แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ในชั้นแรกนี้ก็อยากจะพูดกับนักเรียน ในฐานะที่เป็นนักเรียน อุตส่าห์มาจนถึงที่นี่ ก็ควรจะได้ประโยชน์ตามที่มุ่งหมายในการมาที่นี่ ไอ้ที่นี่เราเรียกกันว่าสวนโมกข์ กิจการของส่วนโมกข์ก็คือการเผยแผ่ธรรมะในพระพุทธศาสนา การอบรมสั่งสอน ทีนี้ก็มีการจัดพิเศษต่างไปบ้างก็คือ อุปกรณ์ เครื่องอำนวยความสะดวก เช่นในตึกนั้นมีภาพให้ความสะดวกในการศึกษาธรรมะ เป็นอุปกรณื และก็อุปกรณ์ที่ลึกซึ้งมากที่สุดนั้นก็คือตัวธรรมชาติ ตามธรรมชาติทั่วไปทั้งวัด คือต้นไม้ก้อนหินแผ่นดิน นี้เป็นอุปกรณืที่ประเสริฐที่สุดในการที่จะรู้ธรรมะ หนังสือก็ช่วยไม่ได้ หนังสือให้ความรู้ไปในทางหนึ่งแต่ไม่ให้ความรู้สึก ไอ้รูปภาพสิ่งของวัตถุสาธิตต่างๆมันก็ช่วยมากไปกว่าหนังสือ แต่ว่าไอ้สิ่งที่เรียกว่าธรรมชาติเนี่ยช่วยมากกว่านั้น คือช่วยให้เกิดความรูสึก ฉะนั้นพอเข้ามาในสถานที่อย่างนี้ จิตใจมันเปลี่ยนไปเป็นความเยือกเย็นสบาย ความรู้สึกอย่างนี้หนังสือให้ไม่ได้ รูปภาพหรืออุปกรณ์การศึกษาอย่างอื่นก็ให้ไม่ได้ แต่ธรรมชาตินี้ให้ได้ ฉะนั้นอำนาจลึกลับของธรรมชาติก็คือว่ามันแวดล้อมจิตใจของคนเข้ามา ให้เปลี่ยนไปสู่ความสงบ หรือว่างตามธรรมชาติ จึงว่าเป็นอุปกรณ์แก่การศึกษาธรรมะไปทั้งวัดเลย ทั่วไปทั้งวัด
นี้ความมุ่งหมายส่วนใหญ่ก็คือว่าเดี๋ยวนี้มนุษย์ในโลกรู้แต่เรื่องทางวัตถุ เรียกกันว่าทางเนื้อหนัง มีความคิดความรู้ก้าวหน้า ประดิษฐ์แต่เรื่องทางเนื้อหนัง ทางวัตถุ กระทั่งว่าไปโลกพระจัทร์ก็ได้ เรื่องทางวัตถุก้าวหน้ามากเดี๋ยวนี้ แต่เรื่องทางจิตใจนั้นเสื่อมทรามลง เมื่อมีการรบราฆ่าฟันเบียดเบียนกันมากขึ้นกว่าแต่ก่อน และก็จะมากขึ้นไปอีก และศีลธรรมของมนุษย์เวลานี้ก็เสื่อมทรามลง ศีลธรรมเรื่องเพศก็เสื่อมลง ศีลธรรมเรื่องเคารพนอบน้อม กตัญญูกตเวทีอะไรก็ล้วนแต่เสื่อมลง นั้นก็เป็นเรื่องทางจิตใจ จิตใจมันเสื่อมลง เป็นความผิดของมนุษย์ทั้งโลกที่ให้การศึกษาไปแต่ในเรื่องทางวัตถุ นี่เราก็ไม่เห็นด้วยในข้อนี้ ฉะนั้นจึงพยายามทำเรื่องทางจิตใจทางวิญญาณเนี้ยขึ้นมาชดเชยส่วนที่มันขาดอยู่ จึงจัดไปในทางที่ว่า เข้ามาในสถานที่นี้แล้วจะมีความรู้เรื่องทางจิตและทางวิญญาณ โดยอัตโนมัติ โดยธรรมชาติ โดยมิต้องยุ่งยากลำบากอะไรมาก ขอแต่เพียงว่าให้รู้จักสังเกตสักหน่อย เช่นว่าพอเข้ามาในวัดมันสบายใจ สบายใจชนิดที่บอกพรรณาไม่ถูก ก็ควรจะดูต่อไปว่าเพราะเหตุอะไรจึงเป็นอย่างนั้น ถ้าฉลาดหน่อยก็อาจจะคิดได้หลายๆอย่าง ธรรมชาติมันช่วย มันช่วยยังไง มันช่วยให้ลืม ให้ลืมความเห็นแก่ตัว อยู่ที่บ้าน อยู่ที่โรงแรียน แม้ที่โรงเรียนก็มีความเห็นแก่ตัว เต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัว ในสนามกีฬาสมัยปัจจุบันนี้ยิ่งเต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัว ทั้งที่กีฬานั้นจัดขึ้นเพื่อทำลายความเห็นแก่ตัว กลับไปมีความเห็นแก่ตัวหนาแน่นในสนานกีฬานั่นเอง การทำผิดของมนุษย์ในสมัยปัจจุบัน
ความเห็นแก่ตัวทำให้ร้อนระอุ กลัดกลุ้ม หม่นหมอง สงสัย วิตกกังวล นั่นเป็นเรืื่องความเห็นแก่ตัว เลยไม่สบาย พอว่างจากความเห็นแก่ตัวเมื่อไหร่ มันก็ไม่มีปัญหา ไม่กลัวแม้กระทั่งความตาย ไม่มีปัญหาที่เกิดยุ่งยากหม่นหมองในจิตใจ พอเข้ามาในที่อย่างนี้ธรรมชาติช่วยให้ลืมความเห็นแก่ตัว ก็เลยสบาย ทีนี้คนมีปัญญาก็สึกษาต่อไปอีกจนพบว่า เออเราจะรู้สึกสบายที่สุดต่อเมื่อเราไม่มีความรู้สึกที่เป็นตัวกู เป็นของกู ไม่มีความรู้สึกที่เป็นตัวกู เป็นของกู คือเห็นแก่ตัว นั้นมันเป็นไอ้ความรู้ที่เรียนในหนังสือไม่ได้ ต้องเรียนจากธรรมชาติโดยตรง พระพุทธเจ้าท่านเรียนจากธรรมชาติโดยตรงท่านก็ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า แล้วก็สอนเรื่องความทุกข์ ความดับทุกข์ ล้วนแต่เป็นเรื่องธรรมชาติ นี่ท่านก็อยู่กับธรรมชาติ ก็อยากให้นักเรียนรู้จักนั่งกลางดิน เพื่อเข้าใจจิตใจของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าเกิดกลางดิน เค้าเรียกประสูติกลางพื้นดิน ในสวนสาละ ต้นสาละ ในสวนสาละของกษัตริย์ที่เที่ยวเล่น ท่านเกิดกลางดิน ท่านตายกลางดิน และส่วนมากท่านอยู่กลางดิน พวกเรามันหลง มันเห่อแต่เรื่องบนปราสาท บนตึก บนวิมาน มันตรงกันข้าม จิตใจมันถึงไม่เหมือนกัน นั้นถ้าได้นั่งกลางดินอย่างนี้บ้างขอให้นึกถึงพระพุทธเจ้า เพราะท่านเกิดกลางดิน ท่านตายกลางดิน ส่วนมากท่านอยู่กลางดิน ท่านสอนสาวกก็กลางดิน ไม่ได้มีอาคารก่อสร้างหรูหราเหมือนเดี๋ยวนี้
นั้นอย่าได้เข้าใจว่าการศึกษาเล่าเรียนต้องทำบนตึกที่ราคาเป็นล้านๆ กลางดินก็ทำได้ ถ้าเป็นเรื่องทางสูงสุด ทางธรรมะ ทางจิตใจแล้วยิ่งจะต้องทำกลางดิน เพราะมันช่วย ช่วยมาก คือจิตใจมันเป็นไปเองตามธรรมชาติ เรามีจิตใจคล้ายจิตใจพระพุทธเจ้าได้ง่าย หรือเข้าใจจิตใจของพระพุทธเจ้าได้ง่ายถ้าเราเป็นอยู่ให้เหมือนท่าน ฉะนั้นนักเรียนควรจะจำไว้สักข้อหนึ่งว่า ถ้าเราอยากจะรู้ หรือเข้าใจจิตใจของผู้ใดแล้ว เราจงเป็นอยู่ให้เหมือนผู้นั้นให้มากที่สุด เราจึงเป็นอยู่ กินอยู่ ให้เหมือนผู้นั้นให้มากที่สุด เราจะเข้าใจจิตใจของผู้นั้นได้ง่าย นั้นบางเวลาเราควรจะมีการเป็นอยู่กินอยู่อย่างสันโดษมักน้อยเหมือนพระพุทธเจ้ากันบ้าง เราก็เข้าใจธรรมะของพระพุทธเจ้าได้ง่าย ถ้าเรามีจิตใจเห่อเหิมไปตามก้นพวกฝรั่ง เราก็ไม่มีทางที่จะเข้าใจจิตใจของพระพุทธเจ้าได้ คือมันตรงกันข้าม เดี๋ยวนี้ไอ้ชาติล้าหลังเล็กๆนี้กำลังตามก้นฝรั่ง วัฒนธรรมฝรั่ง เลยเลอะเทอะเหมือพวกฝรั่ง คำว่าฝรั่งนี้ก็หมายถึงส่วนมาก ไม่ใช่ทั้งหมด มันกำลังเสื่อมเสียทางศีลธรรม การศึกษานำไปสู่ความเป็นฮิปปี้ในที่สุด อย่างนี้ เป็นเรื่องที่น่าสมเพช มันเดินคนละทางกันกับพระพุทธเจ้า นั้นถ้าเราอยากจะมีความสงบสุขอย่างมนุษย์ มันก็ต้องนึกให้มากในข้อนี้ ถ้าเราไปตามก้นวัตถุนิยมมันก็เป็นเรื่องรบราฆ่าฟันไม่มีที่สิ้นสุด เห็นแก่ตัวจัดยิ่งขึ้นทุกที ยิ่งขึ้นทุกที ถ้าเราจะเป็นพุทธบริษัท เป็นมนุษย์ที่มีความสะอาด สว่าง สงบ ก็ต้องตามหลังพระพุทธเจ้า นั้นพยายามศึกษาและเข้าใจความสงบเยือกเย็น บริสุทธิ์ สะอาด ของธรรมชาติ ซึ่งปู่ย่าตายายของเราได้เคยทำมาแล้ว แล้วก็ประสบความสงบสุข
นั้นขอให้นักเรียนทุกคนพยายามตั้งอกตั้งใจเป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา เป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์ เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติ แล้วก็เป็นสาวกที่ดีของพระพุทธเจ้า เนี่ยเอาสี่อย่างนี้ก็พอ ที่จริงมันก็มีมากกว่านั้น แต่ว่าที่มันมีใจความกว้างๆ และก็ขอให้เป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา หจึ่ง และก็สองขอให้เป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์ และก็สามขอให้เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติ และก็ให้ สี่ ให้เป็นสาวกที่ดีของพระพุทธเจ้า
เวลาเรามีน้อยก็พูดกันแต่หัวข้อว่าเป็นบุตรที่ดีของบิดามารดานั้น มีใจความว่า ไม่จบบิดามารดาใส่นรก บุตรที่เลวย่อมจับบิดามารดาใส่ลงไปในนรก คือทำบิดามารดาให้ร้อนใจ ด้วยการใช้เงินเปลือง ด้วยการเป็นเจ้าชู้ตั้งแต่เล็ก ไม่ประสบความสำเร็จในการศึกษาเล่าเรียน ไม่มีศีลธรรมดี อย่างนี้จับบิดามารดาใส่ลงไปในนรก เขาเรียกว่าเป็นบุตรที่เลว หรือที่ถูกนั้น ไม่ใช่บุตร ถ้าเป็นบุตรต้องช่วยบิดามารดาขึ้นจากนรก ถ้าไม่ช่วยบิดามารดาขึ้นจากนรกไม่มีความหมายของคำว่าบุตร มันก็เป็นอะไรอันหนึ่งซึ่งไม่ใช่บุตร ทีนี้เราต้องการเป็นบุตร แล้วก็เป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา ช่วยทำบิดามารดาให้ได้รับความสุขความสบายใจสมกับที่บิดามารดามีความต้ังใจไว้ว่าเราอยากจะมีบุตร เพื่อทำให้เราสบายใจ ถ้าบิดามารดาตั้งใจว่าจะมีบุตร เพื่อจะได้เป็นที่ชื่นอกชื่นใจสบายใจจนตลอดชีวิต ฉะนั้นบุตรที่ดีต้องไม่ทำให้บิดามารดาผิดหวัง ความประสงค์ของบิดามารดามีอยู่อย่างไรก็ทำอย่างนั้น เช่นเล่าเรียนดี รู้จักประหยัด รู้จักอดกลั้นอดทนให้การศึกษาสำเร็น ให้หน้าที่การงานสำเร็จ ให้ประสบความสำเร็จตามที่มุ่งหมายไว้ทุกประการ ตัวเองก็มีความสุข บิดามารดาก็มีความสุข
เดี๋ยวนี้เด็กๆมักไม่ได้รับการอบรบสั่งสอนให้กตัญญูต่อบิดามารดา ไม่เหมือนเด็กๆสมัยก่อน เด็กๆสมัยนี้ไม่เคยกราบตีนบิดามารดาวันละครั้งก่อนนอน นี้ไม่เคย ถ้าเป็นเด็กสมัยก่อนน่ะเคย เด็กสมัยก่อนถูกสอนให้คิดว่าชีวิตของเราได้มาจากบิดามารดา ฉะนั้นทั้งหมดต้องมอบให้แก่บิดามารดาได้แม้แต่ชีวิตของเรา ฉะนั้นจึงไม่ดื้อ จึงไม่ทำอะไรให้บิดามารดาเดือดร้อน ไม่ฝืนความประสงค์ของบิดามารดา แม้ว่าเกิดความเข้าใจผิดต่างกันเนี่ย ลูกก็จะยอมทนให้เป็นไปตามความประสงค์ของบิดามารดา แม้ว่าไม่เห็นด้วย แม้ว่าไม่ชอบ ก็มีความรักความกตัญญูมาก นี้เด็กสมัยนี้ไม่เป็นอย่างนั้น จะตลาดเอาบิดามารดา จะทวงบุญคุณแก่บิดามารดา ว่าตัวมีบุญคุณแก่บิดามารดา ไม่ใช่บิดามารดามีบุญคุณแก่ตน เนี่ยเดี๋ยวนี้มีแล้ว ว่าเด็กบางคนไปเมืองนอกกลับมา หาว่าเขามีบุญคุณแก่บิดามารดาเพราะทำให้บิดามารดาพลอยได้ชื่อเสียงเพราะเขาได้ไปเมืองนอกนี้ ก็เลยว่าเขามีบุญคุณแก่บิดามารดา ก็ใช้บิดามารดาอย่างคนใช้บ้างอะไรบ้าง มันคิดกันตรงกันข้ามอย่างนี้ ทีนี้คิดดูให้ดีว่าเราเกิดมาจากบิดามารดา ไม่ได้เกิดจากโพรงไม้ เราเกิดเราเองก็ไม่ได้ บิดามารดาเกิดเรามา ฉะนั้นชีวิตทั้งหมดได้มาจากบิดามารดา นั้นควรจะเป็นของบิดามารดา บิดามารดาต้องการอย่างไรควรจะได้อย่างนั้น นี้เราไม่ต้องกลัวที่บิดามารดาจะต้องการให้เราไม่ดีหรือเสียหายนั้นไม่มี มีแต่ให้ดีที่สุดอยู่แล้ว ฉะนั้นบุตรที่ดีจึงเป็นบุตรที่เชื่อฟัง
พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่าบุตรมีสามชนิด คือบุตรเลวกว่าบิดามารดา บุตรเสมอกับบิดามารดา บุตรดีกว่าบิดามารดา แต่บุตรทั้งสามนี้ก็ยังไม่ดีเท่าบุตรที่เชื่อฟัง นั้นก็เราถือตามพระพุทธเจ้าสอนก็หมดปัญหา คือเชื่อฟังบิดามารดา
ทีนี้ก็เป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจรย์ เด็กสมัยนี้ถูกทำให้โง่ไปว่า ครูบาอาจารย์เป็นลูกจ้าง สอนหนังสือกินเงินเดือนรัฐบาลหรือว่าเก็บไปจากพ่อแม่ของเราเนี้ย ครูเป็นลูกจ้างเลยไม่เคารพครูบาอาจารย์ เด็กฝรั่งล้อเลียนครูบาอาจารย์เหมือนกับเพื่อน หรือยิ่งกว่าเพื่อน แต่ถ้าว่าแบบไทยแท้ของเรา ครูบาอาจารย์นั้นเป็นผู้ให้แสงสว่างในทางจิตใจที่บิดามารดาให้ไม่ได้ คือให้ต่อไปจากบิดามารดา ฉะนั้นสิ่งที่เขาให้นั้นมันมากกว่า ไอ้เงินเดือนนั้นเป็นของเล็กน้อย ครูบาอาจารย์จึงเป็นปูชนียบุคคลเหมือนกับบิดามารดาเหมือนกัน นั้นเมื่อไม่คิดว่าครูบาอาจารย์เป็นลูกจ้าง ก็เคารพครูบาอาจารย์ได้ แล้วก็เชื่อฟัง ก็เป็นศิษย์ที่ดีได้
นี้ชื่อว่าเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาตินี้ เด็กๆได้รับการชี้แจงสั่งสอน ถึงกับให้ท่องด้วยซ้ำไป จดอยู่ในสมุด นี่เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติ ถ้าเป็นได้ก็ดี ถ้าเป็นแต่ปากก็ไม่มีความหมายอะไร ได้รู้ว่าเด็กๆนี้จะต้องเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติอย่างไร ก็ทำตามที่จดไว้ในสมุดโน้ตนั้นให้สมบูรณ์ก็แล้วกัน ก็ได้รับรู้ว่าเราเป็นคนมีชาติ ฉะนั้นรักษาไอ้ความเป็นคนมีชาติไว้อย่าให้ล่มจม ให้เป็นชาติที่มีวัฒนธรรม ไม่อับอายขายหน้าชาติอื่น ให้มีความเจริญมั่นคงเป็นปึกแผ่น มีวัฒนธรรมดี มีความสุข นี่ก็เรียกว่าเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติ ก็ถือความถูกต้องเป็นหลัก ที่ถือประชาธิปไตยนี้บางทีก็ผิดเอามากมาก ถ้าประชาธิปไตยของคนโง่ ประชาธิปไตยของคนอันธพาล มันก็ใช้ไม่ได้ พวกฝรั่งเป็นอันธพาลมากขึ้นทุกที ฉะนั้นประชาธิปไตยของฝรั่งมันก็เป็นประชาธิปไตยอันธพาล ถ้าเขาเป็นพุทธบริษัทแล้วก็รวมกันเป็นประชาธิปไตย มันก็เป็นประชาธิปไตยที่น่าดู เดี๋ยวนี้พวกฝรั่งก็ไม่ถือคริสต์ศาสนา พระเจ้าตายแล้ว พวกฝัร่งจะพูดว่าพระเจ้าตายแล้ว ศาสนาไม่จำเป็น เนื้อหนังเนี่ยเป็นหลักสำคัญ ความเอร็ดอร่อยความสบายทางเน้ือทางหนังเป็นหลักสำคัญ นี้เราเรียกว่าเป็นอันธพาลทางวิญญาณ นี้ประชาธิปไตยของคนเหล่านี้มันก็ทำโลกให้ยุ่ง นี้ถ้าเรามีธรรมะ มีความถูกต้อง แล้วก็เป็นธรรมาธิปไตย มีความจริงความถูกตียงเรียกว่าธรรมาธิปไตยก็ใช้ได้ นั้นคนไทยนี้เค้าปกครองกันมาด้วยระบอบธรรมาธิปไตย จะคนเดียวปกครองก็ได้ หลายคนปกครองก็ได้ จะเรียกว่าเป็นอัตตาธิปไตยก็ได้ถ้ามันประกอบไปด้วยธรรมะ จะเป็นประชาธิปไตยก็ได้ถ้ามันประกอบไปด้วยธรรมะ ผลสุดท้ายมันดีอยู่ที่ธรรมะ ฉะนั้นขอให้เด็กๆสนใจสิ่งที่เรียกว่าธรรมะ ก็เลยเป็นชาติประเทศที่ดีที่มีธรรมะ ไม่มีความทุกข์ เนี่ยเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติ ก็คือเป็นพลเมืองที่ประกอบไปด้วยธรรมะ ความถูกต้อง
ทีนี้อันสุดท้ายก็เป็นสาวกที่ดีของพระพุทธเจ้า หรือของพระศาสดา แล้วแต่ว่าถือศาสนาไหน ได้ทั้งนั้น ศาสนาทุกศาสนาสอนให้ทำลายความเห็นแก่ตัว ฉะนั้นศาสนาทุกศาสนามีประโยชน์ ใช้ได้ และเหมือนกันตรงที่ทำลายความเห็นแก่ตัว นี้ถ้าเป็นพุทธบริษัทก็นับถือพระพุทธเจ้า เป็นสาวกที่ดีของพระพุทธเจ้าก็ต้องเป็นผุ้ทำลายความเห็นแก่ตัว ถ้ามีความเห็นแก่ตัวไ่ม่เป็นสาวกของพระพุทธเจ้า ไปคิดดูให้ดี ไม่เห็นแก่ตัวหมายความว่าไม่มีกิเลสที่จะเห็นแก่ตัวและเอาเปรียบผู้อื่น ที่จริงเราก็รักตัวเรา แต่ว่าเราจะเอาข้างเราฝ่ายเดียวไม่เห็นแก่ผู้อื่นนั้นมันไม่ได้ เราต้องรักผู้อื่นเหมือนกับรักเรา เค้าจึงเรียกว่าไม่เห็นแก่ตัว บางศาสนาสอนให้รักผู้อื่นยิ่งกว่าตัวก็มี ไอ้เราเป็นพุทธบริษัท เอาแต่เพียงว่าให้รักผู้อื่นเหมือนกะที่เรารักตัวเราก็ใช้ได้แล้ว นั้นก็พยายามทำตามคำส่ังสอนของพระพุทธเจ้า นับตั้งแต่นับถือพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ ก็มีศีลห้าให้ถูกต้อง
ศีลห้านั้นต้องมีความหมายถูกต้อง อย่าท่องแต่ตัวหนังสือ ศีลข้อที่หนึ่งอย่าประทุษร้ายชีวิตร่างกายของผู้อื่นโดยทุกวิถีทาง ต้องพูดไปอย่างนั้น ศีลข้อที่หนึ่ง ไม่ประทุษร้ายร่างกายผู้อื่นโดยทุกวิถีทาง
ศีลข้อที่สอง ไม่ประทุษร้ายทรัพย์สมบัติของผู้อื่นโดยทุกวิถีทาง
ศีลข้อที่สามไม่ประทุษร้ายของรักของชอบใจของผู้อื่นโดยทุกวิถีทาง แม้มันจะเป็นเพียงตุ๊กตาสักตัวหนึ่ง ถ้าเขารักมากก็อย่าไปแตะต้องของเขา ไม่ต้องพูดถึงเรื่องชู้สาว แม้แต่ของใช้ของเล่นที่เขารักเป็นพิเศษนั่นหน่ะก็เรียกว่าของรัก ก็อย่าไปแตะต้องขอเขา มันจะผิดศีลข้อที่สามนี้ คือว่าประทุษร้ายของรักดั่งดวงใจของผู้อื่น
ข้อที่สี่อย่าประทุษร้ายความเป็นธรรมหรือความถูกต้องของผู้อื่นด้วยวาจา หรือพูดเท็จนี่
ข้อที่ห้าอย่าประทุษร้ายสติสััมปชัญญะสมประดีของตัวเอง บริโภคมึนเมาเข้าไปแล้วมันประทุษร้ายสติสมประดีของตัวเอง ไม่เป็นคน นั้นระวัง อะไรที่มันเป็นเรื่องเมาแล้วเป็นเว้นหมด เพราะมันประทุษร้ายสติสมประดีของเราเอง
ถ้าถือได้อย่างนี้เป็นสาวกของพระพุทธเจ้าที่สมบูรณ์ มีศีลหมดในพระพุทธศาสนา ขอให้จำไว้ให้แม่นยำว่าข้อหนึ่งอย่าประทุษร้ายชีวิตร่างกายผู้อื่น ข้อสองอย่าประทุษร้ายทรัพย์สมบัติผู้อื่น ข้อสามอย่าประทุษร้ายของรักดั่งดวงใจของผู้อื่น ข้อสี่อย่าประทุษร้ายความเป็นธรรมของผู้อื่น ข้อห้าอย่าประทุษร้ายสติสมประดีของตัวเอง ถือได้อย่างนี่จะเป็นลูกที่ดีของบิดามารดา จะเป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์ จะเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติ แล้วก็จะเป็นสาวกที่ดีของพระพุทธเจ้าพร้อมกันไปในคราวเดียวกันไม่ต้องปฏิบัติหลายอย่าง ปฏิบัติอย่างเดียวเป็นหมด นั้นก็มีจิตใจสูง ไม่เห็นแก่ตัวไม่เห็นแก่ปากไม่เห็นแก่ท้อง ไม่มีความโลภความโกรธความหลงเกิดขึ้นได้ เพราะเราถืออยู่อย่างนี้ เมื่อเป็นยุวชนชาติไทย นับถือพระพุทธศาสนาต้องเป็นอย่างนี้ คือเป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ เป็นศิษย์ที่ดีของครูอาจารยเป็นพลเมืองดีของประเทศชาติ เป็นสาวกที่ดีของพระพุทธเจ้าด้วยการทำอย่างนี้
คือถ้าที่อื่นเรามัวคุยกันเอ็ดอึงเอ็ดตะโรไป พอมาในที่สงัดอย่างงี้ขอให้นึกให้มากมาก มันนึกได้ง่าย การนึกคิดอะไรลึกซึ้งนี่นึกในป่านี่ง่ายกว่านั่งนึกในโรงละครโรงหนัง ฉะนั้นเรามีแต่อยู่ในที่เอ็ดอึงยุ่งไปหมด มันนึกอะไรไม่ได้ นั้นการที่มาที่นี่ขอให้นึก เพราะเป็นโอกาสที่นึกได้ ทุกอย่างจัดไว้เพื่อให้สงบสงัดสำหรับนึก แล้วยังมีของที่ช่วยเหลือการนึก เดี๋ยวเข้าไปในนี้แล้วก็ดูรูปภาพ แต่เวลาคงไม่พอ ในนี้มีภาพอีสปครบทั้งชุด อีสปอย่างคริสต์นั่นแหละครบทั้งชุด และยังคล้ายๆอีสป อีสปของชาติอื่น มีมากมายสำหรับเด็กๆ และมีเรื่องอีกหลายมากมายสำหรับเด็กๆ มีสำหรับผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่อย่างตื้น ผู้ใหญ่อย่างลึก ผู้ใหญ่อย่างกลาง และมีทั่วไปหลายๆแบบสาขาของวัฒนธรรม
ถ้าเดินไปตรงนั้นพบต้นมะพร้าวอยู่กลางสระนั้นน่ะ จะเล่าให้ฟังว่า ดินแดนส่วนนี้ของเรานี้มีวัฒนธรรมสูงมาแต่เดิม กล่อมลูกเล็กๆให้นอนยังพูดถึงเรื่องนิพพาน เด็กๆต้องฟังให้ดี ถ้าพ่อแม่ปู่ย่าตายายสมัยก่อนกล่อมลูกให้นอนยังพูดถึงเรื่องนิพพาน บทว่ามะพร้าวนาฬิเกร์ ต้นเดียวโนเน กลางทะเลขี้ผึ้ง ฝนตกไม่ต้อง ฟ้าร้องไม่ถึง กลางทะเลขี้ผึ้ง ถึงได้แต่ผู้พ้นบุญ นี่หละ จะร้องกันได้ตั้งแต่ประจวบลงมา เดี๋ยวนี้ยังมีร้องกันได้ ชุมพร หลังสวน ที่นี่ ไชยา ถึงพัทลุง ดินแดนปลายแหลมมลายูที่เคยรุ่งเรืองในพุทธศาสนาในสมัยศรีวิชัย พันสองร้อยกว่าปีมาแล้ว แม้แต่บทสอนลูกให้นอนก็ยังเป็นเรื่องนิพพานได้ อยู่สองสามบท และเป็นเรื่องอื่นอีกเยอะแยะ เป็นเรื่องศีลธรรมเยอะแยะ เป็นเรื่องนิพพาน เป็นเรื่องชาดก อะไรอีกเยอะแยะไปหมด บทกล่อมลูกให้นอน นี่วัฒนธรรมมันเป็นอย่างนี้ ตอนนั้นเค้าไม่มีหนังสือ ไม่มีโรงเรียน เค้าไม่มีคนอ่านหนังสือออก แต่เค้าสอนกันโดยสิ่งที่กระทำอยู่เป็นประจำวัน เช่นกล่อมลูกให้นอน ก็สอนธรรมะอันลึกซึ้ง หนังตะลุง มโนราห์ก็สอนภาษาสอนจริยธรรมอยู่ในหนังตะลุงมโนราห์ แต่เดี๋ยวนี้คนมันบ้า หนังตะลุงมโนราห์เป็นเรื่องลามกอนาจารไปแล้ว ไม่มีการศึกษาอยู่ในนั้นแล้ว ก็เลยเป็นสมัยก่อนที่คนไม่รู้หนังสือ โรงเรียนไม่มี การศึกษาได้จากหนังตะลุง จากมโนราห์ จากบทกล่อมลูก อะไรต่างๆ คนก็มีศีลธรรมดีมีความสุข เดี๋ยวนี้ทุกอย่างเป็นไปทางลามกอนาจาร เป็นภาพยนต์ เป็นละคร เป็นมโนราห์ เป็นหนัง เป็นหนังตะลุงนี้ เป็นเรื่องราวลามกอนาจารโดยตรงบ้าง โดยอ้อมบ้าง โดยไม่รู้สึกตัวบ้าง คนก็เลวลง โลกนี้ก็รบราฆ่าฟันกันมากขึ้น ฉะนั้นเราระวังให้ดี
ที่พูดนี้เพื่อให้ระลึกถึงบิดามารดา ปู่ย่าตายายที่ตายไปแล้ว เคยมีความเจริญในทางนี้ แล้วเรามีเป็นเลือดเป็นเนื้อของท่านออกมา อย่าได้อวดดีว่าเรามาจากที่อื่น เรามาจากสายเลือดของบิดามารดาปู่ย่าตาทวด นั้นก็ต้องมีอะไรที่มันเหมาะสมกัน เนี่ยเดินไปดูจะเห็นว่าต้นมะพร้าวอยู่กลางสระ หมายถึงทะเลขี้ผึ้ง ต้นมะพร้าวเป็นมะพร้าวนาฬิเกร์อยู่กลางทะเลขี้ผึ้ง ฝนตกไม่ต้อง ฟ้าร้องไม่ถึง ที่นั่นคือไม่มีความทุกข์ ทะเลขี้ผึ้งนี่หมายถึงความทุกข์ เดี๋ยวเป็นของแข็ง เดี๋ยวเป็นของเหลว คือเดี๋ยวสุขเดี๋ยวทุกข์เดี๋ยวสุขเดี๋ยวทุกข์ มันทรมาน เหมือนกับทะเลขี้ผึ้ง ขี้ผึ้งเมื่อร้อนก็เหลว เมื่อเย็นก็แข็ง พูดง่ายๆว่าของเหลวของแข็งนี่คือความทุกข์ มะพร้าวอยู่กลางทะเลขี้ผึ้งแต่ไม่เป็นอย่างนั้น นี่เราทำจิตออกมาเสียจากสิ่งที่ทำให้เราเป็นทุกข์ ในโลกนี้มีสิ่งที่ทำให้เราเป็นทุกข์ ถ้าเรารักษาจิตของเราไว้ไม่ให้เกี่ยวข้องกัน เราก็ดูมันเล่นได้ เขาทำชั่วมีความทุกข์ เราก็ดูมันเล่นได้ เราไม่ทำชั่ว เราไม่มีความทุกข์ เหมือนมะพร้าวนาฬิเกร์แม้นอยู่กลางทะเลขี้ผึ้งก็ไม่มีความทุกข์
นี้เป็นตัวอย่างของการดูอะไรอะไรในวัดนี้ ภูเขาที่อยู่กลางวัด มีอยู่กันรอบภูเขา พระอยู่ข้างหลัง อุบาสิกาอยู่ทางนี้ ที่ตรงโน้นมีที่ทำภาพปั้นพุทธประวัติที่ไม่เคยมีในประเทศไทย ก้อบปี้มาจากประเทศอินเดีย ไปดูเถอะเค้าจะอธิบายให้ฟัง เป็นความรู้ที่ไม่เคยได้ยินได้ฟัง แต่เวลานี้มีน้อย ก็ดูได้พอรู้เรื่องได้ ที่จริงมันต้องใช้เวลามาก
แต่ถึงอย่างไรก็ดี ไอ้สิ่งที่ดีที่สุดของที่นี่คือความสงบสงัด ให้มันช่วยแวดล้อมจิตใจเราให้สงบเย็น พอจิตใจของเราสงบเย็นก็มีความฉลาด มีความเข้าใจในอะไรถูกต้อง ไม่มีทางที่จะผิด ไม่มีอะไรยั่วไปในทางให้ทำผิด มีแต่ยั่วไปในทางให้หยุด ให้สงบ ให้สะอาด นั้นถ้าได้รับความสบายใจอย่างไรที่นี่ ก็ขอให้เอาติดไปด้วย กลับไปบ้านให้ระลึกถึงว่าจิตใจเย็นอย่างไรเมื่อนั่งอยู่ที่นี่ พอไปเกิดร้อนเกิดทุกข์เกิดตัวอะไรที่บ้านก็ให้นึกถึงจิตใจอย่างที่นี่ มันก็หายไปได้ จิตใจอย่างนี้ทำให้เรียนเก่ง ให้จำเก่ง ให้คิดเก่ง ให้ตัดสินใจเก่ง รักษาจิตใจชนิดนี้ไว้ กลับไปบ้านให้ได้ประโยชน์ได้อานิสงค์คุ้มกันกับการที่มาเที่ยวที่วัดนี้ นี่คือสวนโมกข์ มีความมุางหมายอย่างนี้ จัดกิจการอย่างนี้ บนภูเขานี้ก็มีซากของพระเจดีย์สมัยพันกว่าปี สมันศริวิชัย แต่มันถูกขโมยรื้อ ถูกโจรรื้อขุดแหลกทลายหมด เหลืออิฐที่พอรู้ได้ว่ามันเป็นสมัยศรีวิชัย บ้านเมืองนี้ทุกๆภูเขาจะมีซากเจดีย์สมัยศรีวิชัย ที่เป็นหลักฐานนั้นก็คือพระเจดีย์ที่วัดพระธาตุ ควรจะไปดู ที่วัดแก้วควรจะไปดูที่สุดเพราะมันพังแล้วดูง่าย นี่มีบ่อน้ำร้อนที่ตรงนี้ แล้วก็มีหลายบ่อตรงโน้น เขาเชื่อกันว่าสมัยหนึ่งมันก็เคยมีภูเขาไฟ แล้วมันจมไปในใต้ดิน
เมื่อไปดูวัดพระธาตุเพื่อการศึกษาด้วย เพื่อเคารพโบราณสถานที่เป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ พันกว่าปีด้วย ไปดูเขาทำอย่างไร มันแปลกอย่างไร เป็นความรู้คร่าวๆร้อยปีก่อน เพื่ออนาคตข้างหน้า แล้วก็ไปดูพุมเรียง ลงไปถึงพุมเรียงถึงริมทะเล เขาเรียกว่าอ่าวบ้านดอน ตรงจุดที่ไชยานี่ พุมเรียงนี่สำคัญที่สุดเพราะมันสะดวกสมัยโบราณ ได้ยินว่าเมื่อพระเจ้าตากจะไปตีเมืองนครศรีธรรมราชนั้นก็ใช้ชุมนุมทหาร สเบียงอาหารที่จุดนี้ แล้วข้ามอ่าวไปตีนครศรีธรรมราช คนแถบนี้จะต้องมาลงเรือที่นี่แล้วก็ลงเรือไปตีนครศรีธรรมราช ยังมีประวัติศาสตร์เกี่ยวกับพุมเรียงตรงนั้นหน่ะอีกหลายๆครั้งหลายๆคราว ของประเทศไทย เพราะมันสะดวก มันเหมาะ
แล้วแส้นทางโบราณสายนี้ลงไปทางใต้ สายหน้าวัดนี่ ประชาชนเดินทางจากทิศเหนือไปสู่ทิศใต้ ช้างม้าวัวควายต้องเดินสายนี้ ทีนี้เขาสำรวจเป็นเส้นทางทางหลวงแผ่นดินก็ทับลงบนเส้นทางสายนี้ นี้เราก็จะไปกรุงเทพโดยรถยนต์ทางนี้ได้ ทางนี้ไปติดอยู่แค่หลังสวน ยังไม่ได้ทำ ต้องอ้อมไปทางตะกั่วป่า แล้วเข้ามาบ้านดอน แล้วมาที่นี่ เดี๋ยวนี้มาจากกรุงเทพมาที่วัดนี้นี่ต้องออกไปตรงโน้น ไปตะกั่วป๋าแล้วเขามาบ้านดอนแล้วมาที่นี่ เพราะมันยังขาดอยู่ตรงหลังสวนกับสุราษฎร์
รู้สึกว่าไอ้ดินแดนแหลมมลายูนี้เคยเจริญรุ่งเรืองสูงประเสิรฐศักดิ์สิทธิ์เมื่อพันสองร้อยกว่าปีมาแล้ว เป็นสมัยศรีวิชัย ไปดูวัตถุ หลักฐานได้ในพิพิธภัณฑ์ที่นี่ แม้จะเป็นรูปจำลองก็เหมือนของจริง ของจริงมันแพงนักไม่กล้าเอามาไว้ที่นี่ อยู่ที่กรุงเทพ แต่ว่าทุกอย่างเอาไวที่นี่เพื่อความสะดวก แล้วของที่ที่กรุงเทพไม่มีก็คือองค์พระธาตุ องค์พระเจดีย์นั้น มันมีอยู่ที่นี่ มันยกไปไม่ได้ งั้นต้องไปดูที่นี่ เรื่องเกี่ยวกับโบราณสถาน โบราณวัตถุ ที่ทำให้แผ่นดินนี้รุ่งเรืองทางจิตใจ ทางวัฒนธรรม ไปดูได้ที่วัดพระธาตุเป็นส่วนใหญ่ คือในพิพิธภัณฑ์ แล้วก็ตัวองค์พระธาตุเองด้วย แล้วก็ไปดูวัดแก้ว วัดโหลประกอบด้วย
นี่จะพูดมากเวลาจะหมด ไม่มีพอสำหรับไปดูสิ่งต่างๆ นั้นก็ขอยุติว่า สวนโมกข์นี้จัดขึ้นเพื่อชดเชยความเสื่อมทรามตกต่ำทางด้วนจิตใจ เรามีความเจริญทางด้านวัตถุมากเกินไปจนไม่รู้จักตัวเอง จนเห็นแก่ตัวเองมากเกินไป ก็ต้องมีการชดเชยทางจิตใจ ถ้ามีเวลาก็มาเที่ยวอีก จะได้รู้เรื่องมากขึ้นไปอีก วันนี้มันก็เวลามันมีน้อย ก็ขอให้จำติดใจไว้สักอย่างหนึ่งว่า มนุษย์ต้องมีเรื่องจำเป็นสองเรื่องคือเรื่องกายกับเรื่องจิตใจ ถ้ามีแต่เรื่องกาย เรื่องจิตใจไม่มี แล้วเป็นสัตว์เดรัจฉาน สัตว์เดรัจฉานไม่มีธรรมะทางจิตใจ เพราะเป็นสัตว์เดรัจฉาน เดี๋ยวนี้มนุษย์ก็กำลังจะเป็นสัตว์เดรัจฉานเพราะละเลยเรื่องทางจิตใจ ไปตามก้นพวกที่เอาแต่เรื่องทางเนื้อหนัง มันก็เลยลำบากยุ่งยาก นั้นขอให้ช่วยกันภาวนา ตั้งใจเรียกร้องความสูงความดีทางจิตใจกลับมาอีกให้เหมือนกับบรรพบุรุษของเรา ให้มันก้าวหน้าพร้อมกันไปทั้งทางกายและทางใจ ชีวิตนี้ต้องเทียมด้วยวัวสองตัว ด้วยควายสองตัว พูดกันอุปมาจำง่ายๆว่าชีวิตนี้ต้องเทียมด้วยวัวสองตัว ด้วยควายสองตัว ตัวหนึ่งเป็นเรื่องทางกำลัง ทางเนื้อหนัง ตัวหนึ่งเป็นเรื่องทางจิตใจทางแสงสว่าง ทางสติปัญญา เดี๋ยวนี้โลกมีแต่เรื่องทางร่างกาย คือว่ามีแต่เทคโนโลยี ให้ประโยชน์ทางเนื้อหนัง ทางวัตถุเท่านั้น ส่วนเรื่องทางจิตใจมันไม่มี เสื่อมไป เสื่อมไป ศาสนาถูกเหยียบย่ำ ให้ละลเือนไป ต้องเรียกกลับมาใหม่ เขาเรียก spiritual enlightenment ความสว่างไสวทางจิตใจนี้ต้องเรียกกลับมาใหม่ เคียงคู่กับวิชาสมัยใหม่ คือเทคโนโลยีทุกแขนง แล้วมันก็ไปคู่กันไปสู่ความเจริญ นักเรียนจะต้องรู้ความสำคัญไว้อย่างนี้เสมอไป ไม่อย่างนั้นก็จะผิดทางและจะวกกลับลงข้างคู ก็ตกจมลงไปในคู เดินไปไม่ได้
นั้นขอให้ความตั้งใจดีความปรารถนาดีในการที่มาเยี่ยมสถานที่นี้จะเป็นผลสนองให้มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องทางจิตทางวิญญาร มีความเจริญงอกงามก้าวหน้าในแห่งทางแห่งพระพุทธศาสนาของสมเด็จพระบรมศาสดา สมตามความประสงค์ทุกทิพพาราตรีกาลเทอญ