ขอทุกๆท่านทำความเข้าใจธรรมในใจให้สำเร็จประโยชน์ การกระทำทั้งหมดนี้ (นาทีที่ 1:06 ถึง 1:12 แปลไม่ออกคะ) อนุโมทนาก็ดี (นาทีที่ 1:13) ทั้งหลายก็ดีรวมกันแล้วเป็นการกระทำที่เป็นไปเพื่อการสืบอายุพระศาสนาน่ะ คือว่าทำให้มีการบวชขึ้นมาให้มีการเรียนให้มีการปฏิบัติให้มีการได้รับผลและสอนต่อๆกันไปจริงๆ จะเป็นส่วนไหนก็ได้ทุกๆส่วนเป็นการสืบอายุพระศาสนา ขอให้รู้สึก(นาทีที่1:49)และเต็มเปี่ยมอยู่ในใจ ขอทำความเข้าใจว่าการบวชกลางแจ้งไม่มีหลังคาเนี่ยในบาลี ในพระไตรปิฏกมีถ่มเถ อย่าเข้าใจผิดว่าต้องบวชในโบสถ์ บวชกลางแจ้งเนี่ยในวินัยก็มีอยู่ว่าถ้าฝนตกขึ้นมาก็ต้องเลิกต้องเก็บไปทำต่อทีหลัง การบวชกลางแจ้งเนี่ยไม่ใช่นอกรีตนอกรอยและมีมากที่สุดในครั้งพุทธกาล เราจะทำในใจว่าจะให้มันเหมือนกับครั้งพุทธกาลให้ได้มากที่สุด แต่ว่าแค่ทำไม่ได้ก็มี จนถ้าบวชตามพุทธกาลบิดามารดาได้มา บิดามารดาได้มา ถ้าบวชตามพุทธกาลน่ะบวชกันแต่(นาทีที่ 2:55) ข้อนี้ไม่เป็นไรยังไม่ตรง เอาเป็นว่าเราทำให้เหมาะสมกับสมัยที่นี้ก็มีการรับศีลก่อนตามทำเนียม ต่อไปนี้ตั้งใจสมาทานศีล (สวดมนต์) และพิธีบวชถึงนาทีที่ 10:24

            จงเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการบรรพชา มีจิตใจที่เข้าใจในการกระทำ กระทำถูกต้องตามธรรมตามวินัย เตรียมจิตใจสำหรับการละจากความเป็นฆารวาสจากญาติทั้งปวงจากทรัพย์สมบัติทั้งปวงจากสิ่งทั้งปวงที่เกียวกับเรื่องโลก ก็ว่าเสียสละนี้ สละทุกสิ่งแม้แต่คนสิ้นเนื้อประดาตัวไม่มีอะไรจะผูกพันเหลือแต่บรรพชา ไปหมดเว้นหมดจากความเป็นฆารวาส ข้อผูกพันทางความเป็นฆารวาสทรัพย์สมบัติอะไรต่างๆจะต้องสละกันเวลานี้ ถึงจะเป็นการบรรพชาธรรมในใจสำเร็จประโยชน์ไม่กระทำอย่างฆารวาสไม่คิดนึกอย่างฆารวาสไม่พูดจาอย่างฆารวาส ไม่กินอยู่อย่างฆารวาส ไม่มีอะไรๆก็เป็นฆารวาส เค้าถึงจะเรียกว่าบรรพชา ขอให้มีใจจะสละจริตนั้นตลอดเวลาที่จะบรรพชานี้ ตลอดการบรรพชาจึงจะบรรพชา นี้เรียกว่าบวช ไปหมดเว้นหมดจากความเป็นฆารวาส จะเว้นจากที่กล่าวหมด จะห้ามมิให้กระทำ นี้ควรจะทำไว้ในใจเวลานี้เต็มที่เลย ทีนี้ก็ควรจะทราบประโยชน์อานิสงส์ของการบรรพชา จะได้มีกำลังใจจะได้มีจิตใจเต็มเปี่ยมด้วยการบรรพชา บรรพชานี้เมื่อทำจริงบวชจริงเรียนจริงปฏิบัติจริงได้ผลจริง เราจะได้ประโยชน์อานิสงส์มหาศาล เลือกที่จะกล่าวโดยรายละเอียดได้ก็ไม่ไหว ก็จะกล่าวประมวลเป็นหมวดๆสามประการว่า อานิสงส์ที่ผู้บวชจะได้ อานิสงส์ที่ญาติทั้งหลายมีบิดามารดาเป็นประธานจะพึงได้ อานิสงส์กับโลกทั้งปวงจะพึงได้ รวมเป็นสามอย่างสามประการ เราบวชเพื่อจะได้รู้ธรรมะซึ่งตัวธรรมะมีชีวิตจิตใจเป็นธรรมะยิ่งๆขึ้นไป  แม้จะมีการลาสิกขาก็ติดกลับไปดำเนินชีวิตดีที่สุดที่จะดีได้ ถ้าอยู่ตลอดไปก็เป็นการอยู่ตลอดไปต้องทำให้สำเร็จประโยชน์ทั้งชนิดแค่จะอยู่ตลอดไปหรือจะบวชชั่วคราว ฝึกหัดจิตใจให้เหมาะสมที่จะเป็นผู้นำ หลังจากสึกไปมีครอบครัวก็ไปเป็นผู้นำครอบครัว นี้เป็นธรรมเนียมแต่โบราณกาลในประเทศอินเดีย ผู้ใดจะดำเนินชีวิตครอบครัวก็ให้บวชเสียก่อน บวชแล้วเรียกว่าบัณฑิณแล้วก็ดำเนินชีวิตไม่มีผิดพลาดอีกต่อไป มันก็เป็นเบื้องต้นแต่ว่ามีธรรมะในทางจิตใจรู้จักความหมายของชีวิต รู้จักควบคุมจิตใจว่าให้อยู่ในความถูกต้องตลอดเวลา ทุกอย่างมันจึงราบรื่นเราจะมีความสุข ถ้าถือศาสนาอื่นขอให้พระเจ้าบันดาลให้ได้ความสุข ถ้าถือศาสนาพุทธต้องทำตัวเอง ได้ความสุขคือรู้จักธรรมนั้นแหละ บวชนี้เรียนเพื่อรู้จักธรรม ทำให้ชีวิตอยู่เหนือความยินดียินร้าย เหนือบวกเหนือลบ ภาษาวิทยาศาสตร์ว่าเหนือ positive เหนือ negative ไม่มีอะไรมาทำให้ดีใจไม่มีอะไรมาทำให้เสียใจคือไม่เป็นบวกไม่เป็นลบแล้วก็มีความสุขที่สุดโดยไม่ต้องขอจากพระเจ้าเทวดาผีสางที่ไหนป่วยการมันไม่ใช่พุทธศาสนา ต้องทำเอาเองต้องทำให้หมดความมีตัวตนไม่ยึดถือโดยตัวตนนั้นยังดี(นาทีที่ 16:08) ก็ต้องทำให้จิตใจปกติๆ ดีใจมันก็ยุ่งแบบเสียใจมันก็ยุ่งอีกแบบ อย่าดีใจอย่าเสียใจปกติคือว่างนั้นแหละคือความสุขที่แท้จริง ขอให้คิดดูทุกๆคน ญาติโยมทั้งหลายก็เหมือนกัน เวลาดีใจก็นอนไม่ค่อยหลับกินข้าวไม่ลง เวลาเสียใจก็นอนไม่ค่อยหลับกินข้าวไม่ค่อยลง ถ้าไม่ดีใจไม่เสียใจน่ะสบายที่สุด นั้นแหละความมุ่งหมายของพระพุทธศาสนาอยู่กับว่างอยู่กับนิพพานอยู่กับสงบไม่ดีใจไม่เสียใจ ไม่วุ่นวาย นี้เป็นวิธีการของพุทธบริษัทถ้าจะต้องการความสุขก็ต้องทำจิตอย่าให้เป็นบวกอย่าให้เป็นลบ ไม่ต้องขอจากพระเจ้า เราจะได้ความรู้อันนี้สำหรับดำเนินชีวิต เรียกว่าอานิสงส์ก็ได้กับตัวผู้บวช อานิสงส์ที่สองจะพึงได้กับญาติทั้งหลายมีบิดามารดาเป็นต้นเป็นประธาน เมื่อเราบวชจริงเรียนจริงปฏิบัติจริงได้ผลจริง จะมีอานิสงส์ไปถึงบิดามารดาเป็นต้น ให้เกิดศรัทธาเกิดความพอใจเกิดความเลื่อมใสให้บิดามารดารักพระศาสนาหรือพระธรรมยิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อนมีศรัทธามากกว่าแต่ก่อน มีจิตใจใกล้ชิดพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ยิ่งกว่าแต่ก่อนเป็นความปลอดภัยอย่างยิ่งของบิดามารดา เนี่ยเป็นการสนองพระคุณบิดามารดาอย่างสูงสุดไม่มีอย่างใดจะยิ่งกว่า มีทางสนองพระคุณบิดามารดามากมายหลายอย่างแต่ถือกันว่าเป็นการที่สูงสุดน่ะคือการบรรพชา ก็ได้ทำให้บิดามารดาใกล้ชิดพระธรรมตามไปด้วย มีความมั่นคงแน่นอนในพระรัตนตรัยยิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อน เค้าพูดกันมาง่ายๆว่าทำให้เป็นญาติในพระศาสนายิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อน อานิสงส์ส่วนนี้ได้แก่บิดามารดา ญาติทั้งหลายมีบิดามารดาเป็นต้นเป็นประธาน เพราะเราเกิดมาเป็นหนี้บุญคุณของญาติทั้งหลายมีบิดามารดาเป็นต้นเป็นประธาน อานิสงส์ประการที่สามจะได้แก่คนทั้งโลก ฟังดูเผินๆอาจจะไม่เชื่ออาจไม่มีใครเชื่อ แต่ขอให้คิดว่าถ้าเราบวชจริงเรียนจริงปฏิบัติจริงมันสืออายุพระศาสนาให้มีอยู่ในโลก ให้โลกมันปลอดภัย คนทั้งโลกก็ได้รับประโยชน์นะ สืบอายุพระศาสนาไว้มีอยู่ในโลก มีอยู่ในโลกไม่สูญหายไปจากโลกใครอยู่ในโลกได้รับประโยชน์ พระพุทธศาสนา อย่างพุทธเราความทุกข์พุทธเรากิเลสทำให้โลกมีสันติภาพ คือกำจัดความเห็นแก่ตัว ถ้าโลกกำลังจะวินาศ(นาทีที่ 19:46) ด้วยความเห็นแก่ตัวของคนในโลก โลกยิ่งเจริญความเห็นแก่ตัวมันยิ่งมาก เพราะว่าโลกมันกำลังให้การศึกษาบ้าๆบอๆ มันมีแต่เรียนฉลาดๆๆแล้วมันไม่มีการควบคุมความฉลาด คนที่ฉลาดก็เลยใช้ความฉลาดเพื่อเห็นแก่ตัวๆๆยิ่งขึ้นไปกว่าแต่ก่อนน่ะ คนโง่เห็นแก่ตัวได้น้อยกว่าคนฉลาด ถ้าไม่ฉลาดมากจะไม่มีอะไรก็จะควบคุมความฉลาด ธรรมะหรือพระศาสนานั้นแหละช่วยควบคุมความฉลาดเอาไว้ไม่ให้ทำผิดแต่ก็เอาออกไปเสีย บางประเทศห้ามไม่ให้เอาศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้องในการศึกษาในโรงเรียนในวิทยาลัย คนไทยเรากำลังจะไปตามก้นเค้า พอทีเถอะ อย่าทำเลย การศาสนาต้องอยู่ควบคุมการศึกษาให้การศึกษามันปลอดภัย เดี๋ยวนี้การศึกษาทำให้ฉลาดอย่างเดียวไม่ควบคุมความฉลาดมันก็จะเห็นแก่ตัวหมดน่ะ นายทุนก็เห็นแก่ตัว คอมมิวนิสต์ก็เห็นแก่ตัว ไอพวกนอกนั้นก็เห็นแก่ตัว ไม่เห็นแก่ตัวน่ะมีไม่กี่คน ขอให้อยู่ไว้ด้วยว่าช่วยกันสร้างธรรมะพระศาสนาให้มีอยู่ในโลกเพื่อจะควบคุมความเห็นแก่ตัว อย่าให้มียิ่งๆขึ้นไปเลย ขอให้ลดๆๆๆลงไปซะ สืบพระศาสนาให้มีอยู่ในโลกแล้วคนทั้งโลกจะพลอยได้รับประโยชน์ การบวชของเรามีอานิสงส์แก่คนทั้งโลกถ้าเราบวชจริงเรียนจริงปฏิบัติจริงได้ผลจริงแล้วสอนกันไปจริงๆ ขอให้เธอมุ่งหมายประโยชน์อานิสงส์สามประการนี้อยู่ในใจ มีความยินดีในการที่จะบรรพชา มีความเหมาะสมพร้อมเพรียงทุกประการที่จะบรรพชา เป็นข้อบอกเป็นการล่วงหน้าในบัดนี้ เราจะมุ่งหมายประโยชน์สามประการนี้ไว้ในใจแล้วทำการบรรพชา เพื่อให้รู้ต่อไปว่าบรรพชามีรากฐานที่ตั้งอยู่ที่ไหน บรรพชามีรากฐานที่ถูกต้องที่ตั้งอยู่ที่พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เราออกบวชนี้อุทิศพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ก็ต้องมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์อยู่ในใจ จะทำเอาไว้ในใจได้อย่างไรบางคนยังไม่รู้เลย ก็คือเอาพระคุณของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์มาทำไว้ในใจ พระพุทธเจ้ามีหัวใจเป็นความสะอาดสว่างสงบ พระธรรมมีหัวใจเป็นความสะอาดสว่างสงบ พระสงฆ์มีหัวใจเป็นความสะอาดสว่างสงบ เราจงพยายามให้จิตใจของเรามีความสะอาดสว่างสงบ เราก็มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ที่แท้จริงอยู่ในใจ อันนั้นจะเป็นรากฐานที่ตั้งที่รองรับที่ตั้งที่อาศัยที่งอกงามของบรรพชาเหมือนแผ่นดินที่เรานั่งอยู่เนี่ยเป็นที่รองรับต้นไม้ทั้งหลาย เพื่อให้มีความสะอาดสว่างสงบจะเป็นคุณของพระพุทธพระสงฆ์เป็นพื้นฐานอยู่ในจิตใจ ให้ได้เป็นที่ตั้งที่อาศัยของการบรรพชา แล้วบรรพชาของเราก็จะเจริญงอกงามเหมือนต้นไม้ก็ได้ดินดีน้ำดีอากาศดีสิ่งแวดล้อมดี เราก็จะเจริญในพระพุทธศาสนาได้รับความประโยชน์สุขทั้งหลายสมตามความมุ่งหมายทุกประการ นี้เธอจงทำในใจให้แจ่มแจ้งว่าบรรพชานี้คืออะไร ประโยชน์อานิสงส์ของบรรพชานี้คืออะไร และบรรพชานี้มีที่ตั้งที่อาศัยอยู่บนอะไร สามอย่างนี้สำหรับเตรียมตัวพร้อมเพื่อการบรรพชา ทีนี้ข้อสุดท้ายตามธรรมตามวินัยมีการฟอกซักซ้อม ซักฟอกจิตใจเพื่อความเหมาะสมของบรรพชาอีกทีหนึ่งคือให้บอก ตจปัญจกกรรมฐาน เพื่อว่าจะได้กวาดล้างสิ่งที่ไม่ควรมีอยู่ในจิตใจในเวลานี้ออกไป สิ่งนั้นคือความรักสวยรักงามอย่างฆารวาสทั้งปวง ความรักสวยรักงามโดยเฉพาะกามรมณ์เนี่ยเป็นความโง่ของฆารวาสไม่ควรจะมีอยู่ในจิตใจของผู้ที่จะบรรพชา เราจงทำการชำระสะสางในข้อนี้ ตามระเบียบตามประเพณีที่ได้ทำกันมา พิจารณาสิ่งที่เป็นปฏิกูล แต่เราไปหลงว่าสวยว่างามตลอดเวลาที่เกิดมาตั้งแต่เด็กจนโตนี้ ถึงจะเป็นปฏิกูลแต่เราไปหลงว่าสวยว่างามมากมายหลายประการ เอามาเป็นตัวอย่างเพียงห้าประการก็พอ ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนี่ย ไม่ใช่มีแต่ห้าอย่างมีหลายร้อยอย่างพันอย่างแต่เอามาซักห้าอย่างก็พอ เคยหลงว่าผมงามประดับประดาตกแต่งผมเป็นเครื่องประกวดอวดกันและหลงใหลในความงามของผู้อื่นของเพศอื่น มาทำความในใจว่าหลงไปแล้วเลิกกันที ผมนั้นนะรูปร่างก็น่าเกลียด สีสรรวรรณะก็น่าเกลียด ที่เกิดที่งอกก็น่าเกลียด หน้าที่การงานรับฝุ่นละอองบนศรีษะก็น่าเกลียด ไม่มีส่วนแห่งความสวยงาม ตักตรอง(นาทีที่26:46)ความเข้าใจดีแล้วเลิกเสีย คนทั่วทั้งตัวก็เหมือนกันแหละ เห็นทั้งตัวงามแต่ก็มีขนเป็นของปฏิกูลอยู่ทั่วไปทั้งตัว รูปร่างของขนก็น่าเกลียด สีสรรวรรณะก็น่าเกลียด หน้าที่การงาน ผิวหนังก็น่าเกลียด เลิกหลงว่างาม เล็บงามนี้ก็เหมือนกัน เอามาเป็นตัวอย่างพิจารณาว่ารูปร่างของมันก็น่าเกลียด สีสรรวรรณะก็น่าเกลียด ที่เกิดที่งอกของเล็บก็น่าเกลียด หน้าที่สำหรับแกะเกากวักนี้ก็น่าเกลียด เล็บอะ เล็บงาม ฟันเห็นได้ง่ายเพียงแต่มันมีแต่ริมฝีปากมันปิด(ไม่แน่ใจตั้งแต่นาทีที่ 27:40 ถึง 27:49) ชัดเจนมาก แต่ก็ยังไม่เป็นยังเป็นที่ตั้งของการประกวดกวดขันความงามฟันงาม ความคิดอันนี้ไม่ต้องมีอีกต่อไปในจิตใจของผู้จะบวช รูปร่างของฟันแต่ละซี่ก็น่าเกลียดสีสรรมวลกระดูกนี้ก็น่าเกลียดที่เกิดที่งอกในเหงือกก็น่าเกลียดหน้าที่การงานคือเคี้ยวบดนี้ก็น่าเกลียด อย่ามองเป็นแง่สวยงาม สิ่งสุดท้ายคือผิวหนัง ผิวหนังประดับประดาตกแต่งสวยงาม เราก็เคยประดับประดาตกแต่งสวยงาม ความคิดอันนั้นก็หมดเกลี้ยงไม่เหลืออยู่ในจิตใจในเวลานี้ รูปร่างของผิวหนังก็น่าเกลียด สีสรรก็น่าเกลียด ที่เกิดที่งอกก็น่าเกลียด หน้าที่การงานก็น่าเกลียด ลายกราด(นาที่ที่28:46)บนนั้นก็เป็นที่รับสัมผัสทางเพศทางอารมณ์ต่างๆยิ่งเป็นปัญหาใหญ่โตยิ่งน่าเกลียด จงมองเห็นความเป็นปฏิกูลของผม ขน เล็บ ฟัน หนัง ซึ่งเราเคยหลงใหลว่าสวยว่างามมาแต่กาลก่อน ขจัดความรู้สึกอันนี้ให้หมดไปให้จิตใจเหมาะสมที่จะทำการบรรพชา จงเตรียมจิตใจให้เหมาะสมที่จะทำการบรรพชาโดยรับ ตจปัญจกกรรมฐาน ตามแบบต่อไป จงตั้งใจรับ ตจปัญจกกรรมฐาน โดยภาษาบาลี โดยว่าตามเรา ดังต่อไปนี้ (นาทีที่ 30:10 ถึง 31:18 ท่องบาลี)  คำอธิบายที่ได้อธิบายมาแล้วทั้งห้าอย่างห้าประการห้าคำ เธอได้จำได้ทบทวนได้ดี ทั้งอนุโลมและปฏิโลมแสดงว่าสติสัมปชัญญะปกติไม่ฟุ้งซ่าน มีความปกติแห่งจิตแล้วก็ทำความรู้สึกถูกต้องทุกประการดังที่กล่าวมาแล้วเป็นผู้มีความเหมาะสมที่จะทำการบรรพชา เราขออนุโมทนาและมีความยินดีที่จะทำการบรรพชาให้เธอต่อไป ขอให้มีความเจริญงอกงามในพระศาสนาสมตามความประสงค์มุ่งหมายของการบรรพชาตลอดกาลนานเทอญ