แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ท่านทั้งหลายผู้เข้ารับการอบรมและผู้สนใจในธรรมอื่นๆ ธรรมิกถาที่อาตมาจะกล่าวในวันนี้ ขอให้ถือว่าเป็นเรื่องพิเศษ ไม่ใช่เป็นเรื่องเกี่ยวกับวิชาลูกเสือโดยตรง เพราะว่าไม่ใช่หน้าที่ของอาตมา และท่านทั้งหลายย่อมจะเข้าใจดีกว่า ดังนั้นจึงเหลืออยู่แต่เรื่องพิเศษ คำว่าพิเศษในที่นี้ก็คือควรจะรู้เป็นพิเศษ และเมื่อพิเศษแล้วมันก็ต้องพิเศษไปให้ถึงกับว่าเป็นการแสดงความคิดเห็นอย่างไม่มีขอบเขตจำกัด ถือเป็นการแสดงความคิดเห็นเท่าที่อาตมาจะมองเห็นซึ่งก็มักจะไม่ตรงกับความคิดเห็นของผู้อื่น เพราะฉะนั้นถ้ามันไม่ตรงกันก็ขอให้ฟังในฐานะเป็นความคิดเห็นเป็นพิเศษ จะเชื่อก็ได้ไม่เชื่อก็ได้ แต่ถ้าเชื่อหรือเห็นด้วยก็ควรจะมีการพิจารณาเป็นพิเศษสำหรับเอาไปปฏิบัติต่อหนึ่ง นี้เป็นข้อที่ขอให้เข้าใจในเบื้องต้นเพื่อจะป้องกันไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด ทีนี้เรื่องที่จะกล่าวในวันนี้ที่เป็นประโยชน์แก่ท่านทั้งหลายนั้น อยากจะให้หัวข้อว่าคนไทยทำอะไรดีกว่าครูเสมอ คนไทยทำอะไรดีกว่าครูเสมอ คำกล่าวนี้ใช้กับเรื่องของลูกเสือก็ได้ ใช้กับเรื่องอื่นๆทั่วไปก็ได้ เราพูดกันอย่างอิสระอย่างนี้ไม่ใช่เป็นการอวดดี การอวดดีเป็นเรื่องไม่ควรพูดและเสียมรรยาท แต่ถ้ากล่าวตามข้อเท็จจริงที่มีอยู่มันก็ไม่เป็นการอวดดี ไม่เป็นการเสียมรรยาท ที่กล่าวนี้ก็เพื่อจะขอร้องให้สนใจเป็นพิเศษในลักษณะแห่งความเป็นไทยของเรา ถ้ามิเช่นนั้นแล้วมันจะไม่ใช่คนไทย ความประสงค์มุ่งหมายมีต่อไปว่าเมื่อคนไทยทำอะไรดีกว่าครูเสมอแล้ว ดังนั้นลูกเสือไทยก็ไม่ต้องตามก้นฝรั่ง นี่ลูกเสือไทยต้องไม่ตามก้นฝรั่งทั้งที่ว่าไอ้ฝรั่งเป็นผู้ให้กำเนิดลูกเสือในโลก
ทีนี้เราจะพูดกันแต่ว่า ในข้อที่ว่าคนไทยทำอะไรดีกว่าครูเสมอก่อน นี้ไม่ใช่เป็นเรื่องท้าทาย แต่เป็นเรื่องกล่าวตามความเป็นจริงเพื่อให้คนไทยระลึกนึกถึงความจริงที่เป็นของๆตัว ยกตัวอย่างที่เห็นอยู่จริงมาตามลำดับ ไทยเรารับวัฒนธรรมจากประเทศอินเดียมากกว่าวัฒนธรรมแขนงอื่นมาตั้งร่วมสองพันปีแล้ว ข้อนี้อย่าเอาแน่นอนนักเพราะเราเองก็ไม่รู้กันแน่นอนว่าคนไทยตั้งต้นเมื่อไร ความเป็นไทยตั้งต้นเมื่อไร แต่ถ้าเอาตามภูมิศาสตร์ ผืนแผ่นดินผืนนี้ได้รับพุทธศาสนามาไม่น้อยกว่าพันห้าร้อยปีมาแล้ว เช่นโบราณวัตถุต่างๆที่มีอยู่ที่นครปฐมที่ถือว่าเก่ากว่าใครทั้งหมดนั้นมันก็ประมาณพันห้าร้อยปีมาแล้ว เมื่อเป็นสมัยคุปตะ ถือเอาตามรูปร่างของโบราณวัตถุเหล่านั้น แล้วดินแดนภาคใต้เรานี้มันก็ อย่างน้อยก็ต้องได้รับวัฒนธรรมอินเดียมาตั้งแต่สมัยศรีวิชัย มันก็พันสองร้อยกว่าปีแล้ว แล้วมีอะไรเหลืออยู่เป็นหลักฐานในแผ่นดินนี้ซึ่งเป็นวัฒนธรรมของชาวอินเดีย เช่นพระบรมธาตุ เช่นอะไรต่างๆ รวมความว่าเรารับวัฒนธรรมอินเดียมาตั้งพันกว่าปีแล้ว เรามากกว่าพวกอื่น ทีนี้เราก็ดูว่ามันมีอะไรบ้าง แล้วเราทำให้ดีกว่าครูได้อย่างไร ตัวอย่างอันแรกเช่นกวีนิพนธ์หรือกาพย์ กลอน โคลง ฉันท์ ข้อนี้รับจากอินเดียโดยตรง มันมีอะไรปรากฏอยู่ชัด ไม่ใช่ของเดิมของไทยหรือรับจากจีนหรืออะไรทำนองนั้น ประเทศอินเดียก็มีไอ้กาพย์กลอนโคลงฉันท์เหมือนกันแต่เขาเรียกกันว่าคำฉันท์ เมื่อเรา ไทยเราได้รับวัฒนธรรมกวีนิพนธ์คำฉันท์เอามาก็ทำได้ดีกว่าครู เพราะว่ากาพย์กลอนของอินเดียไม่มีสัมผัส ที่เราเรียกกันว่าสัมผัสนอกสัมผัสในอะไรนั่นไม่มีเลยทั้งสัมผัสนอกทั้งสัมผัสใน มีแต่มาตราคือจำนวนของถ้อยคำและครุ ลหุ ความหนักเบาของคำเท่านั้น ไม่ต้องสัมผัส ถ้าเรารับเอามาทำมีเอ่อ, ทำให้มีสัมผัสขึ้น ไพเราะลื่นหู ฟังลื่นไป เมื่ออาตมาไปที่อินเดียก็พูดกับชาวอินเดียถึงข้อนี้ เขาก็ต้องผงกศีรษะเรื่อย จะพูดอะไรก็ไม่พูด ก็หมายความว่ายอมรับว่ามันไพเราะกว่า ดังนั้นเรารับกาพย์กลอนโคลงฉันท์มาจากอินเดีย เราก็มาทำได้ดีกว่าครู มันมีอะไรหลายอย่างที่เราจะต้องนึก คนไทยเราก็ถือว่ามาจากทางเหนือต่อกับประเทศจีน มันก็ไม่มีแกงเผ็ด พอลงมาถึงดินแดนส่วนนี้มันจึงมาพบชาวอินเดียและรับวัฒนธรรมแกงเผ็ด เมื่อพวกอินเดียมาที่นี่เราก็บอกว่าคุณชิมแกงของไทยดูหรือยัง แนะให้ชิมแกงเขียวหวานแกงอะไรนี้ พวกอินเดียก็ต้องผงกศีรษะอีก คือมันดีกว่าแกงแขกอย่างที่เทียบกันไม่ได้ทั้งที่เขาเป็นแขก ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ชอบอย่างที่เรียกว่าจะกินได้เป็นประจำ เขาก็ต้องยอมรับว่ามันมีอะไรดีกว่าหรือสูงกว่า นี่แกงเผ็ดนี่ต้องถือว่าได้รับจากอินเดียตั้งพันกว่าปีแล้ว แล้วขยับขยายปรับปรุงมาจนเป็นแบบไทยอย่างนี้ มันดีกว่าครู นุ่งผ้าโจงกระเบนก็เป็นวัฒนธรรมอินเดีย ไปดูมัทราส อินเดียใต้ นุ่งผ้าโจงกระเบน บนศีรษะทูนกระเฌอ มือหนึ่งนาด (นาทีที่ 10.12) มือหนึ่งจับกระเฌอหรือบางทีก็ไม่ ไม่จับ คือเดินนาดทั้งสองมือก็จนกระทั่งเดี๋ยวนี้ก็ยังมี เมื่อไปปี ๙๙ นั้นพบเยอะแยะ แล้วก็ยังคงมีอยู่จนกระทั่งบัดนี้ เมืองไทยจะหมดแล้ว แต่เมื่อดูไอ้วิธีนุ่งผ้าโจงกระเบนแล้วโจงกระเบนของไทยนี่ดีกว่ามาก นี่เรา โจงกระเบนอย่างไทยสวยกว่า ดีกว่าอะไรกว่า ดีกว่าครู รับอะไรมาจากครูแล้วก็ทำดีกว่าครู แม้ที่สุดแต่ไอ้ตัวอักษร คำพูด เราก็มาดัดแปลงชนิดที่เรียกว่าสะดวกหรือดีกว่า ถ้าถือหลักตามหลักเทคนิคตามหลักวิชาแล้วจะเรียกว่าตัวอักษรไทยนี่สวยกว่า ดีกว่า สะดวกกว่า ใช้ง่ายกว่า เป็นสบ (นาทีที่ 11.23) หลักวิทยาศาสตร์กว่า ตัวอักษรไทยวิธีผสมอักษรเป็นคำไทยอย่างนี้ แล้วยังแผลงเป็นไอ้คำที่ผันไปตามวรรณยุกต์ได้ ซึ่งอินเดียไม่มี ทีนี้เราจะเอาศิลปวัตถุกัน อย่างพระพุทธรูปเป็นวัฒนธรรมอินเดีย เรามาทำในเมืองไทยซึ่งสูงสุดยอดเลยคือพระพุทธรูปแบบสุโขทัย ให้ฝรั่งเป็นคนกลางตัดสินพระพุทธรูปแบบงามที่สุดของอินเดียกับพระพุทธรูปแบบงามที่สุดของไทย ฝรั่งไม่เข้าใคร ไม่เข้าใครออกใคร มันก็ยังบอกว่าพระพุทธรูปสุโขทัยเป็น high art ถึงระดับ high art ของโลกอย่างนี้เป็นต้น ทีนี้เรื่องว่าเราทำอะไรดีกว่าครู ถึงแม้พุทธศาสนาก็เถอะ ไอ้ตัวธรรมะตัวศาสนานี่มาถึงประเทศไทยแล้วก็ได้รับการศึกษาเล่าเรียนแล้วปรับปรุงเป็นหมวดเป็นหมู่ เป็นวิธีสั่งสอนที่ดี อย่างวิธีเรียนนักธรรมวิธีเรียนบาลีอย่างนี้ โดยเฉพาะวิธีเรียนนักธรรมนี้ก็ดี ดีกว่าครู เป็นวิธีสอนวิธีเรียนที่ดีกว่าครู เรียนนัก เรียนธรรมะในพุทธศาสนา ศิลปะอื่นๆ เช่น นาฏศิลป์ การร่ายรำ ไม่ใช่ว่าเราเป็นคนไทยแล้วเข้าข้างข้างตัว ถ้าเอาคนทั่วๆไป เอา เอาคนนอกเอาพวกฝรั่งเป็นเกณฑ์ เขาก็จะชมว่านาฏศิลป์ไทยนี่น่าดูกว่านาฏศิลป์อินเดียอย่างนี้เป็นต้น มีเทคนิคมีอะไรมากมายกว่ากันมาก ทั้งที่เรารับเอามาจากอินเดียทั้งดุ้นทั้งกระบิครบทั้งหมด ทั้งศาสตร์ ศาสตร์นี้ แต่ทำไมถึงมันมามีปรากฏเป็นว่าสวยกว่า นิ่มนวลกว่า อะไรกว่า แปลกกว่า นี้ก็เรียกว่าดีกว่าครู แล้วยังมีอีกเยอะแยะเดี๋ยวก็จะหมดเวลาเพราะเรื่องยกตัวอย่าง และที่ทำเลวกว่าครูนั้นไม่มี ทั้งที่ได้รับมาจากจีนจากฝรั่งในตอนหลังนี่ ถัดมาจากอินเดียเราก็พบกับพวกจีนในแหลมมลายูนี้ ก็รับวัฒนธรรมจีน ก็ทำอะไรได้ดีกว่า อาหารบางชนิดก็มาทำให้เป็นชนิดที่เรียกว่ามันน่าดูกว่า อาหารฝรั่งโดยเฉพาะของหวานที่พวกโปรตุเกสมาสอนให้ทำ ไอ้ฝอยทอง ทองหยิบอะไรนี้พวกโปรตุเกสเขาสอนให้หลายร้อยปีมาแล้ว ก็มีคนพูดว่าดีกว่าครู แต่ว่าจะเป็นครูจีนครูฝรั่งครูอินเดียอะไรก็ตามเราก็ทำได้ดีกว่าครู พูดง่ายๆ ยำผักคือยำสลัดที่ทำในเมืองไทยดีกว่าที่พวกฝรั่งทำเยอะแยะ เอาละพอกันทีสำหรับข้อที่ว่าคนไทยทำอะไรดีกว่าครูเสมอ นี้ยังไม่เกี่ยวกับเรื่องลูกเสือ แต่ขอให้รู้จักไอ้ความเป็นคนไทยของไทยไว้ก่อนเถอะว่าจะต้องมีหลักลงแน่นอนตายตัวลงไปว่าคนไทยต้องทำอะไรดีกว่าครูเสมอ
ทีนี้มาถึงยุคที่ฝรั่งเข้ามาเป็นครูหลายสิ่งหลายอย่างหลายประการ ถ้าคนไทยยังรักความเป็นไทยต้องทำอะไรได้ดีกว่าครูอีกตามเดิม ทีนี้น่าเสียดายที่ว่าคนไทยสูญเสียความเป็นไทย กลายไปเป็นตามก้นฝรั่งจนไม่ลืมหูลืมตาหนักเข้าทุกที วัฒนธรรมฝรั่งสมัยนี้เป็นวัฒนธรรมวัตถุนิยม ช่วยจำไว้ให้ดี วัฒนธรรมไทยของบรรพบุรุษนั้นเป็นอย่างมโนนิยม คือเป็น spiritualism ไม่ใช่ materialism เหมือนพวกฝรั่ง เพราะฉะนั้นเราจึงมีความเป็นไทยชนิดที่มีจิตใจสูง ทำอะไรดีกว่าครูได้ พอตกมาถึงสมัยนี้เราก็เผลอตัวทีละนิดๆ ไปหลงในทางเนื้อหนัง เอร็ดอร่อยสวยงามทางตาทางหูทางจมูกทางลิ้นทางกาย ไม่รักษาไอ้ความศักดิ์สิทธิ์ของปู่ย่าตายายหรือวัฒนธรรมเดิมๆไว้ มันก็เลยเปลี่ยนไปๆทีละนิดไม่ค่อยรู้สึกตัว แต่เปลี่ยนไปในทางตามก้นฝรั่ง ขออภัยใช้คำตรงๆโสกโดกเพื่อประหยัดเวลา จนนิยมฝรั่งและเลียนแบบฝรั่งอย่างชนิดตามก้น ไม่ใช่นำหน้า ไม่ใช่ดีกว่าครู จนสูญเสียความเป็นไทย ขอยกตัวอย่างที่สตรีถูกหลอกให้ใช้กระโปรงสั้นจนลำบาก แล้วก็สั้นกันไปทุกทีๆ จนเดี๋ยวนี้ก็เห็นกันอยู่ไม่ต้องคาดคะเนอะไร เมื่อนั่งพับเพียบแล้วเป็นเรื่องที่น่าเกลียดน่าชังที่สุด ทีนี้ก็ลองคิดดูว่าใครได้ประโยชน์อะไร ผู้หญิงไทยผู้นุ่งกระโปรงสั้นได้ประโยชน์อะไร แล้วคนอื่นได้ประโยชน์อะไร มีใครได้ประโยชน์อะไรเพราะกระโปรงสั้น แต่แล้วก็ยังมีคนทำตาม ทีแรกก็คนเด็กๆ แล้วถัดมาก็คนสาวๆ เดี๋ยวนี้คนแก่ก็เอา ผู้หญิงชราวัยสูงอายุก็เอา จะไม่เรียกว่างมโง่อย่างหลับหูหลับตาตามก้นฝรั่งแล้วจะเรียกว่าอะไร เพราะมันไม่เห็นว่าใครได้ประโยชน์อะไรจากสิ่งนี้ มีแต่ความยุ่งยากลำบากไปหมด ตัวเองก็ลำบาก แขกเหรื่อก็ลำบาก เจ้าของบ้านก็ลำบาก พระเจ้าพระสงฆ์ยิ่งลำบากกว่าใครหมด นี่เป็นเรื่องที่เป็นจริง แล้วลองคิดว่าไอ้เรื่องนุ่งกระโปรงสั้นๆนี่มันดีกว่าครูที่ตรงไหน มันตามก้น ตามก้นเขาเท่านั้น มันตามหลังเขานั้นนะไม่ได้ดีกว่าครูเหมือนที่แล้วๆมา ที่เป็นสัญลักษณ์เป็นเครื่องอะไร เป็นนิสัยสันดานของคนไทยที่จะต้องทำอะไรให้ดีกว่าครู นี้มันก็มีเรื่องอื่นอีกมาก ไม่ใช่แต่เรื่องกระโปรงสั้นที่คนไทยสูญเสียความเป็นไทย ขอให้คิดดูให้ดีๆในข้อนี้ว่าความเป็นไทยหายไปไหนหมดแล้ว ปู่ย่าตายายที่ตายไปแล้วสักสี่สิบห้าสิบปีนี่มาเห็นอย่างนี้เข้าแล้วก็จะเป็นลม ผู้หญิงแก่นุ่งกระโปรงสั้นมานั่งกับพระที่วัดนี่มาเห็นเข้าจะเป็นลม ยิ่งสาวๆยิ่งเด็กๆลงไปก็ค่อยยังชั่ว นี่เราสูญเสียความเป็นไทย แล้วยังสูญเสียไอ้ข้อที่ว่าคนไทยต้องทำอะไรดีกว่าครูเสมอนั้นไปหมด ไปดูภาพประกวดนางงามโลกคราวนี้ที่ตามหน้าหนังสือพิมพ์ เขาให้แต่งชุดผ้าหรืออะไรก็ไม่ทราบชิ้นเดียวตลอด บาง ยืด รัดตัวทั้งตัว ถ่ายรูปมาแล้วมันเป็นรูปเปลือย นี่คนไทยก็มีอยู่ในนั้น ในกลุ่มนั้น นี่เรียกว่าปู่ย่าตายายเห็นกันแล้วจะเป็นลม แล้วมันมีอะไรที่ตรงไหน ใครได้อะไร เป็นเกียรติชนิดไหนกันแน่ พวกคริสเตียนเขาห้ามขาด ไม่ให้ลูกหลานเข้า ที่ถือคริสเตียนเข้าประกวดนางงาม เพราะเขาถือว่ามันเป็นการประกวดนางหน้าด้าน นี่มันเป็นเรื่องประกวดนางหน้าด้านไม่ใช่ประกวดนางสาวงาม เขาจะคัดบัญชีออกจากความเป็นคริสเตียนทันที ถ้าลูกสาวหลานสาวใครไปประกวดนางงามอย่างนี้ แต่คนไทยเรานี่ยังยอมให้ทำได้ นี่สูญเสียความเป็นไทย ความศักดิ์สิทธิ์ของไทย ความที่ว่าทำอะไรจะต้องดีกว่าครูนี่มันกลายเป็นตามก้นเขาไปอย่างไม่รู้ตัวคือไม่รู้ว่ามันได้ประโยชน์อะไรที่ไหน มันไม่มีใครได้ประโยชน์อะไรที่ไหน นอกจากทำให้มนุษย์เลวลง ผู้ออกแบบเครื่องแต่งตัวของผู้หญิงนั้นมันเป็นผู้ชาย ก็ยังหลอกให้ผู้หญิงนิยมไอ้ชุดแฟชั่นไอ้แปลกๆใหม่ๆนี่ได้ตามต้องการหมด ก็แปลว่าผู้หญิงโง่ ยอมรับไอ้เครื่องแบบหลอก ให้แสดงอะไรชนิดที่ไม่ควรแสดง ผู้ชายนั้นก็เป็นคนหลอกลวง เป็นผู้ที่ออกแบบให้ผู้หญิงแต่ง แล้วผู้หญิงไทยก็ยังเดินตามก้นฝรั่งรับเอาแบบเหล่านี้มา ไม่สำนึกว่าเราถูกหลอกให้สูญเสียความเป็นไทย ก็มีความโง่มากจนถึงกับว่าฝรั่งแล้วก็ต้องดีไปหมด อะไรก็นิยมฝรั่งไปหมด หารู้ไม่ว่าฝรั่งมันก็มีความโง่มากกว่าคนไทยในบางอย่างบางสิ่ง เพราะว่ามันตกเป็นทาสของวัตถุนิยม เพราะเป็นพวกวัตถุนิยม ไทยเราแต่เดิมมาเคร่งครัดในทางจิตใจ ทางนามธรรม ทางมโนนิยม แล้วก็มาเป็นตามก้นฝรั่งไปเสีย นี่เรียกว่าสูญเสียความเป็นไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งลักษณะที่ว่าทำอะไรต้องดีกว่าครู ไม่ตามหลังใคร
ทีนี้ก็จะมาถึงเรื่องของลูกเสือ ลูกเสือไทยไม่ต้องตามก้นฝรั่ง ฝรั่งให้กำเนิดลูกเสือ เซอร์เบเดน เพาเวลล์นี่ใครๆก็รู้จักว่าเป็นผู้ให้กำเนิดลูกเสือในโลก แล้วพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๖ ของเราก็รับเอาไอ้ลัทธิลูกเสือนี้มาเป็นอย่างลูกเสือไทย อาตมาเมื่อเด็กๆก็เป็นลูกเสือ ยังจำได้อยู่ในจิตใจแว่วๆว่าลูกเสือนั้นมีอะไรบ้าง สรุปแล้วก็ว่าไอ้ลูกเสือนี่มุ่งอยู่ที่ความเป็นสุภาพบุรุษเป็นหัวใจสำคัญ ยังจำได้ติดหูติดตาว่ามุ่งอยู่ที่ความเป็นสุภาพบุรุษ ขยายความของคำว่าสุภาพบุรุษออกไปได้หลายแขนง สุภาพบุรุษก็ต้องเรียบร้อยก่อน แล้วก็ต้องเฉลียวฉลาด แล้วก็ต้องเห็นแก่ผู้อื่น แล้วก็ต้องเห็นแก่ความถูกต้องที่เราเรียกกันว่าพระธรรม นี่ลูกเสือแรกๆจะมุ่งไอ้ความเป็นสุภาพบุรุษนี่เป็นหลักใหญ่ อบรมมันทุกอย่างที่ให้เป็น มีความเป็นสุภาพบุรุษ แล้วก็ภาวนาถึงความเป็นสุภาพบุรุษเรื่อยไปทุกแขนง เพราะฉะนั้นมันจึงมีไอ้ ไอ้ความเป็นระเบียบ ความหนักแน่น ความมีวัฒนธรรมอย่างไทย ไม่ตามก้นฝรั่งเลย ไอ้ลักษณะอาการปรากฏสัญลักษณ์อะไรต่างๆของลูกเสือไทยไม่มีลักษณะตามก้นฝรั่งเลย ทีนี้ต่อมามันก็ค่อยเปลี่ยนไปในลักษณะที่ว่าฝรั่งทำอย่างไรลูกเสือไทยจะทำอย่างนั้น ลูกเสือฝรั่งหรือว่าสากลทำอย่างไรไทยจะทำอย่างนั้น ไอ้ความมุ่งหมายในความเป็นสุภาพบุรุษนั้นค่อยจางไปๆ ค่อยๆกลายมาเป็นลูกลิง เป็นลิงทะโมน มีภาพยนตร์ม้วนหนึ่งยืมมาฉายเมื่อเร็วๆนี้ ดูจากไอ้แถลงข่าวอเมริกัน เขาเรียกว่าการประชุมลูกเสือโลกที่อเมริกาเมื่อเร็วๆนี้ ภาคต้นก็มีฉายไอ้เซอร์เบเดน เพาเวลล์นี่ว่าไอ้ยุคแรกที่สุดหน่อยหนึ่ง แล้วก็ถึงฉายไอ้ภาพตอนที่ลูกเสือนานาชาติไปประชุมเมื่อเร็วๆนี้ที่อเมริกานั้น ไอ้ตอนแรกที่สุดก็มีอะไรล่ะ ผายปอด แล้วก็ลูกเสือสนใจผู้อื่นช่วยผายปอด แล้วก็มีเล่นข้างกองไฟหรือว่าทรหดอดทนหรืออะไรก็น่าดูอยู่ ไม่ ไม่มีลักษณะลิงทะโมน พอมาถึงตอน ตอนหลังไอ้ตอนที่เป็นเนื้อเรื่องจริงๆลูกเสือนานาชาตินี่หลายๆชาติรวมทั้งไทยก็มีอยู่ในนั้นด้วย เห็นไปตั้งค่ายกันที่แห่งหนึ่งแล้วก็แสดง มันจะแสดงกันจริงอย่างไรก็ไม่ทราบ แต่ว่าที่มาอยู่ในภาพยนตร์ฟิล์มม้วนนั้นเป็นเรื่องเล่นทั้งนั้น นี่มันน่าขันที่ว่ามันเป็นเรื่องเล่นทั้งนั้นเลย ไม่มีอะไรเลย มีเรื่องเล่น มีเรื่องร้องเพลง มีเรื่องไอ้กีฬาชนิดที่ไม่มุ่งหมายประโยชน์อะไร แล้วไอ้เล่นวิ่งวิบาก โหนต้นไม้ โหนเชือก อย่างถ้าว่าเราจะไปเล่นกันอย่างนั้นบ้างก็ไปที่ไอ้ไทรงามตรงนี้ เราวิ่งกระโจนไปบนกิ่งไทรทะลุไปฝั่งโน้นเลย โหนเชือกไปบ้างอะไรบ้างโดยไม่ต้องลงดินนี่ ผ่านทะลุไปฝั่งนู้นแล้วจะเหมือนกันที่สุดเลย มีลักษณะเหมือนกับฝูงลิงวิ่งไปบนหลังคาต้นไทรไปสู่ฝั่งโน้นอย่างนี้ ไม่ใช่ว่าจะติเตียนสิ่งเหล่านี้แต่ว่าทำไมมันจึงมีแต่สิ่งเหล่านี้ ไม่เห็นมีเรื่องอบรมไอ้ความเป็นสุภาพบุรุษหรือว่าความเป็นผู้มีธรรมะธัมโมอะไร มันมีแต่เรื่องเล่น มีแต่เรื่องหัวเราะ ก็เลยนึกรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องไม่ใช่สุภาพบุรุษ ไม่มีลักษณะแห่งความเป็นสุภาพบุรุษ มีแต่เรื่องเล่นอย่างผู้หลงใหลในการเล่น นี่ประชุมลูกเสือนานาชาติเมื่อเร็วๆนี้ที่อเมริกา มีปัญหาเหลืออยู่ว่าทำไมจึงถ่ายมาแต่ แต่ไอ้เรื่องเล่นทั้งนั้น หรือว่าไอ้เรื่องไอ้จริงไอ้เรื่องนั้นมันไม่มีเอาเสียเลยหรือว่าไม่ได้ถ่ายมาก็ยังสงสัยอยู่ แต่เมื่อดูตามไอ้ฟิล์มม้วนนั้นแล้วมันเป็นเรื่องเล่น แล้วมีลักษณะชนิดที่ไม่บังคับตัวเองเลย ไม่มีการบังคับตัวเองเลย เล่นอย่างไม่มีการบังคับตัวเองเลย เพราะฉะนั้นจะต้องเรียกว่าเป็นลูกลิงทะโมนไม่ใช่สุภาพบุรุษ ทีนี้ที่อาตมาบอกว่าคนไทยทำอะไรดีกว่าครูเสมอนี่ขอให้นึกถึงเมื่อรัชกาลที่ ๖ รับเอาไอ้แบบกิจการลูกเสือนี้มาใหม่ๆนี่คิดว่าดีกว่าครู ดีกว่าที่ฝรั่งทำกันอยู่ที่เมืองนอก ลูกเสือในรัชสมัย สมัยรัชกาลที่ ๖ แรกๆนั้นน่ะ ที่อาตมายังจำได้ติด ติดแว่วๆอยู่ในจิตใจแล้วเคยเป็นกับเขาบ้างนิดหน่อยนี่ไม่มีเล่นมากเหมือนเดี๋ยวนี้ ไม่มีหัวเราะมากเหมือนเดี๋ยวนี้ ไม่มีทะลึ่งตึงตังมากเหมือนเดี๋ยวนี้ แต่เดี๋ยวนี้มันก็ย้อนไปตามก้นฝรั่ง ลูกเสือไทยก็ย้อนไปตามก้นฝรั่ง มีเรื่องเล่นมาก มีลักษณะเป็นลิงทะโมนเข้ามาแทนความเป็นสุภาพบุรุษหรือเป็นพุทธบริษัท เพราะเหตุฉะนั้นแหละอาตมาจึงนึกชนิดที่เรียกว่าวิตกกังวลเมื่อถูกขอร้องให้ตั้งค่าย ให้ตั้งชื่อค่ายลูกเสือแห่งนี้ คิดหลายชั่วโมง ในที่สุดก็เห็นว่าไอ้คำว่าธรรมบุตรนี่ดีที่สุดที่จะเป็นชื่อค่ายลูกเสือของเรา เพื่อว่าลูกเสือของเราจะได้เป็นผู้ที่มีลักษณะเป็นธรรมบุตร เป็นลูกของธรรมคือลูกของผู้มีธรรม นั่นแหละจะเป็นสุภาพบุรุษและไม่เป็นลูกลิงทะโมน ดังนั้นเมื่ออยู่ในค่ายธรรมบุตรขอให้มีการอบรมและรับการอบรมอย่างผู้ที่เป็นลูกของพระธรรม ธรรมะมีอยู่อย่างไรอุทิศชีวิตเพื่อธรรมะนั้นให้อยู่กับเนื้อกับตัว แล้วก็จะตรงตามสปิริตเจตนารมณ์ของลูกเสือ และในลักษณะที่ดีกว่าครูตามแบบของคนไทยทำอะไรต้องดีกว่าครูเสมอ
เอ้า, คุณไปอ่านดู กฎเกณฑ์ความมุ่งหมายอะไรต่างๆของลูกเสือนี่ มันก็จะมีไอ้ข้อธรรมครบหมดตามหลักแห่งพุทธศาสนา ความซื่อสัตย์สุจริตนี่มันเป็นของสากลซึ่งลูกเสือก็ต้องรับเอามา ความกตัญญูกตเวทีก็เป็นธรรมะสากลที่ลูกเสือต้องรับเอามา ความสุขุมรอบคอบก็เป็นธรรมะในพุทธศาสนาอย่างยิ่งที่เรียกว่าสติ ลูกเสือก็ต้องรับเอามา ความเห็นแก่ผู้อื่นก็เป็นของทุกศาสนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งย้ำมากในศาสนาคริสเตียน ธรรมะอะไรๆก็ตามใจ ความอดกลั้น ความอดทน การบังคับตัวเอง ทุกอย่างแหละมันเป็นธรรมะในพุทธศาสนาที่ต้องการให้ลูกเสือมี ฉะนั้นลูกเสือจึงเป็นธรรมบุตรทุกกระเบียดนิ้ว โดยจิตโดยวิญญาณเป็นทุกกระเบียดนิ้ว แล้วเราต้องถืออันนี้เป็นหัวใจของความเป็นลูกเสือ ส่วนเรื่องเล่นเรื่องหัวเราะนั้นควรจะเป็นเพียงไอ้เรื่องประกอบ เป็นเรื่องออกกำลังกายมากกว่า เพียงเพื่อเป็นเครื่องทำร่างกายให้แข็งแรง สุขภาพอนามัยดีเท่านั้นก็พอแล้ว ไม่ต้องมาเป็นทั้งหมดอย่างที่เห็นในฟิล์มภาพยนตร์ม้วนนั้น ไม่เห็นอะไรเลยที่เป็นสัญลักษณ์ของการฝึกฝนให้มีความซื่อตรง ความกตัญญู ความเห็นแก่ผู้อื่น การบังคับตัวเอง ความอดกลั้นอดทน มันเป็นเรื่องทำเพราะสนุก ถ้าหากไม่มีการสนุกแล้วไม่ทำ มันจะไม่เรียกว่าความอดทน เพราะเอาความสนุกมาจ้าง มาเป็นค่าจ้างเสียแล้วมันไม่ใช่ความอดทน ความสุขุมรอบคอบ ละเอียดลออมีไม่ได้ ในเมื่อหัวเราะเรื่อย หัวเราะไม่หยุด ดังนั้นคำที่อาตมาว่าลูกเสือไทยไม่ต้องตามก้นฝรั่งนี่หมายความอย่างนี้ เมื่อเรารักษาความเป็นไทยของเราไว้ให้อยู่กับดวงใจ ชีวิต วิญญาณเถอะ แล้วจะทำอะไรได้ดีกว่าครูเสมอไปแม้เรื่องลูกเสือนี้ แล้วถ้าคนไทยเป็นพุทธบริษัทถือหลักธรรมะในพระพุทธศาสนาอยู่เต็มตัวแล้วมันก็เป็นลูกเสืออยู่ในเลือดในเนื้อมาเสร็จแล้ว พอมีธรรมะสมกับที่ว่าเป็นลูกหลานที่เกิดมาจากบิดามารดาที่เป็นพุทธบริษัทนั้นน่ะจะมีสปิริตของความเป็นลูกเสืออยู่ในเลือดในเนื้อเต็มตัวมาแล้ว ที่มาทำให้มันเบิกบานออกไป ปรากฏออกมา มันก็ง่าย แล้วก็เป็นลูกเสือที่ดีกว่าครูเยอะแยะหลายร้อยเท่าหลายพันเท่า ทีนี้จะเรียกไปว่าธรรมบุตรก็ได้เป็นลูกของธรรม แล้วก็เป็นลูกของเสือ เพราะคำว่าเสือในที่นี้มีความหมายให้เป็นของดี ของจริง ของถูก ของแข็งแรง ของไอ้มั่นคงอย่างนั้นจึงเรียกว่าลูกเสือ ไม่ใช่หมายความว่าเสือเป็นสัตว์ดุร้ายกินคนหรืออะไรทำนองนั้น คำว่าเสือในกรณีอย่างนี้ก็หมายถึงดี จริง ถูกต้อง แข็งแรงอะไรทำนองนั้นมากกว่า เพราะว่าแม้ภิกษุในพุทธศาสนานี้ก็ถูกอุปมาด้วยเสือ คือมีคำสอนว่าภิกษุจงทำตนเหมือนเสือ แล้วอธิบายว่าให้ฉลาดเหมือนเสือในการที่จะซุ่มจับเหยื่อ แล้วก็มีความเป็นระเบียบ มีรักศักดิ์ศรีของความเป็นเสือ แล้วก็มีการอธิบายออกไปว่าภิกษุเป็นเสือซุ่มอยู่ในป่าคือสติปัฏฐาน ๔ ปฏิบัติอานาปานสติให้ครบสติปัฏฐาน ๔ สติปัฏฐาน ๔ นั้นเป็นป่าสำหรับเสือซุ่มอย่างถูกวิธี อย่างสมศักดิ์ศรีของเสือ แล้วตะครุบเอาเหยื่อคือมรรคผลนิพพานให้ได้ นี่เสือถูกเปรียบกับภิกษุลักษณะอย่างนี้ ปรากฏอยู่ในคัมภีร์ของพระพุทธศาสนา ฉะนั้นคำว่าลูกเสือมันก็เป็นคำที่มีเกียรติ ไม่ใช่ว่าเป็นสัตว์ร้ายกัดคน เป็นอันตรายอย่างนั้น ไม่ได้หมายความอย่างนั้น หมายถึงดี ถึงจริง ถึงแข็งแรง ถึงไอ้ไว้ใจได้อะไรนี่มันก็คือธรรมบุตร ลูกเสือก็คือธรรมบุตรคือบุตรแห่งธรรม ไม่ใช่ลูกลิง ไม่ใช่ลูกลิงทะโมนที่เอาแต่หลุกหลิก เหลาะแหละ หัวเราะเรื่อย หรือมีความเห็นแก่ตัว ขอให้เอาไปคิดเถอะว่าทำอย่างไรๆช่วยรักษาความเป็นไทยไว้ให้ได้ เป็นหมายเลข ๑ แล้วก็ช่วยรักษาความเป็นพุทธบริษัทไว้ให้ได้เป็นหมายเลข ๒ แล้วความเป็นธรรมบุตรหรือเป็นลูกเสือนี้จะมีมาเสร็จในเลือดในเนื้อของเรา แล้วมาทำให้เบิกบานออกมาเหมือนกับมีเมล็ดพืชแล้วเพาะลงในดินให้มันแสดงตัวปรากฏออกมา เป็นต้นเป็นใบเป็นลูกเป็นดอกก็สมบูรณ์ และตามหลักเดิมที่ว่าคนไทยทำอะไรดีกว่าครูเสมอ แล้วลูกเสือไทยก็ไม่มีโอกาสที่จะถูกหาว่าตามก้นพวกวัตถุนิยม เอาแต่เล่นแต่หัวแต่สนุกสนาน ถ้าไม่มีอย่างนั้นก็ไม่ไปประชุม ไม่ลงทุนไปประชุม นี่มันเสียนิสัยอย่างนี้ เดี๋ยวนี้มนุษย์ในโลกนี่มันเสียนิสัยอย่างนี้ ถ้าไม่ได้ตามใจปากตามใจท้อง เรื่องกิน เรื่องเล่นสนุกสนาน เอร็ดอร่อยทางตาทางอะไรแล้วไม่สนใจ แล้วก็หาว่าไอ้เรื่องธรรมะหรือเรื่องศาสนานี่มันครึคระล้าสมัย ไม่สนุกสนาน จืดชืด แห้งแล้ง ไม่เอาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ทั้งที่ปากก็พูดถึงไอ้ธรรมะของลูกเสือนั่นอยู่เสมอ แล้วมันก็ไม่มีอะไรนอกไปจากหลักของพระศาสนาแม้แต่สักข้อเดียว ถ้าเป็นลูกเสือที่ถูกต้องนะ เว้นแต่เรื่องหัวเราะมากไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งมันไม่มีในหลักศาสนาไหนเลย
นี่โลกของเรานี้จะไปในรูปไหนกัน ขอให้ช่วยกันนึกกันคิดให้มาก เพราะว่าการที่มีลูกเสือขึ้นมาในโลกก็เพื่อจะให้โลกมันดีขึ้น ไม่ถึงกับว่าต้องเป็นทหารแต่ให้เป็นสุภาพบุรุษ ไม่จำเป็นจะต้องเป็นทหาร แต่มีความเป็นสุภาพบุรุษ ฝึกเด็กทั้งหมดในโลกนี้ให้เป็นสุภาพบุรุษไปตั้งแต่เล็ก นอกเหนือไปจากการศึกษาเล่าเรียนซึ่งเรียนแต่วิชาความรู้ นี้เป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุดและตรงตามหลักพุทธศาสนาหรือศาสนาไหนๆก็ตามที่มีความมุ่งหมายอย่างนี้มันตรงกับความมุ่งหมายของพุทธศาสนาหรือศาสนาไหนก็ตาม ดังนั้นความเป็นลูกเสือนี่เป็นความเป็นธรรมบุตรอยู่อย่างร้อยเปอร์เซ็นต์ ที่พูดนี้พูดในฐานะที่เป็นคนไทยด้วยกัน อาตมาก็เป็นคนไทย ท่านทั้งหลายก็เป็นคนไทย อาตมาก็เป็นพุทธบริษัท ท่านทั้งหลายก็เป็นพุทธบริษัท หรือแม้ว่าจะเป็นศาสนาอื่น เช่นคริสเตียนหรืออิสลามก็ตาม โดยเนื้อแท้หรือหัวใจของศาสนานั้นๆย่อมเหมือนกันหมดกับพุทธศาสนาคือทำลายความเห็นแก่ตัว นี้ขอแถมพกเป็นพิเศษหน่อยว่าอย่าได้ไปดูถูกศาสนาใดเข้า จะเป็นความโง่ของตนเอง เพราะว่าศาสนาไหนก็ตามย่อมสอนการทำลายความเห็นแก่ตัวด้วยกันทั้งนั้น ถ้าไม่เห็นแก่ตัวแล้วมันจะมีธรรมะครบถ้วนขึ้นมาทันที ขออย่างเดียวเท่านั้นแหละ ขออย่าเห็นแก่ตัวเท่านั้นแหละ ธรรมะทั้งหลายจะมีเข้ามาเอง มันจะลากจะดึงเข้ามาจนครบหมดเอง เดี๋ยวนี้ที่ธรรมะท่านทั้งหลายมันหายไปหมดเพราะมีความเห็นแก่ตัว เห็นแก่ตัวคือเห็นแก่ความสนุกสนานเอร็ดอร่อยทางทางเนื้อทางหนัง ทางตาทางหูทางจมูกทางลิ้นทางกายเหมือนที่เป็นกันอยู่นี่มันเป็นความเห็นแก่ตัว แล้วเพิ่มความเห็นแก่ตัว แล้วย้ำความเห็นแก่ตัว เพิ่มความเห็นแก่ตัวอยู่นั่นแหละ มันก็ไม่มีอะไรเหลือนอกจากไอ้เรื่องที่จะเป็นอันตรายแก่ตนเองและแก่ผู้อื่นหรือว่าแก่โลก ความทุกข์ยากลำบากของโลกทุกชนิดมาจากความเห็นแก่ตัวของคนในโลก ดังนั้นเจตนารมณ์ของลูกเสือมุ่งจะทำลายความเห็นแก่ตัวคือความเป็นสุภาพบุรุษ และมีหลักธรรมะในศาสนาทุกศาสนาอยู่พร้อมในความไม่เห็นแก่ตัว ขอให้มองมายังธรรมะเพื่อความเป็นธรรมบุตร แล้วมองเข้าไปในเลือดในเนื้อของเราที่มีความเป็นธรรมบุตรอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน แต่แล้วเรามารีดทิ้ง เรามากรอกทิ้ง สลัดทิ้งไป ไปตามก้นฝรั่งนี่จนกระโปรงหดสั้นเข้าไปทุกทีๆ นี่สำหรับผู้หญิง สตรีที่ถูกหลอกให้ตามก้นฝรั่ง ทีนี้ผู้ชายก็ตามก้นฝรั่งในทางที่หลอกให้ผู้หญิงทำอย่างนั้นอย่างไม่ละอาย อย่างไม่รู้สึกแก่ความละอาย แล้วก็นิยมชม ไปๆ ไปยุ เรียกว่ายุมากกว่า ไปหลอกไปยุเสียมากกว่าให้เป็นอย่างนั้น เป็นผู้ชายหน้าด้านยิ่งไปกว่าผู้หญิงเสียอีก นี่คือความหมายของคำว่าตามก้นฝรั่ง แล้วความเป็นลูกเสือก็หายไปหมดแล้ว ไม่มีเหลืออยู่เลย ความเป็นธรรมบุตรก็หายไปทีละน้อยๆ จากที่มันมีอยู่ในสายเลือดสายเนื้อของคนไทยที่นับถือพุทธศาสนามาตั้งไม่น้อยกว่าพันสองร้อยปีมาแล้ว
เอ้า,ไหนๆก็พูดมาแล้วก็พูดพล่ามเลยไปสักหน่อยว่าดินแดนไทยเรานี้ เอาเฉพาะภาคใต้กันก่อน ภาคโน้นอื่นๆก็ ก็เหมือนกันแหละ ภาคใต้ที่เรารู้จักกันดีนี่มันมีอะไรอยู่บ้าง มีบทกล่อมลูกให้นอนว่ามะพร้าวนาฬิเกร์ ต้นเดียวโนเน กลางทะเลขี้ผึ้ง ฝนตกไม่ต้อง ฟ้าร้องไม่ถึง กลางทะเลขี้ผึ้ง ถึงได้แต่ผู้พ้นบุญเอย นี่ดูสิกล่อมลูกหรือกล่อมน้องให้นอนนี่มันยังร้องข้อความออกไปซึ่งมีความหมายถึงนิพพาน มะพร้าวนาฬิเกร์คือนิพพาน กลางวัฏสงสารคือทะเลขี้ผึ้ง ทะเลขี้ผึ้งนั้นคือว่าบางทีมันก็เหลวเป็นน้ำเมื่อมันร้อน บางทีมันก็แข็งเป็นของแข็งเมื่อมันเย็น นี่คือบุญและบาป ต้องเหนือบุญและเหนือบาปมันจึงจะเป็นนิพพานคือมะพร้าวนาฬิเกร์ นี่คุณทั้งหลายลองไปคำนวณดูว่าปู่ย่าตายายของเรานี่เข้าถึงศาสนาเท่าไร อย่างไร แม้แต่บทกล่อมลูกให้นอนยังมีไอ้ข้อความถึงเรื่องนิพพาน แล้วเดี๋ยวนี้ลูกหลานเป็นอย่างไรบ้าง ลูกหลานจะเกลียดสิ่งเหล่านี้เพราะไปตามก้นฝรั่ง กลัวมันจะสูญหายไปเลยสร้างสระเสียสระหนึ่ง สระมะพร้าวนาฬิเกร์อยู่ด้านทิศใต้ของ ของวัดนั่น เพื่อเป็นที่ระลึกแก่สิ่งนี้ไม่ให้มันสูญไปได้ ถ้าสนใจก็ไปดูเถอะสระใหญ่มีมะพร้าวอยู่ต้นหนึ่งที่กลางสระนี่ เพื่อจะเป็นอนุสาวรีย์หรือจะเป็นอนุสรณ์เตือนสติคนไทยเราว่าเคยเป็นมาอย่างไร แล้วเดี๋ยวนี้กำลังจะเป็นอย่างไร ไม่สนใจในชีวิตจิตใจหรือดวงวิญญาณของบรรพบุรุษไทยเสียเลย มันจึงเปลี่ยนไปตามก้นฝรั่ง แล้วคนไทยก็ทำอะไรๆเลวกว่าครูไปเสียอีก เพราะฉะนั้นขอภาวนาว่าคนไทยต้องทำอะไรดีกว่าครูเสมอ ดังนั้นลูกเสือไทยไม่จำเป็นจะต้องตามก้นฝรั่ง เขาจะกลายเป็นลูกลิงทะโมนกันสักเท่าไรก็ตามใจเขา เราจะยังคงเป็นธรรมบุตรอยู่ เป็นลูกเสือไทยที่มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องอยู่ตลอดไป นี่ท่านทั้งหลายเป็นผู้บังคับบัญชาลูกเสือ กลับไปจากนี่ก็คงจะไปบังคับบัญชาลูกเสือ คงไม่ใช่จะมาอบรมเพียงแต่จะเอาคะแนนนิยมเกี่ยวกับวิทยฐานะหรืออะไรทำนองนั้น ถ้ามุ่งด้วยเพียงอย่างนั้นแล้วไม่ใช่ลูกเสือ ถ้าท่านมารับการอบรมที่นี่ด้วยความมุ่งหมายเพียงอย่างนั้นแล้วมันไม่ใช่ลูกเสือแล้ว ตัวเองนั่นแหละไม่ใช่ลูกเสือแล้ว เป็นลูกอะไรไปก็ไปคิดไปดูเองเถอะ มันเป็นความหลอกลวงตัวเองชนิดหนึ่ง จะต้องเอาไอ้สิ่งที่ได้รับการอบรมนี้ไปปฏิบัติให้สำเร็จประโยชน์ตามความมุ่งหมาย เมื่อนั้นแหละจึงจะเป็นลูกเสือหรือเป็นธรรมบุตร
ดังนั้นที่นี่เราเรียกว่าค่ายธรรมบุตร ต้องพูดจริง พูดอะไรต้องพูดจริง จะปรับทุกข์อะไรกันก็ปรับจริงๆไม่ต้องเกรงใจ ไม่ต้องกลัวอะไร เพราะว่ามันเป็นเขตแดนของธรรม ของพระธรรม เป็นเมืองของพระธรรม ต้องพูดอะไรกันให้ถูก ให้จริง ให้ตรง ให้มีประโยชน์ ส่วนที่จะเพราะหูหรือไม่เพราะหูนั้นมันอีกเรื่องหนึ่ง ถ้าเพราะหูได้ด้วยก็ดี แต่ถ้าเพราะหูไม่ได้ก็จะคงเอาไว้แต่ว่ามันเป็นเรื่องจริงและมีประโยชน์ ฉะนั้นขอให้ภาวนากันในส่วนนี้ให้มาก เราจะประพฤติกระทำในเรื่องจริงและมีประโยชน์ ส่วนที่มันจะสนุกหรือไม่สนุก หรือจะได้หัวเราะหรือไม่นั้นอย่าไปนึกถึงมันนัก มันจะสนุกหรือไม่สนุก จะได้หัวเราะหรือไม่ได้หัวเราะนั้นอย่าไปนึกถึงมันนัก นึกถึงแต่ว่ามันเป็นของจริง ของธรรมชาติของมนุษย์ แล้วก็มีประโยชน์แน่ เราก็ทำ ถ้าเกิด ถ้าทำอย่างนี้ประพฤติอย่างนี้เป็นการประพฤติกระทำเหมือนที่พระพุทธเจ้าท่านกระทำ ท่านสอนไว้ว่าท่านกระทำอย่างนี้ แล้วเราก็เอามาเป็นหลักเป็นเกณฑ์สำหรับมีความเป็นมนุษย์ที่ถูกต้องไปตั้งแต่แรกๆ ให้ลูกหลานของเรามีความถูกต้องไปตั้งแต่แรกๆ เราเป็นผู้จูงเขาเป็นผู้นำเขาในทางจิตทางวิญญาณ คำว่าผู้นำทางวิญญาณนี้ดูจะเข้าใจกันอยู่บ้างแล้ว เพราะเคยพูดมาหลายหนแล้ว ผู้บังคับบัญชาลูกเสือนั่นแหละเป็นผู้นำในทางวิญญาณ ให้มีความเป็นวิญญาณของสุภาพบุรุษเกิดขึ้นในใจของเด็กๆที่ยังกำลังเป็นลูกเสือสำรอง เหมือนที่เขียนไว้ในป้ายนี้ เด็กๆเป็นลูกเสือสำรอง วิญญาณยังไม่รู้จะไปทางไหน ผู้บังคับบัญชาลูกเสือก็นำไปให้ถูกทาง นี่เรียกว่าผู้นำทางวิญญาณ ก็เป็นลูกเสือกันหมดทั้งเด็กและผู้ใหญ่ คือผู้จูงผู้นำ แล้วมันก็เป็นลูกเสือเรื่อยๆไป ที่เล็กก็โตขึ้น ที่เล็กก็โตขึ้นจนเป็นลูกเสือทั้งหมดทั้งประเทศนี่ จะวิเศษไม่แพ้การบวชพระบวชเณร เรื่องนี้เคยพูดแล้ว การบวชพระบวชเณรมันบวชไม่ได้ทุกคน แต่การเป็นลูกเสือนี้อาจจะเป็นได้ทุกคน แล้วสปิริตเจตนารมณ์มันก็เหมือนกับเรื่องบวชพระบวชเณร นี่กล้าท้าพนัน พนันอะไรกันก็เอา ว่าเจตนารมณ์ของลูกเสือก็มีเจตนารมณ์อย่างเดียวของการบวชพระบวชเณร สอนให้บังคับจิตใจ บังคับตัวเองเป็นส่วนใหญ่ ไม่เห็นแก่ตัว แล้วมันก็เกิดความซื่อตรง ความไอ้เมตตากรุณา ความอะไรตามมาเป็นแถว นี่เหมือนๆกันเลย แล้วอาจจะทำให้ได้ผลเหมือนกับบวชพระบวชเณรได้
นับว่าเป็นสิ่งที่ดีแล้วถูกต้องแล้วที่ว่าโลกนี้มีองค์การลูกเสือ มีการไอ้กิจการลูกเสือขึ้นในโลกนี้มันถูกที่สุดแล้ว แล้วจะทำโลกให้มีสันติสุขได้จริงด้วย แต่เดี๋ยวนี้ เดี๋ยวนี้มันมาเป็นที่น่าเสียดายที่ว่ากลับเป็นขบถต่ออุดมการณ์อันนั้นเสียเรื่อยๆมา นี่มันกลับขบถทรยศต่ออุดมการณ์อันนั้นเสียเรื่อยๆมา จนสูญเสียไอ้ ไอ้เจตนารมณ์เดิม แทนที่จะเป็นสุภาพบุรุษกลายเป็นลูกลิงทะโมน อาตมาก็มีความมุ่งหมายจะพูดกับท่านทั้งหลายเพียงเท่านี้แหละ ขอให้เอาไปคิดไปนึกบ้างเถอะว่าไม่ได้เจตนาร้ายหรือว่าไม่ได้อะไร เพราะฉะนั้นควรจะเอาไปคิดไปนึกว่ามันจริงหรือไม่จริง แล้วเราจะเป็นลูกเสือกันให้ได้จริงๆจะต้องทำอย่างไร อย่าใช้เป็นเพียงสื่อหรือว่าเป็นเครื่องมือบังหน้าเพื่อประโยชน์อย่างอื่นเลย ไอ้ประโยชน์นั้นมันก็ต้องได้ไม่ไปไหนเสีย แต่ว่าไอ้สิ่งที่ดีกว่านั้น กว่าประโยชน์นั้นก็คือความเป็นลูกเสือที่แท้จริง ทำหน้าที่ลูกเสือเพื่อหน้าที่ ไม่ใช่เพื่อประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งเป็นเงินเป็นทอง หรือเป็นเกียรติหรือเป็นอะไรก็ตาม มันเป็นคนละเรื่อง มันได้ก็ดีแล้ว แต่ว่าเราทำหน้าที่เพื่อหน้าที่นี้ดีกว่านั้นอีก ประเสริฐกว่านั้นอีก เมื่อเป็นลูกเสือก็ทำหน้าที่ของลูกเสือแล้วทำเพื่อหน้าที่เท่านั้น ทำงานเพื่องานเถอะอย่าทำงานเพื่อเงินเลย ขืนทำงานเพื่อเงินไม่เป็นลูกเสือ เป็นลูกสุนัขจิ้งจอกหรือเป็นลูกลิงหรือเป็นอะไรไปนั่นเป็นแน่นอน แต่ถ้าทำงานเพื่องานแล้วเป็นลูกเสือทุกกระเบียดนิ้วตามความหมายที่พระพุทธเจ้าท่านต้องการให้ภิกษุเป็นเสือทุกคน นี่ขอจบคำบรรยายนี้ด้วยการกล่าวคำสวัสดีแก่ท่านทั้งหลายผู้เป็นลูกเสือทุกถ้วนหน้า