไม่ได้ทำง่าย จะต้องระมัดระวังตลอดเวลา ขอฝากเป็นของขวัญแก่พระเณรทั้งหลายที่มาเยี่ยมสวนโมกข์ปีนี้ เรียกสั้น ๆ ว่า ขอมอบหมายกรรมฐาน ว่าถูกต้องและพอใจ มีความถูกต้องเป็นอารมณ์ของกรรมฐาน และก็จะชักจูงให้ทุกสิ่ง ๆ ถูกต้องกันหมด การประพฤติพรหมจรรย์ก็จะง่าย จะเบา สบาย ไม่มีกิเลสมาย่ำยี ขอให้ผู้บวชใหม่โดยเฉพาะจดจำไปให้ดี ในความหมายของการทำวัตร 3 ประการก็ดี กรรมฐานแบบว่าถูกต้องและพอใจ ถูกต้องและพอใจก็ดี ขอให้ติดเอากลับไปใช้ประพฤติปฏิบัติ และจะได้ง่ายในการเจริญงอกงามในพระศาสนาของสมเด็จพระบรมศาสดา ขอแสดงความหวังดีว่าคงจะพยายามปฏิบัติสุดความสามารถของตน ของตน ทุก ๆ ท่าน ด้วยเหตุนั้น ขอให้มีความสุข สวัสดี เจริญงอกงาม ในพระพุทธศาสนา อยู่ทุกทิพาราตรีกาลเทอญ....สาธุ