แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
อาตมาภาพขอแสดงความยินดีในการมาของท่านทั้งหลายสู่สถานที่นี้ ในลักษณะอย่างนี้ คือมาหาความรู้เกี่ยวกับสิ่งที่เรียกว่า ธรรมะ ธรรมะเพียงคำเดียว โลกมันกำลังจะวินาศ มันกำลังจะวินาศเพราะความเห็นแก่ตัว ทุกคนเห็นแก่ตัว ลูกจ้างก็เห็นแก่ตัว นายจ้างก็เห็นแก่ตัว ผู้ใหญ่ก็เห็นแก่ตัว ผู้น้อยก็เห็นแก่ตัว ความเห็นแก่ตัวนั้นมันเป็นเรื่องของกิเลส ก็เป็นเหตุให้ทำอะไรไปตามความประสงค์ของตัว นี้เรียกว่าความเห็นแก่ตัว ก็ลองคิดดูเองเถอะว่า เมื่อมีความเห็นแก่ตัวแล้วอะไรมันจะเกิดขึ้น ถ้าเราจะมองดูไอ้โลกทั่วๆไป เดี๋ยวนี้มันก็เรียกกันได้ตามสะดวกๆว่า เป็นโลกของนักเศรษฐกิจ แล้วก็เป็นโลกของนักการเมือง แล้วก็เป็นโลกของนักสังคม ขอให้คิดดูเถอะว่ามันมีเรื่องของมันอย่างไร นักเศรษฐกิจแล้วมันจะทำอะไร มันก็จะกว้านประโยชน์เท่านั้นเอง กว้านประโยชน์ กว้านกำไร นี่เรียกว่าเรื่องของนักเศรษฐกิจ นักการเมืองมันก็เป็นเรื่องที่จะหาอำนาจหรือแสวงอุบายต่างๆเพื่อจะครองเพื่อนฝูงกัน เพื่อครองเพื่อนมนุษย์กัน กะนักสังคมก็ดูเหมือนจะมีแต่ว่าต้องการแต่ความอิ่มหมีพีมัน สะดวก สะดวกสบายเกี่ยวกับการกิน การกาม การเกียรติมีแต่อย่างนี้ แล้วโลกนี้มันจะอยู่ได้อย่างไร โลกนี้มันจะอยู่ได้อย่างไร มันล้วนแต่ส่งเสริมความเห็นแก่ตัว ทีนี้โชคดีที่ว่ามันมีอยู่สิ่งหนึ่งที่จะช่วยแก้ปัญหาความเลวร้ายกันอย่างนี้ได้ ก็คือสิ่งที่เรียกว่า ธรรมะ ฉะนั้นขอได้โปรดทำความเข้าใจดีดีกับเรื่องของคำพูดเพียงคำเดียวว่า ธรรมะ หรือ ธรรม ธรรม ธรรมะน่ะมันจะแก้ปัญหาทั้งหมด แก้สิ่งเลวร้ายทั้งหมด แก้ข้อขัดแย้งทั้งหมดก็นำมาซึ่งประโยชน์สุข ภาษาพูดอย่างโบรมโบราณหน่อยก็ว่าโลกมันก้าวไปสู่ยุคมิคสัญญี ยุคมิคสัญญีคือต่างคนต่างเห็นแต่ประโยชน์ของตน ต่างเห็นแต่ประโยชน์ของตน มุ่งแต่ประโยชน์ของตน แล้วก็ได้เป็นเหตุให้เบียดเบียนกัน ฆ่าฟันกันอะไรจนเหมือนกับว่าทำกับสิ่งที่ไม่มีชีวิตอย่างนั้นน่ะ เหมือนกับฆ่าเนื้อ ฆ่าปลา ก็เรียกว่ามิคสัญญี อะไรจะช่วยป้องกันสิ่งเหล่านี้ได้ เนี่ยพวกนักเศรษฐกิจ พวกนักการเมือง พวกนักสังคมนั่นแหละ ก็มองดูไปเถอะ มองดูไป มองดูที่หัวใจจริงๆของมันน่ะ มันมุ่งแต่ประโยชน์ที่เป็นโลกๆอย่างนี้ นักเศรษฐกิจก็ต้องการกำไร นักการเมืองก็ต้องการแต่ประโยชน์โดยความหลอกลวง คดโกง แล้วก็นักสังคมก็มุ่งแต่ว่ากินดี อยู่ดี กินดี อยู่ดี กินอยู่เกินพอดี แล้วมันจะมีความสะดวกได้อย่างไร มันจะเกิดความสงบสุขหรือสันติภาพได้อย่างไร ทีนี้ขอได้โปรดยั้งไว้สักหน่อยเถอะว่าอย่าเอาไปรวมกันเสียทีเดียวทั้งหมด เหลือไว้สำหรับสิ่งที่เรียกว่า ธรรมะ ธรรมะคือสิ่งที่จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ให้พ้นจากร้ายให้กลายเป็นดีได้ เป็นคำตรัสของพระพุทธเจ้า คำสอนทั้งหมดมันไปรวมอยู่ที่คำ คำพูดคำเดียวว่า ธรรมะ ฟังดูแล้วก็ไม่น่าเชื่อนะว่าจะไปรวมอยู่ที่คำพูดเพียงคำเดียวว่า ธรรมะ ได้อย่างไร ทีนี้ขอให้ทนฟังต่อไปอีกหน่อยว่า คำว่า ธรรมะของพระพุทธเจ้านั้น มันมีคำพูดสรุปความเนื่องมาจากคำพูดเพียงคำเดียวว่า ความถูกต้อง เป็นไทย เป็นไทยว่า ความถูกต้อง คุณลองคิดหาข้อแย้ง ข้อค้านซิว่า มันมีส่วนเสียตรงไหน มันมีส่วนเลวร้ายที่ตรงไหนคำว่า ความถูกต้องนั้นน่ะ ความถูกต้องแล้วจะไม่นำมาประโยชน์อันสูงสุดได้อย่างไร ถ้ามันมีความถูกต้องมันไม่มีความผิดพลาด มันไม่มีความขัดแย้ง มันไม่มีความเห็นแก่ตัว มันไม่มีอะไรซึ่งเป็นสิ่งเลวร้าย ก็เรียกว่าความถูกต้อง คนโดยมากไม่เคยได้ยินน่ะ คำว่าความถูกต้องของพระพุทธเจ้าน่ะเป็นบาลีว่าอย่างไร ความถูกต้อง ความถูกต้อง ความถูกต้อง ความถูกต้อง พูดกันสักร้อยครั้งพันครั้งนะ เรียกเป็นบาลีว่า สัมมัตตะ กรุณาช่วยจำหน่อย สัมมัตตะ เพราะมันออกจะแปลกหูสำหรับท่านทั้งหลาย ไอ้คำว่า สัมมัตตะนั้นมันแปลว่า ความถูกต้อง คำพูดที่พูดกันชินหูอยู่คำหนึ่งก็ สัมมา สัมมา สัมมา สัมมา สัมมา แปลว่า ถูกต้อง หรือชอบธรรม หรือถูกต้อง ทุกคนควรจะได้ยินคำว่า สัมมา ถ้าไม่เคยได้ยินคำว่า สัมมา ก็ดูจะไม่ ไม่ ไม่สนใจพุทธศาสนาเลย ไม่เคยสนใจพุทธศาสนาเลย เพราะว่าคำว่า สัมมา สัมมามันมีอยู่ในที่ทั่วไป พูดง่ายๆว่า สัมมา ไอ้สัมมัตตะน่ะแปลว่า ความถูกต้อง สัมมาว่าถูกต้อง ตะ ตะหรือตานั้นมันแปลว่า ความ สัมมัตตะก็คือความถูกต้อง ทีนี้ว่าคุณก็หาข้อผิด ข้อเลวร้ายตรงไหนที่มันจะเกิดขึ้นแก่ความถูกต้อง ก็ถ้าพูดว่า ถูกต้องๆแล้วมันปิดปากหมดเลย มันไม่ให้โอกาสสำหรับที่จะแย้งหรือจะค้านหรือจะตำหนิติเตียน ขอให้จำคำว่าความถูกต้อง ขออภัยใช้คำหยาบหน่อยนะ มันไม่รู้มันจะพูดยังไง ฝรั่งมันก็ยังโง่มาก มันใช้คำว่า all right all right ถูกต้องทั้งหมด ถูกต้องทั้งหมด all right เนี่ย แล้วมันถูกต้องกันที่เล็บหรือที่ไหน มัน all right ด้วยกันได้ที่ไหนก็ที่เล็บ หนู เพราะมันมีแต่การเบียดเบียนและเอาเปรียบ มันไม่มี all right นี่นะ ถ้ามันมี all right มันก็คือสัมมา สัมมาหรือสัมมัตตะ ในพระพุทธศาสนา ขอให้เป็น all right ให้เหมือนที่มันพูดกันเถอะ มันพูดกันกี่ล้านคำแล้วก็ไม่รู้ all right ทั้งนั้นน่ะ แล้วมันก็รบราฆ่าฟันกันไม่มีหยุดมีหย่อน มัน มัน มันไม่ได้ all right สักเท่าขี้เล็บน่ะ ทีนี้ถ้าเรามีสัมมัตตะก็ตรงกับคำว่า all right นั่นเอง all right (นาทีที่ 10.04-14.46 เทปเสียงย้อนกลับไปนาทีที่ 5.19-10.04) แปลว่าความถูกต้อง ทีนี้ก็จะพิจารณากันให้ละเอียดสักหน่อยว่า ความถูกต้องแบบนั้นมันคืออะไร ของอะไร มันพูดอย่างรวบรัดก็ว่า ถ้าความถูกต้องแล้วมันเป็นความสงบสุขและเป็นประโยชน์ ช่วยจำไอ้นิดหนึ่งว่า ถ้าว่าสัมมัตตะความถูกต้องแล้วก็คือสุขและเป็นประโยชน์ มันสองแง่ยังไง สุขในแง่หนึ่งก็มีประโยชน์ มันอยู่อีกแง่หนึ่งต้องมีความสุขและมีประโยชน์ เพราะว่าความสุขที่ไม่มีประโยชน์มันก็มีเหมือนกัน ความสุขที่ไม่มีประโยชน์ มันต้องให้ได้ทั้งความสุขมาแล้วให้ได้ความมีประโยชน์มาด้วยจึงจะตรงตามคำพูดของพระพุทธเจ้าที่ท่านเรียกว่า สัมมัตตะนั่นคือความถูกต้อง ทีนี้ขอท้าทายให้ไปค้นหาคำพูดทั่วทั้งโลกทั่วทั้งจักรวาล ใคร คนไหน มันจะค้านคำว่า ความถูกต้อง ใช้ไม่ได้ ความถูกต้องนี้ยังบกพร่อง ยังไม่มีประโยชน์ ก็ขอให้มันมีความถูกต้องเถอะ all right กันให้มันจริงๆ all right ให้มันจริงๆ มันมีความถูกต้อง มันมีความถูกต้องแล้วมันจะมีปัญหาอะไร มันมีข้อขัดแย้งอะไร ทั้งโลก ทั้งจักรวาลกี่โลกๆๆ ถ้ามันมีความถูกต้องแล้วมันก็หมดปัญหา เดี๋ยวนี้มันไม่มีความถูกต้อง มันก็มีปัญหาไม่มีที่สิ้นสุด ทีนี้เราพูดกันถึงคำว่าความถูกต้องนั่นแหละปลอดภัยที่สุด ทางการเมืองก็ถูกต้อง ที่มันรบราฆ่าฟันกันหรือว่ามันลับหลัง ใต้ดิน บนดินทำลายล้างกันในที่มืดนี่มันไม่มีความถูกต้อง ถ้ามันมีความถูกต้องมันก็จะไม่เกิดเหตุการณ์เลวร้ายใดๆทั้งครั้งไหน ยุคไหน เวลาไหน สมัยไหนขึ้นมาได้เลย ถ้ามันมีความถูกต้อง ทีนี้คำว่าถูกต้อง ถูกต้องนี้พระพุทธเจ้าท่านเรียกว่า สัมมา ขอให้ช่วยจำคำว่าสัมมาด้วย อย่าให้เสียทีที่เกิดมาเป็นมนุษย์และพบพระพุทธศาสนา และไม่ได้เคยได้ยินคำว่า สัมมา ขอพูดว่าถ้าไม่เคยได้ยินคำว่า สัมมา ไม่รู้เรื่องสัมมา ก็คือไม่มีความเป็นมนุษย์ ไม่มีความเป็นพุทธศาสนา ท่านจำแนกไว้ชัด ชัด ขอให้ช่วยตั้งใจฟังตอนนี้ว่า สัมมาทิฏฐิ ความเห็น หรือความเข้าใจ หรือการศึกษา หรือความเชื่อ เรียกว่าสัมมาทิฏฐิ มีทิฏฐิถูกต้อง แล้วอันที่สองเรียกว่า สัมมาสังกัปโป แปลว่ามีความปรารถนาหรือความมุ่งหมายถูกต้อง ถูกต้องที่สอง ถูกต้องที่หนึ่งสัมมาทิฏฐิ ความคิด ความเห็น ความเชื่อถูกต้อง สัมมาที่สองความปรารถนาถูกต้อง คนเราถ้ามีความเข้าใจถูกต้องแล้วมันทำอะไรถูกต้อง ถูกต้องโดยอัตโนมัติ ถ้ามันมีความปรารถนาถูกต้องแล้วทุกอย่างมันเป็นไปตามความปรารถนา ดังนั้นมันจึงถูกต้องไปตามความปรารถนา ทีนี้สัมมาที่สาม สัมมาวาจา การพูดจาถูกต้อง คำพูดก็ดี การใช้คำพูดก็ดี วิธีพูดก็ดี โอกาสพูด อิทธิพลของการพูด ที่เกี่ยวกับการพูด การพูดจาให้มันถูกต้องเรียกว่าสัมมาวาจา ทีนี้ถูกต้องอันที่สี่ต่อไปก็สัมมากัมมันโต มีการงานหรือการกระทำอันถูกต้อง เดี๋ยวนี้ก็รู้เอาเอง ฟังก็เข้าใจทันทีว่าการงานที่มันไม่ถูกต้องมันให้โทษมันให้ความเลวร้ายสารพัดอย่างนะ ถ้าการงานหรือการกระทำมันไม่ถูกต้อง จึงมีสัมมากัมมันโตเป็นอันที่สี่ แล้วก็สัมมาอาชีโว เลี้ยงชีวิตถูกต้องคือการดำรงชีวิต ใช้คำว่าดำรงชีวิตดีกว่า ไม่ใช่เพียงแต่ว่าจะหากินอย่างเดียว เกี่ยวข้องกับชีวิตทุกชนิดแล้วมันถูกต้องเรียกว่าสัมมาอาชีโว นี่เป็นการถูกต้องที่ห้า ทีนี้ถูกต้องที่หก สัมมาวายาโม สัมมา สัมมา สัมมา สัมมา เนี่ยจะต้องใช้คำว่าสัมมา สัมมาวายาโมจะต้องพากเพียรพยายามอยู่อย่างถูกต้อง สัมมาสติ มีสติสัมปชัญญะถูกต้อง อันที่แปดสัมมาสมาธิ มีความเป็นสมาธิถูกต้อง คือจิตเป็นสมาธิที่ถูกต้อง นี่มันแปดสัมมาแล้ว ไปค้น ไปค้นหา ถ้าให้ค้นหา ให้ค้นหาความผิดพลาดของหมวดธรรมะที่พระองค์ตรัสไว้ สรุปไว้ด้วยคำเพียงคำเดียวว่า ความถูกต้อง สัมมัตตะแปลว่าความถูกต้อง เพราะมันประกอบอยู่ด้วย สัมมา สัมมา สัมมาถึงแปดอย่าง สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปโป สัมมาวาจา สัมมากัมมันโต สัมมาอาชีโว สัมมาวายาโม สัมมาสติ สัมมาสมาธิ จะท้าให้คนในโลก นักศึกษาพวกไหน ศาสตราจารย์พวกไหนรวมกันทั้งโลกนี่มาค้นหาไอ้ความผิดพลาดของคำตรัสในข้อนี้ คือสัมมาแปดประการนี้ ไปค้นหาความชั่วหรือความผิดพลาด ความไม่มีประโยชน์ หรือความให้โทษให้พบนี่ มันไม่พบหรอกค้นจนตายมันก็ไม่พบ ตายแล้วตายอีกกี่ร้อยชาติ พันชาติ มันก็ไม่พบความผิดพลาดของคำว่าสัมมา สัมมา หรือสัมมัตตะนี่ ขอย้ำอีกทีว่าสัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปโป สัมมาวาจา สัมมากัมมันโต สัมมาอาชีโว สัมมาวายาโม สัมมาสติ สัมมาสมาธิ กลัวแต่ว่าจะ กลัวแต่ว่าจะทิ้งเรี่ยราดไว้ที่นี่เดี๋ยวนี้ไม่มีใครเอาไปสักคำเดียวนะ สักคนเดียว สัมมา สัมมา กระจายอยู่ที่ปูนดินแถวนี้นะ มันไม่มีสัมมาไหน สัมมาไหนถึงแปดสัมมาที่จะติดไปกับเนื้อกับตัวแล้วไปอยู่กับตัวแล้วก็ไปประพฤติปฏิบัติให้เกิดเป็นรูปธรรมขึ้นมา คือความถูกต้อง ความถูกต้อง ความถูกต้องเพียงคำเดียว คำเดียวเท่านั้นแหละความถูกต้อง การเมืองที่เลวร้ายที่สุด ของประชาชน เพื่อประชาชน โดยประชาชน มันเลวร้ายที่สุดถ้ามันไม่มีความถูกต้อง เข้าใจว่าคงจะได้รู้เรื่อง รู้รส รู้ราวถึงเรื่องราวมาแล้วว่าความไม่ถูกต้องทางการเมืองมันเป็นอย่างไรบ้าง ประชาธิปไตยตัวดีน่ะ ถ้ามันไม่มีความถูกต้องมันก็เลวร้ายที่สุด อย่าเอาประชาธิปไตยให้มันมากนักเลย เขี่ยทิ้งซะบ้างก็ได้ เอาธรรมาธิปไตย ทิ้งประชาธิปไตยเสีย เอาธรรมาธิปไตย ธรรมะ ธรรมะ ธรรมะคำเดียวคือก็คือคำว่าความถูกต้อง ดูจะเห่อกันนัก ทั้งประชาชน เพื่อประชาชน โดยประชาชน แล้วก็ประชาชนที่มีกิเลส ประชาชนที่มีความเห็นแก่ตัวเต็มอัดอยู่ในความเห็นแก่ตัว มันหาความถูกต้องสักขี้เล็บหนึ่งก็ไม่ได้เนี่ย มันจึงไม่มีความสงบสุขและความเป็นประโยชน์ นี่เพราะว่ามันไม่มีสัมมา มันไม่มีความถูกต้อง จะพูดกันโดยรายละเอียดมันก็ยืดยาวนัก พวกท่านแต่เพียงฟังถูกว่าสัมมาทิฏฐิความคิดความเห็นมันถูกต้องคือมันชอบไปหมด ฉะนั้นสัมมาสังกัปปะคือความปรารถนาให้มันถูกต้อง สองข้อนี้มันพอแล้ว อย่างที่พระพุทธเจ้าตรัสมันพอแล้ว มันถูกต้องในความคิด ความเห็น ความเข้าใจ ความรู้ แล้วมันก็มีความถูกต้องในทางความปรารถนาที่อยากจะได้เอามา เอามายึดครองให้มันถูกต้อง แล้วก็ถูกต้องทางการพูดจา ถูกต้องทางการงาน ถูกต้องทางอาชีพ สามมาอีก แล้วถูกต้องทางความพยายาม ถูกต้องทางความมีสติ ถูกต้องทางความมีสมาธิ สามเข้ามาอีก รวมกันเป็นแปด แต่เมื่อพระพุทธเจ้าท่านจะตรัสให้เต็มเปี่ยมอย่างแท้ๆ ท่านเพิ่มเข้าไปอีกสองนะ ข้อที่แปด แปดนี่มันโดยเหตุเท่านั้นนะ โดยเหตุที่จะทำให้เกิดผลนะ แปดอย่างนะ มันมีผลอีกสองอย่างคือสัมมาญาณะ มีวิปัสสนาญาณที่ถูกต้อง แล้วก็สัมมาวิมุตมีความหลุดพ้นที่ถูกต้อง นี่เพิ่มเข้าไปอีกสองสัมมาโดยผล สัมมาโดยเหตุแปดอย่างถูกต้องหมดแล้ว สัมมาโดยผลถูกต้องสองอย่าง ก็หมดพรหมจรรย์ทั้งหมด พรหมจรรย์ทั้งหมดทั้งสิ้นในโลกในจักรวาลในศาสนาในไหนหมด เรียกว่าพรหมจรรย์ พรหมจรรย์ ความประพฤติอันถูกต้อง เรียกว่าพรหมจรรย์ ถ้าเอากันทั้งเหตุและผลมันเป็นสิบ ถ้าเอากันแต่เหตุมันแปด จะเข้าใจความข้อนี้อย่างไร สัมมา สัมมา สัมมา แปดนี่โดยเหตุ สัมมา สัมมาอีกสองนี่โดยผล ก็หมดเท่านั้นน่ะ มันทั้งโดยเหตุโดยผลมันไม่มีอะไรเหลือ เพราะฉะนั้นขอให้เข้าใจว่า คำว่า พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มันจะมีกี่อย่างก็ตามแต่มันรวมอยู่ในคำๆเดียวที่จริง คำๆเดียวว่าความถูกต้อง ถ้ายึดความถูกต้องไว้ได้ แล้วก็ยึดพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ไว้ได้ทั้งหมด ยึดธรรมะทั้ง 84,000 ข้อ 84,000 ธรรมขันธ์ไว้ได้หมด ถ้ายึดไอ้ความถูกต้องไว้เพียงคำเดียว ความถูกต้องเพราะมันมีแปดโดยเหตุ มีสองโดยผลรวมกันเป็นสิบ นี่คือธรรมะ อาตมาขอแสดงความประสงค์ อ้อนวอน วิงวอนว่าท่านทั้งหลายจงได้พยายามทำความรู้ความเข้าใจกับสิ่งประเสริฐสูงสุด ที่สุดว่าความถูกต้อง จะไปพูดว่าพระเป็นเจ้าหรือพระเจ้าอะไรก็มันต้องไปอยู่ที่ความถูกต้อง ถ้ามันไม่อยู่ที่ความถูกต้องแล้วพึ่งพาอะไรไม่ได้แล้วเหลวแล้วมันละลายทั้งนั้น มันต้องเป็นความถูกต้อง มันจะพึ่งพระเจ้า ทุกๆศาสนามันต้องไปรวมความหมายอยู่ที่คำว่าความถูกต้อง ลัทธิ ปรัชญา ความรู้อะไรทุกๆอย่างมันต้องไปรวมที่ความถูกต้อง ศาสนาโบราณที่สุดของพวกยิวนี้ก็แปดพันปีมาแล้ว ศาสนาคริสเตียนนี่ก็ สามสี่พันปีมา พระศาสนาพุทธก็สามสี่พันปีมา ศาสนาอิสลามก็ก่อนกว่าไปอีก แล้วศาสนาของพวกจีน เล่าจื๊อพวกนี้ก็เป็นพันปีเหมือนกัน รุ่นราวคราวเดียวกับพระพุทธเจ้า นี่มันล้วนแต่สรรเสริญไอ้ความถูกต้อง ความถูกต้อง ความถูกต้อง สรุปรวมอยู่ในคำว่าความถูกต้อง ฉะนั้นถ้าว่ามีความถูกต้องแล้วมันจะมีโทษอะไร มันจะมีความเลวร้ายอะไรที่ไหน จะมีความขัดแย้งที่ไหน จะมีอยู่ความบกพร่องที่ไหน มันไม่มี มันสรุปเสียหมด มันรวมความหมายเสียหมดว่าความถูกต้อง ความถูกต้อง ความถูกต้อง นี่ถ้าถืออย่างที่พระพุทธเจ้าท่านถือ ท่านตรัสว่าพรหมจรรย์ ท่านตรัสว่าพรหมจรรย์ทั้งหมด ทั้งหมดมันรวมอยู่ในคำพูดเพียงคำเดียวว่า ความถูกต้อง โดยเหตุมีแปด โดยผลมีสอง รวมกันเป็นสิบเรียกว่า ความถูกต้อง พูดเป็นภาษาบาลีฟังยากๆว่า สัมมัตตะ สัมมัตตะ สัมมาแปลว่า ถูกต้อง ตะ ตะ หรือ ตตา นี้แปลว่าความ สัมมัตตะ ความถูกต้อง ท่านตรัสอุปมา เรียกว่าพูดอย่างอุปมาให้ฟังง่าย ให้ชัดเจนว่าอุปมา เรื่องของความถูกต้องนี่นะ ความถูกต้อง สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา ความถูกต้อง สัมมัตตะ ช่วยจำอย่าให้รู้ลืมว่า สัมมัตตะ แปลว่าความถูกต้องโดยภาษาบาลี ท่านเปรียบว่าเหมือนกับยา ยา หยูกยา กินเข้าไปให้เป็นอาเจียน วมนะ วมนะ เรียกว่ายาสำหรับอาเจียน กินยาอาเจียนเข้าไปมันก็อาเจียนออกหมด อะไรๆที่ไม่ควรจะมีอยู่ในร่างกายมันก็ออกมาหมด นี่ยาสำรอกให้อาเจียน ทีนี้ก็มี เรจนะ ยาถ่าย ถ่ายๆๆๆๆกันใหญ่เลย เรจนะ กินเข้าไปแล้วมันก็ถ่ายไอ้สิ่งที่ไม่ควรจะมีอยู่ในร่างกายออกมาหมด ออกมาหมด ออกมาหมด ทีนี้ว่าน้ำล้างบาป น้ำล้างบาป ในอินเดียน่ะเขาถือว่าศพนี่เขาเอาไปล้างแล้วก็หมดบาป ล้างศพน่ะ ล้างให้มันหมดบาป พระพุทธเจ้าว่า เอาความถูกต้องแปดประการหรือสิบประการนี้ล้างบาป บาปก็หมด หมดบาปศพสะอาด กระทั่งว่าศพนี้จะไม่มีการเน่าอีกต่อไป ไม่เน่าอีกต่อไปเพราะมันสมานไม่มีเน่าอีกต่อไป นั่นหละอุปมาไว้อย่างนั้นโดยผลอุปมาไว้อย่างนั้นว่าความถูกต้อง ความถูกต้อง นี่เป็นคำที่สำคัญที่สุดในพระพุทธศาสนา ถ้ามีความถูกต้องมันก็ถูกต้องเรียบร้อยหมด ขออภัยพูดคำตรงๆว่า แม้แต่ตดมันก็ไม่เหม็น จริงมั้ยถ้ามันมีความถูกต้องอยู่ในร่างกายหมดแม้แต่ตดมันก็ไม่เหม็นใช่มั้ย ต่อเมื่อมันไม่มีความถูกต้องหรือความไม่ถูกต้องในร่างกายแม้ตดมันก็เหม็น เพราะฉะนั้นถ้ามีความถูกต้องไปทั้งหมดแล้วแม้แต่ตดมันก็จะไม่เหม็น นี่คำพูดที่อุปมาของพระพุทธเจ้าท่านว่า ความถูกต้อง ความถูกต้องสำหรับจะแก้ปัญหาทั้งหมด ทางกายไม่ถูกต้อง ทางจิตไม่ถูกต้อง ทางความมีตัวตนไม่ถูกต้อง ทางความว่างก็ให้มันถูกต้อง ถูกต้อง ถูกต้องก็เลยจะมีปัญหาอะไร เดี๋ยวนี้มันไม่มีความถูกต้อง แม้แต่เรื่องภายในจิตแท้ๆนะไม่ใช่เรื่องข้างนอกมันก็มีความไม่ถูกต้องอยู่ แม้เรื่องกายก็ไม่มีความถูกต้อง แม้แต่ตดมันก็ยังเหม็นอยู่นั่นแหละ ถ้ามันมีความถูกต้องอยู่แล้วอะไรๆมันก็ไม่มีเหม็น นี้เรียกว่ามันมีความถูกต้อง อันตรายไม่มี เสนียดจัญไรไม่มี ความเลวร้ายไม่มี อะไรก็ไม่มีเพราะมันมีแต่ไอ้ความถูกต้องไปเสียทั้งหมด ความถูกต้องโดยเหตุแปดประการนั้นไปจำให้ดีๆ เพราะมันเป็นเรื่องที่ว่าถ้าเป็นธรรมะง่ายๆ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ ความถูกต้องทางความคิดความเห็น ความถูกต้องทางพระศาสนา ถูกต้องทางการพูดจา ถูกต้องทางการงาน ถูกต้องทางอาชีพ ถูกต้องทางความพากเพียร ถูกต้องทางสติ ถูกต้องทางสัมปชัญญะ มันคุ้มๆๆอย่างยิ่งจนไม่มีอะไรที่จะให้เป็นความผิดพลาด มันไม่มีความรักบ้าๆบอๆ ไม่มีความโกรธ ไม่มีความเกลียด ไม่มีความกลัว ไม่มีความตื่นเต้น ไม่มีความวิตกกังวลอนาคต ไม่มีความอาลัยอาวรณ์ในอดีต ไม่อิจฉาริษยา ไม่หวง ไม่หึง นี่ถ้าพูดอย่างคำธรรมดาสามัญมันก็พูดได้อย่างนี้ แล้วมันก็จำง่ายได้ดี ไม่รัก ไม่โกรธ ไม่เกลียด ไม่กลัว ไม่ตื่นเต้น ไม่วิตกกังวล ไม่อาลัยอาวรณ์ ไม่อิจฉาริษยา ไม่หวง ไม่หึง แล้วมันจะมีปัญหาอะไร มันจะทำความระคายเคืองกันให้สักขี้เล็บหนึ่งก็ไม่มีถ้ามันมีความถูกต้องอย่างนี้ มนุษย์ทุกคนมันอยู่ในที่มืดและที่แจ้ง ที่ลับและที่เปิดเผยมันไม่มี มันไม่มีจะเกิดความผิดพลาดเลวร้ายใดๆขึ้นมา ไม่มีความเป็นอันธพาล มีแต่ความเป็นอริยะชน อริยะเจ้า เนี่ยประโยชน์อันสูงสุดมันมีอยู่อย่างนี้ ฉะนั้นขอให้เรายึดเอาหลักธรรมะสูงสุด สูงกว่าพระพุทธเจ้าทั้งหมดพระเจ้าไปรวมกันหมด มันก็สูงสุดอยู่ที่คำนี้คำเดียวว่า ความถูกต้อง บางคนก็จะว่าเอ๊ะนี่มันคำพูดเด็กๆ เด็กๆก็พูดได้พูดว่าความถูกต้อง ความถูกต้องนี่พวกเด็กๆ เป็นคำพูดชั้นเด็ก แต่ขอบอกให้ทราบว่าพระพุทธเจ้าท่านจัดไว้อย่างนี้นะ ความถูกต้องนั้น สัมมาวาจา สัมมาทิฏฐิ สัมมากัมมันโต แล้วสัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปโป สัมมาวาจา สัมมากัมมันโต สัมมาอาชีโว สัมมาวายาโม สัมมาสติ สัมมาสมาธิ ท่านจัดไว้อย่างนี้ เด็กนี่หัวหงอกสักร้อยครั้งพันครั้งมันก็เป็นไปไม่ได้ แล้วถ้าเด็กๆอวดดีบางคนน่ะมันก็โอ๊ยถูกต้องกู กูก็ถูกต้องมึงก็ถูกต้อง ถูกต้องกันง่ายๆอย่างนี้ถูกต้องได้ทั้งนั้น แล้วไปดูซิมันก็เป็นยังไงบ้าง มันไม่มีความถูกต้อง เศรษฐกิจไม่ถูกต้อง การเมืองไม่ถูกต้อง การสังคมไม่ถูกต้อง เศรษฐกิจไม่ถูกต้องมันก็เห็นแก่ตัวมันก็ต้องคอยแต่ที่จะเบียดเบียนกันทั้งนั้น เรื่องทางฝ่าย demand มันต้องการ เรื่องทางฝ่าย supply มันสนองความต้องการ อันหนึ่งมันก็จะเอา อันหนึ่งมันก็จะให้สนอง อันหนึ่งมันก็ให้เอา อันหนึ่งมันก็ให้สนอง อันหนึ่งมันก็ให้เอา อันหนึ่งมันก็ให้สนอง แล้วมันจะมีสันติภาพได้ที่ไหน เรื่องเศรษฐกิจทั้งหมดมันไม่มีสันติภาพ มันไม่มีทางเป็นสันติภาพ เพราะอันหนึ่งมันเป็น demand อันหนึ่งมันเป็น supply สลับกันอยู่อย่างนี้มันไม่มีสันติภาพ เรื่องการเมืองก็เหมือนกัน มันไม่เป็นประชาธิปไตย มันก็เป็นอะไรก็ไม่รู้อย่าพูดเลยเดี๋ยวมันจะสกปรกมากไป มันไม่เป็นประชาธิปไตย แล้วขอให้มันเป็นธรรมาธิปไตย มันจะมีสัมมา สัมมา สัมมา แล้วการสังคมก็เหมือนกัน สังคมอย่าเป็นสังคมเพื่อกิน เพื่อกาม เพื่อเกียรติ สังคมมันมีแต่เพื่อกิน เพื่อกาม เพื่อเกียรติ มันหาความถูกต้องไม่ได้ แล้วมันก็ต้องฆ่ากัน ฆ่ากัน ยิ่งกว่าฆ่ากัน ใช้คำว่าฆ่ากันมันยังน้อยไป มันทำลายล้างกัน ทำลายล้างกันเพราะว่ามันไม่มีความถูกต้องทางเศรษฐกิจ ทางการเมือง การสังคม นี่เป็นตัวคำพูดเพียงคำเดียวว่า ธรรมะ ธรรมะ คือความถูกต้อง ถ้าอยากจะเรียกคำเดียวก็ ธรรมะ คำเดียว ถ้าพูดยาว ขยายยาวก็ว่า สัมมัตตะ สัมมัตตะ ความถูกต้อง ขยายต่อไปอีกก็เป็น สัมมาทิฏฐิ สัมมากัมมันโต สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปโป สัมมาวาจา สัมมากัมมันโต สัมมาอาชีโว สัมมาวายาโม สัมมาสติ สัมมาสมาธิ เป็นแปดอย่าง แล้วก็มีสองอย่างคือสัมมาญาณะมีวิปัสสนาญาณ แล้วก็มีสัมมาวิมุตคือหลุดพ้น มีเท่านี้ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้มันมากออกไปไม่ได้ ถ้าอย่างนี้แล้วมันหมดเลย เป็นความถูกต้องหมดเลย ขอร้องท่านทั้งหลายจงได้สนใจข้อความที่แสดงถึงสิ่งสูงสุดที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้เป็นคำพูดว่า สัมมัตตะ ความถูกต้อง ถ้าจะให้สั้นเข้าไปอีกก็ ธรรมะ คำเดียวเป็นความถูกต้อง แล้วมันจะรวมเอาพระพุทธ เอาพระธรรม เอาพระสงฆ์ เอาความดี ความงาม เอาทุกๆอย่างไว้ในความถูกต้อง เรามีกันแต่ความถูกต้องแล้วก็ไม่มีอะไรเหลืออยู่สำหรับเป็นสิ่งเลวร้ายโดยประการใดๆ ขอแสดงความหวังว่าท่านจะได้มีความสนใจในคำพูดเพียงคำเดียวว่า ความถูกต้อง ฝรั่งมันจะโง่ไปกี่ร้อยชาติพันชาติว่า all right กันแต่ปาก all right กันแต่ปาก all right แต่ปากก็ช่างหัวเขาเถอะ เราว่าให้มีความถูกต้อง มีความถูกต้อง คือ all right นั่นแหละ ความเป็นจริง เป็นจริงอย่างที่ปากว่า มีความถูกต้องทุกอย่างทุกประการ แล้วก็จะเป็นผู้เจริญงอกงาม สรุปความเป็นผลดีอยู่เพียงสองอย่าง คือ ความสุขและความมีประโยชน์ ขอให้ท่านแยกออกให้เป็นสองอย่างนะ ไอ้ความสุขนี่บางทีมันก็หาได้ด้วยเงินด้วยอะไรอย่างนี้ ไอ้ความสุข แต่มันไม่มีประโยชน์ก็มี เพราะฉะนั้นขอให้ได้มาทั้งความสุขและความมีประโยชน์ ความสุขและความมีประโยชน์ ความสุขและมีความประโยชน์ให้คู่กันไปมันจึงจะได้สิ่งสูงสุดคือสิ่งที่เรียกว่า สันติภาพ สันติภาพ ถ้ายังมีแต่ความสุขยังไม่สันติภาพ ต้องมีความมีประโยชน์ด้วย มีประโยชน์แก่ทุกคนเพราะความไม่เห็นแก่ตัวด้วยมันก็จะมีทั้งความสุข จะมีทั้งความมีประโยชน์ หาที่ติหาที่ว่างเว้นไม่ได้ ถ้ามีความสุขและมีความเป็นประโยชน์แล้ว ครบถ้วนสมบูรณ์ทุกอย่างตามความประสงค์ของพระพุทธเจ้า อาตมาพูดมันคล้ายกับบางช่วงแต่ให้รวมพระพุทธเจ้า รวมพระเจ้า รวมพระเป็นเจ้า รวมอะไรๆไว้ทั้งหมดที่สูงสุดนะมาด้วยกัน แล้วมันก็ไม่ยิ่งใหญ่ไปกว่าความถูกต้อง ถ้ามันมีพระเป็นเจ้ามันก็ต้องซิความถูกต้อง ถ้ามีพระพุทธเจ้ามันก็มีอยู่ที่ความถูกต้อง เดี๋ยวนี้พระพุทธเจ้าก็ตรัสยืนยันเสียเองแล้วว่าให้มันมี สัมมัตตะ และความถูกต้อง ทางร่างกายนี้มันมีความถูกต้อง หาความผิดพลาดทางเนื้อ ทางหนัง ทางไอ้รูป ขน ผม เล็บ ฟัน หนัง ก็มีแต่ความถูกต้อง แล้วทางจิตมีความคิดความนึกก็มีแต่ความถูกต้อง แล้วทางความเห็นแก่ตัวความมีตัวตน มีตัวตน ตัวตน ตัวตนก็มีความถูกต้อง แล้วความว่างสูงสุดเป็นความถูกต้องสูงสุด ความว่างจากตัณหา ว่างจากสิ่งเลวร้ายทุกอย่างทุกประการ ว่างจากตัวตนนี่เป็นความถูกต้อง เป็นความถูกต้อง หาสิ่งเลวร้ายหรืออันตรายไม่พบสักปรมาณูหนึ่ง สักปรมาณูหนึ่งก็ไม่มีเพราะมันมีความถูกต้องอย่างนี้เสียแล้ว เพราะฉะนั้นขอให้ท่านทั้งหลายทุกคนจงมีความคิดของตัวเอง เป็นอิสระของตัวเอง ไม่ต้องเชื่อตามอาตมาว่า แต่ว่าถ้าพระพุทธเจ้าท่านว่า ก็ควรจะคิดดู แล้วก็คิดดูจนมองเห็น พระพุทธเจ้าท่านว่านี่มันจริง แล้วจริงโดยมันมีความถูกต้อง มีความถูกต้อง พระพุทธเจ้าท่านตรัสอะไรแล้วเป็นน่าสนใจเรียกว่า อัศจรรย์ พระพุทธเจ้าท่านตรัสอะไรแล้วก็จะมีเหตุผล อิงอาศัยอยู่ด้วยเหตุผลเสมอ แล้วพระพุทธเจ้าท่านตรัสอะไรแล้วก็จะมีปาฏิหาริย์ คือ ทำได้จริงตามนั้น คำพูดหรือการกระทำ หรืออะไร ธรรมะของพระพุทธเจ้ามันจะมีความน่าอัศจรรย์ น่าอัศจรรย์ คล้ายเป็นของใหม่อยู่เสมอ แล้วก็มีเหตุผล เหตุผล มีเหตุผลสมบูรณ์ไม่มีบกพร่อง แล้วก็มีปาฏิหาริย์คือทำให้สำเร็จได้จริงตามนั้น ไม่พูดแต่ปาก ถ้าท่านเป็นลูกศิษย์พระพุทธเจ้าจงทำให้ได้ผลสามอย่าง สามประการนี้ว่า พูดออกไป สั่งสอนออกไปแล้ว บอกให้ฟังแล้วมันความน่าอัศจรรย์แสดงอยู่ในนั้น น่าอัศจรรย์ไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อน แล้วมันก็มีเหตุผลให้ค้นคว้าพิสูจน์กันอย่างนั้นมันก็ยังคงมีเหตุผล มีเหตุผลแล้วมันมีความเป็นปาฏิหาริย์ ไม่ต้องเชื่อใคร ปฏิบัติตามแล้วก็แสดงผลออกมาทันทีนี้เรียกว่า ปาฏิหาริย์ ขอให้ท่านทั้งหลายประสบความสำเร็จในการเกี่ยวข้องต่อสังคม ต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยท่านทั้งหลาย เป็นนักเรียน เป็นนักศึกษาด้วยกันอะไรอยู่ ก็ขอให้การพูด การกระทำของท่านมีลักษณะที่น่าอัศจรรย์ มีลักษณะที่ว่าเป็นเหตุ เป็นผล แล้วมีลักษณะที่ว่าเป็นปาฏิหาริย์ แล้วท่านจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน หน้าที่การงานของตำรวจ ของทหาร ของอะไรก็ตาม ทุกๆอย่างมันเป็นหน้าที่ การงานที่ถูก ที่ชอบ ที่ควร ก็จะประสบความสำเร็จสมตามความมุ่งหมายทุกอย่างทุกประการ ขอให้ทำอย่างน่าอัศจรรย์ ขอให้ทำอย่างมีเหตุผล ขอให้ทำอย่างมีปาฏิหาริย์ ถึงอาตมาไม่สบายไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงจะพูดนะ แล้วก็ขอสรุปความเพียงเท่านี้ว่า ขอบพระคุณท่านทั้งหลาย ขอบพระคุณท่านทั้งหลายที่ได้มาที่นี่ มาช่วยให้อาตมาเป็นคนมีประโยชน์ ท่านทั้งหลายไม่ต้องขอบพระคุณอาตมา ไม่ต้องขอบพระคุณอาตมา ไม่ต้องขอบใจอาตมา อาตมาขอบใจท่านทั้งหลายที่ท่านมาที่นี่ มาทำให้อาตมาเป็นคนมีประโยชน์นี่ ขอบพระคุณ ขอบใจท่านทั้งหลาย ท่านทั้งหลายไม่ต้องขอบใจอาตมา นี่ขอเอากันอย่างนี้ดีกว่า มันจะแน่นอนที่สุด ไม่มีอะไรเคลือบแฝงนะ ขอให้ปฏิบัติในคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ศึกษาให้รู้ให้เห็นจริงตามที่เป็นจริง แล้วปฏิบัติให้ได้อย่างนั้น ให้มีอัศจรรย์ ให้มีเหตุผล ให้มีปาฏิหาริย์ แล้วเราทั้งหลายก็จะได้ชื่อว่าเป็นผู้ร่วมกันทำให้เกิดความเป็นประโยชน์ ความสุข และความเป็นประโยชน์ขึ้นมาในโลกนี้ สมตามอย่างที่พระพุทธเจ้าท่านปรารถนาไว้ พระพุทธเจ้าท่านปรารถนาไว้อย่างนี้ว่า สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงมี รอดพ้นไปจากความทุกข์ มีวิมุต มีความรอดพ้นไปจากความทุกข์ ท่านก็ปรารถนาอย่างนี้ พวกเราก็ช่วยกันสนองความประสงค์ของท่านอย่างนี้แล้วเราก็ร่วมมือกัน ช่วยมือกัน ร่วมมือกันทุกอย่าง ทุกคนๆๆ ช่วยให้เกิดความสำเร็จมีความถูกต้อง มีความถูกต้องทางกาย ทางวาจา ทางใจ ทางอะไรๆก็ล้วนแต่มีความถูกต้อง รู้อย่างเดียวว่าถ้ามีความถูกต้องแล้วมันไม่มีอะไรที่เป็นปัญหา ปัญหาไม่เกิด ปัญหาไม่มี ปัญหาเหลืออยู่ไม่ได้ ถ้ามันมีความถูกต้อง ขอให้ได้รับประโยชน์สมตามความมุ่งหมายของการมาสู่สถานที่นี้ ในความต้องการอันนี้คือจะศึกษาธรรมะให้ได้รับเอาไปเป็นความถูกต้องทุกอย่าง ทุกประการ ฉะนั้นขอยุติการบรรยายด้วยการไม่สบาย หมดแรง หมดเรี่ยวแรงที่จะพูดแล้ว กันไว้แต่เพียงเท่านี้ ขอขอบใจท่านทั้งหลายที่เป็นผู้ฟังที่ดี เป็นผู้ฟังที่ดีฟังอาตมาด้วยดี ขอขอบพระคุณ ขอยุติการบรรยาย