แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
พระรูปหนึ่ง: อาตมามาจากขอนแก่น ไม่ใช่เจ้าคณะอำเภอ ชนบทจังหวัดขอนแก่น ได้ฟังวิทยุเมื่อคืนนี้ว่า ดาไลลามะท่านมาที่นี่ สมเด็จพระสังฆราชเจ้าคุณศาสนโสภณ อาตมาเลยทราบ เป็นบุคคลที่มีบุญวาสนาบารมีได้เป็น (นาทีที่ 01:21) หนีมาอยู่อินเดีย อาตมาก็เลยสงสารท่าน พอมาประเทศไทยก็มีความยินดีอย่างมากได้มาพบกัน
พระรูปหนึ่ง: อาตมาเป็นพระผู้เฒ่ามีอายุ 73 ปี พรรษา 53 ได้รับเรื่องประวัติของท่าน ถูกเบียดเบียนกัน สงสารท่าน ได้ยินจากคลื่นวิทยุ ว่าท่านมาที่นี่ ยังไงก็จะพบ ๆ
พระรูปหนึ่ง: ท่านยังดูหนุ่มอยู่
ดาไลลามะ: กำลังจะย่างเข้า 33 (นาทีที่ 03:10)
พระรูปหนึ่ง: นับเป็นบุญวาสนาบารมีของอาตมาที่ได้พบได้เห็นท่าน ฟังจากประวัติแล้วก็ได้แต่สงสาร
ดาไลลามะ: ท่านเป็นผู้มีพรรษาสูง ยังมาหาผู้ที่พรรษาน้อยกว่า ก็รู้สึกขอบคุณมาก
พระรูปหนึ่ง: ก็ได้ทราบประวัติเรื่องอะไรต่ออะไร ก็สงสารท่าน ไม่ว่าท่านจะมีอายุมากหรือมีอายุเท่าไร ก็ไม่เป็นไร
ดาไลลามะ: ท่านมีความประทับใจมากที่มาพบเข้าว่า การประพฤติปฏิบัติธรรมในพระวินัยของประเทศไทยมีส่วนคล้ายคลึงใกล้ชิดกันมากกับที่ประพฤติปฏิบัติอยู่ในประเทศทิเบต
ดาไลลามะ: การที่ได้มาพบและศึกษาการปฏิบัติในประเทศไทย ปรากฏว่า สำหรับการรักษาศีล รักษาวินัย เกือบจะเหมือนกันเลยทั้ง 2 ประเทศ หากแต่ว่าจำนวนศีลข้อเล็ก ๆ ผิดแปลกกันไปบ้าง ส่วนการปฏิบัติสมถะนั้นตรงกันทุกอย่างทั้งในประเทศทิเบตและประเทศไทย และท่านได้อ้างถึงโพธิ (นาทีที่ 06:42)
ดาไลลามะ: ถ้าหากว่าท่านมีเวลามากกว่านี้ที่จะได้ศึกษากิจการพุทธศาสนาและการปฏิบัติพุทธศาสนาในประเทศไทย ก็คงจะได้พบว่า ความเหมือนกันคล้ายคลึงกันคงมีอยู่ทั่วไปทุกระดับ แต่นี่ยังมีเวลาน้อยอยู่
พุทธทาส: ก็ไม่ทราบว่าจะพูดเรื่องอะไรยืดยาว เวลาน้อย ก็เพิ่งมาถึงเมื่อเช้านี้
พุทธทาส: ที่เราสนใจมากที่สุด คือ ปัญหาเกี่ยวกับการเผยแผ่พระพุทธศาสนาออกไปในโลกสมัยนี้ที่ไม่ค่อยจะเป็นผล ไม่ยอมฟังหรือไม่ประสบความสำเร็จ ที่เป็นปัญหาอย่างใหญ่ของเรา ท่านมีความเห็นในปัญหาทางนี้อย่างไรบ้าง
ดาไลลามะ: โดยที่ท่านต้องถูกเขาขับไล่ออกมาจากประเทศดั้งเดิมของท่าน และก็ต้องมาจัดการตั้งต้นชีวิตใหม่กับคนตั้งหลายหมื่น ปัญหาอันนี้ท่านก็กำลังจะประสบอยู่เหมือนกัน
ดาไลลามะ: พวกคนสมัยนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนหนุ่มคนสาวนั้น เขาต้องมาประสบกับวัตถุนิยมหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย แล้วจิตใจของเขาเป็นไปในทางวิทยาศาสตร์เป็นส่วนมาก เพราะฉะนั้น การที่เขาจะเชื่ออะไรเขาต้องเชื่อด้วยบทพิสูจน์ ข้อพิสูจน์ เพราะฉะนั้นดาไลลามะท่านเห็นว่า การที่จะสอนพระพุทธธรรมให้เข้าถึงจิตใจของพวกนี้ เราจะต้องพยายามหาวิธีพิสูจน์ การพิสูจน์ถึงความแน่แท้ของพุทธธรรมให้เขาเห็น เขาจึงจะเชื่อ
ดาไลลามะ: การที่จะพูดกับพวกหนุ่มสาวเหล่านี้นั้น ท่านมีความเห็นว่า เราอย่าพูดถึงตัวอย่างของความหลังความเก่าแก่ดีกว่า เช่น ชาดกต่าง ๆ เหล่านี้ อย่าพูดกับเขาดีกว่า ถ้าจะพูดกับเขาจะต้องพูดถึงนำพุทธธรรมเข้ามาปรับกับตัวอย่างในชีวิตทุกวันนี้ ในชีวิตของโลกปัจจุบันนี้ นั่นจะเป็นทางที่ดีกว่า
ดาไลลามะ: ทั้งนี้ ที่ท่านอาจารย์ถามนั้นเป็นปัญหาสำคัญมากเหลือเกิน และตัวที่เป็นปัญหาที่มีความซับซ้อนอยู่มาก เราทั้งหลายที่เป็นนักเผยแผ่ธรรมะหรือเป็นผู้เผยแผ่พระพุทธธรรม เราจะต้องศึกษาพิจารณาให้ดีและเราควรจะร่วมกันในการแก้ปัญหาต่าง ๆ หรือว่าหาวิถีทางต่าง ๆ ที่จะเหมาะสมที่สุด ถ้าหากว่าพวกเราซึ่งเป็นผู้เผยแผ่พุทธธรรมได้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์หรือปัญหาซึ่งกันและกันจะเป็นผลดี
พุทธทาส: เราคงมีโครงการข้างหน้าพบกันอีกแน่ ๆ
พุทธทาส: ใครมีอะไรบ้าง ใครจะถามธรรมะ ถามตรงเลย
สุภาพสตรีท่านหนึ่ง: เมื่ออยู่ต่างประเทศเมืองนอก ได้อ่านหนังสือที่ฝรั่งเขียนว่า ท่านเป็นองค์ดาไลลามะเมื่ออายุ 4 ขวบ ถามว่าเป็นความจริงหรือไม่ ท่านก็บอกว่า จริง อายุ 4 - 5 ปี แล้วก็ได้อ่านในหนังสือว่า ตอนที่มีนักปราชญ์ราชบัณฑิตปุโรหิตไปเลือกดาไลลามะใหม่ หลังจากองค์ดาไลลามะเดิมสิ้นชีพแล้ว ได้นำสิ่งของเครื่องใช้ประจำองค์ขององค์ดาไลลามะเดิมไปให้ท่านองค์ดาไลลามะใหม่หยิบและท่านหยิบได้ถูกต้องนั้น อายุท่านเพียง 2 - 3 ขวบเท่านั้น แต่ท่านหยิบของใช้ขององค์ดาไลลามะเดิมได้ถูกต้อง นี่เป็นความจริง แล้วท่านอาจารย์ก็บอกว่า ได้อ่านหนังสือมีความประทับใจถึงท่านองค์ดาไลลามะ ก็เลยอยากมาเห็นมาพบกับท่าน
ดาไลลามะ: ในการที่มีคณะทูตออกไปหาดาไลลามะใหม่ที่กลับชาติมาเกิด บางทีก็ได้พบกับเด็ก ๆ ที่สามารถจะท่องพระสูตรของนิกายของท่านในทิเบตได้คล่องแคล่ว โดยตนเองก็ว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ ก็แปลว่า ลักษณะของการกลับชาติ (นาทีที่ 22:36) ที่ปรากฏการณ์เช่นนั้นเราได้เห็นว่า เมื่อชาติก่อนได้ศึกษาท่องบ่นพระสูตรสาธยายมาจนกระทั่งติดตัวมาเกิดภพใหม่
สุภาพบุรุษท่านหนึ่ง: อาจารย์ครับ ผมอยากกราบเรียนอาจารย์ให้พูดสนทนาธรรม ผมจะได้ฟัง ขอให้สนทนาธรรม สรุปเรื่องนี้ไม่ต้องพูด แปลสรุปเรื่องนี้ยาก ใช้เวลาหลายชั่วโมง คนที่ไม่เข้าใจ (นาทีที่ 31:50)
อยากจะให้ท่านพระพุทธจารย์กับท่านดาไลลามะ แล้วเราฟังด้วย เราเรียนไม่ไหว ชั่วโมงมันสั้น เรามาเรียนกันไม่ไหว ขออภัยนะครับ อยากถามเรื่องจิตว่างหน่อย อยากให้ท่านอธิบายคำว่า จิตว่าง ให้สั้นที่สุด ให้เข้าใจง่ายที่สุด อย่างคนธรรมดาที่จะฟังท่าน
พุทธทาส: เราอยากทราบวิธีปฏิบัติที่เรียกว่า สรุป กระชับ สั้นที่สุด ไปสู่ความดับทุกข์ในลำดับสูง เขามีหลักว่าอย่างไร และเรื่องนี้เขาได้เผยแผ่ออกมานอกประเทศแล้วหรือไม่ หนังสือเล่มใด
ดาไลลามะ: การที่ท่านสั่งสอนเผยแผ่ธรรมะในทิเบตเป็นภาษาทิเบตนั้นยังไม่มีการแปลถ่ายทอดมาเป็นภาษาอังกฤษ แต่ว่ามันมีหนังสือเล่มเล็ก ๆ อยู่เล่มหนึ่งซึ่งได้พิมพ์ขึ้นเป็นภาษาอังกฤษแล้ว และกำลังจะมีหนังสือของท่านที่จะออกมาอีกเล่มหนึ่งเป็นเล่มใหญ่ ในหนังสือนี้ก็จะมีอยู่ถึงวิถีทางซึ่งจะกำจัดอวิชชา และก็วางวิธีปฏิบัติเพื่อให้ลุผลที่ปรารถนา
พุทธทาส: ท่านมีวิธีสอนให้คนเข้าใจเรื่องอนัตตาหรือสุญญตาโดยวิธีรวบรัดหรือลัดโดยเร็ว มีวิธีอย่างไรบ้าง
ดาไลลามะ: เมื่อเรื่องสุญญตาขึ้นมาแล้ว คือขึ้นมาสู่การพิจารณาสั่งสอนแล้ว เราจะต้องศึกษาถึงวิธีคิด นักคิดอยู่ 4 ประเภท เราต้องศึกษาถึงวิธีของนักคิด 4 ประเภท นักคิดประเภทที่ 1 คือ (นาทีที่ 38:45 - นาทีที่ 40:45) และในมัทธิยมิกายังแบ่งออกเป็นสอง
ดาไลลามะ: โดยทฤษฎีของนักปราชญ์เหล่านี้ ถ้าจะอธิบายถึงสุญญตาในภาษาชาวบ้าน เราต้องขจัดสิ่งสุดทั้งสองข้าง สุดที่ว่ามีอยู่เกิดอยู่ กับสุดที่ว่าไม่มีอยู่ไม่เกิดอยู่ จะว่าสิ่งใด ๆ ไม่มีนั้นก็ไม่ได้ เพราะมันมีที่เห็น ๆ กันอยู่อย่างนี้ อย่างดาไลลามะก็มีดาไลลามะ การที่องค์ดาไลลามะยกถ้วยน้ำชาขึ้นดื่มนี่ ก็รู้สึกมีรส ถ้วยมันก็เป็นถ้วย น้ำชาก็เป็นน้ำชา รสมันก็เป็นรส ดาไลลามะท่านก็เป็นอยู่อย่างนี้ และไม่ใช่องค์ดาไลลามะซึ่งเราฝันเห็นไป แต่เป็นองค์ดาไลลามะจริง ๆ
ดาไลลามะ: อย่างที่ว่าเมื่อกี้นี้ ดาไลลามะอยู่ที่นี่ คนที่จะมาแนะนำให้ถูก รู้จักกับท่านดาไลลามะ เห็นรูปร่างว่าเป็นท่านดาไลลามะ แต่ว่าท่านดาไลลามะเนี่ยดูให้ซึ้งเถอะว่า ที่ไหนเป็นดาไลลามะ รูปก็ไม่ใช่ดาไลลามะ แล้วก็วาจาก็ไม่ใช่ดาไลลามะ และจิตก็ไม่ใช่ดาไลลามะ แล้วก็ทั้งหมดนี่คือขันธ์ 5 ทั้งนั้น ไม่มีดาไลลามะอยู่ ถ้าจะถามว่า สิ่งที่รวมกันนี่เป็นดาไลลามะมั้ย คือ จิต วาจา และก็ร่าง ก็ตอบไม่ได้ว่าเป็นดาไลลามะ แม้สิ่งที่รวมกันก็ไม่ใช่ดาไลลามะ แล้วก็กระแสจิตที่สืบเนื่องกันไปก็ไม่ใช่ดาไลลามะ เพราะฉะนั้นเราจึงไม่ได้พบดาไลลามะ (นาทีที่ 46:12) แต่ในเวลาเดียวกันก็ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า ไม่มีดาไลลามะ ดาไลลามะซึ่งเป็นอยู่โดยรูปของตนเอง โดยสภาพตนเองน่ะไม่มี แต่ว่ามีดาไลลามะซึ่งเป็นอยู่โดยต้องพึ่งพาอาศัยขันธ์ต่าง ๆ รวมกันเข้าถึงได้เกิดภาพของดาไลลามะ พุทธทาส: อย่างนี้ก็ตำราเดียวกัน อนัตตา
ดาไลลามะ: ถ้าเราไปรับรองว่ามีองค์ดาไลลามะอยู่ มีอยู่ เกิดอยู่ อย่างนี้เป็นอาตมัน เป็นสิ่งที่เรา (นาทีที่ 48:20) ถ้าหากว่าเราเห็นว่า ดาไลลามะจะมีส่วนประกอบเข้าเท่านั้นจึงเป็นดาไลลามะ อย่างนี้ก็แปลว่าเราเห็นว่าไม่มีดาไลลามะ นี่คือสรุปแล้วเรื่องสุญญตา
ขอเวลาอีกสัก 10 นาทีก่อนท่านนายกฯมา
สุภาพบุรุษท่านหนึ่ง: ผมจะเรียนอาจารย์ อีก 5 นาทีผมจะจากท่านแล้ว ทีนี้ว่าท่านจะมีอะไรจะสอน ผมกับท่านอาจจะไม่ได้พบกันอีกแล้วก็ได้ ผมจะจากท่านไปผมอยากให้ท่าน ภายใน 5 นาทีขอให้ผมได้รู้เรื่องของพระพุทธเจ้า
ดาไลลามะ: ความหมายของเจตนา สำคัญที่สุดคือเจตนา ถ้าเจตนาดีก็ดี เจตนาชั่วก็ชั่ว เพราะฉะนั้นท่านทั้งหลายต้องปฏิบัติไมตรีและกรุณา เมื่อเราได้ปลูกเจตนาที่ดีขึ้นในตัวเราแล้ว เราก็มีความสามารถที่จะเจาะลงไปถึงสภาพอันแท้จริงของตัวเรา นี่ล่ะที่โยงไปถึงหลักสุญญตา กรุณาและไมตรีนี้เป็นอุบาย
ปัญญาที่เห็นสุญญตาคืออะไร เป็นผล ปัญญาที่เห็นสุญญตาเป็นผลให้ปฏิบัติไปพร้อม ๆ กัน ท่านบอกให้มีเจตนา และก็มีปัญญา