แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ต่อไปนี้ โอวาท อ้าว, ตั้งใจฟังให้ดี ให้สำเร็จประโยชน์ อุตส่าห์มาไกล วันนี้มาทำพิธีแสดงตนเป็นพุทธมามกะ ก่อนหน้านี้ไม่ได้เป็นหรือว่าเป็นอยู่แล้ว ก่อนหน้าที่แสดงนี่ไม่ได้เป็นพุทธมามกะ หรือว่าเป็นอยู่แล้ว ทั้งหมดนี้ ปีที่แล้วไม่ได้แสดง นี่ นี่ ไม่มีเลยเหรอ รุ่นที่ซ้ำ อืม, แล้วไม่แสดงทั้งโรงเรียนเหรอ ไหนใครเคยแสดง พุทธมามกะ แล้วยกมือสิ ใครเคยแสดงแล้วยกมือสิ ปีกลายใครเคยแสดงแล้ว โอ, นิดเดียว เราแสดงทุกปีก็ได้ กันลืม เพราะขี้ลืมเผลอไป พอถึงปีก็แสดงเสียที นึกได้ก็พยายามทำให้ดีที่สุดเรื่อย ๆ ให้มีการเป็นพุทธมามกะ ตลอดเดือน ตลอดปี ตลอดชีวิตเลย
เป็นพุทธมามกะ คือเป็นอะไรล่ะ เป็นพุทธมามกะ นี้แปลว่าเป็นอะไรล่ะ ใครตอบได้ ใครตอบได้ยกมือเลย ก็ปีที่แล้วก็พูดกันทีหนึ่งแล้ว เป็นพุทธมามกะแปลว่าเป็นอะไร นั่นแหละต้องพูดกันบ่อย ยังไม่รู้ว่าเป็นอะไร นี่คนตรงนี้ ป. ๔ ใช่ไหม ฮือ, ป. อะไร นี่ ป. อะไรนี่ นักเรียน ป. อะไร ป. ๖ เหรอ ป.๖ เพิ่งแสดง พุทธมามกะปีนี้เหรอ ทิ้งไว้ตั้ง ๕ ปี เป็นพุทธมามกะ คือเป็นอะไร แปลว่าอะไร ฮือ,ใครรู้ ป. ๖ ก็ยังไม่รู้ น่าหัวเราะโว้ย คือผู้ประกาศว่า พระพุทธเจ้าเป็นของข้าพเจ้า พุทธมามกะ แปลว่า ผู้ที่ประกาศตัวว่า พระพุทธเจ้าเป็นของข้าพเจ้า มะมะ แปลว่า ของข้าพเจ้า พุทธะ แปลว่า พระพุทธเจ้า กะ นั้นแปลว่า คน คนที่ประกาศตัวว่าพระพุทธเจ้าเป็นของข้าพเจ้า เพราะฉะนั้นเราจึงเป็นพุทธมามกะด้วยการนับถือพระพุทธเจ้าว่าเป็นของข้าพเจ้า ไม่ใช่เป็นพุทธมามกะเพียงแต่พูดสองสามคำ เมื่อตะกี้พูดไปแล้ว พุทธมามโกติมํ สงฺโฆ ธาเรตุ อะไรนี้ นี่มันว่าแต่ปาก นี่เป็นการประกาศ ถ้าจะให้เป็นจริงต้องปฏิบัติตัวให้สมกับที่ว่านับถือพระพุทธเจ้า นั่นแหละเป็นพุทธมามกะ ไม่ใช่เป็นแต่ปากนะ เป็นด้วยการปฏิบัติตัวให้สมกับที่นับถือพระพุทธเจ้า เราปฏิบัติตัวอย่างไรจึงจะสมกับว่า พระพุทธเจ้าเป็นของข้าพเจ้า อย่างน้อยที่สุด ก็ถือศีลห้าให้ ให้ถูกต้องอยู่เป็นประจำ
ปาณาติปาตา เวรมณี อย่าทำลายชีวิตและร่างกายของสัตว์อื่น ผู้อื่น อย่าทำให้ตาย อย่าทำให้เจ็บ อย่าทำให้ทุกอย่างนั้นแหละ คือไม่ทำก็แล้วกัน อทินนาทานา ว่าอย่าถือเอาเป็นเจ้าของ ที่เจ้าของเขาไม่ได้ให้ กาเม นั่น อย่าไปประทุษร้ายของที่เขารัก รู้ว่าของรัก แม้แต่ไปมองก็ไม่ควร แม้แต่ไปหยิบก็ยิ่ง ยิ่งไม่ควร ถ้าของที่เขารัก เขาไม่ต้องการให้ใครมายุ่ง มุสา นี่ อย่าพูดคำเท็จเพื่อประโยชน์ คำเท็จในที่นี้ก็หมายความว่าพูดเพื่อเอาประโยชน์ ถ้าพูดด้วยหวังดีอะไร เขาไม่เรียกว่าคำเท็จ สุรา นั่นอย่าไปดื่ม กิน สูบ ทาอะไร ของที่มันเมา ที่ทำเข้าแล้วมันเมา มันเสียสติสัมปชัญญะ ห้าข้อนี้ ใครจำได้ เราพูดไปห้าข้อแล้ว ใครจำได้ ใครจำได้แล้วยกมือสิ ไม่มีใครยกมือ มีแต่ขี้ขลาด มีแต่เถื่อน ป่าเถื่อนทั้งนั้น ขี้ขลาดไม่กล้ายกมือ
ข้อที่ ๑ ห้ามไม่ให้ทำอะไร อ่า, ใครยกมือสิ ตอบได้ ไม่ให้ ทำอะไร หือ, หือ, ไม่ให้ฆ่าสัตว์ ถ้าคนล่ะฆ่าได้เหรอ นั่นแหละจำไว้ให้ดี ๆ คือว่าอย่าไปประทุษร้ายชีวิตร่างกายผู้อื่น สัตว์อื่น คนก็ได้สัตว์ก็ได้ อย่าไปประทุษร้ายชีวิต คืออย่าฆ่าให้ตาย อย่าประทุษร้ายร่างกาย คือทำให้เจ็บปวด เกือบตาย เจียนตาย น้อง ๆ ตาย ไปในทางจะตายเหมือนกันแหละ ไปชกเพื่อน ผิดศีลข้อไหนใครตอบได้ ไปชกเพื่อนผิดศีลข้อไหน นี่ ว่า ศีลข้อไหน ข้อ ๑ อย่าประทุษร้ายชีวิตและร่างกายของผู้อื่นสัตว์อื่น หลายคนไปรุมกันชกเพื่อนตาย หรือ เกือบตาย มันผิดศีลข้อที่ ๑ แหละ พ่อแม่ไม่ทันเห็น หยิบเอาเงินไปใช้เสีย ผิดศีลข้อไหน หือ, ผิดศีลข้อไหน อ้าว, คนโน้นยกมือแล้วหันหน้าไปทางไหนล่ะ หือ, ผิดศีลข้อไหน อืม, ขโมยเงินของแม่ไปใช้ ใครไม่เคยลักเงินของแม่ไปใช้ ยกมือสิ ที่ไม่เคยนะ อือ, ที่นี่มากนะ จริงหรือเปล่านี่ ไม่เคยลักเงินของแม่ไปใช้นะ ดีมาก ยกมือทุกคนเลย ให้มันจริงแบบนั้นเถอะ ไม่เคยลักเงินของแม่ไปใช้ ของพ่อไปใช้ ของเพื่อน ของพี่ ของญาติ เงินของผู้อื่นนะเราไม่เคยเอา ไม่เคยลัก ลักเงินแบบนั้นมันเลว ได้ประโยชน์นิดเดียว เอาไปใช้ได้ประโยชน์นิดเดียว แต่ความเลวมันมากเกิน อย่าทำ จะบาปหนาขึ้น หนาขึ้น จะได้เป็นโจร จะได้ถูกตัดคอในที่สุด นาน ๆ ไปข้างหน้ามันบาปเกิน ถึงไม่ลักเงิน ของก็อย่าลัก ลักส้ม ลักกล้วย ลักสับปะรดของคนอื่น ในสวนของคนอื่นกิน ก็ผิดข้อ ปาณา อื้อ, ข้อ อทินนา ของเขาไม่ได้ให้ ไปเอาก็ผิดข้อนี้ทั้งนั้น ฉะนั้นอย่ากิน อดดีกว่า ตายก็ดีกว่า ดีกว่าทำบาป อย่าทำบาปเพราะกิน อย่าทำบาปเพราะเหตุจะได้กิน เรียกว่าตายยังดีกว่าทำบาป ข้อที่ ๓ กาเม ก็ของรักใคร่ทั้งหลาย ไม่ประพฤติผิดในของรักทั้งหลายของผู้อื่น เขารักอะไรก็ตามใจอย่าไปทำให้ ให้เขาเดือดร้อนใจ เสียใจ รำคาญใจ ของเล่นก็ดี ของกินก็ดี อะไรก็ดีที่เขารักนะ เราอย่าไปทำให้เขา รำคาญใจ เช่น ไปจับ ไปฉวย ไปแกล้งทำ หรือไปทำให้สกปรก อะไรแบบนี้ ก็ไม่ได้นะ เขาเรียกว่าประพฤติผิดในของรักของผู้อื่น ข้อที่ ๔ ไม่พูดเท็จ รู้อยู่ว่าเรื่องนี้มันไม่จริง เราไปพูด เพื่อเอาประโยชน์ของเขามาเป็นของเรา เขาเรียกว่า พูดเท็จ แต่ถ้าพูดชนิดให้เขาได้รับประโยชน์ ถึงแม้จะพูดไม่จริง ก็ไม่ ไม่ขาดศีล ข้อที่ ๕ สุรา เด็ก ๆ คงไม่มีเรื่องให้เกี่ยวกับสุรา แต่ของที่เมา เขาสงเคราะห์เป็นสุราหมด แม้แต่ยาสูบ บุหรี่ เมื่อสูบเข้าไปแล้ว ทำจิตผิดปกติเหมือนกัน สิ่งใด กิน ดื่ม ทา สูบ เข้าไปแล้ว จิตผิดปกติ เช่น กัญชา ยาสูบ ยาฝิ่น ยาบุหรี่ อะไรก็ตาม กินเข้าไปแล้วจิตมันผิดปกติ เหมือนกินเหล้า ถึงพ่อกิน เราไม่กิน ถึงแม่กินเหล้า เราก็ไม่กิน เพราะว่าเราเป็น พุทธมามกะ แล้ว นี่ก็ศีล ๕ ข้อ
ทีนี้เราจะทำตัวให้ดี ให้สมกับเป็น พุทธมามกะ ประพฤติให้ได้ประโยชน์เต็มที่ ในการเป็น พุทธมามกะ เราแนะว่าให้ประพฤติ เป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา เป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์ เป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อน เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติ เป็นสาวกที่ดีของพระพุทธเจ้า คือเป็นพุทธมามกะนั่นเอง เป็น พุทธมามกะ อย่างดีทีเดียว คือ ทำให้เต็มที่เลย อย่างดีที่สุด เป็นพุทธมามกะแล้วก็เรียกว่า เป็นสาวกของพระพุทธเจ้า เมื่อเป็นพุทธมามกะที่ดีแล้ว นอกนั้นจะเป็นได้เอง คือจะเป็น บุตรที่ดี เป็นศิษย์ที่ดี เป็นเพื่อนที่ดี เป็นพลเมืองที่ดีได้เอง เราเชื่อฟังพระพุทธเจ้า เราก็ไม่ประพฤติผิดในบิดามารดา เราไม่หลอกลวงบิดามารดา ไม่ทำให้บิดามารดาเดือดร้อน เราเคารพครูบาอาจารย์ ทำให้ครูบาอาจารย์รักใคร่เอ็นดู เราเป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อน ไม่ทะเลาะวิวาท ไม่ชก ไม่ต่อย ไม่เบียดเบียนกัน เราก็เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติ อะไรเป็นประโยชน์กับประเทศชาติ เราช่วยกันทำ และจะทำมากขึ้น มากขึ้น เมื่อเป็นผู้ใหญ่ เมื่อเป็นผู้ใหญ่เต็มที่ จะทำหน้าที่ของพลเมืองที่ดี มากขึ้น มากขึ้น ทีนี้ก็เป็นสาวกที่ดีของพระพุทธเจ้าอยู่ในตัวตลอดเวลา นี่เรียกว่า เราประพฤติ กระทำ เพื่อให้เราเป็นพุทธมามกะ
เป็นพุทธมามกะ แต่ปากว่าอย่างเดียวนั้น ไม่พอ ไม่พอ ต้องทำด้วย คือประพฤติศีล ๕ ประพฤติธรรมะสัก ๕ เป็นบุตรที่ดี เป็น ศิษย์ที่ดี เป็นเพื่อนที่ดี เป็นพลเมืองที่ดี เป็นสาวกที่ดี อีกสัก ๕ อย่าง อย่าทำให้บิดามารดาร้อนใจ เรื่องขี้เกียจเล่าเรียน เรื่องใช้เงินเปลือง เรื่องอะไรต่าง ๆ ที่พ่อแม่ไม่ชอบ อย่าทำ ให้ทำแต่สิ่งที่พ่อแม่ชอบ ชื่นอกชื่นใจ สบายใจ ยินดี ว่า เออ, ได้ลูกมาดี ถ้าทำให้พ่อแม่ร้อนใจ ก็เหมือนทำให้พ่อแม่ตกนรกทั้งเป็น ไม่ดี กับครูบาอาจารย์ ถ้าเธอดื้อดึง เธอก็ต้องสอบไล่ตก ไม่ต้องมีใครแช่ง ถ้าเธอไม่เคารพครูบาอาจารย์ การเรียนของเธอก็เลว เธอก็ต้องสอบไล่ตก จะบาปด้วยแล้วมันซวย ไอ้คนที่บาป เป็นคนที่ซวย เรื่อย ๆ ไป บาปอย่าทำดีกว่า ถ้าทำแล้วมันจะซวยเรื่อย ๆ พูดว่า บาป ฟังไม่ถูก พูดว่าซวยอาจจะฟังถูก คือมันไม่ได้ดี มันไม่เจริญ เป็นเพื่อนที่ดีของกันและกัน ต่อไปนี้จะไม่มีชกต่อย ทะเลาะวิวาทกัน ต้องช่วยเหลือเพื่อนกันให้ปลอดภัย ให้ได้รับประโยชน์ เพราะว่าเราเป็นเพื่อนกัน และเป็นพลเมืองที่ดี ช่วยกันทำประโยชน์ของประเทศชาติ ครูบอกอะไรเป็นประโยชน์ของประเทศชาติ ก็ช่วยกันทำช่วยกันรักษา โตขึ้น จะได้เป็นพลเมืองที่ดีเต็มตัว แล้วสาวกของพระพุทธเจ้า นี้เป็นตั้งแต่บัดนี้เลย เป็นพุทธมามกะ คอยบวชพระ บวชเณร บวชอะไรเรื่อย ๆ ขึ้นไป จนกว่าจะถึงที่สุด
ใครจำได้ ๕ อย่างตอนหลัง เป็นอะไรกี่อย่าง เป็นอะไรที่ดี เป็นที่ดี ที่ดี ที่ดี กี่อย่าง ใครจำได้ยกมือ ทีนี้ไม่มีใครยก อ้าว, ใครจำได้ยกมือ อยากจะยกแล้วเห็นเพื่อนไม่ยก ก็ผลุบลงไปอีก ไม่กล้าเหมือนกัน เป็นบุตรที่ดี เป็นศิษย์ที่ดี เป็นเพื่อนที่ดี เป็นพลเมืองที่ดี เป็นสาวกที่ดี อันนี้จำไม่ได้ แล้วจะได้เหรอ จำไม่ได้ ก็เป็นคนเถื่อน เป็นคนขี้ขลาด ไม่กล้าแสดงตัว ไม่กล้ายืนขึ้นพูด อ้าว,ถามอีกทีว่า เป็น ๕ อย่างนี้ใครจำได้ เป็นอะไรบ้าง ใครจำได้ อ้าว, คนนั้นแหละ เป็นอะไร ว่าไป อ้าว, ว่าให้ดังเลย ไม่ได้งอนิ้วไว้ใช่ไหม ยังไม่ครบห้าเลย
ถ้าว่าให้ถูกลำดับ เอา พลเมืองที่ดี มาก่อน แล้วเป็นสาวกที่ดีอยู่ท้าย ยกมือ ๒ คน น่าหัวเราะโว้ย ตั้งร้อย ๆ ยกมือแค่ ๒ คน ไหนใครจำได้ ลองยกมือใหม่สิใครจำได้ ยกมือให้สูงเลย อ้าว, มือมาอีก ๒-๓ คน ก็ยังไม่พอ เอ้า,ว่าไปสิ เป็นอะไร (เสียงเด็ก ตอบ) อ้าว, คนโน้น เป็นอะไร (เสียงเด็ก ตอบ) อืม, ไหน ว่าให้เต็มเลย ที่ดีของใคร อ้าว, ใคร ใครว่าได้ยกมือ อ้าว, หนึ่ง สอง สาม คุกเข่าสิ (เสียงเด็ก ตอบ) ไม่ใช่ ไม่ใช่ นั่งเถอะ คนอื่นนั่งเถอะ บอกว่า คนที่จะพูด ให้คุกเข่าขึ้น (เสียงเด็ก ตอบ)
นั่นแหล่ะมันต้องมี ของ เป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา เป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์ เป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อน เป็นพลเมืองที่ดีของชาติ เป็นสาวกที่ดีของพระพุทธเจ้า มากเหลือเกินจำไม่ได้ จำได้ ๔-๕ คน คงจะไม่ชอบ คงไม่อยากจะเป็นบุตรที่ดี ไม่อยากจะเป็นศิษย์ที่ดี คงไม่อยากจะเป็นเพื่อนที่ดี ไม่สนใจ ไม่ชอบ เล่นกันเสียก็มี คนที่เล่น คนที่นั่งเล่นอยู่ตรงกลางนี่ คือศิษย์ที่เลวของครูบาอาจารย์ ตรงนี้ นั่งเล่น นั่งหยอก นั่งซัดทราย ซัดอะไรกันเสีย เป็นศิษย์ที่เลวของครูบาอาจารย์ ต้องฟังกันนะ อือ, คนที่ซัดทรายเก่ง ลองว่าสิ ห้า ห้า อย่างอะไรบ้าง เตือนกันบ้างแหละ ถ้าเพื่อนเขาทำผิดเราเตือนได้ เวลานี้เป็นเวลาต้องฟัง อย่าเล่นกัน ถ้าเพื่อนเขาจะเล่น เราห้ามเขาไว้ว่า อย่าเล่น อย่าเล่น หรือว่ามองตาไว้ ว่า อย่าเล่น เป็นเวลาที่ต้องฟัง เอ๊า,ว่า พร้อม ๆ กัน
หนึ่ง (เสียงเด็ก เป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา) หนึ่ง (เสียงเด็ก จะต้องเป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา) จะต้อง ไม่เอา หลอกเราก็ได้ เราไม่เอา จะหรือต้อง จะ ไม่เอา พูดว่า จะ ไม่เอา หลอกกันได้ หนึ่ง ว่าสิ หนึ่ง ข้าพเจ้าเป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา (เสียงเด็ก พูดตาม) สอง ข้าพเจ้าเป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์ (เสียงเด็ก พูดตาม) สาม ข้าพเจ้าเป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อน (เสียงเด็ก พูดตาม) สี่ ข้าพเจ้าเป็นพลเมืองดีของชาติ (เสียงเด็ก พูดตาม) ห้า ข้าพเจ้าเป็นสาวกที่ดีของพระพุทธเจ้า (เสียงเด็ก พูดตาม)
ข้าพเจ้าไม่ได้เป็นมาแล้ว ข้าพเจ้ากำลังเป็นอยู่ ข้าพเจ้าเป็นต่อไป ถ้าว่า จะ นี่ยังไม่ได้เป็น หลอกได้ ไม่เอา มัวแต่พูด จะ จะ กัน เหลวหมดเพราะอะไรล่ะ พูดไม่จริง ข้าพเจ้าจะจงรักภักดี เหลวทั้งนั้นโกหกทั้งนะ เพราะมีแต่ จะ จะ ต้องพูดว่า ข้าพเจ้าจงรักภักดีต่อประเทศชาติ ต้องว่าแบบนี้เลย ไม่มีจะ แล้วสำคัญอยู่ที่พระพุทธเจ้า เราจะต้องนึกถึงพระพุทธเจ้า ให้เป็นสาวกที่ดีของพระพุทธเจ้า แล้วเราก็จะเป็นบุตรที่ดี ศิษย์ที่ดี เพื่อนที่ดี พลเมืองที่ดี เป็นแน่นอน ขอให้ได้เป็นสาวกที่ดีของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าสอนมาก และที่สำคัญที่สุด ก็เรื่อง ศีล ๕ ที่ว่าไปแล้ว โดยมากก็จำได้แต่ว่า ปาณา ไม่ฆ่าสัตว์ อทินนา ไม่ให้ลักทรัพย์ ความหมาย มันเลยแคบ ไม่ค่อยจะรู้ว่าอะไรบ้าง ไม่ฆ่าสัตว์ เด็กจะนึกแต่ ไม่ฆ่าสัตว์เดรัจฉาน ไม่ได้ห้ามเรื่องฆ่าคน ไม่ใช่แค่ฆ่า อย่างนั้นขาดศีลเลย แม้แต่ทำให้เจ็บ ให้ปวด นี่มันก็ ศีลมันแหว่งไป ศีลมันคอดกิ่วไป เขาเรียกว่า จะขาดเหมือนกัน มันไม่ใช่เพียงแต่ฆ่าอย่างเดียว ทำให้เจ็บปวดก็ไม่ได้ เขาถึงใช้คำว่า ไม่ประทุษร้าย ไม่ทำลายชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่น ไม่ประทุษร้าย ทรัพย์สมบัติของผู้อื่น ไม่ประทุษร้ายของรักของผู้อื่น ไม่ประทุษร้ายความเป็นธรรมหรือความเป็นยุติธรรมของผู้อื่น ไม่ประทุษร้ายสติปัญญาของตัวเอง นี่ ศีล ๕
ที่เหลือนี้ พูดเรื่องพระพุทธเจ้า สักนิด พระพุทธเจ้า ประสูติ ที่ไหน ใครรู้ เอ้า, ประสูติที่ไหน ใต้ต้นสาละ ประสูติ บนอะไร หือ, ไม่ได้ยิน ให้ดัง ๆ สิ มันว่าอะไรนะ บนกิ่งไม้ นี่เรียนกันดีนะ อ้าว,ใครตอบได้ พระพุทธเจ้าประสูติที่ไหน บนดอกบัว ที่ไหน อืม, เขาเคยเห็นรูปภาพ รูปภาพเขียนดอกบัว
อือ, พระพุทธเจ้า ประสูติกลางดิน เขาคงมีผ้า มีพรม มีอะไรรอง ตามเรื่อง กลางดิน พระพุทธเจ้าประสูติ กลางดิน ที่โคน ต้นสาละ ในสวนลุมพีนี เวลากลางวัน โดยบังเอิญ พระพุทธเจ้าตรัสรู้ที่ไหน ใครตอบได้ยกมือ ที่ไหน ใต้ต้นโพธิ์ อือ, ที่ตรงไหนล่ะ บนอะไร บนดอกบัวอีกเหรอ เพราะเห็นรูปภาพเขียนเป็นดอกบัว ประสูติก็กลางดิน ตรัสรู้ก็กลางดิน นั่งที่โคนต้นโพธิ์กลางดิน ตรัสรู้กลางดิน พระพุทธเจ้านิพพานที่ไหน บนอะไร อือ, ว่าไปเลย ที่ไหน ใต้ต้นสาละ ใช้คำว่าต้นสาละดีกว่าต้นรัง กลางดินเหมือนกัน แล้วถ้าพระพุทธเจ้า ประสูติกลางดิน ตรัสรู้กลางดิน นิพพานกลางดิน สอนสาวกทั้งหลาย ส่วนมากที่สุดก็กลางดิน วันนี้เรามานั่งเป็นที่ระลึกแก่พระพุทธเจ้ากันเสียที นั่งกลางดิน ทุก ๆ คน นี่นั่งกลางดิน ให้ยินดีให้พอใจว่าได้นั่งกลางดิน เป็นที่ระลึกแก่พระพุทธเจ้า อยากจะนั่งบนเก้าอี้ บนพรม บนเตียง บนของสวยงาม บนสวรรค์วิมานกันทั้งนั้นแหละ เด็ก ๆ อยากเรียนหนังสือให้ดี ให้รวย ให้เอาเงินไปซื้อเครื่องใช้เครื่องเรือนให้สวยให้งาม ได้อยู่ตึกอยู่วิมานนะ แต่พระพุทธเจ้านี่ประสูติกลางดิน ตรัสรู้กลางดิน นิพพานกลางดิน สอนกลางดิน กุฏิก็พื้นดิน กุฏิพระพุทธเจ้า พื้นดิน ฉะนั้นเราอย่าบ้าให้มากนัก อย่าไปหลงเรื่องสวย เรื่องงาม เรื่องเล่น เรื่องหัว เรื่องอะไรอย่างนี้ให้มันมากนัก นึกถึงพระพุทธเจ้าไว้เสมอว่าประสูติ กลางดิน ตรัสรู้กลางดิน นิพพานกลางดิน สอนกลางดิน เป็นอยู่กลางดินได้เจียมตัว อย่ายกหูชูหาง อย่าจองหองพองขน อย่าอะไรต่ออะไร จะได้เป็นศิษย์ที่ดีสาวกที่ดีของพระพุทธเจ้า ครั้นจองหองพองขนเสียแล้ว มันดื้อ มันไม่ค่อยยอมเชื่อ ไม่ค่อยยอมฟัง เตลิดเปิดเปิงหมด
เอาล่ะ ในที่สุดนี้ มันหมดเวลาเสียแล้ว เราก็ให้พร ให้พรว่าให้เธอได้เป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา ให้เธอได้เป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์ ให้เธอได้เป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อน ให้เธอได้เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติ ให้เธอได้เป็นสาวกที่ดีของพระพุทธเจ้า และด้วยเพราะเหตุนั้นแล เธอจงมีความสุขความเจริญ งอกงาม อยู่ทุกทิพาราตรีกาลเทอญ เอ้า, สาธุ
นี่เรื่องอะไรต่ออะไร ก็ต้อง นี่ก็สอนกันอยู่แล้วนะ เราก็ไม่มีเวลาจะสอน เวลาลุกขึ้น ลุกขึ้นไป ถูกต้องตามธรรมเนียม ลุกขึ้นแล้วอย่าปัดท้ายใส่อาจารย์ อย่าลุกขึ้นแล้วหันหลัง ปัดท้ายใส่อาจารย์ ใส่พระใส่อะไรที่เขานั่งอยู่ ลุกขึ้นแล้วเดินไปทางข้างขวา เมื่อลุกขึ้นแล้ว ขวาหันแล้วเดินไปทางข้างขวา แล้วไปเลี้ยวตามชอบใจ ไปไหนก็ได้ นั่นแหละวิธีธรรมเนียมที่ถูกต้อง ตั้งแต่ครั้งพุทธกาลมาเลยจนบัดนี้ ก็เรียกว่า ให้ลุกขึ้นให้ดี ด้วยการแสดงความเคารพ ลุกขึ้นยืนตรงแล้วขวาหัน แล้วก็เดินไปทางขวา แล้วค่อยไปเลี้ยวเอาเอง อย่าลุกขึ้นแล้วหันหลังปัดท้ายใส่อาจารย์ เพราะเห็นแล้วเป็นแบบนั้นทุกคนทุกโรงเรียน