แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
นี่มันเป็นอะไร เป็นสมาชิกอะไรกัน เป็นอะไรนะ ธรรมศึกษา พูดบ้านเราเหรอ ไม่ต้องเหนื่อย ถ้าพูดบางกอกเหนื่อย พูดบ้านเราไม่ต้องเหนื่อย เอาทุกคนนะ ถ้าอยากจะได้รับประโยชน์ ตั้งใจฟัง ตั้งใจฟังให้ดีๆ อย่านั่งหลับกันบ้าง อย่านั่งเล่นกันเสียบ้าง ใจลอยบ้าง บางคนไม่ได้ตั้งใจฟัง ต้องการให้พูดเรื่องพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้า นี่ถามดูก่อน นั่งกลางดิน กับ นั่งบนพื้น บนเก้าอี้ บนม้านั่ง อันไหนดีกว่า ใครตอบได้ยกมือ นั่งกลางดิน กับนั่งบนเก้าอี้ บนม้านั่งบนอะไร อันไหน อันไหนดีกว่า เอ้า,ใครตอบได้ยกมือ คนนี้ (นักเรียนตอบว่านั่งกลางดินครับ) ดีกว่าอย่างไร ดีกว่าอย่างไร เอ้า,คนนี้ ล่ะ เอ้า, ดีกว่าอย่างไร บอกมาเถอะ(เสียงนักเรียนตอบ) ใครบอกล่ะ ใครบอก เอ้า,ใครอีก ใครอีก ใครว่านั่งกลางดินดี ยกมือ เอ้า, ใครว่านั่งบนม้าดี บนเก้าอี้ดี ตามกันหมดแล้วโว้ย คนนี้เคยมาฟังเหรอ ไม่เคย แล้วรู้มาจากไหน พระพุทธเจ้าประสูติกลางดิน ตรัสรู้กลางดิน นิพพานกลางดิน รู้มาจากไหน มันต้องมีคนบอกแหละ เราจึงนั่งกลางดิน ณ เวลานี้กำลังนั่งกลางดิน เพื่อเป็นที่ระลึกการที่พระพุทธเจ้านั้นท่านประสูติกลางดิน ตรัสรู้กลางดิน นิพพานกลางดิน พระพุทธเจ้าประสูตินั้น คืออะไร คือทำอย่างไรที่เขาเรียกประสูติ ใครรู้ยกมือซิ พระพุทธเจ้าประสูตินี่คือทำอย่างไร อ้าว,ทำไมไม่มีใครยกมือล่ะ (เสียงนักเรียนตอบ ) ถ้าออกจากร่างกายมารดา แล้วตรัสรู้ล่ะ คือทำอย่างไร แล้วตรัสรู้ล่ะ คือทำอย่างไร ตอบเลย ตอบเองเลย มีใครตอบได้ อ้าวทำไมนิ่งกันไปเสียหมดล่ะ พระพุทธเจ้าตรัสรู้นะคือท่านทำอะไร คือทำอย่างไร ที่เขาเรียกว่าตรัสรู้นะ ใครตอบได้ ถ้าตอบไม่ได้ก็สอบไล่ตกหมดแหละ ธรรมศึกษานี่สอบไล่ตกหมดแหละ ถ้าไม่รู้ว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้คืออะไร ตรัสรู้พระพุทธเจ้าตรัสรู้คือทำอะไร อย่างไรยกมือซิ มีใครตอบได้ ทำไมมองตาอาจารย์อยู่เรื่อย อาจารย์ห้ามเหรอ เอ้า, ใครตอบได้ ตรัสรู้ ชักจะสงสัยแล้ว จะแกล้งแล้ว คือทำอย่างไรตรัสรู้ คือทำอะไรคือไปทำอะไรพระพุทธเจ้าทำอะไรเขาเรียกว่าตรัสรู้ หืม เอ้า,ตอบมาซิถ้าตอบได้ในเมื่อยกมือแล้ว (เสียงนักเรียนตอบ) รู้ธรรมชาติ ไหนตอบให้มันชัดเจนให้มันยาวให้มันชัดเจนกว่านั้นจะตอบว่าว่าอะไรดี ตรัสรู้คือรู้อะไร คือรู้ธรรมชาตินี่มันยังคงกำกวมย่นย่อมากนัก พระพุทธเจ้ารู้ ความดับทุกข์ ธรรมชาติก็ธรรมชาติแห่งความดับทุกข์ นี่แหละตรัสรู้ พูดได้มากมายยืดยาว แต่สรุปความแล้วตรัสรู้คือรู้ความดับทุกข์ ของพระองค์เอง และของผู้อื่นด้วย พระพุทธเจ้านิพพานล่ะ ปรินิพพานล่ะ คือทำอะไร พระพุทธเจ้าทำอะไร ใครใครตอบได้ ที่ไหนคืออะไร (เสียงคนตอบ ) พระพุทธเจ้าตาย เป็นพระพุทธเจ้าทั้งทียังตายอีกเหรอ (เสียงนักเรียนตอบ) เอ้า,สวรรคต เป็นพระพุทธเจ้านี่ สวรรคตได้เหรอ พอแล้ว สวรรคตแปลว่าอะไร เอ้า, แปลว่าอะไร หืมก็มันคำเดียวกันอีกกับพระพุทธเจ้าตายอีก คำว่า รคต แปลว่าไปสวรรค์ สวรรคตแปลว่าไปสวรรค์ เขาใช้สำหรับพระเจ้าแผ่นดิน ไม่ใช้สำหรับพระพุทธเจ้า เพราะว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้ไปสวรรค์ พระพุทธเจ้าตายแล้วก็คือเรียกว่าตาย แต่ก็ไม่ได้ไปสวรรค์ก็เลยไม่เรียกสวรรคตและไม่เรียกว่าตาย เป็นภาษาธรรมดาเกินไป มันต้องมีคนแล้วจะตาย นี่พระพุทธเจ้าเกินที่จะเป็นคน ในส่วนที่เป็นพระพุทธเจ้าโน้น เขาไม่เรียกว่าคน ก็เลยเรียกว่านิพพาน เขาเรียกว่านิพพาน ก็จำคำว่านิพพาน ปรินิพพาน ถ้าพูดให้มันชัดลงไปอีกก็เรียกว่าดับขันธ์ ดับขันธ์ พระพุทธเจ้าดับขันธ์ ดับขันธ์ก็คือปรินิพพาน ปรินิพพานก็คือดับขันธ์ ดับกิเลสก็เรียกปรินิพพาน ดับขันธ์ก็เรียกปรินิพพาน ขันธ์ใครรู้จัก ใครรู้จักขันธ์ยกมือเร็ว ว่าดับขันธ์น่ะ ใคร ใครรู้จักขันธ์ ไม่รู้จักเหรอ เป็นธรรมศึกษาทั้งทีไม่รู้จักขันธ์ หลอกเราแล้ว ไม่จริงแล้ว ถ้าเรียนธรรมศึกษาแล้วต้องรู้จักขันธ์ ขันธ์คืออะไรใครตอบได้ยกมือ อะไร คือร่างกาย ร่างกายก็ขันธ์เหมือนกันแหละ ถูกนั้นแหละ แต่มันไม่หมด ขันธ์มันมากกว่าร่างกายนะ ใครตอบได้อีก ใครตอบได้อีก มากกว่าร่างกาย ร่างกายด้วย จิตใจด้วย ความรู้สึกด้วย ถ้าเรียนธรรมศึกษาแล้วไม่ได้เรียนเรื่อง รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ห้าขันธ์เขาเรียกห้าขันธ์ คือขันธ์ ขันธ์มีห้า คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ดับขันธ์ก็ไม่มีขันธ์ สำหรับจะทำหน้าที่ขันธ์อีกต่อไป นี่ดับขันธ์ ปรินิพพานก็คือพูดภาษาชาวบ้านว่าตาย แต่ไม่ถูก ตายเขาใช้สำหรับคนธรรมดาสามัญ เอาตกลงยุติกันทีนะ ว่าประสูติน่ะคือ ประสูติจากครรภ์ของมารดา ออกจากครรภ์ของมารดา ตรัสรู้ นั่นคืออันนั้นคือความรู้ของพระพุทธเจ้าถึงที่สุด ถึงที่สุด รู้ว่าดับกิเลส ดับทุกข์ นั้นคืออะไร แล้วปรินิพพานนี่ตามธรรมดา ก็หมายถึงพระพุทธเจ้าดับขันธ์ นิพพาน พระพุทธเจ้า ไม่เสียเวลา ตอบทันที ยกมือทันที ใครตอบได้ตอบทันทีเลย พระพุทธเจ้าประสูติที่ไหน ที่ไหน (เสียงนักเรียนตอบ) กลางดิน ที่ไหน ที่ไหน (นักเรียนตอบว่าอินเดีย )อินเดีย ที่ไหนที่บอกรู้ที่ไหน สวนลุมพินี คนนี้ตอบได้ชัดว่าที่สวนลุมพีนี ที่กลางดิน ที่ประเทศอินเดีย ตรัสรู้ที่ไหน เร็ว ๆ ตรัสรู้ที่ไหน (นักเรียนตอบว่ากลางดิน) ที่ไหน เอ้า,ตอบแต่ว่ากลางดิน ที่ไหนเอาเปรียบกันนี่ กลางดินที่ไหน ที่ไหนอินเดียที่ไหนตอบให้ชัด ตรงไหนเมืองไหนอะไร ที่ไหนใต้ต้นมหาโพธิ ตำบลอะไร เอ้า,ใครตอบได้ ตำบลอะไร ตำบลคยา ตำบลคยา จังหวัดคยา ตำบลอุรุเวรา มากไปนักสำหรับพวกเธอ กลางดิน ริมแม่น้ำเขาเรียกแม่น้ำเนรัญชรา มีต้นโพธิ์ ที่โคนต้นโพธิ์กลางดิน ริมแม่น้ำเนรัญชรา ตำบลอุรุเวรา เวลานี้เขาเรียกจังหวัดคยา เมื่อก่อนเขาอาจจะเรียกประเทศคยา นิพพาน นิพพานที่ไหน เอ้า, พระพุทธเจ้านิพพานที่ไหน (นักเรียนตอบว่าที่กุสินารา) ที่กุสินารา เป็นอะไร กุสินารานี่เป็นอะไร (นักเรียนตอบว่าเป็นเมืองหลวง) เป็นเมืองหลวง ใครว่าที่ไหน พระพุทธเจ้านิพพานที่ไหน เอ้า, ตอบเร็ว ๆ เอ้า,ตอบได้แล้วธรรมศึกษา ที่ไหน ที่ไหนล่ะ ใครตอบได้ คนนี้ล่ะทำไมไม่ตอบกลางดินอีกล่ะ มันไม่มีทางผิดหลอกตอบกลางดินไม่มีทางผิด ที่กลางดิน ที่ในสวนต้นไม้มาก ๆ เขาเรียกวนอุทยาน ของพวกกษัตริย์มัลละ อยู่ระหว่างเมืองกุสินารากับเมืองปาวา ไม่ใช่ที่เมืองกุสินาราจำไว้ด้วยนะใกล้ ๆเมืองกุสินารา ใกล้ ๆกับเมืองปาวา อยู่ตรงกลางในสวนเป็นป่าเขาเรียกสวนสาละ สวนสาละ เขาเรียกสาละวัน ป่าไม้สาละ ใครรู้จักต้นสาละยกมือ ใครรู้จักต้นสาละยกมือ เหลวไหลหมด ทั้งนักเรียนทั้งหัวหน้าชั้นเหลวไหลหมด ตรงนั้นมีต้นสาละและเขียนป้ายติดไว้อยู่นั่นเห็นไม่เห็น ใครเห็น ใครเห็น ตรงนั้นมีต้นสาละเขียนป้ายติดไว้ ต้นสาละปลูกวันที่ 12 มกราคม ใครเห็น เอ้า,ไม่รู้มาดูอะไรกัน ไม่รู้มาดูอะไรกัน นั่นแหละเห็นยอดอยู่นี่ ที่ยอดขึ้นสูงอยู่ตรงหน้า นั้นแหละต้นสาละ ถ้าเป็นป่าทั้งป่าเขาเรียก สาละวัน พระพุทธเจ้าประสูติใต้ต้นสาละ และคราวนี้นิพพานก็ใต้ต้นสาละ คือต้นไม้ชนิดนี้เขาสั่งมา เขาสั่งกันมาจากอินเดีย เขาเอามาให้เราต้นหนึ่งปลูกไว้ เขาเรียกว่าต้นสาละ ไม่เตี้ยๆหรอก ไม่เห็นต้นสาละ ไปเที่ยวดูอะไรกันเสียหมด ต้นสาละควรจะเห็นก็ไม่เห็น ทุกคนแหละจำไว้เถอะ บางคนไม่ได้ฟังนั่งหลับกันมั่ง นั่งเล่นกันมั่ง ต้นสาละเดี๋ยวกลับไปดูใหม่ก่อนกลับขึ้นรถ ใบใหญ่ ๆแบบไหน สีแบบไหน ต้นแบบไหน เปลือกแบบไหน ไปดูกันซักนิด เพราะเป็นต้นไม้ที่พระพุทธเจ้าประสูติ ที่ใต้โคนต้นสาละ และนิพพานที่ใต้โคนของต้นสาละโดยมากพระพุทธเจ้าเที่ยวไปตามป่าสาละ และได้ตรัสข้อความเกี่ยวกับต้นสาละนี้บ่อย ๆ ที่เขาเรียกอุทยานนั้น คือเป็นป่าสำหรับเที่ยวเล่น มีศาลามีอะไรบ้างตามแบบสวนอุทยาน พระพุทธเจ้าปรินิพพาน ลองถามให้ละเอียดลงไปซักนิดว่าพระพุทธเจ้าประสูติเวลาไหน ตอนไหน เวลาเช้า เวลาเที่ยง เวลาเย็น เวลากลางคืน พระพุทธเจ้าประสูติเวลาไหน ใครตอบได้ ตรัสรู้เวลาไหน ในเวลาไหน(นักรียนตอบว่าเวลากลางคืน) ตรัสรู้เวลากลางคืน หัวค่ำ หรือดึก หรือหัวรุ่ง (นักเรียนตอบว่าตอนหัวค่ำ ) ตอนหัวค่ำ ใครใครบอก เอ้า,มองอาจารย์อีก ท่าจะไม่ใช่อาจารย์บอกแล้ว พูดเอาเองแล้วครั้งนี้ เอ้า,ใครตอบได้อีก พระพุทธเจ้าตรัสรู้เวลาไหนและประสูติเวลาไหน ตรัสรู้ตอนไหน นิพพานตอนไหน ที่เรารู้มาที่อ่านมาจากพระบาลี พระพุทธเจ้าประสูติเวลาเที่ยง ๆ หรือ บ่าย ที่สวนลุมพินี กลางวันตอนเที่ยงหรือตอนจะบ่าย ตรัสรู้ เวลาหัวรุ่ง (ใกล้สว่าง) เวลาสว่าง เวลาจะสว่างต่อกัน และก็นิพพานหัวค่ำ จำง่ายนี่ ตรัสรู้หัวรุ่ง นิพพานหัวค่ำ ประสูติหัวเที่ยง (ตอนเที่ยง) สามหัว พระพุทธเจ้าประสูติหัวเที่ยง ตรัสรู้หัวรุ่ง นิพพานหัวค่ำ จดเถอะ ถ้าจดจะได้ไปบอกกันต่อ ๆ คราวนี้ถ้าจะถามว่าไปถึงว่าวันไหน เดือนไหน มากนักนะ คงจะไม่ไหว พระพุทธเจ้านี่เกี่ยวข้องอะไรกันกับพุทธศาสนา ใครตอบได้ นี่ชั้นไหนนี่ ป.อะไร 5 6 7 ใครตอบได้พระพุทธเจ้านี่เกี่ยวข้องอะไรกันกับพุทธศาสนา นั่นแหละถามว่าเกี่ยวข้องอะไรกันกับพระพุทธศาสนา เป็นศาสดาทำอะไร (เสียงนักเรียนตอบ) ให้กำเนิดพุทธศาสนา นี่ได้ จำได้ตามตัวหนังสือ พระพุทธเจ้าเป็นผู้ตรัสรู้พระธรรมในศาสนานี้ แล้วก็สอน พระองค์รู้เองก่อนแล้วสอนผู้อื่นให้รู้ด้วย พึ่งพระศาสนา พึ่งพระธรรม พุทธศาสนาก็คือสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วสอนนะ ตรัสรู้คือรู้แล้วถึงสอนด้วยนะคือตัวศาสนา คำว่าสอนในที่นี้ก็หมายถึงให้ไปปฏิบัติ ทุกคนที่ได้รับต้องไปปฏิบัติ ที่พระพุทธเจ้า ตรัสรู้คือท่านปฏิบัติจนรู้ แล้วสอนให้คนเอาไปปฏิบัติจนรู้ จนดับทุกข์ได้เหมือนกัน ถ้าเขาถามว่าพุทธศานาคืออะไร พุทธศาสนาคืออะไร ตอบให้ถูกที่สุด ตอบว่าอย่างไร เอ้า,คิดให้เวลาคิดหนึ่งนาทีทุกคนคิดหนึ่งนาที ตอบให้ถูกที่สุดว่า พุทธศาสนานี้มันคืออะไร ให้คิดได้หนึ่งนาที เอ้า,ตอบ ใครคิดได้ก่อนยกมือ ทำไมขี้ขลาดกันเสียหมดล่ะ อยู่ที่โน่นไม่ขี้ขลาดแบบนี้หรอก อยู่ที่บ้านที่โรงเรียนไม่ขี้ขลาดแบบนี้ นี่ขี้ขลาดกันหมด มีที่นี้แหละ ที่ธรรมศึกษานี่แหละทำไมถึงขี้ขลาดกันหมด พุทธศาสนาคืออะไร เขาถามแบบนี้เธอจะตอบไปว่าอะไร ธรรมศึกษาตอบมา พุทธศาสนาคืออะไร ตอบเร็วๆ เอ้า,ใครคิดได้ก่อนยกมือ คือคำสอนนั้นข้อแรกคือคำสอน ให้เอาไปปฏิบัติ ปฏิบัติจนได้ผลของการปฏิบัติ มันต้องเป็นคำสอนที่ปฏิบัติได้และให้ผลเขาจึงจะเรียกว่าพุทธศาสนา สอนกันเฉยๆเป็นตัวหนังสือเฉย ๆยังไม่ใช่ ยังไม่เรียกว่าพุทธศาสนา เป็นคำสอนเรื่องดับทุกข์สอนแล้วปฎิบัติได้แล้วดับทุกข์ได้ ทั้งหมดนั้นแหละเขาเรียกว่าพุทธศาสนา นี่เรียกว่าพระธรรม ธรรมวินัยหรือพรหมจรรย์แปลกออกไป ไม่เคยได้ยินได้ฟัง เอาแต่เพียงว่าพุทธศาสนาคือระบบคำสอน เพื่อให้ไปปฏิบัติ และดับทุกข์ได้ พระพุทธเจ้าสอนเอ่อ สอน สอนคนจำพวกไหน จำพวกไหน สอนอะไรนะ เออนี้ตอบดี แบบนี้เขาเรียกว่าตอบดี คือสอนทุกชั้นวรรณะ ไหนเธอลองว่ามาดูกี่วรรณะ กี่วรรณะ กี่วรรณะ คืออะไรบ้าง ถ้าถามคงตอบได้นะว่าวรรณะพราหมณ์คืออะไร วรรณะกษัตริย์คืออะไร วรรณะแพศย์คืออะไร วรรณะศูทร คืออะไร สอนไม่เลือกวรรณะ สอนให้ทุกวรรณะ ปฏิบัติ บรรลุมรรคผลได้เหมือนกัน แล้วแขก แล้วฝรั่ง คนไทยนี่ไม่สอนเหรอ สอนหรือไม่สอน เอ้า,อยู่วรรณะไหน เป็นแขก เป็นฝรั่ง เป็นไทย เป็นจีน อยู่วรรณะไหน หรือไม่อยู่ในวรรณะไหน เอ้า,ใครตอบได้อยู่วรรณะไหนใครตอบได้ คนนี้ตอบได้ไม่ได้ อยู่วรรณะไหน (เสียงนักเรียนตอบ) จีนแขก ฝรั่ง ไทย อยู่ทั้งสี่วรรณะ คนแบบไหนที่เรียกว่าอยู่วรรณะไหน ต้องถามแล้วทีนี้ มันทำให้ต้องถามแล้ว อันไหนเรียกว่าอยู่ในวรรณะพราหมณ์ อันไหนเรียกว่าอยู่ในวรรณะกษัตริย์ เอ้า, เธอตอบเอง อันไหนแบบไหนเรียกวรรณะพราหมณ์ หืม (เสียงนักเรียนตอบ) เป็นครูบาอาจารย์ต้องสอน วรรณะไหนเรียกว่าวรรณะกษัตริย์ล่ะ (เสียงนักเรียนตอบ) อืม ฝ่ายปกครอง ฝ่ายรบรา ป้องกันอาณาจักรเป็นนักรบ ทีนี้วรรณะแพศย์ล่ะ แพศย์หรือไวศยะ(เสียงนักเรียนตอบ) คือคนทำมาหาขาย นักธุรกิจ ศูทรล่ะ(เสียงนักเรียนตอบ) กรรมกรนั่นแหละ เธออยู่วรรณะไหนแล้ว เอ้า,อย่าหลบ เธออยู่วรรณะไหนล่ะ หา ตอบไม่ได้ เธออยู่วรรณะไหน หรือไม่มีวรรณะหรือนอกวรรณะ วรรณะแพศย์ เป็นลูกแพศย์ละมั่ง ตัวเล็กๆยังไม่ถึงกับเป็นแพศย์ เธอคงหมายถึงพ่อแม่ ปู่ตาย่ายายเป็นวรรณะแพศย์ แล้วเราก็ต้องอยู่ในวรรณะแพศย์ คือทำนาค้าขายไปตามเรื่อง เธอเรียกวรรณะแพศย์ พระพุทธเจ้าสอนทุกวรรณะ คนในชาติอื่นภาษาอื่นก็พิจารณาได้ตามวรรณะ เขาก็มีหน้าที่การงานอย่างใดอย่างหนึ่งก็เรียกวรรณะ แต่เขามักจะหมายถึงเกิดจากพ่อแม่ชนิดไหนก็เป็นวรรณะนั้น ก็เลยเรียกว่าวรรณะแท้จริง เอาตามพ่อแม่เป็นอย่างไรลูกเป็นอย่างไร พระพุทธเจ้าจะเอาการงานหน้าที่การงานเป็นหลัก ที่จะเรียกเขาเป็นวรรณะไหน ได้รับคำสอน แล้วก็ดับทุกข์ได้เหมือนกันหมด พระพุทธเจ้าสอนทั้งสี่วรรณะ นี่สอนเหมือนกันหรือว่าสอนต่างกันล่ะ สอนเหมือนกันนั่นแหละ คนหนึ่งมันเป็นครู คนหนึ่งเป็นนักรบ คนหนึ่งมันเป็นนักธุรกิจ คนหนึ่งมันเป็นกรรมกร สอนเหมือนกันมันยังทำได้เหรอ เอ้า,ทำได้ไม่ได้ เอ้า,ใครว่าทำได้ไม่ได้ หา ทำอย่างไรจึงทำได้ คนมันอยู่ต่าง ๆกันสี่พวก ทำได้หรือ ทำได้อย่างไร หา คนมันแปลก ๆกันทั้งสี่พวก สอนรวมกันได้เหรอ ได้เหรอ แบบไหนที่เรียกว่าได้ นั่นมันผลสุดท้าย เอาแหละ ว่าเหมือนกัน เราก็ถามดูว่าเธอจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจ สอนให้ละความชั่วเหมือนกัน สอนให้ทำความดีเหมือน กันเสร็จแล้วก็จะได้ผลเหมือนกัน ไม่ว่าวรรณะไหน นี่มีเวลาเท่าไหร่ จะกลับเวลาไหน กี่โมง กลับบ่ายสองโมง เอ้า, อีกสองสามคำ พระพุทธเจ้าสอนเหมือนกัน ทั้งสี่วรรณะนี้ สอนว่าอย่างไร (นักเรียนตอบว่าให้ละความชั่วทำความดี) เท่านั้นเหรอ ใครว่ายังมีอีก สอนอย่างไร ใครว่ายังมีอีก ทำจิตให้บริสุทธิ์ ๓ ข้อ ที่เขาพูดไว้เป็นหลัก ให้ละความชั่ว ให้ทำความดี แล้วทำจิตให้บริสุทธิ์ จำให้แม่นยำ เธอทุกคนปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าหรือไม่ ใครปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้ายกมือ ใครปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้ายกมือ กล้ายืนยัน ยกมือ โอ้ มีหลายคนเลย มีหลายคนที่ไม่ปฏิบัติ ใครไม่ปฏิบัติล่ะ ใครที่ไม่ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้ายกมือ ฟังถูกนะ ทีนี้ใครปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ยกมือ เอ้า,คนนั้นยังไม่รู้อะไร ยังไม่รู้อะไร ง่วงนอนฟังไม่ถูก เราก็ให้พรคนที่ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ขอให้มีความเจริญ ความก้าวหน้า ในความเจริญ จนถึงกับว่าเป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา เป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์ เป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อน เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติ เป็นสาวกที่ดีของพระพุทธเจ้า นั่นแหละคือละชั่ว ทำความดีทำจิตให้บริสุทธิ์ เวลานี้ใครเป็นบุตรที่เลวของบิดามารดาบ้าง ยกมือซิ ใครบ้างที่นั่งตรงนี้เป็นบุตรที่เลวของบิดามารดา ไม่มีใครยกมือ ใครเป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา คนโน่นไม่ได้สนใจ เลยไม่รู้ว่าอะไร ไม่รู้ว่าเพื่อนยกมือทำไม ใครทำให้บิดามารดาโกรธบ้าง ใครที่ทำให้บิดามารดาโกรธบ้าง ตอนอยู่ที่บ้านไม่ใช่อยู่ที่นี่ ใครที่ทำให้บิดามารดาโกรธบ้าง ยกมือซิ ไม่เกิดเรื่องกับพ่อแม่ ไม่ทำให้พ่อแม่โกรธไม่มีเลย ใครถูกพ่อแม่ดุว่าขี้เกียจบ้างยกมือซิ ใครถูกพ่อแม่ดุว่าขี้เกียจบ้าง พูดมากไม่ไหวแล้วเดี๋ยวกลายเป็นสอนให้เธอพูดไม่จริง พวกที่ทำให้พ่อแม่ต้องโกรธ ต้องเป็นทุกข์นั่นแหละ เขาเรียกว่ายังไม่ได้เป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา ถ้าจะเป็นบุตรที่ดีของบิดามารดาไปตั้งต้นกันเสียใหม่ อย่าทำให้บิดามารดาโกรธ เสียใจหรือเดือดร้อน ลำบากเพราะว่าเธอมันขี้เกียจเล่าเรียน หรือว่าเหลวไหลในการเรียนด้วย ใช้เงินเปลืองด้วย ทำอะไรต่ออะไรต่าง ๆ ใครเป็นศิษย์ที่ดีของครูบ้าง นอกนั้นเป็นศิษย์ที่เลวของครู ใครเป็นศิษย์ที่ดีของครูบ้างว่ากันจริง ๆ ยกมือใครเป็นศิษย์ที่ดีของครู ใครจะสไตรค์ไล่ครูออกจากโรงเรียนบ้าง ไม่มี เป็นศิษย์ที่ดีของครู ใครเป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อนบ้าง ยกมือ ใครเป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อนบ้าง ใครไม่เคยด่าเพื่อน ยกมือซิ ใครไม่เคยด่าเพื่อน ทุบเพื่อน ตีเพื่อน ไม่เคยข่วนหน้าเพื่อน ไม่มีใครไม่เคยเห็นมั๊ย ว่าเพื่อน ด่าเพื่อน ตีเพื่อน ทุบเพื่อน มันยังไม่เป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อน อย่าทำอย่างนั้นนะ เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติ อันนี้ก็ขยันหมั่นเรียน เป็นพลเมือง โตขึ้นอีกหน่อยจึงจะเป็นพลเมืองโดยสมบูรณ์ เป็นสาวกที่ดีของพระพุทธเจ้า เป็นไปได้ตั้งแต่เวลานี้แหละ ศึกษาเล่าเรียน ศึกษาปฎิบัติ เชื่อฟังคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ในที่สุดขอให้เปลี่ยนกันเสียใหม่ในทุกๆ คน ถ้ายังไม่ถูกต้องเปลี่ยนเสียให้ถูกต้อง ให้เป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา เป็นศิษย์ที่ดีครูบาอาจารย์ เพื่อนที่ดีของเพื่อน พลเมืองที่ดีของประเทศชาติ เป็นสาวกที่ดีของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือพระศาสดาแห่งศาสนาของตนของตน แล้วแต่จะนับถือศาสนาอะไร เวลาก็หมด เอาวันนี้เราก็ให้พรเธอ ขอให้เธอทุกคนจงมีความเจริญงอกงามในการศึกษา ในการปฏิบัติ เชื่อฟังบิดามารดา ครูบาอาจารย์ คนเฒ่าคนแก่ พระเจ้าพระสงฆ์ และให้เธอประสบความสำเร็จในชีวิตที่ตนประสงค์จำนงค์หวัง ทุกๆประการเทอญ นั่นแหละไปได้ นี่สองโมงพอดี (เสียงคนพูดว่าเดี๋ยวนักเรียนอย่าเพิ่งๆ ลาอาจารย์ก่อน ว่าเลยเด็กพูดพร้อมกันว่า อัญชลี วันทนา อภิวาท สามครั้ง ) เติมครับไปนิดไม่ได้เหรอ อภิวาทครับสักนิดก็ได้ ลองทำดูนะ อัญชลี วันทนา อภิวาทครับ.