แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
นักเรียนทั้งหลาย พบกันวันนี้ เนื่องจากจะเป็นวันปิดภาค เป็นความเหมาะสม ที่เราจะพูดอะไรกันบ้างในวันเช่นนี้ ข้อแรกก็คือ การเรียนของเราครบภาค เป็นอันว่าเราได้เรียนมาเต็มตามภาคที่กำลังจะพ้นไป เราควรจะดีใจ พอใจ หรืออิ่มอกอิ่มใจในการที่ได้ทำมาแล้ว ซึ่งเป็นการถูกต้องสำหรับมนุษย์เราแม้ว่าจะยังเล็กอยู่ คนเราจะต้องมีการกระทำที่ถูกต้อง ตั้งแต่ต้นจนปลาย ยังอายุน้อยยังเล็ก ๆ อยู่ ก็ต้องมีการตั้งต้นที่ดี ที่ถูกต้อง เรื่อยไปจนวาระสุดท้ายของชีวิต ถ้าชาติหน้า ชาติต่อ ๆไปมี เราก็ยังจะต้องไปทำให้ถูกต้องที่นั่นอีก เป็นอันว่าต้องมุ่งหมายความถูกต้องอยู่ตลอดไป
เมื่ออยู่ในโรงเรียน เรามีความถูกต้อง ถ้าเป็นเด็กที่เชื่อฟัง จะมีความถูกต้องเต็มบริบูรณ์ ถ้าไม่เชื่อฟังดื้อดึงบิดามารดา ครูบาอาจารย์แล้ว ไอ้ความถูกต้องก็ไม่สมบูรณ์ จะเว้า ๆ แหว่ง ๆ เหลือครึ่งหนึ่งไม่ถึงครึ่งหนึ่ง อย่างนี้เรียกว่า ไม่มีความถูกต้อง ผลร้ายก็จะเกิดขึ้นแก่เด็กคนนั้น เหมือนกับว่าเราปลูกสวนครัว บางต้นหนอนมันกิน คิดดูสิ มันเป็นอย่างไรบ้าง บางต้นไม่มีหนอนกินก็เจริญงอกงามดีจนถึงที่สุด แล้วเจ้าของจะมีความรู้สึกอย่างไรในต้นไหน นี่ก็เหมือนกันแหละ ถ้าเรามีความไม่ถูกต้องเหมือนต้นไม้ที่หนอนกิน บิดามารดาเขาจะรู้สึกอย่างไร ครูบาอาจารย์เขาจะรู้สึกอย่างไร แม้แต่ตัวเราเองก็จะรู้สึกอย่างไร เราจะชอบใจตัวเราได้หรือไม่ เว้นแต่คนโง่ คนโง่อาจจะชอบความเหลวไหล แต่คนไม่โง่ก็ชอบความถูกต้อง เพราะว่าเป็นความเจริญ ความไม่ถูกต้องนี่เป็นความวินาศ เป็นความสูญเสีย การที่คนบางคนไม่ประสบความเจริญ ไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งก็มีอยู่มากเหมือนกัน เพราะเขาไม่ได้กระทำให้ถูกต้องมาตั้งแต่ต้น ฉะนั้นเราจะต้องทำให้ถูกต้อง ถ้าเคยผิดพลาดจะต้องละเสีย แล้วก็ตั้งต้นให้มีความถูกต้องต่อไป มันไม่อยู่ที่ว่าเราจะเกิดมารวย หรือไม่รวย เกิดเป็นลูกคนมั่งมี หรือเกิดเป็นลูกคนยากจน อันนี้ไม่แน่ ที่แน่ที่สุดก็คือว่า ถ้ามีความถูกต้องแล้ว แม้จะเกิดมาเป็นลูกคนยากจน ก็ไม่เป็นไร มันมีแต่ความถูกต้องเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป ในที่สุดก็เจริญได้ เป็นใหญ่เป็นโตได้ ไม่ว่าในเมืองไทยหรือเมืองนอก เมืองต่างประเทศ ลูกชาวนาเขาไปเป็นรัฐมนตรี ไปเป็นประธานาธิบดี อย่างนี้ก็มีอยู่มาก เพราะมันมีความถูกต้องตลอดเวลา แล้วก็ยิ่ง ๆ ขึ้นไป นี่พูดถึงความมีเกียรติยศชื่อเสียง แม้แต่เรื่องหาเงินหาทอง ถ้ามีความถูกต้อง เขาก็ร่ำรวยได้ ทั้งที่ทีแรกไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียว ถ้าเธอไม่ได้ยิน ไม่เคยได้ฟัง เราจะบอกให้ฟัง ไอ้คำพูดที่เขาว่า มาจากเมืองจีนมีแต่ไม้คานอันเดียวก็มี ไม้คานหาบอันเดียว เอามาจากเมืองจีน นอกนั้นไม่มีอะไรก็มี บางคนมาจากเมืองจีน มีแต่เสื่อผืนหมอนใบ เสื่อขี้ริ้วด้วยซ้ำไป หมอนเก่า ๆ ที่เขาใช้หนุนนอนมาในเรือ เขามีเท่านั้นแหละ แล้วเขาก็มาตั้งต้นกันที่เมืองไทย ไม่นานเท่าไรก็เป็นคนมั่งมี ในที่สุดเขาเป็นคนที่มั่งมีมากนะ ที่เขาเรียกว่าเจ้าสัว เป็นตระกูลใหญ่โต ได้เป็นพระยาก็มี คนที่มาจากเมืองจีนเสื่อผืนหมอนใบ เราอย่าไปออกชื่อเขาเลย มันไม่สมควร แต่มันมีความจริงอย่างนั้น
ฉะนั้น ขอให้เด็ก ๆ ทุกคนรู้ว่า แม้มือเปล่า ๆ เขาก็ตั้งต้นที่ถูกต้อง มีเงินเป็นเศรษฐี เป็นเจ้าสัว แล้วก็เดี๋ยวนี้ก็กำลังมีลูกหลานที่กำลังเป็นเศรษฐี เป็นเจ้าสัวยิ่ง ๆ ขึ้นไปก็มี ที่ทางเกียรติยศชื่อเสียง เขาก็ได้มาเป็นรัฐมนตรี เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นประธานาธิบดี มันก็มีอยู่ทั่วไปในโลก ฉะนั้นขอให้พวกเธอทุกคนแน่ใจในการตั้งตนให้มันมีความถูกต้อง อะไรเป็นความผิดพลาดแล้วก็อย่าเอาเลย การคดโกง การเหลวไหล การไม่ซื่อตรงในหน้าที่ของตน กระทั่งการทำร้ายเบียดเบียนเพื่อนฝูง นี่เป็นตัวอย่างของความไม่ถูกต้องที่ยังมีให้เห็น ๆ อยู่ เด็กนักเรียนบางคน ไม่เรียนจริง เหลวไหล หลอกพ่อแม่ไม่เรียนก็ว่าเรียน หลอกพ่อแม่ ไปเรียนเมืองไกลก็ยังหลอกพ่อแม่ว่าเรียน เอาเงินไปใช้จ่ายอบายมุขหมด มันวินาศทั้งแก่คน ๆ นั้น และพ่อแม่ของเขาด้วย ฉะนั้นเราตั้งใจเรียนกันแต่เดี๋ยวนี้ เรียนให้ดีที่สุด เวลาที่เราเรียน เล่าเรียนนั่นแหละ เป็นเวลาที่ดีที่สุด เป็นเวลาที่ทำบุญทำกุศล เป็นเวลาที่เราได้บุญ เมื่อเราเรียนจริง ๆ เราได้บุญ หาบุญ หากุศลได้ทุกแห่ง แม้ที่บ้าน แม้ในห้องเรียน สำหรับเด็ก ๆ แล้ว ก็จะพูดว่าในห้องเรียนนั่นแหละจะหาบุญกุศลได้มากที่สุด คือเรียนจริง ไม่ต้องมาหาบุญที่วัดก็ยังได้ แต่ถ้ามาหาบุญที่วัด ที่บ้าน ที่ไหนทั่ว ๆ ทุกแห่ง มันก็ยิ่งดี แต่บอกให้รู้ว่า แม้แต่ในห้องเรียนของเรา ถ้าเราตั้งใจเรียนจริงมันก็ได้บุญ เพราะว่าเขาประพฤติปฏิบัติหน้าที่ของมนุษย์ถูกต้อง แล้วก็จะเป็นมนุษย์ที่ถูกต้อง เขาก็ได้บุญ
จำไว้ตั้งแต่บัดนี้เลยจนตลอดชีวิตเถอะว่า ไอ้ทำหน้าที่ของตนนั่นแหละคือการทำบุญ ทำหน้าที่ของตนนั่นแหละคือการทำบุญ เอ้า ,จำไว้ดี ๆ ว่า ทำหน้าที่ของตนนั่นแหละคือการทำบุญ เมื่อเรามีหน้าที่เล่าเรียน เราก็เล่าเรียนสิ หน้าที่เล่าเรียนนี่เป็นส่วนใหญ่ เป็นหน้าที่ที่ใหญ่ของเรานักเรียน ต้องทำเต็มที่ ที่ช่วยทำงานให้พ่อแม่ที่บ้าน ที่เรือน ที่สาธารณะ อะไรต่าง ๆ ก็ทำ นั่นก็เป็นหน้าที่เหมือนกัน แต่มันยังเล็กน้อยหรือรองลงไป ก็ทำให้มากเข้าไว้ แม้ที่สุดแต่ช่วยพ่อแม่เลี้ยงหมูเลี้ยงไก่ ถูบ้านถูเรือน ล้างจานล้างส้วมให้สะอาดอย่างนี้ ก็เป็นการทำหน้าที่ ที่ควรกระทำ เมื่อทำหน้าที่แล้วก็เรียกว่า ทำสิ่งที่ถูกต้องเป็นบุญเป็นกุศล ใครขี้เกียจ คนนั้นมีบาป บาปจะเกาะกินคนขี้เกียจ แล้วจะขี้เกียจหนักขึ้น แล้วก็จะเหลวไหลหมดในการเรียนจนตลอดชีวิต ไม่ประสบความสำเร็จ ถ้าพอใจดี พอใจทำดี สนุกเมื่อทำดี เป็นสุขเมื่อทำดี เมื่อมีความถูกต้อง แล้วคนนั้นจะมีบุญ มีกุศล มีพร มีสวัสดีมงคล มีสิริ มีมิ่งขวัญ แล้วก็จะเจริญ ๆ ๆ แล้วก็เจริญที่สุดในบั้นปลายแห่งชีวิตเพราะ ฉะนั้นเราจะเป็นคนวินาศหรือจะเป็นคนเจริญ มันก็ต่างกันตรงนี้ คือ คนที่ยินดีทำหน้าที่ของตนเป็นบุญเป็นกุศลอยู่ตลอดเวลา ตัวเองก็เจริญ ใคร ๆ เห็นเข้า ก็รัก ก็ชอบใจ อยากจะคบหาสมาคม อยากจะช่วยเหลือ ถ้าทุกคน ถ้าคนทุกคนอยากช่วยเหลือเรา เราจะเป็นอย่างไร เธอลองคิดดูเถอะว่า ถ้าทุกคนในบ้านในเมืองนี้อยากจะช่วยเหลือเรา แล้วเราจะเป็นอย่างไร แล้วทุกคนในหมู่บ้านนี้ ในบ้านเมืองนี้ มันสาปแช่งเกลียดชังเราทุกคน แล้วเราจะเป็นอย่างไร เท่าที่เขายึดถือกันมาแต่ก่อน ถ้าเพียงแต่ทุกคนสาปแช่งอยู่ในใจเท่านั้น เราก็ไม่พอที่จะวินาศฉิบหาย คือ มันจะยิ่งกว่าวินาศฉิบหาย ถ้าทุกคนมันนึกสาปแช่งอยู่ในใจ ทุกคนรู้ความไม่ถูกต้องของเรา เขานึกเกลียดอยู่ในใจ ถ้าเขาถ่มน้ำลายได้ เขาก็ถ่มน้ำลาย เขาไม่กล้าถ่มรดหน้าเราหรอก เพราะเขามีสมบัติผู้ดีอยู่บ้าง แต่เขาก็ถ่มลับหลัง หรือว่าถ่มอยู่ในใจ ทุกคนเกลียดชังเรา สาปแช่งเราอยู่อย่างนี้ แล้วเราจะเป็นอย่างไร มันก็จะวินาศเอง ฉิบหายเอง เสื่อมเสียลงไปเอง นี่เรียกว่า คนแช่งคำ ผีแช่งคำ ทำให้ซวย ทำให้ซวย ไปทางไหนคนก็แช่ง ไปทางไหนผีก็แช่ง ไอ้คนนี้มันก็ซวย ถ้าไปทางไหนคนก็ชม ผีก็ชม คนชมคำ ผีชมคำ ทำให้รวย ทำให้รวย ฉะนั้น เธอจงพยายามที่จะทำตนให้น่ารัก น่าเอ็นดู น่าไว้ใจ คนเขารู้เข้าแล้วเขาก็ชมใส่หน้า ชมซึ่งหน้า ชมออกมา หรือว่าชมอยู่ในใจ ก็ได้ทั้งนั้นแหละ ขอให้เขาชมก็แล้วกัน ฉะนั้น เธอสังเกตดู ก็จะเห็นว่าคนบางคน มีแต่คนนึกเกลียดอยู่ในใจ แต่คนบางคนมีแต่คนรักนับถืออยู่ในใจ แล้วมันจะต่างกันอย่างไร
ฉะนั้นอย่าได้เสียทีที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ถือพระพุทธศาสนา เกิดมาในเมืองไชยา เป็นลูกไชยา อย่างนี้ ต้องดี ถ้าไม่ดี ไม่ใช่ลูกไชยา เพราะว่าคำว่า ไชยา แปลว่า ชนะ ชนะหมดเลย ไม่ว่าทางไหนชนะหมดเลย อย่าให้เสียทีที่เกิดมาเป็นลูกไชยา เป็นมนุษย์นับถือพระพุทธศาสนา เป็นคนทำหน้าที่ของตนอย่างไม่บกพร่องอยู่ตลอดไป ที่โรงเรียน เรียน ที่บ้านช่วยพ่อแม่ สนุกเลย จะทำงานอะไรก็สนุก ไม่เกียจคร้าน ไม่นอนสาย ไม่หลบหลีก แล้วที่เกี่ยวกับสาธารณะทั่วไป คือเราก็ทำ ช่วยกันรักษาความสะอาดของบ้านเมือง ช่วยกันรักษาความงดงามของบ้านเมือง มีอะไรงามอย่าไปทำลายเสีย จะเป็นดอกไม้ดอกไร่ ป่าไม้อะไรก็ตาม ที่มันเป็นความงาม ก็อย่าทำลายเสีย ช่วยกันรักษาไว้ ที่บ้านก็ดี ที่วัดก็ดี ช่วยกันรักษาไว้ให้งดงาม
นี่เรารู้จักกระทำ ทั้งเพื่อตัวเราเอง รู้จักกระทำทั้งเพื่อผู้อื่นและเพื่อส่วนรวม เรามันอยู่คนเดียวในโลกไม่ได้หรอก แม้จะร่ำรวยอย่างไร ก็อยู่คนเดียวในโลกไม่ได้ ต้องอยู่ด้วยกันหลาย ๆ คนมาก ๆ คน แล้วก็มีประโยชน์ร่วมกัน มีอะไรครบถ้วน ถ้าไม่มีเพื่อน มันก็ไม่มีใครช่วยทำอะไรที่เราทำไม่ได้ แล้วสิ่งต่าง ๆ มันก็เกิดขึ้นไม่ได้ ฉะนั้นเราจะต้องนึกถึงว่า จะต้องอยู่ร่วมกันด้วยความผูกพันกัน รักใคร่สมัครสมานสามัคคีกัน เราจะเหลียวไปทางไหน ให้มีแต่คนที่เป็นมิตร หวังดีแก่เรา นี่เราจะต้องเรียน คือหน้าที่ การเรียนคือหน้าที่ การงานที่บ้านคือหน้าที่ การช่วยเหลือบ้านเมืองคือหน้าที่ แล้วเราก็จะมีชาติไทยที่มั่นคง มีศาสนาที่ประพฤติปฏิบัติกันถูกต้องครบถ้วน มีพระมหากษัตริย์ที่ทำหน้าที่ปกครองบ้านเมืองได้โดยสะดวก เพราะว่าพลเมืองมันดี ถ้าพลเมืองมันไม่ดี แล้วพระมหากษัตริย์ก็ปกครองไม่ไหว มันจะพลอยล้มละลายกันหมด ผู้ที่เป็นพระมหากษัตริย์ หรือผู้ที่ปกครองในนามของพระมหากษัตริย์ มันก็ยังเป็นมหากษัตริย์ เรียกว่าเป็นผู้ปกครองอยู่นั่นเอง ฉะนั้นเราต้องร่วมมือกับผู้ที่ปกครองบ้านเมืองให้ดีที่สุด เพราะประโยชน์มันจะได้แก่ทุกคน ผู้ที่ปกครองเพื่อตนเองนั้น ไม่ใช่ผู้ปกครอง ผู้ปกครองที่ถูกต้องนั้น คือ ปกครองเพื่อทุกคน ทุกคนในบ้านในเมืองจะอยู่กันเป็นผาสุก อย่างนี้เขาเรียกกันว่า ผู้ปกครองที่ดี เราจะรู้จักผู้ปกครองที่ดี โตขึ้นจะรู้จักเลือกผู้ปกครองที่ดี จะช่วยกันรักษาบ้านเมืองให้ถูกต้อง เพราะเรามีความรู้ ถ้าเราไม่มีความรู้ เราก็หลับตา ไม่รู้ไปทางไหนกัน ก็ไม่มีใครที่จะได้รับประโยชน์หรือมีความสุข ฉะนั้น การที่เด็ก ๆ ทุกคนตั้งใจเรียนให้ดีนี้ถูกต้องแล้ว ใคร ๆ ก็สรรเสริญ พวกเทวดาที่เราไม่เห็นตัว มันก็สรรเสริญเด็กที่ดี เด็กที่ดี มีการได้รับการสรรเสริญทั้งจากเทวดา ทั้งจากมนุษย์ นี่ที่จะกำลังออกไปจากโรงเรียน ก็ไม่ใช่ว่าจะหยุดเรียน มันต้องไปเรียนต่อ เพราะว่าเรายังทำหน้าที่ของเราไม่ถึงที่สุด เราต้องไปเรียนต่อให้ถึงที่สุดของการเรียน เท่าที่เราจะเรียนได้ ข้อนี้ต้องไม่มีความทุกข์นะ ถ้าไม่มีเงินไปเรียนในโรงเรียนต่อ เราก็เรียนได้จากวัดวาอารามบวชพระบวชเณรก็เรียนได้ หรือว่าเล่าเรียนจากการงาน ลงมือทำเลย ทำสวนมะพร้าว ทำสวนยาง ทำสวนอะไรทำไปเลย เป็นการเรียนอยู่ในสวนที่เราสร้างใหม่นั่นแหละ แล้วไม่เท่าไรมันก็รู้ แล้วมันก็ได้ผล ดังนั้นอย่าเสียใจว่า ถ้าไม่มีเงินไปเล่าเรียนที่จังหวัด ที่กรุงเทพหรือที่ไหนแล้วเราก็จะล้มละลาย ไม่ใช่อย่างนั้น เราเรียนจากไอ้สิ่งที่เรามี แล้วเราอาจจะทำได้ มีนาก็เรียนจากนา มีสวนก็เรียนจากสวน มีการงานฝีมือ ฝีไม้ลายมืออะไรก็เรียนจากการงานนั้น ก็เก่งขึ้น เก่งขึ้น เก่งขึ้น ก็สามารถทำได้ดีมีฝีมือ ทางหัตถกรรมก็ทำได้อย่างดีที่สุด แพงที่สุด ทำนา ทำสวน ทำไร่ก็สำเร็จ ปลูกมะพร้าวไม่ถึงสิบปีมันก็มีลูกแหละ แล้วก็เรียนในสวน เรียนในชีวิต เรียนในการงาน เรียนต่อไปจนมีเงินพอใช้พอตัว มีความดีมีเกียรติยศชื่อเสียงพอตัว ไม่ต้องเสียใจ ถ้าเสียใจเป็นคนโง่ เป็นคนหมดปัญญา ไม่ต้องเสียใจ มีอะไรทำต่อไป มีอะไรทำต่อไป ถ้าโชคดี พ่อแม่มีเงินมากได้ไปเรียนต่อ เรียนกรุงเทพ เรียนเมืองนอกเมืองนา มันก็ดีก็ไม่ใช่ไม่ดี แต่มันก็ไม่ดีมากไปกว่าที่ว่าเราจะเรียนอยู่กับการงาน เรียนอยู่ในป่า มีเงินมีเกียรติยศชื่อเสียง มีธรรมะ เป็นที่เคารพรักใคร่นับถือของคนทั่วไป นี่เรียกว่าจะไปเรียนต่ออะไรนั้น ไม่ต้องเป็นทุกข์เป็นร้อน ถ้ามีเงินไปเรียนก็เรียนตามสมควร อย่าเห่อให้มันเป็นบ้า ต้องดูตาม้าตาเรือว่า เราควรจะทำอย่างไร โบราณเขาเรียกว่ามองดูหัวแม่เท้า พูดบ้านเราก็หัวแม่ตีน มองดูหัวแม่เท้าของเราว่ามันเท่าไร เล็กใหญ่เท่าไร ควรจะทำอย่างไร ก็ทำแต่พอดี ๆ พ่อแม่ก็ไม่เดือดร้อน เราก็ไม่เดือดร้อน มันก็สำเร็จประโยชน์ แต่ก็ไม่ดีไปกว่าคนที่แม้ไม่ได้ไปเรียนแต่เขาทำงานของเขาสำเร็จประโยชน์ มีเรือกสวนไร่นา มีทรัพย์สมบัติเป็นหลักฐาน มีคุณงามความดีไม่มีใครด่าว่านินทา มีแต่คนยกมือไหว้ มันก็ใช้ได้เหมือนกัน ไม่ดีกว่ากัน ขอให้ทำหน้าที่ด้วยความบริสุทธิ์ใจ แม้จะไปถีบสามล้อ จะไปแจวเรือจ้าง จะไปล้างคูถนน มันก็เหมือนกันแหละถ้าเขาทำเต็มความสามารถของเขาแล้ว ก็เรียกว่าเขาเป็นคนดี เขาเป็นคนดีเหมือนเรานั่นแหละ ข้อนี้มันเป็นหลักธรรมะ ซึ่งคนไม่ค่อยเข้าใจ ต้องมีหน้า มีตา ต้องแต่งตัวสวย ต้องมีอำนาจ ต้องมีอะไร จึงจะว่าดี แต่ในธรรมะนี้เขาว่า ถ้าดี มันก็ดี ไม่มีชั่วแล้วมันก็ดี ทำทุกอย่างที่มีประโยชน์แล้วก็ดี อย่ามีแต่ที่ทำชั่ว
ฉะนั้นเลิกกันเสียเถอะ ไอ้สิ่งที่คุณครูเขาบอกว่าชั่ว หรือธรรมะ วัดวา ศาสนาเขาบอกว่าชั่ว ก็เลิกเสียเถอะ โดยเฉพาะอบายมุข อย่ามีเลย ดื่มน้ำเมา ดี ๆ ก็ทำให้มันเป็นบ้าเสีย เที่ยวกลางคืนไปหาอันตราย ดูการเล่นทำให้จิตใจแตก ทำอะไรจริง ๆ ดี ๆ ไม่ได้ เล่นการพนันให้ผีมันสิง หมดเนื้อหมดตัวก็ไม่รู้สึก คบคนชั่วเป็นเพื่อน มันก็ทำแต่ชั่วกันจนจมลงไปเลย เกียจคร้านทำการงานนี่มันก็ยากจน ทำการงานให้สนุก ไม่มีใครยากจน ทำการงานให้สนุก ไม่ว่าการงานอะไรขอให้ทำเถอะ มันจะแก้ความยากจน จะเลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ จะทำสวนครัว จะทำอะไรตามที่เราจะทำได้ ขอให้ทำให้สนุกทั้งกลางวันกลางคืน นี่เรามันพอค่ำลงก็จะไปเที่ยว ยิ่งเขามีงานที่ตลาดเสียด้วยละก็ จิตใจก็ไปแล้ว ไม่ได้ไปก็กระวนกระวาย ก็หนีไป อย่างนี้มันทำให้ตัวเองลดลง ลดลง ตัวเองมีความดีน้อยลง ๆ ไอ้ความชั่วเข้ามาแทน นี่เขาเรียกว่าอบายมุข คือ ประตูแห่งอบาย ตกลงไปในอบาย นรก สัตว์เดรัจฉาน เปรต อสุรกาย อย่างนี้เขาเรียกว่า อบาย อย่าทำเลย นี่รู้จักหลักเกณฑ์ที่มันมีอยู่อย่างนี้ นี่ที่เราจะต้องทำอย่างนี้ไว้เสียแต่เนิ่น ๆ แล้วอย่าไปทำให้ผิดพลาดเลย
นี่หมายถึงว่าเด็กบางคน เขาจะต้องออกจากโรงเรียนประถมไป จะไปสู่โรงเรียนมัธยมหรือยิ่งกว่านั้น ไม่ ๆ ต้องกลัว ไม่ต้องเสียใจ ไม่ต้องอะไร แล้วก็ไม่ต้องเหลิงเจิ้ง ไม่ต้องอวดดี ถ้าหากว่าพ่อแม่ร่ำรวย ก็ไม่ต้องอวดดี พ่อแม่ยากจน ก็ไม่ต้องเสียใจ เพราะยังจะทำดีได้เต็มที่ทั้งนั้น ไปพบกันข้างหน้า คนนี้เป็นชาวนา เป็นชาวสวน ปลูกยาง ปลูกมะพร้าว ไอ้คนนั้นมันไปทำราชการ ถ้าตั้งใจทำให้ดีก็แล้วไปพบกันข้างหน้า จะไม่มีใครยิ่งหย่อนกว่าใคร มันก็ได้ดีเท่านั้นแหละ คำว่าดีในที่นี้ เราหมายความว่ามีทรัพย์สมบัติก็พอ พอสมควร เต็มที่ ๆ จะมีได้ มีเกียรติยศชื่อเสียงพอตัว เท่าที่จะมีได้ มีคนเป็นมิตร เป็นสหาย เป็นเพื่อนรัก เพื่อนตายนี่มากพอตัวแหละ ก็คิดดูเถอะ คนเราก็สบายแหละ มีเงินใช้พอตัว มีเกียรติยศชื่อเสียง มีความดีพอตัว แล้วก็มีเพื่อนที่ดีพอตัว เพียงพอ มันก็หมดปัญหาแหละ เราก็อยู่ในโลกนี้อย่างผาสุก ฉะนั้นทุกคน ตั้งหน้าตั้งตาทำแต่ความดี ก็จะถึงจุดหมายนั้นกันทั้งนั้น อย่ามามัวนั่งเสียใจว่าครอบครัวเรายากจน เราไม่ได้เล่าเรียนไปกรุงเทพ ไปเมืองนอกเมืองนานั้นไม่จริง ไปเรียนเมืองนอกเมืองนา กลับมาเป็นทุกข์เป็นร้อนก็มี กลับมาเป็นคนคดโกง ต้องฉิบหายไปก็มี มันไม่แน่ มันดีอยู่ที่ไม่คดโกง มันดีอยู่ที่ไม่ทำทุจริต ไม่ทำทุจริต เลี้ยงวัวเลี้ยงควายอยู่ที่นี่แหละ แล้วมันก็ยังจะได้ผล เป็นที่สบายแก่ตนและแก่ผู้อื่น เดี๋ยวนี้เราคิดผิดไป มันก็มีความทุกข์ ฉะนั้นทุกคนอย่ามีความทุกข์ อย่าต้องมีความทุกข์ อย่าทำให้ใครต้องมีความทุกข์ อย่าทำให้พ่อแม่ต้องมีความทุกข์ นี่มันบาปมาก เราอย่าทำให้พ่อแม่มีความทุกข์ หนทางมันมีอยู่ ที่จะมีความสุข ทั้งเรา ทั้งพ่อแม่ ทั้งญาติพี่น้องของเรา คือ ตั้งหน้าตั้งตาทำความดี ทำความถูกต้อง ถูกต้องอยู่เสมอ หาเลี้ยงชีวิตอย่างถูกต้อง ก็ปลอดภัย ถ้าหาเลี้ยงชีวิตไม่ถูกต้อง มันก็อันตรายแหละ แล้วไม่เท่าไรมันก็จะวินาศฉิบหายหรือตายแหละ เอาแต่ความถูกต้อง เมื่อมีชีวิตรอดอยู่ได้แล้ว ก็ทำความดีให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป ความดีอะไรที่ต้องทำให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป มากขึ้นไป ให้กว้างขวางออกไป ก็ทำแหละ
นี่เด็ก ๆ รู้ไว้ว่าข้างหน้านั้น มันมีอย่างนี้ เดี๋ยวนี้อาจจะไม่ต้องทำ หรือฟังไม่ค่อยถูก พูดอย่างนี้ฟังไม่ค่อยถูกก็ได้ แต่ก็ยังถูกเข้าวันหนึ่ง จะต้องฟังถูกเข้าวันหนึ่ง เราจึงพยายามพูดกับเธอ เราอย่าฆ่าสัตว์ประทุษร้ายชีวิตร่างกายผู้อื่นเลย มันจะย้อนกลับมาหาเรา เราอย่าประทุษร้ายทรัพย์สมบัติ ขโมยลักล้วงของคนอื่นเลย มันจะย้อนกลับมาหาเรา คือให้เราเป็นคนไม่ดี ชอบทำแต่ไม่ดี ในที่สุดมันก็ล้มละลาย อย่าประทุษร้าย กาเมของรักของใคร่ของผู้อื่นเลย ผลร้ายมันจะกลับย้อนมาหาเรา ของ ๆ ผู้อื่นที่เขารัก เราอย่าไปเหยียบย่ำทำลายให้เขาเจ็บใจ เขาจะเป็นศัตรูกับเรา เธออย่าพูดปดเลย พูดเท็จเลย ผลร้ายมันจะกลับมาหาเรา เพราะไม่มีใครชอบให้ถูกหลอกลวง ให้ถูกเอาเปรียบอะไรทำนองนั้น มันจะแก้แค้น แล้วเราก็เป็นคนชั่ว ชอบทำแต่ความชั่ว ไม่มีใครมาแก้แค้น มันก็ล้มละลายเองแหละ คนชั่วนี้ แม้ไม่มีใครมาทำร้าย มันก็จะทำร้ายตัวเอง ทำลายตัวเอง มันฆ่าตัวเอง เรียกว่ามันเชือดคอตัวเองแหละถ้ามันทำชั่ว เราอย่าดื่มน้ำเมา เพราะทำให้เราสูญเสียความรู้ที่ถูกต้อง เช่นเราเรียนมาดีมีความรู้มาก พอเมาแล้วความรู้นั้นไม่รู้ไปไหนหมด มันก็ทำผิด ๆ พูดผิด ๆ ก็เรียกว่าไอ้น้ำเมานี้ มันทำลายสติปัญญา ทำลายสติสัมปชัญญะ ของคนผู้ดื่ม ผู้กิน ฉะนั้น เด็ก ๆ อย่าไปแตะต้องเลย แต่ก็มีเด็กที่โง่ยิ่งกว่าโง่ ไปดื่มกินของเมา กระทั่งเฮโรอีนก็มี นี่มันหลับตา มันโง่อย่างหลับตาที่สุดแหละ เดี๋ยวนี้เธอก็พอจะรู้ว่ามันหลับตาโง่เท่าไร ถ้ามันไปเสพเฮโรอีน เหมือนที่เขารู้ ๆอยู่ว่ามันจะต้องวินาศ ไม่มีใครจะช่วยไว้ได้หรอก ฉะนั้นเราอย่าเอาเลย ขึ้นชื่อว่าของเมา แล้วอย่าเอาเลย นับตั้งแต่บุหรี่ขึ้นไปเลย อย่าเอาเลย ของเมาทั้งหลาย หมายความว่า สูบหรือดม หรือกิน หรือทา หรืออะไรก็ตาม แล้วจิตใจผิดปกติไปหมด ไม่รู้ผิดชอบชั่วดี อย่างนี้เขาเรียกว่าของเมาทั้งนั้น เป็นน้ำก็มี เป็นเยื่อก็มี เป็นแต่เพียงควันไฟก็มี เป็นแต่เพียงของที่เอามาถู มาทานี้ ก็เมาได้ ก็มี
เรื่องศีลที่ว่าเราได้รับการสั่งสอนอยู่ตลอดเวลาในโรงเรียน เรื่องศีลห้า อย่าประทุษร้ายผู้อื่น อย่าประทุษร้ายสติปัญญาของเราเอง เราก็ไม่ล่มจม เราก็ไม่ทรุดโทรม ไม่เสื่อมเสีย ไม่วินาศ ฉะนั้น เราก็เป็นผู้ที่ปฏิญาณตนเป็นพุทธมามกะกันมาแล้วแต่ต้นปี ปลายปีต้นปีมีพิธีทำพุทธมามกะ เราจงรักษาความเป็นพุทธมามกะของเราไว้ คือให้เรายังพูดได้ ยังกล่าวได้ ยังยืนยันได้อยู่กระทั่งเดี๋ยวนี้ว่า พระพุทธเจ้าเป็นของข้าพเจ้า พุทธมามกะ แปลว่าผู้กล้ายืนยันว่าพระพุทธเจ้าเป็นของข้าพเจ้า ฉะนั้นเราอย่ามีความผิดพลาด แล้วก็อาจจะยืนยันว่าพระพุทธเจ้าเป็นของข้าพเจ้าอยู่นั่นเอง ถ้าเธอมีพระพุทธเจ้าเป็นของเธอ มันก็แน่นอน พระพุทธเจ้านั่นแหละจะคุ้มครองเธอ ไม่ให้เสียหาย ไม่ให้ผิดพลาด ไม่ให้ตกต่ำ ไม่ให้โชคร้าย ดังนั้นจงทำให้มีพระพุทธเจ้าเป็นของข้าพเจ้าอยู่เสมอ คือ ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าอยู่เสมอ แล้วพระพุทธเจ้าก็จะอยู่กับเราเสมอเหมือนกัน พอเราไม่ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าก็ทิ้งเราไป ปล่อยไว้ให้ภูตผีปีศาจมาครอบงำ มาชักจูงมาล่อลวง มาพาลงไปในอบาย ฉะนั้นยึดถือให้มีพระพุทธเจ้าเป็นของข้าพเจ้าอยู่ตลอดไป นี่เด็ก ๆ ทั้งที่จะยังอยู่ในโรงเรียนนี้ต่อไป หรือจะต้องออกไปเรียนที่อื่น หรือแม้จะไม่ไปเรียนที่อื่น จะต้องออกไปอยู่บ้าน ก็สุดแท้แหละ จงทำตนให้เป็นคนที่มีความถูกต้องอยู่เสมอ เราพูดกันกี่ครั้งแล้ว ว่าจะเป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา เป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์ เป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อน เป็นพลเมืองที่ดีของชาติ เป็นสาวกที่ดีของพระพุทธเจ้า ใครยังจำได้ยกมือ ใครยังจำได้ยกมือ บางคนมันจำไม่ได้ ดี ส่วนมากยังจำได้ เราจะเป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา เป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์ เป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อน เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศ เป็นสาวกที่ดีของพระพุทธเจ้า คือเป็นพุทธมามกะ ถ้าใครยังคงรักษาสัญญานี้ไว้ได้แล้วก็ คนนั้น ไม่มีวันที่จะเดือดร้อน ไม่มีวันที่จะเสื่อมเสีย มีแต่ความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป
จะปิดภาคแล้ว เราให้พรว่า ที่ยังจะต้องเรียนต่อไป ก็ขอให้เข้มแข็ง กล้าหาญ แน่ใจในการที่จะเรียนต่อไป ที่จะต้องออกไปจากโรงเรียน ก็จะต้องกล้าหาญเข้มแข็งที่จะเรียนต่อไป ไปเรียนที่บ้าน ที่สวน ที่นา ก็ได้ ไปเรียนในโรงเรียนที่มันแพงยิ่ง ๆ ขึ้นไปก็ได้ ถ้าว่าครอบครัวของเรามีเงินใช้ แต่ถ้าครอบครัวของเราไม่มีเงินใช้ ก็อย่าเสียใจ อย่าเป็นทุกข์.เสียเวลา เรียนได้ที่เรือกสวนไร่นา เรียนได้ที่บ้านที่เรือน ปู่ย่าตาทวดของเรารุ่นก่อนโน้น ไม่เคยเข้าโรงเรียน ก็ทำมาหากินได้ อยู่ได้ แล้วเกิดพวกเรามา ปู่ย่าตาทวดที่ไม่เคยเข้าโรงเรียนนั้นกลับเป็นผู้เกิดเรามา แล้วเราจะกลัวอะไรล่ะ ในเมื่อเรายังมีโอกาสที่จะศึกษาเล่าเรียน เราก็เรียน ไม่มีโอกาสที่จะเรียนในโรงเรียน เราก็เรียนอย่างปู่ย่าตายายของเรา เขาเรียนที่การงาน มีการงานแล้วเขาก็ทำ มันเป็นการเรียนอยู่ในตัว การงานที่แท้จริงนั้น มันสอนคนที่ทำให้รู้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป ชนิดที่ว่าไม่มีใครสอนได้แหละ ขอให้เราทำเถอะ ดูตัวอย่างมันก็ยังทำได้ไม่ดี แต่ว่าทำให้ดี มันก็เพราะว่ามันทำมาก ทำเรื่อยไป ทำชำนาญ ฉะนั้นเราจะทำให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยการทำที่มันสอนเราอยู่ในตัว อย่างเราจะทำของเล่นสักอย่างหนึ่ง ครั้งแรกเราทำไม่ได้ดี ทำได้ไม่ดี ทำได้ไม่สวย ทำได้ไม่เรียบร้อย แต่พอเราทำครั้งที่สอง ครั้งที่สาม ครั้งที่สี่ ไม่มีใครมาสอนเรา แต่การงานมันก็สอนเรา มันก็ทำได้ดี ทำได้สวย ทำได้เป็นที่พอใจ ฉะนั้นคนที่เขาทำอะไรได้สวย จะเย็บผ้าสวย จะทำจักสานสวย จะทำอะไรสวย เขาเคยทำมาเป็นสิบครั้ง ร้อยครั้ง ทั้งนั้นแหละ นี่เรียกว่า การงานเป็นการเล่าเรียน ขอให้เราเรียนจากการงานนี้ดีกว่าเรียนจากโรงเรียนเสียอีก เรียนจากโรงเรียน พอรู้เรื่องแล้วก็มาทำ มาทำจริง จะทำจริงก็ทำเป็น นี่ตอนนี้จะรอดตัว คือทำเป็น ทำเป็นนี่ต้องทำเท่านั้นแหละ สอนกันไม่ได้ การกระทำนั่นแหละมันสอน ไม่ใช่คนมันสอน เราจึงให้พรทั้งเด็กที่จะยังต้องเรียนอยู่ หรือที่จะต้องออกจากโรงเรียน จงแน่ใจจงกล้าหาญ แล้วก็มีความอดกลั้น อดทน บังคับตัว อย่าให้ไปทำชั่วเป็นอันขาด เขาจะมีแต่ความเจริญ ขอให้เธอทุกคน ดำรงตนอยู่ในความเป็นพุทธมามกะอย่างนี้แล้ว มีความเจริญงอกงามก้าวหน้าอยู่ ทุกทิพาราตรีกาลเทอญ