แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
อาตมาภาพขอแสดงความยินดีในการมาของท่านทั้งหลายสู่สถานที่นี้ ในลักษณะอย่างนี้ คือเพื่อแสวงหาความรู้ทางธรรมะไปใช้เพื่อประกอบการดำเนินชีวิตให้หมดปัญหา ขอให้สังเกตว่าอาตมามีความมุ่งหมายว่า ในการดำเนินชีวิตให้เป็นชีวิตที่หมดปัญหา
เดี๋ยวนี้ทั้งโลกมันมี มีปัญหา ปัญหาที่ไม่ได้รับการสะสาง ไม่รู้จักสะสาง นั่นคือมีแต่การเอาเปรียบและเบียดเบียนด้วยความเห็นแก่ตัว ไปดูสิทั้งโลก ทั้งโลก ทั้งจักรวาลและทั้งโลกนั้น อยู่ด้วยความไม่ถูกต้อง ไม่ก็ ไม่ถูกต้องคือเป็นปัญหา ปัญหาทั้งทางเศรษฐกิจอันกว้างขวาง ปัญหาทางการเมืองอันกว้างขวางยิ่งไปกว่านั้นอีก ปัญหาทางสังคมอันกว้างขวางยิ่งไปกว่านั้นอีก รวมเป็นอีกหลาย ๆ ปัญหา นี่แล้วมนุษย์ทั้งโลกนี้จะมีสันติสุขหรือมีสันติภาพได้อย่างไร ขอให้ท่านทั้งหลายลองคิดดู เพราะมันขาดอยู่เพียงสิ่งเดียว คือสิ่งที่จะแก้ปัญหา สิ่งที่มันจะแก้ปัญหาไม่ให้เกิดปัญหา
สิ่งนี้ถ้าจะระบุลงไปตรง ๆ ตรง ๆ เฉียบขาดที่สุด จริงที่สุดอย่างที่ใครค้านไม่ได้ก็คือ “ธรรมะ” หรือ “ความถูกต้อง” ซึ่งพระพุทธเจ้าท่านเรียกว่า “สัมมัตตะ” บางทีหลายคนจะไม่เคยได้ยินคำว่า สัมมัตตะ เป็นคำในพระบาลีของพระพุทธเจ้าเอง คำตรัสของพระพุทธเจ้าเอง ท่านใช้คำว่าสัมมัตตะ ขอร้องช่วยจำไปหน่อยว่า สัมมัตตะ แปลว่า ความถูกต้อง สัมมา สัมมา สัมมา สัมมา สัมมา กี่คำก็ตามใจเถอะ แปลว่า ถูกต้อง
สัมมาตะ หรือ สัมมัตตะ นี้แปลว่า ความถูกต้อง ขอดูเอาเองก็แล้วกัน ไม่ต้องเชื่อใคร ถ้ามีความถูกต้อง แล้วมันก็ไม่หมด มันก็หมดปัญหา ไม่มีปัญหาอะไรเหลือ มันจะเลยไปถึงว่าไม่ตายหรอก ถ้ามันมีความถูกต้องมันจะตายได้อย่างไร แม้โรคภัยไข้เจ็บมันก็หายเสียเพราะมันถูกต้อง มันถูกต้อง มันเลยกลายเป็นผู้ไม่ตาย ว่างไปเป็นนิรันดรโดยไม่ต้องตาย นี่เรียกว่าความถูกต้อง
เดี๋ยวนี้มันไม่มีความถูกต้องในความหมายอย่างนี้ ความถูกต้องมีแล้วก็หมดปัญหา เดี๋ยวนี้มันมีกันแต่ความเห็นแก่ตัวและการแสวงหาความได้เปรียบ ส่วนใหญ่ที่สุดทั้งหมด คือตกอยู่ภายใต้การบูชาความเอร็ดอร่อยในทางอายตนะ มันเป็นคำหยาบคายสักหน่อย มันบูชาความเอร็ดอร่อยทางอายตนะ ซึ่งภาษาธรรมะ เรียกว่าทาง “กาม” หรือทางนักศึกษาทั่วไป หรือนักปรัชญา อะไรเค้าก็เรียกว่าทาง “เซ็กส์” คือความเอร็ดอร่อยทางระบบประสาท
สิ่งที่ทำให้เกิดความเอร็ดอร่อยทางระบบประสาทนั้น บูชากันนัก ทั้งเด็ก ๆ ๆ ๆ ทั้งผู้หญิง ทั้งผู้ชาย ทั้งหนุ่ม ทั้งสาว ทั้งทุก ๆ คน ทุก ๆ คน บูชาความเอร็ดอร่อยทางระบบประสาท และความเอร็ดอร่อยทางระบบประสาท เรียกกันตามภาษีบาลี ภาษาธรรมะว่า “กาม” คือกามคุณ ที่พวกฝรั่ง นักปราชญ์ฝรั่งชื่อ ซิกมันด์ ฟรอย เรียกคำสั้น ๆ ว่าเซ็กส์ อะไร ๆ อะไรมันก็ตกอยู่ใต้อำนาจของเซ็กส์ โดยสัญชาติญาณมาก่อนแล้วก็มาส่งเสริมกันมากขึ้น
เดี๋ยวนี้ ขอระบุให้ชัดลงไปว่า คนเป็นอันมากหรือว่าทุกคนก็ได้ตกอยู่ภายใต้การบูชาเซ็กส์ บูชาความเอร็ดอร่อยทางระบบประสาท เป็นพระเป็นเจ้า อะไร ๆ ก็ขอให้ได้ร่ำรวยไปด้วยความเอร็ดอร่อยทางระบบประสาท เงินทอง ข้าวของ เกียรติยศ ชื่อเสียง อะไรก็ดี บุญกุศลก็ดี ต้องการมา ให้ให้ได้มาเพื่อบำรุงบำเรอความเอร็ดอร่อยทางระบบประสาท
ถ้าท่านมองไม่เห็นความจริงข้อนี้ สิ่งที่อาตมาจะพูดมันก็ไม่มีประโยชน์อะไร ไม่มีประโยชน์อะไร ไม่มีประโยชน์อะไรจริง ๆ ที่บอกว่าเดี๋ยวนี้ทั้งโลก ทั้งโลก คนแต่ละคนมันบูชาความเอร็ดอร่อยทางระบบประสาท
ความเอร็ดอร่อยทางระบบประสาทนั้นเป็นสมบัติโดยสัญชาติญาณของสิ่งที่มีชีวิต ต้องการกันทุกรูป ทุกนาม ทุกผู้ ทุกคน ไม่มีเขตจำกัด ไม่มีเขตจำกัด ต้องการไม่มีเขตจำกัด...(9.27) สูงสุด แล้วจะเป็นอย่างไร มันจะเป็นอย่างไร มันจะเป็นอย่างไร มันจะเป็นอย่างไร ก็มีแต่สิ่งเลวร้ายที่สุดคือความเห็นแก่ตัว ทุกคนมันบูชาความเอร็ดอร่อยทางกามารมณ์หรือทางเซ็กส์ แล้วทุกคนมันก็เห็นแก่ตัว
การเศรษฐกิจมันก็จัดไป ทำไปเพื่อสิ่งนี้ให้ได้เปรียบทางเศรษฐกิจ การเมืองก็จัดไปเพื่อสิ่งนี้ สิ่งนี้ เพื่อให้ได้เปรียบทางการเมือง การสังคมหรือการเกี่ยวเนื่องทางสังคมอะไรก็ตามก็จัดไปเพื่อสิ่งนี้ เพื่อให้ได้สิ่งนี้มานี่ มันก็เต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัว มันจึงเกิดอาชญากรรม อาชญากรอันเลวร้ายทั่วไปทุกหัวระแหง ทุกหัวระแหง ถ้าทุกคนหยุดการบูชาความเอร็ดอร่อยทางระบบประสาทหรือทางเซ็กส์เสียเท่านั้นนะ มันจะไม่มีปัญหาอะไรเหลือ มันไม่มีที่ตั้งแห่งความเห็นแก่ตัว จะไม่เอาเปรียบใคร จะไม่สะสมการเอาเปรียบใคร มันก็อยู่กันด้วยสันติภาพ
ทีนี้ขอให้ดูเถอะว่า เมื่อทุกคนคงจะอย่างนี้ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ มันก็ต้อง ต้องจำเป็นต้องทน ทนรับกรรม รับกรรมหรือผลร้ายที่มันจะเกิดขึ้นเพราะทุกคนบูชาความเอร็ดอร่อยทางระบบประสาทหรือกามารมณ์ หรือกามเฉย ๆ ตามที่พระพุทธเจ้าท่านเรียกว่า บูชากาม มันไม่มีความถูกต้อง ถ้าเป็นอย่างนี้ มันไม่ใช่ความถูกต้อง มันลำเอียงถึงที่สุด เพราะมันไปบูชาสิ่งที่จะทำให้เกิดปัญหา ปัญหาไม่รู้จักสิ้น จักจบ ปัญหาชนิดไหน ชนิดไหน มันก็เกิดจากสิ่งที่บูชาความเอร็ดอร่อยทางระบบประสาททั้งนั้น
ปัญหาที่เรียกว่า คำถาม Question นั้นก็ดี ปัญหาที่เป็นความยุ่งยากที่เรียกว่า Problem นั้นก็ดี ปัญหาทุกปัญหานี้มันมาจากการบูชาความเห็นแก่ตัว เนื่องมาจากบูชาความเอร็ดอร่อยทางระบบประสาท มันเห็นแก่ตัว มันเห็นแก่ตัว แล้วมันก็แสวงหาปัจจัยเพื่อให้ได้ความเห็นแก่ตัว ให้ได้กำลังมา ให้ได้เหตุปัจจัยมาสำหรับจะบูชาความเอร็ดอร่อยในทางระบบประสาท มันเป็นอย่างนี้ มันไม่ใช่ความถูกต้อง มันไม่ใช่ความถูกต้อง ไปนึกเอาเองดู ไปนึกเอาเอง มันจะถูกต้องได้อย่างไร มันบูชาความเอร็ดอร่อยทางระบบประสาท มันก็ลำเอียงกันทุก ๆ คน ทุก ๆ บุคคล ทุก ๆ บุคคล ทุก ๆ หน่วยแห่งบุคคล เพราะมันไปบูชาความเอร็ดอร่อยทางกามารมณ์ ไม่ ๆ ๆต้องการความถูกต้อง ไม่บูชาความถูกต้อง ความวิปริตมันจึงเกิดขึ้น ทางการเมือง ทางเศรษฐกิจ ทางสังคม เป็นไปทั้งโลก เป็นไปทั้งโลก หรือทั่วโลก จนล้นโลก จนล้นโลก
โลกล้น ล้น ๆ อยู่ด้วยวิกฤตการณ์ คือ ความเลวร้ายที่เป็นทุกข์ยากลำบาก ระส่ำระสายในเรื่องของโลกนั่นเอง ที่มันไม่มีความถูกต้อง ไม่มีความถูกต้อง แม้ว่าเราเป็นเมืองพุทธ เราก็ตั้งใจจะรักษาไอ้ความถูกต้อง แต่ก็ยังไม่สำเร็จ ก็ยังมีคนที่มีอำนาจหรือว่ามีโอกาส แล้วมันมายื้อแย่งเอาความถูกต้องไปเสียหมด มันไม่มีความถูกต้อง
เอาละทีนี้ก็ขอให้สนใจคำว่า ความถูกต้อง ความถูกต้อง ว่าถ้าความถูกต้องมีมาแล้วก็เป็นสิ่งสูงสุด ประเสริฐที่สุด ไอ้ความถูกต้องนั้นเป็นพระพุทธ ความถูกต้องนั้นเป็นพระธรรม ความถูกต้องนั้นเป็นพระสงฆ์ พอมีความถูกต้องแล้วไม่มีปัญหาอะไร เดี๋ยวนี้ก็มีปัญหา แย่งชิงความเอร็ดอร่อยทางระบบประสาทแก่กันและกัน มันจึงมีแต่อาชญากรรม
พวกคุณก็รู้กันอยู่แล้ว อ่านดูหนังสือพิมพ์แต่ละฉบับ แล้วเต็มไปด้วยอาชญากรรมอย่างน่ารังเกียจ น่าบัดสีที่สุด อาชญากรรมเลวร้ายที่น่าบัดสีที่สุดเต็มไปทั้งบ้านทั้งเมือง เพราะมันไม่มีความถูกต้อง มันไม่มีความถูกต้องทางร่างกาย ร่างกายมันไม่ถูกต้อง แม้แต่ตดมันก็เหม็น คุณไปฟังดูสิ ถ้าร่างกายมันไม่ถูกต้อง แม้ตดออกมามันก็เหม็น ถ้าร่างกายมันถูกต้อง ตดออกมามันก็ยังไม่เหม็น แล้วมันถูกต้อง ถูกต้อง มันจะเจ็บไข้ได้ป่วยอะไร มันจะเจ็บไข้ได้ป่วยอะไรได้ ถ้ามันถูกต้อง ถูกต้อง ถูกต้อง มันก็ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย นั่นมันก็คือไม่ตาย มันไม่ต้องตาย กลายเป็นผู้ไม่ตายนิรันดร เป็นความว่างจากชีวิต ว่างจากความตาย เป็นพระนิพพานนิรันดรไปเลย ถ้ามันมีความถูกต้องแม้แต่ทางกาย แม้แต่ตดก็ไม่เหม็น
ถูกต้องทางจิตใจ มันไม่คิดไปในทางผิดพลาด มันก็ไม่คิดที่จะเห็นแก่ตัวหรือว่าคิดไปในทางที่จะเป็นทาสของความเอร็ดอร่อยทางระบบประสาท ทีนี้ก็มีความถูกต้องทางตัวตน ดำรงตัวตนไว้อย่างถูกต้อง ไม่เห็นแก่ตน ไม่เห็นแก่ตน มันก็ไม่มีตัวตนที่จะน่าตำหนิที่ไหนแก่ใคร มันก็เป็นสุขสงบดี แล้วมีความถูกต้องทางความว่าง คือ ธรรมะสูงสุด ว่างสูงสุดจากความไม่มีตัวตน เพราะไม่มีตัวตนเป็นความว่างสูงสุดนั้นมันเป็นพระนิพพาน เป็นพระนิพพาน เป็นความว่างนิรันดร ไม่มีปัญหาอะไร นี่คือความถูกต้อง ขอให้สนใจ ขอให้สนใจ
เดี๋ยวนี้มันสนใจกันแต่สิ่งที่จะบำรุงบำเรอความสุข สนุกสนาน เอร็ดอร่อยทางระบบประสาท คำมันหยาบคายที่สุด ดูถูกดูหมิ่นที่สุด ไอ้คำ ๆ นี้ แต่มันก็จำเป็นที่จะต้องพูด เพราะมันมีความเป็นจริงอย่างนั้น
ทีนี้ก็มาดูคำว่าถูกต้อง ถูกต้อง ถูกต้อง มันเอาแต่ว่ากูได้แล้วก็เป็นถูกต้อง ได้ของกูมาเป็นเหยื่อของระบบประสาทก็ถูกต้อง นี่มันเป็นคนไม่มีความถูกต้อง มีแต่คนบ้าดี บ้าดี เมาดี หลงดี บ้าบุญ เมาบุญ บ้าเกียรติยศ บ้าอำนาจ วาสนา บ้าชื่อ บ้าเสียง บ้าบุญ เมาบุญละยิ่งร้ายใหญ่เลย บ้าบุญ สูงสุดขึ้นไปก็บ้าความเป็นพรหมในพรหมโลก ก็ยิ่งเป็นตัวตนใหญ่ ไม่ใช่นิพพาน ไม่มีนิพพาน เป็นความทุกข์นิรันดรเหมือนกัน ถ้าเป็นพรหมโลก อยู่ในพรหมโลกแล้วบ้าตัวตน นี่มันบ้าดี เมาดี หลงดี และอวดดี แล้วก็จะบ้าสวรรค์ บ้าความสุข บ้ากามารมณ์ แล้วก็บ้าความเอร็ดอร่อยทางระบบประสาท
คำพูดคำเดียวที่อาตมาขอย้ำ ย้ำว่ามันบ้าความเอร็ดอร่อยทางระบบประสาท เพียงคำเดียว เหมือนกับสุนัขหรือหมาที่ยื้อผ้าขี้ริ้วกันเป็นกลุ่ม ยื้อแย่งผ้าขี้ริ้วกัน กี่ตัว กี่ตัวก็ มันสนุก สะดวกสบาย เอร็ดอร่อยที่สุด นั่นน่ะคือความเอร็ดอร่อยทางระบบประสาท ทุกคนพอได้รับความรู้สึกเอร็ดอร่อยทางระบบประสาท มันก็ตกอยู่ในวิสัยนี้ทั้งนั้น มันจึงไม่มองเห็นอะไร คือไม่มองเห็นความถูกต้อง มันก็ไม่มีความถูกต้อง
ความถูกต้องนี้ ขอท้าทายสักหน่อย แปลเป็นภาษาฝรั่งก็ไม่ได้ แปลเป็นภาษาอะไรก็ไม่ได้ ต้องแปลเป็นภาษาไทย อยู่เป็นภาษาไทยว่า ความถูกต้อง ถ้าไปแปลเป็นความดีเสีย มันก็กลายเป็นบ้าดี เมาดี หลงดี บ้าอำนาจวาสนา บ้าสวรรค์ บ้านรกไปตามเรื่อง ฉะนั้นจึงต้องขอให้คำจำกัดความว่า ความถูกต้อง ความถูกต้อง ความถูกต้อง
หลักฐานที่มาในคำของพระพุทธเจ้าคือคำว่า สัมมา สัมมา แปลว่าถูกต้อง สัมมัตตะ แปลว่าความถูกต้อง ตัวสัมมา สัมมา นั้นแปลว่าซึ่งถูกต้อง เป็นคุณศัพท์ที่ว่า สัมมัต สัมมัต สัมมา แล้วก็ ตะ เข้าไปก็เป็นนาม แปลว่าความ เป็นความถูกต้อง เป็นความถูกต้อง
จงมีความถูกต้องเป็นจุดมุ่งหมาย เป็นสิ่งสูงสุดกว่าสิ่งใด พระเป็นเจ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลกที่ในนามของพระเป็นเจ้าก็ยังรับสินบน ขอให้ดูให้ดี ยังมี มีข่าวว่ารับสินบน รับการบูชา เซ่นสรวง อ้อนวอน พระเป็นเจ้าอะไรอย่างนี้ มันมีอย่างนี้ มีการรับสินบน มันไม่ใช่ความถูกต้อง ถ้าความถูกต้องมันสูงสุดเหนือสิ่งใด เหนือสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดทั้งหลายในสากลโลก เหนือสูงสุดทั้งหลายกว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดใด ๆ ในสากลโลก ต้องกล่าวออกมาว่า ความถูกต้อง ความถูกต้อง ฉะนั้นขอให้สนใจคำว่าความถูกต้อง ให้มีความถูกต้องอยู่ในตน แล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร ปัญหาแต่ขี้เล็บมันก็จะไม่มีถ้ามันมีความถูกต้อง มันไม่มีความเดือดร้อนแก่ใคร ไม่มีปัญหาแก่ใคร นี่เรียกว่าสิ่งสูงสุดในพระพุทธศาสนา คือขอได้โปรด (21:26 - 21:33 ..มีเสียงรบกวนท่านจึงพูดนอกคำบรรยาย )
สิ่งสูงสุดในพระพุทธศาสนา สิ่งสูงสุดในพระพุทธศาสนา คือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มารวมความหมายอยู่ที่คำว่า ถูกต้อง ถูกต้อง ถูกต้อง ถูกต้อง จะกล่าวสักกี่ร้อยคำ พันคำ หมื่นคำ แสนคำ ล้านคำ ล้านคำก็กล่าวได้แต่คำว่า ความถูกต้อง ๓พยางค์เท่านั้นนะ ๓ พยางค์ คำพูด ๓ พยางค์ อย่าไปนึกถึงไอ้ความดี ความงาม ความร่ำรวย ความมีเกียรติยศ ชื่อเสียง แม้แต่สวรรค์ แม้แต่คำว่าสวรรค์ มันก็ไม่ใช่ความถูกต้อง ยังเป็นเหยื่อของ เป็นเหยื่อของความเพลิดเพลินในระบบประสาท
เอาละ เป็นอันว่า เข้ารูปเข้าเรื่องกันทีว่า ขอให้ยึดเอาความถูกต้องเป็นหลักสำคัญที่สุด แล้วมันผิดไม่ได้ มันผิดไม่ได้ ถ้ามันมีความถูกต้องมันผิดไม่ได้ แล้วมันจริงยิ่งกว่าจริง ถ้ามันยังไม่ถูกต้องมันยังไม่จริง มันยังไม่จริง ถ้ามันยังไม่ถูกต้อง มันยังไม่จริง ถ้ามันจริง มันถูกต้องอยู่ในตัว
นี่คำ ๆ นี้จึงต้องขอท้าทายว่าแปลเป็นคำอื่นไม่ได้ แปลเป็นภาษาไหน ๆ ก็ไม่ได้ พวกฝรั่งมัวพูดกันแต่ว่า All right, all right มันก็ไม่ถูกต้องสักขี้เล็บ โลกยังมีสงคราม กลุ้มไปทั้งโลก มัวพูดกันแต่ว่า All right มันไม่มีความถูกต้อง
ขอให้มีความถูกต้องที่ท้าทายได้ พิสูจน์ได้ว่ามันไม่มีการบูชาความเอร็ดอร่อยทางระบบประสาท แล้วมันก็ไม่เกิดความเห็นแก่ตัว มันไม่เกิดความเห็นแก่ตัว มันก็ไม่มีปัญหา มันก็ไม่สร้างสมเหตุปัจจัยแห่งความเห็นแก่ตัว มันก็อยู่กันอย่างเป็นสุขหรือสันติภาพเพราะมีความถูกต้อง ถูกต้องนี้จึงมีความสุข สงบเย็นและเป็นประโยชน์ จึงจะเรียกว่าถูกต้อง เป็นความสุข สงบเย็น อีกอย่างหนึ่ง เรียกว่าเป็นประโยชน์ เป็นประโยชน์ เป็นประโยชน์นี้อย่างหนึ่ง ถ้าได้อย่างนี้ แล้วก็เรียกว่าความถูกต้อง
ทีนี้โลกมันยังไม่มีความถูกต้อง คุณไปดูเอาเอง โลกไหน โลกไหน โลกไหน แม้กระทั่งโลกพระจันทร์หรือจะถึงโลกอื่นๆ ก็ยังไม่มาสืบต่อไปอีกจากโลกเหล่านั้นมันก็ยังเป็นทาส เป็นทาสแก่ระบบประสาท เป็นทาสแก่ระบบประสาท คือความเอร็ดอร่อยทางระบบประสาท แล้วมันก็เห็นแก่ตัว แล้วก็ทำอะไรเอาโดยเห็นแก่ตัว เลยไม่มีความถูกต้องซึ่งจะเป็นที่พึ่งให้แก่โลกได้
นี่อยากให้ใจเรามันเจริญ มันเจริญ มันเจริญ มันเจริญแต่ปัจจัยแห่งความเห็นแก่ตัว โลกนี้เจริญ โลกนี้เจริญ ร่ำรวยสวยงาม หรูหราไปหมด แต่มันเจริญด้วยมูลเหตุหรือปัจจัยแห่งความเห็นแก่ตัว มันก็เห็นแก่ตัวมากขึ้น มากขึ้น มากขึ้น มันก็เบียดเบียนกันอย่างที่เรียกว่ามันไม่น่าจะมี เบียดเบียนกันหยาบช้าทารุณอย่างที่ไม่น่าจะมี นี่ถ้ามันไม่บูชาปัจจัยแห่งความเห็นแก่ตัว มันก็ไม่ทำอย่างนี้ ทุกคนจะอยู่กันอย่างสงบ ปลอดภัย ปลอดภัย ปลอดภัย เด็ก ผู้ใหญ่ หญิงสาว อ่อนแออย่างไรก็ปลอดภัย ปลอดภัย เพราะว่าไม่มีภัย ไม่มีอันตราย มาจากความถูกต้องหรือมาจากผู้ที่มีความถูกต้อง คือผู้ไม่เห็นแก่ตัว
เอาละคุณไปท้า ท้าให้คุณไปดูว่าโลก ในโลกนี้ ทั้งโลก ทั้งประเทศ เราทุกคน ทุกคนในประเทศเรา มันบูชาความถูกต้องกันหรือเปล่า หรือว่าบูชาเงิน บูชาอำนาจวาสนา เกียรติยศชื่อเสียง ความร่ำรวย สวยงาม แล้วที่สุดมาหยุดอยู่ที่จุดเดียว จุดเดียว จุดเดียว สิ่งเดียว จุดเดียว คือความเอร็ดอร่อยทางระบบประสาท ซึ่งซิกมัน ฟรอยด์เรียกว่าเซ็กส์ ทางศาสนาเรียกว่ากาม
มาบูชากันแต่เซ็กส์หรือกาม คือความเอร็ดอร่อยทางระบบประสาท มันก็ทำกันไปสิ ทำกันไปสิเพื่อหล่อเลี้ยงสิ่งเหล่านี้ หล่อเลี้ยงสิ่งที่เป็นกิเลสเหล่านี้ หล่อเลี้ยงกันไม่มีที่สิ้นสุด (26:35)เกินพอ แล้วโลกมันจะมีสันติภาพได้อย่างไร หมู่บ้าน บ้านเมือง ตำบลเล็ก ๆ น้อย ๆ ตำบลสัก ๒-๓ คน ๔-๕ คน มันก็ไม่มีสันติภาพ มันไม่มีสันติสุข เพราะมันไปบูชาความเอร็ดอร่อยทางระบบประสาทเสีย ระบบประสาทมันเลยเป็นที่ให้เกิดความอร่อย เอร็ดอร่อย ทางตาบ้าง ทางหูบ้าง ทางจมูกบ้าง ทางลิ้นบ้าง ทางร่างกายบ้าง นี้เรียกว่าความเอร็ดอร่อยทางระบบประสาท
ขอให้นึกเทียบเคียงเอาดู ดูเอาเองว่า ถ้าไม่มีการบูชาสิ่งเหล่านี้ แม้แต่สุนัขไม่ยื้อแย่ง ไม่ยื้อแย่งผ้าขี้ริ้ว นี่คนยังบูชาความเอร็ดอร่อยทางระบบประสาท จะต้องเอาบุหรี่มาสูบ จะต้องเอาเหล้ามากิน จะต้องเอาอาหารที่ยั่วเซ็กส์มากินอะไรต่าง ๆ นี่มันบูชาความเอร็ดอร่อยทางระบบประสาท มันทำไปเถอะ ทำไปเถอะ ทำไปอย่างไรก็เพิ่มความเห็นแก่ตัว
นี่อาตมาพูดอ้อมค้อมไม่เป็น พูดอ้อมค้อมไม่เป็น จึงได้แต่พูดตรง ๆ ตรง ๆ ชี้ชัดลงไปตรง ๆ อะไรก็ชี้ชัดลงไปตรง ๆ ว่าโลกนี้ สากลโลก โลกนี้ จักรวาลนี้มันกำลังมีแต่การบูชาความเอร็ดอร่อยทางระบบประสาท เศรษฐกิจ ทางเศรษฐกิจอันกว้างขวางก็เป็นอย่างนั้น การเมืองอันกว้างขวางก็เป็นอย่างนั้น การสังคมอันกว้างขวางก็เป็นอย่างนั้น มันต่อสู้กันด้วยอุปสงค์อุปทาน อุปสงค์อุปทาน ความเสนอและความสนอง Supply และ Demand มันไม่ทำอะไรกัน มันทำกันแต่เพียงว่าให้ Supply และ Demand มา สิ่งนี้ ผู้นี้ หมู่นี้ ต้องสนอง หมู่นี้เสนอ หมู่นี้ต้องสนอง หมู่นี้ต้องเสนอ หมู่นี้ต้องสนอง มันมีแต่โลกบ้าอย่างนี้ โลกที่บ้าแต่ให้เสนอสนองกันด้วยอำนาจบีบบังคับให้มีการเสนอสนองด้วย Supply และ Demand ซึ่งหาความจริงไม่ได้ ซึ่งหาความถูกต้องไม่ได้ หาความเป็นธรรมไม่ได้ นี่โลกนี้กำลังเป็นอย่างนี้
เป็นอันว่าปัญหามันมีเห็นชัดอยู่แล้วว่ามันกำลังบูชาความเอร็ดอร่อยทางระบบประสาทด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น มันก็เลยต้องตกอยู่เป็นทาสของการบีบบังคับให้ทั้งโลกนี้เสนอ สนอง เสนอ สนอง เสนอ สนอง Supply, Demand กันโดยไม่มีที่สิ้นสุด ไม่มีที่สิ้นสุด กี่โกฏิปี กี่ล้าน ๆ โกฏิปีก็ไม่มีที่สิ้นสุด มันไม่มีที่สิ้นสุด ถ้ามันยังไม่มีความถูกต้อง ยังไม่นิยมความถูกต้อง
สิ่งที่เรียกว่า ถูกต้อง ความถูกต้อง กล่าวได้สั้น ๆ (29.40) ด้วยคำว่าธรรมะ ธรรมะ เพียงคำเดียวเท่านั้น พยางค์เดียว ธรรม ธรรม ธรรม คำเดียว หรือจะพูดว่าเป็นความถูกต้อง ออกมาสัก ๓ พยางค์ แล้วให้มันถูกต้องตามหลักพระพุทธศาสนาเป็น สัมมา สัมมา สัมมา ความถูกต้อง
สัมมาทิฏฐิ ถูกต้องทางความคิด ความเห็น
สัมมาสังกัปโป ถูกต้องทางความปรารถนา
สัมมาวาจา ถูกต้องทางการพูดจา
สัมมากัมมันโต ถูกต้องทางการกระทำการงาน
สัมมาอาชีโว ถูกต้องทางการเลี้ยงชีวิต
สัมมาวายาโม ถูกต้องทางความพากเพียรพยายาม
สัมมาสติ ถูกต้องทางความมีสติสัมปชัญญะ
สัมมาสมาธิ ถูกต้องทางความมีสมาธิ
สัมมาญาณะ ถูกต้องญาณความรู้หรือวิปัสสนาญาณ
สัมมาวิมุติ ถูกต้องทางวิมุติ คือความหลุดพ้นออกจากทุกข์ทั้งปวง คือเป็นพระนิพพาน
นี่สัมมา สัมมา สัมมา ๑๐ ประการ รวมกันเป็นสัมมัตตะ ธรรมะสูงสุดของพระพุทธเจ้า ท่านยึดเป็นหลักแล้วท่านก็สั่งสอน
เพราะฉะนั้นขอให้เรามีสัมมา สัมมา สัมมา คือมีความถูกต้อง ความถูกต้อง บูชากันแต่ความถูกต้อง นิยมกระทำกันแต่ความถูกต้อง ถูกต้องที่จะให้คนทั้งโลกมาร่วมทำกันได้ทั้งหมดทั้งสิ้น ไม่มีปัญหา แต่ถ้ามันมองเห็นตัวอย่างแห่งความถูกต้อง ความถูกต้องมากขึ้น มันก็จะเป็นไปได้ แม้แต่เป็นโลกฝรั่ง โลกเมืองนอกเมืองนา ฝรั่งทั้งหลายมันก็ยังพอใจที่จะศึกษาในความถูกต้องหรือศึกษาธรรมะ แม้พวกฝรั่งก็มีการศึกษาธรรมะกันมากขึ้น ขอให้เราสนับสนุนเถอะ สนับสนุนให้ได้รับการศึกษาความถูกต้อง ความถูกต้อง เพื่อจะได้เป็นโลก โลก โลก โลก ทั้งโลก ทั้งสากลจักรวาล ที่ประกอบอยู่ด้วยธรรมะ คือความถูกต้อง สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปโป สัมมาวาจา สัมมากัมมันโต สัมมาอาชีโว สัมมาวายาโม สัมมาสติ สัมมาสมาธิ สัมมาญาณะ สัมมาวิมุติ
ที่อาตมามีเรื่องที่พูดเพียงตอนเดียว ขออย่างเดียวให้ยึดติดว่ามีความถูกต้อง ถ้ามีความถูกต้อง แล้วอย่าไปเป็นทาสของความเอร็ดอร่อยทางระบบประสาท ถ้าไปเป็นทาสของความเอร็ดอร่อยทางระบบประสาทแล้วมันสูญเสียความถูกต้อง ไม่มีความถูกต้องเลย แล้วจะเห็นแก่ตัว แล้วก็จะเบียดเบียนกันยิ่งขึ้น เบียดเบียนกันยิ่งขึ้น เบียดเบียนกันยิ่งขึ้นจนเป็นมิคสัญญี เป็นสรรพขันทรกัป (32.37) ฆ่าฟันกันอย่างฆ่าปลา ฆ่าเนื้อ มีที่เต็มไปแต่ด้วยอาชญากรรมความเลวร้าย
นี่ขอให้ท่านทั้งหลายจงได้พิจารณาดู มองเห็นจริงอย่างเป็นอิสระของตนเองแล้ว จงได้บูชาความถูกต้อง ตั้งใจปฏิบัติความถูกต้อง พิทักษ์รักษาความถูกต้องด้วยกันจงทุก ๆ ท่าน ทุกคนแล้วอยู่เป็นสุขสบายด้วยความสงบเย็นและความเป็นประโยชน์ ๒ อย่างเท่านั้นคือสงบเย็นและเป็นประโยชน์ สงบเย็นและเป็นประโยชน์ มีความสุข สวัสดี อยู่ทุกทิพาราตรีกาลเทอญ