แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
การลาสิกขา ทำในใจให้ถูกต้อง ลาเฉพาะสิกขาสำหรับภิกษุ ไม่ได้ลาสิกขาทั้งหมด ไม่ได้ลาสรณาคม ไม่ได้ลาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ไม่ได้บอกคืนธรรมะ ไม่ได้บอกคืนศาสนา บอกคืนเฉพาะสิกขาสำหรับภิกษุเท่านั้นเอง ที่สำคัญอยู่ที่จิตใจ เห็นด้วย ทางกายแสดงทางวาจา จิตใจก็ต้องเป็นไปด้วยว่าเราบอกคืนสิกขาชนิดภิกษุ ที่สำคัญคืออันนี้ คงจะไม่มีปัญหาอะไรสำหรับเรา เพราะว่าเราได้กำหนดใจไว้แล้วว่าจะลาสิกขา ไม่ใช่มีอธิกรณ์ถูกจับสึก แบบนั้นยุ่งยาก จิตใจไม่ยอมลา ถ้าไม่แน่ใจว่าเราลาสิกขาตามกำหนด คงจะเรียบร้อยดี เมื่อปากว่าอย่างไร จิตใจก็เป็นไปอย่างนั้น สิกขัง ปัจจักขามิข้าพเจ้ากล่าวคืนสิกขา คีหิติ มัง ธาเรถะ จงถือว่าข้าพเจ้าเป็นคฤหัสถ์ ปากว่าอย่างนี้ ในใจก็รู้ความหมาย กิริยาอาการที่แสดง ออกโดยการเปลี่ยนเครื่องนุ่งห่มเป็นต้น ไม่ต้องทำเป็นสังฆกรรมเพราะไม่มีวินัย ไม่มีระเบียบ ไม่ต้องทำสังฆกรรม จึงไม่ต้องทำในสีมา ทำท่ามกลางสงฆ์ที่ไหนก็ได้ เราจึงไม่ลำบากมาก ขอให้รู้ว่าเราเป็นผู้ลาสิกขา ต้องทำด้วยสติ สัมปชัญญะ ตามแบบฉบับของพุทธบริษัท ทำอะไรก็ทำด้วยสติสัมปชัญญะ ระลึกทั่วถึง ทุกสิ่งที่จะต้องระลึก ระลึกในสภาพของตัวเองที่จะลาสิกขา ระลึกถึงสิกขา ระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งแห่งสิกขา ทำอะไรต้องตั้งนะโมก่อนทั้งนั้น ตั้งนะโมพร้อมๆกันก็ได้ แต่ลาสิกขาต้องลาทีละคน เป็นเรื่องส่วนบุคคล (นาทีที่ 06:46-17:02 พระนวกะกล่าวลาสิกขาและเป็นบทสวดมนต์) ตาม ธรรมเนียมการลาสิกขา มีการรับศีล รับพร ทำเป็นพิธีรีตอง ทำกันใหญ่โต รดน้ำมนต์บ้าง เราเอาใจความสำคัญ ไม่ถึงกับชยันโต ชยันโตเป็นเรื่องชนะ นี้เป็นเรื่องพ่ายแพ้แก่กิเลส ไม่ถึงกับต้องชยันโต แต่ว่าถ้าจะเป็นเรื่องชยันโต ชนะ ก็คือต่อไปข้างหน้า เราทำให้ชนะก็แล้วกัน ต่อไป บวชเป็นการเปิดเรียน วิธีที่จะต่อสู้ปัญหาต่างๆในอนาคต การมีชีวิตอยู่ในโลก เต็มไปด้วยปัญหา เราจะต้องกำจัดปัญหาเหล่านั้นให้ลุล่วงไป คล้ายๆถือหลักว่า เมื่อยังไม่ได้บวช ทำอะไรผิดบ้างก็ยังให้อภัย เพราะยังไม่ได้บวช ไม่ได้เรียน มันยังไม่รู้อะไร ทำอะไรผิดบ้างถือเป็นธรรมดา ให้อภัย ยกเลิก แต่ถ้าบวชแล้ว ถือว่าไม่ให้อภัย ให้มีแต่ทำถูกเรื่อยไป ขอให้ตั้งใจดี เพื่อให้มีแต่การทำถูก ต่อไปอย่าให้มีการทำผิดเข้ามาแทรกแซง บวชก็เหมือนเกิดใหม่ พระที่สึกก็เหมือนเกิดใหม่ไปเป็นฆราวาส มันเป็นตั้งต้น มันเป็นจุดตั้งต้น คีหิติ มัง ธาเรถะ โดยถือข้าพเจ้าว่าเป็นฆราวาส ต่อไปนี้ ถือเป็นผู้ครองเรือน พวกเรารับผิดชอบชีวิตการครองเรือน ทุกอย่างต้องถูกต้อง ตามแบบฉบับ ความหมาย ระเบียบของการเป็นฆราวาส นั่นคือ ผู้มีครอบครัว ต้องรับผิดชอบมากขึ้นกว่าเดิม จากมีแต่ตัวคนเดียว ต่อไปนี้เป็นหัวหน้า รับผิดชอบของฆราวาสคือครอบครัว คือ ต้องมีการงาน ความสามารถในการงานเพิ่มขึ้น ให้เป็นผู้นำที่ดี ถ้าไม่เช่นนั้นจะเป็นเรื่องยุ่ง เป็นเรื่องสร้างความยุ่งยากลำบาก ไม่น่าดู ไม่เหมาะสมที่เป็นฆราวาส เราจะต้องบังคับจิต ข้อสำคัญที่สุดคือบังคับจิต ให้มันอยู่ในความถูกต้อง เพื่อให้ทำแต่ในสิ่งที่ถูกต้อง ถ้าไม่บังคับจิต เหมือนเด็ก ไปกินเหล้าเมายา ไปทำอบายมุข ไปทำกิเลสทั้งนั้น มันล้มละลายกันตรงนั้น สิ่งใดที่เราได้เรียนมาแล้วพอสมควร ในระหว่างที่บวช ต้องบังคับจิตมันจึงจะทำได้ ถ้าไม่บังคับจิต ก็ไม่บังคับตัว มันก็เกิดกิเลสตามภาษากิเลส มันก็คือล้มละลาย ขอให้เรายึดหลักมั่นว่าจะบังคับตัว บังคับจิตให้อยู่ในแนวของความถูกต้อง คือ มัชฌิมาปฏิปทา อย่าอ่อนแอและอย่ากระด้าง อย่าอวดดี อย่ากระด้าง จนเกินไป โอนอ่อนหย่อน ให้มันอยู่ในสภาพที่พอดี ระลึกถึงหลักธรรมะไว้เสมอ ว่ามีชีวิตอยู่ด้วยสติสัมปชัญญะ ที่เขาให้ท่องนะโมบ่อยๆ เพื่อให้สำรวมสติ จะทำอะไรตั้งนะโมเสียก่อน เพื่อให้สำรวมสติให้เพียงพอ สมัยโบราณเด็กๆจะขึ้นต้นไม้ ยังต้องตั้งนะโมก่อน สำรวมสติให้ดี ให้ขึ้นต้นไม้ จะได้ไม่พลาดไม่พลั้ง ให้มันแน่วแน่กว่ากัน เขาว่าทำอะไรตั้งนะโมเสียก่อนจะดีมาก ไม่ต้องว่าดังๆให้เพื่อนได้ยินก็ได้ แต่ในใจต้องมีระยะหยุด ความคิดฟุ้งซ่านต่างๆ สำรวมจิตใจให้เป็นปกติ เหมือนกับว่า นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต แล้วนึกถึงพระพุทธเจ้าซึ่งเป็นบุคคลที่สมบูรณ์ที่สุด มันก็ดี ใจคอก็เป็นปกติ ระบบประสาทก็ดี มันก็เข้มแข็ง สม่ำเสมอดี แล้วเราจะทำกิจการสำคัญ เรื่องชาวบ้านก็ดี เรื่องราชการก็ดี มันมีหลักที่ต้องสำรวมสติ ที่สุดถึงที่สุด คือตั้งนะโมอยู่ในใจ แล้วก็ทำจะไม่มีอุปสรรค ลุล่วงไปด้วยดี เราจึงมีธรรมเนียมตั้งนะโม หรือ แม้แต่กราบก็เป็นเรื่องสำรวมสติเหมือนกัน จะได้มีเวลาสำรวมสติ ไม่ผลุนผลันๆ บวชเรียนก็คือเรื่องนี้ เรื่องศึกษาให้รู้ และ เรื่องมีสติสัมปชัญญะให้เพียงพอ เพื่อประพฤติกระทำทุกสิ่งที่เป็นหน้าที่ เกิดมาชาติหนึ่งเหมือนกับแสดงละคร บทบาทสำคัญครั้งหนึ่ง หมายความว่าให้มันจบลงด้วยดีในระยะยาว อย่าคิดว่าทำผิดวันนี้ พรุ่งนี้แก้ตัว มะรืนทำผิดอีก เรื่องแก้ตัวทำไม่ได้ มันก็วินาศหมด ถ้าตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่ผิด ก็จะไม่ผิด ตั้งแต่นี้ต่อไปจะไม่มีเรื่องทำผิด เรื่องส่วนตัวในใจก็ไม่ทำให้ผิด คือไม่มีความทุกข์เกิดขึ้น เรื่องต่อครอบครัวผู้อื่นก็ต้องไม่ผิด ต่อเพื่อนฝูงก็ไม่ผิด ต่อประเทศชาติ ต่อโลกก็ไม่มีผิด สำเร็จด้วยความละอาย ทำผิดละอายและกลัวจะเกิดเรื่องเสียหายวินาศ ในความเป็นมนุษย์ของตนเขาเรียกว่า มีหิริโอตตัปปะ อยู่ใบแรกของนวโอวาท ถ้าเรายังละอายเและกลัวเมื่อทำผิด มันก็จะไม่ทำผิด เขาเรียกว่าแสดงละคร ดีที่สุดชาติหนึ่ง หมายความว่าต้องทำให้มันสำเร็จตามที่เขานิยม กำหนด บัญญัติ ไว้ว่าฆราวาสจะต้องทำอะไรได้ การมีครอบครัวถือเป็นธรรมดา ให้มันถูกต้อง อย่าทำบ้าๆบอๆ ผลุนๆผลันๆได้คู่ครองซึ่งไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือพูดกันไม่รู้เรื่อง ครอบครัวไหนพูดกันไม่รู้เรื่องระหว่างผัวกับเมีย เหมือนตกนรกทั้งเป็น นรกทั้งเป็นตลอดกาล ต้องดูให้ดีให้มันถูกต้อง ให้มันพูดกันรู้เรื่อง ช่วยกันแบ่งเบาภาระให้ปัญหาของชีวิตมันเหลือน้อย คือแบ่งกันคนละครึ่งหรือช่วยกันทำ มันก็เบาลงกว่าทำคนเดียว ฉะนั้นเมื่อเอาคนที่ไม่รู้เรื่องมาเป็นคู่ เอามาทะเลาะกัน เอามายื้อแย่ง สำเร็จไม่ได้ จึงต้องรู้เรื่อง ร่วมมือประสานกลมเกลียว งานต่างๆก็จะง่ายลงครึ่งหนึ่ง แบ่งกันสองคนทำ งานที่อยู่ในโลกก็ดีจะง่ายลงครึ่งหนึ่ง งานที่จะบรรลุมรรคผลนิพพานในอนาคตกาลก็จะง่ายลงครึ่งหนึ่ง ถ้าทำได้เท่านี้ก็พอแล้ว ถ้าไม่ได้เท่านี้เรียกว่าเป็นคนที่ไม่สมบูรณ์ มันไม่ได้ทำให้สมบูรณ์ในหน้าที่ของมนุษย์ เรื่องโลกมันก็ต้องทำสำเร็จ เรื่องธรรมะก็ต้องทำสำเร็จ ถ้าทำเรียบร้อยทุกวันๆมันก็มีความสุขทุกวันนั่นเอง ถ้าเราทำถูกต้องก็พอใจ พอใจมันก็มีความสุข ถ้ามันเป็นแบบนี้ทุกวันๆ ความสุขเกิดมาจากความพอใจว่าได้ทำถูกต้อง ถ้าทำถูกต้องมันก็ปลอดภัย การสุขภาพ การอนามัย การอะไรต่างๆก็ปลอดภัยหมด สำเร็จด้วยการบังคับจิต ความถูกต้องสำเร็จได้ด้วยเราบังคับควบคุมกาย วาจา ใจ แต่ว่าสำคัญอยู่ที่ใจ บังคับจิตได้ มันก็บังคับกาย วาจาได้ ทีนี้บางคนมันบ้า มันโง่ มันเกินโง่ มันอวดดี ทำไม่ถูกต้องแต่คิดว่าถูกต้องอยู่คนเดียว คือมันโง่ ทุกสิ่งก็ไม่ถูกต้อง ผิดหมดไม่ประสบความสำเร็จเต็มตามมาตรฐานของมนุษย์คนหนึ่ง ถ้าเป็นชาวพุทธ ถือหลักอย่างชาวพุทธ วัฒนธรรมของชาวพุทธ มันมีว่าต้องมีทรัพย์สมบัติเต็มตามมาตรฐานที่ควรจะมี ไม่ได้หมายความว่าเป็นเศรษฐี ให้มันมีอย่างที่ควรจะมีอย่างฆราวาสครอบครัวหนึ่ง แล้วให้มีความดี เกียรติยศ ชื่อเสียงเต็มตามที่ควรจะมี อย่าให้มันเลวกว่าคนอื่น ให้มีมิตรภาพ สมาคม คือผู้ที่ร่วมมือกับเรา เขาเรียกว่ามิตรภาพ ต้องมีพอสมควร เต็มตามมาตรฐานที่ควรจะมี คนที่ทำอะไรคนเดียวโดดๆ ทำไม่ได้หรอก ต้องมีผู้ที่เป็นเพื่อนให้ความร่วมมือซึ่งกันและกันอย่างดีเต็มที่ควรจะมี ต้องมีทรัพย์สมบัติ มีเกียรติยศชื่อเสียง มีมิตรภาพสมาคมที่ดี นี้เขาเรียกว่าสมบูรณ์ ฆราวาสทำได้สมบูรณ์ สมบูรณ์แบบตามแบบของฆราวาส นี้ต้องอดกลั้นอดทนทำให้ได้ เรียกว่า ฆราวาสธรรม ที่ในหลวงยืมไปแต่งในพระบาลีเอาไปใช้ ธรรมะ ๔ ประการ มอบหมายให้ประชาชนในวันฉลอง ๒๐๐ ปี นี้เป็นคำในพระบาลี พุทธภาษิตที่พระพุทธเจ้าย้ำมาก สรรเสริญมาก เรียกว่า ฆราวาสธรรม สัจจะ ทมะ ขันติ จาคะ สัจจะ ทมะ ขันติ จาคะให้คล่องยิ่งกว่าคล่อง คล่องปาก คล่องใจ แล้วคล่องมือ มีสัจจะจริง จริงต่อความเป็นมนุษย์ จริงต่อหน้าที่การงาน แล้วก็มีธรรมะบังคับให้มันจริงอยู่เสมอ ต้องขันติ ต้องอดทน การทำอะไรให้ดีต้องอดทน งานมากยิ่งต้องอดทนมาก งานสูงต้องอดทนมาก ยิ่งเป็นนายคนยิ่งต้องอดทนมาก ไม่งั้นมันล้มละลาย มันทะเลาะกัน แล้วมันแตกสลาย อดทนต่อสิ่งที่มันเกิดขึ้น ไม่เป็นที่พอใจ ต้องแก้ไขด้วยความอดทน จาคะ ต้องเสียสละเรื่องที่ควรจะเสียสละทุกเรื่อง เรื่องใดควรเสียสละเรื่องนั้นต้องสละ โดยเฉพาะความไม่ดี อบายมุข สละความไม่ดีออกไปเรื่อยๆ แล้วสิ่งที่ต้องอดทนมันจะมีน้อยลง เช่นเราสละอบายมุข เราต้องอดทนให้มีเงินมีสมบัติมากพอก็ทำได้ สัจจะ ทมะ ขันติ จาคะ ผู้ที่เป็นฆราวาสต้องมี ทโม ธีติ จาโค สเว เปจฺจ น โสจติ เสร็จแล้วจะไม่มีความเศร้าโศกเลย ฆราวาสผู้ครองเรือนมีศรัทธาในพระธรรมและศาสนา มีสัจจะ ทมะ ขันติ จาคะ แล้วจะไม่เป็นผู้เศร้าโศกเลย บาลีว่า อิงฺฆ อญฺเญปิ ปุจฺฉสฺสุ ปุถู สมณพฺราหฺมเณยทิ สจฺจา ทมา จาคา ขนฺตยาภิยฺโยธ วิชฺช ไม่เชื่อให้ลองถามผู้รู้ สมณพราหมณ์ ผู้รู้ทั้งหลายทั้งปวงทั่วบ้านทั่วเมืองดู ว่าสำหรับฆราวาสผู้ครองเรือนมีอะไรที่ดีกว่า สัจจะ ทมะ ขันติ จาคะ นี้เป็นคำที่พระพุทธเจ้าตรัสท้าทายในรูปพุทธภาษิต ในโพธิสัตว์ภาษิตก็มี ให้ไปลองถามดูมีธรรมะไหนสำหรับฆราวาสที่ดีกว่า สัจจะ ทมะ ขันติ จาคะ เอาเป็นว่าสี่อย่างนี้สำหรับฆราวาสโดยตรง เอาใส่ไว้ในใจอย่าให้ลืมได้ เหมือนพระเครื่องแขวนคอเพื่อกันลืม เราเอาธรรมะมาแขวนคอกันลืม ในธรรมชั้นฆราวาส สัจจะ ทมะ ขันติ จาคะ หาทรัพย์สมบัติได้ หาชื่อเสียงได้ มีเพื่อนที่ดีรอบด้าน ถ้าไม่มีสี่ข้อนี้ตั้งตัวในทางทรัพย์สมบัติไม่ได้ สุรุ่ยสุร่าย ไปบำรุงกิเลสหมด สะสมทรัพย์สมบัติ ต้องกำจัดกิเลสออกไป เข้าใจผิด ไปทำผิดทำชั่วคือโง่ที่สุด ไปทำสิ่งที่ไม่ควรทำ คือโง่ที่สุด ไปทำอบายมุขคือโง่ที่สุด โดนถูกหลอกโดยกิเลส ความอร่อยมันหลอก ดื่มน้ำเมา เที่ยวกลางคืน ดูการเล่น เล่นการพนัน คบคนชั่วเป็นมิตร ขี้เกียจทำการงาน บางคนแก้ตัวว่าถ้าไม่ทำอบายมุข ไม่มีเพื่อน แน่แหละมันก็ไม่มีเพื่อนเลว เพื่อนที่เลวๆไม่มี ถ้าเราไม่ทำอบายมุข เราก็ไม่มีเพื่อนที่เลวๆ เรามีแต่เพื่อนที่ดี อย่าคิดว่าจะทำอบายมุขเพื่อให้ได้เพื่อน เพื่อนเลวๆทั้งนั้น ให้เลือกแต่เพื่อนที่ดีๆ ต้องไม่ทำอบายมุข เลือกคบแต่คนดีๆ ช่วยกันหาทรัพย์สมบัติ หาเกียรติยศ ชื่อเสียง หาสังคมที่ดี หายากเวลานี้ คนที่รวย ก็ยังมีสังคมที่เลว สังคมขูดรีด ฉ้อโกง เอาเปรียบ เราสังเกต แม้แต่สังคมที่เขาจัดว่าดีในโลก ยังสังเกตเห็นว่ายังมีคนที่ไม่น่าไว้ใจอยู่มาก สังคมโรตารีก็ดี สังคมไลออนส์ก็ดี มันมีคนที่พร้อมจะเอาเปรียบผู้อื่นอยู่มาก ให้ระวังไว้ ถูกต้องดีกว่า ให้มีสมาคมที่ถูกต้อง พุทธบริษัท สมาคมพุทธบริษัท ถูกต้องไปหมดทั้งกายวาจาใจ เขาเรียกถูกต้องในการดำรงชีวิตอยู่ ดำรงชีวิตอยู่อย่างถูกต้องตามกฎของธรรมชาติกำหนดไว้ อย่างไร คือถูกต้องตามธรรมนั่นเอง ตามศาสนา ตามความเรียกร้องของพระเป็นเจ้าถ้า นับถือพระเป็นเจ้า นั่นคือที่ถูกต้อง ไปสอบสวนเสียใหม่อะไรที่ไม่ถูกต้องรีบเอาออก ให้เหลืออยู่แต่ที่ถูกต้อง เพื่อให้ถูกต้องตลอดไป เขาเรียกว่า vocation ศัพท์สมัยใหม่เรียก vocation ในเรื่องการคบหาสมาคม เรื่องอาชีพ เรื่องทุกๆอย่าง ให้มันมีความถูกต้อง แล้วมันจะรู้ได้เองว่าถูกต้อง เรียกว่าพอใจ ให้ไหว้ตัวเองได้ก็ใช้ได้ ให้ถือว่าสนุกที่ทำความถูกต้อง อย่าไปสนุกกับอบายมุข ยั่วยวนเหลือเกิน ประกาศเป็นศัตรูกันเลยกับอบายมุข ดื่มน้ำเมา เที่ยวกลางคืน ดูการละเล่นการพนัน คบคนชั่วเป็นมิตร เกียจคร้านต่อการงาน ประกาศตัวเป็นศัตรูกันเลย ไม่ต้องเอา ไม่ต้องมี อย่าไปหลงกับความอร่อยของกิเลส มันหลอกลวง กินเหล้าก็ดี อะไรก็ดี ที่มันสนุก เอร็ดอร่อยมันของกิเลส ไม่ใช่ของคนที่มีธรรมะ ถ้าไม่ไปหลงกับสิ่งเหล่านี้ ก็ไม่ไปทำ มันก็ไม่เสีย ทีแรกคือไม่เสียเงิน แล้วไม่เสียสุขภาพอนามัย ไม่เสียชื่อเสียง ไม่เสียความดี ไม่เสียธรรมะ มันถูกต้อง พอพูดกันตรงนี้เดี๋ยวนี้ เสร็จแล้วมันลืม พอกลับไปบ้านก็ลืมหมดเข้ารูปเดิม นั่นทำให้ไม่สำเร็จ ทุกค่ำทุกเช้าต้องนึกถึงอยู่เสมอ ต้องนึกถึงความถูกต้องอยู่เสมอ ควบคุมความถูกต้องอยู่เสมอ ผิดแล้วเสียใจ ละอาย กลัว แสดงอาบัติกับพระพุทธเจ้า เพื่อเสียใจ ทำผิด และจะไม่ทำอีก วันรุ่งขึ้นก็ไม่ทำอีก ต่อไปก็ไม่ทำอีก มีแต่ความถูกต้อง เงินก็เหลือใช้ มีมากขึ้นๆ มีเกียรติยศชื่อเสียง คนก็รักใคร่ เคารพนับถือไว้ใจ คนดีที่เป็นบัณฑิตมีความดีก็จะยินดีเข้าร่วมสมาคมกับเรา รักใคร่ เคารพนับถือ แล้วแต่จะมี คนที่เขาดีก็ยินดีจะคบเรา มีทั้งที่ต่ำกว่าเรา เสมอกับเรา สูงกว่าเรา แต่ว่าทุกคนยินดีช่วยเหลือเรา คบหากับเรา ร่วมมือกับเรา คนที่อยู่เหนือเราเขาก็ช่วยดึงเราขึ้นไป คนที่เสมอเราเขาก็ช่วยเหลือเราเชิดชูขึ้นไป คนที่ต่ำกว่าเราอยู่ข้างล่างก็ช่วยเหลือเราดันเราขึ้นมา คนที่ต่ำกว่าก็ช่วย เสมอกันก็ช่วย ดีกว่าก็ช่วย มันก็ดีทั้งนั้น ถ้าช่วยกัน มันช่วยกันทั้งรอบด้าน มันก็ดี นี่เป็นเรื่องฆราวาส มีทรัพย์สมบัติ มีเกียรติยศชื่อเสียง มีมิตรภาพไมตรี ยินดีให้เราเป็นผู้นำในครอบครัว ครอบครัวก็อนุโลมตามกันหมด มันก็ดี ในเรื่องธรรมะในจิตใจส่วนลึกส่วนกิเลส ต้องไม่พ่ายแพ้แก่กิเลสไม่มีความทุกข์ เรื่องรัก เรื่องเกลียด เรื่องกลัว เรื่องในกิเลส เห็นเป็นของที่มันเลวไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับมัน เรื่องได้เรื่องเสียอย่าให้มีความทุกข์ สุขก็ได้ ทำผิดก็เสีย ไม่ต้องมีความทุกข์ ไม่ต้องเป็นบ้า ไม่ต้องเป็นโรคประสาท ใจคอปกติ หาเอาใหม่ ทำต่อไป เรื่องอุบัติเหตุก็ถือเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ต้องมีความทุกข์ แก้ไขทำต่อไป นี้เป็นเรื่องจิตใจ มีธรรมะสูงไม่มีความทุกข์ ไม่ต้องเป็นโรคจิตและไม่ต้องเป็นโรคประสาท ไม่ต้องเป็นโรคนอนไม่หลับ ผีสิง ขอให้สำเร็จประโยชน์สมตามความมุ่งหมาย ที่เราบวชเพราะพ่อแม่อยากให้บวช ปู่ย่าตายายอยากให้บวช ทุกคนเขาหวังข้อนี้ เราต้องไม่ทำให้ผิดหวัง ถึงคนที่จะสืบสกุลต่อไปข้างหน้า เป็นลูกเป็นหลาน ช่วยจัดไว้ให้ดี ทำให้ดี เราตายแล้วเขาจะสืบสกุลได้ เราจัดให้ดี อบรมไว้ให้ดี อย่าให้เข้าใจผิด เด็กๆเข้าใจผิด ชอบไปสนุกสนานเอร็ดอร่อย แรงเข้าๆๆ จนไปถึงเรื่องเพศ เรื่องกามารมณ์ เด็กวัยรุ่นก็วินาศกันหมด มันหลงกับความอร่อย ทางเนื้อ ทางหนัง ทางกามารมณ์ บูชาสูงสุด เขาไม่รู้ว่าเป็นเรื่องเล็กนิดเดียว ความอร่อยทางกามารมณ์เรื่องเล็ก มันบูชาเป็นสิ่งสูงสุด เด็กๆก็ทำผิดข้อนี้แหละ เราก็อาจจะเคยคิดเคยนึก แต่มันไม่หลงมากมันจึงรอดตัวมาได้ เด็กที่บูชากามารมณ์เป็นพระเจ้าต้องวินาศทุกคน มันชิงสุกก่อนห่าม ถ้ามีลูกมีหลานอบรมให้ดี อย่าให้มันชิงสุกก่อนห่าม ของสวยงามเอร็ดอร่อยมันมาหลอกให้เราโง่และทำผิด เขารู้หรือไม่ว่าของที่อร่อยมันมาหลอกให้เราโง่และทำผิด ของที่ไม่อร่อยมันก็มาหลอกให้โง่ ถ้าเราไปโกรธ มันก็ทำให้ทำผิดเหมือนกัน อร่อยหรือไม่อร่อยต้องไม่หลอกให้เราทำผิด จะสวยหรือไม่สวยต้องไม่หลอกให้เราทำผิด ไม่ว่าคู่ไหนต้องไม่หลอกให้เราทำผิด เราต้องรู้ความถูกต้องอยู่เสมอ ชนะสิ่งที่เป็นคู่ๆ เขาเรียกว่าโลกธรรม ได้ลาภเสื่อมลาภ ได้ยศเสื่อมยศ ได้ทุกข์ได้สุข ได้นินทาได้สรรเสริญ เป็นเรื่องใหญ่ๆทั้งนั้น เรื่องเล็กๆต่ำๆเรื่องสนุกสนานเอร็ดอร่อย อย่าให้มันหลอกเราได้ ทุกอย่างมันก็เป็นเช่นนั้นเอง เป็นไปตามกฎของอิทัปปัจจยตา อย่าไปหลง เอาที่มันถูกต้องไว้เสมอ เกิดมาชาติหนึ่ง ทำได้มาก ทำความดี ความถูกต้องได้มาก มีอะไรมาก มีทรัพย์สมบัติพอตัว เกียรติยศชื่อเสียงพอตัว มีมิตรภาพสหายดีพอตัว มันครบหมดที่ฆราวาสจะทำได้ เราอย่าไปเห็นแก่ความเอร็ดอร่อยสนุกสนาน กินเหล้าให้สนุก ดูหนังให้สนุก มันโง่ มันทำให้โง่ลง ถ้าดูหนังก็ดูให้ฉลาด ถ้ากินเหล้าก็กินเพียงให้รู้ว่ามันบ้า ให้มันฉลาด ทำผิด ขอให้กลายเป็นมาสอนให้ฉลาดและไม่ทำผิดอีก ให้เด็กๆให้ลูกเอาเป็นเยี่ยงอย่างว่าพ่อไม่ทำผิด พ่อได้สอนไว้ให้รู้ว่าสิ่งที่สวยงามมันทำให้เราโง่ พาลูกไปเที่ยว ถ้ามีลูก ตามที่ๆมันสวยๆ สนุกสนาน เอร็ดอร่อย แล้วดูว่ามันเป็นที่ๆทำให้เราโง่ทั้งนั้น ที่ขายของเล่น ขายของจริงสนุกสนาน มันทำให้เราโง่ ไปที่ร้านขายตุ๊กตา ชี้ให้ดูว่า ทั้งหมดที่ทำให้เราอยากได้ต้องซื้อนั้น มันมีไว้สำหรับทำให้เราโง่ ซื้อมาเล่นมาทำอะไร มันไม่ได้ทำให้ฉลาดขึ้น เอาไว้เต็มบ้านเต็มเรือนของเล่น มันก็ด้อยค่า ทำให้โง่ มีบ้างก็ได้แต่อย่าทำให้โง่ มีสิ่งที่ไม่ทำให้โง่ดีกว่า พ่อแม่ชอบให้เด็กมีของเล่นแพงๆ เพื่อที่จะได้อวดผู้อื่นว่าลูกของเรามีของเล่นดีๆ มันโง่ตรงที่พ่อแม่ ลูกมันก็เลยโง่ด้วย เราต้องมีสิ่งที่มีประโยชน์ดีกว่า ไม่ต้องมีตุ๊กตาหรือเครื่องแต่งตัวเป็นตู้ๆ ไม่ต้อง เรามีสิ่งที่มีประโยชน์มากเป็นตู้ๆดีกว่า ไว้ให้เด็กๆ บางอย่างที่เราชอบคือสิ่งทำให้เราโง่ เรามีสิ่งที่ทำให้เราฉลาดและดี นี้เรียกว่าสมบูรณ์ เกิดมาครั้งหนึ่งเราถูกต้องหมด และลูกหลานของเราในอนาคตก็ถูกต้องด้วย แล้วมันจะสืบสกุลได้แน่นอน ทั้งหมดนี้สำเร็จประโยชน์ได้เพราะเราบังคับจิตใจ บังคับตัวเราให้อยู่ในความถูกต้อง ก็คือพระธรรมนั่นเอง มีพระธรรมก็คือมีความถูกต้อง พระธรรมนั่นแหละเป็นของประเสริฐ ช่วยให้พ้นทุกข์ ให้รอดจากความทุกข์ การแนะนำพระธรรมให้ก็เหมือนกับการรดน้ำมนต์ ให้มีแต่ความสุขความเจริญ เรื่องรดน้ำมนต์ด้วยน้ำ มันสำหรับคนปัญญาอ่อน มันทำให้ดีกว่านี้ไม่ได้ ฉะนั้นเราจึงไม่ชอบทำ เราก็รดน้ำมนต์ด้วยธรรมะ น้ำมนต์คือธรรมะ ที่รดธรรมะลงไปในจิตใจนี้เราเรียกว่ารดน้ำมนต์ จะพรมน้ำมนต์มันก็ได้เหมือนกันไม่ได้ยากอะไร แต่มันรดกันมาก รดกันจนเฟ้อ ไม่ดีกว่าเดิม ให้ช่วยกันรดน้ำมนต์ทางจิตใจดีกว่า หัวใจมันจะเย็นตลอดกาล ที่รดน้ำมนต์มันก็เย็นที่ผิวหนังที่ร่างกาย ใจอาจจะไม่เย็น มันก็เย็นทางกาย รดด้วยพระธรรมมันก็เย็นทางจิตใจ ทางวิญญาณ ให้ทุกคนมีความเยือกเย็นทางกาย ทางใจ แล้วเรามีชีวิตที่เยือกเย็นนั้นคือพระนิพพาน นิพพานแปลว่าเย็น ให้เรามีชีวิตที่เย็นทางฝ่ายกายและทางฝ่ายใจ เรื่องก็จบ เกิดมาชาติหนึ่ง ได้เท่านั้นก็พอ นิพพานแปลว่าเย็น ชีวิตก็เย็นคือนิพพานในโลก พูดเดี๋ยวเดียวก็จบ แต่ปฏิบัติจนตายก็ไม่จบ มันยาก ถ้ามันแจ่มแจ้งอยู่ในใจก็รอดตัว ถ้าไม่เท่าไหร่ลืมหมดๆไปตามกิเลสก็ไม่รอด ทุกเช้าทุกค่ำนึกถึงบิดามารดา ครูบาอาจารย์ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ไว้ ครั้งหนึ่ง ทุกวัน ทุกเช้าทุกค่ำ นึกถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ เคยสอนอย่างไร ครูบาอาจารย์เคยสอนอย่างไร บิดามารดาหวังอย่างไร นึกไว้ทุกวันแล้วมันคุ้ม มันดึงไว้ไม่ให้ไปทำผิดๆ นี่เป็นแบบของบัณฑิตแต่โบราณ เขาไม่ให้ทำผิดเพราะนึกอยู่เสมอ เป็นเรื่องที่ถูกต้อง ถ้ากินเหล้าเมาทั้งวันทั้งคืนจะนึกอะไรได้ ไปกินเหล้าเมา กลับมาบ้านก็เมา นอนก็เมา ตื่นมาก็เมา แล้วจะนึกอะไรได้คนแบบนี้ ลองดู ไม่มีทาง นึกให้ถูกต้อง ไม่รู้สึกผิดชอบชั่วดี มันก็เป็นคนตายแล้ว คนบ้าแล้ว เราไม่ต้องมีแบบนั้น ไม่ต้องบ้า ไม่ต้องเมา มีสติสัมปชัญญะแจ่มใสอยู่เสมอ ทำงานสนุก สนุกในการทำงาน พอใจเมื่อได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง หลักใหญ่หัวใจอยู่ตรงนี้ นึกถึงธรรมะ หลักสำคัญที่สุด และเป็นการนึกถึงบิดามารดา ครูบาอาจารย์ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อยู่ด้วยเสมอ นี้เป็น อันว่าเราได้ลาสิกขา อย่างภิกษุจะมีสมาทานสิกขาอย่างฆราวาส คฤหัสถ์ครองเรือน สมาทานศีลเป็นประจำ ปฏิบัติธรรมะเป็นประจำ ต่อไปนี้ขออย่าให้มีความผิดพลาด คือให้พร ต่อไปนี้ขออย่าให้มีความผิดพลาด ให้มีความถูกต้องด้วยสติสัมปชัญญะปัญญา มีพระธรรมอยู่เสมอๆ ตัวตาย ร่างกายตาย ตัวไม่ตาย เป็นธรรมะอยู่เสมอ ถ้าหากไม่ลืมถ้อยคำที่พูดในวันนี้ เป็นอันว่าหมดปัญหาแน่นอน นี้เรื่องเบ็ดเตล็ดก็มีบ้างที่ว่าเราได้บวชแล้ว จะไปว่านะโมก็ไม่ค่อยจะถูกอีก ว่าศีล๕ ก็ไม่ถูก ศีล๘ ก็ไม่ถูก พอเขาให้อาราธนาก็ทำไม่ได้ ไม่ดีแบบนั้น ไปทำเสียใหม่ อาราธนาศีล อาราธนาธรรมเสียให้ถูกต้อง อย่าเห็นว่าเป็นเรื่องไม่ทันสมัย ทันสมัยเกินไปมันก็บ้า เรื่องที่อยู่ในระดับที่ต้องรู้ต้องทำได้ทำให้ได้ ตั้งนะโมให้ถูกต้อง อาราธนาศีล อาราธนาธรรมให้ได้ เป็นผู้นำในพิธีศาสนาเล็กๆน้อยๆได้ เป็นอุปกรณ์อันหนึ่งที่เรียกร้องความนับถือ ความไว้ใจจากคนรอบข้าง ถ้าว่าบูชาสักการะก็ไม่ถูก ถือว่ากูเป็นข้าราชการแล้ว อยู่ในระดับสูงแล้ว แต่ว่าก็ไม่ถูก แล้วก็ไม่อาย เป็นหัวหน้าแต่ว่านะโมก็ไม่ถูก บูชาพระรัตนตรัย ถวายดอกไม้ธูปเทียนก็ไม่ถูก นั่นเข้าใจผิด เป็นหัวหน้านำได้ทางการงานในอาชีพราชการ ก็ต้องนำในเรื่องเหล่านี้ได้ อาราธนาศีลได้ ว่านำบูชาได้ ให้ลูกน้องนับถือได้ อนุสรณ์การบวชคือจีวร เราเคยเห็นเขาทำไว้ดีมาก เขาเอาไว้บูชาคือเตือนว่าได้บวชแล้ว เราได้บวชแล้ว เตือนดี ผู้ที่มีสติปัญญาเขาเก็บใส่ตู้ไว้เตือนตัวเอง หรือไว้ให้ลูกหลานบูชา ให้ลูกหลานอยากบวชบ้าง อย่าให้บอกว่าใคร คนใหญ่คนโต แต่เราเลื่อมใส เราไปเห็นแล้วเลื่อมใสเลยมาบอก พระที่สึกทำแบบนั้นบ้างก็จะดี บางคนเอาไปทิ้งๆขว้างๆไม่มีความหมาย ผ้ากาสาวพัสตร์เป็นธงชัยของพระอรหันต์อุปัชฌายะให้ในนามของพระพุทธเจ้า อย่าเอาไปทิ้งๆขว้างๆ เราควรทำให้ดี รักษาไว้ให้สะอาด ให้มันอยู่ตลอดกาล เรารักชอบของอะไรมาก หนังสือหนังหาตำหรับตำราเราชอบมากเล่มไหนเราก็รักษาไว้ ผ้าไตรนี้ก็เหมือนกันควรจะอยู่ในสภาพเช่นนั้น มันจะเตือนจิตใจให้กลัวบาป ให้นึกถึงธรรมะที่สุดเลย จะมีอิทธิพลมากกว่ารูปถ่ายอีก รูปถ่ายบางทีมันโก้ๆดี แต่ไม่เตือนใจรุนแรงเหมือนผ้าไตร ทำให้สะอาด เรามาดูมาแลอยู่บ่อยๆ ถึงเวลาก็ต้องจัดการ พินิจพิจารณาเตือนตนว่าได้บวชแล้ว เป็นอันว่าการลาสิกขาบทของเรา ทำแล้วเสร็จสิ้นแล้ว นี้เป็นการลาสิกขาบทที่สำเร็จประโยชน์ เหมือนที่ว่ามานี้ นี้อย่าทำเล่น พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อย่าทำเล่น บูชาแล้วบูชาให้จริงๆ ทำเล่นเป็นเรื่องของกิเลส มันไม่ชอบ มันก็ทำเล่นๆ เอาไปทำให้มันมีประโยชน์ ให้สำเร็จประโยชน์ กรวดน้ำ กราบ เสร็จพิธีไปได้ ธรรมเนียมโบราณ สึกแล้วเขารับใช้พระอยู่เจ็ดวันบ้างสามวันบ้าง อย่างน้อยหนึ่งวัน เพื่อให้ไม่ลืม