แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ในครั้งนี้มีความเห็นว่าจะพูดเรื่องธรรมะสำหรับคนวัยรุ่นจะเป็นการเหมาะสม เดี๋ยวนี้ตามที่สังเกต เห็นทั่วไปก็คือว่ามีคำพูดที่เป็นที่เสียหายแก่ยุวชนวัยรุ่นอยู่คำหนึ่ง คือเขาเรียกว่าปัญหาเกี่ยวกับคนวัยรุ่น ซึ่งมันหมายความว่าเมื่อก่อนนี้คนวัยรุ่นไม่ค่อยมีปัญหา เดี๋ยวนี้กลายเป็นว่าคนวัยรุ่นมีปัญหา โดยเฉพาะรัฐบาลเอาไปเป็น หยิบขึ้นไปเป็นปัญหาสำหรับพิจารณา แล้วก็ประชาชนก็บ่นกัน ดังนั้นขอให้คนวัยรุ่นเองนั้นรู้ไว้ ว่าเรากำลังเป็นผู้ที่ถูกเขายกขึ้นมาเป็นปัญหา เมื่อก่อนนี้ไม่เคยมีหรือว่ามีก็เหมือนกับไม่มี คือมีน้อยเกินไป เดี๋ยวนี้กลับมีมาก ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่พวกเราที่นั่งอยู่ที่นี่ มันก็ยังต้องพลอยเสียเกียรติเสียชื่อร่วมกันเมื่อเขาพูดว่าวัยรุ่นกำลังเป็นปัญหา ยิ่งกว่านั้นก็คือว่าเขาว่าวัยรุ่นกำลังเป็นปัญหาทั่วทั้งโลก หมายความว่าทั่วทั้งโลก เป็นปัญหาในที่นี้หมายความว่าทำความยุ่งยากลำบากขึ้นหลายอย่างหลายประการ นับตั้งแต่ว่าเป็นอันธพาล ชกต่อยตีกัน แม้ในโรงเรียน แม้ในมหาวิทยาลัย ซึ่งเมื่อก่อนนี้มันหาดูไม่ได้ เดี๋ยวนี้กลายเป็นมีมากขึ้น แล้วที่มากไปกว่านั้นก็คืออาละวาดบนรถประจำทาง บนยานพาหนะ กระทั่งทำสิ่งที่เป็นอาชญากรรมหนักๆไปกว่านั้น เรื่องทางตีรันฟันแทงบ้าง เรื่องไอ้ชู้สาวบ้าง เรื่องที่มันเป็นสิ่งที่เรียกว่าอาชญากรรมเต็มตัว แล้วก็อย่างแรงด้วย นี่มันกำลังมีอยู่พวกหนึ่ง แล้วจะมากขึ้นทุกที ไอ้อีกพวกหนึ่งก็คือว่ารักษาตัวดี ยังมีอยู่เหมือนกัน ทีนี้เราก็คิดดูให้ดีก็แล้วกันว่าเราจะกำลังเป็นอย่างไร จะไปเข้าพวกไหน กำลังจะไปเข้าพวกไหน ไอ้โรคร้ายชนิดนี้เป็นโรคร้ายที่ติดต่อกันได้ง่าย แล้วก็โดยไม่รู้สึกตัวด้วย นี่การที่จะเปลี่ยนไปเป็นอันธพาลนั้นเป็นได้ง่ายและโดยไม่รู้สึกตัวด้วย ฉะนั้นอย่าได้ประมาทเลยเพราะเหตุว่าเมื่อประมาทเสียแล้วมันก็เห็นว่าไอ้ความเป็นอันธพาลนั้นหาใช่ความเป็นอันธพาลไม่ นี่มันเป็นเสียอย่างนั้น เมื่อเกิดประมาทมืดมัวแล้วมันจะเห็นว่าที่เป็นอันธพาลนั้นแหละคือถูกต้อง ไม่ใช่เป็นอันธพาล ฉะนั้นก็จึงเลยเป็นกันมาก เดี๋ยวนี้มันกลายเป็นทำตามอย่างกันเหมือนกับแฟชั่นที่เขาเรียกว่าแฟชั่นชนิดหนึ่ง แฟชั่นไว้ผมแฟชั่นเสื้อผ้า แล้วก็มันก็มีแฟชั่นอันธพาล ใครได้แสดงลักษณะอันธพาลแล้วก็รู้สึกว่าเก๋ดี หรือว่าถึงกับมีเกียรติ เช่นอันธพาลสูบบุหรี่นี่มันก็คิดว่าเก๋ดี ไม่เห็นว่านี้เป็นสิ่งที่น่าติเตียนและโง่เขลา เปลืองเปล่าๆ ให้โทษแก่ร่างกาย นั่นแหละขอให้รู้ไว้เถอะว่าไอ้เรื่องความชั่วนั้นมันครอบงำเราได้ เพราะเราไม่รู้สึกว่าเป็นความชั่ว เรื่องที่เห็นง่ายที่สุด เช่นเรื่องสูบบุหรี่นี่เปลืองก็เปลือง ให้โทษแก่ร่างกายก็ยังให้ เมื่อเช้านี้ท่านอาจารย์คนหนึ่งท่านเล่าให้ฟังว่าพอเลิกสูบบุหรี่ น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้โดยอัตโนมัติกิโลครึ่ง พอลองกลับไปสูบบุหรี่ใหม่ น้ำหนักตัวก็ลดลงหนึ่งกิโลครึ่ง ท่านว่าอย่างนี้และท่านก็ยืนยันว่าอย่างนี้ การที่น้ำหนักตัวเพิ่มน้ำหนักตัวลดนี่มันก็เป็นสิ่งที่ไม่ใช่เล็กน้อยนะมันมีเหตุผล เพียงแต่สูบบุหรี่ให้มากอย่างเดิมนี่น้ำหนักตัวก็ลดลงกิโลครึ่ง เพียงแต่ไม่สูบเฉยๆมันก็เพิ่มขึ้นกิโลครึ่ง มันเป็นอันตรายแก่สุขภาพอนามัย เปลืองด้วย แล้วไม่มีเหตุผลที่ว่าทำไมเราจะต้องสูบ นอกจากจะเห่อตามแฟชั่นที่เขาสูบกันว่าเก๋ดี เป็นลูกผู้ชายต้องกินเหล้าต้องสูบบุหรี่ นี่เรามันก็ไปเข้าใจเสียอย่างนั้นมันก็เป็นอันว่าเข้าใจว่าไอ้ที่ชั่วนั่นแหละคือดี มันก็ไม่ละกันนั่นแหละ ฉะนั้นการที่ว่าจะไปชกต่อยกันหรือทำระเบิดขวด หรือทำอะไรที่ร้ายไปกว่านั้นมันก็เห็นเป็นของดีไปหมด นี่อย่าทำเล่นกับสิ่งที่เรียกว่ากิเลส กิเลสมันต้องเก่งกว่าคนนั้นเสมอไปมันจึงหลอกคนนั้นให้ทำอะไรที่ไม่น่าจะทำได้ นี่จะต้องถือว่าเป็นปัญหาแรกที่สุดของคนวัยรุ่นคือการนิยมไปทำสิ่งที่ไม่ควรทำ จนต้องมีการบังคับให้ตัดขากางเกงให้ถูกต้องบ้าง ให้ตัดผมให้ถูกต้องบ้าง อะไรบ้างนั้นแสดงว่าเมื่อปล่อยตามความต้องการความรู้สึกแล้วมันไปตามแฟชั่น ของคนอันธพาลบ้าง ของแฟชั่นที่อยากจะเปลี่ยนเสียเรื่อยบ้าง อย่ามองข้ามสิ่งเหล่านี้ นี่คือต้นเหตุของความล้มละลาย ไอ้ต้นเหตุของปัญหาต่างๆ ต้นเหตุของความที่จะทำลายตัวเรา แล้วเราก็ไม่รู้ว่าทำลายตัวเรา เห็นเป็นของดีไปได้ก็เลยเห็นกงจักรเป็นดอกบัว ปรากฏชัดอยู่ว่าการเล่าเรียนเอาดีไม่ได้ นี่เป็นเจ้าชู้ตั้งแต่เล็ก ใช้เงินเปลืองตั้งแต่เล็ก ไม่มีบิดามารดา ครูบาอาจารย์ ไม่มีบุญไม่มีบาป วัยรุ่นกำลังเป็นอย่างนี้ บางทีเขาจะถือว่านี่เป็นเครื่องหมายของคนดีคนสมัยใหม่ที่เจริญ วัยรุ่นฝรั่งที่มาที่วัดนี้ชอบพูดว่าผมไม่มีศาสนา เขาชอบพูดว่าผมไม่มีศาสนา เขารู้สึกว่าการพูดอย่างนั้นน่ะถูกต้องที่สุด แล้วเก่งด้วย แล้วเก๋ด้วย แล้วมีเกียรติด้วย พูดว่าผมไม่มีศาสนา ฉะนั้นไม่ ไม่เท่าไหร่แฟชั่นอย่างนี้จะมาถึงพวกคนไทยที่ตามก้นฝรั่ง ในแง่หนึ่งในส่วนหนึ่งคนไทยตามก้นฝรั่ง เหมือนสุนัขตัวผู้ตามก้นตัวเมียอย่างนั้นแหละ อย่างไรก็ยังเอากัน อย่างไรก็เอากันก็ไปกันได้ด้วยกัน นี่ขอให้ระวังให้ดีถ้าเราจะไปตามก้นฝรั่งที่ถือว่าเจริญนั้นต้องเลือกเอาแต่ที่มันดีมีประโยชน์ อย่าให้ทำลายวัฒนธรรม ศีลธรรมอะไรของคนไทยเรา แล้วคนเราถ้าไม่มีศาสนาก็หมายความว่าทำอะไรได้ตามชอบใจนี่ แล้วไปคิดดูเถอะมันจะเป็นอย่างไร แล้วไอ้เรื่องกางเกงไม่มีขา หรือว่าไม่ต้องปิดกายกันแล้ว หรือว่าไว้ผมบ้าๆบอๆอะไรนั้นน่ะพวกฝรั่งนำ นำทั้งนั้นแหละ คนไทยโง่ก้มหัวไปตามก้นเขา มันก็มีปัญหาด้วยคือลำบากยุ่งยากด้วย แล้วมันไม่เป็นไทยด้วย ถ้าเป็นไทยมันต้องเป็นอิสระ เดี๋ยวนี้มันโง่ก้มหัวไปตามก้นเขาแล้วจะเป็นอิสระได้อย่างไรมันก็ไม่ใช่ไทย แล้วสิ่งนั้นมันก็ผิดๆด้วย ชอบจะไว้ผมยาวนี่เหมือนพวกฝรั่งฮิปปี้หรือพวกไอ้อะไรก็ไม่รู้เรียกยาก พวกนักศึกษาไทยชั้นมหาวิทยาลัยไว้ผมยาวเหมือนฮิปปี้มาที่นี่ เป็นนักศึกษาก็มี เป็นครูก็มี เป็นอาจารย์ก็มี ก็เลยถามดูว่าทำทำไม ประโยชน์อะไร เขาว่าทำตามความพอใจเพื่อไม่ให้มีอะไรมาบังคับบัญชา มาผูกมัดเขา เขาต้องการจะเป็นอิสระ เราก็เลยถามว่าเป็นอิสระชนิดที่คนอื่นไม่ลำบากจึงจะเป็นอิสระที่ถูกที่สมควร ถ้าอิสระชนิดที่คนอื่นลำบากไม่ถูกไม่สมควร ไม่ใช่อิสระที่สมควร ทีนี้เขาถามว่าไอ้ไว้ผมยาวนี่มันทำให้คนอื่นลำบากอย่างไรก็ผมของผมนี่อยู่บนหัวผม ผมไว้ผมยาวคนอื่นมันจะลำบากอย่างไร นี่เขาๆ เขาถามเขาแย้งขึ้นมาอย่างนั้น เราบอกว่าไอ้ผมยาวของคุณนั้นมันทำให้พวกเราเสียเวลามองดูเพื่อจะสังเกตให้รู้ว่าคุณนี้เป็นคนบ้าหรือคนดี เพียงเท่านี้มันทำให้เราเดือดร้อนแล้ว เราต้องเสียเวลาต้องคอยสังเกตว่าไอ้คนนี้มันบ้าหรือดีนี่ แล้วครั้งแรกเราเห็นเข้าก็กลัวเกรงว่ามันจะเป็นคนบ้า มันจะทำอันตรายเรา ฉะนั้นการไว้ผมยาวของคุณนี่มันทำให้คนอื่นลำบากเสียแล้ว ดังนั้นถ้าต้องการเสรีภาพก็ทำอย่างอื่นเถอะ ชนิดที่คนอื่นไม่ต้องลำบากจึงจะเรียกว่าสมควรหรือเป็นอิสระที่ ที่น่าจะนับถือ ในที่สุดก็ตกลงกันไม่ได้ แล้วก็ไม่ต้องพูดกันหยุดไว้แค่นี้ นี่ก็อยากจะให้เอาเรื่องอย่างนี้นะมาเป็นหลักว่าทำไมเราจะต้องไปทำให้มันแปลก หรือว่าให้มันยุ่งยากลำบาก จนคนอื่นไม่รู้ว่าบ้าหรือดี ในเรื่องแต่งเนื้อแต่งตัว เรื่องผมเรื่องเผ้าเรื่องอะไรก็ตาม เกี่ยวกระทั่งแม้แต่เรื่องเล่าเรียน เล่นหัว ร้องเพลงอะไรก็มันควรจะ ไม่ต้องทำให้คนอื่นพลอยลำบาก เหล่านี้เป็นเรื่องของวัยรุ่น เป็นปัญหาของวัยรุ่น เพราะวัยรุ่นกำลังจะ กำลังที่จะเป็นอย่างใดอย่างหนึ่งอยู่ คือยังเป็นไม่สมบูรณ์เขาเรียกว่ารุ่น รุ่น รุ่นๆนี่มันจะเป็นผู้ใหญ่ก็ยังไม่ใช่ จะเป็นเด็กก็ยังไม่เชิง มันก็อยู่ในระหว่างที่ว่าจะเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อ ถ้าเลี้ยวไปถูกทางมันก็ดี ถ้าเลี้ยวผิดทางมันก็ต้องลำบากแน่ ถ้าผิดทางมากเกินไปกระทั่งฉิบหาย ถ้าอย่าให้มีเรื่องอย่างนี้นะการเรียนจะดีกว่านี้ ทุกคนๆที่นั่งอยู่ที่นี่ถ้าอย่ามีเรื่องบ้าๆบอๆอย่างนี้การเรียนจะดีกว่านี้ เดี๋ยวนี้เราไปเสียเวลาไปคิดไปนึกไปอะไรเรื่องที่ไม่ต้องสนใจ แล้วบางทีถึงขนาดที่เรียกว่าไปใช้เงินเปลืองเพื่อสิ่งเหล่านี้ หนักเข้ามันก็กลายเป็นเรื่องเพศเรื่องเจ้าชู้ เรื่องอะไรตั้งแต่ยังเป็นวัยอยู่ในวัยเรียน อย่างนี้การเรียนมันก็เสียเท่านั้น ถ้าเราเคารพศาสนา มีศาสนา นับถือบิดามารดา นับถือครูบาอาจารย์มันก็ไม่ทำอย่างนี้
ฉะนั้นถ้าเรียกว่าวัยรุ่นแล้วก็ต้องขอให้เดินตามผู้ใหญ่ คือเดินตามกฎระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัด เพื่อให้จำง่ายก็อยากจะบอกให้ทราบว่าคนฉลาดที่สุดแต่โบราณนะเขาพูดไว้เป็นหลัก จนกระทั่งบัดนี้ก็ไม่มีใครค้านได้ ไม่มีใครมาเอาเหตุผลมาพิสูจน์ว่ามันผิดไปแล้ว คือคนโบราณเขาพูดไว้ว่าคนเราเกิดมากว่าจะตายนี่ให้แบ่งเป็น ๔ ระยะ ตั้งแต่เกิดมาจนถึงวัยรุ่นอย่างนี้เขาเรียกว่าพรหมจารีย์ อย่าเพิ่งเข้าใจผิดๆอึกอักเอาเองว่าพรหมจารีย์คืออะไร เดี๋ยวก็จะว่าให้ฟังได้ ตั้งแต่เกิดมาจนเป็นหนุ่มสาวก่อนแต่งงานนี่เขาเรียกว่าพรหมจารีย์ พอแต่งงานแล้วเขาเรียกว่าคฤหัสถ์ เป็นคฤหัสถ์ไปจนพอใจถึงที่สุดที่เขาเรียกว่าเกษียณอายุนะ อายุ ๖๐ ปีนี่เขาก็ไปเป็นผู้หาความสงบ เขาเรียกว่าวานปรัสถ์ หาความสงบส่วนตัว ไม่ยุ่งด้วยเรื่องนั่นนี่ ถ้ายังอยู่ไปได้อีกอายุเก้าสิบ ร้อยปีนี่เขาเรียกว่าสันยาสี เป็นผู้ทำแสงสว่างให้แก่ผู้อื่น พูดจาที่เป็นประโยชน์แก่เด็กๆ ถ้าได้อย่างนี้เขาว่าถูกต้องและครบบริบูรณ์ ถ้าไม่ได้อย่างนี้เรียกว่าเกิดมาได้ไม่ครบไม่เต็ม ไม่เต็มคน เขาเรียกว่าไม่เต็มคน เกิดมามีความเป็นมนุษย์ไม่เต็ม ถ้าเต็มก็ต้องเป็นไอ้พรหมจารีย์ที่ดี นี่ตั้งแต่เกิดมาถึงหนุ่มสาวนี่ดี แล้วเป็นพ่อบ้านแม่เรือนไปถึงสุด มันก็ดี แล้วก็ไม่หลงจนเข้าโลง อายุมากพอสมควรแล้วก็รู้จักหาความสงบ ได้ความสงบส่วนตัวแล้วก็รู้จักทำผู้อื่นให้ได้รับแสงสว่างคือการพูดจาอย่างนี้ นี่เราเกิดมากว่าจะเป็นหนุ่มสาวนี่อายุสมมุติว่า ๒๐ ปี นี่ ๑ ถึง ๒๐ ปีนี่เป็นพรหมจารีย์ ๒๐ ปีถึง ๖๐ ปีอะไรนี่เรียกว่าเป็นคฤหัสถ์ผู้ครองเรือน เหลือนั้นก็เป็นผู้สงบวานปรัสถ์บ้าง เป็นสันยาสี อบรมสั่งสอนพูดจาหรือเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ผู้อื่นบ้าง ฉะนั้น ๑ ปีถึง ๒๐ ปีนี่คือจุดตั้งต้นที่ว่าถ้าตั้งต้นดีก็ดี ตั้งต้นไม่ดีก็ไม่ดีอะไรนี่ ฉะนั้นจึงขอบอกพวกเธอทุกคนที่นี่ว่าเธอกำลังอยู่ในระยะที่อันตราย เป็นระยะตั้งต้น ที่ถ้าตั้งไม่ดีก็ไม่ดี ตั้งดีก็ดี ฉะนั้นอย่าไปคิดเรื่องอื่น ให้คิดแต่ในเรื่องที่ตั้งต้นให้ดี ตั้งต้นให้ดีก็คือเป็นพรหมจารีย์ที่ดี พรหมจารีย์ที่นี้เขาเรียกว่าประพฤติดี ประพฤติประเสริฐ พรหมนั้นมันแปลว่าประเสริฐ จารีย์แปลว่าผู้ประพฤติ พรหมจารีย์แปลว่าผู้ประพฤติประเสริฐ เพราะตรงนี้มัน มันสำคัญมาก ต้องให้ประพฤติให้ ให้ดีที่สุดเข้าไว้ก่อน ฉะนั้นมันจึงเกี่ยวกับขนบธรรมเนียมระเบียบประเพณีวินัยอะไรทั้งนั้นแหละ ที่เขามีไว้สำหรับเด็ก สำหรับคนรุ่น สำหรับคนหนุ่มสาวนี้ ฉะนั้นอย่าเหยียบย่ำไอ้ระเบียบขนบธรรมเนียมวินัยเหล่านั้นเป็นอันขาด พอเธอเหยียบย่ำเธอก็เป็นอันธพาลผีสิง ไม่ต้องมีใครมาพูดมาว่ามาด่าหรอก พอไปทำเข้ามันก็เป็นแค่นั้นนั่นแหละ ไปเหยียบย่ำกฎประเพณีวินัยอะไรต่างๆของนักเรียนนี่ก็เป็นอันธพาลแบบผีสิง คือต่อสู้ดื้อดึงดื้อด้าน ไม่ยอมที่จะประพฤติตามกฎระเบียบ แล้วก็ถือว่าการดื้อหรือฝืนระเบียบฝืนกฎได้นั้นดีนั้นเก๋ นั่นเป็นอันธพาลผีสิง แล้วเรื่องมันจะเป็นอย่างไรก็ดูเอาเองก็แล้วกัน เด็กคนนี้เป็นอย่างนี้ เด็กคนหนึ่งเป็นอะไรล่ะ ตรงกันข้ามนี่มันจะเหมือนกันไม่ได้ มันจะต้องต่างกันลิบล่ะ
ฉะนั้นจึงอยากจะขอร้องวิงวอนพวกเธอทุกคนว่าขอให้ช่วยตั้งหน้าตั้งตาสังเกตดูเด็กที่ดีๆบางคนให้มากสักหน่อย อย่าไปหัวเราะเยาะเขา อย่าไปล้อเลียนเขา อย่าไปแกล้งขัดคอเขา กลัวว่า กลัวว่าเขาจะดีกว่าเรา แล้วก็คอยหาทางให้มัน มันเสื่อมเสียไปนี่มันก็ไม่ถูก ถ้าสังเกตดูแล้วจะพอเห็น จะเห็นได้ว่าไอ้คนที่มันรอดตัวไปได้ เรียนได้ดี มีความเจริญเร็วนั่นเพราะมันเป็นคนดี คนดีในที่นี้ก็คือเป็นพรหมจารีย์ที่ถูกต้องคือไม่ไปประพฤติกระทำสิ่งที่มันนอกคอกนอกเรื่อง ทำแต่ในสิ่งที่มันมี มีเป็นหน้าที่โดยตรง ขั้นแรกก็คืออุตส่าห์ศึกษาเล่าเรียนอย่างดีที่สุด ไม่ไปเสียเวลาไม่ไปนั่นนี่ ไม่ต้องเปิดวิทยุพลางไอ้ทำการบ้านเขียนหนังสือพลาง เดี๋ยวนี้มีกันมาก ทำบทเรียนหรือทำการบ้านอะไรก็เปิดวิทยุพร้อมกันไปก็มือเขียนไป นี่มันเป็นคนที่มีจิตใจเลื่อนลอย มันทำได้เหมือนกันแหละแต่มันไม่ดี นี้เรียกว่าเรามันตามใจกิเลสมากเสียแล้ว ไม่ ไม่เคารพระเบียบ ทีนี้ไม่เท่าไรมันก็กลายนิสัยเป็นคนชอบ ชอบนี่ไอ้ชอบดนตรีชอบเพลงชอบอะไรมากขึ้น แล้วมันก็ชอบเกินขอบเขตจนกลายเป็นไอ้ เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม เหมือนกับผู้หญิงคนหนึ่ง ทีแรกนุ่งผ้าพอพ้นเข่าก็ละอายกระดาก แล้วก็ฝืนทำไปอย่างนี้ ทีนี้ก็ถกขึ้นมามันก็ ทีแรกๆมันกระดาก ทีหลังมันก็ไม่ละอายไม่กระดาก แล้วก็ไปนุ่งไอ้ชุดบิกินี่อะไรก็ได้ ไม่ละอายไม่กระดาก ผลสุดท้ายเปลือยก็ได้ไม่ละอายไม่กระดาก คือมันค่อยเลื่อนขึ้นไปทีละนิดๆ แล้วมันก็เป็นคนที่เหมือนๆเราอย่างนี้แหละ ไม่ใช่ว่ามันจะเลวกว่าเราหรือวิเศษวิโสกว่าเราอะไร มันเกิดมาในพ่อแม่ที่เป็นอย่างนี้ในที่สุดมันก็ไม่มีความละอาย ไอ้ความลับเรื่องนี้มันมีอยู่ตรงที่ค่อยทำไปทีละนิดๆ คือเลวลงไปทีละนิดๆมันไม่รู้สึกหรอก อะไรๆที่เราทำไปทีละนิดๆจะไม่รู้สึก ถ้าไปในทางดีมันก็ดีไปโดยไม่รู้สึก ถ้าเลวมันก็เลวไปในทางไม่ ไม่รู้สึก เหมือนทีแรกเราเดินไอ้เท้าเปล่าไม่ได้ปวดนี่ แต่ถ้าเราขยันเดินไปมันก็เดินได้ ทีหลังไอ้ ไอ้ๆที่หินขรุขระอะไรมันก็เดินได้ไม่ปวด มันไปในทางดี คือมันต่อต้านได้ เพราะฉะนั้นขอให้อดทน ให้มันมีความดีไปในทางดีนี่คืออดทนให้มันดีไปในทางดี อย่าไปเปิดหน้าด้านให้มันค่อยๆรุกไปในทางหน้าด้านไม่ละอายไม่มีหิริโอตัปปะ แม้เป็นผู้หญิงมันก็ยังทำได้อย่างนั้น แล้วพวกผู้ชายนี่ไปก้มหัวบูชาไอ้คนที่นุ่งผ้าน้อยหรือว่าไอ้คนไม่ละอายนั่นแหละ นี่วัยรุ่นผู้ชายต้องระวังให้ดี อย่าไปบูชาไอ้สิ่งชนิดนั้นมันจะเรียนหนังสือไม่รู้เรื่อง แล้วมันก็จะมีการเรียนที่เลว วัยรุ่นฝ่ายหญิงก็เหมือนกันแหละก็ต้องระวังอย่างเดียวกันแหละ คือจะต้องมีระเบียบวินัยกฎเกณฑ์อะไรเป็นหลัก แล้วประพฤติอย่างดีที่สุด อย่าเพิ่งแหกคอกแหกวินัยกฎระเบียบ ถ้าทำอะไรผิดระเบียบต้องละอาย ต้องรู้จักละอายให้มาก นี่เรียกว่าจิตใจมันยังอยู่ในความดี อยู่ในขอบเขตของความดี พอไม่ละอายต่อความผิดแล้วก็มันก็คือว่าเลวแล้ว มันเป็นผู้ชั่วไปแล้ว นี่คือปัญหาวัยรุ่น ไม่ใช่อย่างอื่น อย่าไปหวังอย่างอื่น เรื่องเล่าเรียนเรื่องไม่ได้เล่าเรียนอะไรนั้นมันไม่ใช่ปัญหา ปัญหามันมีอยู่ที่ว่าแม้มีให้เล่าเรียนนี้มันก็เรียนไม่ได้ มันก็เรียนได้อย่างเลว แล้วบางคนก็ซัดไปว่าไม่มีเงิน พ่อแม่จน เรียนไม่ได้ ไม่ได้เรียน นี้มันก็โง่มันก็โกหกด้วย เราเคยเห็นคนที่ไม่มี พ่อแม่ไม่มีเงินเลย ไม่ได้ส่งเสียเลย มันก็เรียนจนได้จนสำเร็จแล้วดีกว่าไอ้ที่พ่อแม่มีเงินมากส่งเสียเสียอีก คือว่ามันตั้งตนดีจนทุกคนเอ็นดูสงสาร มีคนให้มีคนช่วย พระเณรช่วยอะไรช่วยมันก็ได้เล่าเรียนดีเสียอีก ดีไปกว่า ได้ผลดีนะ แต่ไม่ใช่ใช้เงินมากนะ ใช้เงินน้อยหรือไม่ แทบจะไม่ใช้เงินเลย แต่การเรียนกลับดีกว่า กว่าไอ้เด็กที่พ่อแม่มีเงินมากส่งเสริมมาก แล้วมันก็หลอกต้มพ่อแม่สุกแล้วสุกอีก ผลที่สุดมันก็เหลว พ่อแม่ก็เดือดร้อน ไปเรียนกรุงเทพเขาหลอกพ่อแม่ตลอดเวลา พ่อแม่ส่งเงินไปให้ถลุงไม่รู้ แล้วการเรียนก็เหลว พ่อแม่ก็ลำบากเดือดร้อนเป็นหนี้เป็นสินนี่เป็นอย่างนี้ ทีแรกก็รักพ่อแม่ทำไม่ลงหรอก มันทำไม่ลงทันที แต่แล้วมันค่อยๆทำได้ทีละนิดๆ ไปคบเพื่อนชั่วมันทำได้มากขึ้นทีละนิดๆ จนเรียกว่าทำอย่างต้มพ่อแม่สุกเปื่อยไปก็ทำได้ นี่เขาเรียกว่าไม่บังคับตัวด้วย แล้วไปคบเพื่อนชั่วด้วยมันก็อย่างนี้เอง นี่คือปัญหาวัยรุ่น ไม่ใช่ปัญหาว่าไม่มีเงิน หรือไม่มีที่เรียน ไม่มีการเรียนอะไร ถ้าดีจริงแล้วจะต้องมีๆ มีโอกาส ประพฤติตัวเป็นคนดีจะต้องมีโอกาส เดี๋ยวนี้มันเหลวไหลแล้วไปแก้ตัวว่าไม่มีที่เรียน ไม่มีเงินเรียน ไม่มีใครช่วย ใครจะไปช่วยคนเลวๆแบบนั้น เทวดาก็ไม่ช่วย ผีก็ยังไม่ช่วยไอ้เด็กเลวๆแบบนั้น อย่าว่าแต่คนจะช่วย ดังนั้นเราต้องทำตัวให้เป็นคนดี มนุษย์ก็เอ็นดูสงสาร แม้เทวดาถ้ามีก็เอ็นดูสงสาร แม้แต่ผีที่เป็นสัตว์ที่เลวมันก็ยังเห็นด้วยว่าคนนี้มันดี มันยังจะเอาใจช่วยได้เหมือนกัน ฉะนั้นปัญหาวัยรุ่นนี่มันอยู่ที่ตรงนี้ไม่ใช่อยู่ที่ว่าไม่มีอะไร หรือว่าบ้านเราไม่มีมหาวิทยาลัยหรืออะไรทำนองนั้น
สรุปสั้นๆปัญหาของวัยรุ่นคือบังคับตัวเองไม่ได้ นี่คือความล้มเหลวของวัยรุ่นคือบังคับตัวเองไม่ได้ คำนี้คำเดียวเป็นคำแรกไว้ก่อนว่ามันบังคับตัวเองไม่ได้ บังคับตัวเองให้เป็นพรหมจารีย์ที่ดีไม่ได้ บังคับให้เป็นนักเรียนที่ดีไม่ได้ มันบังคับตัวเองไม่ได้ เพราะเหตุอะไรบ้างนี้มันมีหลายอย่าง มันคบเพื่อนชั่วก็ทำให้บังคับตัวเองไม่ได้ แล้วมันไม่พยายามจะบังคับด้วยเพราะมันบังคับตัวเองไม่ได้ มันบังคับตัวเองให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้ก็ไม่ได้ มันบังคับตัวเองอย่าให้ไปคบเพื่อนชั่วมันก็บังคับไม่ได้ แล้วบังคับจิตใจตัวเองก็ไม่ได้คืออยากทำเลวแต่บังคับไว้มันก็ไม่ได้ อยากสูบบุหรี่สูบ อยากไปดูหนังดู อยากไปทำอะไรทำ โดยไม่ต้องมีเหตุผลว่าควรหรือไม่ควรนั่น เราจะทำอะไรเราต้องมีเหตุผล อยู่ในอำนาจของเหตุผลเสียก่อนว่าควรหรือไม่ควร แต่ง่ายกว่านั้นคือพ่อแม่น่ะดีที่สุด อย่าอวดดีว่าเราเข้าโรงเรียนเราเก่งกว่าพ่อแม่ พ่อแม่โง่ อย่าคิดอย่างนั้นเป็นอันขาด ไปถามเถอะอะไรควรทำไม่ควรทำ ถามพ่อแม่จะบอกได้ดีที่สุด เพราะเขาเกิดก่อนเรามาก อย่าดูถูกพ่อแม่และอย่าถึงขนาดว่าต้มพ่อแม่ให้สุก นี่ความสำคัญมันอยู่ที่เคารพบิดามารดา ครูบาอาจารย์หรือบุคคลที่ควรเคารพ มันก็เลยบังคับตัวเองได้ บังคับตัวเองได้มันก็อยู่ในร่องในรอยของความดี เพราะฉะนั้นการเรียนก็ได้ดี ความประพฤติก็ดี คนรักใคร่เอ็นดูสงสารมากเรียกว่าสังคมดี มันก็มีความเจริญทั้งนั้นแหละ ฉะนั้นบังคับตัวเองให้ได้นะแล้วเพื่อประโยชน์สักสี่ห้าอย่างก็พอ คือเพื่อให้เป็นบุตรที่ดีของบิดามารดาให้ได้ ให้เป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์ให้ได้ ให้เป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อนให้ได้ ให้เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติให้ได้ ให้เป็นพุทธบริษัทหรือพุทธมามกะที่ดีของพระพุทธเจ้าให้ได้ นี่เรียกว่ามัน ๕ ดี เป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา เป็นศิษย์ ศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์ เป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อนด้วยกัน แล้วเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศ แล้วก็เป็นพุทธมามกะพุทธบริษัทที่ดีของศาสนาของพระพุทธเจ้า ฉะนั้นถ้าเธอจำไอ้ดี ๕ ดีนี้ไว้ได้ปัญหาวัยรุ่นหมด แต่ว่าทั้งหมดนั้นมันขึ้นอยู่ที่บังคับตัวเอง ถ้าบังคับตัวเองไม่ได้มันจะดี ๕ อย่างนี้ไม่ได้ ถ้าบังคับตัวเองได้มันจะดีได้ทั้ง ๕ อย่างนี้ เป็นลูกที่ดี เป็นศิษย์ที่ดี เป็นเพื่อนที่ดี เป็นพลเมืองที่ดี เป็นพุทธมามกะที่ดี ฉะนั้นถ้าผู้ใดสนใจที่ว่าจะแก้ปัญหาของตัวในวัยรุ่นก็จงจำไอ้ ๕ คำนี้ ๕ ดีนี้ไว้ให้ได้ แล้วก็จำไอ้คำที่ว่าได้หรือไม่ได้มันอยู่ที่บังคับตัวเองได้หรือไม่ได้ ถ้าบังคับตัวเองได้มันก็ต้องดี บังคับไม่ได้มันก็ดีไปไม่ได้ ฉะนั้นขอให้สนใจในไอ้ ๕ อย่างนี้ให้มากเป็นพิเศษ ถามตัวเองอยู่โดยตรงไปตรงมา ไม่ลำเอียงว่าเราเป็นลูกที่ดีของพ่อแม่หรือยัง ต้องถามด้วยความซื่อตรง ต้องตอบด้วยความซื่อตรง เรา เราอยู่คนเดียวไม่ต้องมีใครได้ยิน กูเป็นลูกที่ดีของพ่อของแม่หรือยังนี่ ถ้ามันมีเลวข้อไหนมันก็เขกหัวมันเข้า บุตรที่เลวก็คือว่าเหลวไหลในการเรียน ขี้เกียจในการเรียนน่ะก็เขกหัวมันเข้า เป็นเจ้าชู้ตั้งแต่เล็กนั่นก็เขกหัวมันเข้า ใช้เงินของพ่อแม่ที่ได้มาด้วยเหงื่อไคลนั้นน่ะเปลือง ยังไม่ ไม่เห็นไม่สงสารอย่างนี้ก็เขกหัวมันเข้า ตัวหาเงินยังไม่ได้ก็ไปใช้สุรุ่ยสุร่าย เช่นเรื่องสูบบุหรี่ เรื่องดูหนังอะไรนี้ตัวยังหาเงินเองไม่ได้ แต่ก็ใช้เงินที่พ่อแม่หามาด้วยเหงื่อไคลอย่างนี้มันใช้ไม่ได้ นั่นแหละก็ทดสอบอย่างนี้ว่าเราเป็นลูกที่ดีของพ่อแม่หรือยัง แล้วเราเป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์หรือยัง ก็รู้ได้ง่ายๆเดี๋ยวนี้ที่นี่ แม้ในห้องเรียนไหนๆก็รู้ได้ เราเป็นผู้ซื่อตรงต่อไอ้ระเบียบวินัยคำสั่ง ไอ้การบังคับบัญชาอะไรนี่ เป็นศิษย์ที่ดี นี่โดยมากยังตั้ง รวมหัวกันเพื่อแอนตี้ครูบาอาจารย์ก็มี เรียกครูบาอาจารย์ว่าไอ้ว่าอีก็มีพอมันโกรธขึ้นมา มันก็ลำบากกันไปหมด ยิ่งครูอาจารย์เป็นผู้หญิงด้วยแล้วก็ไอ้นักเรียนผู้ชายนี้มันยากที่จะดีได้ ฉะนั้นต้องระวังเมื่อปัญหามันมีขึ้นมา ทีนี้เป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อนนี่ ถ้าเป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อนมันชกต่อยกันไม่ได้ แต่นี้ยังมีด่ามีตีมีชกมีต่อยมีอะไรกันอยู่ พิสูจน์อยู่ในตัวแล้ว มันยังมีมึงๆกูๆกันอยู่ นี่เรื่องของเด็กๆนะ เป็นลูกที่ดี เป็นศิษย์ที่ดี เป็นเพื่อนที่ดี ทีนี้พอโตหน่อยมันยังเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติ เป็นพุทธมามกะที่ดีของศาสนาด้วย ดังนั้นค่อยศึกษาต่อไป
ฉะนั้นขอให้ถือว่าไอ้ปัญหาวัยรุ่นนี่แก้ได้ด้วยการมีดีสัก ๕ อย่างนี่ ลูกที่ดี ศิษย์ที่ดี เพื่อนที่ดี พลเมืองที่ดี พุทธมามกะที่ดี ได้เพียง เพียง ๕ อย่างนี้แก้ปัญหาวัยรุ่นทั้งหมดได้เลย ผิดจากนี้เป็นอันธพาล เป็นวัยรุ่นอันธพาล ไอ้ดีทั้ง ๔ อย่างนี้ได้มาโดยการบังคับตัวเอง อดกลั้นอดทนบังคับตัวเอง มีสัจจะจริงใจที่จะทำให้ดี มีธรรมะบังคับตัวเองทำให้ดี มีขันติอดทนเมื่อจะต้องทน การทำดีมันต้องทน ไม่มีการทำดีที่ไหนที่ไม่ต้องทน ยิ่งดีมากยิ่งต้องทนมาก แล้วก็มีจาคะคือละ ละสิ่งเลวๆออกไป สิ่งใดเลวละออกไป สิ่งใดเลวละออกไปนี่เขาเรียกว่าจาคะ สละ มันก็เป็นคนดีได้ตามความปรารถนา ปัญหาวัยรุ่นหมดไปเพราะดี ๕ ดีนี้ ทำได้ด้วยการมีความจริงใจคือมีสัจจะ มีบังคับตัวเองคือมีธรรมะ มีอดทนคือขันติ มีสละความชั่วคือจาคะ นี่พระพุทธเจ้าสอน สำเร็จอยู่ที่การบังคับตัวเองคืออดทนนั่นแหละ นอกนั้นมันแวดล้อมไอ้ความ ไอ้ๆ ไอ้ความบังคับตัวเอง สำเร็จอยู่ที่การบังคับตัวเอง นอกนั้นมันแวดล้อมสิ่งนี้ ถ้าเราไม่มีจริงใจเราก็ไม่บังคับตัวเอง เราไม่อดทนเราก็บังคับอยู่ไม่ได้ เราไม่สละความชั่วเสียบ้างเราก็บังคับไม่ไหว มันกดดันสูงมากไป ฉะนั้นขอให้มีสัจจะ ธรรมะ ขันติ จาคะ บังคับตัวเองให้ได้ ให้เป็นคนดี ๕ ประการ ปัญหาวัยรุ่นหมด คือการเรียนก็ดี การประพฤติก็ดี สังคมก็ดี คนทุกคนจะรักจะเอ็นดู ผีสางเทวดาถ้ามีก็เอ็นดู ไม่มีก็แล้วไปถ้ามีก็จะเอ็นดูแก่คนเด็กๆ เด็กๆชนิดนี้ ฉะนั้นการที่ขอร้องให้พูดเรื่องเกี่ยวกับปัญหาของคนวัยรุ่นก็พูดอย่างนี้ แล้วก็พูดตรงๆอย่างนี้ไม่ต้องเสียเวลาอ้อมค้อม แล้วก็ไม่ได้พูดระบุเฉพาะพวกเธอที่นั่งอยู่ที่นี่ ระบุวัยรุ่นทั้งโลกเลยไม่ใช่แต่ประเทศไทย มันมีปัญหาอย่างเดียวกันหมด นี่โลกกำลังจะล่มจมเพราะว่าวัยรุ่นเป็นอันธพาลมากขึ้นนี่ โลกทั้งโลกกำลังจะล่มจมเพราะว่าวัยรุ่นเป็นอันธพาลมากขึ้น ในประเทศเราก็เหมือนกัน ประเทศอื่นก็เหมือนกัน ฉะนั้นเมื่อมันเกิดแบ่งแยกกันเป็น ๒ พวกอย่างนี้แล้วเราอยู่ฝ่ายนี้เถอะ อยู่ฝ่ายที่พระพุทธเจ้าแนะนำนี่คืออยู่ฝ่ายดี อย่าไปอยู่ฝ่ายที่บาปหรือกิเลสหรือผีพญามารเขาแนะนำเลย ก็เป็นอันว่าได้พูดโดยหัวข้อเกี่ยวกับความรอดตัวของวัยรุ่นมีอย่างครบถ้วนโดยหัวข้อโดยแนวสังเขป รายละเอียดก็ไปคิดเอาเองได้ ไม่ยากถ้าไม่ลืมหัวข้อเหล่านี้เสีย ถ้าลืมหัวข้อเหล่านี้เสียก็เป็นอันว่าเลิกกัน ฉะนั้นขอให้ผู้ที่ตั้งใจดี มีความปรารถนาดีจงมีความสุขความเจริญงอกงามก้าวหน้าทั้งทางโลกและทั้งทางธรรมทุกทิพพาราตรีกาลเทอญ