แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
สมัยรัชกาลที่ ๕ ไปแล้ว ฝ่ายโน้นเป็นเมือง เป็นเมืองไชยา มีเจ้าเมือง สมัยรัชกาลที่ ๒ ก็มีเหตุการณ์ที่เขาสร้างวัดสมุหนิมิต ถ้าไปดูสวนโมกข์เก่าก็ต้องรู้ว่าในราวสมัยรัชกาลที่ ๒ วัดนั้นกำลังเจริญ เดี๋ยวนี้ร้าง ร้างตั้งแต่เขาสร้างวัดสมุหนิมิต ร้างมาเกือบร้อยปี ก็คือเขาย้ายพระ ย้ายผู้หลักผู้ใหญ่ที่อยู่ที่วัดกระพังจิก ไปอยู่เสียที่วัดสร้างใหม่ วัดกระพังจิกก็เลยร้าง จนกระทั่งเราเป็นอยู่เป็นสวนโมกข์ พักหนึ่งสิบกว่าปี อันนี้ก็ปล่อยร้างตามเดิม สมัยก่อนก็เป็นวัดที่รุ่งเรืองดี เป็นวัดของเจ้าคณะเมือง แล้วพวกเจ้าเมืองพวกขุนนางก็อยู่กันภายในวัด นั่นแหละวัดสวนโมกข์เก่า ก็มีพระพุทธรูปใหญ่ ๆ ที่ทำด้วยศิลาทรายสีแดง มีสระซึ่งมนุษย์ขุดขึ้นขนาดใหญ่ เขาเรียกว่ากระพังอย่างที่สุโขทัย ก็ใหญ่พอ ๆ กับที่สุโขทัย แล้วก็เรียกเหมือนกัน เรียกกระพัง กระพังจิก นี่เป็นอนุสรณ์ของสุโขทัยอยู่คำหนึ่ง กระพังจิกเหมือนกับกระพัง ๆ ทั้งหลายที่สุโขทัย นอกนั้นก็ไม่มีร่องรอยอะไรของสุโขทัย ก็ไปดูวัดที่เก่าเกินรัชกาลที่ ๒ ก็มีวัดใหม่ วัดโพธาราม มันก็ไม่มีอะไรแปลกหรอกเพียงแต่มันเก่า ถึงก่อนรัชกาลที่ ๒ นิดหน่อย ที่เขารบพม่า ที่พม่ามารบ เผาวัดเผาวาก็หมายถึงวัดเหล่านี้ วัดที่ถึงสมัยธนบุรีก็ควรจะเป็นวัดเหล่านี้ด้วยแต่เราไม่มีหลักฐานไม่ได้พูดถึง แต่ว่าสมัยธนบุรีนั้น ไอ้หมู่บ้านพุมเรียงนั้นมีแน่เป็นที่พระเจ้ากรุงธนบุรีก็เคยมาพัก เอากองทัพเรือพายเรือ เรือพายมาหยุดแวะที่นี่แล้วไปตีเมืองนครศรีธรรมราช ถ้ามีโอกาสเลยไปถึงอ่าวทะเล ไปนั่งดู หลับตานึกถึงสมัยกรุงธนบุรีมาอยู่อย่างนั้น และครั้งหลัง ๆ ก็ดูจะมีครั้งสองครั้งที่เขาใช้ไอ้อ่าวพุมเรียง ปากน้ำพุมเรียงเป็นที่ชุมนุมทหารเรือพาย รับเสบียงอาหาร รับคนไป มันก็มีเรื่องกับทางนครศรีธรรมราช มันเป็นแผ่นดินยาวลงมาจากทางทิศเหนือมาจากกรุงเทพ ก็เป็นปลายแหลม ก็วกเข้ามานี่เป็นพุมเรียง วกไปโน้นเป็นบ้านดอนและออกไปโน่นเป็นนครศรีธรรมราช ก็ไปดูเมือง ซากมัน ที่มีอยู่เดี๋ยวนี้ ของใหม่ ๆ นี้มีทอผ้า ทำหมวก พวกต่างจังหวัดมาที่นี่ก็ซื้อผ้าซื้อหมวก
มันก็มีมลายู เดี๋ยวนี้ก็เรียกว่าไทยอิสลามมลายู เชลยศึกครั้งรบเมืองไทรบุรีโน่น ทิ้งไว้ที่มีจนเป็นหมู่บ้านมลายู พูดมลายูไม่ได้ พูดไทยถือศาสนาอิสลาม เดี๋ยวนี้ก็ดีขึ้นพูดมลายูได้บางคน อ่านกรุอานได้บางคน แล้วไอ้ความเชื่อ ความเชื่อความยึดมั่น มันมีผลทางชาตินิยม มันยึดมั่นศาสนาอิสลาม และความเป็นมลายูของตัว ไม่ยอมเป็นไทย เป็นไทยกันก็แต่ปาก เขาจะเรียกพวกไทยเรายึดมั่นในในพุทธศาสนา พวกนี้ยึดมั่นในฝ่ายอิสลาม แต่ว่าแรงกว่า เขายึดมั่นพระเจ้านี่พวกนี้แรงกว่านี่ พิสูจน์ความเชื่อว่ามีอำนาจมากกว่าปัญญา ให้ถือพระเจ้าไว้ตะพึด ทำดีทำชั่วมันแล้วแต่พระเจ้า เขาให้ถือพระเจ้า ดังนั้นเขาจึงพูดอย่างที่น่าโมโหว่า ทำดีทำถูก ทำดีทำอะไรไม่มีผิดไม่มีเรื่อง แต่ถ้าไม่ถือพระเจ้าเป็นมิจฉาทิฐิ แล้วคนที่ทำผิดทำเลวทำชั่วอยู่ถ้าถือพระเจ้ากลับเป็นสัมมาทิฐิ ถือกันถึงขนาดนี้ สมมุติเดี๋ยวนี้มันทำชั่วทำเลวอยู่ แต่มันถือพระเจ้า มันเป็นคนดี เราพยากรณ์ว่ามันก็ต้องกลับเป็นคนดี ไอ้คนที่ทำดีแท้ ๆหากไม่ถือพระเจ้าของเขา ไอ้คนนี้มันคนชั่ว มันไม่นับถือพระเจ้า แล้วไอ้ทำดี ทำดีแต่ต่างกับเขาจะเลิก จะเลิกร้างไปหมด ดูจะอย่างนี้ทุกแห่ง พวกที่ถือศาสนาอิสลามจะเป็นอย่างนี้ทุกแห่งในประเทศไทย เขาจึงมั่นอยู่ในศาสนา โดยที่ไม่ต้องรู้ ไม่ต้องรู้ว่าสอนว่าอะไร ให้ไหว้พระเจ้าให้เชื่อพระเจ้าเป็นดีที่สุด แต่ว่าที่จริงถ้ามนุษย์อยู่กันในรูปนี้ก็ดีเหมือนกัน ไม่มีปัญหา ไม่มีปัญหาเรื่องยุ่งยากลำบาก มันทำมาหากินกันไปวันหนึ่ง ๆ ปัญหาเรื่องการเมือง เรื่องอะไรมันจะไม่ค่อยลำบาก ไม่ค่อยยุ่งยาก พวกเหล่านี้ก็ไม่ได้คิดแยก ไม่มีหัวคิดแยกตัว แยกอะไรจากประเทศไทย ส่วนมากก็ยากจน เป็นคนยากจนพวกไทยอิสลามนี้ ก็มีลักษณะพิเศษคือแต่งตัว แม้จะยากจนอย่างไรก็แต่งตัวเสียจนสุดที่จะทำได้ แล้วก็ใช้สีสด ๆ ไปดูถ้ามีเวลาเลี้ยวไปดู บ้านเรือนที่อยู่นี่มัน เดี๋ยวนี้คงจะดีขึ้น ก่อนนี้มันอยู่อย่างที่เรียกว่าบ้านคนป่า ใช้ไม้กลม ๆ มาทำกันพออยู่ได้ คั่นฝาด้วยจาก อยู่กันอย่างไม่มีหลักอนามัย เดี๋ยวนี้มันดีขึ้น เอาอย่างมานะคนไทยสร้างบ้านสร้างอะไรดีขึ้นมาก แต่ก็ดีเฉพาะอยู่ริมถนน ลึกเข้าไปก็ไม่ไหว ดูบ้านมันซอมซ่อเหลือประมาณแล้วแต่งตัวฉูดฉาดสวยสดแล้วเป็นมลายู เป็นไทยอิสลาม เป็นพวกที่คล้าย ๆ จะยิว หรือว่ามันมันเลือดเดียวกัน เขาขี้เหนียวหรือว่าเขาประหยัดแล้วกลัวเสียเงินมากกว่ากลัวติดตาราง ถ้าเป็นพวกจีนมันกลัวติดตารางไม่กลัวเสียเงิน เสียเท่าไหร่เสียไป ถ้าเป็นพวกอิสลามมันยอมติดตารางไม่ยอมเสียเงิน แต่มันก็ไม่ค่อยทำผิด จะหาเรื่องที่ต้องไปติดตารางยาก แต่ถ้าขู่ว่าจะให้เสียเงินแล้วก็ยอมติดตาราง รักเงิน ยังมีแววของมลายูเหลืออยู่นิด เหลืออยู่นิด หูตา หน้าตา รูปร่าง ลักษณะมลายูยังเหลืออยู่เต็มที่ เพราะว่าเขาไม่แต่งงานกับคนอื่น นี่ไปดูอีกมลายู ไปดูบ้านเมืองในประวัติศาสตร์ยุคธนบุรี ยุค
คนที่สนใจในสวนโมกข์ก็ไปดูสวนโมกข์ แรกมี ไปดูวัดมาตรฐานที่ว่าสร้างสามเดือนหรือสี่เดือนเสร็จ เขาเรียก (นาทีที่ 13.20วัดสมุหนิรมิต) ตัวสมุหกลาโหม หรือ สมุหการคลังนี่นิรมิต สมัยนั้นถ้าเป็นชั้นนี้ เป็นชั้นสมุหนี่ก็คือ ชั้นที่ว่ามันอำนาจเด็ดขาดรองจากพระเจ้าแผ่นดิน ฝ่ายทหารหรือฝ่ายการคลัง หรือฝ่ายอะไร เขาเรียกสมุห สมุหการคลัง สมุหกลาโหม ตำแหน่งก็เป็น บรรดาศักดิ์เขาเป็นสมเด็จเจ้าพระยา ที่จริงสามารถสร้างวัดขนาดมาตรฐานได้ในสามเดือนสี่เดือนเสร็จ ไอ้สิ่งต่าง ๆ ที่เหลืออยู่นั้นของเดิม บูรณะก็เพียงแต่ว่า ให้มันเหมือนของเดิมขึ้นมา เดี๋ยวนี้ก็น่าจะทำไม่ได้ แม้พระเจ้าแผ่นดินจะทำเดี๋ยวนี้ก็ทำไม่ได้ สี่เดือนเสร็จแบบนี้ นั้นเรามีความรู้เกี่ยวกับระบอบราชาธิปไตย กับระบอบประชาธิปไตยเป็นยังไง มันต่างกันยังไง กระผมไม่รู้ไง ยังชอบระบอบราชาธิปไตย ตรงไปตรงมา ไม่เห็นมันเสียหาย คนเลวมันก็หายาก คนเหลวไหลก็หายาก ทำอะไรได้รวดเร็ว เดี๋ยวนี้โอ้เอ้ ประชาธิปไตยโอ้เอ้และเลวลงด้วย คนมันเลวลง ที่ว่าเขาเผด็จการรุนแรงด้วยหวายนั่นเขาเผด็จการแต่คนเหลวไหล หรือว่ามันจะจับพลัดจับผลูบ้างไปถูกคนดีเข้าบ้างก็เป็นส่วนน้อย ก็ไม่ควรถือเอาเป็น(นาทีที่ 15.39 ระมัง) ถ้าระบอบนั้นมันจะสู้จีนแดงได้ เขาบอกสร้างวัด วัดนั้นสามเดือนเสร็จ ไปดู ระบอบนั้นจะสู้จีนแดง ก็ยกพวกเจ้านายให้เป็นเทวดา ประชาชนก็เป็นคนชาวบ้าน เชื่อฟัง และเมื่อได้เจ้านายที่ดีก็หมดปัญหา ก็พาไปในทางดี อย่างเร็วอย่างเฉียบขาด คนไทยสมัยนี้ก็เลยเป็นประชาธิปไตย ว่ากันไม่ได้อะไรกันไม่ได้มีแต่เถียงกัน โอ้เอ้ ดังนั้นระหว่างครึ่ง ๆ ควรที่จะดี ให้มันมีคนดีสักจำนวนหนึ่งสำหรับเผด็จการ ผู้เผด็จการมันจะเผด็จเอาไปไหนคิดดูสิ มันจะกินเข้าไปยังไงไหว อย่างเหมาเจ๋อตุงนี่มันจะกินเข้าไปยังไงไหว ผลสุดท้ายการเผด็จการมันก็ถูกบังคับให้ทำเพื่อคนทั้งหลาย นี่เราไปมองลำเอียง หรือว่ามอง หรือแกล้งพูดไม่จริงไม่รู้ว่าผลร้ายมันมี มันทำให้คนเหลวไหลอยู่ ต้องปลุกให้มันตื่นให้มันเข้มแข็ง ให้มันสู้ไอ้พวกคอมมิวนิสต์ได้ เดี๋ยวนี้มันแก้คอรัปชั่นไม่ได้เพราะเหตุนี้ เพราะมันไม่มีจริง ไม่มีเผด็จการ ดังนั้นเขามีหวาย เผด็จการด้วยหวายนะไม่ต้องปืน ไม่รู้จักปืน ปืนพกปืนแพ้กไม่มี ไม่รู้จัก มีแต่หวาย จะทำให้อะไรเกิดขึ้น ถัดจากหวายก็คือดาบ ไม่ถึงดาบ เพียงแต่หวายก็ทำให้การนิรมิตในวัด (นาทีที่ 18.30 )เล่นได้ เหมือนกับปั้นตุ๊กตา
พวกที่ทันเห็นเมื่อผมยังเด็ก โตบ้างแล้ว ก็ยังทันฟังคนที่เขาเห็นด้วยตาเองเล่าให้ฟัง อย่างน้อยก็ว่าพ่อของเขาถูกทำอย่างนั้นอย่างนี้ ก็เล่าให้ฟังได้ ก็ถูกเฆี่ยน ถ้าใครเหลวไหลก็ถูกเฆี่ยน ให้นอนคว่ำลงแล้วก็เฆี่ยนที่หลังไปถึงสะโพก กี่ที ที่นี้คนเฆี่ยนมันมีแรงเฆี่ยนด้วยหวาย เลือดมันออกมาจากแผล โดนเข้ามันก็หลาบ เข็ดหลาบ แล้วไม่ใช่เฆี่ยน ไม่ใช่ถูกเฆี่ยนทุกคน มันมีน้อยคนที่จะถูกเฆี่ยน มันก็ทำเสียสิเขากำหนดอะไรให้ทำ ทำความเข้าใจ เดี่ยวทำก็ทันเวลา ทีนี้คนบ้า ๆ บอ ๆ มันไม่รู้ว่ายังไง ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ไม่รู้ว่าฟังคำสั่งยังไง แล้วก็นิสัยมันก็เหลวไหลมันก็ต้องถูกเฆี่ยน ที่จริงไอ้ถูกเฆี่ยนนั้นมันดีอยู่ครึ่งหนึ่ง หรือมันร้ายอยู่ครึ่งหนึ่ง มันดีอยู่ครึ่งหนึ่ง แต่ทีนี้เพราะมันไม่มีถูกเฆี่ยนเด็กเลวลง เมื่อไม่กลัวถูกเฆี่ยนมันก็ไม่มีอะไรบังคับให้มันเอาจริง เด็กในกรุงเทพเมื่อมันไม่มี ไม่มี ไม่เป็นที่แน่นอนว่าไม่ถูกเฆี่ยน แล้วมันก็ไม่เอาจริงในการเรียน แม้แต่ท่องอะไรท่องจำอะไร หรือการบ้าน สมัยก่อนมันถูกเฆี่ยนมันก็ทำได้ ไอ้เด็กหญิงตัวเล็ก ๆที่โรงครัวมันยังเล็กอยู่ ปีกว่าแล้วนี่ มันพูดขึ้นมาเอง มันเดินมากับเด็กใหญ่ ๆ มันพูดขึ้นมาเองบอกว่า ไอ้คนที่ทำเลขผิดจะต้องถูกเฆี่ยนนะสักทีนะ มันก็ไม่ได้ถูกเฆี่ยนอะไร ไม่ได้ถูกตีมือสักทีนะ ก็ทำไมไม่งั้นมันทำผิดอีก มันไม่ตั้งใจจะทำให้ดีว่าอย่างนั้น ไอ้ เด็กตัวเล็กมันยังรู้จักพูด ถ้าไม่ถูกเฆี่ยน มันไม่ตั้งใจจะทำให้ดี ที่กระทรวงเขาให้เลิกการเฆี่ยน เด็กก็ไม่มีอะไรมาขู่ว่าต้องทำอะไรให้ดีที่สุด ให้สุดความสามารถแล้วต้องทำตามคำสั่ง ต้องเชื่อฟัง ตรงต่อเวลา ดังนั้นมนุษย์สมัยนี้มันก็ผิดกันไกลแล้วกับมนุษย์สมัยโน้น สมัยเพียงว่าร้อยปีมานี่ ที่สร้างวัดนั่นสี่เดือนเสร็จ เดี๋ยวนี้ทำไม่ได้ ให้พระเจ้าแผ่นดินทำเองก็ไม่ได้ มันประชาธิปไตยหรือมันอะไรก็ไม่รู้
ดังนั้นคุณไปดูสักนิดหนึ่งก็ได้ วัดนั้น ถ้าไปเที่ยวทะเลมันต้องผ่านวัดนั้น อยู่ติดถนน เข้าไปพิจารณาดูเถอะ นี่มันเกิดขึ้นมาด้วยหวาย ด้วยระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ถ้าสี่เดือนสร้างได้วัดหนึ่ง ปีหนึ่งก็ได้สามวัด น่าจะศึกษาไว้ว่าเขาทำกันได้อย่างไร พวกทำอิฐก็ทำอิฐบกพร่องไม่ได้ พวกทำไม้ก็ต้องทำไม้ พวกไปเอาของมาจากกรุงเทพก็ต้องไปเอามาให้ทันในหนึ่งเดือน สองเดือน เริ่มขนของมาจากกรุงเทพแล้ว หรือจะซื้อได้ในระยะใกล้ ๆ เองอย่างชุมพร อย่างบ้านดอนยังไม่มี แต่ต้องไปเอาจากกรุงเทพ ตลอดถึงช่าง ที่จะเขียนลายทองเขียนอะไรนี้ต้องเอามาจากกรุงเทพแถวนี้ไม่มี จะไปด้วยม้า ด้วยช้าง ด้วยม้าเร็ว ๆ มันก็กินเวลาตั้งครึ่งเดือน และเรือจะแล่นมาอย่างเร็วอย่างถูกฤดูมรสุมมันก็ตั้งครึ่งเดือน ฉะนั้นในเวลาสี่เดือนต้องได้มาหมด ต้องได้มาครบ และต้องทำไปพลางแล้วก็เสร็จเรียบร้อย ใช้ของจีนอย่างนี้ เครื่องประดับที่เป็นจีนมีอยู่มาก นี่ต้องเอามาจากกรุงเทพ น่าเสียดายที่มันสูญหายร่วงหล่นไป แตก แตกไป ๆ
เหมือนกับที่เราได้ยินที่เขาเล่ากันเดี่ยวนี้ว่าที่จีนคอมมิวนิสต์มันคล้าย ๆ กันมาก แต่ว่าดูจะยังดีกว่าคือว่า ไม่ถึงกับใช้หวายให้เลือดไหล มันใช้เกลี้ยกล่อมหรือบังคับแบบที่เกลี่ยกล่อม การบังคับนั่นมี แต่มันร่วมมือเสียให้การบังคับนั้นกลายเป็นไม่บังคับไป เพื่อให้เสร็จก่อนเวลา ที่เขาเคยไปเห็นมาพระเถระที่ประเทศเขมร บ้างใครบ้างที่เล่าให้ให้ผมฟังเขาไปเห็นมา มันก็เผด็จการแต่ว่ามันก็ไม่ใช่ถึงกับเฆี่ยนเลือดไหลเหมือนกับระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ของเราเมื่อตั้งร้อยกว่าปีมานี้ ตัวอย่างเช่นว่า ตรงนี้ไอ้หมู่บ้านนี้ หรือว่าเมืองนี้มันต้องมีท่าเรือ ถ้าไม่อย่างนั้นไอ้ทางเศรษฐกิจมันแย่ ทีนี้แผ่นดินมันไม่อำนวยให้มีท่าเรือที่ดีได้ เว้นไว้แต่ว่าเราจะละลายภูเขาลูกนี้ เคลียร์ลงไปในทะเล ทีนี้ประเทศจีนที่กว้างใหญ่มันก็ยังไม่เจริญรถแทรกเตอร์ก็ไม่มี แต่ก็ไม่ยอมแพ้ ใช้แรงงานชาวบ้าน เราจะละลายภูเขาลูกนี้ให้ลงไปในทะเลภายในสามเดือน ทุกคนก็มีไอ้เครื่องมือเพียงว่าชะแลง พลั่ว จอบ บุ้งกี๋ ไม้คาน ร้องเพลงไปพลางทำไปพลาง ละลายภูเขา ทลายภูเขาไปถมทะเลออกไป ออกไป สำเร็จทันเวลาก่อนเวลาเล็กน้อย ก็ฉลองกันเป็นการใหญ่ วิธีนี้เป็นวิธีที่ทำให้ฝรั่งมันกลัว ก่อนนี้จีนเป็นลูกไล่ฝรั่ง เดี๋ยวนี้ฝรั่งกลัวจีน แล้วมันยังจะไปอีกมากโดยวิธีนี้ และเดี๋ยวนี้มันก็มีทันสมัยขึ้นมา มีรถแทรกเตอร์ มีปรมาณูมีอะไรขึ้นมา ไม่เท่าไหร่ก็มีงานอวกาศเหมือนประเทศอื่น นี่ประโยชน์ของเผด็จการที่มีเหตุผล หรือว่าที่มีคนที่ดี ไอ้ที่สร้างวัดสมุหนิมิตนี่ มันก็รูปเผด็จการชัด ๆ แต่ถึงกับหวายเลือดไหลนั้นยังร้ายกว่าคอมมิวนิสต์ตามที่เขาเล่าให้ฟัง คอมมิวนิสต์มันจริง มันแสดงความจริง แล้วมันก็ขู่อยู่ด้วยความจริง ไม่เหลวไหล นี่เรามันใช้หวาย แม้แต่คนโง่ไปบ้างก็ต้องถูกเฆี่ยน เขาใช้ราง รางใส่อาหารทำเหมือนกับเรือ คล้ายเหมือนกับเรือโกลนใหญ่ที่สุด เอาต้นไม้ใหญ่ที่สุดมาทำเป็นเรือยาว ๆ ๆ ๆ เรียงกันไว้เป็นตับ ใส่ข้าว ใส่กับข้าว ใส่ขนมหวานในเรือ คนก็มาตักเอาไปกิน ถึงเวลากิน กองครัวก็มีหน้าที่ทำใส่อย่าให้ขาดได้ เกิดอาหารมันขาดขึ้นมามันก็ถูกเฆี่ยนหลัง ไม่มีอะไร ไอ้คนกินก็เหมือนกัน ก็ต้องกินให้มันทันเวลา และไปทำงานให้ทันเวลา อะไรผิดตามที่ตกลงกันไว้ก็เฆี่ยนหลัง เมื่อผมเป็นเด็กมันเหลืออยู่สองสามคนในหมู่บ้านนี้ ที่หลังยังมีรอยอยู่ มีอยู่สองสามคน และดูมันจะไม่ใช่ครั้งโน้น มันครั้งเมื่อเร็ว ๆ นี้ ครั้งเมื่อเมืองไชยาเขามีเจ้าเมืองตกในรัชกาลที่ ๔ ไม่ใช่รัชกาลที่ ๒ มันอยากเห่อประชาธิปไตยกันนัก มันจะไปไม่รอด มันดีเกินไปสำหรับประเทศอย่างเรา ๆ เพราะว่าถ้าในหลวงเป็นผู้เผด็จการเสียเองอย่างนี้จะดี จะดีมากสำหรับประเทศไทยที่ยังล้าหลังอยู่ ดีกว่าประชาธิปไตยงุ่มง่ามที่ทำกัน แล้วเลอะเทอะด้วย ทั้งงุ่มง่ามทั้งเลอะเทอะ
นี่ไปดูวัดสมุหนิมิตไปดูไอ้ธรรมชาติ เกาะทราย เขาเรียกว่าเสร็จ ดูหาดูยากนะจะมีอีกที่ไหนอีกบ้างผมก็ไม่ทราบแต่คงมี แต่ที่นี่มีอัน อ่าวพุมเรียง มันเกิดขึ้นโดยธรรมชาติสร้าง เมื่อแผ่นดินมาอย่างนี้พุ่งเป็นแหลมไปนี่ แล้วก็วกเข้ามาเป็นอ่าวนี้ และออกไปเป็นแหลมเยื้องทางโน้นแล้วไปไปเลย ทีนี่ไอ้น้ำที่มันมาแล้วปะทะไอ้หัวแหลมนั้นมันวนอย่างนี้ มันวนอย่างนี้ แล้วถึงมันจะออกไปได้ เพราะอันนั้นมันยาวกว่า น้ำมันเกิดวนในอ่าวนี่ ทีนี้น้ำคลอง น้ำแม่น้ำนี้ก็สมทบ สมทบการวน พร้อมกันนั้นมันก็เอาทรายมา ทำให้ตกตะกอนลงตรงที่มันมีจุด จุดนิ่งตรงศูนย์กลางของการวน นานเข้า ๆ มันก็มากสูงจนโผล่น้ำ แล้วแผ่นดินแถบนี้มันก็จะต้องตื้นขึ้นทุก ๆ ๆ ศตวรรษ ตื้นออกมาจากข้างใน ตอนนี้กำลังมีทรายสวยเป็นที่เที่ยวเล่น ถ้าเรานั่งอยู่บนเกาะทรายนั่นเหลียวทางไหนก็เป็นน้ำทะเลเขียวรอบ สวยดี
สามโมงนี่ออกไป ท่านเห็นแล้วหรือเก็บอะไรเสร็จแล้ว ก็นิมนต์หรือว่ามีอะไรจะให้ช่วยยังไงก็บอก แล้วทำไม เขียน อะไรเซ็นหรือ เขียนกลอนไม่ไหวหรอก ไปลอกเอาเองเถอะกลอน เซ็น เซ็นตรงไหน นี่มัน มันไม่ใช่ผม จะไปแจกคนละแผ่นอย่างนั้นเหรอ อยู่อย่างนี้ เซลล์แมนเขาทำจากแผ่นไม้ คุณวรศักดิ์เก็บแผ่นไม้ คำกลอนใต้นั้นอ่านแล้วหรือ ใต้ภาพนั้น เซลล์แมนมีฝีมือและก็มีความคิด นั่งอยู่ในปากงูพญานาค เหมือนลิ้นอยู่ในปากงู ไม่ถูกเขี้ยวงู นี่เราอยู่โลกที่เต็มไปด้วยเขี้ยวด้วยขวากด้วยหนามเราก็ไม่ถูก นี่ก็ดีเตือนสติ และจะให้ผมเขียนว่าอย่างไร ภาพนี้ผมก็ไม่ได้เขียนเอง ยังไงก็ได้ เอาอะไรเขียน หรือว่าเอาไปเขียนที่กุฏินะ และตอนจะออกไป ไปเอาแล้วกัน นี่ไปเขียนกลอน เขียนอะไรไว้ เขียนกลอนนั้นลงมาอย่างนี้ บาทหนึ่ง บาทหนึ่ง บาทหนึ่ง บาทหนึ่ง พอดี นี่เซ็นชื่อไว้ตรงนี้ มีอีกหลายแผ่น แต่คุณวรศักดิ์เขาหาไม่เจอหรือว่าไม่ชอบ ที่จริงไม้แกะนี่มีหลายแผ่น
บ้านดอนมันก็ไม่มีอะไร มันของใหม่ ๆ แล้วก็มี มีอย่างกรุงเทพมี แล้วก็มีน้อยกว่า ที่ไชยายังมีเก่า ๆ ที่เป็นเรื่องเป็นราว เป็นประวัติศาสตร์ เขาเชื่อกันว่าเมืองไชยาเก่าแท้ ๆ อยู่ทางโน้น ราว ๆ จากทางรถไฟไปราว ๑๕ กิโล เจอภูเขาเพลา เมืองไซยา เมืองไซหยา แต่ไม่เห็นร่องรอยอะไรในทางไอ้ที่มันจะยืนยันได้เพียงแต่ปากเขาพูดมานาน กรมพระยาดำรงก็เคยได้ยินเรื่องนี้ แต่ท่านก็ไม่มีโอกาสจะไป แล้วท่านขอร้องว่าให้ผมนี่ช่วยไปดูสักที ผมก็รับปากท่าน ตัวเองก็อยากจะไปดูเหมือนกัน แต่แล้วมันก็เหลวไหลจนพระยาดำรงสิ้นพระชนม์ มันก็นึกไม่สบายใจเรื่องนี้ แต่ก็ไปดูจนได้ ไปนอนค้างที่นั่นคืนหนึ่ง สองคืนที่ไป มันไม่มีร่องรอย แต่เราไม่ได้ขุดลงไปในใต้ดิน ไม่รู้ว่าจะขุดตรงไหนมันเป็นธรรมชาติล้วน ๆ ไอ้ถ้ำ ไอ้เมืองนี้ มันเป็นธรรมชาติ ภูเขาทางนี้สูง ทางนี้ลงไปต่ำเป็นแม่น้ำแต่ก็มีสันอยู่เรื่อย แล้วมีภูเขาอีก แล้วมีภูเขาเหมือนแกล้งทำเล็ก ๆ ๆ ๆ หรือไม่ถึงขนาดภูเขาเพราะมันล้อมอยู่เป็นวง เป็นเมือง ในนั้นเป็นเมืองได้สบาย ได้ขนาดไม่เล็ก เขาเรียกในเมือง มีเป็นช่องสักสองสามช่อง ที่ภูเขามันขาด ให้ช้างป่าหรืออะไรเข้าไปในเมืองนั้นได้สะดวก ในถ้ำก็มีธรรมชาติ ไม่มีโอ่งไห ไม่มีอะไรอย่างที่เขาว่ากัน ไอ้ชาวบ้านนั้นเห็นอะไรแปลกตาหน่อย เขาก็มักจะสมมติเป็นนั่นเป็นนี่ ไอ้น้ำหินซิลิกา ซิลิกอนที่มันย้อย ๆ ลงมาเป็นลักษณะคล้ายแอ่ง คล้ายอ่าง คล้ายไม่มี เป็นอันว่าถือ เชื่อถือไม่ได้ว่าเมืองไชยาเก่าอยู่ที่นั่น เว้นไว้แต่จะ เว้นไว้แต่มันจะเป็นเพียงว่าเคยอพยพหลบหนีกันไปอยู่ที่นั่นชั่วขณะหนึ่งแล้วก็เรียกว่าเมืองขึ้นมา แล้วก็ทิ้งเพราะมันอยู่ไม่ไหว ถ้าไปอยู่แบบสวนโมกข์ก็สบายมากเดี๋ยวนี้
ทีนี้ต่อมาถึงสมัยศรีวิชัยนี่อยู่แถวนี้ ก่อนสมัยศรีวิชัยก็ต้องมี เพราะมันมีของรุ่นสมัยทวาราวดีอยู่มากชิ้นในเมืองนี้ ก็พบปนเปกันอยู่กับของสมัยศรีวิชัย ก็บริเวณวัดพระธาตุลงไปจนถึงตลาด นี่แหละเมืองไชยา สมัย ๑๒๐๐ กว่าปี และต่อมามันก็เปลี่ยนมือเป็นผู้ปกครองที่มีเป็นอิสลาม หรือว่ามันเป็นอิสลามที่ก่อนที่ยังถือพุทธ อิสลามที่ยังถือพุทธ ก่อนอิสลามเข้ามาทางแหลมมลายู มันก็คือไอ้คนนี่คนที่มันเรียกว่า Proto Malay ชาวมลายูที่ยังไม่ได้ถือศาสนาอิสลาม คือหลังจากสมัยศรีวิชัยมันก็ร้าง มันร้างไปพักหนึ่ง เพราะว่ามันถูกทำลาย อาณาจักรศรีวิชัยมันถูกทำลายโดยอาณาจักรสุโขทัย รุกเข้ามาบ้าง ไอ้พวกมลายูทางล่างมันรุกขึ้นมาบ้าง มันต้องร้างไประยะหนึ่ง จนถึงสมัยกรุงศรีอยุธยานี้ก็มีการ มีความเจริญขึ้นมาอีกยุคหนึ่ง ยุคสมัยสุโขทัยนี่เมืองไชยาคงจะเงียบเหงาหรือว่าแหลกไปด้วยอะไรอย่างหนึ่ง จนกระทั่งถึงไอ้ยุคต้นแรกของไอ้สมัยอู่ทอง สมัยอยุธยานี้ก็คงไม่มี พอถึงสมัยที่รุ่งเรืองที่สุดของสมัยอยุธยา สมัยบรมไตรโลกนาถสมัยนี้ เมืองไชยาคงจะคึกคักมั่งคั่งขึ้นมาอีก ดูซากโบราณสถาน วัตถุ ที่มันสร้างสมัยอยุธยามันมากเหลือเกิน แล้วถูกพม่าทำลายก็ยุบยับเงียบไปไม่เป็นบ้านเป็นเมืองอะไรนับไปอีกพักหนึ่ง จนถึงสมัยธนบุรี มันก็กระเตื้องขึ้นมาตามลำดับ สมัยรัตนโกสินทร์มันก็ย้ายไปอยู่ริมทะเล ความเจริญไปอยู่ริมทะเลหมด สมัยยุคนั้นความเจริญจำเป็นจะต้องไปอยู่ริมทะเล สมัยก่อนก็อยู่บก ๆ ดอน ๆ ฉะนั้นเมืองไชยา เมืองสงขลา เมืองอะไรก็ตามไปอยู่ริมทะเลกันหมด พอมาถึงยุคเกิดรถไฟ เกิดรถไฟขึ้นมานี่ก็ย้ายกลับมาหารถไฟ จากทะเลมาหารถไฟหมด นี่เมืองไชยาก็จากตรงนี้ไปอยู่ริมทะเลยุคหนึ่ง แล้วจากนั้นก็ย้ายกลับมาอยู่ตรงที่เดิมนี่ยุคหนึ่ง (นาทีที่42.09 คือยุคเดี๋ยวนี้) ถ้าสนใจประวัติศาสตร์ก็ไปดู แต่วัดเวียง เมืองไชยาโบราณยุคสมัยศรีวิชัย กระทั่งยุคกรุงศรีอยุธยาแรก ๆ กลาง ๆ แล้วไอ้ต้นยุครัตนโกสินทร์ หรือยุคธนบุรีไปอยู่ทางทะเล และก็เมื่อเร็ว ๆ นี้เอง เมื่อมีรถไฟขึ้นมารัชกาลที่ ๖ มันเกิดมีรถไฟขึ้นมา นี่ก็ย้าย ๆ ทนอยู่ไม่ได้ ไอ้การต่อต้านที่จะไม่ย้ายมามันมีอยู่ระยะหนึ่ง พอถึงปลายรัชกาลที่ ๗ มันก็มากันหมดต้องมาหาไอ้รถไฟอีก
เรื่องเมืองไชยามันก็มีเท่านี้โดยสังเขป แต่มันก็ต้องถือว่ามีมากเพราะเป็นระยะยาว ถึงไม่ใหญ่โตอะไรมากนัก มันระยะยาวมาก มีโบราณสถานปรากฏอยู่กรุงเทพยังไม่เกิด ก็มีเมืองอย่างเมืองไชยา ทะเลขึ้นไปถึงปากน้ำโพ หรือว่าเลยปากน้ำโพ หรือว่าอ้อมเข้าไปทางตะวันออกเฉียงเหนือบ้างในบางมุม ลักษณะของทะเลสำรวจดูทางภูมิศาสตร์ไอ้ทางแผ่นดินธรณีวิทยาอะไรสังเกตดู ฉะนั้นเมืองบางเมืองในเขตตะวันออกเฉียงเหนือ นครราชสีมาอะไรมีชื่อเป็นเมืองทะเล เมืองริมทะเล อย่างเดียวกับปากน้ำโพ มีท่า ท่าราชสาส์น ท่าอะไรนี้ มันไม่ใช่ท่าของแม่น้ำ มันท่าของทะเล ต่อมามันตื้น ๆๆ เป็นบก คนก็ไม่รู้ว่านี่อะไรกัน แล้วถ้าคนมีปัญญารู้ทางธรณีวิทยาเห็น อู้,ทะเลเมื่อไม่นานนี้เอง ดูแผ่นดินดูไอ้ต้นไม้ก็ยังรู้ ต้นไม้ไอ้ไม้ขึ้นน้ำเค็ม ขึ้นน้ำจืด มันอยู่ที่ไหนตรงนั้นก็เป็นทะเลเมื่อเร็ว ๆ นี้
วัดพระธาตุไปแล้วใช่ไหม ของสมัยศรีวิชัยอย่างมหายาน พุทธอย่างมหายาน ศิลปะก็สวยมาก ความรู้ก็ไม่เลว พุทธศาสนาอย่างมหายาน ศิลปะสวยมากกว่าไอ้แบบเถรวาทหรือแบบนครปฐม ทีนี้ความรู้ทางธรรมก็ไม่เลว ไปไกลไปแบบปรัชญาไปแบบอย่างมหายาน เอาละถือโอกาสลา และส่งให้ตรงนี้ ขอให้ไปดี ขอให้มีความ อะไร ประสบผลที่ต้องการทุก ๆ รูปเทอญ