แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
นี่จะปิดภาค พูดกันในวันปิดภาค ปิดภาคไปอยู่บ้านจะต้องใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ที่สุด ต้องช่วยทำงานบ้าน ให้พ่อแม่ให้มากที่สุด ทำให้พ่อแม่เหมือนทำให้ตัวเราเอง เวลาเราไม่มีเสื้อก็ต้องขอพ่อแม่ ไม่มีกางเกงก็ขอพ่อแม่ ไม่มีหมวก ไม่มีรองเท้า ไม่มีเข็มขัด ก็ยังต้องขอพ่อแม่ ไม่มีหนังสือก็ขอพ่อแม่ การทำให้พ่อแม่ก็เหมือนกับทำให้เราเอง พ่อแม่เหมือนกับออมสินที่ไม่ต้องฝาก เบิกได้เรื่อย เด็ก ๆ ควรจะนึกถึง เราอยู่ได้เพราะพ่อแม่ ถ้าไม่มีพ่อแม่เราก็ไม่ได้เกิดมา เกิดมาแล้วก็อยู่ไม่ได้ การที่ทำให้พ่อแม่ก็เท่า ๆ กับทำให้เราเองนะ เราจะต้องนึกดูให้เห็น ไม่นึกก็ไม่เห็น นึกไม่เป็นก็ไม่เห็น เราต้องนึกให้เป็นและเห็น ว่าเด็กคนไหนจะดีจะรอดตัวได้ จะต้องทำอย่างไร เด็กเกิดมายังเล็กอยู่ทำอะไรเองไม่ได้ ล้วนต้องอาศัยผู้อื่นช่วยเหลือกันมากแหละ จึงจะรอดตัวไปได้ ใครมองเห็นว่าเรากำลังได้รับความช่วยเหลือจากใครบ้าง เวลานี้เราได้รับความช่วยเหลือจากใครบ้าง ใครตอบได้ ทั้งหมดนี้ใครตอบได้ว่าเวลานี้เรากำลังได้รับความช่วยเหลือจากใครบ้าง ใครตอบได้ (พ่อแม่และครูครับ) ใครอีก (อาจารย์ครับ) ใครอีก อ้าว,ใครอีกล่ะ อื้อ,แล้วกันเลย สิ่งที่มองเห็นง่าย ๆ ยังมองไม่เห็นแล้วจะ จะไปเห็นสิ่งที่ยาก ๆ ได้อย่างไร ต้องช่วยกันตั้งหลายคน พ่อแม่คนแรกแหละ แล้วก็ญาติพี่น้อง ได้รับความช่วยเหลือจากญาติ จากพี่ แม้แต่จากน้อง ญาติ มากนะ มีพี่ ป้า น้า อา ลุง ตา อะไรมากมาย คนที่ได้รับความช่วยเหลือ อีกทั้งครูอาจารย์ก็มาก หลายคน ที่บ้านที่วัด เพื่อนของเราล่ะ ไม่ได้ช่วยเหลือเราเลยหรือ เพื่อนของเรา แล้วคนอื่น ๆ ที่เขามีหน้าที่ ที่จะต้องช่วยดูแลช่วยรักษาบ้านรักษาเมืองอะไรนี่ เขาต้องช่วยกันมากมาย แม้ที่สุดแต่แมวนะ เด็กคนไหนจับหนูได้ เด็กคนไหนจับหนูได้ ยกมือขึ้นสิ จับหนูได้ที่ไหนล่ะ มันต้องแมวช่วยจับนะ อย่าอวดดี ต้องขอความช่วยเหลือแม้แต่แมว แมวก็ยังช่วยนะ มีมากมายนะ ที่เราจะต้องได้รับความช่วยเหลือ ถ้าสมมติว่าไฟไหม้บ้าน จะต้องช่วยกันกี่คน ถ้าน้ำท่วมใหญ่จะต้องช่วยกันกี่คน หรือว่าเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ต้องช่วยกัน เจ็บไข้เป็นตายต้องช่วยกันมากมาย ฉะนั้นเราก็ต้องช่วยผู้อื่นตอบแทนแหละ ตอบแทน เพื่อนช่วยเรา เราช่วยเพื่อน เรามีอะไรเหลือกินเราก็ต้องปันให้เพื่อนแหละ แต่เราอย่ากินให้มันมากนัก อย่ากินให้มันเสียจนหมดนะ เหลือไว้ให้เพื่อนกินบ้าง เป็นคนที่มีจิตใจดีมีศีลธรรม ถ้าเราอยากจะมีเงินเราต้องทำอะไร ใครตอบได้ เอ้อ,นี่กำลังนั่งเพ้ออยู่หลายคนเลยนะ ถ้าว่าอยากจะมีเงินเราต้องทำอะไร หือ, บางคนก็ยังไม่รู้ หือ, ยังเล็กนักเหรอ เราจะต้องทำอะไร (ทำงานครับ) อื้อ, ต้องทำงาน ทีนี้เราก็ได้ แล้วเราจะได้เอาเงินไปทำบุญ ช่วยเพื่อน ให้เพื่อนกิน ถ้าเราไม่ทำงานเราก็ไม่มีอะไรช่วยเพื่อนเหมือนกัน คนอื่นถ้าเขาไม่ทำงานก็ไม่มีอะไรช่วยเธอนะ เช่น พ่อแม่ไม่ทำงานจะเอาเงินที่ไหนซื้อเสื้อผ้ากางเกงให้เธอ หรือว่าจ่ายเงินให้เธอรอดชีวิตอยู่ได้ ก็ต้องทำงาน ทีนี้เราปิดเทอมก็ต้องทำงานนะ ใครทำงานอะไรได้บ้าง ใครสามารถจะทำงานอะไรได้ ทำอะไร เธอ (หุงข้าวตักน้ำครับ) หุงข้าวตักน้ำ ใครทำอะไรได้ ใครทำงานที่มากไปกว่านั้น ทำงานชนิดที่ได้เงินด้วย ทำอะไรได้ คนนี้ตัวใหญ่กว่าเพื่อนทำงานอะไรได้ ไปอยู่บ้านปิดเทอมช่วยพ่อแม่ทำงานอะไรที่ให้ได้เงินได้บ้าง ทำอะไร หือ, (ช่วยเหลือพ่อแม่ครับ) ฮา, ถามว่าทำเงิน ไปช่วยทำอะไรให้ได้เงินมาช่วยพ่อแม่ ให้ได้เงินมาช่วยตัวเอง นี่แหละ ไม่ต้องทำบาปทำกรรมอะไรหรอก ไม่ต้องไปฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ปลูกตะไคร้ไว้รอบ ๆ รั้วแล้วขาย ปลูกถั่วรอบ ๆ รั้วแล้วก็ขาย เลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่แล้วก็ขาย ไข่เป็ดใบเท่าไร ใครรู้ ไข่เป็ดใบเท่าไร ใครรู้ หมดท่า หมดท่า เท่าไร (หนึ่งบาทเจ็ดสิบห้าครับ) รู้มาจากไหน รู้มาจากไหน หือ, เธอมีขายหรือหรือเธอไปซื้อ (มีครับ) เธอมีขายหรือ ก็ดีแหละ ไม่ต้องไปทำงานอะไรแล้ว เก็บไข่เป็ดขาย นั่นแหละ เลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่เอาไข่ขายเอาเงินช่วยพ่อแม่ซื้อของที่เราต้องการแหละ ทีนี้ถ้ามันไม่ทำมันก็นอนเสียแหละ มันก็กลายเป็นคนขี้เกียจแหละ ไม่มีเงิน ไปขอทานดีหรือไปเป็นขโมยดี เราไม่มีเงิน ใครว่าไปเป็นขโมยดี ใครว่าไม่มีเงินแล้วเป็นขโมยดี ใครไม่เคยขโมย ยกมือ ใครไม่เคยขโมย โห,ไม่เคยขโมยกันมากเลยนะ อื้อ, เกือบทุกคนเลย ใครว่าเวลาไม่มีเงินแล้วไปเป็นขอทานดีกว่าเป็นขโมย อื้อ, ดี ดี ดี นี่จำไว้นะ ทีนี้อย่าขโมย หยุดที เลิกที อขโมยเลิกที ไปขอทานดีกว่า ไม่บาป ทีนี้ไม่ต้องขโมย ไม่ต้องขอทาน แล้วต้องทำอย่างไร ทำอย่างไรจึงไม่ต้องขโมย ไม่ต้องขอทาน ทำอย่างไร (ทำงานครับ) ทำงานอะไร บอกให้เป็นชิ้นเป็นอัน ทำงานอะไร ทำงานอะไร (เผาถ่านครับ) เผาถ่าน เคยเผาแล้วยัง ได้ขายหรือเปล่า เผาถ่านได้ ได้ขายหรือเปล่า (ไม่ได้ขายครับ) ไม่ได้ขายเหรอ เอาไปไหน ไม่ได้ขายแล้วเอาไปไหนล่ะ (เอาใช้ในบ้านครับ) ใช้ในบ้าน น่าจะเผาให้มากแล้วจะได้ขาย เดี๋ยวนี้ถ่านก็แพงมาก กิโลหนึ่งหลายสตางค์แหละ ใครนึกไม่ออกว่าจะทำงานอะไรได้ ใครไม่มีงานทำ ใครนึกไม่ออกว่าจะทำงานอะไรได้ หือ, ใครที่นึกไม่ออกว่าทำงานอะไรได้ ตัวเล็กนี่ ทำงานอะไรได้ หือ, ทำงานอะไรได้ หือ, ใครไม่มีปัญญาว่าจะทำงานอะไรได้ ไม่รู้จะทำงานอะไร รู้ทุกคนนะ นี่ต้องทำได้ทุกคน ถ้าตั้งใจจะทำ ตัวเล็ก ๆ ก็ช่วยแม่ช่วยพ่อหยิบของก็ได้ กวาดบ้านก็ได้ เลี้ยงไก่ก็ได้ เลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่ก็ได้ สิ่งที่ง่าย เช่น กวาดขยะ นี่ไม่ได้ยากอะไร จับไม้กวาดได้ก็กวาดได้ คนที่ตัวเล็กกว่าเพื่อนกวาดขยะได้หรือไม่ได้ คนนี้ คนนี้ กวาดขยะได้หรือไม่ได้ ถ้าตัวเล็กมันกวาดได้แล้ว ตัวอื่น ๆ มันกวาดได้ ก็มันตัวใหญ่กว่านี่ คนที่รักพ่อแม่ก็ต้องช่วยให้พ่อแม่ได้รับความสบาย ได้รับความเบาแรง ลูกนี่เกิดมาทำไมใครรู้ ลูกเกิดมาทำไม ใครรู้ว่าลูกนี่เกิดมาทำไม รู้สองคน นอกนั้นคงไม่ใช่ลูก ลูกเกิดมาทำอะไรใครรู้ คนนู้น (ทำให้พ่อแม่ชื่นใจครับ) อื้อ, นี่มันจำได้ดี ลูกคือผู้ที่เกิดมาทำให้พ่อแม่ชื่นใจสบายใจ ลูกคือผู้ที่เกิดมาทำให้พ่อแม่สบายใจ ลูกเกิดมาเพื่อทำให้พ่อแม่สบายใจ เวลาเธอขอ ขอ ขอสตางค์จากแม่ แม่สบายใจหรือไม่สบายใจ เธอสังเกตเห็นแม่สบายใจหรือไม่สบายใจ ใครตอบได้ เราขอเงินจากพ่อแม่ พ่อแม่สบายใจหรือไม่สบายใจ สบายใจหรือไม่สบายใจ หือ, (สบายใจ) เธอรู้ได้อย่างไร ใครรู้ว่าเวลาเราขอจากแม่จากพ่อ พ่อแม่สบายใจหรือไม่สบายใจ ทำไมถึงไม่มีใครรู้เสียหมด หมดท่าเลย ใครว่าพ่อแม่สบายใจ ใครว่าพ่อแม่ไม่สบายใจ ใครว่าพ่อแม่ไม่สบายใจ ใครว่าพ่อแม่ไม่สบายใจยกมือให้สูงสิ ใครว่าพ่อแม่สบายใจ อื้อ, มีมากกว่า เรารู้แล้ว ยังมีลูกที่ดี ๆ อยู่มาก ถ้าลูกมันดีนะ พ่อแม่มันรักนะ ลูกขอเงิน แม่มันสบายใจ พ่อแม่มันสบายใจ เพราะลูกมันดี แล้วพ่อแม่มันรัก ลูกไปขอเงินแม่ พ่อมันสบายใจแหละ นี่ก็มันพิสูจน์แล้วว่าไอ้ลูกคนนั้นมันดี คนที่ไปขอเงินพ่อแม่ก็สบายใจเพราะลูกคนนั้นมันดี ถ้าลูกคนไหนไม่ดีไปขอพ่อแม่ พ่อแม่ก็ไม่สบายใจ ไม่รัก มันไม่รัก ดังนั้นเราต้องทำให้พ่อแม่รัก ใครเกิดมาจากโพรงไม้ ใครเกิดมาจากโพรงไม้ ยกมือ ใครเกิดมาจากพ่อแม่ บางคนฟังไม่ถูก ทุกคนเกิดมาจากพ่อแม่ ไม่ได้เกิดจากโพรงไม้ พ่อแม่เป็นคนหรือเป็นควาย ใครว่าพ่อแม่เป็นควาย เราเกิดมาจากพ่อแม่ แล้วพ่อแม่เป็นคน เราเกิดมาเป็นคนหรือเกิดมาเป็นควาย ใครว่าเกิดมาเป็นคน นั่นแหละเกิดมาเป็นคน ถ้าเกิดมาเป็นคนต้องทำให้พ่อแม่สบายใจ พ่อแม่เขาคิดตั้งแต่ก่อนเราเกิดนู้น เขาอยากมีเราอยากให้เราเกิดมา จะได้สบายใจ พอลูกเกิดมาพ่อแม่สบายใจตั้งแต่เพียงเราเกิด ที่อยู่ในครรภ์ยังไม่เกิดพ่อแม่ก็สบายใจล่วงหน้า เพราะพ่อแม่อยากจะมีลูกอยากจะมีบุตร นั่นแหละแม่รักเราตั้งแต่เรายังไม่เกิดนู้น เราเกิดมาแล้วไม่รักแม่มันก็บ้าเต็มที ใครรักแม่ ใครไม่รักแม่ ใครทะเลาะกับแม่ ใครถูกแม่ดุ อื้อ,ไม่มี ไม่มี อื้อ, ใครถูกแม่ดุ ใครถูกแม่ว่า ใครถูกแม่ดุ เพราะเหตุใดแม่จึงดุ เพราะเหตุไร หือ, (ดื้อครับ) ดื้อ อื้อ, ไม่ดื้ออย่างเดียวพอ คนดื้อแล้วก็ทำในสิ่งที่ไม่สมควรทำทุกอย่างทุกประการ ไม่ดื้ออย่างเดียวพอ เราเป็นเด็กไม่ดื้ออย่างเดียวพอ เด็กลูกคนดื้อเป็น หมาลูกหมาดื้อเป็นหรือไม่เป็น ใครว่าเป็น ใครว่าดื้อไม่เป็น ใครก็เห็นๆอยู่นี่แหละ หมาลูกหมามันดื้อเป็นหรือไม่เป็น (ไม่เป็น) คนลูกคนดื้อเป็นหรือไม่เป็น (เป็น) แมวลูกแมวดื้อเป็นหรือไม่เป็น (ไม่เป็น) เห็นอยู่แล้ว ไก่ลูกไก่ดื้อเป็นหรือไม่เป็น (ไม่เป็น) ไม่เป็น มันยิ่งเห็นง่าย เหตุไรลูกคนจึงดื้อเป็น เพราะเหตุไร เหตุไรลูกหมาลูกไก่ลูกแมว ไม่ ไม่ ดื้อไม่เป็น ดื้อไม่เป็น เหตุไรลูกคนจึงดื้อเป็น เพราะเหตุไรล่ะ ใครตอบได้ ให้รางวัลแหละข้อนี้นะ ใครตอบได้ เหตุไรลูกคนจึงดื้อเป็น เหตุไร (โง่ครับ) แล้วลูกหมาไม่โง่เหรอ ลูกหมาลูกแมวลูกไก่ไม่โง่เหรอ เพราะโง่มันจึงดื้อไม่เป็น เพราะมันโง่จึงดื้อไม่เป็น เรามันฉลาด เรามันฉลาดเราจึงดื้อเป็น เรามันคิดเป็นเราจึงดื้อเป็น ฉลาดสำหรับจะดื้อ แต่มีเหมือนกันแหละ มันดื้อเพราะมันโง่ โดยมากมันดื้อเพราะสาเหตุอะไร ส่วนมากที่มันดื้อมันเพราะเหตุอะไร คิดดูที่เราเคยดื้อ ดื้อมากี่ครั้งกี่หนแล้ว ส่วนมากมันดื้อเพราะเหตุอะไรล่ะ (ไม่เชื่อฟังพ่อแม่) ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ นั่นมันไม่ใช่ เพราะเหตุไรจึงไม่เชื่อฟังพ่อแม่ เพราะเหตุไร เพราะเหตุไรจึงไม่เชื่อฟังพ่อแม่ ใครรู้ (บังคับตัวเองไม่ได้) ที่พูด พูดว่าอย่างไรนะ (บังคับตัวเองไม่ได้) บังคับตัวเองไม่ได้ ก็ยังดีที่ว่าบังคับตัวเองไม่ได้ ที่บังคับตัวเองไม่ได้เพราะจะไปทำอะไรเล่า ที่มันดื้อพ่อแม่ ที่ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ บังคับตัวให้อยู่ในโอวาทพ่อแม่ไม่ได้ นี่มันจะไปทำอะไรล่ะ ใครตอบได้ เพราะมันจะไปทำอะไรมันจึงดื้อ อ้าว, ที่ทุกทีที่เราดื้อเพราะเราอยากจะไปทำอะไร ที่เราดื้อบ่อยๆ ที่เห็นอยู่เราดื้อจะไปทำอะไรล่ะ อะไรชวนให้เราดื้อล่ะ อะไรล่ะ คนที่ตอบได้ตอบเถอะ อะไรที่ทำให้เด็กๆดื้อต่อพ่อแม่ อื้อ, ไม่เคยดื้อสักคน แต่ยกมือทุกคนว่าเคยดื้อ อะไรทำให้ดื้อ ตอบไม่ได้ อะไรที่ทำให้ดื้อ (ความโง่ครับ) ความโง่ ก็ถูกแหละ แต่มันต้องมีอะไรที่มาทำให้โง่ มาชวนให้โง่ มาชวนให้ดื้อ เช่น สมมติว่าไม่มาโรงเรียนหนีโรงเรียนเสียแบบนี้ เพราะสาเหตุอะไรล่ะ อื้อ เพราะเหตุไร (ขี้เกียจไปโรงเรียนครับ) ขี้เกียจการเรียน อื้อ, แล้วไปไหนเสียเล่า ไม่มาโรงเรียนแล้วไปไหน (ไปเที่ยวครับ) ไปเที่ยว ไปเที่ยวทำไม ไปเที่ยวเอาอะไรล่ะ หือ, ไปเที่ยวเอาอะไร อื้อ, พวกที่ไม่ดื้อ พวกที่ดื้อใครทำบาป พวกที่ไม่ดื้อ กับพวกที่ดื้อ ใครทำบาป ใครบาป ใครบาป เธอ คนที่ดื้อบาปหรือคนที่ไม่ดื้อบาป (คนดื้อบาป) จำไว้นะ นอนตื่นเที่ยง นอนตื่นสายบาปหรือไม่บาป ใครว่าบาป ใครว่าไม่บาป นอนตื่นเที่ยง นอนตื่นเที่ยง ขี้เกียจ นอนตื่นสาย ใครว่าไม่บาป อื้อ, บาปเพราะทำให้เลวลง ทำให้เลวลงจนไม่อยากจะทำอะไร คนขี้เกียจบาปหรือไม่บาป คนขยันบาปหรือไม่บาป รู้แล้วนะ คนดื้อก็มันบาปพอ ๆ กันกับคนขี้เกียจ เป็นคนโง่ไม่รู้จักใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ คนโกหก บาปหรือไม่บาป บาปกว่าคนขี้เกียจเสียอีกคนโกหกน่ะ คนขโมยบาปหรือไม่บาป ขอทานดีกว่าเป็นขโมย ถ้าไม่ต้องขอทานไม่ต้องขโมยต้องขยัน ต้องไม่ดื้อ ต้องไม่นอนตื่นสาย ทำงานสนุกหรือไม่สนุก ใครว่าทำงานสนุก ใครว่าทำงานไม่สนุก เอาแหละ รู้กันแค่นี้แหละ ปิดภาคนี้ลองไปถามแม่ที่บ้านดูหน่อยว่าไอ้นี้มันทำงานหรือเปล่า ถ้าทำงานสนุกปิดภาคนี้คงไปทำงานกันทุกคนแหละ ทำงานที่บ้าน ไปทำงานกันทุกคนเลย ให้คุณครูตามไปตรวจสอบดูว่าระหว่างปิดภาคมันทำอะไรบ้าง ปิดภาคคราวนี้ต้องทำงานทุกคนนะ ทุกคนต้องทำงานให้ปรากฏเลยว่าได้ทำอะไรได้ทำอะไร พูดว่าทำงานสนุก นี่พูดจริง ๆ หรือพูดแต่ปากหลอกอาจารย์ ทำงานสนุกนี่พูดจริง ๆ หรือว่าหลอกกัน งานอะไรสนุก งานอะไรสนุก หือ, งานอะไรเธอ ที่สนุก เธอ (ปั่นขนไก่) ปั่นขนไก่ อื้อ, ทำขนไก่ขายเหรอ คนนี้ล่ะทำงานอะไรสนุก (จับไก่ครับ) จับทำอะไร จับไก่มาเล่นไก่ชนนี่ นั่นไม่ใช่ทำงาน ไม่ใช่ทำงาน อ้าว, ทำงานอะไรที่สนุกล่ะ คนนี้ทำงานอะไรที่สนุก นั่นแหละทำอะไรบ้างที่ว่าสนุก (ตักน้ำ) ตักน้ำ สนุก ฟังดูชอบกล ทำสวนครัวสนุกหรือไม่สนุก ทำสวนครัว สนุกหรือไม่สนุก ปลูกต้นไม้ไว้ดูดอก ไว้กินใบ ไว้ขาย ถ้าว่าเธอสนุกจริงทุก ๆ บ้านจะมีสวนครัว ไม่มีหญ้ารกขึ้นถึงหลังคา บ้านใครมีคูน้ำ บ้านใครมีคูน้ำ ในคูน้ำเลี้ยงอะไร เลี้ยงอะไร (เลี้ยงปลาครับ) ใครเลี้ยง ใครเป็นคนเลี้ยง (ปู่ครับ) ไม่ใช่เธอเหรอ มันว่าทำงานสนุก แต่ปู่เลี้ยงปลานะ เราแหละต้องเลี้ยง ต้องหาอะไรมาให้ปลากิน หาปลาที่ดีๆมาเลี้ยง ปลาอะไรโตเร็วที่สุด ปลาอะไร (ปลานิลครับ) ปลานิล เธอมีเหรอ เธอไม่เหรอ (ไม่มีครับ) ไม่มี แล้วรู้ได้อย่างไรว่าโตเร็ว รู้ได้อย่างไรปลานิลโตเร็ว ไม่เคยเลี้ยงนะ อย่าเงียบสิ รู้ได้อย่างไร (กินอาหารเกือบทุกอย่างครับ) เคยเห็นเหรอ เธอเคยเลี้ยงเหรอ เธอเคยเลี้ยงเหรอ (ไม่เคยครับ) ไม่เคย นั่นหลอกเราอีกแล้ว ใครเคยเลี้ยง คนที่ไม่เคยเลี้ยงก็ได้แต่ดูของคนอื่น ไม่ต่างอะไรกับขอทานแหละ ไม่เคยเลี้ยงไปดูแต่ของคนอื่น ดูแต่ของคนอื่น ปลาที่เลี้ยงง่ายจะได้กำไร ให้กินอาหารไม่แพงและก็เลี้ยงง่าย ในคูน้ำต้องเลี้ยงปลา ต้องเลี้ยงผัก ริมคูน้ำปลูกอะไรดี ริมคูน้ำปลูกอะไรดี ถามคนนู้นหน่อย ริมคูน้ำปลูกอะไรดี (มะพร้าวครับ) ปลูกมะพร้าว เธอปลูกไม่ได้หรอก อย่ามาหลอก ปลูกอะไรดี (ปลูกผักครับ) ปลูกผักอะไร ผักอะไร (ผักบุ้งครับ) ผักบุ้ง ปลูกริมคูน้ำเหรอ เราว่าปลูกตะไคร้ดี ได้ป้องกันดินพัง ที่ริมคูน้ำปลูกตะไคร้ไว้เป็นแถว ตะไคร้ขายได้ต้นละกี่สตางค์ ใครรู้ นี่มันไม่เคยทำทั้งนั้น ไม่เคยทำ ไม่เคยขาย ไม่เคยแม้แต่ปลูกตะไคร้ขาย จึงไม่รู้ว่าตะไคร้ต้นละกี่สตางค์ ใครเคยซื้อตะไคร้ ไม่เคยซื้อเพราะไม่มีเงินไม่มีใครขาย เลยไม่รู้ว่าตะไคร้ขายต้นละกี่สตางค์ ได้ยินเขาว่าตะไคร้ต้นละกี่สตางค์ ไม่มีใครรู้ ไม่รู้ว่าตะไคร้ต้นละกี่สตางค์ เลยไม่คิดจะปลูก ตะไคร้ต้นนึงหลายสตางค์เหมือนกันนะ ปลูกไว้เรื่อยให้มาก เรื่อย ให้รอบบ้านรอบคูน้ำรอบบ้าน ค่าเสื้อค่าผ้าค่าหนังสือเรียนนี่พอแน่ ไม่ต้องขอจากแม่ ปลูกตะไคร้ขายอย่างเดียวพอ เลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่ไว้ขายไข่ก็ยังพอ ทำสวนครัว หลายอย่างที่ทำได้แต่ก็ไม่ได้ทำ เราฟังแต่ทางวิทยุรู้เหมือนกันว่าเขาขายอะไรราคาเท่าไหร่ ผักอะไรแพงที่สุด ใครรู้ ผักอะไรแพงที่สุด หมดท่าเลย หมดท่าเลย นักเรียนของเราหมดท่าเลย ที่เราได้ยินทางวิทยุ ผักชีแพงที่สุด ลูกมะนาวลูกละกี่สตางค์ ลูกมะนาวลูกละกี่สตางค์ กี่สตางค์ เคยซื้อหรือเคยขาย (เคยซื้อ) เคยซื้อเหมือนกันเหรอ ใครเคยขาย ใครเคยขายลูกมะนาว ขายลูกละเท่าไร ยี่สิบห้าสตางค์ เด็ก ๆ ก็ปลูกได้ลูกมะนาว ศึกษาสักหน่อยแล้วก็เป็น ปลูกแล้วไม่ตายแล้วยังออกลูก เราเคยปลูกในปี๊บก็ยังเป็น มะนาวนะ ปลูกในปี๊บก็ยังเป็น ยังเป็นลูก ลืมกันหมดแล้วหรือยังว่าเราจะต้องเป็นอะไรบ้าง ใครยังจำได้เราจะต้องเป็นอะไรบ้าง ใครจำได้ เป็นอะไร (เป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา) เป็นอะไร (เป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์) เป็นอะไร (เป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อน) เป็นอะไร (เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศ) เป็นอะไร (เป็นสาวกที่ดีของพระพุทธเจ้า) ห้า ห้า เป็นได้ห้า อ้าว, กันลืม พูดพร้อมๆกัน พูดพร้อมๆกัน หนึ่ง (เป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา) สอง (เป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์) สาม (เป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อน) สี่ (เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศ) ห้า (เป็นสาวกที่ดีของพระพุทธเจ้า) เป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา พูดมาแล้ว เราจะต้องทำให้บิดามารดาสบายใจชื่นใจดีใจ เป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์ จะต้องเรียนให้ดีให้ถูกใจไม่ให้ครูต้องหนักอกหนักใจ เป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อน ต้องช่วยเหลือเพื่อนทุกอย่างที่ช่วยได้ อย่าทะเลาะกัน อย่าเถียงกัน อย่าทะเลาะกัน เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติ ยังเล็กเด็กอยู่ยังเป็นได้น้อย เขาหมายถึงต้องโต โตไปข้างหน้า เรายังเป็นเด็กทำได้น้อย ก็ทำไปตามเรื่อง เป็นสาวกที่ดีของพระพุทธเจ้า หมายความว่าเป็นหมด เป็นหมด ถ้าเราเป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา เป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์ เป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อน เป็นพลเมืองที่ดีของชาติแล้ว เราก็เป็นสาวกที่ดีของพระพุทธเจ้าด้วยแหละ สูบบุหรี่เป็นสาวกที่ดีของพระพุทธเจ้าได้หรือไม่ได้ เพราะเหตุไร เพราะอะไรเธอ เอ้า, ใครตอบได้ว่าเพราะเหตุไร รู้แต่พระพุทธเจ้าห้ามหรือไม่แนะนำ จัดไว้ว่าเป็นสิ่งที่เสียหาย ไม่ควรทำ กินเหล้า เป็นสาวกที่ดีได้ไม่ได้ (นาทีที่ 38.50-39.07 เสียงไม่ชัด) แล้วครูสูบบุหรี่หรือไม่ อยากให้ตัวเองสูบบุหรี่หรือไม่ ใครอยากเสพเฮโรอีน ใครรู้จักเฮโรอีน ใครรู้จักเฮโรอีน รู้จักที่ไหน หือ, รู้จักที่ไหน ที่กรุงเทพ มีคนรู้จักเฮโรอีนคนหนึ่ง นอกนั้นไม่เคยเห็นใช่ไหม (นาทีที่ 39.45-39.50) อย่าทำสิ่งที่พระพุทธเจ้าห้าม อย่าดื่มน้ำเมา อย่าเที่ยวกลางคืน อย่าหลงไหลการเล่น อย่าเล่นการพนัน อย่าคบคนชั่วเป็นมิตร อย่าเกียจคร้านทำการงาน วันนี้เราพูดกันไปแล้วว่าทำงานให้สนุกเลย ไม่เกียจคร้านทำการงาน นี่แหละเราเรียกว่าปฏิบัติตามพระพุทธเจ้า เอาล่ะ เราก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรมากมาย พูดง่าย ๆ ว่า ปิดภาคนี้ เมื่อไม่ได้เรียนหนังสือ เมื่อหยุดหนังสือ ก็ต้องไปทำงาน ทำงานให้สนุกเลย ให้พ่อแม่ได้ดีใจสบายใจ ลูกเกิดมาสำหรับทำให้พ่อแม่สบายใจ (นาทีที่ 41.00-41.10) ลูกเกิดมาทำอะไร หือ, (นาทีที่ 41.15 – 41.32) เป็นพลเมืองที่ดีต้องรอให้โตไปตามลำดับ ไปทำงานที่มันได้เป็นพลเมืองที่ดี ถึงเวลานี้ยังทำไม่ได้ เรารู้หรือยังว่าเป็นพลเมืองที่ดีต้องทำอะไรบ้าง ใครรู้ ถ้าจะเป็นพลเมืองที่ดีต้องทำอะไรบ้าง ในอนาคต โตขึ้นใหญ่ขึ้นจะเป็นพลเมืองที่ดีจะต้องทำอะไรบ้าง ใครรู้ ไม่ได้เรียนเหรอ ทำอะไรบ้าง (เป็นทหาร) เป็นทหาร ได้ทั้งนั้นถึงไม่ได้เป็นทหารไปเป็นชาวนาไม่ใช่พลเมืองที่ดีเหรอ เป็นพลเมืองที่ดีมีนิดเดียวคือทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด ชาวนาทำนา ชาวสวนทำสวน พ่อค้าค้าขาย ข้าราชการทำให้ดีที่สุด จึงจะเป็นพลเมืองที่ดี ชาวนาก็เป็นชาวนาให้ดีที่สุดจึงเป็นพลเมืองที่ดี เพราะเราจะไปเป็นอย่างเดียวกันหมด ไม่ได้ จะเป็นชาวนากันทั้งหมดประเทศก็ไม่ได้ จะเป็นทหารกันหมดทั้งประเทศก็ไม่ได้ ก็ต้องแบ่งกันทำ เป็นพลเมืองที่ดีที่สุด ต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เป็นพลเมืองดีของชาติ ประเทศชาติจะได้ไม่ยากจน จะได้ดี ในทางที่มีอำนาจ มีกำลัง แต่ว่ายังมีดีกว่านั้น คือเป็นคนดีมีศีลธรรม เป็นคนดีมีศีลธรรม เป็นพลเมืองดีมีประโยชน์ที่สุด เป็นพลเมืองที่มีศีลธรรม เป็นพลเมืองที่ดีของชาติ ไม่มีศีลธรรมมันก็เป็นพลเมืองโกง ได้เป็นอันธพาล เป็นผู้สร้างปัญหา เป็นผู้สร้างปัญหา เอาล่ะ เวลาที่พูดกำลังจะหมด ต้องสัญญากัน ปิดภาคจะทำงานให้สุดความสามารถ ให้พ่อแม่ดีใจชื่นใจสบายใจที่สุดทุกคนเลย ได้ยินหรือไม่ ปิดภาคนี้ไปทำงานให้ดีที่สุด ให้พ่อแม่ชื่นใจสบายใจ สมกับเป็นบุตรเกิดมาทำให้บิดามารดาสบายใจ แล้วมันจะดี ดีแล้วมันก็เป็นคนดี มันไม่เลว คนดีมีแต่ความเจริญเป็นไปในทางที่จะเจริญ และมีความสุข ใครอยากจะให้ออกไปไม่กี่วันแล้วถูกเขายิงตาย ใครอยากล่ะ ใครอยากยกมือสิ ไอ้หนุ่ม ๆ ถูกยิงตายไปเจ็ดแปดคนแล้วนะ ไม่รู้เลยเหรอ เราจะออกไปเป็นคนที่เก้า ที่สิบ ที่สิบเอ็ด ใครจะอยากออกไป เป็นหนุ่มให้เขายิงตาย ที่เขายิงตายเพราะเหตุอะไร เพราะมันทำเรื่องไม่ถูกเรื่องไม่ถูกท่า เราไม่ต้องเป็นแบบนั้น ถ้าไปถูกยิงตายพ่อแม่สบายใจดีใจหรือ พ่อแม่คงจะร้อนเป็นไฟ อย่าทำให้ต้องว่า ออกไปแล้วถูกเขายิงตาย ต้องเก็บตัวนะ พ่อแม่ไม่สบายใจ จะให้พ่อแม่สบายใจก็ทำงาน ทำงานให้ดีที่สุด ใครช่วยเลี้ยงหมู ใครช่วยเลี้ยงหมู ใครช่วยเลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่ มีน้อย ใครช่วยเลี้ยงควาย ใครช่วยเลี้ยงปลา ใครช่วยทำสวนครัว คนนั้นยกมือทั้งนั้นเลย ทำได้ทั้งนั้น ใครจะทำสวนครัว ใครจะทำบ้านเรือนให้สะอาด ต้องทำทุกคนแหละ เอ้า, ใช้ได้ พอ เอ้า, สัญญากันอีกครั้ง หนึ่ง ข้าพเจ้า (ข้าพเจ้า) เป็นบุตรที่ดี (เป็นบุตรที่ดี) ว่าไป ว่าไป (ของบิดามารดา) สอง (สอง) ข้าพเจ้า (ข้าพเจ้า) เป็นบุตรที่ดี (ของบิดามารดา) สาม (ข้าพเจ้าเป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อน) สี่ (ข้าพเจ้าเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติ) ห้า (ข้าพเจ้าเป็นสาวกที่ดีของพระพุทธเจ้า) บุตรคือ ว่าไป บุตรคือ (บุตรคือ) คืออะไร (ผู้ที่เกิดมาแล้วทำให้พ่อแม่ชื่นใจ) บุตรคือ พูดไป บางคนไม่พูด บุตรคือ (บุตรคือผู้ที่เกิดมาแล้วทำให้พ่อแม่ชื่นใจ) บางคนยังไม่พูด พูดไม่เป็น พูดใหม่ พูดอีก (บุตรคือผู้ที่เกิดมาแล้วทำให้พ่อแม่ชื่นใจ) พูดกันไม่พร้อม ไม่เอา พูดให้พร้อม (บุตรคือผู้ที่เกิดมาแล้วทำให้พ่อแม่ชื่นใจ) ใช้ได้ เอ้า, ทำดีแล้วก็ดีมีความสุขไม่ต้องมีใครมาให้พร ให้เสียเวลา ทำดีแล้วก็มีความสุขเพราะความดี ไม่ต้องมีใครต้องให้พร แล้วมันก็ดีมีความสุข ขอให้ทำความดี เอาล่ะ ปิดประชุม หมดเวลาแล้ว ปิดประชุม เอ้า, สวัสดีทุกคนแหละนะ เอ้า, ออกไปได้ ออกไปได้ อย่างนั้นแหละ ออกไปอย่างนั้นแหละ เอาด้านข้างหันมา อย่าสะบัดก้นใส่ ไป เอาข้างขวาหันมา เขาเรียกว่า ประทักษิณ เอาข้างขวาหันมา เขาเรียกว่า ประทักษิณ แล้วก็เดินไปข้างๆ แล้วไปเลี้ยวตามความพอใจ อย่าลุกขึ้นสะบัดก้นใส่แล้วไปตรงๆ