แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ทำอะไรได้บ้างหรือทิด หือ,เพื่อนของเธอทำอะไรได้บ้าง น้ำนมน้ำอะไรก็แล้วแต่ ยืนขึ้นสิ ดีกว่า ร้องเพลงพระคุณของแม่ ใครร้องได้ร้อง เอาสิ ใครร้องได้ร้องสิ ดัง ร้องดังๆ (เสียงเด็กร้องเพลงนาทีที่ 00:55จนถึงนาทีที่ 02:35) อื่อ,เพลงอะไรอีกล่ะ ค่าน้ำนม (เสียงเด็กร้องเพลงนาทีที่ 02:44 จนถึงนาทีที่ 04:25 ) เพลงอะไรอีก หา,นึกไม่ออก เด็กๆก็ร้องได้น่ะ เพลงอะไรอีก ถวายพรเอ่อ,พระราชา เด็ก เพื่อนจะร้องได้หรือไม่ได้ (เสียงเด็กตอบ ไม่ได้) เอ้า,ใครร้องได้ งาม นงลักษณ์ เอ้า,นงลักษณ์ มา เข้ามาใกล้ก็ได้อีกนิดหนึ่ง เข้ามาใกล้อีก เอ้า,(เด็กๆร้องเพลงนาที 05:05จนถึงนาทีที่ 06:28) มีอีกบทหนึ่ง (เด็กๆร้องเพลงนาทีที่ 06:31 จนถึงนาทีที่ 07:22) หมดแล้ว กลับไปนั่ง
เอ้า,นั่ง วันนี้วันอะไรใครตอบได้ยกมือ วันนี้น่ะวันอะไร บางคนยังไม่รู้เลยว่าวันอะไร โอ้,หลายคนนะที่ยังไม่รู้เลย เอ่อ,ไม่อายเพื่อนเหรอ วันอะไร วันอะไร (เสียงเด็กตอบ วันเฉลิมพระชนมพรรษาครับ) เอ่อ,พรรษาใคร พรรษาใคร (พระบรมราชินีนาถ ครับ) เขาเรียกอีกวันหนึ่งว่าวันอะไร อื่อ,ยังมีคนไม่รู้อีก วันอะไร (เสียงเด็กตอบ วันแม่ครับ) วันแม่ วันเอ่อ,วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบรมราชินีนาถด้วย เอ่อ,เป็นวันแม่ด้วย
ใครมีแม่ ยกมือ โอ้,ใครเกิดจากโพรงไม้ ยกมือ เอ้า,ไม่มีหรือทุกคนเกิดจากแม่ทั้งนั้น เอ้า,ที่ต้องพูดก็แม่คืออะไร ใครตอบได้ แม่คืออะไรเอ่อ, เอ้า,คนนี้แหละ แม่คืออะไร (เสียงเด็กตอบ แม่คือผู้ที่แบ่งเลือดเนื้อร่างกายให้เรามาครับ) อือ,ใครอีก ใครตอบได้อีก อือ,เอ้า,คนนี้สักที แม่ (เสียงเด็กตอบ แม่คือเป็นผู้ที่แบ่งเลือดเนื้อร่างกายให้เรามาครับ) เอ้า, ใครตอบแตกต่างไปจากนี้ เล็กๆ ตอบแปลกออกไป ตอบไม่ซ้ำอันนี้ ใคร ใครตอบได้อีก แม่คืออะไร หือ,เอ้า,พลับ แม่คืออะไร เอ้า,ว่าสิ ยกมือแล้วไม่ว่า อือ,นั่นก็เพื่อนตอบแล้ว แม่คือผู้ที่แบ่งเลือดเนื้อชีวิต ร่างกายให้เรามา
ใครตอบได้แปลกจาก จากนี้ ตอบต่างจากนี้ ใครตอบได้ ตอบได้อย่างเดียวทั้งนั้น เหมือนกัน ท่องกันมา ก็ยังดีนะ ยัง ยัง ยังรู้สักนิดว่าแม่คือผู้ที่แบ่งเลือดเนื้อ ชีวิต ร่างกาย ให้เรามา ลูกล่ะ ใครเป็นลูก ใครเป็นลูกของแม่ ใครเป็นลูกของแม่ อื่อ,ใครไม่เป็นลูกของแม่ หือ,เราเป็นลูกทุกคน แล้วถ้าถามว่าลูกล่ะ ลูกคืออะไร ลูกคือใคร ลูกคืออะไร เอ่อ,ลูกคืออะไร ตรงนี้ตอบไม่ได้มาก เอ้า,ข้างนี้ตอบได้มาก เอ้า,ลูกคืออะไร คนนี้ (เสียงเด็กตอบ ลูกที่เกิดมาทำให้พ่อแม่ชื่นใจคะ) ใครอีก ใครอีก อือ,เอ้า,คนนี้ ดัง ๆ (เสียงเด็กตอบ ลูกที่เกิดมาทำให้พ่อแม่ชื่นใจครับ) อือ,ลูกที่ ลูกคือผู้ที่ ลูกคือผู้ที่เกิดมาสำหรับให้พ่อแม่เอ่อ,ชื่นใจ สบายใจ
ใครได้ทำให้พ่อแม่โมโห หือ,ใครได้ทำให้พ่อแม่โกรธ จะไม่จริงแล้วกระมัง เอ่อ,ทีนี้ท่าจะหลอกเราแล้วโว้ย เอ้า,ใครที่ได้ทำให้พ่อแม่โกรธ ใครเคยทำให้พ่อแม่โกรธ ยกมือ โอ้,หมดเลย หมดเลย เอ่อ,จะทำให้พ่อแม่โกรธนี้เป็นบุตรที่ดีของแม่ ของแม่ หรือเปล่า หือ,ใครได้ทำให้ถึงกับพ่อแม่น้ำตาไหล หือ,ใครได้ทำให้ถึงกับพ่อแม่น้ำตาไหล ยกมือ ไม่ได้เอาแม่มาถามด้วยนะ ใครได้ทำให้พ่อแม่น้ำตาไหล ลูกหรือเด็กที่ได้ทำให้พ่อแม่น้ำตาไหลนั้นเป็นลูกชนิดไหนล่ะ หา,เป็นลูกชนิดไหน เอ่อ,นี้ คนนี้แหละตอบมาสิ (เสียงเด็กตอบ เป็นลูกที่เลวครับ) ลูกที่เลว ลูกที่ทำให้พ่อแม่น้ำตาไหลคือลูกที่เลว เลวน้อย หรือเลวมาก หรือเลวที่สุด หือ,อื่อ,เลวที่สุด ลูกที่ทำให้พ่อแม่น้ำตาไหลน่ะคือลูกที่เลวที่สุด เลวมากล่ะ เลวมากแต่ไม่ที่สุดล่ะ คือลูกชนิดไหนล่ะ หือ,ลูกชนิดไหน เอ้า,ยังตอบไม่ได้อีก คนนี้ เอ้า,ลูกชนิดไหน (เสียงเด็กตอบ คือลูกที่ทำให้พ่อแม่ร้อนใจครับ) เออ,คือลูกที่ทำให้พ่อแม่ร้อนใจคือลูกที่เลว เลว เลวมาก ลูกที่ทำให้พ่อแม่น้ำตาตก เลวที่สุด
อื่อ, ลูกที่ไม่ได้ทำให้พ่อแม่ร้อนใจน่ะเป็นลูกที่ดี ลูกที่ทำให้พ่อแม่สบายใจคือลูกที่ดีที่สุด ใครจะเลือกเอาชนิดไหน ใครเอาเลือกเป็นลูกที่ดี ไหนใครเลือกเป็นลูกที่ดีที่สุด ใครเลือกเอาชนิดไหน หือ,เอ้า,ใครสมัครเป็นลูกที่เลว ยกมือ อื่อ,ใครสมัครเป็นลูกที่ดี ยกมือ อื่อ,ใครสมัครเป็นลูกที่ดีที่สุด อื่อ,รู้จักนะ ทำอย่างไรจึงจะเป็นลูกที่ดีที่สุด ถามซ้ำว่าทำอย่างไรจึงจะเป็นลูกที่ดีที่สุด ใครตอบได้ ยกมือ หือ,กลับตอบไม่ได้เสียอีก พูดกันไปหยกๆนี่ว่าใครทำอย่างไรเรียกว่าเป็นลูกที่ดีที่สุด ใครตอบได้ยกมือสูง ไม่กี่คน หลายคนยังฟังไม่รู้เรื่อง ยังฟังไม่รู้เรื่อง ยังนั่งอยู่ อือ,นั่นแหละ คนนั้นแหละเออ, (เสียงเด็กตอบ ทำให้พ่อแม่ชื่นใจครับ) อือ,ทำทั้งนั้นแหละ ทำให้พ่อแม่ชื่นใจคือว่าลูกที่ดีที่สุด บุตรที่ดีที่สุดสำหรับเกิดมาทำให้พ่อแม่สบายใจ
ลูกชนิดไหนเกิดมาจับพ่อแม่ใส่นรก ใครตอบได้ ลูกชนิดไหนที่เกิดมาจับพ่อแม่ใส่นรก อือ,ข้างนี้มาก ข้างนี้ไม่ค่อยมี เด็กผู้ชายเพิ่มมากกว่าเด็กผู้หญิง เด็กผู้หญิงตอบได้มากกว่า ลูกชนิดไหนเกิดมาจับพ่อแม่ใส่นรก เอ้า,คนนี้ คนนี้แหละ (ลูกที่เลวที่สุดครับ) ทำอย่างไรบ้างจับพ่อแม่ใส่นรก ใครตอบได้ ทำอย่างไรบ้างล่ะที่เลวที่สุดจนจับพ่อแม่ใส่นรกน่ะ มันทำอย่างไรบ้าง ใครตอบได้ล่ะ ก็นึกดูสิว่าทำแบบไหนที่แม่ร้อนใจ แม่โกรธ แม่น้ำตาไหล นั้นแหละเขาเรียกว่าจับแม่ใส่นรกจนแม่น้ำตาไหล แม่ไม่ชอบอะไร มันก็ไปทำอันนั้นจนแม่เสียใจ จนแม่โกรธ จนแม่น้ำตาไหล ไม่ไปโรงเรียน ขี้คร้าน ขี้เกียจเรียน ใช้เงินเปลือง ใครเคยขโมยสตางค์ของแม่ หา,ใครเคยขโมยสตางค์ของแม่ ยกมือ,ว้า,ดีทุกคนเลยนะ ไม่น่าเชื่อนะ ใครเคยขโมยสตางค์ของแม่ ไม่ ไม่มี ไม่มีใครเคยขโมย นี่เชื่อ ใครเชื่อว่า ไม่มีใครเคยขโมยสตางค์ของแม่ หือ,ดีนะ ดีนะ ว่าใครเป็นนายธนาคาร เราเบิกเงินได้เรื่อย โดยไม่ต้องฝาก เราไปเบิกเงินได้เรื่อยโดยไม่ต้องเอาเงินไปฝาก ใคร อยู่ที่ไหน ใครรู้ หือ,ใคร อยู่ที่ไหน (เสียงเด็กตอบ แม่) เอ่อ,แม่เป็นนายธนาคารที่เราไปเบิกเงินได้เรื่อยโดยไม่ต้องฝาก แล้วก็ยังเอ่อ,ไม่มีใครขอบใจแม่
คนนี้นั่งสัปหงกแล้ว เสื้อนี้เอามาจากไหน เสื้อที่ใส่นี้เอามาจากไหน หา,คนนี้แหละ เอามาจากไหน ใครซื้อให้ ไม่กล้าตอบ เอามาจากไหน ใครซื้อให้ ใครให้เสื้อ หา,คนนั้น (เสียงเด็กตอบ แม่ครับ) อื่อ,ใครให้กางเกง หือ,ใครให้กางเกง (เสียงเด็กตอบ แม่ครับ) เอ่อ,ใครให้เข็มขัด หา,พูดไปเลยเถอะ (เสียงเด็กตอบ แม่ครับ) มีอะไรอีก หมดเท่านั้นแล้ว มีแต่เสื้อ กางเกง เข็มขัด ในกระเป๋ามีอะไร (เสียงเด็กตอบ ปากกาครับ) ใครให้ (เสียงเด็กตอบ แม่ครับ) อื่อ,แม่ให้ นั่นแหละ วันนี้ต้องคิดบัญชีกันสักที แม่ให้อะไรบ้าง ทีนี้เราล่ะ ให้อะไรแม่บ้างล่ะ หา,เอ้า,ยกมือใครได้ให้อะไรแม่ ยกมือ ใครได้ให้อะไรแม่ ทุกคนเลย เราถามนี้ถามทุกคนเลย ใครได้ให้อะไรแม่บ้าง หา,มีแต่เอาของแม่ คิดดูให้ดีเอาแต่ของแม่ เราไม่เคยให้อะไรแม่
ใครเคยให้กราบแม่บ้างยกมือ ใครเคยให้กราบแม่บ้าง หา,คนนี้เหรอ ใครเป็นพยาน หา,เคยให้กราบแม่ ใครเป็นพยาน มีพยานหรือไม่มี หา,น้อง ไหนคนไหนน้อง คนไหนน้อง โอ้,คนโน้นหรือ พี่มันกราบแม่จริงน่ะหรือ หือ,เอ้า, ดีๆๆๆ ใครอีก ใครเคยให้กราบ แม่บ้าง ไม่มี หมดเลย ทำไมล่ะที่ไม่ได้ให้กราบแม่ แม่ไม่ให้กราบหรือว่าเรามันไม่กราบเองล่ะ
นี้แหละคือว่าขอบพระคุณแม่เอ่อ, ต่อไปนี้ใครจะกราบแม่บ้าง ต่อไปนี้น่ะ ต่อไปข้างหน้า ใครจะกราบแม่บ้าง เออ,ใครไม่กราบ ใครจะไม่กราบ ไหนใครจะไม่กราบ ดูสักทีว่าใครจะไม่กราบ ทุกคนตั้งใจว่าจะกราบพ่อแม่ หมายความว่าเราขอบพระคุณพ่อแม่ เกิดมาให้เสื้อ ให้กางเกง ให้เข็มขัด ให้สตางค์ ขอเงินเมื่อไรก็ได้โดยไม่ต้องเอาไปฝาก เป็นธนาคารที่ประหลาดที่สุดในโลก
ใครรักเราที่สุดในโลก ใครตอบได้ ใครที่เอ่อ,รักเราที่สุดในโลก ๒-๓ คนไม่รู้ ทำไม ๒-๓ คนนี้ไม่รู้ ว่าใครรักเราที่สุดในโลก ๒ คนนี้ไม่รู้ ดู คงจะ ไม่เคย อ้อ,ค่อยๆรู้แล้วเหรอ ลุกขึ้นนิดสิ ใครรักเราที่สุดในโลก อื้อ,ไม่ใช่เขาทำเล่นนะ เขาถามจริงๆนะ อื่อ, คนยกมือสูงน่ะ ใครล่ะ ใครๆๆ คนนี้ตอบสิ ใครรักเราที่สุดในโลก คนนั้นแหละ คนที่นั่งนั่นแหละ เธอนั่นแหละ เอ้า,เธอนั่นแหละ หา,ยกให้สูงๆพูดให้ดังสิ (เสียงเด็กตอบ พ่อครับ) พ่อ พ่อรักเราที่สุดในโลก เอ้า,ใคร คนนี้ๆ (เสียงเด็กตอบ แม่ครับ) แม่ เอ้า,ใครว่าพ่อยกมือ ใครว่าแม่ยกมือ อื่อ,ใครว่าพ่อยกมือ อื่อ,พ่อได้ ๒-๓ มือ นี้แหละโดยมากเหมือนกัน เพราะเหตุใดล่ะ คิดว่าแม่รักเราที่สุดในโลก หือ,นั้นแหละ อะไรก็แม่ อยู่แต่กับแม่ ดูดนมแม่
เมื่อสักครู่นี้ร้องเพลงว่าดูดนมแม่ อือ,น้ำนมของแม่น่ะคืออะไร ใครตอบได้ น้ำนมของแม่คืออะไร เมื่อสักครู่ก็ร้องเพลงไปหยกๆนี่ ว่าอย่างไรที่ตรงนั้น ติ๊ดตรงนั้นเขาว่าอย่างไร หือ,ติ๊ด เธอจำได้ดีว่าว่าอย่างไรที่เรียกน้ำนมของแม่ เอ้า,โง่จริง ร้องใหม่ ร้องใหม่ ปรับ ร้องใหม่ ร้องใหม่ ร้องใหม่ น้ำนมของแม่ร้องใหม่ (เด็กๆร้องเพลงนาทีที่ี 24:28) ร้องให้ดัง ร้องให้ดังๆ (เด็กๆร้องเพลงจนถึงนาทีที่ 26:19) อือ,น้ำนมนั้นอะไรล่ะ หา,ใครตอบได้ นึกได้ล่ะ เอ้า,โอ้ว่าแม่จ๋า ร้องอีกที โอ้ว่าแม่จ๋า เอ้า, (เด็กๆร้องเพลงนาทีที่ 26:31 จนถึงนาทีที่ 26:45) ร้องอีกที โอ๋ว่าแม่จ๋า (เด็กๆร้องเพลงนาทีที่ 26:47จนถึงนาทีที่ 26:59 ) อื่อ,ร้องอีกที ให้ดังกว่านี้ (เด็กๆร้องเพลงนาทีที่ 27:01 จนถึงนาทีที่ 27:14) เอ่อ,คงจะจำได้แล้วทีนี้ คงไม่ลืม
น้ำนมนั้นทำมาจากอะไร เอ่อ,ทีนี้ตอบได้หมดเลย ถ้าตอบได้หมดเราไม่ถาม ใครกินเลือดในอกของแม่ อือ,พูดตามๆเขาหรือว่ารู้เอง อันนี้ รู้เองหรือ ถึงไม่ได้เห็นกับตาก็รู้ได้นะว่าน้ำนมของแม่นั้นเกิดมาจากเลือดของแม่ในอกของแม่กลายเป็นน้ำนม แล้วเราก็กิน แล้วก็มาเป็นชีวิตที่แม่แบ่งให้เรา เลือดเนื้อที่แม่แบ่งให้เรา ร่างกายที่แม่แบ่งให้เรา นั้นแหละเรียกว่าบุตร ฉะนั้นมันต้องรู้สึกล่ะ ลูกมันต้องรู้สึกแหละว่ามันใหญ่เกิดเติบโตขึ้นมาด้วยเลือดเอ่อ,ในอกในนมของแม่
เอามาคิดดูเถอะ จะได้มองเห็นด้วยตนเองว่าแม่รักเราที่สุด เกิดเรามา เลี้ยงเรามาให้ทุกอย่าง ต้องการอะไรก็หาให้ทุกอย่าง ใครรักเราที่สุดในโลก เอ่อ,คงจะไม่มีปัญหาแล้ว ใครรักเราที่สุดในโลก ทีนี้เราล่ะ รักใครที่สุดในโลก เรารักใครที่สุดในโลก เรา คนนี้ล่ะ (เสียงเด็กตอบ แม่ครับ) กลัวจะไม่จริงกระมัง พูดกันแล้วต้องจริงนะ เรารักแม่ที่สุดในโลก ไม่ต้องทำให้แม่ร้อนใจ
ลูกที่ทำให้แม่ร้อนใจเขาเรียกว่าลูกอะไรเอ่ย หา,ใครตอบถูก ลูกที่ทำให้แม่ร้อนใจ เอ่อ,เรียกว่าอะไร (เสียงเด็กตอบ ลูกที่เลวครับ) อื่อ,ลูกที่เลว เขาเรียกอีกชื่อนะ เรียกอีกชื่อ ไม่ใช่ว่าเรียกว่าลูกที่เลว เขาเรียกอีกชื่อเขาเรียกว่าลูกอะไร (เสียงเด็กตอบ ทำให้พ่อแม่เดือดร้อนครับ)ไม่เอา ลูกที่เลวทำให้พ่อแม่ร้อนใจ ลูกที่ทำให้พ่อแม่ร้อนใจ เขาเรียกว่าลูกที่เลว ลูกที่ทำให้พ่อแม่ร้อนใจเขาเรียกว่าอะไรอีก เรียกชื่ออื่น ใครรู้ อื่อ,ไม่ค่อย ไม่ค่อย ไม่ค่อยสังเกต ไม่ค่อยจดจำ ลูกอะไร (เสียงเด็กตอบ ลูกที่เลวที่สุดครับ) ลูกที่เลวที่สุดเท่านั้นเอง เขาเรียกว่าลูกเนรคุณ ใครเคยได้ยินบ้างลูกเนรคุณ ใครเคยได้ยินคำว่าลูกเนรคุณ ใครเคยได้ยินบ้าง เอ่อ,เด็กๆพวกนี้อยู่ที่ไหนไม่เคยได้ยิน
ถ้าไม่เนรคุณเขาเรียกว่าลูกกตัญญู รู้คุณของพ่อแม่เขาเรียกว่า ลูก ลูกกตัญญู ถ้าลูกตอบแทนคุณของแม่ด้วยเขาเรียก ลูกกตเวที ลูกไม่รู้คุณของพ่อแม่เอ่อ, เรียกว่าลูกเนรคุณ อื่อ,ถ้ารู้คุณของพ่อแม่ เรียกลูกกตัญญู กตเวที ตอบแทนด้วย ใครอยากเป็นลูกอกตัญญู ใครอยากเป็นลูกกตัญญู นี้ยังฟังไม่เข้าใจหลายคน ใครอยากเป็นลูกอกตัญญู อื่อ,นี้ตามเพื่อน เอ่อ,ใครเป็นลูกเนรคุณยกมือ ใครเป็นลูกเนรคุณ ไม่รู้บุญคุณของพ่อแม่ ทำให้พ่อแม่เอ่อ,โกรธ ทำให้พ่อแม่โมโห ทำให้พ่อแม่ร้อนใจ กระทั่งทำให้พ่อแม่น้ำตาไหล คงไม่มีนะ
วันนี้วันแม่ เขาก็มาคิด มานึก มาปรึกษา มาพูดจากันเรื่อง แม่ อื่อ,เราก็เลยพูดกันเรื่องแม่ เรื่องแม่ เรื่องลูก
แมว มีแม่หรือไม่มี หือ,แมวมีแม่หรือไม่มี มีหรือไม่มี ใครว่ามี เอ่อ,เธอมีแม่หรือว่าไม่มี ใครว่ามี เธอกับแมวไม่ต่างกันสิถ้าอย่างนั้น เธอกับแมวก็เหมือนกัน เออ,เรามันต่างกันอย่างไรล่ะ เรากับแมวน่ะต่างกันอย่างไร แม่ก็ แมวก็มีแม่ เราก็มีแม่ และเราก็เป็นลูกแม่ แมวก็เป็นลูกแม่แมว เราต่างกันอย่างไรกับแมว ใครตอบได้ ใครตอบได้จะให้รางวัล
เอ้า,เอ่อ,ชิต ไปเอามาทีไอ้รูปโปสการ์ดห่อเท่านี้ อยู่ที่ข้างเก้าอี้นอน ไม่ใช่ เขาห่ออยู่ข้างใน ห่อเป็นรูปสวยๆน่ะไปเอามาเถอะ นี้มัดหนาเท่านี้ นี้เท่านี้ วางอยู่ข้างเก้าอี้ที่นอนข้างนอกน่ะ อยู่ข้างๆน่ะ
เอ้า,ใครตอบได้ปัญหานี้ยากสักนิด ใครตอบได้ แมวก็มีแม่ เธอก็มีแม่ แล้วเธอกับแมวต่างกันอย่างไร เอ้า,ใครตอบได้ อื่อ ไหนคนเดียว เอ้า, ๒ คน ๓ คน ๔ คน อื่อ,ต้นไม้นี้ล่ะมีแม่หรือไม่มี หือ,ต้นไม้ต้นนี้มีแม่หรือไม่มี ใครรู้ว่าต้นไม้ต้นนี้มีแม่หรือไม่มี มีหรือไม่มี หือ,ใครว่ามี เออ,ใครว่าไม่มี
ดูสิ ดูสิ ดูเด็กๆ เด็กนักเรียนของเรา หือ,ต้นไม้ต้นนี้ มีแม่หรือไม่มี ใครว่ามี เออ,ใครว่าไม่มี นี้รู้ คนนี้มีคนเดียว มีคนเดียวที่ว่า ต้นไม้ไม่มีแม่ ต้นไม้มีลูกหรือไม่มี หา,(เสียงเด็กตอบ มี) ใครว่าไม่มี อื่อ,ต้นไม้ยังมีลูก ก้อนหินนี้ล่ะ มีแม่หรือไม่มี (เสียงเด็กตอบ ไม่มี) ไม่มี เอ้า,ใครว่าก้อนหินก็มี ก้อนหินก็มีแม่ ไม่มี แล้วมันมาจากไหน ถ้าก้อนหินนี้ไม่มีแม่ มันมาจากไหน มันคงจะมีกระมัง มีหรือ หา,ถ้าไม่มีมันมาจากไหนล่ะ มีหรือ มาจากไหนล่ะ (เสียงเด็กตอบ มาจากดินครับ) มาจากดิน เอ่อ, ใครเห็นด้วยว่าก้อนหินมาจากดิน เอาที่ง่ายๆก่อนเถอะ ที่พอมองเห็นก้อนหิน ก้อนนี้มาจากไหน หา,มาจากไหน มาจากไหน ใครตอบได้ เออ,ก้อนหินก้อนนี้มาจากไหน เขาเอามาจากภูเขานะ เขาเอารถยกมาจากภูเขา มันออกมาจากภูเขา เรียกว่าภูเขาเป็นแม่ก็ได้ มันแตกมาจากภูเขา ผู้ให้กำเนิดน่ะคือภูเขา ให้กำเนิดไอ้ก้อนหินนี้มา ต้นไม้ก็มีแม่ แมวก็มีแม่ เราก็มีแม่ ควายล่ะมีแม่หรือไม่มี (เสียงเด็กตอบ มี) เอ่อ,ไม่ต้องพูดนะ สัตว์มีแม่ด้วยเหมือนกัน เราก็เลยเหมือนกันหมดสิ
มันต่างกันตรงไหน เออ,ทุกคนมีแม่เหมือนกันหมด มันต่างกันตรงไหนล่ะ ที่จะพอต่างกันได้บ้าง ต่างกันตรงไหน เอ้า,ตอบได้ให้รางวัล เด็กนักเรียนที่โตๆน่ะ ต่างกันตรงไหน แมวก็มีแม่ หมาก็มีแม่ หมูก็มีแม่ ควายก็มีแม่ เธอก็มีแม่ มันต่างกันตรงไหนล่ะ ไม่มีใครตอบหรือ เอ้า,ใครตอบได้ ใครมีปัญญาพอจะตอบได้สักคำหนึ่ง หือ,เอ้า,งาม ตอบ ต่างกันตรงไหน ไม่ค่อยได้ยิน ตอบให้ดังกว่านั้นสักหน่อย อื่อ,หมาก็มีแม่ แมวก็มีแม่ ไก่ก็มีแม่ หมูก็มีแม่ ควายก็มีแม่ เราก็มีแม่ เราต่างกันอย่างไร หือ,ใครตอบได้ เมื่อประเดี๋ยวตรงนี้ยกมือแล้วไปไหนเสียแล้วล่ะ หือ,สิษฐ์ละ ต่างกันอย่างไร อื้อ,ตอบให้ดังๆได้ยิน ให้เพื่อนได้ยิน เราต่างจากแมวอย่างไร อื่อ,อื่อ,แล้วมันต่างกันตรงไหนล่ะ ลูกสัตว์กับลูกคน ลูกมนุษย์ต่างกันตรงไหน ลูกแมวกินนมหรือเปล่า (เสียงเด็กตอบ กิน) อื่อ,ลูกแมว แม่แมวก็เลี้ยงมา ให้กินนมเหมือนกัน ถ้าต้องการให้เห็นว่าต่างกันชัดๆนั้น ต่างกันตรงไหน ลูกคนกับลูกสัตว์ต่างกันตรงไหน
ลูกคนรู้จักบุญคุณของแม่ ลูกสัตว์นั้นรู้จักบุญคุณของแม่หรือเปล่า หือ,ลูกสัตว์น่ะ รู้จักบุญคุณของแม่เหมือนกับลูกคนหรือเปล่า ใครว่าลูกสัตว์ก็รู้จักบุญคุณของแม่ ใครว่าไม่รู้ นึกเอาเอง ทำอย่างไรถึงรู้จิตใจของสัตว์ล่ะ ถ้าเกิดว่ามันรู้บุญคุณของพ่อแม่แล้วเราก็ผิดหมดสิ เอาล่ะ,เรามันเป็นมนุษย์คิดนึกได้มาก เรารู้จักบุญคุณของแม่ เอ่อ,โตแล้ว ใหญ่แล้วก็ยังรู้จักบุญคุณของแม่ ต่อไปจากนี้เป็นหนุ่ม เป็นสาว เป็นคนใหญ่ คนเฒ่าแล้วก็ยังรู้จักบุญคุณของแม่ ไอ้สัตว์เดรัจฉานนั้นน่ะไม่มีปัญญา ไม่มีความคิดนึกที่จะรู้จักบุญคุณของแม่ เพราะฉะนั้นมันจึงไม่เหมือนกัน
อือ,คือถ้าคน ลูกคนเกิดไม่รู้จักบุญคุณของแม่นี้จะว่าอย่างไร หือ,สัตว์เดรัจฉานที่ไม่รู้จักบุญคุณของแม่ อือ,ถ้าเด็ก ก็ไม่ ลูกคนนี้ก็ไม่รู้จักบุญคุณของแม่ จะต่างกันตรงไหน ต่างหรือไม่ต่าง อื่อ,ใครว่าไม่ต่าง ฟังไม่เข้าใจ เด็กๆฟังไม่เข้าใจ ใครว่าต่างกัน หือ,เด็กๆก็ไม่รู้จักคุณของแม่ ลูกสัตว์ก็ไม่รู้จักคุณของแม่ แล้วมันต่างกันตรงไหน ใครเลวกว่า ลูกหมาที่ไม่รู้จักบุญคุณของแม่กับลูกคนที่ไม่รู้จักบุญคุณของแม่นี้ใครเลวกว่า หรือเลวเท่ากัน ใครเลวกว่า หา,เธอนั้นแหละ ตอบ เธอตอบสิ เธอนั้นแหละตอบ หา,ว่าอย่างไรนะ (เสียงเด็กตอบ เลวเท่ากันครับ) เลวเท่ากัน
เอาล่ะ คิดๆเก่ง เอ้า,คนนี้ล่ะ อันไหน เลวกว่า สัตว์เลวกว่า เอ้า,ฟังให้ดีๆนะ ไอ้ลูกหมาก็ไม่รู้บุญคุณของแม่ ไอ้ลูกคนนี้ก็ไม่รู้บุญคุณของแม่ ๒ คน ๒ ลูกนี้ ใคร ลูกไหนเลว เลวกว่า หือ,เอ้า,คนนี้ (เสียงเด็กตอบ ลูกหมาครับ) ลูกหมาเลวกว่า นี้เด็กยังไม่เข้าใจ ยังไม่รู้จักเปรียบเทียบกันดู มันไม่รู้จักความหมายของคนหรือของ เป็นลูกคนทั้งทีไม่รู้จักบุญคุณของแม่ เป็นลูกหมาไม่รู้จักบุญคุณของแม่ ก็พอได้แล้วกระมัง พอจะเป็นลูกหมาได้แล้วกระมัง แต่เราเป็นลูกคนทั้งที ไม่รู้จักบุญคุณของแม่ ลูกหมากับลูกคนล้วนแต่ไม่รู้จักบุญคุณของแม่ ลูกไหนเลวกว่า เอ่อ,ลูกไหนเลวกว่า คนนี้ ใคร ลูกใครเลวกว่า (เสียงเด็กตอบ คนครับ) นี้เริ่มเข้าใจแล้ว เป็นลูกคนทั้งที ไม่รู้จักบุญคุณของแม่ ไอ้ลูกหมาไม่รู้จักบุญคุณของแม่นี้ก็พอได้แหละ พอสม แต่ว่าลูกคนไม่รู้จักบุญคุณของแม่
ทีนี้เราก็เตรียมตัวสิ เตรียมตัวสำหรับที่จะรู้บุญคุณของแม่ให้มาก ให้มาก ยิ่งๆขึ้นไปกว่าที่แล้วมา คุณพระบิดรเหมือนพสุธา คุณพระมารดาดุจเวหากว้าง วันก่อนพูดกันครั้งหนึ่งแล้วนะ อะไรใหญ่กว่า หือ,พระ คุณพระบิดรเหมือนกันแผ่นดิน เอ่อ,คุณแม่ มารดาเหมือนกับเวหากว้าง แผ่นดินกับเวหา อะไร อะไรกว้างกว่า อะไรใหญ่กว่า ใครตอบได้ หือ,เอ่อ,เก่งนี่ เอ่อ,หลายคน เอ้า, แผ่นดินกับฟ้า อะไรใหญ่กว่า คนนี้ว่ามา อะไรใหญ่กว่าแผ่นดินกับฟ้า หา,ใครว่าฟ้าใหญ่กว่า อื่อ,ใครว่าแผ่นดินใหญ่กว่า ใหญ่กว่าฟ้า รู้ได้อย่างไรนี่ รู้ได้อย่างไรว่าแผ่นดินเล็กกว่าฟ้า ไอ้เรื่องนี้พิสูจน์ยากแหละ ที่เขาพูด เขาเล่าเรียนกันมา มันก็ต้องเป็นอย่างนั้นแหละ เพราะฟ้ามันที่ว่างมันมากกว่าที่ ที่ไม่ว่าง ในจักรวาลนี้ที่ว่างมันมาก กว่าที่ที่ไม่ว่าง
คนนั้นพูดว่าคุณพ่อเหมือนแผ่นดิน คุณแม่เหมือนฟ้า คนนั้นเขาหมายความว่าอันไหนมากกว่า หือ,คุณพ่อมากกว่า หรือคุณแม่มากกว่า เขาว่าคนไหนมากกว่า คนนี้ว่าคนไหนมากกว่า เอ้า,คนนี้ตอบ (เสียงเด็กตอบ คุณแม่มากกว่าครับ) เออ,คนนั้นเขาพูดว่าคุณแม่มากกว่า เธอเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย หือ,ใครเห็นด้วย ใครไม่เห็นด้วย ไม่ ไม่มี ไม่ ไม่มีผู้กล้าคิด ได้ยิน ได้อะไรมา แล้วก็เชื่อตามหมดไม่กล้าคิด เอาล่ะ,เมื่อสักครู่เราก็ตกลงตอบตามความรู้สึกของเรา เราคิดว่าแม่มีคุณมากกว่า แต่เขาสอนให้คิด ลึกกว่านั้นนะ ถ้าอยู่แต่เรากับแม่มันจะอยู่ไม่ได้ ต้องมีพ่อมาช่วยด้วยนะ ส่วนที่มันยังมองไม่เห็นนี้ยังมี ถ้าขาดพ่อหรือขาดแม่ก็อยู่ไม่ได้ ขาดพ่อที่เป็นกำลังสำคัญในการคุ้มครอง เอ่อ,แม่หรือลูกก็อยู่ไม่ได้ ไม่ปลอดภัย คนบางพวกเขาว่าคุณพ่อมากกว่า คนบางพวกเขาว่าคุณแม่มากกว่า ตามความรู้สึกของเธอก็รู้สึกว่าคุณแม่มากกว่า คือเด็กๆเห็นได้ง่าย เด็กๆรู้สึกได้ง่าย ว่าคุณแม่มากกว่า ไม่มีอะไรก็ไปขอแต่แม่
วันนี้เป็นวันแม่ ก็พูดกันแต่เรื่องแม่ ก็เอา ใครตอบให้ดีกว่าธรรมดาว่า แม่เป็นอะไรกับเรา แม่เป็นอะไรกับเรา แม่คือใคร แม่เป็นอะไรกับเรา เอ้า,ตอบอีกที ใครตอบได้ยกมือ แม่เป็นอะไรกับเรา อื่อ,มี ๒ คนหรือ เมื่อประเดี๋ยวตอบได้มากเหลือ ๒ คนแล้ว เอ้า, ๒ คนก็เอา คนนี้แหละเอา คนนี้ตอบสิ แม่เป็นอะไรกับเรา (เสียงเด็กตอบ เป็นลูกที่ดีของบิดามารดา ครับ) แม่เป็นอะไรกับเรา แม่เป็นอะไรกับเรา หือ, (เสียงเด็กตอบ เป็นผู้ที่แบ่งเลือดเนื้อ จิตใจ ร่างกายให้เรามาครับ) อันนี้ตอบเหมือนกับทุกคนแล้ว ทุกคนตอบว่าแม่เป็นผู้ที่ให้ชีวิต เลือดเนื้อร่างกาย ทีนี้ใครตอบให้ดีกว่านี้อีก ให้ลึกซึ้งกว่านี้อีก ให้น่าอัศจรรย์กว่านี้อีก แม่เป็นอะไรกับเรา เป็นอะไร (เสียงเด็กตอบ เป็นผู้ที่เกิดเรามาครับ) ไม่ ไม่ดีกว่า ไม่ดีกว่าเป็นผู้ที่ให้ชีวิตเลือดเนื้อร่างกายกับเรา ให้ตอบให้ลึกซึ้งกว่านี้อีก ใครมีปัญญา เด็กคนไหนมีปัญญา ตอบว่าแม่คืออะไร
แม่สร้างเรามาก็เหมือนพระพรหม แม่เป็นอาจารย์อบรมให้เราดีก็ได้ ชั่วก็ได้ เลว เอ่อ, ดีก็ได้ เลวก็ได้ นี้ล่ะแม่เป็นอาจารย์ของเรา และถึงกับว่า ใครรักเราที่สุดในโลก ข้อนี้ ใครรักเราที่สุดในโลก แม่ ใช่หรือไม่ใช่ (เสียงเด็กตอบ ใช่) เอ่อ,ไม่ใช่แต่ว่าให้เลือดเนื้อ ชีวิต ร่างกายอย่างเดียว แม่ยังรักเราที่สุดในโลก แม่ทั้งโลก แม่ทั้งโลก มีกี่คนใครรู้ ใครรู้ แม่ทั้งโลกมีกี่คน ไม่มีใครรู้ ประมาณ ใครลองประมาณว่าแม่ในโลกทั้งหมดมีกี่คน ใครลองประมาณหน่อย เอ้า, ประมาณตามชอบใจนี้ ไม่มีใครว่า เอ้า,มีสักกี่คน กี่คน งาม,กี่คน หา,หา,นับไม่ถ้วน เขาให้ประมาณ นับไม่ถ้วนเสียอีก เอาล่ะ เท่าที่มีในโลกนี้แหละ แล้วก็แม่ทุกคน รักลูก ถ้าเกิดมีแม่ที่ไม่รักลูกก็ไม่เป็นแม่ บาง บางผู้หญิงบางคนเขาไม่รักลูก เขาเอาลูกไปโยนน้ำนะ มันก็ไม่ใช่แม่ ถ้ายังเป็นแม่ก็รักลูก มารดาทุกคนในโลก มากมายเหลือประมาณล้วนแต่รักลูก และผู้ที่รักลูกที่สุดในโลกก็คือแม่ ฉะนั้นแม่เป็นผู้ที่ควรบูชาเอ่อ,สูงสุดในโลก เป็นพระอรหันต์ของโลก ก็หมายถึงว่าผู้ที่ควร ควรบูชาที่สุดน่ะเป็นพระอรหันต์ ผู้ควรบูชาที่สุด ก็เลยได้แก่แม่ อาหุนัยยา จะพุทธานัง (นาทีที่ 50:47) เป็นผู้ควรของบูชา ของที่ควรบูชามีเท่าไรนะก็ว่าสมควรกับแม่ อือ,ใครจะบูชาแม่ยกมือ ยังไม่เข้าใจ ต่อไปนี้ใครจะบูชาแม่
เอ่อ,ทำอย่างไรเรียกว่าบูชา ใครตอบได้ เอ้า,ทำอย่างไรเรียกว่าบูชาแม่ ใครตอบได้ เอ้า,ยกมือให้สูง ใครตอบได้ เอ้า,๕ คน เอ้า, คนนี้ก่อน เอ้า,ทำอย่างไรบูชาแม่ (เสียงเด็กตอบ กราบไหว้) เอ้า,คนนี้ละ ทำอย่างไร (เสียงเด็กตอบ กราบไหว้) เอ้า,เหมือนกัน คนนี้หรือ เอ้า,เอาอย่างกันหมด คนนี้ล่ะ ทำอย่างไรเรียกว่าบูชาแม่ (เสียงเด็กตอบ กราบไหว้ครับ) อือ, เอาอย่างเพื่อนหรือ เอาอย่างคนแรก พูดว่ากราบไหว้ ก็กราบไหว้กันหมด ใครตอบได้ดีกว่านั้น บูชาแม่ทำอย่างไร หือ,ใครตอบได้ ที่แปลกออกไปจากนั้น ให้ดีกว่านั้น เราว่าจะให้รางวัล เลยไม่ได้ให้ ตอบให้ดีกว่านั้นแล้วจะให้รางวัล บูชาพระคุณของแม่ กราบไหว้นั้นจริงนั่นแหละถูกแล้วแหละ เขาเรียกว่าการบูชา กริยาอาการในการบูชา แต่ถ้ายิ่งไปกว่านั้น ก็ยังทำได้นี่ ทำอย่างไรบ้าง ให้ยิ่งไปกว่ากราบไหว้ หือ,ใครตอบได้ เอ้า,ทำอย่างไร เอ้า,ใครอีก เอ้า,นี่ตอบแปลกเพื่อน ต้องให้ ต้องให้รางวัลพูดแล้ว ก็ต้องให้รางวัล เอ้า,ให้ เอ้า,งาม มาเอา งามมาเอานี่เราให้รางวัล รูปสวยๆ ทำความดีให้พ่อแม่สบายใจ นี้รูปพระพุทธเจ้าประสูติ เอ้า,ใครตอบได้เราให้รางวัลอีก ทำอย่างไรล่ะที่เรียกว่าบูชาพระคุณของแม่ ยิ่งไปกว่าเพียงแต่กราบๆไหว้ๆ เธอเอาเปรียบไม่ลงทุนอะไร เอาแต่กราบๆไหว้ๆ ก็ต้องลงทุนนะ เหน็ดเหนื่อยนะ แล้วให้พ่อแม่สบายใจ ด้วยความเหน็ดเหนื่อยของเรา
เอ้า,ทำอย่างไรเรียกว่าบูชาพระคุณของพ่อแม่ให้ยิ่งขึ้นไปกว่าการกราบไหว้ ใครตอบได้ ไม่ตอบได้ ไม่สนใจ ไม่คิดไม่นึก ก็ทำทุกอย่างให้พ่อแม่สบายใจ ทำทุกอย่างให้พ่อแม่สบายใจ ลูกคือผู้ที่เกิดมาสำหรับทำบิดามารดาให้สบายใจ ให้ชื่นใจ ทีนี้เราจะต้องทำให้บิดา มารดาสบายใจ ชื่นใจ เอ้า,ใครจะทำอย่างไร ใครมีวิธีทำอย่างไร ให้พ่อแม่ชื่นใจยกมือ ใครตอบได้ยกมือ เอ่อ,ทำอย่างไรให้พ่อแม่สบายใจ ชื่นใจ ใครตอบได้ยกมือ โง่หมด ใครได้ช่วยทำงานให้พ่อแม่ ทุกวันๆ ใครได้ช่วยทำงานให้พ่อแม่ อื่อ,ทำอะไร เธอ หุงข้าว เอ้า,เธอ ทำอะไร อื่อ,เล็กๆนี่หุงข้าวได้หรือไม่น่าเชื่อ เธอล่ะทำอะไร เอ่อ,หุงข้าว ล้างถ้วย กวาดขยะ เอ้า,ใครทำอะไรแปลกออกไป ทำอะไรคนโน้นทำอะไร หา,เอ้า, อันนั้นเหมือนกัน หุงข้าว ล้างถ้วย กวาดขยะ ใครทำอะไรมากกว่านั้นอีก งานมีเท่านั้นหรือที่บ้านนะ หา,ใครช่วยเลี้ยงน้อง ยกมือ แล้วทำไมไม่ตอบ ใครช่วยเลี้ยงหมู เอ่อ,ใครไม่มีหมู ช่วยเลี้ยงไก่ เอ่อ,ถ้าเด็กผู้ชายชอบเลี้ยงไก่ เด็กผู้หญิงชอบเลี้ยงหมู อย่าให้แม่เหนื่อย ใครช่วยทำสวนครัว ใครช่วยเลี้ยงควาย เอ่อ,ขี้เกียจ แถบนี้ขี้เกียจทั้งนั้น ไม่ช่วยเลี้ยงควาย แม้แต่ควาย เอาล่ะ,ยกเลิกกันทีที่ไม่ทำนะ ต่อไปต้องทำนะ ต่อไปต้องทำทุกอย่าง ทุกประการให้พ่อแม่สบายใจ ให้พ่อแม่สบายใจ
ใครทำให้พ่อแม่ร้อนใจ ให้พ่อแม่โมโห อันนี้เขาเรียกว่า มันฝ่ายไม่ดี ฝ่ายลบ ฝ่ายขาดทุน ถ้าพ่อแม่ไม่สบาย เราจะทำอย่างไร เอ้า,ใครตอบได้ ถ้าพ่อแม่ไม่สบายเราจะทำอย่างไร ใครตอบได้ ใครเห็นว่าแม่ พ่อ ไม่สบาย ว่าเราไม่ได้ หนีไปเที่ยวเลย เอ้า,ใครหนีไปเที่ยวเลย ยกมือ หือ,จะไม่จริงแล้วกระมัง เอ้า,ใครจะทำอย่างไร พูดมาเถอะว่าเมื่อพ่อแม่ไม่สบาย ใครจะทำอย่างไร ตอบให้ดีที่สุดให้รางวัล รูปที่สวยที่สุด นี่รูปนี้สวยที่สุด เมื่อพ่อแม่ไม่สบายเจ็บไข้ เราจะทำอย่างไร เธอนั่นแหละตอบ หือ,เอ้า,นิ่งเสียอีก ยกมือแล้วทำไมนิ่งเสียอีก เอ้า,เธอจะทำอย่างไร (เสียงเด็กตอบ พาไปส่งโรงพยาบาลครับ)โอ้,พาไปส่งโรงพยาบาล เรามันขี้เกียจแล้วโว้ย เอาไปส่งโรงพยาบาลให้พ้นๆสักที เอ้า,ใครจะทำอย่างไร หือ,ทำอย่างไร นั่นแหละเมื่อพ่อแม่ไม่สบายเราจะทำอย่างไร ทำอะไร เอ้า,คนนี้ (เสียงเด็กตอบ คอยดูแลรักษา) อือ,คอยดูแลรักษา ได้เหมือนกันแหละ ถ้าเหลือเกินก็ต้องไปส่งโรงพยาบาล แต่ว่าถ้าอะไรที่แม่ทำไม่ได้ เมื่อแม่ไม่สบายเราต้องทำแทนนี้แหละ นี้แหละดี พ่อแม่ไม่สบาย ทำไม่ได้ อะไรที่พ่อแม่เคยทำ เราทำแทนอย่าหนีไปเที่ยว อย่าละเลยนะ ถ้าจะต้องเอ่อ,หายาให้กิน ก็หายาให้กิน ถ้าต้องช่วยบีบ ช่วยนวด ช่วยทุบ ช่วยกด ช่วยอะไรก็ เอ่อ, ช่วยสิ ทำให้สุดความสามารถ ในเมื่อแม่เจ็บไข้ช่วยอะไรได้กี่อย่างก็ต้องช่วย เรากลัวว่าเด็กบางคน ถ้าเห็นพ่อแม่ห้ามปรามไม่ได้ พูดจาไม่ได้นอนเจ็บนอนไข้ หนีไปเที่ยวเสียเลย สบายใจเลย ไม่คิดถึงคุณของพ่อแม่เวลาพ่อแม่เจ็บไข้ เวลาแม่แมวไม่สบาย ลูกแมวยังมาช่วยเลียนะ เราเห็นนะ เวลาแม่แมวไม่สบาย ลูกแมวมาช่วยเลีย ช่วยเลียให้แม่แมวสบาย สบายใจ เพราะมันรัก มันรัก มันรักพ่อแม่เหมือนกัน
สำหรับพูดเรื่องแม่ วันแม่ก็พอสมควรแล้ว สรุปความสั้นๆไว้ จำไว้ให้ได้ทุกคน แม่คืออะไร เอ้า,ซ้อมความจำอีกทีหนึ่ง แม่คืออะไร อือ,เอ้า,ใครตอบให้ดีที่สุด แม่คืออะไร (เสียงเด็กตอบ แม่คือผู้ที่แบ่งเลือดเนื้อร่างกายให้เรามา) เอ้า,นั้นแหละท่องมาแล้ว แม่คือผู้ที่ให้ชีวิตเลือดเนื้อร่างกายแก่เรามา อื่อ,ใครมองไม่เห็นว่าเราคลอดเกิดมาจากแม่ เรากินเลือดเอ่อ,ของแม่ คือน้ำนม แล้วเราก็ใหญ่ขึ้นมา พ่อแม่ให้ข้าวปลาอาหาร ให้เสื้อให้กางเกง ให้กระโปรง ให้เข็มขัด ให้เอ่อ,ทุกอย่าง เราต้องการเงินเมื่อไรขอจากแม่ได้ แต่เราไม่เคยให้ เอาไปให้แม่ ทีนี้เมื่อเราโตขึ้นแล้ว เราก็ต้องตอบแทนคุณของพ่อแม่ ใครคิดว่าเวลาโตแล้ว ทำงานหาเงินได้แล้ว จะให้พ่อแม่บ้าง ใครคิด ใครคิดว่าถ้าโต เรียนหนังสือ ทำงานได้ ได้เงินแล้วก็จะให้พ่อแม่บ้าง ใครคิด อื่อ,ฟังไม่เข้าใจ ไม่คิด หลายคน
เมื่อสัก ๑๐ วันมาแล้ว มีแม่แก่ๆคนหนึ่งมาหาเรา ร้องไห้ บอกว่าไปกู้เงินเขามานะ ให้เด็กลูกหัวปีไปเรียน เด็กหัวปี ลูกหัวปีไปเรียนนะ แล้วก็มันเรียนจบได้สำเร็จ แล้วมันทำการทำงานได้แล้ว มันไม่ให้เงินพ่อแม่เลย มันถูกหรือ พ่อแม่ไปกู้เงินของคนอื่นมา เอานาไปจำนำ แล้วก็เอาเงินมาให้ลูกคนหัวปีไปเรียน พอมันเรียนสำเร็จ ทำงานได้เงินแล้ว มันไม่ให้พ่อแม่เลย เอ่อ,ทีนี้พ่อแม่ เอ่อ,ยังมีน้องเล็ก ที่ยังเรียนอีก พ่อแม่ก็ไม่มีเงินแล้ว จะให้ไปกู้เงินอีก ก็ไม่ ไม่ไม่มี ไม่มีใครให้แล้ว จะให้พี่มันแบ่งเงินให้ มันก็ไม่แบ่ง เอ่อ,แม่ร้อง คิดดูสิไอ้ลูกคนนั้นกตัญญู หรือ ไม่กตัญญูล่ะ เอ้า, เด็กๆวินิจฉัยดูเด็กคนนั้นกตัญญู หรือ ไม่กตัญญูล่ะ กตัญญูหรือ ไม่กตัญญู หือ,เอ้า,ตอบ เธอนั้นแหละ เราว่าเธอนั่นแหละ เธอตอบ (เสียงเด็กตอบ ไม่กตัญญูครับ) อื่อ,เนรคุณหรือเปล่า ใครว่าเนรคุณ ใครเป็นลูกหัวปี ยกมือ ใครเป็นลูกหัวปี เอ่อ,ระวังให้ดีนะลูกหัวปี ลูกหัวปี เธอเป็นลูกหัวปีเหมือนกันหรือ อื่อ,พ่อแม่ลงทุนเรียนให้ก่อนลูกหัวปี แล้วก็อกตัญญูและเนรคุณ แล้วไม่ช่วยพ่อแม่ พ่อแม่น้ำตาไหล
ลูกหัวปีนี้มันโง่หรือฉลาดล่ะลูกหัวปี หือ,ลูกหัวปีนี้ โง่หรือฉลาด ใครตอบได้ โง่หรือฉลาด (เสียงเด็กตอบ ฉลาดครับ) ฉลาด ฉลาดอย่างไรล่ะ ไม่รู้จักเอาเงินช่วยพ่อแม่ แทนคุณพ่อแม่ ให้น้องเรียน ฉลาดอย่างไรล่ะ ใครเป็นลูกหัวปียกมืออีกที เอ่อ,ถ้าหาเงินได้ หาอะไรได้จะให้น้องเรียนหรือไม่ ไม่ช่วยให้น้องเรียน
คนจีนหรือธรรมเนียมโบราณ เขาพูดไว้ว่า ไอ้ ไอ้ลูกหัวปีนี้มักจะโง่ ไม่ใช่แกล้ง ไม่ใช่แกล้งด่าลูกคนหัวปีนะ ยังมีลูกคนหัวปีนั่งอยู่หลายคนนะ มันพูดกันมาแบบนั้น ว่าลูกหัวปีนี้มักจะโง่ เง่า เงอะงะ บางทีว่าแม่เพิ่งมีลูกหัวปี ยังสอนไม่ค่อยเป็น อบรมไม่ค่อยเป็น เพราะเพิ่งมีลูกคนแรกนี่ ทำก็ไม่ค่อยเป็น แม้แต่ให้กินนมก็ไม่ค่อยเป็น จะสอนอะไรก็ไม่ค่อยเป็น ลูกคนหัวปีมัก มักจะโง่ พอลูกคนที่ ๒ ที่ ๓ แม่มันชำนาญแล้ว ชำนาญที่จะเลี้ยงจะอบรมสั่งสอน มันก็ไม่ค่อยจะโง่ อาจจะเป็นได้ ลูกหัวปี ไม่ เอ่อ,พ่อแม่ก็ยัง แม่ก็ยังไม่ทันชำนาญในการที่จะเป็นแม่ เลี้ยงดูอบรมอะไรก็ไม่ ไม่ถูกต้อง ไม่สมบูรณ์ก็ได้ ไอ้ลูกหัวปีจึงมักจะโง่ จริงหรือไม่จริง ไม่ใช่ว่ายืนยันนะ ไปสังเกตเอาเองนะ เขาพูดกันมาตั้งแต่โบราณ ก็เลยจำไว้ แล้วมันจะฉลาดก็ไม่ค่อยฉลาดด้วย ก็เมื่อพ่อ เมื่อแม่ยังไม่ค่อยฉลาดที่จะอบรม ไอ้ลูกมันก็ยังไม่ ยังไม่ ไม่ฉลาดที่สุดนะ พอลูกปลายปี ลูก ลูก ลูกปลายๆปี แม่ฉลาดแล้ว อบรมได้ดี นี้ไปตามธรรมชาติอาจจะเป็นได้
เอ้า,เด็กๆทุกคน จงเป็นบุตรกตัญญู นี้แหละเป็นหนทาง ที่เราจะดีกว่าลูกสัตว์ ลูกสัตว์ ลูกคนมีทางจะดีกว่าลูกสัตว์ อ่า,เพราะว่าเป็นผู้กตัญญู กตัญญูต่อใครล่ะ หือ,กตัญญูต่อใคร ใครยกมือตอบได้ ยกมือสิ กตัญญูต่อใคร กตัญญูต่อใคร หือ,ต่อพ่อแม่ เออ,ดี เธอตอบ เอ่อ,ดี ใช้คำว่าพ่อแม่เอาเสียเลย มีความกตัญญูต่อพ่อ ต่อแม่
เด็กๆ คงจะฟังไม่เข้าใจว่าเรา นอกจากมีพ่อมีแม่ธรรมดานี้แล้ว เรายังมีพ่อแม่อีกชนิดหนึ่ง พ่อแม่ทางจิต พ่อแม่ทางวิญญาณ ใครเป็นลูกของพระพุทธเจ้าบ้างยกมือ ใครรู้สึกว่าเป็นลูกของพระพุทธเจ้า อือ,ไม่ต้องให้รางวัล เราไม่ต้องเสียรางวัล เธอตอบไม่ถูก เอ้า,คนที่ยกมือ เอ้า,เอ้า,งาม พูดสิ เราเป็นลูกของพระพุทธเจ้าอย่างไรล่ะ หือ,เอ้า,ยกมือก็ต้องตอบสิ หือ, (เด็กตอบ ไม่ได้ยิน) เออ,เป็นลูกของพระพุทธเจ้าอย่างไร เป็นอย่างไร เราเชื่อฟังคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า เหมือนกับเราเชื่อฟังคำสั่งสอนของพ่อแม่โดยตรง อื่อ,พระพุทธเจ้าให้เราเกิดใหม่ ใครฟังเข้าใจ ใครตอบได้ พระพุทธเจ้าให้เราเกิดใหม่อีกครั้งหนึ่ง สิษฐ์,โตกว่าคนอื่นตอบ ว่า พระพุทธเจ้าให้เราเกิดใหม่อย่างไร หือ,หือ เด็กนักเรียนโตๆน่ะตอบสิ พระพุทธเจ้าให้เราเกิดใหม่อีกครั้งหนึ่งอย่างไร ครั้งแรกเกิดจากพ่อแม่ และต่อมาพระพุทธเจ้าให้เราเกิดอีกครั้งหนึ่ง เกิดใหม่ เกิดอย่างไร ใครตอบได้ เอ้า,งาม ตอบต่อไป นั้นแหละเกิดใหม่นั่นแหละ ได้นั่นแหละ แต่ตอบให้มันถูก กลัวจะไม่รู้ ผู้ตอบจะไม่รู้ความหมาย
พระพุทธเจ้าได้สอนให้เราเกิดใหม่ เปลี่ยนไปคนละคนเลย เมื่อก่อนเป็นคนมีความทุกข์ พระพุทธเจ้าให้เราเกิดใหม่ เกิดเป็นคนที่ไม่มีความทุกข์ นี้เขาเรียกว่าเกิดทางวิญญาณ เกิดทางพ่อแม่นั้นเกิดทางร่างกาย เมื่อเราเกิดทางร่างกายจากพ่อแม่แล้ว เราได้เรียนรู้คำสอนของพระพุทธเจ้า เกิดใหม่ เกิดทางวิญญาณ ไม่เป็นคนมีความทุกข์ คนที่มีความทุกข์ตายไปแล้วเกิดใหม่เป็นคนที่ไม่มีความทุกข์
อื่อ,ปุถุชนตายเกิดเป็นอริยบุคคลขึ้นมา นี้เรามีพระพุทธเจ้าเป็นพ่อ เรามีพระ พระธรรมเป็นแม่ เรามีพระสงฆ์เป็นพี่ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์นี้ รู้กันแล้วไม่ใช่หรือ เด็กคนไหนที่ยังไม่รู้ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คืออะไร เอ้า,ไหนกล่าวคำบูชาสิ สิษฐ์นำ กล่าวคำบูชา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พูดพร้อมกันเลย (เด็กๆกล่าวบูชาพระพุทธนาทีที่ 1:10:54 ) กราบ ออกชื่อพระพุทธเจ้าต้องกราบ กราบเลย เอ้า,ต่อไป (เด็กๆกล่าวบูชาพระธรรม1:11:20) เอ้า,กราบ ออกชื่อพระธรรมต้องกราบ (เด็กๆกล่าวบูชาพระสงฆ์นาทีที่ 1:11:43) อื่อ,ต้องกราบ ออกชื่อพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์แล้ว ต้องกราบ เอ้า,นั่งลง เธอเติบใหญ่ขึ้นทุกวัน มันสมองเจริญเติบโตด้วยการศึกษาเล่าเรียน ได้ยิน ได้ฟังมากขึ้น ทุกวันนะ สักวันหนึ่งเธอจะมองเห็นว่าพระพุทธเจ้าเป็นพ่อ พระธรรมเป็นแม่ พระสงฆ์เป็นพี่ พระพุทธเจ้าเหมือนกับพ่อ ทำให้ ให้พระธรรม เกิดเรามาใหม่เป็นอีกคนละคนเลย เอ่อ,พระสงฆ์คือคนเกิดก่อนเรา เกิดอยู่ก่อนเราเลยเป็นพี่ แต่เวลานี้เธอยังเด็กเกินไป คงจะไม่เข้าใจ คงจะฟังไม่ค่อยรู้ จึงพูดเผื่อไว้ เผื่อไว้ล่วงหน้า เมื่อไรเธอมีความรู้ที่ถึงรู้ว่าพระพุทธเจ้าเป็นพ่อ พระธรรมเป็นแม่ พระสงฆ์เป็นพี่ มาบอกเราด้วยนะ เด็กคนไหนน่ะ โตขึ้นในวันหน้า สติปัญญาเติบโตจนรู้สึกว่าพระพุทธเจ้าเป็นพ่อ พระธรรมเป็นแม่ พระสงฆ์เป็นพี่ เอ่อ,รีบมาบอกอาจารย์ด้วย แสดงว่าเธอมีความสมบูรณ์ทางมันสมอง เอ่อ,เป็นพุทธบริษัทที่ดีแล้ว
พระพุทธเจ้าทำให้พระธรรมปรากฏ พระธรรมเปลี่ยนบุคคลโดยอำนาจของพระพุทธเจ้าเป็นต้นเหตุ เหมือนกับพ่อ พระธรรมเป็นแม่ คนที่เกิดก่อน ตรัสรู้ก่อนเป็นพระสงฆ์นั้นคือพี่ของเรา ฉะนั้นเราจะเดินตามหลังใครล่ะ หือ,มนุษย์ทุกคนจะเดินตามหลังใคร ใครตอบได้ เอ้า,ใครตอบได้ ให้รางวัลล่ะทีนี้ เอ้า,ใครตอบได้ ตามหลังใคร หา,(เสียงเด็กตอบ ตามหลังแม่) ตามหลังแม่ เอ้า,ตามหลังใคร หือ,เอ้า,เธอ (เสียงเด็กตอบ ตามหลังพ่อ) ตามหลังพ่อ คนนี้อีกล่ะ หือ,คนนี้ เธอนี้แหละ เมื่อเธอยกมือ เธอ นี้คนนี้เขายกมือนี่ เออ,คนนี้ตามหลังพระพุทธเจ้า คนโน้นตามหลังแม่ คนโน้นตามหลังพ่อ คนโน้นละ งามล่ะ หา,ตามหลังพระสงฆ์ ตามหลังพี่ เอ่อ,นี้ล่ะ ตามหลังใคร (เสียงเด็กตอบ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ครับ) เอ่อ,นี้เอาหมดเลย ดีเลยเอ่อ,เอ้า,ให้รางวัลคนนี้ล่ะ เอ้า, มาเอา ตอบมาดี เก่ง เอ้า,ให้รางวัล สวยนะ นี้เรื่องอินเดีย เรื่องฮินดู เอาล่ะ,ทุกๆคนต่อไปวันหน้า เมื่อเติบใหญ่ขึ้นให้เดินตามหลัง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โดยใกล้ชิดตามหลังพระสงฆ์จนเป็นเหมือนกับพี่เกิดก่อน พระพุทธเจ้าผู้ให้เกิด พระธรรมเป็นผู้เกิด พระสงฆ์เป็นพี่ เขาเกิดก่อน เราตามหลัง ดีแน่
เอาล่ะ, ๑ ชม.แล้ว ๑๑ โมงเสียแล้ว เวลาไม่มีเสียแล้ว เราอยากฟังร้องเพลง พระคุณบิดร เอ้า,สิษฐ์
ทุกคน กำลังมีความเข้าใจถูกต้องต่อบิดา มารดา ครูบาอาจารย์ แล้วเด็กๆจะพยายามปฏิบัติดีที่สุด ต่อบิดา มารดา ครูบาอาจารย์ แล้วเด็กๆจะเจริญ เอ่อ,ในความเป็นมนุษย์ เป็นมนุษย์ที่ดีที่สุด มีความสุขอยู่ทุกทิพาราตรี เอ่อ,เด็กๆทุกคนจะสัญญาว่าจะเป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา เป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์ เป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อน เป็นพลเมืองที่ดีของชาติ เป็นเอ่อ,พุทธมามกะที่ดีของพระพุทธเจ้า ได้หรือไม่ได้
เอ่อ,ข้าพเจ้า พูดพร้อมๆกัน (เสียงเด็กพูดตาม) จะเป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา จะเป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์ จะเป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อน เอ่อ,จะเป็นพุทธมามกะที่ดีของพระพุทธเจ้าจนตลอดชีวิต เอ้า,กราบ ลุกขึ้นกราบ กราบ เอ้า,กราบๆ อื่อ,เดินออกอย่างถูกวิธี เดินออกอย่างถูกวิธี ไม่ปัดก้นใส่อาจารย์ เอ้า,เดินประทักษิณ ลุกขึ้น ยืน เอ้า,เลี้ยวซ้าย เดินไป นี้แหละ,นี้ล่ะถูกวิธี ๒,๐๐๐-๓,๐๐๐ ปีแล้ว เขาเรียกว่าประทักษิณ เดินเอามือขวาเข้าข้างผู้ที่แสดงความเคารพ แล้วก็ถูกต้อง อย่าลุกขึ้นหันหลังให้แล้วไป ไม่ถูก (เสียงคนพูด) อะไรล่ะ