แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ขอแสดงความยินดีด้วยในการมาที่นี่ในลักษณะอย่างนี้ คือหาความรู้ทางธรรมะเพื่อไปประกอบหน้าที่การงานของตน ในระดับการศึกษาก็ดี ในระดับการทำงานก็ดี ในการดำเนินชีวิตต่อไปก็ดี ล้วนแต่ธรรมะช่วยได้ ธรรมะนี้มีหลายรูปแบบ ช่วยให้มีความสุขโดยตรงก็มีถ้าทำจิตใจได้ เป็นเครื่องมือช่วยให้เกิดสิ่งอื่นที่เราต้องการโดยง่ายก็ได้ ธรรมะพวกนี้เป็นเพียงเครื่องมือ เช่น จะเรียนได้ดี ก็ต้องมีจิตใจดี คือมีจิตใจเป็นธรรมะ คือความสงบเย็น เป็นปกติ เข้มแข็ง ก็ช่วยให้เรียนได้ดี ไม่ว่าทำงานก็เหมือนกัน จิตใจปกติ ก็ทำงานได้ดี แม้จะดำเนินชีวิตอยู่ทั่วๆ ไปก็เหมือนกัน ถ้าหากว่ามันมีธรรมะ มันก็มีสติสัมปชัญญะ มีปัญญา มีสมาธิ แม้แต่พักผ่อน มันก็พักผ่อนได้ดี
มันเป็นเรื่องของธรรมชาติ มันมีกฎเกณฑ์ของธรรมชาติวางไว้อย่างนั้น คนโง่ไม่รู้จัก หรือบางทีก็โง่ทั้งบอกว่าไม่สนใจ (นาทีที่ 02.12) ไม่อยากจะสนใจ แม้จะมีใครมาแนะให้มาสอนให้ หรือมีโอกาสที่จะศึกษา ถ้าโชคดีมีความรู้สึกเข้าใจในข้อนี้ถูกต้อง ก็สนใจ สนใจธรรมะในฐานะความจริงของธรรมชาติ ทำอย่างนี้จะเกิดผลอย่างนี้ ทำอย่างนี้จะเกิดผลอย่างนี้ นี่แหละธรรมะที่เป็นหลักทั่วๆ ไป เรียกว่า อิทัปปัจจยตา สิ่งต่างๆ มีเหตุมีปัจจัยของมัน และมันก็เป็นไปตามเหตุตามปัจจัยนั้น ถ้าเราต้องการผลอย่างไร เราต้องการปฏิบัติให้ตรงตามเหตุตามปัจจัยนั้น และก็จะได้ผลอย่างนั้นโดยง่ายโดยสะดวก และก็มีความสุขมีความพอใจตลอดเวลา คิดจะทำก็เป็นสุขเสียแล้ว ทำอยู่ก็เป็นสุข ทำแล้วก็เป็นสุข มีชีวิตอยู่ต่อไปก็เป็นสุข นี่เรียกว่าชีวิตเยือกเย็น มีความถูกต้อง ชีวิตนี้ไม่กัดเจ้าของ ถ้าปฏิบัติไม่ถูกต้อง ไม่มีธรรมะ ไอ้ตัวชีวิตนั่นแหละมันกัดเจ้าของ เดี๋ยวความรักกัด เดี๋ยวความโกรธกัด เดี๋ยวความเกลียดกัด เดี๋ยวความกลัวกัด เดี๋ยวความตื่นเต้นๆ วุ่นวายในใจอย่างนั้นอย่างนี้กัด เดี๋ยววิตกกังวลอนาคตกัด อาลัยอาวรณ์อดีตกัด อิจฉาริษยากัด ความหวงกัด ความหึงกัด ถึงขนาดฆ่ากันตาย อย่างนี้ชีวิตที่ไม่มีธรรมะ ชีวิตนั้นมันก็กัดเจ้าของๆ
จงพยายามมีธรรมะให้ถูกต้องกับการมีชีวิต ความมีสติและปัญญาที่เป็นส่วนสำคัญ มีความรู้ที่ควรจะรู้อย่างครบถ้วนและถูกต้อง และก็มีสติว่องไวเอาความรู้นั้นมาใช้ทันท่วงที ถ้าช้าไปไม่สำเร็จประโยชน์มันตายเสียก่อนนะ ถ้าสติสมบูรณ์มาใช้ทันท่วงที ทันเวลาถูกต้อง มันก็รอด ฉะนั้นความรู้ที่ควรรู้ ต้องมี ต้องเรียน เรียนให้ดีก็ต้องมีจิตใจเป็นธรรมะ จะรู้จริง จะรู้จักไอ้สิ่งที่เรียนนั้นโดยแท้จริง รู้ปัญหาว่าคืออะไร รู้แก้ปัญหาว่าจะแก้อย่างไร มีชีวิตโดยปราศจากปัญหานั้นคืออย่างไร ถ้าอย่างนี้จะได้ความสงบเย็นตลอดเวลา ตั้งแต่ว่าเริ่มเรียนธรรมะ และก็รู้ธรรมะ และก็มีธรรมะ และก็ใช้ธรรมะ ถ้าได้อย่างนี้ก็จะได้ถึงที่สุดที่มนุษย์เราควรจะได้ ถ้ามันไม่ได้อย่างนี้ ก็เปะปะไปตามเรื่อง หัวเราะร้องไห้ไปตามเรื่อง พักเดียวก็ตายแล้ว ไม่ได้สิ่งที่ดีที่สุด สูงสุด คือชีวิตจะเยือกเย็นๆ และเป็นประโยชน์ ชีวิตที่ไม่มีกิเลสรบกวน ความรัก ความโกรธ ความเกลียด ความกลัว ความตื่นเต้น วิตกกังวล อาลัยอาวรณ์ อิจฉาริษยา หวงหึง อันนี้ไม่ควรๆ ก็เป็นชีวิตเย็น เพราะไม่มีไฟ คือกิเลส ก็เป็นประโยชน์แก่ตัวเองถึงที่สุด และก็สามารถจะเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นได้ถึงที่สุดด้วย
นี่เขาเรียกว่า เต็ม มีความเป็นมนุษย์ที่เต็มเปี่ยม มีความเต็มเปี่ยมแห่งความเป็นมนุษย์ ไม่เสียทีที่ได้เกิดมา มันได้รับสิ่งที่ดีที่สุดที่ควรจะได้รับ มิฉะนั้นมันก็ลุ่มๆ ดอนๆ ครึ่งๆ กลางๆ ไม่ได้สิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษย์ควรจะได้รับ เกิดมาเพียงหลงใหลในความสวยความงาม ความสนุกสนาน บ้าๆ บอๆ พักนึงก็ตายไป อย่างนี้เรียกว่ามันไม่ได้รับสิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษย์ควรจะได้รับ คือเรื่องทางจิตใจ จิตใจเป็นเด็กทารกไม่รู้อะไร โตขึ้นมายังไม่รู้อะไร หลงใหลแต่เรื่องกินเรื่องเล่น พักเดียวมันก็ตายไป แต่พอโชคดีมีบุญมีกุศลแท้จริง รู้ว่าจะต้องทำอะไร ได้ศึกษาธรรมะจนประสบความสำเร็จในการดำรงชีวิตในหน้าที่การงาน อย่างมีอาชีพในทางเป็นพยาบาลสงเคราะห์ รวมอยู่ในเรื่องของแพทย์ ของสุขภาพอนามัย นี้ก็เรียกว่าสำคัญอยู่เรื่องหนึ่ง ถ้ามีความถูกต้องมันก็มีความสำเร็จประโยชน์ทั้งตัวเองและผู้อื่น
สำเร็จประโยชน์ทั้งตัวเองและผู้อื่นนั่นแหละ รู้ไว้เถิดว่าถูกต้อง ถ้าสำเร็จประโยชน์แก่ตัวเองอย่างเดียวแล้วก็มักจะเป็นเรื่องของกิเลสทั้งนั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องของบุญกุศล อุตส่าห์เรียนธรรมะไว้ โดยเฉพาะเป็นหมอเป็นพยาบาลนี่ รู้ธรรมะไว้สำหรับพูดจาไม่ให้คนเจ็บมีความทุกข์มาก หรือว่าถึงกับไม่มีความทุกข์เสียเลย มันจะได้หายเร็ว ถ้ามันจะตาย มันจะตายดีที่สุด ก็เรารู้ธรรมะ พูดธรรมะให้เขาฟัง มันมีประโยชน์ทั้งว่ามันจะหายหรือมันจะตาย ความรู้ทางธรรมะช่วยได้มากถึงขนาดนี้ ถ้ารู้ไม่ถึงที่สุดมันก็ช่วยไม่ได้ถึงที่สุด ถ้ารู้ถึงที่สุดมันก็ช่วยได้ถึงที่สุด ช่วยตัวเองให้รู้ธรรมะถึงที่สุดก่อน แล้วก็ช่วยผู้อื่นให้รู้ธรรมะถึงที่สุดได้ ให้หัวเราะเยาะความเกิด หัวเราะเยาะความแก่ หัวเราะเยาะความตาย ความเจ็บไข้ เห็นเป็นเรื่องเช่นนั้นเอง ไม่ทุกข์ จะดับก็ดับ จะอยู่ก็อยู่ จะตายก็ตาย โดยไม่ต้องมีความทุกข์ นั่นแหละคือธรรมะที่ถึงขนาด เตรียมจิตใจไว้สำหรับจะรู้ธรรมะ แล้วก็ปฏิบัติธรรมะ แล้วก็มีๆ ๆ ธรรมะ แล้วใช้ธรรมะ เหมือนกับเรารู้จักวิธีหาเงิน รู้วิธีหาเงิน แล้วก็หาเงิน แล้วก็มีเงิน แล้วก็ใช้เงิน ทำประโยชน์ให้มากที่สุดเท่าที่มันจะเป็นไปได้
เรื่องเงินเป็นเรื่องทางวัตถุฝ่ายร่างกาย ธรรมะเป็นเรื่องฝ่ายจิตใจ ฝ่ายนามธรรม แต่ก็มีความสำคัญยิ่งกว่าฝ่ายวัตถุหรือร่างกาย แม้ร่างกายสบายดี ถ้าจิตใจเต็มไปด้วยกิเลสแล้วก็เหมือนกับตกนรกทั้งเป็น ไปดูเถิด ถ้ากิเลสครอบงำเมื่อไรก็เหมือนกับตกนรกเหมือนนั้น มันร้อนๆ มันร้อนสารพัดอย่าง ร้อนด้วยกิเลส ความโลภก็ดี ความโกรธก็ดี ความหลงก็ดี มันร้อนทั้งนั้น แม้แต่ความโง่มันก็ร้อน มันมีความร้อนหลายชนิด ไฟมีหลายชนิด ไฟแห้งไหม้ตรงๆ ก็มี ไฟเปียกแฉะก็มี ไฟดำมืดก็มี ล้วนแต่เผาไหม้ได้ด้วยกันทั้งนั้น เหมือนการที่มาแสวงหาความรู้ทางธรรมะแล้วได้ประสบความสำเร็จในเรื่องนี้ก็เป็นการดี และก็เป็นประโยชน์คุ้มค่าของเวลา ขอแสดงความยินดีด้วย ยุคนี้ก็สนใจธรรมะกันมากขึ้น แม้ที่นอกประเทศ ต่างประเทศ ก็รู้สึกว่าสนใจธรรมะกันมากขึ้น ในประเทศก็สนใจธรรมะกันมากขึ้น
ธรรมะมาแล้วก็มีความถูกต้อง ธรรมะไม่มาก็ไม่มีความถูกต้อง ไม่มีธรรมะก็เห็นแก่ตัวๆ เบียดเบียนตนเอง เบียดเบียนผู้อื่นสารพัด ธรรมะมีแล้วก็เห็นแก่ธรรมะ เห็นแก่ความถูกต้อง ไม่เห็นแก่ตัว ไม่เบียดเบียนใคร ก็มีแต่ความสุขสงบเย็น นี่คือสิ่งที่เรียกว่าธรรมะๆ มันไม่ใช่เรื่องที่จำๆ ไว้ มันเป็นเรื่องที่ต้องปฏิบัติด้วย มันเป็นเรื่องที่ต้องรู้จริงภายในของตนด้วย ทำจิตทำสมาธิ ดูตัวเอง ดูเข้าไปในตัวเอง เห็นตัวเอง รู้จักตัวเอง วิจัยวิจารณ์ตัวเอง ปฏิบัติให้ถูกต้องตามที่วิจัยวิจารณ์แล้วก็ได้รับความสงบเย็น นั่น ธรรมะแท้จริงต้องเป็นอย่างนั้น ไม่ใช่ฟังๆ แล้วจดไว้ในสมุด หรือฟังไว้คุยกันเล่น ไม่สำเร็จประโยชน์ มันต้องสามารถปฏิบัติจนเกิดการเปลี่ยนแปลงในทางจิตใจ ลดความเคยชินแห่งกิเลส ความเคยชินที่จะโลภที่จะกำหนัดยินดีก็ลด ความเคยชินที่จะโกรธเคืองประทุษร้ายก็ลด ความเคยชินที่จะโง่ จะมัวเมา จะหลงใหลก็ลด เรียกว่าลดความเคยชินที่จะโลภ ที่จะโกรธ ที่จะหลง และก็มีความสะอาดสว่างเพิ่มขึ้น มีความสงบสุขเพิ่มขึ้น จนกว่าจะสมบูรณ์ ได้ความสะอาด สว่าง สงบ แห่งชีวิตแล้วเรียกว่า ชีวิตนี้เต็ม เป็นมนุษย์ที่เต็ม ได้รับสิ่งที่ควรจะได้รับ ไม่เสียทีที่เกิดมา นี่ฝ่ายจิตใจได้โดยสมบูรณ์
ในฝ่ายร่างกายก็ได้แล้ว คือร่างกายที่พอจะเล่าเรียนศึกษาได้ ทำการงานได้ แล้วไปได้ฝ่ายจิตใจที่รู้ลึกซึ้งถึงความจริงของธรรมชาติ รู้จักธรรมชาติ รู้จักกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ รู้จักหน้าที่ตามกฎของธรรมชาติ รู้จักผลที่จะได้รับจากหน้าที่นั้นๆ นี่เป็นเรื่องทางจิตใจ ไม่มีเป็นวัตถุให้เห็นเหมือนกับเรื่องทางเนื้อหนังร่างกาย แต่ว่าสำคัญ เพราะว่าถ้าเรื่องทางจิตใจถูกต้อง เรื่องทางร่างกายมันก็ถูกต้องไปหมด ที่เรียกว่า ครบ มีความถูกต้องทางร่างกาย ทางจิตใจ และทางสติปัญญาคือ ความรู้ ร่างกายก็มีสุขภาพดี จิตก็มีระบบประสาทดี เข้มแข็งดี วิชาความรู้ก็รู้ถูกต้องๆ ไม่ผิดพลาด ไม่โง่ ไม่หลง นี่เรียกว่าสมบูรณ์ทั้งทางร่างกาย ทั้งทางจิตใจ ทั้งทางความรู้และสติปัญญา
ขอให้ความรู้นี้เจริญก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นไป ขอให้ทุกคนสามารถนำความรู้นี้ไปใช้ปฏิบัติในหน้าที่การงานของตน เป็นผู้เจริญงอกงามในหน้าที่การงาน อยู่เป็นสุขทุกทิพาราตรีกาลเทอญ ขอแสดงความยินดีด้วย