แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ข้อที่หนึ่งว่าปาณาติปาตา เวรมณี ไม่ประทุษชีวิต ไม่ประทุษร้ายชีวิตร่างกายของสัตว์อื่น อย่าทำให้ตาย หรืออย่าทำให้เจ็บปวด เขาเรียกไม่ประทุษร้ายชีวิต หรือร่างกายของสัตว์อื่น ทะเลาะวิวาทกันนี่ก็ไม่สมควร เขารวมเข้าไว้ในข้อนี้แหละ ทำให้ผู้อื่นเจ็บปวด ไอ้เรามันต้องรักผู้อื่น (คอยฟังสิ คนนี้ไม่ฟังนี่ คนนี้ไม่ฟังเลย นั่งคอยฟังเราพูดเถอะ ให้รับศีลนี้แหละ) ว่าอย่าไปผู้อื่นให้เจ็บปวดหรือตาย แล้วให้รักผู้อื่น (คนนี้ไม่ฟังเลย คนนี้แหละไม่ฟังเลย เราพูดว่าอะไร หือ ไม่ฟังเลย เลยไม่รู้และไม่ได้ยิน) อย่าทำผู้อื่นให้เจ็บปวดหรือตาย นี่ แล้วก็ให้รักผู้อื่น ให้ช่วยผู้อื่น แล้วเราก็จะอยู่กันเป็นสุข
ข้อที่สองว่าคิดอทินนาทานา เวรมณี เว้นจากประทุษร้ายทรัพย์สมบัติของผู้อื่น ไปลักของเขาเอามา ก็เรียกประทุษร้าย ทำให้เขาเสียหาย ก็เรียกประทุษร้ายนั่นแหละ ทรัพย์สมบัติของผู้อื่นนั่นอย่าไปลักเอามา อย่าทำให้เขาเสียหาย สูญเสียทรัพย์สมบัติ ถ้าแม้แต่พบของของคนอื่นตก ก็เราอย่าคิดเอาเลย คิดประกาศหาเจ้าของ ให้เจ้าของเขาได้มารู้และมาเอาคืน นี่เราไม่ประทุษร้ายทรัพย์สมบัติของผู้อื่น อย่าว่าจะขโมยเลย เราไม่ขโมย ของเขาตกอยู่เรายังไม่เอา เรายังพยายามที่จะเอาคืนไปให้ผู้อื่นให้ได้
ข้อที่สามว่ากาเมสุมิจฉาจารา เวรมณี ไม่ประทุษร้ายของรักของผู้อื่น รู้ว่าอะไรเป็นของรักของผู้อื่นน่ะ อย่าไปทำให้เขาเจ็บช้ำน้ำใจ เขารักอะไรก็ตามใจแหละ แม้แต่ดินสอหนึ่งแท่ง เขารักมากก็ สวยดีเขาเพิ่งซื้อมา อย่าไปทำให้เขาเจ็บใจ ยิ่ง ๆ ขึ้นไปจนถึงเรื่องผัวเรื่องเมียเรื่องอะไร มันเป็นผู้ใหญ่ ถ้าเขาถือ นี่เรายังเด็ก เราก็ถือไปตามระดับของเด็ก ว่าอะไรเป็นที่รักของผู้อื่นน่ะอย่าไปแตะต้อง อย่าไปทำให้เขาช้ำใจ
ข้อที่สี่มุสาวาทา เวรมณี เว้นจากประทุษร้ายความเป็นธรรม หรือความยุติธรรมของผู้อื่น เราโกหก ทำให้ผู้อื่นสูญเสียความยุติธรรม เราจะไม่ประทุษร้ายความถูกต้อง ความเป็นธรรม ความชอบธรรมของผู้อื่น แบบนี้ หรือไม่ไม่พูดเท็จ ไม่ทำให้ผู้อื่นเสียประโยชน์เพราะการพูดจาของเรา
ข้อห้าว่าไม่ดื่มน้ำเมา คือไม่ประทุษร้ายสติปัญญา สัมปชัญญะ สมปฤดีของเรา พอเรากินของเมา สูบของเมา ดูดของเมา ทาของเมา รมของเมา อะไรเข้าไป เราก็สูญเสียสมปฤดี คือความคิดที่ปกติ สูญหายไปหมด เหมือนกับคนบ้าทีนี้ เรากินของเมา เสพของเมา อย่าไปเอากับมัน แม้แต่นิดหน่อยก็อย่าไปเอามัน แม้แต่บุหรี่ แม้แต่หมากนี่ เมื่อเมาแล้วล่ะมันก็สูญเสียสมปฤดีเหมือนกัน จิตใจไม่ปกติ นี่เขาเรียกว่าประมาท เป็นที่ตั้งแห่งความประมาท
เด็ก ๆ นี้ยังดี ยังไม่รู้ ไม่รู้จักเสพของเมา รักษาไว้ตลอดไป จนใหญ่ จนใหญ่ เป็นผู้ใหญ่ ก็ไม่เสพของเมา ที่เป็นน้ำไม่ใช่เหล้า เช่น น้ำหวาน เด็กเดี๋ยวนี้ ที่เป็นสูบ เช่น บุหรี่ จนกระทั่งเฮโรอีนนะ แล้วบางอย่างเขาทา บางอย่างเขาฉีดเข้าไปในเส้นโลหิต ล้วนแต่เมาทั้งนั้น เป็นเรื่องทำให้เมาให้บ้าทั้งนั้น อย่าไปชอบมัน
บางคนเอาใบ เอาดอกลำโพง หรือใบลำโพงมาสูบ เห็นว่ามัน สนุกดี โก้ดี แล้วก็มัน เป็นคนที่บ้าลำโพง เราต้องเกลียดให้มาก คนที่สูบกัญชา บ้าลำโพง อะไร อย่าไปเอาอย่าง อย่าไปสนใจ อย่าไปดู อย่าไปแล วิ่งหนีเสียเลย ระวังอย่าโง่ ถ้าโง่ เพื่อนมันจะหลอกให้ลอง ไอ้นี่อร่อยแท้ลองเถอะ อร่อยแท้ลองสิ ให้สูบกัญชาบ้าง ให้สูบลำโพงบ้าง ให้จิบเหล้าบ้าง อะไรบ้าง ว่าอร่อย ไอ้เด็กโง่ ๆ มันก็เลยลองเข้าไป หลาย ๆ ครั้งเข้ามันติด มันกลายเป็นขี้เมาเลย ขี้ยา ขี้เมาเลย ฉะนั้นเราอย่าโง่ ให้เขาหลอกได้
นี้ห้าข้อ เราแปลผิดเพื่อน (แปลต่างจากคนอื่น) เราแปล ไม่ประทุษร้ายชีวิตร่างกายผู้อื่น ไม่ประทุษร้ายทรัพย์สมบัติผู้อื่น ไม่ประทุษร้ายของรักของผู้อื่น ไม่ประทุษร้ายความยุติธรรมของผู้อื่น ไม่ประทุษร้ายสติสมปฤดีของตนเองนี่
เธอคงจำไม่ได้ จำไม่ไหว เท่าที่สอนในโรงเรียน ศีลทั้งห้าข้อนั้น เขาแปลว่าอะไร ใคร ใครจำได้ ใครตอบได้ ยกมือ ศีลห้าข้อ ห้ามอะไรบ้าง ใครทำ จำได้ ยกมือ ศีลห้าข้อ ยกสูง ใครจำได้ยกมือสูง ๆ ให้พ้นหูนะ สองคน สามคน คนโน้นยกนิดเดียว อือ สามคนนะ เอ้า คนนี้แหละ ยืนอยู่ตรงกลาง คนนี้แหละ ว่าสิห้าข้อ ห้ามอะไรบ้าง (ตอบคำถาม) อือ ดีแหละ ถูกแหละ แต่มันแคบไป
ห้ามฆ่าสัตว์ เดี๋ยวเที่ยวไปหาฆ่าคน ก็เลยยุ่ง บางทีไม่ฆ่า แต่ทำให้เจ็บเกือบตายแบบนี้ ก็ไม่ได้เหมือนกัน ขาดศีลเหมือนกัน ผิดศีลเหมือนกัน เราไม่ประทุษร้ายชีวิตและร่างกาย คือทำให้ตายหรือทำให้เจ็บ ก็ไม่ได้
ไม่ลักทรัพย์ นี่มันทำวิธีอื่น มันฉ้อบ้าง มันเบียดบังบ้าง มันยักยอกบ้าง เรารวมความว่า ประทุษร้ายทรัพย์สมบัติของผู้อื่นนะ เอามาเป็นของตัวก็ได้ หรือทำให้เขาเสียหายเปล่า ๆ ก็ได้ เขาห้าม
ไม่ประพฤติผิดในกาม คือกามนั้นแปลว่าของรัก ไม่ประพฤติผิดในของรัก ของรักของผู้อื่น อย่าไปประพฤติผิด
ไม่พูดเท็จ ไม่หลอกลวง ไม่อะไรทุกอย่างแหละ และก็ไม่แตะต้องของเมาทุกอย่างเลย เช่น เรื่องกิน เรื่องทา เรื่องสูบ เรื่องทุกอย่างแหละ ที่มันทำให้เมาได้ นี้เขาเรียกว่าศีลห้า จำไว้ว่าศีลมีห้า
ทีนี้เรื่องพร เรื่องดี ขอให้ดี พรแปลว่าดี จำไว้ว่าคำว่าพรนั้นแปลว่าดี หมายถึง ทำดี แล้วต้องดีห้าประการ พูดทุกปี ใครยังจำได้ว่าดีห้าประการ ปีที่แล้วก็พูด ใครจำได้บ้าง ใครจำได้บ้าง อะไร (ตอบคำถาม)
หนึ่ง เป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา
สอง เป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์
สาม เป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อน
สี่ เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศ
ห้า เป็นพุทธมามกะที่ดีของพระพุทธเจ้า
นี่ดีห้าดี เขาเรียกว่าพรห้าพร เราบอกให้ไปปฏิบัติ และก็ได้มีพรห้าพร
เป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา จะต้องทำอย่างไรบ้าง หือ จะเป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา ต้องทำอย่างไรบ้าง ใครตอบได้ยกมือ ฝ่ายนี้ตัวโต ๆ คนโต ๆ ยกมือ ใครตอบได้ เป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา ทำอย่างไร ฮือ ไม่จำนี่ อย่าทำให้บิดามารดาต้องร้อนใจ นี่อย่าทำให้บิดามารดาร้อนใจ ไม่มาโรงเรียน พ่อแม่ก็ร้อนใจ ขี้เกียจเรียนหนังสือ พ่อแม่ก็ร้อนใจ ใช้เงินเปลือง พ่อแม่ก็ร้อนใจ เป็นเด็กอันธพาล เกเรเหลวไหล ก็พ่อแม่ก็ร้อนใจ อย่าทำให้พ่อแม่ร้อนใจ ให้ช่วยพ่อแม่ ให้พ่อแม่ดีใจ ช่วยทำงานให้ ช่วยเหลือทุกอย่างแหละ ให้บิดามารดา ดีใจ พอใจ สบายใจ เขาเรียกว่าเป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา
ให้เป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์ เป็นอย่างไร ใครตอบได้ ใครตอบได้เป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์ ใครเป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์บ้าง ที่นั่งอยู่นี้ ที่นั่งทั้งหมดนี้ ใครเป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์บ้าง ยกมือ (ไม่มีคนยกมือ) ทุกคนเป็นศิษย์ที่เลวของครูบาอาจารย์นี่ ทุกคนนี้เป็นศิษย์ที่เลวของครูบาอาจารย์ ฉะนั้นจึงไม่รู้ว่าเป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์คืออย่างไร เป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์ ข้อแรกที่สุด ต้องเชื่อฟัง ทำตามคำสั่งที่สุดเลย อย่าให้ครูต้องดุ ต้องลงโทษ แล้วก็ดีเท่านั้นแหละ ครูไม่มี ไม่มีทางจะลงโทษ ไม่มีทางจะบ่นจะว่าจะดุ แล้วก็ เดี๋ยวเราก็เป็นคนที่ดีแน่ แต่ถ้าเรายังเป็นคนที่ครูต้องดุ ต้องลงโทษ ต้องอะไรเรื่อย ๆ เรายังไม่เป็นศิษย์ที่ดี ยังถูกตี ถูกเฆี่ยน ถูกดุกันอยู่ แล้วยังไม่ใช่ศิษย์ที่ดี เธอระวังไปทำกันเสียใหม่ อย่าให้ครูต้องว่า ต้องบ่น ต้องดุ ต้องลงโทษ
ที่นี้เป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อน ดูจะเป็นเพื่อนที่เลวกันเสียหมดอีกนิท่านั้น ไหนใครเป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อน ยกมือ ใครเป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อน ยกมือ ยกมือซิ ใครเป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อนบ้าง ฮือ ไม่มีใครยกมือ คงจะไม่เข้าใจ หรือยังจะ ไม่เข้าใจแหละเขาเรียกว่าโง่ พูดว่าเป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อนนี่ก็ฟังไม่ถูก เราเป็นเพื่อนที่ดี เราไม่ทะเลาะวิวาท ไม่โกรธ ไม่คิดร้าย เราช่วยเหลือ เรารักใคร่ นี้เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อเพื่อน
ที่นี้เป็นพลเมืองที่ดีของชาตินี้ยังเล็กนัก อุตส่าห์เล่าเรียนไป โตขึ้นเป็นพลเมืองที่ดีของชาติ
เราเป็นพุทธมามกะที่ดีของพระพุทธเจ้า ข้อสุดท้าย เป็นพุทธมามกะหรือเป็นสาวกที่ดีของพระพุทธเจ้า จะต้องประพฤติตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า จึงจะเป็นสาวกที่ดีของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าสอนว่าให้มีศีลห้าประการ ก็มีแหละ สอนให้ประพฤติกระทำอย่างไรก็ทำแหละ รวมทั้งพระพุทธเจ้าสอนว่าให้เป็นบุตรที่ดี เป็นศิษย์ที่ดี เป็นเพื่อนที่ดี เป็นพลเมืองที่ดี เป็นสาวกที่ดีด้วยเหมือนกันแหละ นี่ก็พระพุทธเจ้าสอนเหมือนกันแหละ
พระพุทธเจ้าสอนให้เล่นทรายหรือเปล่า หือ ใครรู้บ้างว่าพระพุทธเจ้าสอนให้เล่นทรายหรือเปล่า ใครรู้ คนนี้หรือ พระพุทธเจ้าสอนให้เล่นทรายหรือ หือ หลายคนมัวแต่เล่นทราย ไม่ฟัง หรือว่าคุณครูได้สอนให้เล่นทราย เวลาเรามานั่งกันนี้ มาเล่นทราย หรือพระพุทธเจ้าสอนให้เล่นทราย
เอาแหละ พระพุทธเจ้าสอนให้ทำดีแหละ ทำดีห้าอย่าง เป็นลูกที่ดี เป็นศิษย์ที่ดี เป็นเพื่อนที่ดี เป็นพลเมืองดี เป็นสาวกดี ห้าดี จำไว้ เขาเรียกว่ามีพรห้าอย่าง
ใครจำได้แล้ว จำได้แล้ว ไหนใครจำได้ที่ว่าดีห้าอย่างนั้น ใครจำได้ยกมือ ยกมือให้สูง หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก เจ็ด แปด เก้า สิบคนเท่านั้น นอกนั้นหัวขี้เลื่อย นอกนั้นหัวขี้เลื่อย จำเท่านี้ก็ไม่ได้ คนนี้จำได้หรือ ห้าดี ดีห้าอย่าง จำได้หรือ ได้ไม่ได้ ไอ้เรามันไม่ฟังนี่ มานั่งเขี่ยดินเสียเรื่อยนี่ นั่งเล่นเสียนี่ ไหนใครจำได้ยกมือ คนนี้สิ คนนี้ว่าสิ คนนี้ ที่ว่าดีห้าอย่างนั้นอะไรบ้าง ว่าสิ (ตอบคำถาม) เอ้า รายละเอียดเสียแล้ว ว่าดีห้าอย่างน่ะ เป็นอะไร ดี ๆ ๆ อะไรกี่อย่าง หือ คนนี้ต้องเขาไม่เข้าใจ เอ้า ใครอีก ยกมือซิใคร อ้า คนนี้ทีคนนี้ซิ (ตอบคำถาม)
นี่เราให้พูดแต่สั้น ๆ ก็พอว่า เป็นลูกที่ดี เป็นศิษย์ที่ดี เป็นเพื่อนที่ดี เป็นพลเมืองดี สาวกดี เป็นบุตรดี เป็นศิษย์ดี เป็นเพื่อนดี เป็นพลเมืองดี เป็นสาวกดี ห้าอย่าง ห้าดี ว่าสั้น ๆ เท่านี้พอ ห้าดี สั้น ๆ เท่านี้พอ ใครจำได้ ยกมือใหม่อีกที ใครจำได้ ฮือ ไม่ได้เพิ่มกี่คนนะ ไม่ได้ฟัง ไม่ได้จำ เอ้า คนนี้ที คนนี้ ว่าซิ (ตอบคำถาม)
นี่เขาจะย่อ ๆ เอาแต่ดี ๆ ไม่ต้องว่าของ ถ้าพูดให้เต็มต้องว่าของ เป็นบุตรที่ดีของพ่อแม่ เป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์ เป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อน เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติ เป็นสาวกที่ดีของพระพุทธเจ้า
กลับไปบ้านตอนเย็นนี้ ไปบอกพ่อบอกแม่ว่า อาจารย์สั่งว่าให้ทุกคนเป็นคนดีห้าอย่าง เป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ เป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์ เป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อน เป็นพลเมืองที่ดีของชาติ เป็นสาวกที่ดีของพระพุทธเจ้า ให้พ่อหรือให้แม่คอยเตือนด้วย ให้พ่อแม่คอยเตือนด้วยว่าฉันจะทำให้ดีห้าอย่างนะ ให้พ่อแม่คอยเตือนด้วย ถ้าลืมไปเผลอไป ให้พ่อแม่ช่วยเตือนด้วย
เอาแหละ ให้ได้ดีกันสักห้าอย่างนี้ แล้วรอดตัว นี้เรียกว่าให้พร ให้ดี ดีคือพร พรคือดี ให้ดีห้าอย่าง มาตั้งใจทำให้จริง ๆ ไปเขียนใส่หลังปกสมุดไว้ก็ได้ ปกสมุดตรงไหนว่าง ๆ น่าเขียน เขียนไว้ หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้าเลย หนึ่งเป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา สองเป็นศิษย์ที่ดีของครูอาจารย์ สามเป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อน สี่เป็นพลเมืองที่ดีของชาติ ห้า ห้าเป็นสาวกที่ดีของพระพุทธเจ้า
วันนี้มาทำพุทธมามกะ ก็คือจะมาตั้งใจจะเป็นสาวกที่ดีของพระพุทธเจ้า พูดมาทุกปี ทุกปี พุทธมามกะแปลว่าอะไร ใครยังจำได้ พุทธมามกะแปลว่าอะไร ใครยังจำได้ยกมือ พุทธมามกะแปลว่าอะไร อ้าว หมดเลย หมดเลย ใครยังจำได้บ้าง พุทธมามกะ เอ้า ท่องพร้อม ๆ กันทีหนึ่ง ว่าพร้อมกันเลยนะ
พุทธมามกะ ว่าเลย พุทธมามกะ (พุทธมามกะ) แปลว่า (แปลว่า) ผู้ปฏิญญาว่า (ผู้ปฏิญญาว่า) พระพุทธเจ้า (พระพุทธเจ้า) เป็นของข้าพเจ้า (เป็นของข้าพเจ้า)
พุทธมามกะ (พุทธมามกะ) แปลว่า (แปลว่า) ผู้ปฏิญญาว่า (ผู้ปฏิญญาว่า) พระพุทธเจ้า (พระพุทธเจ้า) เป็นของข้าพเจ้า (เป็นของข้าพเจ้า)
พุทธมามกะ (พุทธมามกะ) แปลว่า (แปลว่า) ผู้ปฏิญญาว่า (ผู้ปฏิญญาว่า) พระพุทธเจ้า (พระพุทธเจ้า) เป็นของข้าพเจ้า (เป็นของข้าพเจ้า)
สามเที่ยวแล้ว ใครจำได้ยกมือ อ้า ใครจำได้ยกมือ อ้า นอกนั้นหัวขี้เลื่อย หัวขี้เลื่อย ในหัวกะโหลกมีแต่ขี้เลื่อย ไม่มีมันสมอง เอ้า คนนี้ว่า พุทธมามกะแปลว่า (ตอบคำถาม) เออ นั่นแหละนี่ยังจำได้ ว่าเดี๋ยวเดียวก็จำได้ คนที่หัวในหัวมีแต่ขี้เลื่อยแหละ จำไม่ได้ จำอะไรไม่ได้ ไปหัดจำไว้บ้าง ให้หัวกะโหลกต้องมีมันสมองแหละ อย่ามีขี้เลื่อย ขี้ดิน ขี้เถ้าแหละ
เอ้า ว่าพร้อม ๆ กัน พุทธมามกะ ว่าไป พุทธมามกะ แปลว่า ว่าไปเรื่อย (ผู้ปฏิญญาว่า พระพุทธเจ้าเป็นของข้าพเจ้า) ว่าอีก (พุทธมามกะแปลว่า ผู้ปฏิญญาว่า พระพุทธเจ้าเป็นของข้าพเจ้า) ว่าอีก ว่าให้ดัง ว่าอีก (พุทธมามกะแปลว่า ผู้ปฏิญญาว่า พระพุทธเจ้าเป็นของข้าพเจ้า) แปลว่า ผู้ปฏิญญาว่า พระพุทธเจ้า เป็นของข้าพเจ้า ว่าใหม่ พุทธมามกะ (พุทธมามกะแปลว่า ผู้ปฏิญญาว่า พระพุทธเจ้าเป็นของข้าพเจ้า) ว่าให้ดัง และว่าให้พร้อมกันดี ๆ เอาใหม่ (พุทธมามกะแปลว่า ผู้ปฏิญญาว่า พระพุทธเจ้าเป็นของข้าพเจ้า)
นี่รอเพื่อนแหละ ว่าไม่ถูกจังหวะ บางคนไม่รอเพื่อน ว่าเลยไปเสีย เพื่อนเขาหยุด ตัวเองไม่หยุด มันเลยไม่พร้อมกัน ว่าให้เหมือนเราว่านะ พุทธมามกะ (พุทธมามกะ) แปลว่า (แปลว่า) ผู้ปฏิญญาว่า (ผู้ปฏิญญาว่า) พระพุทธเจ้า (พระพุทธเจ้า) เป็นของข้าพเจ้า (เป็นของข้าพเจ้า)
เอ้า ว่าใหม่ ว่าให้พร้อม ให้ดัง (พุทธมามกะ แปลว่า ผู้ปฏิญญาว่า พระพุทธเจ้า เป็นของข้าพเจ้า) ฮือ หลายคนไม่ฟัง หัวขี้เลื่อยไม่ฟัง เราหยุดเป็นจังหวะดี ไม่ว่าตามเรา
พุทธมามกะ (พุทธมามกะ) แปลว่า (แปลว่า) ผู้ปฏิญญาว่า (ผู้ปฏิญญาว่า) พระพุทธเจ้า (พระพุทธเจ้า) เป็นของข้าพเจ้า (เป็นของข้าพเจ้า)
วันนี้เรามาทำพิธีประกาศตัวเป็นพุทธมามกะ คือปฏิญญาว่า พระพุทธเจ้าเป็นของข้าพเจ้า คือข้าพเจ้านับถือพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าเชื่อฟังปฎิบัติตามพระพุทธเจ้านะ นี่เขาเรียกว่าพุทธมามกะ และต้องไปเชื่อฟังปฏิบัติตามพระพุทธเจ้า จึงจะได้ชื่อว่า เป็นพุทธมามกะ เพราะว่าเราได้สัญญากันแล้วนิ เมื่อกี้นี้ เมื่อกี้ก็ว่า พุทธมามโกติ ธ สังโฆ ธาเรตุ จงถือว่าข้าพเจ้าเป็นพุทธมามกะ เธอปฏิญญาว่า จงถือว่าข้าพเจ้าเป็นพุทธมามกะ คือผู้ยืนยันปฏิญญาว่าพระพุทธเจ้าเป็นของข้าพเจ้า ข้าพเจ้ารับ นับถือ เชื่อฟัง ปฏิบัติตาม ได้ชื่อว่าเป็นพุทธมามกะ
ครั้นปฏิบัติตาม แล้วก็จะได้เป็นบุตรที่ดี เป็นศิษย์ที่ดี เป็นเพื่อนที่ดี เป็นพลเมืองที่ดี เป็นสาวกที่ดีแน่นอน ให้เธอทุกคนดีเหมือนว่า เพลงพุทธมามกะ มีหรือยังไม่มี ไม่มี ถ้ามีจะได้ร้อง ไม่มีก็แล้วกัน
เอ้าทีนี้ให้พรเป็นภาษาบาลี นั่งพนมมือ ฟังให้ดี (35.53 – 47:26 ให้พรเป็นภาษาบาลี สอนการลุกขึ้นและเดินกลับ และพูดคุย)