แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
อาตมาภาพขอแสดงความรู้สึกอนุโมทนาต่อกิจกรรมของการลูกเสือที่ได้ประพฤติกระทำกันไปแล้ว และสิ้นสุดลงในรอบนี้ ขออนุโมทนาในข้อที่ว่าอุดมคติส่วนใหญ่ของลูกเสือตรงกับอุดมคติของพุทธศาสนาหรือของพระพุทธเจ้า โดยเฉพาะอุดมคติของการประพฤติประโยชน์เพื่อมหาชน ในกิจกรรมลูกเสือจะมีข้อปลีกย่อยอะไรกี่ข้อก็ตาม แต่ว่ามุ่งหมายเพื่อประโยชน์แก่มหาชน คือจะมีมหาชนที่เป็นมนุษย์ที่ดีขึ้นมาในโลกหรือเป็นประโยชน์แก่โลก ที่มันตรงกับอุดมคติของพระพุทธเจ้าที่ว่า ท่านได้ตรัสไว้เองว่า ตถาคตเกิดขึ้นมาในโลกเพื่อประโยชน์แก่มหาชน เพื่อความสุขความเกื้อกูลแก่มหาชนเป็นอันมาก แม้ธรรมวินัยของตถาคตถ้ายังมีอยู่ในโลกเพียงใดก็ยังเป็นไปเพื่อประโยชน์ ความสุข เกื้อกูลแก่มหาชนเป็นอันมากอย่างนั้น
เพราะฉะนั้น ในโอกาสแรกที่สุด ขอให้ท่านทั้งหลายทุกคนทำความระลึกถึงพระพุทธเจ้า ผู้เป็นจอมลูกเสือ ขอให้ถือเอาการกินนั่งอยู่ที่พื้นดินนี้เป็นการกระทำที่เป็นการบูชาคุณและเป็นอนุสรณ์แก่ท่าน พระพุทธเจ้าท่านประสูติกลางดิน ไปอ่านดูก็แล้วกัน ท่านตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าก็มานั่งอยู่กลางดิน ท่านปรินิพพานคือตายก็ตายกลางดิน ท่านสอนภิกษุทั้งหลายแทบทุกโอกาสก็เป็นเรื่องกลางดินและท่านอยู่กลางดินเพราะว่ากุฏิของท่านเป็นพื้นดิน ขอให้ไปสำรวจดูทุกแห่งในประเทศอินเดีย ความเป็นลูกเสือของท่านก็จะมากกว่าพวกเรา ทุกอย่างท่านอยู่หรือประพฤติหรือกระทำกลางดินอย่างที่เรียกว่าเกิดกลางดิน ตายกลางดิน ถ้าเรามีความรู้สึกในข้อนี้แล้วก็นั่งกลางดิน โดยเฉพาะในเวลานี้ครู่ยามก็ถือโอกาสเช่นนี้เป็นเครื่องบูชาคุณของท่าน เพราะในที่สุดอุดมคติของการนั่งกลางดินจะช่วยให้พวกท่านเป็นลูกเสือมากขึ้นกว่าที่จะไม่ถือเอาอุดมคติอันนี้ ท่านเกิดกลางดิน ท่านตายกลางดิน แต่ว่าถ้าสาวกของท่านต้องการจะอยู่วิมานอย่างนี้มันจะพบกันได้อย่างไร คนหนึ่งอยู่แต่กลางดินแล้วคนหนึ่งมันทำอะไรสักนิดหนึ่งมันก็จะอยู่วิมาน ลูกเสือที่มีใจเป็นลูกเสือมันอยากอยู่กลางดินหรือมันอยากอยู่บนวิมาน อ้อยสร้อยสำออยอย่างคนสมัยใหม่ ให้คิดดูเอาเองก็แล้วกัน โดยเหตุที่มองเห็นว่าการเคลื่อนไหวของพระพุทธเจ้าประกอบอยู่ด้วยอุดมคติของลูกเสือทุกกระเบียดนิ้ว ใครจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย อาตมาก็ยังยืนยันว่าพระพุทธเจ้าท่านเป็นจอมแห่งลูกเสือที่ลูกเสือทั้งหลายเวลานี้มองข้ามไป นี่เป็นข้อแรกที่อยากจะบอกกล่าวแก่กันและกันในฐานะที่ว่า แม้ภิกษุทั้งหลายก็ยังมีอุดมคติของความเป็นลูกเสืออยู่เป็นส่วนมาก ขอให้ดูให้ดี
ทีนี้ที่จะต้องชี้ให้เห็นต่อไปเป็นข้อที่ ๒ ก็คือว่า อุดมคติลูกเสือทั้งหลายไม่มีอะไรมากไปกว่าอุดมคติของพุทธบริษัทไทยเรา คือวัฒนธรรมไทยเดิมแท้ของเราซึ่งถอดรูปออกมาจากพระพุทธศาสนา ท่านไปพิจารณาดูว่ามีอุดมคติของลูกเสือข้อไหนที่มันแปลกหรือปลีกออกไปจากหลักธรรมะในพระพุทธศาสนา จะเห็นได้ว่ามันไม่มีเลย และปู่ย่าตายายบรรพบุรุษของเราก็ได้หนักแน่นในวัฒนธรรมนี้ จนมันมีอยู่ในสายเลือดแล้วมันก็ค่อยจางไปอย่างน่าอันตราย การที่เรามีกิจกรรมลูกเสือขึ้นมาอีกนี้ก็นับว่าดี เพื่อจะรักษาความศักดิ์สิทธิของความเป็นไทยของความเป็นพุทธบริษัทนั้นไว้ ขอให้มองให้กว้างเพื่อจะป้องกันความเห็นแก่ตัวหรือว่าความยกตัวว่าอุดมคติของศาสนาทุกศาสนาก็ล้วนแต่สอนให้เห็นแก่ผู้อื่นหรือถึงกับให้เห็นแก่ผู้อื่นยิ่งกว่าตัว อย่างอุดมคติของพวกคริสต์ศาสนา พระเยซูเขาสอนอย่างนั้น เป็นหลักหัวใจของพุทธศาสนา งั้นเราต้องนึกถึงพระศาสนา เมื่อมีอุดมคติที่ตรงกันแล้วเราก็จะมีกำลังใจที่จะดำเนินกิจกรรมลูกเสือมากขึ้นเพราะมันเป็นการได้หลายอย่าง ที่ได้ทั้งอย่างเรื่องโลก ๆ ของลูกเสือ ได้บุญอย่างทางธรรมะของศาสนา
ข้อที่ ๓ อยากจะให้พิจารณาในข้อที่ว่าบุคคลผู้ได้รับสมมุติว่าเป็นผู้ก่อการลูกเสือในประเทศไทย ที่ในหลวงรัชกาลที่ ๖ ท่านก็ยังได้เงื่อนงำมาจากกิจการลูกเสือต่างประเทศ เราจะต้องดูให้ดี มันมีอะไรแปลกถึงขนาดที่เราจะเทิดทูนได้ ข้อนี้เป็นเรื่องที่ลึกซึ้ง ต้องคาดคะเน สันนิษฐาน คนอื่นจะสันนิษฐานอย่างไรก็ตามใจแต่อาตมาอยากจะสันนิษฐานว่าท่านคงมองเห็นการณ์ไกลมากในกิจการลูกเสือที่มันจะครอบงำไปทั่วโลก และก็ครอบงำเจตนารมณ์หรืออุดมคติของวัฒนธรรมไทยด้วย ถ้ามันเป็นไปจริงอย่างที่เขามีหลักเกณฑ์กันอย่างนั้นก็ถือโอกาสต้อนรับเสียดีกว่า เหมือนกับอย่างที่เรียกกันว่าจุดไฟบ้านรับไฟป่า ถ้าไฟป่ามันมามาก มันอาจจะโกลาหลวุ่นวาย ถ้าจุดไฟบ้านรอบ ๆ เรา รอบ ๆ บ้านเราเสียให้ราบเตียนและก็ไม่มีปัญหายุ่งยากลำบากในเมื่อไฟป่ามันมาถึง อุดมคติของพุทธบริษัทเรามันสูงสุดกว่าอุดมคติของลูกเสืออยู่แล้ว ทำไมเราจะต้องไปตามก้นฝรั่งในเรื่องลูกเสือก็เพราะเหตุผลบางอย่างบางประการที่จะต้องดูกันต่อไป
ข้อนี้จะมองเห็นได้ว่า อุดมคติกับวิธีดำเนินงานนั้นมันไม่ใช่อย่างเดียวกัน เราอาจจะมีอุดมคติเหมือนกันหรือมีอุดมคติที่ดีกว่า แต่เรายังด้อยอยู่ในวิธีดำเนินงานให้เป็นไปตามอุดมคตินั้น เมื่อเขาหรือพวกฝรั่งเขาจัดรูปงานของการลูกเสือขึ้นมาดี เราก็เอารูปงานนั้นมาใช้เป็นวิธีปฏิบัติงานเพราะมันเป็นวิธีที่เขาคิดไว้ดีแล้ว เขาปฏิบัติจนประสบอุดมคติที่เราหวัง อย่างนี้มันก็ถูกแน่ นับว่าท่านเป็นนักปราชญ์เฉลียวฉลาด มองเห็นการณ์ไกล จึงยอมรับเอากิจกรรมลูกเสือที่ไม่มีอุดมคติอะไรสูงไปกว่าพุทธบริษัทนี้มาเชิดชู จะเป็นความง่ายดายที่ทำให้ทุกคนมีความรู้สึกที่ตื่นขึ้นมาในกิจกรรมอันนี้ซึ่งเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ สำหรับเรื่องปลีกย่อยบางอย่างก็จะเป็นเรื่องที่น่าหัว เช่น กิจกรรมรอบกองไฟ เต้นรำ โห่ร้อง เหล่านี้มันไม่ใช่เจตนารมณ์ของความเป็นลูกเสือ แต่มันเป็นองค์ประกอบอันหนึ่งซึ่งเรามีก็อยู่แล้ว ไม่ใช่ไม่มี คนป่าสมัยไม่นุ่งผ้ามันก็มีกิจกรรมอย่างนี้ บางทีพวกฝรั่งเสียอีกไม่ค่อยมีโอกาสได้ใกล้ชิดธรรมชาติอย่างนี้ จึงต้องบัญญัติลงไปในกิจกรรมลูกเสือ ซึ่งเราก็มองเห็นในข้อนี้แล้วก็ไม่ได้หลงในส่วนนี้ แต่หลงในส่วนอุดมคติมากกว่า
ทีนี้ข้อที่ ๔ ที่อยากจะพูดเพื่อจะย้ำในข้อที่อาตมายืนยันว่าอุดมคติของลูกเสือนั้นไม่มากไปกว่าอุดมคติของพุทธบริษัท คุณสมบัติหมวดแรกที่เราจะยกเอาความซื่อสัตย์ ความกตัญญู ความเชื่อฟัง ความไว้ใจได้ขึ้นมาพิจารณากัน
ความซื่อสัตย์ นี่เป็นของที่ต้องการในหมู่มนุษย์ในสังคมมนุษย์ พอปราศจากความซื่อสัตย์ต่อกันแล้วก็คือความวินาศ เดี๋ยวนี้มันมีวัฒนธรรมที่ทำให้ซื่อสัตย์ต่อกันมาแต่โบราณกาล มันก็ยังเหลืออยู่ ก็ควรที่จะสนับสนุนไว้อย่างยิ่ง รักษาไว้อย่างยิ่งเพื่อกิจกรรมที่เป็นอุดมคติของลูกเสือ
ความกตัญญู นี่สำคัญไม่น้อยกว่าความซื่อสัตย์ ถ้าไม่มีชาร์ต อยู่ในอุดมคติของลูกเสือก็ต้องเติมเข้าไป ถ้าขาดแล้วจะไม่เป็นลูกเสือที่จะเป็นอุดมคติ มันจะเป็นสัตว์ป่า
ความเชื่อฟัง มีน้อยมากในสมัยนี้ เป็นสมัยประชาธิปไตย ขอย้ำเรื่องความเชื่อฟัง อย่าไปหลงประชาธิปไตย ถ้าขาดการเชื่อฟังแล้วสิ่งต่าง ๆ เป็นไปไม่ได้ จะเกิดการประท้วงหรือเกิดการบิดพลิ้วอะไรกันมากขึ้นจนเสียหายหมด
ความเป็นผู้ไว้ใจได้ก็สำคัญที่สุด ถ้าเราไว้ใจกันไม่ได้เราก็ทำอะไรไม่ได้ อันนี้แน่นอน ถ้ามัวแต่มานั่งระแวงกันอยู่ก็เป็นบ้าตายหมด เดี๋ยวนี้อะไรก็พอจะไว้ใจกันได้อยู่ ถ้ามันจะเสื่อมลงไปก็รักษาไว้ให้มันกลับมา ให้มันเข้มข้นขึ้นด้วยอุดมคติของลูกเสือ ทำตนให้เป็นคนที่ผู้อื่นเขาไว้ใจได้
อุดมคติหมวดหนึ่งไปอยู่ในพวกเสียสละ รักเพื่อนมนุษย์ ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ การเสียสละนี่เป็นหัวใจของศาสนาทุกศาสนา เสียสละถึงกับไม่มีตัวให้ยึดถือเอาตัวของตัวไว้ เรียกว่ายอดสุดของการเสียสละ อุดมคติของลูกเสือก็มีเรื่องเสียสละเป็นเรื่องหน้า รักเพื่อนมนุษย์ก็ต้องเสียสละจึงจะช่วยเขาได้ ถ้าไม่มีเสียสละ ไม่มีทางจะช่วยใครได้ เรื่องเสียสละนี้ก็เป็นเรื่องที่มองเห็นยาก เพราะคนเขามองกันไปในทางที่มันเสียไป มันมองด้วยความเห็นแก่ตัว ถ้ามองโดยสติปัญญาหรือไม่เห็นแก่ตัวจะมองเห็นได้ว่า การเสียสละนั้นมันกลับเป็นการได้มายิ่งกว่าที่ไม่เสียสละ ดังนั้นต้องไปสอนลูกเด็ก ๆ ของเราที่เป็นลูกเสือตัวเล็ก ๆ ให้มันรู้ประโยชน์ของการเสียสละ คือมันจะผูกพันกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและก็อยู่รอดได้ ทำความสบายใจให้มากกว่ากินเอง มีอะไรนิดหนึ่งกินเอง แล้วมีสิ่งนั้นถ้าเราไม่กิน เราให้เพื่อน อันไหนมันอยู่ในจิตใจของเรานาน อยู่ในจิตใจของเพื่อนนาน ไปคิดดูก็แล้วกัน มันเป็นความได้อะไรหลายอย่างจากการเสียสละนั้น ถ้ากินเอง เดี๋ยวมันก็ถ่ายออกไป เป็นประโยชน์นิดเดียว แต่ถ้าให้ผู้อื่นมันมีความได้ในทางจิตใจสูงมาก ความผูกพันเป็นมิตร นึกขึ้นมาทีไรก็สบายใจว่าเราได้ให้คนนั้น ไอ้คนที่รับให้ไปมันนึกทีไรมันก็ยังขอบใจอยู่ เพราะมันจึงยังอยู่เป็นเดือนเป็นปีหลายปีก็ได้ อาจจะตลอดชีวิตก็ได้ ถ้าเราจะนึกถึงสิ่งบางสิ่งที่มีคน ๆ หนึ่งเขาให้เราตั้งแต่เมื่อเราเด็ก ๆ ยังขอบใจอยู่กระทั่งเดี๋ยวนี้ นี่เป็นสิ่งผูกพันของความสามัคคีที่ให้มนุษย์รอดอยู่ได้ด้วยอำนาจของการเสียสละ
หมวดหนึ่งต่อไปอีกก็เช่น ความเข้มแข็ง บึกบึน มีอนามัยดี มีประสาทเข้มแข็งดี นี่เราก็ต้องการ ชาวบ้านไม่ค่อยมีอนามัย ถ้าเขานิยมกิจกรรมลูกเสือ เขาก็ทำให้เด็ก ๆ เป็นลูกเสือก็จะมีร่างกายแข็งแรง มีอนามัยดี มีอนามัยทางจิตดี ทางกายก็ดี นี่ก็เป็นสิ่งที่มีประโยชน์อย่างยิ่งสิ่งหนึ่งที่เขารับรองกันอยู่ทั่วไป ขอให้มันสำเร็จประโยชน์ในข้อนี้ เป็นพลเมืองที่มีร่างกายดี มีจิตใจสมประกอบ ไม่เห็นแก่ตัว เป็นต้น
คุณสมบัติอีกหมวดหนึ่งก็คือความไหวพริบ คล่องแคล่ว กระปรี้กระเปร่า มีสมรรถภาพพอตัวไปในทุกด้าน เรื่องไหวพริบนี้จำเป็นมาก คนมีปัญญาแต่ไม่มีไหวพริบก็เอาตัวไม่รอด ความรู้มีมากแต่ขาดไหวพริบแล้วก็เอามาใช้ไม่ทันท่วงที ความรู้มีมากขาดไหวพริบแล้วเขาถามก็ตอบไม่ได้ หรือจะพูดอะไรไม่เป็น หรือว่าถูกสกัดเข้านิดเดียวก็นิ่งเงียบไปทั้งที่เป็นคนมีความรู้มาก ขอให้รู้เสียว่าปัญญาอย่างเดียว ความรู้อย่างเดียวนั้นยังไม่พอ ต้องมีไหวพริบ ดังนั้นบทเรียนใด ๆ ที่มันเป็นการฝึกฝนให้มีไหวพริบก็ขอให้ช่วยกันส่งเสริมอย่างยิ่ง โดยเฉพาะพวกเด็ก ๆ เขาจะต้องเป็นคนมีไหวพริบ แต่ก็หมายความว่าจะใช้ไหวพริบนี้ไปในทางดีทางถูก เรื่องสติปัญญา ไหวพริบอะไรทำนองนี้ มันเป็นเหมือนกับว่าอาวุธที่มีคม ๒ ข้าง หรือ ๒ คม ถ้าใช้ผิดมันก็ผิด ใช้ถูกมันก็ถูก แต่ว่าเราไม่มีก็ไม่ได้ เราต้องมีให้เขามีสติปัญญา มีไหวพริบ มีสมรรถภาพที่พอตัวอย่างนี้
คุณสมบัติอีกข้อหนึ่งที่อยากจะพูดถึงการช่วยกันพิทักษ์รักษา พิทักษ์รักษาทรัพย์สมบัติสิ่งของส่วนรวม กระทั่งพิทักษ์รักษาชาติประเทศ กระทั่งพิทักษ์รักษาธรรม แม้จะเสียชีวิตก็ไม่ยอมให้ธรรมะเสียไป นี้เรียกว่าคุณสมบัติของการพิทักษ์รักษาสิ่งที่ควรพิทักษ์รักษา ไม่ใช่รักษาแต่ชีวิตของตัวรอดแล้วก็จะเป็นยอดดี นั่นมันอันตราย ต้องพิทักษ์รักษาตัวที่มันใหญ่กว่าตัวเราคือประเทศชาติหรือของส่วนรวม หรือว่าความเป็นมนุษย์นั่นแหละมันใหญ่มาก พิทักษ์รักษายังคงมีอยู่ในหมู่มนุษย์ เลยลงมาคือพิทักษ์รักษาสมบัติ สาธารณประโยชน์ สาธารณสถานอะไรต่าง ๆ มันก็เป็นพื้นฐานทั่ว ๆ ไป แต่ยอดสุดของมันก็คือพิทักษ์รักษาความยุติธรรม ความเป็นธรรมหรือความถูกต้อง เท่านี้ก็พอแล้วที่เราจะรู้สึกนิยมยกย่องบูชาอุคมคติของลูกเสือ ขอให้ช่วยกันหยิบขึ้นมาพิจารณาให้เห็นชัดอยู่เสมอ อย่าให้มันลางเลือนไป จะต้องหยิบขึ้นมาขัดสนิมให้มันเป็นของงดงามสวยเด่นอยู่ทุก ๆ ข้อ นี่เป็นอุดมคติของลูกเสือ อย่าทิ้งมันเป็นสนิมเหมือนที่กำลังเป็นอยู่โดยมาก ก็มีไว้จนสักแต่ว่าเป็นพิธีรีตอง
ข้อที่ ๕ ที่อยากจะพูดก็คือว่า เดี๋ยวนี้กิจกรรมลูกเสือของเรามันยังพิสูจน์ความไม่เพียงพอหรือว่าความไม่ก้าวหน้า เพราะว่ามันยังไม่ได้ผลตามที่ต้องการที่วาดไว้เป็นอุดมคติ หรือมันยิ่งไม่ได้ผลหนักขึ้นก็ได้ ในเมื่อเหตุการณ์สมัยปัจจุบันมันมีขึ้นมาในรูปอย่างนี้ เพราะว่าเรายังได้เห็นนักเรียนนักศึกษากำลังอาละวาดกันเป็นบ้าเป็นหลังก็มี นักเรียนนักศึกษากำลังไม่มีครูบาอาจารย์ กำลังทำร้ายครูบาอาจารย์ก็มี หรือว่าเผาได้แม้แต่โรงเรียนของตัวเอง หรือเป็นส่วนรวมของประเทศชาติก็มี นี่มันไม่มีสปิริต เจตนารมณ์ของลูกเสือเหลืออยู่ในอนุชนเหล่านั้นเลย ไม่รู้จะพูดอะไร ก็ต้องพูดว่ากิจกรรมลูกเสือยังไม่ได้ผล ยังไม่ได้ผลตามความมุ่งหมาย หรือจะยิ่งไม่ได้ผลหนักขึ้นก็ได้ ขอให้ไปพินิจพิจารณาดูให้ดี เพื่อว่าเราจะได้ปรับปรุงกันเสียใหม่ให้มันมีผลจนถึงกับว่าไม่มีนักเรียนชกต่อยครู ไม่มีนักเรียนที่จะเผาโรงเรียนของตัวเองอีกต่อไปอย่างนี้มากกว่า
ข้อที่ ๖ ที่อยากจะพูดก็คือว่าในการประกอบกิจกรรมต่าง ๆ นี้ขอให้ทำอย่างมีชีวิตจิตใจ เข้าถึงเจตนารมณ์ของกิจกรรมนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกิจกรรมของลูกเสือนี้ เราก็ได้กระทำมาแล้วได้ผ่านมาแล้ว พยายามให้มันถึงจุดที่เป็นหัวใจหรือเป็นเจตนารมณ์ของอุดมคติ อย่าทำเป็นเพียงว่าทำพิธีรีตอง ถ้าเป็นพิธีก็ยังพอจะดูได้ แต่ถ้าเป็นรีตองก็จะไม่มีอะไรเหลือ พิธีที่ทำถูกวิธีมันก็จะดีมีประโยชน์ในการรักษาสิ่งที่ควรรักษาเอาไว้ได้ แต่ถ้าหลับตาทำพิธีแล้วมันก็เป็นพิธีรีตองไปหมด เราก็ระวังกันในข้อนี้หน่อย
ทีนี้มันมีสิ่งที่น่าสนใจอยู่ข้อหนึ่งคือว่า สิ่งที่มันตรงกับนิสัย สันดานของกิเลสแล้วเราก็ชอบทำ ไม่ต้องใช้คำว่ามักชอบทำหรอก มันก็ชอบทำทีเดียว แต่สิ่งใดมันฝืนความรู้สึกของกิเลสแล้วเราก็มักไม่ค่อยชอบทำ ไม่อยากจะทำหรือบิดพลิ้ว ฉะนั้นกิจกรรมของลูกเสือบางอย่างมันก็สนุกสนาน สรวลเสเฮฮามาก มันคงจะชอบทำ โดยไม่ต้องเชื้อเชิญหรือไม่ต้องเคี่ยวเข็ญ แต่ถ้าส่วนที่มันเป็นอุดมคติจริง ๆ แล้วมันจะไม่สนุกสนาน อยากจะสรวลเสเฮฮา มันต้องอดกลั้นอดทน มันต้องนิ่งเงียบ หรือมันต้องบึกบึน เข้มแข็งตามอุดมคติของลูกเสือจริง ๆ ข้อนี้ดูจะยังขาดไป การอบรมให้นิ่งให้เงียบ ให้บึกบึน ให้เข้มแข็ง ให้คิดลึกซึ้ง นี่ดูจะน้อยไปหรือไม่ค่อยมี เรื่องสรวลเสเฮฮามันมีมากกว่า มันก็จะไม่สมดุลกันเป็นแน่ ไม่ตรงตามเจตนาที่ว่าจะเป็นคนบึกบึน เข้มแข็ง เงียบเหมือนกับเสือ มันไม่ใช่ร้องโวย ๆ มันจึงทำหน้าที่ของเสือได้ มันจะมีกำลังมากเหมือนกำเนิดไฟฟ้ายิงเลเซอร์ที่มันเงียบแล้วมันจะฉีดของมันเอง แต่มันมีแรงมหาศาลที่จะทำคนให้ตายได้ทีละหมื่นละแสนละล้าน ของที่โวย ๆ วาย ๆ กันนักนี่ไม่ค่อยมีกำลัง เราต้องช่วยกันอบรมลูกเด็ก ๆ ของเราอย่าให้พูดมาก อย่าให้ออกเสียงมาก ให้มันบึกบึน ให้มันเข้มแข็ง ให้มันนิ่งเงียบ ให้มันเต็มอยู่ด้วยสติปัญญา
ช่วงเวลาที่เหลืออยู่นิดหนึ่งก็อยากจะพูดเป็นข้อสุดท้าย ข้อที่ ๗ ว่าอาตมาขออนุโมทนาอย่างยิ่ง ก็ขอร้องขอวิงวอนว่าให้ท่านทั้งหลายช่วยกัน ซื่อสัตย์ต่ออุดมคติของลูกเสือ ช่วยทำให้กิจกรรมของลูกเสือก้าวหน้าสมตามเจตนารมณ์นั้น ๆ จนให้มันเกิดนิยมหรือมีแฟชั่นขึ้นมาว่าเป็นลูกเสือดีกว่าบวชเณร บวชเณรเดี๋ยวนี้มันก็ชักจะเหลวไหล อาตมาก็ยอมรับทั้งที่เป็นพระ เป็นอุปัชฌาย์อาจารย์อย่างนี้ เท่าที่มองเห็นอยู่ ถ้าลูกเสือมีอะไรตรงตามอุดมคติที่เขียนไว้เป็นข้อ ๆ เป็นแถวบนกระดานดำก็ดีกว่าบวชเณรมาก เด็ก ๆ ดีกว่าบวชเณรมาก เป็นลูกเสือดีกว่าบวชเณรมาก แล้วไม่เท่าไรพ่อแม่ของเด็ก ๆ ก็จะนิยมว่าเป็นลูกเสือดีกว่าบวชเณร แต่เดี๋ยวนี้มันยังไม่มีนี่ มันยังไม่มีใครพูดออกมาสักคำเลยว่าเป็นลูกเสือดีกว่าบวชเณร เราทำกันไป ทำให้เต็มตามอุดมคติจนเกิดคำพูดหลุดออกมาว่าเป็นลูกเสือดีกว่าบวชเณร อาตมาก็ยอมรับว่ามันจริง เพราะดูตามอุดมคติแล้วมันสูงกว่ากฎเกณฑ์ของการบวชเณรมาก
จะดูอีกทีหนึ่งให้เขาออกปากมาว่ากิจกรรมลูกเสือนี้มันส่งเสริมความเป็นพุทธบริษัท อย่างที่กล่าวมาแล้วข้างต้นว่าไม่มีอะไรผิดแปลกไปจากหลักธรรมะในพระพุทธศาสนา คือเมื่อลูกเสือเขาได้ทำอะไรเต็มตามอุดมคติแล้ว การกระทำนั้นเป็นการส่งเสริมภาวะของพุทธบริษัทจนตลอดชีวิตเลย ความเป็นพุทธบริษัทในพระพุทธศาสนาก็จะมีมากขึ้น ดียิ่งขึ้น หรือถึงจุดสูงสุดได้ เพราะทุกคนมีพื้นฐานมาโดยความเป็นลูกเสือ ดังนั้นความเป็นลูกเสือก็ควรจะถือว่าเป็นการเตรียมเพื่อความเป็นพุทธบริษัทที่ดีในพระพุทธศาสนา เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติ หรืออย่างน้อยที่สุดก็ตรงตามอุดมคติสากลทั่วไปว่า กิจกรรมลูกเสือนี้คือผู้ที่เตรียมตัวเป็นสุภาพบุรุษ ในสมัยที่ลูกเสือแรกเกิดขึ้นมาในโลก ความหมายของคำว่าสุภาพบุรุษนี้สูงมาก เกียรติของความเป็นสุภาพบุรุษนั้นสูงมาก จนจะไม่มีอะไรสูงไปกว่าในเรื่องโลก ๆ กันแล้ว เดี๋ยวนี้ความหมายหรือเกียรติของคำว่าสุภาพบุรุษนี้สูญหายกระจัดกระจายไปไหนหมด แล้วไม่ค่อยมีใครเอ่ยคำว่าสุภาพบุรุษบ่อย ๆ สมัยอาตมายังเล็ก ๆ นี่ได้ยินคำว่าสุภาพบุรุษนี้มากที่สุด ปากคนพูดตรงนี้ในหน้าหนังสือพิมพ์ ในหนังสือหนังหามันก็มีมาก เพราะคำว่าสุภาพบุรษมันมีความหมายมาก ไปเรียนจบที่มหาวิทยาลัย Oxford เป็นต้น ก็เพียงเพื่อเป็นสุภาพบุรุษเท่านั้น คิดดู มันมีความหมายมากอย่างนี้ แต่เดี๋ยวนี้มันหายไปแล้ว ทั้งโดยคำที่พูดหรือโดยความหมายหรือโดยเกียรติของคำว่าสุภาพบุรุษ เพราะคนมันไม่เป็นสุภาพบุรุษ เพราะคนมันนิยมความไม่เป็นสุภาพบุรุษกันมากขึ้นนั่นเอง งั้นขอร้องให้ดึงกลับมาใหม่ ต่อสู้กลับมาใหม่ การเป็นลูกเสือนี้คือการเตรียมตัวสำหรับความเป็นสุภาพบุรุษ มันก็สำเร็จประโยชน์แก่เพื่อนมนุษย์ แก่มหาชนในโลกโดยครบถ้วน
เวลาที่กำหนดไว้ให้พูดก็มีเท่านี้ ในที่สุดนี้ขออวยพรให้ท่านทั้งหลายจงประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานของตน คือเป็นผู้นำลูกเสือที่จะนำวิญญาณของลูกเสือตัวเล็ก ๆ ลูกเด็ก ๆ นั้นให้เป็นสุข ให้เป็นไปอย่างถูกทางตามอุดมคตินั้น ๆ ให้มีความเจริญงอกงามก้าวหน้าตามทางของพระธรรมซึ่งรวมอุดมคติของลูกเสือไว้ด้วยอย่างครบถ้วนทุกทิพาราตรีกาลเทอญ