แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ญาติโยมทั้งหลาย ขอให้ตั้งใจฟัง ถือเป็นโอกาสพูดให้ญาติโยมฟัง ไม่เทศน์ให้คนกินข้าวฟัง เสียมรรยาท เสียวินัย ก็จะถือว่าพูดสำหรับโยมก็แล้วกัน
เรามีความพร้อมเพรียงกัน จัดให้บวชเณร บวชลูกบวชหลานเป็นสามเณร เป็นความคิดที่พึ่งเกิด แล้วก็ดี มีเหตุผล ถูกต้องตามกาละเทศะ เพราะเหตุว่าสถานการณ์หน่ะ มันเลวร้ายลงทุกที สำหรับวัยรุ่น สถานการณ์มันเลวร้ายลงทุกทีสำหรับเด็กวัยรุ่น คือเด็กวัยรุ่นนี่ ตายโหงตั้งแต่ยังเด็ก มากขึ้นมากขึ้น ไม่เหมือนสมัยก่อน สมัยนี้เด็ก เด็กวัยรุ่นตายกันตั้งแต่ยังอยู่ในวัยรุ่นมากขึ้น มันตีกันตาย มันฆ่ากันตายเอง หรือว่าตำรวจเก็บไปเสียตั้งแต่มันมีอายุน้อย ๆ นี่เป็นสถานการณ์ที่เลวร้าย ที่มีมากขึ้นในยุคนี้ เพราะฉะนั้น เราจึงร่วมมือกับทางการ ที่คิดจะแก้ไขสถานการณ์อันนี้ อบรมเด็กวัยรุ่นนี่นะ ให้มันอยู่ในฐานะที่ปลอดภัย นี่เป็นเหตุผลส่วนตัว ส่วนหมู่ ส่วนคณะหรือว่าส่วนประเทศเรา แล้วก็มองดูให้กว้างไกลไปทั่วโลก มันก็ดีเหมือนกัน โลกมันก็เลวลงทุกที โลกมันก็เลวลงทุกที คือศีลธรรมหน่ะ มันหายไป หายไป คนมันเห็นแก่ตัว มากขึ้น มากขึ้น แล้วก็เบียดเบียนกัน เบียดเบียนกันแม้ระหว่างศาสนา ศาสนาสอนไม่ให้เบียดเบียนกันนะ เกิดมีการเบียดเบียนระหว่างศาสนา เลวกว่านั้นคือ เบียดเบียนในศาสนาเดียวกัน ศาสนาเดียวกัน ยังเบียดเบียนกันนี่ เลวมาก นี่หล่ะ สถานการณ์ในโลกหน่ะ มันเลวมาก ก็ต้องช่วยกันแก้ไขนะ ช่วยกันแก้ไขนะ คือทำให้คนในโลกมันมีความถูกต้องนะ ควรจะมองให้ชัดเจนลงไปว่า โลกมันจะดีหรือมันจะเลว มันก็เพราะคนในโลกนั่นเอง ถ้าคนในโลกมันดี โลกมันก็ดี ถ้าคนในโลกมันเลว โลกมันก็เลว มันอยู่ที่ว่าคนในโลกมันดี หรือมันเลว
ในการที่เรากระทำนี่ มุ่งหมายให้คนในโลกมันดี ดี ดี ดี ตั้งแต่เด็ก ๆ ดีตั้งแต่เด็ก ๆ โตขึ้นก็เป็นคนเดี ถ้าคนในโลกมันดี ไอ้โลกนี้มันก็ดี แต่คำว่าดีดี นี่ เอาแต่เพียงว่า ไม่มีความทุกข์ และรักผู้อื่น ก็พอเท่านั้นหล่ะ ขอให้ช่วยจำไปด้วยเถอะว่า ไอ้โลกนี้ มันจะดีได้ ก็เพราะว่า ทุกคนมันไม่มีความทุกข์ และมันรักผู้อื่น มันรักผู้อื่น ถ้ามันมีความทุกข์ มันก็ไม่ดีตรงไหน ไม่น่าชื่นใจตรงไหน ทุกคนต้องรู้จักกระทำอย่าให้มีความทุกข์ เมื่อไม่มีความทุกข์แล้วก็นึกถึงผู้อื่นด้วย เพราะว่ามันอยู่คนเดียวในโลกไม่ได้ โลกมันจะประกอบไปด้วยคนสองสามคนไม่ได้ มันต้องเนื่องกันมาทั้งโลก เราจึงต้องนึกถึงผู้อื่น คือ นึกถึงคนทั้งโลก นึกถึงข้อที่ว่า ตัวเรามันอยู้คนเดียวในโลกไม่ได้แน่ ๆ สมมติว่าเขาจะยกโลกให้เราทั้งหมดคนเดียว ให้เราครองโลกคนเดียว เราอยู่ไม่ได้ เพราะนั้น จึงแน่นอนเหลือเกินว่า จะต้องนึกถึงผู้อื่น แล้วก็ปรับปรุงให้อยู่กันได้ การปรับปรุงให้อยู่กันได้ก็คือ ความรักผู้อื่น เราจึงเห็นได้ว่า ในทุก ๆ ศาสนา ไม่ว่าศาสนาไหน มันมีแต่สอนให้รักผู้อื่นกันทั้งนั้น สอนมาก สอนน้อย สอนหนัก สอนเบา ก็ตามแต่ว่า มุ่งหมายให้รักซึ่งกันและกัน เพราะเหตุผลเห็นกันได้ง่าย ๆ ว่า ถ้ารักกันแล้ว มันไม่เบียดเบียนกันนี่ ถ้ามันไม่เบียดเบียนกัน มันก็มีความสุขด้วยกันทั้งหมด รักกันแล้ว มันก็ไม่เบียดเบียน
ฉันอยากจะพูดว่า ทุกคนเลย ทุกคนละ ถือศีลข้อสำคัญสักข้อ ที่ว่า รักผู้อื่น รักผู้อื่น เป็นศีลข้อที่สำคัญที่สุด ถ้ามีศีลข้อนี้แล้ว มีหมดทุกข้อเลย มีทุกศีลเลย ข้อรักผู้อื่นมันก็เบียดเบียนผู้อื่นไม่ได้ ไม่เบียดเบียนชีวิต ไม่เบียดเบียนร่างกายของผู้อื่น คือไม่ฆ่า ไม่เบียดเบียน ฉะนั้น รักผู้อื่น มันก็โขมยไม่ได้ โขมยของใคร เพราะเรามันรักเพื่อนมนุษย์ เราจะไปโขมยเขาอย่างไรได้ ก็เรียกว่ามันโขมยไม่ได้ ทีนี้ เมื่อรักผู้อื่น มันก็ละเมิดของรักของผู้อื่นไม่ได้ ที่ว่าทำกาเมหน่ะ ทำกาเมหน่ะ เห็นแก่ตัว จนไม่รักผู้อื่น มันจึงทำกาเม ถ้ามันรักผู้อื่นแล้ว มันก็ไม่ดื่มกินของเมาให้ผู้อื่นรำคาญ เรียกว่าเบียดเบียนผู้อื่นโดยไม่ทันรู้ นี่ มันมีศีลหมดเลย ครานี้ ยิ่งไปกว่านั้น มันก็ชื่อว่ารักผู้อื่น แล้วมันก็ช่วย มันก็ช่วยทุกอย่าง มันช่วยกัน ไอ้เรามันช่วยกันนี้ ก็เพราะว่าเราเห็นแก่คนนั้น เห็นแก่คนนี้ รักผู้อ่ืนนั่นเอง มันมีการช่วยกันที่สุด เพราะมันมีความรักผู้อื่น แล้วโลกนี้ มันก็ไม่มีปัญหา มันไม่มีปัญหา มันมีแต่คนที่รักซึ่งกันและกัน พร้อมที่จะช่วยซึ่งกันและกัน มันก็เลยไม่มีปัญหา ไอ้โลกนี้ มันไม่มีปัญหาเลย ไปทางไหน ก็มีแต่คนที่มีความรัก ถามว่า จะให้ช่วยอะไรจะให้ช่วยอะไร นี่ เราไปทางไหน ก็มีแต่คนยกมือขึ้นว่าจะให้ช่วยอะไร จะให้ช่ยยอะไร นั่นหล่ะ ผลของความรักผู้อื่น มันเป็นศาสนาของพระศรีอาริยเมตตรัย แปลว่ายอดแห่งความเมตตากรุณา ในศาสนาของพระศรีอาริยเมตตรัย มีแต่เมตตาสูงสุด มีแต่มิตรสหายกันทั้งหมด มันก็เลยไม่มีปัญหาที่จะอยู่กัน เรียกว่า เป็นโลกที่ดีที่สุด เพราะว่าคนมันดีที่สุด มันไม่มีความทุกข์และมันเห็นแก่ผู้อื่น มันรักผู้อื่น
เรื่องบวชเณรหน่ะ มันก็ชื่อว่า ฝึกหัดเณรให้รู้หน้าที่ ที่มนุษย์จะต้องกระทำที่เณรเด็ก ๆ เล็ก ๆ นี่ มันยังเล็กอยู่ มันไม่รู้หน้าที่ที่จะต้องประพฤติ กระทำ หรือที่ควรกระทำ การไม่รู้หน้าที่นั่นหน่ะ คือความเสียหายที่สุด คือมันไม่รู้ธรรมะ ธรรมะแปลว่าหน้าที่ หน้าที่ หน้าที่ หน้าที่แปลว่าธรรมะ หน้าที่ เรียกเป็นภาษาไทย เรียกว่าหน้าที่ เรียกเป็นภาษาดึกดำบรรพ์ในอินเดีย เรียกว่าธรรมะ ธรรมะคือหน้าที่ แล้วก็ได้สนุกไปกับการทำหน้าที่ แล้วมันก็ไม่เบียดเบียนกัน เราไม่มีหน้าที่จะฆ่าฟันกัน เราไม่มีหน้าที่จะลักโขมยกัน เราไม่มีหน้าที่จะเบียดเบียนผู้อื่น มันไม่มีหน้าที่ มันมีหน้าที่แต่รักผู้อื่น
หน้าที่ที่หนึ่ง คือทำตัวเองให้พ้นทุกข์ หน้าที่ที่สอง ก็ช่วยเหลือผู้อื่น หน้าที่คือธรรมะ การทำตัวเองให้พ้นทุกข์คือหน้าที่ หน้าที่คือธรรมะ ธรรมะคือหน้าที่ คือการช่วยตัวเองให้พ้นทุกข์ ถ้าอยากจะพ้นทุกข์ ก็ต้องทำหน้าที่ มันมีเท่านั้น ใครมีหน้าที่อะไรก็ขอให้ทำเถอะ ถ้าว่าทุกคนในโลก ทุก ๆ คนในโลก ทำหน้าที่ของตน ของตน แล้วก็ โลกนี้ มันสันติสุข สันติภาพ ไม่มีการรบราฆ่าฟัน ไม่มีการอดอยาก ลำบาก ไม่มีความขาดแคลนใด ๆ ถ้าทุกคน ๆ ล้วนทำหน้าที่ของตน ของตน ชาวนาทำนา ชาวสวนทำสวน คนค้าขายก็ค้าขาย ข้าราชการทำราชการ กรรมกรทำกรรมกร แม้แต่คนขอทานาก็ทำหน้าที่ดีที่สุด เป็นคนขอทาน ประพฤติหน้าที่ของคนขอทานให้ดีที่สุด ไม่เท่าไร จะพ้นจากสภาพขอทาน
หน้าที่ถือสิ่งสูงสุดของมนุษย์ ที่จะขจัดปัญหา หรือความทุกข์ทุกอย่าง ทุกประการ แล้วจะเกิดความรอด คือรอดทางกาย ไม่ตาย เป็นอยู่สบาย รอดทางจิตใจ มีจิตใจเป็นสุข สงบ เย็น ไม่มีกิเลสเบียดเบียน ไม่มีความทุกข์ร้อนทางใจเบียดเบียน เขาเรียกว่า รอด รอด ทั้งทางกาย รอดทั้งทางจิต ๒ รอดนี้ รวมเรียกว่า รอด รอด รอดเพราะทำหน้าที่ ทำหน้าที่ มีผล คือความรอด รอด ทุกคนในโลกมีแต่ความรอด ไอ้โลกนี้มันก็รอดทั้งโลก ทั้งโลก มันก็รอดแหละ เพราะทุกคนมันรอด ถ้าใครไม่ทำหน้าที่แล้วก็ ยากจน ค่นแค้น ไม่ทำหน้าที่ มันก็ใช้ไม่ได้แหละ จึงอยากจะบอกว่า ทำงานให้สนุก ทำงานให้สนุก ทำงานให้สนุก แล้วมีความสุขเมื่อกำลังทำงาน ชาวนา ดำนาอยู่ ก็มีความสุข ชาวสวน ขุดดินอยู่ ก็มีความสุข คนค้าขาย ทำการค้าขาย ย่อมมีความสุข ข้าราชการ ทำงานอยู่ในออฟฟิส ก็มีความสุข ให้มีความสุขเมื่อทำการงาน เมื่อกำลังทำการงาน ขอทานก็มีความสุข เมื่อกำลังขอทาน ทุกคนก็เลยมีความสุข ... (นาทีที่ 13:40) ต้องพอใจในหน้าที่ เพราะหน้าที่เป็นสิ่งสูงสุด หน้าที่คือธรรมะ ต้องพอใจในหน้าที่ จึงจะมีความสุข ถ้ามันไม่พอใจในการทำหน้าที่ ไม่มีความสุข เพราะว่าความสุขเกิดจากความพอใจ เพราะ ฉะนั้น ทุกคนเลย จะต้องทำอะไรให้มันถูกต้อง ทำอะไรถูกต้องจึงจะรู้สึกพอใจ รู้สึกพอใจ จึงจะรู้สึกเป็นสุข ความสุข มาจากความพอใจ ความพอใจ มากจาความถูกต้อง เพราะฉะนั้น เราจะต้องทำให้มีความถูกต้อง หน้าที่ที่มันต้องถูกต้อง เพราะว่ามันเป็นประโยชน์แก่ทุกฝ่าย ทุกฝ่ายได้รับประโยชน์เรียกว่าถูกต้อง เป็นโจร เป็นโขมย จี้ ปล้น จะเรียกว่าหน้าที่ไม่ได้ เพราะว่าไม่มีใครได้รับประโยชน์เลย นอกจากตัวเอง อย่างผิด ๆ อย่างไม่ยุติธรรม จะพูดว่า มีหน้าที่โขมย มีหน้าที่จี้ ปล้น แบบนี้ มันไม่ถูก เพราะมันไม่ใช่หน้าที่ หน้าที่คือ ทำแล้ว ทุกคน ทุกฝ่าย ได้รับประโยชน์ ได้รับความสุข ได้รับความพอใจ แล้วเราจึงทำ ทำนาก็ได้รับประโยชน์ ทั้งคนทำและคนซื้อกันละ ทำสวน ก็ได้รับประโยชน์ ทุกฝ่าย ค้าขาย ก็ได้ประโยชน์ คือความสะดวกและความอยู่ได้ คนขาย ก็อยู่ได้ คนซื้อ ก็สะดวกสบาย ทำราชการ ก็เพื่อให้คนทั้งบ้านทั้งเมือง ได้รับความยุติธรรม ถูกต้อง มีความสุข เป็นกรรมกร ก็ช่วยให้ได้รับความสะดวก ความสุข ในโลก ถ้าขึ้นชื่อว่า หน้าที่ที่ถูกต้องแล้ว ทุกฝ่าย ๆ จะได้รับประโยชน์ ได้รับความสุข
ขอให้มองไปที่ความถูกต้องของหน้าที่ แล้วพอใจ เมื่อกระทำ พอใจแล้ว ก็ต้องเป็นสุขแน่นอน ขอพูดละเอียดไว้สักหน่อย อย่าพึ่งรำคาญ ว่า ขอให้มีสติ สติ สติ มีสัมปชัญญะ สมปฤดี ระวัง ระวัง ให้มีความถูกต้อง ทุกกระเบียดนิ้ว ทุกวินาที ให้มีความถูกต้องอยู่แก่เนื้ออยู่แก่ตัว อยู่แก่กาย แก่วาจา แก่ใจนี่ ทุกกระเบียดนิ้ว และทุกวินาที ต้องศึกษาให้รู้ว่า อย่างไร ถูกต้อง แล้วก็ทำให้ถูกต้อง แล้วก็บอกตัวเองได้ว่า โอ้ มันถูกต้อง ว่า ถูกต้อง ก็พอใจ ถูกต้อง และพอใจ ถูกต้อง และพอใจ ถูกต้อง และพอใจ นั่นหละ คนประพฤติดี ประพฤติถูกต้อง พอใจ คือ เป็นสวรรค์อยู่ในตัว พอใจ พอใจ ยกมือไหว้ตัวเองได้หน่ะ คือสวรรค์ที่แท้จริง อย่าไปหลงใหลสวรรค์ชนิดอื่นเลย เป็ฯอย่างเด็กเล่นหน่ะ ถ้าสวรรค์ที่พอใจตัวเอง ยกมือไหว้ตัวเองได้นี่ สวรรค์ที่แท้จริง ไม่หลอกลวง ไม่ปลอม ถ้าได้สวรรค์ชนิดนี้แล้ว จะได้สวรรค์ทุกชนิด มีสวรรค์อีกกี่ชนิด ก็ตามใจ ถ้าเราได้สวรรค์ชนิดนี้ ก็คือ ยกมือไหว้ตัวเองได้แหละ มันก็ต้องได้สวรรค์ทุกชนิด แล้วเพราะว่า การที่จะยกมือไหว้ตัวเองได้ มันต้องทำความถูกต้อง เมื่อถูกต้องแล้ว มันไม่มีทางที่จะไปนรก ถ้ามันเกลียดตัวเอง รู้ว่าทำผิด เกลียดชังตัวเอง เกลียดน้ำหน้าตัวเองนั่นหน่ะ คือนรก นรกในโลกนี้แหละ นรกจริง ๆ เสียด้วย ถ้าเกลียดตัวเอง เมื่อไร ก็คือนรก ยกมือไหว้ตัวเองได้เมื่อไร ก็เป็นสวรรค์ จำกันไว้สั้น ๆ ว่า ยกมือไหว้ตัวเองได้ เป็นสวรรค์ เกลียดน้ำหน้าตัวเอง เป็นนรก ฉะนั้น ขอให้ทำ อย่าให้เกลียดตัวเอง อย่าให้เกลียดตัวเอง อย่าให้เกลียดนำ้หน้าตัวเอง จัดทำให้มันถูกต้องไปหมด จนยกมือไหว้ตัวเองได้เรื่อยไป นึกถึงแล้วก็ไหว้ตัวเองได้ พอนึกถึงแล้วก็พอใจตัวเอง นับถือตัวเอง ไหว้ตัวเองได้ นี่ ขอให้มีชีวิตชนิดนี้ ทั้งวันทั้งคืน
ตื่นขึ้นมาจากนอน ตื่นขึ้นมาจากนอน จากที่นอนหน่ะ พอตื่นขึ้นมา โอ้ มันถูกต้อง รอดชีวิตมาวันหนึ่งแล้ว มันถูกต้อง ก็พอใจ ทีนี้ ก็ถึงหน้าที่ เอ้า ไปล้างหน้า ก็ทำถูกต้อง และพอใจ ล้างหน้า ด้วยความถูกต้อง และพอใจ เอา ไปห้องน้ำ ก็ต้องดูถูกต้อง และพอใจนะ ไม่ใช่ทำอย่างละเมอ ๆ หรือทำอย่างชุ่ย ๆ หรือทำอย่างไม่มีสติ มันต้องมีสติ มีความถูกต้องและพอใจในห้องน้ำ ถ่ายอุจจาระ ก็ถูกต้องและพอใจ ถ่ายปัสสาวะ ก็ถูกต้อง และพอใจ อาบน้ำ ก็ถูกต้องและพอใจ คือต้องระวัง ๆ ๆ ให้มันถูกต้อง ๆ ๆ อยู่ตลอดเวลา แล้วมันก็ฑอใจ นี่ เีรยกว่า ถูกต้องและพอใจ จะไปกินอาหาร ก็มีสติสัมปชัญญะ กินอย่างถูกต้องและพอใจ อย่ากินอย่างหิว อย่างตะกละ มันจะเป็นเปรต ด้วยความหิว มันไม่ถูกต้อง มันไม่น่าพอใจ คราวนี้ ทำอะไร จะไปไหน จะไปออฟฟิต ไปทำงานที่ออฟฟิตก็ตาม จะไปทำนาก็ตาม จะไปทำสวน ก็ตาม จะไปร้านค้า ก็ตาม ให้มันถูกต้อง ทุก ๆ ฝีก้าว ย่างเท้าหน่ะ รู้สึกว่า ถูกต้อง นี่ ก็เดินไปอย่างถูกต้อง ดูทีที่จะทำให้มันถูกต้องถึงที่สุด ย่างขาไป ขาก็ถูกต้อง และพอใจ ถูกต้องและพอใจ มีสติคุมไว้ ถูกต้องและพอใจทุกก้าวย่าง จนไปถึงที่ทำงาน ก็ทำด้วยความรู้สึกถูกต้อง พอใจ ถูกต้อง พอใจในเวลาทำงานนั่นแหละ มีความถูกต้องและพอใจ มันเป็นสุขในความพอใจ มีความสุขแท้จริงในความพอใจ ก็สุขจริง ๆ นี่ ความสุขแท้จริง ไม่ต้องใช้เงิน อย่าโง่กันนัก อย่าโง่กันนัก พูดตรง ๆ ว่า อย่าโง่กันนัก ความสุขที่แท้จริง ไม่ต้องใช้เงิน ถ้าต้องใช้เงินแล้ว มันก็เป็นความหลอกลวง สุขที่หลอกลวง เป็นความเพลิดเพลินที่หลอกลวง ความสุขที่แท้จริง มันเกิดมาจากความพอใจว่า มีความถูกต้อง ใช้เงินอะไร มันไม่ต้องใช้เงินอะไร มันมีแต่สติสัมปชัญญะ ระวัง ให้ถูกต้อง ถูกต้อง ก็พอใจ ก็มีความสุข นี่ ความสุขจริง ความสุขจริง ไม่ต้องใช้เงิน ความสุขหลอกลวง เป็นเรื่องกิเลสตัณหา ต้องไปสถานเริงรมย์อาบอบนวด อะไร ๆ อบายมุข ทุกชนิด ไอ้นั่นมันความเพลิดเพลินที่หลอกลวง แพงมาก แพงมากนะ เสียเงินจนเงินเดือนหมด ไม่พอใช้ ยังไม่พอ ต้องโกง เรียกว่าต้องหาทางทุจริต หลาย ๆ อย่าง หลาย ๆ ประการ ไปซื้อความสุข ซึ่งหลอกลวง ซึ่งไม่ใช่ความสุข นี่ เราต้องการให้เด็ก ๆ ของเรารู้จักความสุขที่แท้จริง รู้จักความหลอกลวงของความเพลิดเพลิน ไม่ใช่ความสุข มันเป็นความเพลิดเพลินที่หลอกลวง มันไม่ใช่ความสุข เราจึงมีการฝึกฝนเด็ก ๆ เณร ๆ ตัวเล็ก ๆ นี่ ให้ทำหน้าที่ สนุก ด้วยความพอใจ แล้วพอใจ แล้วมีความสุข ถ้าปล่อยไปตามเรื่องแล้ว มันมักจะเหลวใหล มันไม่ชอบทำงาน มันไม่ชอบทำหน้าที่ มันไปเล่น ไปหัว ไปอะไรเสีย จนเป็นนิสัย มันเป็นนิสัยที่มันจะไม่ชอบทำงาน แต่มันก็ต้องการความเพลิดเพลิน เมื่อมันไม่ได้ความเพลิิดเพลิน มันก็ต้องทุจริต ต้องทุจริต หาความเพลิดเพลิน มันก็ฆ่ากันตายเอง ตายโหง ตั้งแต่เล็ก ถ้ามันทำเกินไปนัก ตำรวจก็เก็บไปตั้งแต่เล็ก ก็เรียกว่า ตายโหงตั้งแต่เล็ก ขออย่าให้ลูกหลานของใคร ๆ ต้องตายโหง ตั้งแต่เล็กเลย ขอว่า อย่าให้ลูกหลาน ของใคร ๆ ต้องตายโหงตั้งแต่เล็กเลย นี่ ช่วยกันอบรม ช่วยกันอบรม ให้เกิดนิสัยสนุกในการทำงาน แล้วก็มีความสุข เมื่อกำลังทำงาน ยกมือไหว้ตัวเองได้ อยู่ในใจก็ได้ นี่ เรียกว่า ทำงาน ทำงานด้วยความสุข พอใจในการทำงาน พอเลิกงานก็ถูกต้องแล้ว กลับบ้าน เดินกลับบ้าน ก็เดินด้วยความพอใจ ทุกย่างก้าว ถูกต้อง แล้วพอใจ ถูกต้อง แล้วพอใจ ไปถึงบ้าน จะกินอาหาร จะอาบน้ำ จะช่วยล้างจานก็ได้ มันถูกต้องแล้ว และพอใจ ไปกวาดบ้าน ถูบ้านก็ได้ มันถูกต้องและพอใจ พอมันถูกต้องเหมือนกัน ไม่ว่าล้างจาน กวาดบ้าน ถูเรือน ล้างส้วมก็ได้ ล้างส้วม ด้วยความรู้สึกว่า มันถูกต้องแล้ว และพอใจ แล้วมันก็ดีที่สุด เอาหมด จะนอน ค่ำลง จะนอน คิด คิด คิด แล้ว วันนี้ ทำอะไรบ้าง มีแต่ความถูกต้องและพอใจ ตอนนี้ ยกมือไหว้ตัวเองได้ ยกมือไหว้ตัวเองได้ พร้อมแล้ว ไหว้พระพุทธ ไหว้พระธรรม ไหว้พระสงฆ์ แล้วก็ไหว้ตัวเองทีหนึ่ง มันมีความถูกต้องและพอใจ เต็มไปด้วยธรรมะ เลยเป็นสวรรค์ สวรรค์ แล้วนอนฝันดีตลอดคืน พอตื่นขึ้นมา แล้วก็ถูกต้อง และพอใจ ๆ จนกว่าจะค่ำแล้วหล่ะ คำ่แล้ว นอน พอตื่นขึ้นมา ถูกต้องและพอใจ ทุกวัน ๆ ตลอดเดือนตลอดปี นี่ คือตนดี ถ้าเป็นเด็ก ก็เป็นเด็กดี ถ้าเป็นคนหนุ่มคนสาว มันก็เป็นคนหนุ่มคนสาวที่ดี เป็ฯพ่อบ้านแม่เรือน มันก็เป็นพ่อบ้านแม่เรือนที่ดี เป็นคนแก่ ก็เป็นคนแก่ที่ดี เรียกว่าเป็นมนุษย์ที่ดี เป็นมนุษย์ที่ถูกต้อง เป็นมนุษย์ที่ยกมือไหว้ตัวเองได้ ถูกต้อง พอใจ ถูกต้อง พอใจ นี่ ที่มานี่ ก็เหมือนกันแหละ ถ้ามีสติสัมปชัญญะ ต้องมองเห็นว่า นี่ มันถูกต้องนะ ที่ทำนี่มันถูกต้องนะ แล้วพอใจ ถูกต้องแล้วพอใจอยู่ อิ่มอกอิ่มใจ กลับไปบ้านก็ถูกต้องและพอใจ เพราะว่าได้ทำแล้ว ได้ทำสิ่งที่ถูกต้องแล้วละก็ พอใจ กลับไปบ้าน ก็พอใจ ไปถึงบ้าน ก็พอใจ ทำงานอื่นต่อไป ก็พอใจ จะนอน ก็พอใจ ถูกต้องและพอใจ มันหลับสนิท มันไม่ฝันร้าย
เอาละ เป็ฯอันว่า ใจความสำคัญมันอยู่ที่ เราจะต้องมีสติสัมปชัญญะ รู้จักว่า ธรรมะคือหน้าที่ หน้าที่คือธรรมะ ธรรมะ แปลวา่หน้าที่ ธรรมะคำนี้ เขาพูดกันด้วยคำนี้ตั้งแต่ก่อนพุทธกาล ก่อนพระพุทธเจ้าเกิดขึ้นในโลก เขาก็มีคำว่า ธรรมะ ธรรมะ ใช้อยู่แล้ว เขาก็หมายถึง หน้าที่ที่ถูกต้อง ก็สอนกันแต่เรื่องหน้าที่ที่ถูกต้อง ศาสดาไหน ศาสนาไหน ก็สอนแต่หน้าที่ที่ถูกต้อง ถูกต้อง จนพระพุทธเจ้าเกิด ถูกต้องสูงสุดเลย หน้าที่ที่ถูกต้อง บรรลุมรรคผลนิพพานได้ มันถูกต้องที่สุด ธรรมะ หน้าที่ ที่จะบรรลุนิพพานหน่ะ เป็นหน้าที่สูงสุด บรรลุธรรมะสูงสุด นี่ เราก็ช่วยกันทำเถอะ ให้ชีวิตมันเดินทางไปยังนิพพาน อยากได้ชีวิตที่สูงขึ้น สูงขึ้น สูงขึ้นไปยังนิพพาน เป็นอยู่ เป็นอยู่ ก็พอใจว่า ถูกต้องแล้ว ทีเดินทางไปนิพพานนี่ ที่เราทำ ถูกต้อง ถูกต้อง อยู่ ทุกเวลานาที นั่นคือเดินทางไปนิพพาน ก็ต้องถึงสักวันหนึ่งเป็นแน่ ถ้าว่าเราไม่ถึง ลูกหลานมันทำดีต่อไปก็ถึงแหละ นี่ การอบรมลูกหลานให้มีสติปัญญาสมัมมาทิฏฐิ นั่น สำคัญนะ จำเป็นนะ ต้องอบรมลูกหลานให้มีปัญญา สัมมาทิฏฐิ มันจะได้เจริญรอยพ่อแม่ เรื่อยไป เรื่อยไป จนบรรลุมรรคผลนิพพานกันเลย นี่ ขอให้ทุกคนพอใจ ทุกคนพอใจ ให้การที่ได้ร่วมมือกันทุกอย่างทุกทาง ทุกประการ คนละไม้คนละมือ จัดให้บวชเณร จัดเณรมาฝึกในหน้าที่ หน้าที่คือธรรมะ ธรรมะคือหน้าที่ ฝึกความอดกลั้นอดทน จนเป็นของสนุกไปเลย จะไม่รู้สึกเป็นทุกข์หรือเบื่อหน่ายในการทำหน้าที่ แล้วมันจะได้ติดนิสัย สันดานไปตลอดชีวิต ว่าทำงานสนุก ทำหน้าที่สนุก ทำความดี สนุก มันยกมือไหว้ตัวเองได้เรื่อยไป แล้วมันก็รอดตัวแหละ คนคนนี้ มันรอดตัวแน่ เพราะมันสนุกในการทำหน้าที่ ในการทำงาน ก็ได้เหน็ดเหนื่อยกันมา เลี้ยงดู มาช่วยเหลือ มาทำอะไรทุกอย่าง นี่ ก็ให้มุ่งหมายข้อนี้หล่ะ แล้วก็ให้พูดว่า ถูกต้องและพอใจ ถูกต้อง และพอใจ ไม่มาทำให้เสียเวลาเปล่า ๆ การที่มาทำ ทำ ทำ ทำ อยู่ในนี้ ไม่ใช่มาทำให้มันยุ่งเปล่า ๆ มาทำให้เวลาบ้า ๆ บอ ๆ เปล่า ๆ มันถูกต้องแล้ว ที่เราจะต้องทำอย่างนี้ คือมีการอบรมลูกเด็ก ๆ นี่ให้มันมีธรรมะ ฝังลงไปให้หนักแน่น ให้มีความรู้ ถูกต้อง ให้มีความมานะ พยายาม เข้มแข็ง อดทน กล้าหาญ การที่จะปฏิบัติหน้าที่แล้ว ก็ไม่ต้องกลัว มันก็ทำหน้าที่ของมนุษย์เรื่อย ๆ ไปแหละ จนถึงที่สุดแหละ เอาละ ขอให้ทุกคน รู้สึกพอใจโดยแท้จริง ไม่ต้องเชื่อใครไม่ต้องเชื่อผู้ชักชวน เรามองเห็นของเราเองว่า นี่ มันถูกต้องแล้ว การที่เอาเด็ก ๆ มาบวชนี่ มันถูกต้องแล้ว เรามองเห็นด้วยตนเอง ไม่ต้องเชื่อผู้ชักชวน เราก็ส่งเสริมกันต่อไปละ ให้มันได้มีการฝึกฝนอบรมเต็มตามหลักสูตร ตามกำหนดเวลาที่ได้วางไว้ ว่าจะอบรมกันอย่างไร กี่วัน กี่ชั่วโมงนี้ ช่วยสนับสนุนให้ถูกต้อง จะได้เป็นหลักอยู่ในใจ ประกันอยู่ในใจว่า เรามันมีความถูกต้อง เรามันได้ร่วมมือกันสร้างความถูกต้อง เราจะได้ทายาทที่ดี ได้ลูกหลานเหลน ในอนาคต ที่ดี ที่ดี ดี เพราะความถูกต้อง นั่นแหละ ขอให้ทุกคน เข้าใจ รู้สึก รู้จัก ในเรื่องของธรรมะ คือความถูกต้องในหน้าที่ หน้าที่ที่ถูกต้อง แล้วมีความพอใจในการที่ได้ทำหน้าที่ แล้วยกมือไหว้ตัวเองได้อยู่ทุกคราว ๆ ที่ระลึกนึกถึง ชีวิตนี้ ก็มีแต่ความพอใจ มีแต่ความชื่นใจ มีความกล้าหาญร่าเริง ในความเป็นมนุษย์ของตน ซึ่งมีความถูกต้องโดยสมบูรณ์ นี่ ขอให้ทุกคน มีสติดำรงตนอยู่ โดยลักษณะที่บอกตัวเองได้ว่า ถูกต้องแล้ว ถูกต้องแล้ว ถูกต้องแล้ว ก็พอใจ พอใจ พอใจ จะทำอะไรก็ถูกต้องแล้วพอใจ จะไปทำอไร ก็ถูกต้องแล้ว และพอใจ อยู่ด้วยความสุขความพอใจชนิดนี้ เรียกว่ามันอยู่ในสวรรค์อันแท้จริง ทุกวัน ทุกคืน ทุกวัน ทุกคืน
ขอให้ทุกคนเข้าใจ กล้าหาญ สามารถดำรงชีวิตชนิดนี้ เป็นชีวิตของพุทธบริษัท ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานหน่ะ พุทธบริษัท แปลว่า ผู้รู้ ผู้ตื่นจากหลับ ผู้เบิกบาน แล้วรู้แจ้งความเป็นจริงว่า เกิดมาทำไม ทำให้ได้ แล้วก็ตืื่นจากหลับ คือไม่โง่ ไม่มีอวิชชาอีกต่อไป แล้วก็เบิกบาน เบิกบานเหมือนดอกไม้ที่มันเริ่มบานนะ มันสวย มันหอม มันน่าชื่นใจ ให้เป็นผู้รู้ ให้เป็นผู้ตื่น ให้เป็นผู้เบิกบาน อยู่ตลอดทุกเวลานาที อย่าให้เสียทีที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์และได้พบพระพุทธศาสนา อย่าให้เสียชาติเกิด ให้ถูกต้องกันไปตั้งแต่เล็ก ๆ อย่าให้มีเด็กคนไหนที่ตายโหงตั้งแต่ยังเล็กเลย ถ้าบ้านไหนมีเด็กที่ตายโหงตั้งแต่ยังเล็ก บ้านนั้นมันเสียเกียรติของความเป็นพุทธบริษัท บิดามารดาต้องรับผิดชอบ อย่าให้มีการทำผิด คือเด็ก ๆ ต้องตายโหงตั้งแต่เล็ก นี่มันเป็นความเสียหายของบิดามารดา ซึ่งไม่อบรมสั่งสอนนะ ถ้าบิดามารดา อบรมสั่งสอนดี จะไม่มีเด็กที่ตายโหงตั้งแต่ยังเด็ก ไม่ต้องตำรวจเก็บตั้งแต่ยังเล็ก ไม่ฆ่ากันตายโหงตั้งแต่ยังเล็ก
เอาละ เป็ฯอันว่า เรื่องที่จะพูดกันนี้ มันมีความสำคัญเท่านี้ มีความสำคัญเท่านี้ อบรมเด็ก ๆ ให้มีความถูกต้อง ถูกต้องเป็นนิสัยไปตลอดกาล ทำให้ไม่มีความทุกข์ สนุกในการทำหน้าที่ เงินเหลือใช้ เพราะว่าเป็นสุขในการทำหน้าที่ ไม่ต้องจ่ายเงินซื้อความสุข เป็นสุขได้โดยการทำหน้าที่ นี่ ความสุขที่แท้จริง มันทำให้เงินเหลือ ความเพลิดเพลินที่หลอกลวง ทำให้เงินไม่พอใช้ แต่ว่าคนเป็นอันมาก มันไปหลงความเพลิดเพลินที่หลอกลวง พวกเด็ก ๆ ของเราเหล่านี้ มันไปหลงความเพลิดเพลินที่หลอกลวง แล้วก็ไปทำลายตัวเอง ทำความวินาศให้ตัวเอง อย่างไรก็ดี มันอาจจะลืมนะ คอยเตือนไว้ด้วยนะ ว่าฉนพูดอย่างนี้นะ แต่ว่าเณรเหล่านี้ สึกไปอยู่ที่บ้านแล้ว ก็คอยเตือนไว้ด้วยนะ ว่าเรามีการอบรมกันอย่างไร มีความมุ่งหมายอย่างไร ถูกต้องอย่างไร คอยเตือนกันไว้ด้วย ให้รักษาหลักเณฑ์ที่ถูกต้องเอาไว้ ตลอดไป จนเติบใหญ ให้มีพืชพันธุ์ที่ดี มนุษย ไม่ใช่เพียงสืบพันธ์ุไว้เท่านั้น ต้องสืบพันธุ์ที่ดีไว้ อย่าสืบพันธุ์ที่เลวไว้ พ่อแม่อย่าทำผิด อย่าทำชั่ว ลูก ๆ หลาน ๆ เหลน ๆ อย่าได้ทำผิด อย่าได้ทำชั่ว จะได้เป็นมนุษย์ที่ถูกต้อง มีการสืบพันธุ์ที่ดี ไม่เสียที ที่เกิดมาเป็นมนุษย์ แล้วพบพระพุทธศาสนา มิฉะนั้น มันเสียชาติเกิด เสียชาติเกิด มันก็ไม่ดีกว่าหมา มันเกิดมา มันไม่มีอะไรดี มันก็เสียชาติเกิดแหละ นี่ เราทำหน้าที่ให้รอด ให้รอดทั้งทางกายและทางใจ ทำความรอดให้กับชีวิตนี่ เป็นหน้าที่ของคนและของสัตว์ ของต้นไม้ต้นไร่ ต้นไม้ต้นไร่นี่ ทำหน้าที่เพื่อความรอดอยู่ตลอดเวลา รุจักอายต้นไม้กันมั่งนะ ต้นไม้ไม่เคยขี้เกียจนะ กลางวันทำงานทั้งวันนะ ถ้าถือตามหลักวิทยาศาสตร์ ถือว่าต้นไม้ทำงานทั้งวัน มันคายแก๊ซออกซิเจนออกมาตลอดวันเพราะมันทำงานทั้งวัน แล้วกลางคืน มันคายแก๊ซคาร์บอนไดออกไซด์ตลอดคืน มันทำงานทั้งคน้นะ ต้นไม้ทำงาน ๒๔ ชั่วโมงนะ ต้นไม้ทำงาน ๒๔ ชั่วโมง คนมันเอาเปรียบ ถ้าไม่ทำ มันไม่ทำ บางคน ทำสองสามชั่วโมง ก็ไม่ได้นะ วัน ๆ สัตว์เดรัจฉาน วัว ควาย มันกินหญ้า ทำห้าที่ของมันไปตลอดวัน ไก่ก็เขี่ยกันตลอดวัน ฉะนั้นอ ย่าได้อายกับสัตว์เดรัจฉาน ว่า คนนี่ มันขี้คร้าน คนมันขี้คร้าน สนุกในการงาน ขยันทำตัวเป็นเกลียว ตัวเป็นเกลียวในการทำงานให้สนุก มีความสุขเมื่อกำลังทำงาน แล้วก็มีความรอดทั้งทางกายและทางใจ หวังว่า ญาติโยมทั้งหลาย จะมีความเข้าใจในข้อนี้ นำไปประพฤติปฏิบัติตน ให้มีความพอใจ ถูกต้อง พอใจ ถูกต้อง พอใจ ถูกต้อง พอใจ มีความสุขอันแท้จริงอยู่ ทุกทิพาราตรีกาลเทอญ