แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
อาตมาภาพขอแสดงความยินดีในการมาของท่านทั้งหลายถึงที่นี่และได้มาพบปะกันในลักษณะอย่างนี้ และมีความยินดีที่ว่าท่านทั้งหลายขอให้กล่าวอะไรบางอย่างที่จะเป็นประโยชน์แก่ท่านทั้งหลายด้วย อาตมาก็ไม่มีเรื่องอะไรที่สนใจนอกไปกว่าเรื่องการกลับมาแห่งศีลธรรมเรื่องเดียวเท่านั้น และก็มีปัญหามากไม่รู้จักสิ้นสุด ศีลธรรมหายไปจากมนุษย์ ถ้ากลับมามันก็หมายความว่า เราก็จะมีศีลธรรมกันอย่างเป็นที่น่าพอใจ เดี๋ยวนี้ศีลธรรมที่บุคคลมันหายไปก็เกิดความยุ่งยากลำบากเดือดร้อนที่เรียกกันว่า วิกฤติการณ์ เพราะว่าอันธพาลเพิ่มจำนวนมากนัก นี่คือ ปัญหาที่มีอยู่จริงในโลกในเวลานี้ ขอให้เพ่งดูข้อเท็จจริงอันนี้ให้เป็นที่ประจักษ์ มันถูกต้องชัดเจนและเราก็จะได้เคลื่อนไหว หรือว่าใช้กำลังกาย กำลังใจ กำลังสติปัญญาให้เป็นประโยชน์ อย่าให้การกระทำนั้นมันสูญเปล่า เสียเปล่า ทั้งเวลา ทั้งเงิน ทั้งทอง ทั้งเรี่ยวแรง ให้เป็นประโยชน์แก่สันติสุข และสันติภาพของบ้านเมืองหรือของโลกก็ว่าได้
เดี๋ยวนี้เราดูกันกว้างๆ ทั่วๆ โลกก็ได้ และดูได้ง่ายเพราะว่ามีการสื่อสารที่สมบูรณ์ ประเทศไทยก็เป็นประเทศเล็ก ถ้าพูดด้วยภาษาตรงไปตรงมาก็ว่าเป็นประเทศตามก้น ไม่ใช่ประเทศผู้นำ อะไรๆ ก็ล้วนแต่ตามก้นชาติใหญ่ๆ ที่เขาเป็นผู้นำ นี่มันก็ต้องดูด้วยเหมือนกัน เดี๋ยวนี้ในโลกนี้มีการศึกษาชนิดที่อาตมาเรียกว่า การศึกษาระบบหมาหางด้วน คือว่า สอนกันแต่หนังสือและอาชีพเท่านั้น ขอให้สังเกตดูให้ดีว่าโรงเรียนตั้งแต่ระดับต่ำสุดถึงสูงสุดเป็นมหาวิทยาลัย มันก็เรียนแต่หนังสือกับวิชาชีพ ไม่มีเรื่องธรรมะ เขาเอาเรื่องของศาสนาไปเป็นแขนงเล็กๆ ของหน้าที่พลเมือง นี้มันดูหมิ่นศาสนามากเกินไป มันก็เกิดการบกพร่องขึ้น มันก็เกิดการเสื่อมทางศีลธรรม สมน้ำหน้าคนโง่ที่ไม่ให้ความจำเป็นกับสิ่งที่เรียกว่าศาสนาหรือพระธรรมให้เพียงพอกัน
มีสอนธรรมะหรือศีลธรรมบ้างในโรงเรียน มันก็สอนแต่เพียงให้รู้ ให้เรียนรู้ จำได้ สอบได้ แต่มันไม่ได้ผล คือ คนไม่มีศีลธรรม ลูกเด็กๆ เยาวชนของเรารู้ธรรมะแต่ไม่มีธรรมะ ขอได้ช่วยตั้งข้อสังเกตข้อนี้ให้ดีเป็นพิเศษว่า เขารู้ธรรมะแต่เขาไม่มีธรรมะ และก็ไม่เป็นแต่ลูกเด็กๆ เท่านั้นแหละ คนทั่วๆ ไปมันก็เป็น รู้ธรรมะ พูดธรรมะกันมาก แต่ไม่มีธรรมะในตัวบุคคลนั้นๆ บุคคลเหล่านั้นไม่กลัวบาป รู้อยู่ว่าบาปเป็นอย่างไร แล้วมันก็ไม่กลัวบาป มันจึงทำบาป ทั้งที่รู้อยู่ว่านี่เป็นบาป เหมือนกับคนรู้กฎหมาย มันไม่ได้รู้กฎหมายเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย มันรู้กฎหมายเพื่อจะฝ่าฝืนกฎหมาย หาช่องทางออกสำหรับประพฤติทุจริตเป็นประโยชน์แก่ตัว เรียกว่า รู้กฎหมายเพื่อทำสิ่งตรงกันข้ามกับเจตนารมณ์ของกฎหมาย
จงดูให้ดีว่า เยาวชนของเรานี้กำลังรู้ธรรมะอย่างวิชาความรู้ แต่ไม่มีธรรมะอย่างที่เขาจะต้องมีหรือต้องเป็นตามหลักของศาสนา เด็กๆ รุ่นหลังนี้จึงมีปัญหาชนิดที่ไม่เคยมีมาแต่ก่อน การแต่งเนื้อแต่งตัว กริยามารยาท การประพฤติกระทำเป็นปัญหาไปหมด ไม่เหมือนกับในโรงเรียนหรือนักเรียนสมัยก่อน นี่ก็เพราะว่ามันเรียนแต่หนังสือกับวิชาชีพ ไม่ได้เรียนธรรมะให้เพียงพอ ถ้าจะเรียนบ้าง ก็ไม่ได้เป็นไปเพื่อให้รู้ธรรมะ ท่านก็คงทราบกันอยู่ดีแล้วว่า ก็มีหลักสูตรธรรมะหรือศีลธรรมหรือศาสนาในลักษณะที่ปันส่วนกันอย่างไร เรียกว่า มันน้อยมาก ให้ความสำคัญน้อยมาก คะแนนก็น้อยมาก เด็กๆ ก็ไม่ค่อยสนใจ อย่างนั้นก็ยังมีการเรียนอยู่บ้างอย่างขอไปที นี่เรียกว่า ไม่มีธรรมะในหมู่นักเรียนของเรา เขารู้หนังสือและรู้อาชีพแต่ไม่มีธรรมะเพื่อความเป็นมนุษย์ให้ถูกต้อง
นี่แหละ คือ ลักษณะที่เรียกว่าระบบการศึกษาชนิดหมาหางด้วน เพราะว่าเราไปตามหลัง ตามก้น ชนชาติใหญ่ๆ ที่เป็นมหาประเทศที่เขาเริ่มเอาศาสนาออกไปจากการศึกษา บางประเทศถ้าสอนศาสนาในโรงเรียนถือว่าผิดกฎหมาย ให้ศาสนาเป็นเรื่องส่วนตัวบุคคล อยากรู้ก็ไปหารู้เอาเอง ไม่สอนในโรงเรียนหรือในมหาวิทยาลัย เราไปตามก้นเขา ก็ได้ระบบการศึกษาที่ไม่มีธรรมะหรือศาสนาอยู่ในระบบการศึกษาพลอยเป็นหมาหางด้วนตามๆ กันไป
หมาหางด้วนในนิทานสุภาษิตหรือนิทานอีสปก็ลืมไปแล้ว มันเผอิญหางด้วน มันก็ไปหลอกเพื่อนว่า หางด้วนนี้ดี ให้ช่วยกันตัดหางตามๆ กันไป นี่ประเทศชาติใหญ่ๆ ที่เขากันศาสนาออกไปจากการศึกษาแล้วบอกว่าดี ประเทศเล็กๆ ก็ตามก้นเหมือนตัดหางตามหมาหางด้วนตัวแรก นี่ทั้งโลกกำลังเป็นอย่างนี้
ขอให้ช่วยคิดดูว่าเด็กๆ ของเราจะรู้แต่หนังสือและวิชาชีพ ไม่รู้ธรรมะสำหรับความเป็นมนุษย์ที่ถูกต้อง นี่ปัญหามีอยู่อย่างนี้ เดี๋ยวนี้ เวลานี้ และถ้าปล่อยไว้อย่างนี้ มันก็จะหนักขึ้นๆ คือ เยาวชน นักเรียน นักศึกษาของเรารู้ธรรมะไม่พอ ไม่สามารถจะบังคับตัวเองให้มีธรรมะจึงมีอันธพาลในโรงเรียน ในโรงเรียนจะกลายเป็นที่ประพฤติอาชญากรรม ตีรัน ฟันแทง ขว้างระเบิด ชกต่อย สนามกีฬากลายเป็นที่เพาะอันธพาล สร้างนิสัยสันดานแห่งความเห็นแก่ตัว ตรงกันข้ามกับเรื่องนักกีฬาที่ว่าจะมีน้ำใจเป็นนักกีฬา ให้อภัยได้ ไม่เห็นแก่ตัว เดี๋ยวนี้มันมีโกงกันในสนามกีฬา มีช่องทางจะโกงกันได้ที่ไหน อย่างไร มันก็โกงกันที่นั่น ในสนามกีฬาซึ่งมีเจตนารมณ์จะฝึกหัดไม่ให้โกง ให้อภัย ให้เป็นผู้ที่ให้อภัยหรือยอมได้โดยไม่ต้องให้เกิดเรื่อง
สอนกันอย่างไรจนเด็กๆ นิยมยาเสพติด เป็นความบ้า ความเลวของพ่อแม่หรือของครูบาอาจารย์ชนิดไหนกันที่เด็กๆ นิยมยาเสพติด ให้มันเรียนอย่างไร เรียนจบให้มันชอบยาเสพติดหรือไปลองยาเสพติดและติดยาเสพติด ยาเสพติดที่กำลังเป็นปัญหาทั้งโลกนี้ ไปขายยุวชนทั้งนั้นเป็นส่วนใหญ่ ไปขายยุวชนในโลกทั้งโลก ยุวชนเหล่านี้เขาเรียนกันมาอย่างไร ได้รับการศึกษามาอย่างไร มันจึงบูชายาเสพติดได้ อาตมาคิดว่า ระบบการศึกษาหมาหางด้วนนั่นเอง มันไม่ทำให้เด็กๆ รู้จักเกลียดกลัวยาเสพติด เด็กๆ ยุวชนเป็นอันมากซื้อยาเสพติด มันก็ขายได้ เมื่อขายได้ มันก็มีคนทำขึ้น มันก็มีคนผลิตขึ้นมามากมายเพราะว่ามันขายได้ ถ้าครูสอนให้เด็กๆ หยุดยาเสพติดได้ ไม่มีคนซื้อยาเสพติด ยาเสพติดมันก็หยุดเอง หมดเอง ยกเลิกกันไปเอง ไม่ต้องเสียเวลา ลำบากลำบนจนเป็นงานชิ้นระดับโลก การกวาดยาเสพติดนี้เป็นงานระดับโลก นี่เป็นเรื่องบ้าของมนุษย์ให้การศึกษาหมาหางด้วนไม่พอ ให้ยุวชนของเรานิยมยาเสพติด
ถ้าบิดามารดาครูบาอาจารย์อบรมเพียงพอ เยาวชนไม่ยอมรับยาเสพติด มันก็ขายไม่ได้ มันก็หยุดชะงักทันที มันก็ไม่มีใครผลิต ปัญหายุ่งยากลำบากเรื่องยาเสพติดมันก็ไม่ต้องมี นี่การศึกษาไม่สมบูรณ์ บาปกรรมมันจึงลงโทษให้มนุษย์ต้องลำบากกันอย่างนี้ ทีนี้อยากจะขอให้สนใจในข้อที่ว่า ระบบการศึกษาที่ให้เรียนแต่หนังสือกับวิชาชีพ รู้สองอย่างนี้ไม่เป็นมนุษย์ที่ถูกต้องเพราะไม่มีธรรมะ ที่หวังอยู่ก็แต่กิจกรรมลูกเสือ ถ้ากิจกรรมลูกเสือไม่ทำกันแต่ปาก ทำกันได้จริง มีผลจริง มันจะชดเชยในส่วนนี้ได้ คือ อบรมเด็กๆ ให้มีศีลธรรม ขอย้ำกันปนกันยุ่งอีกทีหนึ่งว่า ในโรงเรียนให้เรียนแต่หนังสือกับวิชาชีพ ยังเป็นช่องโหว่อยู่ในข้อที่ไม่มีศีลธรรม ไม่มีนิสัยสันดานที่ประกอบด้วยธรรมจะเป็นมนุษย์ที่ดี
ทีนี้ก็มีทางเหลืออยู่ทางหนึ่งว่า ถ้ากิจกรรมลูกเสือจะสอดแทรกเข้ามาในส่วนนี้ คือ ทำให้เด็กมีศีลธรรม จะทำให้หมามีหางไม่ด้วนได้ มีเรื่องของศีลธรรมเข้ามาเต็มที่โดยกิจการของลูกเสือ ถ้าศีลธรรมยังไม่กลับมา การศึกษาก็ยังเป็นระบบหมาหางด้วนอยู่เพียงนั้น จึงหวังว่า ท่านที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมลูกเสือควรจะมองเห็นความสำคัญข้อนี้ ความเป็นความตายของประเทศชาติมันอยู่ที่ตรงนี้ คือว่า เด็กๆไม่มีศีลธรรม เราใช้กิจกรรมของลูกเสือทำให้เด็กๆ เขามีศีลธรรม ข้อนี้มันไม่ยาก ไม่ลึกซึ้ง ไม่ลำบาก ไม่เป็นปัญหาอะไรเลย ขอให้ท่านดูหลักการของลูกเสือที่มุ่งหมายจะอบรมเด็กให้เป็นอย่างไร อบรมยุวชนให้เป็นอย่างไรหรือคนโตๆ ให้เป็นอย่างไร มันก็เป็นเรื่องศีลธรรมทั้งนั้นแหละ อาตมาเคยเอามาเทียบกันดูว่า
หลักวิชาสำหรับอบรมลูกเสือมันได้แก่ ธรรมะข้อนั้นๆๆ ในพระพุทธศาสนาครบถ้วน นับตั้งแต่การเสียสละ การซื่อตรง การเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ การบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ และนี่เป็นหลักธรรมะสำคัญในพระพุทธศาสนาและในศาสนาอื่นๆ ถ้าเราทำให้ลูกเสือของเรามีการประพฤติกระทำที่สมบูรณ์ อบรมให้มีนิสัยเช่นนี้ขึ้นมา ลูกเสือนั่นแหละจะเป็นองค์การแห่งศีลธรรที่ทำให้ยุวชนมีศีลธรรมตามความมุ่งหมายของศาสนาทุกศาสนา
อยากจะพูดถึงคำพูด ๒ – ๓ คำที่สำคัญว่า ที่สำคัญที่สุดที่ควรจะถือเป็นหลักว่า เขาจะต้องรู้จักตัวเอง เขาจะต้องเคารพตัวเอง เขาจะต้องบังคับตัวเอง ซึ่งเป็นหัวใจของลูกเสือ เขาจะต้องรู้จักตัวเอง คือ ศักดิ์ศรีของลูกเสือ ซึ่งเลวไม่ได้และจะต้องเชื่อตัวเองว่า เราต้องทำได้ ไม่ใช่พูดกันแต่ปากแล้วก็บังคับตัวเองให้ทำให้ได้ตามหลักการนั้นๆ ในที่สุดเราก็เคารพตัวเองว่า เราทำได้ ถึงขนาดที่ว่ายกมือไหว้ตัวเองได้ว่า ตัวเองนี้มันช่างมีความดีความงามอย่างครบถ้วน นี่จะต้องรู้จักตัวเอง จะต้องเชื่อตัวเอง จะต้องบังคับตัวเอง แล้วเคารพตัวเองได้ในที่สุด เพียงเท่านี้ก็เป็นความสมบูรณ์แห่งศีลธรรมทุกแขนง
อาตมาเคยพูดอย่างนี้ หวังอย่างนี้ว่า กิจกรรมลูกเสือจะช่วยแก้ไขการศึกษาระบบหมาหางด้วนได้ เพื่อให้เกิดเป็นการศึกษาที่สมบูรณ์ขึ้นมา หนังสือก็รู้ อาชีพก็มี ศีลธรรมก็ดี คือ เป็นมนุษย์ที่ถูกต้อง นี่การศึกษาที่สมบูรณ์ เดี๋ยวนี้ศีลธรรมของเด็กๆ มันหายไปๆ อย่างที่ปรากฏอยู่ในประจักษ์พยานหลักฐานต่างๆ โดยเฉพาะในหน้าหนังสือพิมพ์ไปดูเถอะ เด็กๆ ของเรากำลังอันธพาลมากขึ้นแล้วก็จะมากขึ้น ในโรงเรียนนั่นเองยังมีการประพฤติที่เรียกว่า ไม่ใช่มนุษย์ ในมหาวิทยาลัยก็ยังมีข่าวว่า นักศึกษาฉุดสตรีไปทำความเลวทรามกันที่นั่นในมหาวิทยาลัย นี่มันไม่เคยมีอย่างนี้ในกาลก่อน
ขึ้นชื่อว่านักเรียนมันแต่งตัว รู้ว่านี่เป็นนักเรียน เป็นนักเรียนในโรงเรียน มันก็ต้องมีเครื่องแบบ มีเครื่องหมาย ตัดผมตัดเผ้าเรียบร้อย เนื้อตัวเรียบร้อย ส่วนเดี๋ยวนี้นักเรียนนักศึกษานั้น ผมเป็นเซิง แต่งตัวปอนๆ ไม่รู้ว่าคนบ้าหรือคนดี ลองเปรียบเทียบกันดูอย่างนี้ ดังนั้น ก็มีโอกาสทำอะไรอย่างไม่มีศีลธรรมได้มากขึ้น นั่นก็เกิดเป็นความนิยมตามๆ กันมา ไม่มีใครละอายใคร โรงเรียนนี้เป็นได้ โรงเรียนโน้นก็เป็นได้ มหาวิทยาลัยนี้เป็นได้ มหาวิทยาลัยโน้นก็เป็นได้ ความเลวทรามทั้งหลายก็เต็มไปหมด ในโรงเรียน ในวิทยาลัย ในมหาวิทยาลัย แล้วก็เป็นกันมากขึ้นๆ จะเป็นกันทั้งโลกด้วยซ้ำไป ก็ได้แต่หวังอยู่ว่าต้องช่วยกันให้ศีลธรรมกลับมา ในหลายๆ วิธีนั้น อาตมาเชื่อว่า วิธีการลูกเสือนี่ก็เป็นวิธีการอันหนึ่งที่จะช่วยให้ศีลธรรมกลับมา เพราะว่าลูกเสือไม่ต้องเรียนหนังสือ ไม่ต้องเรียนวิชาชีพอะไรมากมายนัก แต่เรียนใน คือ อบรม ใช้คำว่า อบรม มากกว่า อบรมสปิริตของลูกเสือให้เป็นมนุษย์ที่ดี เป็นสุภาพบุรุษที่ไว้ใจได้ ที่ไม่มีอันตรายเท่านี้มันก็พอแล้ว
การศึกษาที่สูงสุดในโลก เมื่อหลายสิบปีมาแล้ว ผู้ที่ไปเรียนเคมบริดจ์หรือออกซ์ฟอร์ดมาเขามาเล่าให้ฟังว่า ไม่ต้องการอะไร เรียนจบเพื่อความเป็นสุภาพบุรุษจะได้ดีกรีนั่น ดีกรีนี่ ไม่มีใครสนใจ วิชาอะไร ดีกรีอะไรก็ไม่มีใครใคร่สนใจ เขาสนใจแค่ว่าคนเรียนจบแล้วต้องเป็นสุภาพบุรุษ นั่นแหละสิ่งที่ต้องการ เป็นจุดสูงสุดของการศึกษา เป็นสุภาพบุรุษ มีน้ำใจนักกีฬา ไว้ใจได้ ไม่มีอันตราย เป็นคนซื่อตรง น่าเคารพนับถือ ไม่เป็นพิษเป็นภัยแก่ผู้ใด เดี๋ยวนี้การศึกษาระบบนั้นก็หายไปแล้ว ที่เคยมีนั้นก็หายไปแล้วเป็นเหมือนๆ กันไปทั้งโลก เพียงแต่ให้ได้ความรู้มีปริญญายาวเป็นหางก็พอแล้ว ความเป็นสุภาพบุรุษไม่มีเหลืออยู่ โลกจึงเป็นอย่างนี้
โลกนี้ก็กลายเป็นที่อยู่ของบุคคลที่เห็นแก่ตัว ไม่ถือศาสนา ไม่ถือพระเจ้ายิ่งขึ้นทุกที บูชาประโยชน์ อะไรเป็นประโยชน์แก่กิเลสของตนก็เอาอันนั้นแหละเป็นสิ่งสูงสุด ที่เคยบูชาพระเจ้าก็เปลี่ยนมาบูชากามารมณ์ บูชาเงิน บูชาอำนาจวาสนา ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับเสาะแสวงหาปัจจัยแห่งกามารมณ์ โลกนี้เป็นอย่างนี้ ก็ดูเถอะ ตรวจดูให้มากๆ พิเคราะห์ดูให้มากๆ มันกำลังเป็นอย่างนี้
องค์การโลกก็ช่วยไม่ได้ องค์การโลกไม่ทำให้มีสันติภาพได้ มีแต่ให้เกิดการแย่งชิง ฉวยโอกาสที่จะเอาเปรียบกันในที่ประชุมองค์การโลกเท่านั้น มีเท่านั้น เป็นเรื่องให้ทะเลาะเบาะแว้งไม่มีที่สิ้นสุด มันก็ทำให้โลกนี้มีสันติภาพไม่ได้ องค์การโลกอย่างนี้ไม่ทำให้โลกนี้มีสันติภาพได้ มีองค์การโลกอย่างนี้สัก ๑๐ องค์การ ๑๐๐ องค์การ โลกนี้ก็ไม่มีสันติภาพได้ เพราะมันไม่มีศีลธรรม ไม่เป็นที่ตั้งแห่งศีลธรรม ฉะนั้นเราหวังให้กิจกรรมที่เป็นที่ตั้งแห่งศีลธรรมกันดีกว่า เช่นกิจกรรมลูกเสือดังที่กล่าวมาแล้ว
เมื่อสักครู่ก็พูดว่า ขออย่าเป็นลูกเสือกันแต่ปากหรือเป็นลูกเสือเหมือนกับสัตว์ป่า คือ เป็นลูกด้วย ยังไม่เก่ง ขอให้เล็งถึงคุณธรรมที่เขาเอาคำว่า ลูกเสือ มาใช้เป็นสัญลักษณ์นี้ ก็เพื่อเล็งถึงคุณธรรม ที่กล้าหาญ เข้มแข็ง บึกบึน รู้จักตัวเอง เชื่อตัวเอง บังคับตัวเอง เคารพตัวเองอย่างเฉียบขาด นั่นแหละคือ คุณธรรมของลูกเสือ ถ้าเราทำให้ลูกหลานของเราเป็นลูกเสือได้อย่างนี้จริง เขาก็จะมีศีลธรรมสมบูรณ์ การศึกษาก็สมบูรณ์ ถ้าไม่อย่างนั้นแล้ว ลูกเด็กๆ ของเราจะกลายเป็นอันตราย เป็นเสือป่าเลวร้ายที่จะทำอันตรายกันเองขึ้นมาในอนาคต เพราะว่าเขาไม่มีศีลธรรม
ท่านทั้งหลายก็คงจะรู้ว่า ตามสถิตินั้นเด็กจบม.ศ.๕ ของเราทั้งประเทศปีหนึ่งตั้ง ๒๐๐,๐๐๐ คนเศษจบม.ศ. ๕ เศษของ ๒๐๐,๐๐๐ ที่ได้เรียนสูงขึ้นไป อีกทั้ง ๒๐๐,๐๐๐ นั้นไม่ได้เรียน แล้วเขาเรียนมาแต่ความรู้และอาชีพมากเกินไป ไม่ประสบโอกาส ไม่ประสบช่องทางที่เขาจะหาเงินหาทองตามชอบใจได้ เขาก็ต้องคดโกงและเป็นอันธพาล คน๒๐๐,๐๐๐ คนเป็นอันธพาลจะเป็นอย่างไรบ้าง เขาเคยเล่าเรียนฉลาดมาแล้ว เป็นอันธพาลฉลาดนี้ปราบยาก ปีหนึ่ง ๒๐๐,๐๐๐ คน ถ้า ๑๐ ปีมัน ๒,๐๐๐,๐๐๐ คน เรามีหวังที่จะได้ผู้ไม่บังคับตัวเอง ไม่มีศีลธรรม เรียนระบบการศึกษาแบบหมาหางด้วนมานี่ในอนาคตจะเป็นอย่างไร ขอให้สนใจว่า จะเตรียมกิจกรรมลูกเสือไว้ต้อนรับ ไว้แก้ไขนิสัยสันดานที่เป็นอันธพาลนั้นของลูกเด็กๆ ของเรา ช่วยไปเติมให้ในส่วนที่มันยังขาดอยู่ คือ การศึกษาที่ ๓
การศึกษาที่ ๑ คือ รู้หนังสือ เป็นพุทธิศึกษา การศึกษาที่ ๒ อาชีพ นั่นคือ หัตถศึกษา พละศึกษา แต่ส่วนจริยศึกษานี่มันไม่มี มันยังขาดอยู่ โอนมาให้กิจกรรมของลูกเสือมาช่วยทำให้มันมี และเขาก็จะมีระบบการศึกษาครบถ้วน ลูกหลานของเราก็จะเป็นมนุษย์ที่ดีสมกับที่ว่ามันเป็นลูกหลานของบิดามารดาที่เป็นพุทธบริษัท นี่เรื่องที่เป็นปัญหามันมีอยู่อย่างนี้ อาตมาไม่ได้สนใจเรื่องอื่น สนใจเรื่องนี้ และสนใจว่าเมื่อไหร่เราจะแก้ไขปัญหานี้ได้โดยทำให้ศีลธรรมกลับมา ท่านทั้งหลายก็เป็นครู เป็นหัวหน้าบังคับบัญชาลูกเสือ ส่วนมากตามปกติก็เป็นครู ก็ต้องรู้จักเรื่องการศึกษาของลูกเด็กๆ ดี ว่าเขามีการศึกษาที่ยังโหว่อยู่ส่วนหนึ่งคือทางศีลธรรมหรือหาไม่ ถ้ามันยังโหว่อยู่ ขาดการศึกษาที่ ๓ อยู่ก็ช่วยไปทำให้มันเต็ม ช่วยกันทำให้เยาวชนของเรามีศีลธรรมเท่านั้นแหละ จะอยู่กันเป็นผาสุกในอนาคตข้างหน้า แล้วก็ยิ่งน่าเป็นห่วง เพราะว่าถ้าปล่อยให้โลกร้ายมันระบาดกว้างขวางลงรากลึกแล้วมันปราบยาก โรคขาดศีลธรรมที่จะครอบงำยุวชนลูกเด็กๆ ลูกหลานของเรานั้น มันได้ตั้งเค้าขึ้นมาแล้ว มันกำลังแผ่กว้าง มันกำลังลงรากลึก ขอให้ช่วยกันป้องกันและแก้ไข
สำหรับเรื่องกีฬา ถ้าถือเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมลูกเสือก็ได้ ขอให้มันกลายเป็นที่ปลูกเพาะนิสัยที่ไม่เห็นแก่ตัว ถ้าเป็นนักกีฬาจริงต้องไม่เห็นแก่ตัว ต้องให้อภัย ไม่มีคำว่า แก้แค้นหรือคดโกงในสนามกีฬา นี่ท่านไปดูเถอะ แม้ในสนามกีฬาที่แข่งขันกันระหว่างชาติ มันก็ยังมีอาการที่เรียกว่า คดโกงจนต้องไล่ออกจากสนามอยู่บ่อยๆ แล้วมันมีอาการที่เรียกว่า แก้แค้น เป็นอันธพาลอย่างเลว ในระดับกีฬาระหว่างชาติ มันยังมีการแก้แค้นไซร้ มันจะเป็นนักกีฬาได้อย่างไร ในความเป็นนักกีฬานั้น คือ เป็นนักธรรมะ ไม่มีความเห็นแก่ตัว ยอมรับความถูกต้องและก็ไม่มีคำว่าคดโกงหรือแก้แค้นที่ได้ยินว่าจะไปแข่งขันกีฬาหรืออะไรกันด้วย ก็ขอให้ช่วยสังเกตกันดูให้ดีด้วยทุกคน มันยังมีคำว่าแก้แค้นหรือคดโกงเหลืออยู่หรือหาไม่ ถ้ายังมีคำว่าแก้แค้น คดโกงเหลืออยู่ มันก็ไม่มีความเป็นนักกีฬา เสียเวลาเปล่าๆ เสียเงินเปล่าๆ เหนื่อยเปล่าๆ มาช่วยกันดูแล แก้ไขให้ศีลธรรมของลูกเด็กๆ ของเราดีขึ้นไป นั่นแหละจะแน่นอน เพื่อความปลอดภัยในการที่เป็นผู้ใหญ่ เช่น บิดามารดารับผิดชอบในลูก ในหลาน ในยุวชนของเราอันจะเติบโตต่อไปในภายหน้า
ทีนี้อาตมาก็ยังเหลืออยู่นิดที่จะบอกว่า ทำไมเราจึงไม่มีศีลธรรมทั้งที่รู้ศีลธรรม รู้ศีลธรรมแต่ไม่มีศีลธรรม เพราะว่าเพียงแต่รู้นั้น เราสอนเขาก็ได้ ให้ท่องก็ได้ เขียนหนังสือให้อ่านก็ได้ จำแล้วสอบไล่ก็ได้ สอบไล่นักธรรมก็ได้ ธรรมศึกษาฆราวาสก็สอบได้ สอบไล่ได้นักธรรมแต่ไม่มีธรรม เรียนธรรมะแต่ไม่มีธรรมะ นี่เพราะมันคนละเรื่องกัน ขอให้สังเกตดูให้ดีๆ ว่าการมีธรรมะกับการรู้ธรรมะนั้นไม่ใช่เรื่องเดียวกัน รู้ธรรมะ เรียนก็รู้ แต่มีธรรมะนี่มันต้องปฏิบัติ ต้องบังคับตัวให้ปฏิบัติ เดี๋ยวนี้คนมันไม่บังคับตัว มันชอบตามใจตัว ปล่อยตามอารมณ์ ปล่อยตามสบาย
บังคับตัว คือ บังคับกิเลส เขาไม่ชอบ คนมันชอบสนุกสนานเอร็ดอร่อยทางเนื้อทางหนัง พอบอกให้บังคับกิเลส มันก็ไม่เอา มันก็ไม่มีการบังคับตัว เมื่อไม่มีการบังคับตัว มันก็ไม่มีศีลธรรม ไม่มีการบังคับตัวแล้ว ศีลมันมีไม่ได้ เพราะศีลทุกข้อมันอยู่ที่การบังคับตัว ไม่ฆ่า ไม่ลัก ไม่ประพฤติผิดในกาม ไม่โกหก ไม่ดื่มน้ำเมา เหล่านี้มันอยู่ได้เพราะการบังคับตัว บังคับจิต เมื่อลูกเด็กๆ ของเราไม่นิยมการบังคับจิต เขาก็มีศีลธรรมไม่ได้
อีกอย่างหนึ่งเขาเป็นคนหน้าด้าน ไม่ละอาย ไม่มีหิริ ที่แปลว่า ละอายบาป ไม่มีโอตตัปปะ ที่เรียกว่า ความกลัวบาป เขาไม่ละอายบาป เขาไม่กลัวบาป
เด็กนักเรียนระดับกลาง ระดับสูงนี่ นักเรียนหนุ่มนักเรียนสาวกอดจูบกันบนรถไฟ คนแก่ๆ นั่งดูบนรถไฟนั่นแหละ แทบจะทุกขบวน ขอให้ไปดูเถอะนี่มันไม่มีหิริ มันไม่มีโอตตัปปะ มันเป็นคนหน้าด้าน มันไม่มีความละอาย มันไม่บังคับตัว ก่อนหน้านี้สัก ๑๐ ปียังไม่มีอาการอย่างนี้ ยังไม่มีนักเรียนหน้าด้านไม่บังคับตัวเช่นนี้ มันเพิ่งมีเมื่อสัก ๑๐ ปีมานี้ การศึกษามันเละลงๆ ก่อนหน้าโน้นมันไม่มีใครทำอย่างนั้นได้ โดยเฉพาะนักเรียนในเครื่องแบบนักเรียนทำไม่ได้ นี่ความเสื่อมของศีลธรรมมันอยู่ที่ไม่บังคับตัว อยู่ที่ไม่มีหิริ คือ ความละอายบาป ไม่มีโอตตัปปะ คือ ความกลัวบาป ๓ อย่างนี้ก็พอ พอขาดแล้ว มันก็ไม่มีธรรมะ ไม่มีศีลธรรม ฉะนั้นช่วยจำไปด้วย ว่าถ้าจะให้ลูกเด็กๆ ของเรามีธรรมะ มีศีลธรรม ต้องอบรมเขาให้บังคับตัว บังคับตัว คือ บังคับความรู้สึกที่มันอยากจะได้ อยากจะเอา โดยไม่ถูก ไม่ควรนั้นต้องบังคับ ให้มันละอายความชั่ว ให้มันกลัวความชั่ว ทุกอย่างเขาก็รู้อยู่แล้ว ว่าอะไรชั่ว อะไรบาป ถ้าเขาไม่บังคับและเขาไม่ละอายในเมื่อทำชั่ว มันก็ไม่มีศีลธรรมเหลือ
นี่เราสนับสนุนเขาให้ตามใจกิเลสเสียด้วยซ้ำไป การศึกษาสมัยใหม่นี้ไม่ให้บังคับตัว ให้ปล่อยตามอารมณ์ นี่มันบ้ากันถึงขนาดไหน การศึกษาสมัยใหม่นี้ ไม่ให้บังคับนั่น บังคับนี่ ให้ปล่อยไปตามอารมณ์ ครูจะตีเด็กสักทีหนึ่งก็ไม่ได้ นี่การศึกษาหมาหางด้วนเป็นอย่างนี้ ถ้าเรายังมีการทำผิดอยู่ในเรื่องนี้ เราก็ไม่มีหวังว่า ยุวชนของเราจะเป็นยุวชนที่ดีของชาติ เขาไม่บังคับตัวแล้วเขาก็เอาแต่กิเลส เขาจะไม่รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ได้ ถ้าว่าแต่ปากก็ได้แต่ใจจริงของเขา มันไปรักกิเลส ไม่อาจจะรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ได้เลย ขอให้ช่วยจดจำเอาไปด้วยว่า ถ้าอย่างไรก็จะได้ช่วยกันแก้ไขให้ตามมีตามได้ให้ลูกเด็กๆ ของเรากลับมีศีลธรรมเหมือนสมัยโบราณปู่ย่าตายายมีศีลธรรมอยู่กันได้เป็นผาสุก ไม่ค่อยจะเบียดเบียนกันฆ่าฝันกัน นอนหลับสนิทได้ตามทุ่งนาตามที่ตรงไหนก็ได้ ไม่มีใครฆ่าใครแกงเหมือนยุคนี้สมัยนี้ซึ่งไม่มีศีลธรรม
ขอให้ทำการเปรียบเทียบลักษณะเช่นนี้ก็จะเข้าใจคุณค่าหรืออานิสงส์ของสิ่งที่เรียกว่า ศีลธรรม แล้วเราก็จะช่วยกันทำให้กลับมา เดี๋ยวนี้เรากำลังมีปัญหาทั้งโลกมีปัญหา คือ ความไม่มีศีลธรรมด้วยกันทั้งนั้น คอยจ้องหาโอกาสบีบคั้นเอาประโยชน์ของผู้อื่นมาเป็นของตัวโดยไม่มีศีลธรรมยิ่งๆ ขึ้นทุกที นี่คือ เรื่องที่อาตมาจะกล่าวกับท่านทั้งหลาย มันก็มีอยู่อย่างนี้ จะน่าฟังหรือไม่น่าฟังก็ไม่รับประกันได้ แล้วพูดเรื่องอย่างอื่นก็พูดไม่เป็น มันก็พูดเป็นแต่เรื่องอย่างนี้ ขอให้ช่วยกันทีๆ ให้ศีลธรรมกลับมา ช่วยควบคุมลูกหลานให้ดีๆ อย่าให้เสียทีที่เกิดมาเป็นมนุษย์และพบพระพุทธศาสนา
อย่าให้ลูกหลานของเราเสียทีที่เกิดมาเป็นมนุษย์และพบพระพุทธศาสนาด้วยการที่บิดามารดานั่นแหละทำตัวอย่างให้ดี บิดามารดาอย่าให้เสียทีที่เกิดเป็นมนุษย์และพบพระพุทธศาสนาทำเป็นตัวอย่างดีๆ แล้วลูกเด็กๆ ของเราก็จะเอาอย่างเอง
การได้เกิดในครอบครัวที่ดีนั้นนับว่า มีบุญเหลือประมาณ ครอบครัวที่ดี ประพฤติดีกันทั้งพ่อทั้งแม่ ทั้งพี่ทั้งน้อง ทั้งตาทั้งยาย ทั้งปู่ทั้งย่า มันประพฤติเป็นตัวอย่างที่ดีอยู่ในครอบครัวนั้น พอเด็กคลอดออกมา ก็เห็นแต่ตัวอย่างที่ดี ก็เอาอย่างได้ จึงเป็นคนเรียบร้อย เป็นคนสุภาพ พูดจาไพเราะ ไม่เกะกะระราน เป็นคนรักความสะอาด อย่างนี้เป็นต้น ถ้าลองเปรียบเทียบเด็กๆ ที่เกิดมาในตระกูลที่มันต่างกัน ในครอบครัวที่ต่างกัน เด็กที่เกิดมาในครอบครัวที่มีศีลธรรมดีนั้นก็จะมีศีลธรรมมาตั้งแต่เล็ก เกิดมาในตระกูลที่ไม่มีศีลธรรม พูดจาหยาบคาย โฮกฮาก ไม่รู้จักความเรียบร้อย ความสวยงาม ความสะอาด เด็กนั้นมันก็ไม่มีศีลธรรมมาตั้งแต่ เรียกว่าตั้งแต่เกิดเลยแล้วกัน มันก็สอนยาก มันก็ทำความเข้าใจกันยาก แล้วจะมาโทษครู ครูก็สอนไม่ไหว ถ้าพื้นเพนิสัยสันดานมันเลวมาตั้งแต่อ้อนแต่ออกแล้ว ครูก็สอนไม่ไหว บิดามารดาก็โทษครู ครูก็โทษบิดามารดา เหวี่ยงไปเหวี่ยงมากันอยู่อย่างนี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร ในที่สุดเราก็มีแต่ลูกเด็กๆ ที่ไม่มีศีลธรรม ขอให้ช่วยปรับปรุงบ้านเรือนให้เป็นตัวอย่างแห่งความมีศีลธรรม ในครอบครัวนั้นล้วนแต่มีบุคคลที่เป็นตัวอย่างทางศีลธรรม โดยยึดหลักพระพุทธศาสนา เราก็มีหลัก คือ พระพุทธศาสนาเป็นที่แน่นอนอยู่แล้ว ให้เขารู้จักพุทธศาสนาให้ตรงตามที่เป็นจริง เขาก็จะเปลี่ยนแปลง มีความถูกต้องทางศีลธรรมเกิดขึ้นมาเป็นแน่นอน
เดี๋ยวนี้เรานั่งกลางดิน อาตมาขอให้ช่วยจำไปด้วยว่า มาที่นี่ได้นั่งกลางดินในสภาพอย่างนี้ ที่นี่เราชอบนั่งกันกลางดินอย่างนี้ เพราะว่าพระพุทธเจ้าประสูติกลางดิน พระพุทธเจ้าตรัสรู้ก็เมื่อนั่งกลางดิน พระพุทธเจ้าแสดงธรรมจักรก็เมื่อนั่งกลางดิน พระพุทธเจ้านิพพานก็เมื่อนอนกลางดิน แต่ว่าลูกเด็กๆ ของเรามันไม่ชอบที่จะนั่งกลางดิน มันชอบอยู่บนตึกบนวิมาน แล้วเมื่อไรมันจะพบกันกับพระพุทธเจ้า
ลูกหลานของเราก็ยิ่งเหินห่างพระพุทธเจ้า ก็ไปบูชากามารมณ์ เรื่องสวยเรื่องงาม เรื่องสนุกสนาน เรื่องเอร็ดอร่อย ชวนมานั่งกลางดินอย่างนี้ก็ไม่เอา เขาจึงเป็นคนไม่มัธยัสถ์ ไม่ประหยัด ไม่เป็นอยู่อย่างต่ำๆ และมุ่งการกระทำอย่างสูง มันไปกินไปเล่นอย่างสูงเสียแล้ว จิตใจของมันก็เลว คือ ลงต่ำ ช่วยบอกลูกเด็กๆ ว่า ถ้าเราอยู่ เป็นอยู่กันอย่างต่ำๆ แล้วมันจะไปสูง จิตใจมันจะไปสูง ถ้าเราไปกินอยู่กันสูงๆ แล้ว จิตใจมันก็จะมุ่งต่ำ คือ ไปหากิเลส หากามารมณ์ เราควรจะให้เขารู้จักพระพุทธเจ้าว่า พระศาสดาของเรานั้นประสูติกลางดิน ตรัสรู้กลางดิน แสดงธรรมกลางดิน นิพพานกลางดิน กุฏิของท่านก็พื้นดิน ไปดูได้ มันยังมีอยู่เดี๋ยวนี้ นี่ขอให้ถือหลักธรรมที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง ที่ยังเป็นธรรมชาติ ที่เป็นไปตามธรรมชาติ ที่กิเลสไม่ลูบคลำ ยังบริสุทธิ์ดีอยู่ เราก็จะเอาตัวรอดได้ จะแก้ปัญหาทางศีลธรรมได้ ธรรมะจะกลับมา เราก็จะรักซึ่งกันและกันว่า เป็นเพื่อนเกิดแก่เจ็บตาย เราก็เบียดเบียนกันไม่ได้ เราก็อยู่กันเป็นผาสุก
เมื่อใดไม่มีการเบียดเบียนเลย เมื่อนั้นเรียกว่า เป็นโลกของพระศรีอาริยเมตไตรย ถ้าเมื่อใดโลกนี้ไม่มีการเบียดเบียนเลย โลกนั้นก็กลายเป็นโลกของพระศรีอาริยเมตไตรย ขอให้เราหวังกันไว้ทุกคนว่าจะขจัดความเป็นอันธพาลไม่มีศีลธรรมนั้นออกไปๆ จนเป็นมนุษย์มีความบริสุทธิ์สะอาด ไม่เห็นแก่ตัว ไม่เบียดเบียนผู้ใด รักเพื่อนทั้งหลายว่า เป็นเพื่อนเกิดแก่เจ็บตายด้วยกันอย่างนี้ นั่นแหละความรักผู้อื่น อุดมคติของลูกเสือมันขึ้นอยู่กับธรรมะข้อนี้ แต่ไม่ค่อยสนใจ ไม่มีใครสนใจ ว่ากันแต่ปาก ถ้าจะรักผู้อื่น บำเพ็ญประโยชน์ผู้อื่นจริง มันก็เป็นการปฏิบัติธรรมะขั้นสูงสุดในพระพุทธศาสนาคือไม่เห็นแก่ตัว เมื่อไม่เห็นแก่ตัวก็ไม่เกิดกิเลส มันก็ไม่ทำอะไรที่เป็นความผิดพลาดได้
นั่นแหละ ขอให้ท่านทั้งหลายจงทำความเข้าใจว่าอาตมาพูดอย่างอื่นไม่เป็น พูดได้แต่อย่างนี้ และก็พูดเรื่องเดียวคือ เรื่องศีลธรรมกลับมา ขอให้ได้ช่วยกันร่วมมือ ขอให้ช่วยร่วมมือกันทุกคน เพื่อช่วยศีลธรรมกลับมา จะไปทำอะไรที่ไหน ขอให้เป็นไปในทางที่ศีลธรรมกลับมาอยู่ในหมู่มนุษย์ เดี๋ยวนี้ศีลธรรมหายไปๆ จากหมู่มนุษย์จนหาไม่ค่อยเห็น จนจะหามาทำยาหยอดตาก็ไม่ค่อยจะได้เสียแล้ว ศีลธรรมนั้นมันหายไปๆ จนแม้แต่จะหามาทำยาหยอดตาสักนิดหนึ่งก็ไม่ค่อยได้เสียแล้ว ยาหยอดตานี้ไม่ต้องการมาก ต้องการนิดเดียว แต่มันยังหาไม่ค่อยจะได้เสียแล้ว ขอให้รู้จักกลัว รู้จักตกใจกันบ้าง เพราะโลกนี้มันจะวินาศ จะเป็นมิคสัญญี ถ้าหากว่าศีลธรรมไม่กลับมาในเวลาทันท่วงที มนุษย์ก็จะสูญเสียความเป็นมนุษย์ยิ่งกว่าถูกลูกระเบิดปรมาณูเสียอีก ถูกลูกระเบิดปรมาณูกลายเป็นของเด็กเล่นเมื่อไปเทียบกับความเสียหาย คือ ความไม่มีศีลธรรมของมนุษย์นั่นเอง หวังว่าท่านทั้งหลายจะช่วยนำไปคิดนึก อย่าให้เสียทีที่ว่าเป็นมนุษย์ เป็นพุทธบริษัท รับผิดชอบในความเป็นพุทธบริษัทของตัว และก็กระทำทุกอย่างให้ตรงตามพระพุทธประสงค์ ซึ่งพระพุทธองค์ทรงหวังไว้ว่า พุทธบริษัททั้ง ๔ นี้ จะช่วยกันสืบอายุพระพุทธศาสนาให้ยังคงอยู่เป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งหลายต่อไปตลอดกาลนาน
ทีนี้จะขออวยพรให้ท่านทั้งหลายทุกคนล้วนแต่มีจิตใจดี หวังดีในประเทศ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์หรือหวังดีต่อสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง มนุษย์ในโลกนี้ ดำรงตนอยู่ในคุณธรรมอันนี้แล้ว เป็นผู้ปลอดภัย เป็นผู้ก้าวหน้าในการงาน มีความสุขอยู่ทุกทิพาราตรีกาลเทอญ
ศีลธรรมเลวมาก จนแม้ในวัดในวานี้ก็มีอันธพาล ฉะนั้นคุณจะต้องระวังอันธพาลขโมยรองเท้าขโมยสิ่งของ ขโมยอะไรต่างๆ มันเริ่มจะมีแล้ว ก่อนนี้มันไม่เคยมี นั้นแหละ ปิดประชุมกลับที่พักให้หายเหน็ดหายเหนื่อย พรุ่งนี้จะได้ทำอะไรกันต่อไปอีก