แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
พูดกับสามเณรภาคฤดูร้อนและพระอาจารย์พี่เลี้ยง จากอำเภอท่าชนะ วันที่ ๒๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๖ เวลา ๑๙.๓๐ น.ที่ลานหินโค้ง สามเณรทั้งหลายเราขอถือโอกาส พูด สิ่งที่ คิดว่าเป็นประโยชน์ต่อพวกเธอ ขอให้ตั้งใจฟังให้ดีให้สำเร็จประโยชน์ ไม่มีเรื่องอะไรมาก มีแต่ว่าให้พยายาม ดี ให้ดีที่สุด อย่าให้ใคร ๆผิดหวัง อย่าให้ใคร ๆผิดหวัง อย่าให้เธอก็ผิดหวัง อย่าให้พ่อแม่ผิดหวัง อย่าให้อุปัชฌาย์อาจารย์ผิดหวังใน ผู้ที่เขาจัดการให้เราได้บวชนั้น ผิดหวัง ถ้าเธอ ตั้งใจ และรับผิดชอบในเรื่องนี้แล้วก็คง จะไม่ผิดหวัง ข้อสำคัญคือให้พยายามให้ดีที่สุด ที่ได้รับการฝึกฝน ที่เขาจัดขึ้นนี้ สำหรับความหวัง มีกว้างขวางมาก ที่ได้จัดบวชเณรนี้มีความหวังกว้างขวางมาก คือว่า นับตั้งแต่ เป็นความประสงค์ต้องการ ของรัฐบาล เพื่อให้ช่วยอบรม เยาวชน คือนักเรียนนี้ ให้ เป็นผู้ปลอดภัยไม่เป็นอันตราย เด็ก วัยรุ่นกำลังเป็นอันธพาลมาก เป็นอันธพาลคือจะไม่เป็นผู้เป็นคน นั้นมันมีมาก ฉะนั้นเขาจึง ปรึกษาหารือ คิดกันว่าจะต้อง แก้ไขในเรื่องนี้ ในการที่อบรมสามเณรนี้ก็จะ ช่วยได้ในเรื่องนี้ จึงขอร้องหรือชักจูงแนะนำให้ช่วยกันทำทั่วประเทศเลย ให้มีการบวชสามเณร นี้แหละเป็นเรื่องของรัฐบาล เป็นเรื่องของบิดามารดา ก็เห็นด้วยกับรัฐบาล เห็นด้วยกับความประสงค์ของรัฐบาลยินดีให้ลูกหลานบวช เพราะอย่าให้มันเป็นอันธพาล อย่าให้มันตายโหงตั้งแต่เด็ก คำพูดนี้เลวมาก เลวร้ายมาก ว่าตายโหงตั้งแต่เด็ก เด็ก ๆอันธพาลนะ มันตีกันตาย มันฆ่ากันตาย บางทีตำรวจเก็บตั้งแต่เด็กนี้ นี้เขาเรียกว่ามันตายโหงตั้งแต่เด็ก อย่าให้มามีกับเรา อย่าให้มามีกับเรา ให้อยู่กันไกล คนละโลก เราจะเป็นผู้ตั้งตนอยู่ใน การปฏิบัติธรรมะ ไม่ถึงกับว่าต้องฆ่าแกงกัน หรือไม่ต้องให้เจ้าหน้าที่เขามาจัดการกับเรา และให้เราได้มีความสงบสุข มีความเจริญในการงานของเรา ถ้าเรารู้ธรรมะ ถ้าเรามีธรรมะ เราจะเจริญ ในหน้าที่การงานของเรา คนที่มีธรรมะจิตใจมันผิดกันไกล ตรงกันข้ามกับคนที่ไม่มีธรรมะ จิตใจของคนที่มีธรรมะนั้นนะมันสูง มันฉลาด แล้วมัน เรียบร้อยปกติ เยือกเย็นนะ ทีนี้จิตใจของคนที่ไม่มีธรรมะ เป็นอันธพาลนั้นเป็นจิตใจเลว ต่ำ ทราม ร้อน มันจึงต่างกันมาก เรียกว่าตรงกันข้ามเลย ถ้ามีธรรมะ มันก็พอใจในการทำงานไม่เกียจคร้าน ทำงานสนุก คนที่มีจิตธรรมะในหัวใจนะ มันทำงานสนุก คิดดู
มันเป็นสุขในการงาน แล้วเหงื่อนั้นมันเย็น ไอ้คนเลว คนไม่มีธรรมะในใจนั้น มันไม่อยากทำการงาน พอไปทำเข้ามันโกรธ ขัดใจ มันไม่มีความสุขในการทำงาน เหงื่อมันร้อน เหงื่อมันร้อนทนไม่ได้ มันต้องทิ้งการงานไปขโมย ดีกว่า นี้แหละ ถ้าเหงื่อเย็นอาบ อาบน้ำเย็นอยู่เรื่อยมันไม่ต้องทิ้งการงานไปขโมยนี้แหละ เธอช่วยฟังจำไว้ดี ๆไว้ว่า คนที่ มีธรรมะนะเหงื่อเย็น เพราะมันพอใจในการทำงานนี้ มันยินดีในการทำงานนี้ ปู่ย่าตายายของเรานั้น ยินดีในการทำงาน จึงทนทำ เพราะว่าไม่ใช่ทนทำ ไม่ใช่ว่าทำอยู่ได้กลางแดด กลางอะไร ก็ทนทำอยู่ได้ เพราะว่าเหงื่อมันเย็นนะ เหงื่อมันไม่ร้อนนะ เพราะหัวใจมันเย็นแล้วเหงื่อมันเย็น ถ้าหัวใจมันร้อนแล้วเหงื่อมันก็ร้อน คนอันธพาลไม่ชอบทำการงาน ใจมันร้อน ไปขโมยดีกว่า มามัวไถนาทำงานอยู่ทำไม ใจมันร้อน แล้วเหงื่อมันก็ร้อน เหงื่อมันขับไล่ทิ้งการทิ้งงานไปทำ อันธพาลแหละ นี้คนทีมีธรรมะเหงื่อเย็นทำงานได้สบาย คนที่ไม่มีธรรมะ ไม่มีธรรมะเหงื่อมันร้อน มันไล่ให้ทิ้งงานไป ขโมยดีกว่านะ นี้เธอ พยายามสังเกตให้ดี ๆ ถ้าเรามันยังเหงื่อร้อนไม่ชอบทำงานนี้แล้วละก็ ไม่ได้ ต้องฝึก ระหว่างที่บวชเณรนี้ก็ฝึกให้ทำหลายอย่างทีเดียว ถ้าว่าจัดหลักสูตรไว้ดี อบรมไว้ดีแล้วระหว่างบวชนี้จะได้ ฝึกฝนการทำงานหลายอย่าง หลายประการจนเกิดนิสัยที่ รักทำงาน ชอบทำงาน เหงื่อเป็นของเย็นแหละ ถ้าคนมันชอบทำงานเหงื่อเป็นของเย็น ควรจะได้รับการอบรมให้ทำงาน เพื่อเพาะนิสัยในการทำงาน เห็นการทำงานนั้นเป็นของสนุก และมีความสุขเมื่อทำงานนั้นเอง นี้แหละเณรทุกคนจำเอาไว้นะ จำไว้จนตายเลย จำติดตัวไปจนตายว่า ทำงานให้สนุกเป็นสุขเมื่อทำงานนั้นเอง งาน การกระทำนั้นเป็นหน้าที่ของมนุษย์ หน้าที่ของมนุษย์นั้นคือธรรมะ ธรรมะ คือหน้าที่ของมนุษย์เมื่อเราได้ทำหน้าที่ของมนุษย์ เราก็มีธรรมะ เมื่อเรารู้สึกว่ามีธรรมะเราก็สบายใจ ชอบใจตัวเอง นับถือตัวเองว่ามีธรรมะยกมือไหว้ตัวเองได้ นี้แหละคนที่มีธรรมะจึงทำงานสนุก แล้วเป็นสุข เมื่อทำงานนั้นเองไม่ใช่ต่อเมื่อเอาเงินไปกินเหล้าเมายา อบายมุข กามารมณ์ มันเป็นสุขเมื่อกำลังทำงานนั้นเอง เพราะจิตใจมันรูสึกว่านี้เป็นการปฏิบัติธรรมะ แล้วมันพอใจแล้วมันเป็นสุข ความสุข ความสุขนี้ต้องเกิดมาจากความพอใจ นี้ถ้าเราเป็นได้แบบนี้ พ่อแม่ของเราจะ สบายใจที่สุดแหละ สมกับคำว่าไอ้ลูก ๆนี้มันเกิดมาเพื่อทำให้พ่อแม่สบายใจ คำว่าลูก แปลว่าผู้ที่ เกิดมา เพื่อทำให้พ่อแม่สบายใจ ถ้าไม่ทำให้พ่อแม่สบายใจมันก็ไม่ใช่ลูก มันไม่ใช่ลูก เป็นก้อนสกปรกอะไรก็ไม่รู้ ไม่ใช่ลูกของบิดามารดา ฉะนั้นเราจะต้องอบรมตัวเองให้ บิดามารดาได้รับความพอใจสบายจอยู่เสมอ จะสึก ออกไปแหละยิ่งสำคัญ บวชแล้วสึกไปแล้ว ยิ่งจะต้องทำให้บิดามารดาสบายใจ แล้วเป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา ได้เป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์ ได้เป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อนได้เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติ ได้เป็นสาวกที่ดีของพระศาสดาแห่งศาสนาของตน ของตน นี้เรากำลังบอก ยืนยันเลยว่า ถ้าเธอปฏิบัติ ดี รับอบรมดีตลอดเวลาที่ให้มีการอบรมนี้ เธอทำจริง ทำจริง ทำจริงอยู่ตลอดเวลา มันจะเปลี่ยนจะมีการเปลี่ยนแปลงในตัวเรา มันจะมีธรรม มีธรรมะครบถ้วนแหละ แล้วก็จะได้ดี ได้ดีอย่างที่ว่า จะได้เป็นบุตรที่ดี จะได้เป็นศิษย์ที่ดี ได้เป็นเพื่อนที่ดี ได้เป็นพลเมืองที่ดี ได้เป็น สาวกที่ดี ของบิดามารดา ของครูบาอาจารย์ ของเพื่อนด้วยกันและกัน ของประเทศชาติ และของศาสนา เธอ อุตสาห์อดกลั้นอดทนรับการ ฝึกฝนอบรมนี้ ให้ลุล่วงไปด้วยดี ตลอดเวลาที่บวชเพื่อการอบรมนี้ให้มันลุล่วงไปด้วยดี แล้วใคร ๆก็จะไม่ผิดหวังไม่มีใครผิดหวัง พ่อแม่ไม่ผิดหวัง ครูบาอาจารย์ไม่ผิดหวัง อุปัชฌาย์อาจารย์ไม่ผิดหวัง ทุกคนจะไม่ผิดหวัง เพราะว่าเธอได้ สิ่งที่ดี กลับไปอย่างดี อุปัชฌาย์อาจารย์นี้ก็หวังไปตามหน้าที่ของอุปัชฌาย์อาจารย์ บวชเณรบวชพระเข้ามาแล้วก็ต้องการให้ดีกันทั้งนั้น ถ้าพระ เณร ไม่ดีแล้ว อาจารย์ผิดหวัง เราอย่าทำให้อาจารย์ผิดหวัง แล้วตัวเองก็อย่าผิดหวัง เพราะเราเกิดมาต้องได้ดีตามสมควรไม่ให้เสียชาติเกิด เราหวังอยู่ว่าจะไม่ให้เสียชาติเกิด เราก็ต้องปฏิบัติตัว ให้ดี ให้ไม่เสียชาติเกิด จริง ๆไม่ให้เสียทีที่เกิดมาเป็นมนุษย์ แล้วพบพระพุทธศาสนา ว่ากันอย่างนั้น นั้นแหละเรื่องของเรา คือเราไม่ผิดหวัง ใคร ๆก็ไม่ผิดหวัง นี้เราเตือน ว่าอย่าให้เกิดการผิดหวังขึ้นมา ในการจะบวชคราวนี้แหละ บวชเท่าไรก็ตาม บวชหนึ่งเดือน สองเดือน สามเดือน แล้วแต่จะบวชได้ ให้มันเป็นการ เปลี่ยนแปลงแหละ แล้วที่มันไม่ค่อยดี ให้มันหมดไป ให้มันมีแต่ดีขึ้นมา เราจะได้ เป็นบุคคลที่เกิดมามีประโยชน์ ถ้ามีความเป็นมนุษย์ถูกต้องมันก็มีประโยชน์แก่ตัวเราเองและผู้อื่น ความถูกต้องความเป็นมนุษย์มันมีประโยชน์ต่อตัวเราเองด้วย มีประโยชน์แก่ผู้อื่นคือเพื่อนมนุษย์ของเราด้วย ถ้าได้สองประโยชน์นี้แล้วก็เรียกว่า เกิดมาเป็นมนุษย์อย่างถูกต้องแหละไม่เสียทีที่เกิดมาเป็นมนุษย์ เพราะฉะนั้นให้นึกให้มาก ว่าอย่าให้เสียที ไอ้ส่วนตัวเรานี้ต้องดี จนช่วยตนเองได้แหละ หน้าที่ของมนุษย์มันมีว่า ให้รอดชีวิตอยู่ได้ เราต้องทำงานให้รอดชีวิตอยู่ได้ มีกินมีใช้ สบายอยู่ได้ นี้หน้าที่ ที่หนึ่ง หน้าที่อันดับหนึ่ง หน้าที่อันดับสอง ก็เมื่อมีกินมีใช้ สบายได้แล้ว ทำให้ดียิ่งขึ้นไป ยิ่งขึ้นไป ยิ่งขึ้นไป จนถึงขั้นสูงสุดแหละ ขั้นสูงสุดของมนุษย์ก็คือ อยู่ที่มรรคผลนิพพาน นั้นแหละสูงสุด เราจึงมีสองขั้นตอนว่า ทำให้รอดชีวิตรอดอยู่ได้ก่อนเถอะ แล้วก็ เมื่อรอดชีวิตอยู่ได้แล้วก็ให้ดียิ่ง ๆขึ้นไปตามลำดับ จนถึงขั้นสูงสุด รอดชีวิตอยู่ได้นั้นมันมีความหมาย กว้าง เราต้องมีความถูกต้อง มีความถูกต้องในอาหารการกิน เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย รักษาโรคให้มีความถูกต้องที่จะ คบหาสมาคม ถ้าเราทำผิดพลาดแล้วเราต้องตาย เราจะต้องตาย ถ้าถูกต้องเราจะอยู่อย่างสบาย เราจึงต้องทำหน้าที่ทุกอย่าง ทุกประการเพื่อให้มันรอดชีวิตอยู่ได้ ทำนาก็ได้ ทำสวนก็ได้ ค้าขายก็ได้ เป็น ข้าราชการก็ได้ กระทั่งว่า แม้แต่จะไปถีบสามล้อก็ได้ แจวเรือจ้างก็ได้ กวาดถนนก็ได้ ล้างคูถนนก็ได้ มันเป็นหน้าที่ ที่มนุษย์จะต้องทำเพื่อให้ได้รอดชีวิต ได้เลี้ยงชีวิต ถ้าใครมันไม่มีปัญญา มันทำอย่างอื่นไม่ได้ ก็ไปกวาดถนนได้แน่ ไปกวาดถนน ทำง่ายที่สุดแหละถึงไม่มีปัญญานี้ก็ ต้องทำได้ ทำได้ก็ต้องมีเงินเลี้ยงชีวิตแหละ ไปแจวเรือจ้าง ไปถีบสามล้อ ก็เรียกว่า ปฏิบัติธรรมเหมือนกันแหละ คือทำหน้าที่ให้รอดชีวิตแล้วก็เรียกว่าปฏิบัติธรรมะทั้งนั้น ก็ถือว่าดีเสมอกันแหละ คนที่มันเก่งก็ไปเป็นประธานาธิบดี เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นอะไรเป็นเจ้าเป็นนาย ก็ตามใจแหละ นั้นนะมันสร้างมาดี มีสติปัญญามาก ถ้าเผอิญใครเขาไม่ได้สร้างมาดี มันโง่ไปหน่อยแล้วมันก็ลดลงมา ลดลงมาเป็นชาวไร่ ชาวนา ถ้ามันโชคมันยังไม่ดี กรรมมันมีมาก กรรมชั่วมันมีมาก มันไม่ได้อีก มันต้องลดลงมาอีก ลดลงมาอีกแหละ ถีบสามล้อก็เอาแหละ แจวเรือจ้างก็เอาแหละ คนกวาดถนนก็เอาแหละ เอาทั้งนั้น เพราะเป็นหน้าที่ของมนุษย์ที่จะต้องทำให้รอดชีวิตอยู่ได้ นี้เราบอกเธอให้รู้ว่า การงานนั้นเป็นธรรมะไม่ว่าการงานชนิดไหนแหละ เราไม่ได้ตั้งใจจะไปเป็นคนกวาดถนน ไปถีบสามล้อหรอก เราจะเป็นคนที่ดีกว่านั้น อย่างน้อยก็เป็นชาวนา ชาวสวน เป็นอะไรไปตามเรื่องที่ดีกว่านั้น แต่ถ้าแม้ว่าจะต้องเป็นอย่างนั้น ก็ยัง ยังยินดีอย่าไปขโมย ไปถีบสามล้อ แจวเรือจ้าง กวาดถนน ก็ยังดีกว่าไปเป็นขโมย เป็นอันธพาล เป็นขโมย นี้แหละคนที่ไม่มีธรรมะ มันจะต้องขโมย บางคนจะขโมยแต่เด็ก บวชเณรแล้วก็ยังขโมยก็มีเหมือนกัน ปรากฏ จริง ๆ เลยบวชเณรแบบนี้แล้ว ก็ยัง ยังมีขโมย มันเหลือเกินแหละ มันสุดเหวี่ยงแล้วแหละ มันไม่มีทางที่จะเป็นมนุษย์ โดยปกติได้แล้ว เราอย่าเอาเลย เมื่อทุกอย่างมันเป็นหน้าที่ที่ต้องทำแล้วก็ทำเถอะ แล้วก็ควรจะรู้ว่านี้แหละเป็นปฏิบัติถูกต้อง ปฏิบัติดี แม้แต่จะ จะกวาดถนน ก็ยังเป็นการปฏิบัติดี เลี้ยงชีวิตโดยชอบอย่าไปขโมย ที่อินเดีย เขาถือหลักกันในหมู่คนขอทานว่า ขอทานดีกว่าขโมย เป็นขอทานดีกว่าเป็นขโมย ขอทานชุมแต่ไม่มีขโมย ขโมยหายาก เพราะว่าประชาชนทั่วไปเขาถือหลักว่า ขอทานดีกว่าขโมยนี้ แล้วก็สมัครเป็นขอทานเต็ม ขโมยไม่มีนั้นแหละ มันดี กว่าไปเป็นขโมย เราไปมาแล้วและได้เห็นจริงแล้วมีจริงแหละ ไอ้คนขอทานนี้หรือว่าไม่เป็นขอทาน เป็นเด็กที่เป็นชาวไร่ชาวนานี้ ก็ยังไม่ขโมย ไม่วิ่งราวไม่ขโมย ไม่ถูกขโมย ไปตามในป่า ในดง ถ้าวางของไว้ก็จะไม่ถูกขโมย ใช้ให้ถือของตามหลังก็ไม่วิ่งราว ไม่ขโมยหนี ดี คนมีธรรมะ ใจความมีนิดเดียวว่า ให้ถือว่าไอ้การทำหน้าที่ เลี้ยงชีวิตนั้นแหละเป็นธรรมะ เป็นธรรมะ ไถนาเหงื่อไหลไคลย้อยทั้งวัน ถ้าเหงื่อมันเย็น เพราะมันมีธรรมะ รู้สึกว่าเหงื่อมันเย็น มันก็ทำได้ทั้งวันเลย ถ้าเหงื่อมันร้อนมันก็ไม่อยากทำนาไปขโมยดีกว่าแหละ นี้เราฝึกกันเสียให้ ถึงที่สุดในระหว่างที่บวชนี้ ให้ชอบทำงานไม่ขี้เกียจ ให้เขาฝึกไว้ให้ตื่นตั้งแต่ตีสาม ตีสี่ ก็ยินดีแหละ ไม่เห็นแก่นอนนะ ซึ่งมันทำให้ขี้เกียจ เห็นแก่นอนนอนสาย ยิ่งนอนสายเท่าไร ยิ่งมีนิสัยขี้เกียจเท่านั้น ในระหว่างที่บวชนี้จะต้องฝึกนอนไม่สายแหละ ตื่นตั้งตีสาม หรืออย่างน้อยก็ตีสี่ ยกขึ้นชำระร่างกายสะอาดดีแล้วก็ไหว้พระ สวดมนต์ หรือทำกิจ ที่เขากำหนดให้ทำฝึกจิต ฝึกสมาธิฝึกอะไรก็ได้ ตื่นตั้งแต่ตีสี่ให้ได้เวลาเพิ่มสองชั่วโมงมากกว่าคนที่นอน ตีหก จึงจะตื่น คนตื่นสาย บางคนจะตื่นตีเจ็ดตีแปดด้วยซ้ำ อดทนแหละถ้าเขาต้องการให้ตื่นตีสาม ตีสี่ก็ตื่นแหละแล้วก็ตื่นอย่างแจ่มใสแหละ มาไหว้พระสวดมนต์มาฝึกฝน สมาธิภาวนาอะไรนี้ จะเปลี่ยนนิสัยไม่ขี้เกียจแหละ นี้เข้มแข็งแหละ อดทนแหละ ถ้าเราไม่มีนิสัยไม่ขี้เกียจแล้วมันก็สนุกในการทำงาน มันจะทำงานได้มาก เพราะว่ารู้ว่าไอ้งานนั้นแหละ คือ คือธรรมะ งานนั้นแหละคือของดี งานนั้นแหละคือของมีเกรียติ งานนั้นแหละเป็นสิ่งสูงสุดของมนุษย์ มันไปนอน อย่าไปมัวนอนอยู่แหละ ตื่นมาทำงานนะได้มาก ๆ เขาทำงานวันละแปดชั่วโมงโดยมาก เราทำงานสิบแปดชั่วโมง ทำงานสิบแปดชั่วโมงพักผ่อนอยู่หกชั่วโมง ก็ทำงานได้มากแหละ เธอเข้าไปดูหนังสือในตึกแดงนั้น ตึกแดงนั้นเข้าไปดูเถอะ นั้นแหละเราทำคนเดียวแหละ เพราะว่าเราหัดนิสัยให้สนุกในการทำงาน เป็นสุขในการทำงานจึงทำได้มาก คนเดียวทำได้มาก มากจนเขาไม่เชื่อว่าทำคนเดียวแหละ แต่ว่านี้ก็หยุด เพราะร่างกายมันแก่ขึ้น ในระหว่างที่มันยังไม่แก่ ไม่อะไรมันก็ทำสนุกทำกันได้มากภายในระยะ สิบปียี่สิบปี ทำได้มาก เพราะฉะนั้นทำงานให้สนุก เป็นสุขเมื่อทำงานเถอะ แล้วจะทำงานได้มากทำนา ก็ตาม ทำสวนก็ตาม ทำอะไรก็ตาม มันจะทำได้มาก ถ้าเป็นสนุกเมื่อทำงาน ทำงานให้สนุก เป็นสุขเมื่อทำงาน พอใจในการที่ได้ทำงานแล้วก็พอใจ แล้วก็เป็นสุข เคารพตัวเอง นับถือตัวเอง ยกมือไหว้ตัวเองได้ว่ามันมีแต่ความดีแหละแต่ถ้ามันยกมือไหว้ตัวเองไม่ได้ก็หมายความว่ามันก็มีแต่ความชั่ว ถ้าใครยกมือไหว้ตัวเองได้แล้วก็คนนั้นมันมีแต่ความดีแหละ เราอุตส่าห์ทำให้มีความดีขนาดที่มันยกมือไหว้ตัวเองได้กัน มาถึงเรื่องนอนไม่เที่ยง ก็ไป ทำงานตลอดวัน แล้วนอนก็ไม่นอนแต่หัวค่ำหรอก ทำงาน สิ่งที่ดีนั้นแหละ ทำงานสิบแปดชั่วโมงพักผ่อนหกชั่วโมงนี้พอแล้ว มันก็มีความดีมาก จนไหว้ตัวเองได้ ยกมือไหว้ตัวเองได้ ดีใจว่ามันมีแต่ความดี ที่เกิดมาไม่เสียชาติเกิดนะ นี้เขาเรียกว่า ได้รับการอบรม ดี เป็นคนมีประโยชน์ในโลก เป็นสาวก ของพระพุทธเจ้า เป็นสาวกของพระพุทธเจ้าคิดดู ต้องเต็มไปด้วยความดีมีประโยชน์ สามเณรนี้ มันคือผู้จะเตรียมเป็น สมณ เป็นพระ สัม-มะ-เณ-ระ แปลว่าเตรียมสำหรับเป็น สมณ คือเป็นพระ ขอให้เตรียมตัวสำหรับให้เป็นพระที่แท้จริง เป็นพระนั้นเราประเสริฐพระเขาแปลว่าประเสริฐ มีความประเสริฐ เป็นพระที่บ้านก็ได้ถ้ามีความประเสริฐนั้น เป็นพระที่วัดก็ได้มัน มัน มันยิ่งขึ้นไปอีก แต่ถ้ามีความดี มีความประเสริฐถึงอยู่ที่บ้านมันก็เป็นพระเหมือนกันแหละเพราะพระมันแปลว่าดี หรือประเสริฐ เราเตรียมตัวกันเสียแต่ตอนนี้ อย่าชอบเล่น ชอบหัว อย่าชอบไป ส่งเสริมกิเลสแหละ ถ้าส่งเสริมกิเลสแล้วกิเลสก็พาไปหาความต่ำ ความทราม ความวินาศในที่สุดนะ บวชนี้เพื่อฝึกฝน ต่อสู้กิเลส ให้ชนะกิเลส มากขึ้น ๆ ที่นอนไม่สายไม่นอนสายนี้ก็คือชนะกิเลสนะ ถ้ามันมีโมหะ มีความขี้เกียจเรื่อย มันก็นอนสายแหละ ที่เราไม่นอนสาย มันก็ชนะกิเลส นี้หัด เป็นเรื่องหัดชนะกิเลสทังนั้น อย่ามีความโลภ เช่น เณร เณรนี้ทำอย่างไรก็ไม่รู้นะแต่เณรที่เราเคยเห็นมานี้ พอตักบาตรมีอาหารรวมกันอยู่ ต่างคนต่างตักใส่บาตร ถ้าเณรคนไหนโลภ มันก็ตักจนเหลือกิน จนไปเทแหละ ถ้าเณรคนไหนไม่โลภก็ตักจนพอดีกินหมดแหละ นี้แหละมันไม่โลภ แล้วมันก็ไม่ต้องหวังให้เอร็ดอร่อย อย่างคนที่มีกิเลสให้อยู่เลี้ยงชีวิตได้เหมือนบทปัจเวกขณ์ ที่เราบทเราสวดปัจเวกขณ์นั้นแหละ ให้อัตภาพนี้เป็นไปได้แล้วก็ได้แหละ แล้วถ้าเราฝึกฝนอยู่เรื่อยไปแบบนี้ ถึงเราสึกออกไปเราก็ไม่เป็นคนที่จะกินเพื่อกิเลส กินเพื่ออร่อย เพื่อกิเลส กินเพื่ออวดกันนี้ ยังฝึกฝนแม้แต่เรื่องการกินนี้ อย่าให้มันมีความโลภ และเมื่อมันไม่ได้อย่างใจ อย่าโกรธ บางวันเราอาจจะไม่มีอะไรฉัน หรือมีของไม่อร่อยฉันหรือบางทีไม่ค่อยมี ก็อย่าโกรธ หัดอย่าโกรธ เมื่อไม่ได้อย่างใจก็อย่าโกรธ เมื่อมีมาให้เอาได้มาก ๆก็อย่าเอา มันจะเป็นความโลภ มันมีสติสัมปชัญญะระมัดระวังเรื่อยไป จะไม่มีความหลง อย่าประมาท อย่าขาดสติ มันจะมีความหลง พยายามที่จะมี การสำรวมระวังอยู่เสมอตลอดเวลา เพื่อจะป้องกัน ความโลภ ความโกรธ ความหลงไม่ให้เกิดขึ้นมา ที่มันเคยมีอยู่บ้างเป็นนิสัยมาแต่เดิมนี้ รีบละ ให้หมดไป สามเณรนี้ ต้องถือสิกขาสามเณร สิกขาบท ๑๐ สวด อะนุญญาสิ โข อย่าสวดแต่ปาก สวดให้รู้ความหมาย ฑัณฑะกัม นาสะนังคะอะไรแบบนี้ ให้มันรู้แหละ อย่าให้มัน สวดแต่ปากแหละ ปฏิบัติให้ดี อดกลั้นอดทนไม่ฆ่าสัตว์ไม่ลักขโมยแหละไม่ล่วงละเมิดของรักของผู้อื่นนี้หัดฝึกกันได้แต่ตอนนี้แหละไม่โกหกไม่ดื่มน้ำเมา หรือของเมาที่ทำให้สติไม่ปกติ แม้ที่สุดแต่สูบบุหรี่ก็ทำให้จิตไม่ปกติไม่ต้องพูดถึงเรื่องกินเหล้าแหละ เพียงแต่สูบบุหรี่ก็ทำให้จิตไม่ปกติเสียแล้ว ไม่กินอาหารส่วนเกินแหละ วิกาละโภ อาหารในเวลาวิกาลมันเรียกมันเกินไม่ต้องกิน แล้วก็ นัจจะคีมาลาอะไรนี้ ไม่ประดับไม่ตกแต่งให้มันโง่ คนกำลังโง่หลงใหลในการประดับประดา ตกแต่ง ฟ้อนรำ ขับร้อง ดนตรี เพลงอะไรนี้ พอมีเพลงอะไรที่มาแสดงที่ตลาดอย่างนี้ไปกันหมดบ้าน แต่พอมาฟังเทศน์แล้วไม่มีใครอยู่เรือน พอมีเพลงไปกันหมดบ้าน อยู่กันสว่าง เพราะความหลงใหลความโง่ ความหลง ไม่ต้องนั่งนอนบนที่นอนอันสูงใหญ่ นี้เรานั่งกลางดินนี้ ยิ่งนั่งกลางดินนี้ถูกที่สุดเลย ได้บุญมากกว่านั่งบนอาสนะเสียด้วยซ้ำ เพราะว่าพระพุทธเจ้านั้น ประสูติกลางดิน พระพุทธเจ้าตรัสรู้กลางดิน พระพุทธเจ้าสอนคนกลางดิน อยู่กลางดินพุทธิพื้นดินในที่สุดนิพพาน คือตายกลางดิน เราชอบนั่งง่าย ๆ นั่งอาสะเสนาง่าย ๆคือกลางดินนี้แหละ มันเท่ากับได้นั่งเสนาสนะของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าประสูติกลางดิน ตรัสรู้กลางดิน สอนกลางดิน อยู่กลางดิน นิพพานกลางดิน และก็อีกอย่างหนึ่ง ต้นไม้ เป็นของโปรดของพระพุทธเจ้านี้ ต้นไม้ทั้งหลายนี้ พระพุทธเจ้าประสูติใต้ต้นไม้ ต้นสาละพระพุทธเจ้าตรัสรู้ ใต้ต้นไม้ ใต้ต้นอัสถะ อัส อัสสัตถะที่เรียกว่าต้นโพธิ พระพุทธเจ้าสอนตามโคน อยู่ตามโคนไม้ กลางเดิน กลางทางก็สอน ที่ไหนก็สอน อาศัยต้นไม้นี้มาก ในที่สุดก็ นิพพานก็ใต้ต้นไม้ ใต้ต้นสาละ เรื่องพื้นดินเรื่องใต้ร่มไม้นี้แหละเป็นที่นั่ง ที่นอน ที่ประทับของพระพุทธเจ้าจนตลอดอายุ เธอชอบ อาสนะแบบนี้เถอะ มันจะไม่บ้า ต้องไปซื้อของแพงๆมาใช้ มา มานั่น มานี่ ให้จิตมันโง่ แล้วมันเปลือง แล้วมันจะต้องขโมย เมื่อไม่พอใช้ นี้เรียกว่าไม่นั่งไม่นอนบนอาสนะสูงใหญ่แหละ ดีแหละ แล้วข้อสุดท้ายไม่รับเงินรับทองนี้ ถ้าบวชเป็นพระจริง เณรจริงไม่ต้องใช้เงิน ถ้ายังต้องใช้เงินอยู่ แล้วก็ไม่ใช่พระจริง เณรจริง พระจริงเณรจริง จะไม่ต้องใช้เงิน จะต้องพยายาม สุดเหวี่ยงที่ไม่ต้องใช้เงินไม่ต้องมีเงิน ไม่ต้องใช้เงิน อาศัยการช่วยเหลือของผู้อื่นพออยู่ได้แหละ ก็ทำประโยชน์ให้ผู้อื่นโดยไม่ต้องไปเอาค่าจ้าง เอาสิ่งตอบแทนอะไรจากเขานี้ หัดอยู่อย่างไม่ใช้เงินดูบ้างเถอะ สมมุติว่าบวชคราวนี้เดือนหนึ่งนะ ในหนึ่งเดือนนี้เราจะไม่มีการใช้เงินเลย จะอยู่อย่างไม่ต้องใช้เงินเลย หรือจะแก้ตัวจะซื้อถ่าน ตะเกียง แกลบบ้างอะไรบ้างไม่ต้อง ไม่ต้องซื้อไม่ต้องใช้ อยู่กันอย่างที่ไม่ต้องใช้ก็แล้วกันแหละ อยู่ได้โดยวิธีที่ไม่ต้องใช้เงินนี้ หัดให้เก่งแบบนี้ เวลา ๑ เดือนนะ แล้วสึกออกไปมันก็จะดี ดีมากแหละ มันจะ จะใช้เงินน้อยเข้าแหละ มันจะมีนิสัยที่ว่า พอดีพอร้ายไม่ต้องใช้เงิน ใช้เงินน้อยเข้า นี้แหละถือศีล ๑๐ ข้อ ศีลของเณรให้มันได้จริงจังแบบนี้ทีเถอะ ในระหว่างบวชนี้ ศีล ๑๐ ข้อนี้เหมือนกับเราพูดนี้ ถ้าถือให้จริงจังจนกว่าจะสึกนี้ โอ้มันเปลี่ยนไปเป็นคนละคนแหละ เธอเกิดใหม่เป็นคนละคนเลย เป็นคนที่ยกมือไหว้ตัวเองได้แหละ นี้ให้จำไว้เถอะว่า เราบวชคราวนี้อย่าให้ผิดหวังแหละ อย่าให้ไม่คุ้มค่าผ้าเหลืองแหละได้ประโยชน์ไม่คุ้มค่าผ้าเหลืองแล้วผิดหวังแหละ ได้ประโยชน์ไม่คุ้มค่าที่จัดให้เหน็ดให้เหนื่อยกันนี้ ผิดหวังหมด เณร บวชชั่วคราว เอาจริง เพราะมันไม่ใช่ ไม่ใช่นานนะ ช่วงเดือนสองเดือนนี้เอาจริงให้ที่สุดเหวี่ยงเลย พอจะทำได้แหละ เกี่ยวกับอธิษฐานใจ อธิษฐานจิตว่าจะเป็น ผู้ปฏิบัติโดยแท้จริง จะเป็นเณรให้สุดเหวี่ยง ให้ดีสุดเหวี่ยงแหละ ตั้งใจให้แน่วแน่แบบนั้นแหละ ใช้ธรรมะ ๔ ประการ ที่เรียกว่า สัจจะ ทามะ ขันติ จาคะ ที่แบบเรียนเดียวกับฆราวาสธรรมนั้นแหละ แต่มันใช้ได้ทั้งนั้น สัจจะ ทามะ ขันติ จาคะ นั้นใช้ได้ทั้งนั้นแหละ ถึงพระเณรก็ใช้ได้ สัจจะจริงใจ ทามะบังคับตัวเอง ขันติอดกลั้นอดทน จาคะสละความเลวที่มีอยู่ในตน ให้ออกไปเสียให้หมด นี้ ๔ อย่างนี้แหละจะทำให้เธอได้ประโยชน์ อย่างที่เราว่ามา บวชครั้งหนึ่งจะไม่มีใครผิดหวังหรอก ธรรมะ ๔ ข้อนี้ ถ้าเธอประพฤติปฏิบัติ แล้วเธอจะได้รับผลตามปฏิบัติอย่างยิ่ง ไม่มีใครผิดหวัง ข้อที่ ๑ เรียกว่าสัจจะ จริง จริงในการบวชนี้แหละ จะได้ผล จะเอาให้ได้ผลอย่างที่ ความมุ่งหมาย สัจจะ ตั้งไว้ ทะมะ ทะมะบังคับ บังคับตลอดเวลาอย่าให้ผิดพลาดได้นี้ ให้มันมีความเจ็บปวดเพราะการบังคับ แล้วก็มีขันตี อดทน อดทน อดทน สิ่งอะไรที่ไม่ควรจะมีในตนสละออกไปสละออกไป มันไม่ต้องทนมาก เพราะเรามันเลวน้อย แล้วเราไม่ต้องทนมาก ถ้าเรามันเลวมาก กิเลสมันมากมันต้องทนมากบางทีมันทนไม่ไหว แต่ถึงอย่างไรก็ดี ละออกไปเรื่อย ๆ ละออกไปเรื่อย ๆ ทำ ทำทุก ๆประการที่จะละไอ้สิ่งไม่ควรมีในตนออกไปเรื่อย ๆแล้วมันทนได้แหละ พอทนได้แหละ บังคับตัวได้รักษาสัจจะไว้ได้เราก็เป็นผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบอยู่ตลอดเวลาแล้วเราก็ได้รับผลนั้นเป็นแน่นอน ขอให้เธอ จำให้แม่นยำว่า สัจจะ ทามะ ขันตี จาคะ สัจจะ ทามะ ขันติ จาคะ สัจจะนั้น จริง ทมะ นั้นบังคับให้ไปตามที่จริง ขันติอดทนเจ็บปวดอย่างไรก็อดทน อดทนน้ำตาไหลก็ไม่ละ ไม่ละความจริงไม่ละการปฏิบัติ แล้วก็บริจาคไอ้สิ่งเลวออกไปจากตนอยู่เรื่อย ๆ เรื่อย ๆคือประพฤติละความชั่วเรื่อย ๆ ๆมันก็ ความชั่วมันก็มีน้อยมันไม่ต้องอดทนมากไม่ต้องเจ็บปวดมากแล้วทนได้ ไอ้นี้เครื่องมือที่ให้สำหรับ ในการที่เราจะบวช ซักระยะหนึ่ง เพื่อเกิดใหม่กัน การบวชนี้เหมือนเกิดใหม่ แต่เกิดทางวิญญาณ เกิดทางจิตใจ ไม่ใช่เกิดทาง จากท้องแม่ เกิดจากท้องแม่นี้มันเสร็จมาแล้ว มันมันเกิดมาแล้วไม่ต้องพูดถึงกันอีก ทีนี้เกิดใหม่เวลาต่อไปนี้เกิดทางจิตใจนี้ พอจิตใจเปลี่ยนไปอย่างอื่นนั้นเขาเรียกว่าเกิดใหม่กันทั้งนั้น อุบัติ อุปะติ อุปาโอ โอปะกาติกา หรือ อุปติ นั้นก็เกิดทางจิตใจ พระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นมาในโลก หมายความว่าบังเกิดใหม่ขึ้นมาในโลก คือบังเกิดขึ้นมาในโลก ไม่ได้เกิดจากท้องแม่ ตรัสรู้ที่โคนต้นโพธินั้นแหละคือเกิดใหม่ หรืออุปติขึ้นมาในโลก เกิดใหม่ ในทางจิตใจ ถ้าเราปฏิบัติธรรม ทำความเพียรให้ดี ให้ตลอดเรื่อยมาเราจะมีการเกิดใหม่ กันทุกคนแหละ ดีขึ้น ดีขึ้น ดีขึ้น จนกระทั่งสูงสุดแหละ ขอให้มีการเกิดใหม่ชนิดนี้อยู่เรื่อยไป เรื่อยไป คือว่า ดีขึ้นทุกวันแหละ วันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวาน พรุ่งนี้ต้องดีกว่าวันนี้ มะรืนนี้ต้องดีกว่าพรุ่งนี้ ให้มันเป็นการเกิดใหม่ทุกวัน ทุกวัน จนกว่าจะครบเดือน จะสึกนี้ต้องดีมากแหละ ต้องมีความดีมาก คุ้มค่า เรียกว่าไม่เสียที ไม่เสียทีบวชแหละและไม่ผิดหวังแหละ เอาละเราพูดคำเดียวเท่านั้นแหละว่า ขอให้เธอพยายาม ที่สุด สุดความสามารถ อย่าให้เกิดการผิดหวังขึ้นมาได้ในการบวชของเราคราวนี้นะ อย่าให้เราเองก็ผิดหวัง อย่าให้อุปัชฌาย์ผิดหวัง อย่าให้พ่อแม่ผิดหวัง อย่าให้รัฐบาลผิดหวัง เขา เขาหวังกันอย่างยิ่งว่าแหละว่าเราจะเป็นพลเมืองที่ดี ของประเทศชาติ ของศาสนาแหละ และส่วนตัวเราเองเราก็มีสิทธิที่จะหวังว่า เราจะไม่เป็น เราจะเป็นมนุษย์ที่ที่เป็น เป็นมนุษย์ที่ดีแหละ เราหวังว่าจะเป็นมนุษย์ที่ดี ก็ขอให้เราได้เป็นมนุษย์ที่ดี เราจะแยกว่าเป็นบุตรที่ดี เป็นศิษย์ที่ดี เป็นเพื่อนที่ดี ก็ได้เหมือนกันแหละก็มันรวมแล้วมันก็เรียกว่าเป็นมนุษย์ที่ดี จะไม่เสียทีที่เกิดมาเป็นมนุษย์แล้วพบพระพุทธศาสนา ถ้าเธอยังเด็กนัก ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องก็เชื่อครูบาอาจารย์ไปก่อนนะ ในข้อที่ว่าเกิดมาทีนี้อย่าให้เสียที อย่าให้เสียทีที่เกิดมาเป็นมนุษย์แล้วพระพุทธศาสนา หมายความว่าได้เกิดมาเป็นมนุษย์นี้ มัน มันดีที่ทำอะไรได้ ถ้าเกิดมาเป็นสัตว์แล้วมันทำอะไรไม่ได้หลายอย่าง ถ้าเกิดเป็นมนุษย์มันสามารถจะทำอะไรได้นะ สามารถจะเรียน จะปฏิบัติให้ได้ ถ้าเกิดมาเป็นมนุษย์นะ แล้วเมื่อได้เกิดมาเป็นมนุษย์แล้วมันมีโอกาสที่จะปฏิบัติ ให้ดีได้มากๆ ถึงได้รับพระพุทธศาสนาซึ่งเป็นคำสอนว่า ปฏิบัติอย่างนั้นปฏิบัติอย่างนี้เข้าอีก มันก็ปฏิบัติได้ดีปฏิบัติได้มากนะ แล้วมันก็เป็นมนุษย์ที่สูงสุดได้ เป็นมนุษย์ชั้นเลิศได้ คือมีแต่ประโยชน์ มนุษย์ที่ดีชั้นเลิศมีแต่ประโยชน์ไม่มีโทษไม่เป็นอันตราย ตัวเองก็ได้รับความสุขถึงที่สุด เพื่อนมนุษย์ด้วยกันก็ได้รับ รับความสุขถึงที่สุด นั้นแหละเขาเรียกมนุษย์ที่ดี นี้แหละเกิดมาเป็นอันธพาล อย่าเกิดมาทำลายความสงบสุขของโลก กิเลสมันจะดึงออกไป เป็นอันธพาล เป็นสัตว์ร้าย ป่าเถื่อน ทำสิ่งที่ใคร ๆก็ไม่ต้องการและในที่สุดก็ถูกเก็บ ตายโหง ถ้าตายโหงตั้งแต่เด็กแล้วน่าอายมาก ตายโหงตั้งแต่เป็นเด็กน่าอายมาก คือฆ่ากันตาย รู้ว่าตำรวจต้องมาเก็บไปตั้งแต่เด็ก ๆแบบนี้ มันน่าอายมาก เราเข้าใจว่าทุกคนนี้ ได้บวชได้อบรมนี้แล้ว คงจะไม่มี ไม่มีการตายโหงตั้งแต่เด็ก จะอยู่เป็นมนุษย์ที่เจริญงอกงามจนถึงที่สุด ตลอดชีวิตนี้จะทำประโยชน์ได้มากมายทีเดียว ในโลกในแผ่นดินนี้จะทำประโยชน์ได้มากมายทีเดียว มีความ ความมุ่งหมายในการที่บวช ความหวัง ที่เขาจัดให้เราบวช เราอย่าทำให้ใคร ๆผิดหวัง นี้วันนี้วันแรกที่เราพูดกับเธอ นั้นก็พูดคำเดียวว่าอย่าให้ผิดหวัง อย่าทำให้ผิดหวัง รายละเอียดต่าง ๆก็พูดให้ฟังแล้วว่าหวังกันอยู่อย่างไร อย่าทำให้ผิดหวัง ทำให้ทุกคนพอใจ ทำให้ทุกคนอนุโมทนาสาธุการ ยกมือขึ้นท่วมหัวว่า สาธุ สาธุ เป็นมนุษย์ สมกับมนุษย์ มนุษย์และมีจิตใจสูง สูง สูง ไม่มีชั่วไม่มีต่ำ ได้เกิดมาเพื่อทำให้พ่อแม่สบายใจนี้จำไว้ด้วย เรามีบิดามารดาเราเกิดมาเป็นลูก ลูก ลูกคือผู้ที่เกิดมา เพื่อทำให้พ่อแม่สบายใจ จึงหวังว่าเธอ ทุกคนนี้ สามเณรทั้งหลายนี้ จะเป็นผู้ที่ ทำให้พ่อแม่สบายใจตลอดเวลา นี้การบรรยายก็สมควรแก่เวลาหนึ่งชั่วโมง จึงขอ สรุปความ ว่าเรายินดีแหละที่เธอมาเพื่อรับการอบรมนี้ เราจึง พยายามพูดจา ให้เป็นประโยชน์มากที่สุดกับเธอ ขอให้เธอได้ ทำให้ สมตามความปรารถนา ปฏิบัติธรรมะด้วยจิต ด้วยกำลังจิตทั้งหมด ทั้งสิ้น ด้วยกำลังกาย ด้วยกำลังสติปัญญา ทั้งหมดทั้งสิ้น และให้ดำเนิน เจริญงอกงามไปทางธรรมะโดยส่วนเดียว อย่าให้มีความผิดพลาดแต่ประการใด ให้เจริญงอกงามในทางพระพุทธศาสนา โดยส่วนเดียวอยู่ ทุกทิพาราตรีกาลเทอญ
(นี้ท่านที่มาที่วัดวิชิดนี้กลับแล้วเหรอ มาทำอะไร มาช่วยติดต่อกับทางการ ทางอะไรนี้ เขารู้แล้วเหรอทางอำเภอ พรุ่งนี้ แล้วก็จัดเตรียมพร้อมไว้ได้ธรรมดานั่งฉันกันตรงนี้ ที่ไหนนะ ออกไปบิณฑบาตที่วัดศรีเวียง ฉันที่วัดศรีเวียง ออ เดี๋ยวพรุ่งนี้ พรุ่งนี้ไปฉันที่วัดศรีเวียง แล้วไม่กลับมานี้เหรอ กลับมานี้นั้นแหละ พูดกันเสียให้แน่นอนอย่าให้มันคลาด คลาดเคลื่อนแล้วมันยุ่ง มันยุ่ง ถ้าเขาบอกแบบนั้นก็ต้องไปกันหมดแหละ ต้องไปกันหมด ต้องเอารถหลายคันซักนิด ให้มันแน่นอนไม่ยุ่งยากลำบาก ฉันหนเดียวหรือฉันสองหน เอาแหละ หน สองหนก็เหลือไว้ในบาตร ฉันเหลือไว้ในบาตรไว้ฉันเที่ยงอีกที คือจะไม่รบกวนเขามากนัก อย่าให้เขาลำบากมากนัก ฉันสองหนก็เหลือไว้ในบาตร ฉันเพลอีกที ถ้างั้นประเดี๋ยวก็มีแต่เรื่องฉันอีกแหละตั้งแต่เช้าถึงเพลนี้มีแต่เรื่องฉันนี้แหละไม่มีเรื่องไร การอบรมก็ไม่เก่งแหละ เอาปิดประชุม ๆ )