แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ท่านสาธุชนผู้มีความสนใจในธรรมทั้งหลาย การบรรยายปาฐกถาธรรมในชุดพุทธรรมนำสุขในครั้งนี้ อาตมาจะกล่าวโดยหัวข้อว่า ธรรมะมีอยู่ในการทำหน้าที่ๆ ธรรมะอยู่ที่การทำหน้าที่ หมายความว่า หน้าที่นั่นแหละคือธรรมะ ธรรมะที่บูชากันนักนั้น มันอยู่ที่หน้าที่ที่กระทำ ไม่ได้อยู่ในโบสถ์ ในที่บูชา ที่ประกอบพิธีอะไรกันนักหนา นั้นมันอาจจะเป็นผิวของธรรมะ หรือเป็นพิธีรีตองเสียมากกว่า ถ้ามีการทำหน้าที่ที่ถูกต้องแล้วนั่นแหละคือธรรมะ ซึ่งควรจะทราบต่อไปว่าทำไมเรียกว่าธรรมะ เพราะว่ามันช่วยให้รอด คำว่าธรรมะ ธรรมะนี้แปลว่าสิ่งที่ยกชูสิ่งหนึ่งไว้ไม่ให้ตกลงไป อะไรที่จะทำอย่างนั้นได้ มันก็คือหน้าที่การงาน หน้าที่การงานมันจะยกชูผู้ปฏิบัติหน้าที่การงานไว้ไม่ให้ตกจมลงไปได้ มันก็พูดได้เลยว่าหน้าที่เป็นสิ่งที่จะช่วยคนนั้นให้รอด ธรรมะก็มีหน้าที่ที่จะช่วยคนนั้นให้รอด ธรรมะกับหน้าที่มันจึงเป็นสิ่งเดียวกัน ถ้าเป็นอย่างอื่นมันไม่อาจจะช่วยให้รอด เราจะถือว่าธรรมะเป็นพระเป็นเจ้าสูงสุด หรือเป็นสิ่งสูงสุดมันก็ถูกต้องแล้ว เพราะว่าธรรมะมันช่วยได้ จะมีธรรมะก็ต้องมีการทำหน้าที่เท่านั้นเอง หน้าที่การงานสำหรับอยู่ในโลกนี้ สำหรับเจริญอยู่ในโลกนี้ ก็เรียกว่า กัมมันตะ กัมมันตะ การงาน สัมมากัมมันตะ การงานชอบ หน้าที่ที่จะทำเพื่ออยู่ในโลกนี้เรียกว่า กัมมันตะแต่หน้าที่ที่จะออกไปนอกโลก พ้นโลกไปนี้ เราจะเรียกว่า กัมมัฏฐาน มันก็เป็นหน้าที่ด้วยกันทั้งนั้น และประกอบอยู่ด้วยคำว่า กัมมะ กัมมะคือการกระทำด้วยกันทั้งนั้น กัมมันตะ คือการงานที่มนุษย์จะต้องทำ ไม่ทำมันก็ตาย ที่สุดแห่งการที่จะยกเว้นให้ได้ว่าไม่ต้องกระทำนั่น คือเรื่องสุดท้ายนั้นก็คือเรื่องการงานนั้นเอง เรื่องอื่นอาจจะยกเว้นให้ได้ว่าไม่ต้องกระทำ แต่เรื่องหน้าที่แล้วยกเว้นไม่ได้ ส่วนใหญ่ก็มีหน้าที่ส่วนใหญ่ ส่วนเล็กก็มีหน้าที่ส่วนเล็ก แม้แต่ส่วนประกอบเล็กๆ น้อยๆ แห่งอวัยวะร่างกายมันก็ต้องทำหน้าที่ การทำหน้าที่คือการช่วยให้ชีวิตอยู่รอด ทีนี้ความรอดอันลึกซึ้งทางจิตใจมันยังมีอยู่อีก จึงต้องทำอีกหน้าที่หนึ่ง คือช่วยจิตให้จิตใจให้รอด ช่วยวิญญาณให้รอด นี้เราให้เกียรติหน่อย เรียกว่า กัมมัฏฐาน กัมมัฏฐานสูงขึ้นไป ลงความว่ามนุษย์จะต้องทำทั้งกัมมันตะ กัมมัฏฐาน และทำทั้ง กัมมัฏฐาน เพื่ออยู่ในโลกอย่างธรรมดาๆ ก็ทำกัมมันตะ เพื่อจะออกนอกโลกไปสู่นิพพานก็ต้องทำกัมมัฏฐาน การปฏิบัติธรรมะก็คือการทำหน้าที่ การทำหน้าที่ก็คือการปฏิบัติธรรมะ เพราะทั้งสองอย่างนี้ มันช่วยให้รอดในฐานะเป็นสิ่งสูงสุด จะต้องดูให้ดีว่า แม้ในโบสถ์ถ้าไม่มีการทำหน้าที่ก็ไม่มีธรรมะแหละ อย่าอวดไป แม้ในโบสถ์ถ้าไม่มีการทำหน้าที่ก็ไม่มีธรรมะ ตามทุ่งนาป่าเขา บ้านนอกคอกนานั่นน่ะ ถ้ามีการทำหน้าที่มันก็มีธรรมะ เต็มไปด้วยธรรมะ หรืออีกทีหนึ่งก็กล่าวว่าถ้าปฏิบัติถูกหน้าที่ก็มีธรรมะ ถ้าปฏิบัติไม่ถูกหน้าที่ก็ไม่มีธรรมะ คือมันมีธรรมะอย่างผิด ธรรมะที่ผิดนั้นไม่เรียกว่าธรรมะ แต่ไปเรียกเสียว่า อธรรม เป็นของน่ารังเกียจไปเสีย สิ่งที่เรียกว่าอธรรมนั้นไม่ใช่ธรรมะ ดังนั้นจึงทำลายผู้ปฏิบัติ ไม่ช่วยคุ้มครองส่งเสริม ช่วยผู้ปฏิบัติ ขอให้เราทุกคนรู้จักเรื่องของธรรมะในลักษณะอย่างนี้กันทุกๆ คนเถิดว่าธรรมะคือหน้าที่ หน้าที่คือธรรมะ มีการทำหน้าที่ที่ไหน ที่นั้นจะมีธรรมะ ไม่มีการทำหน้าที่อย่างถูกต้องแล้วแม้ในโบสถ์ก็ไม่มีธรรมะ ธรรมะยก หรือชูคุ้มครองรักษาผู้ปฏิบัติ ส่วนอธรรมะ ทำลายผู้ปฏิบัติ ให้เด็กๆ เขารู้จักสิ่งที่เรียกว่าหน้าที่ หน้าที่นั้นเป็นสิ่งสูงสุดของมนุษย์ ก็ส่งเสริมสัญชาตญาณแห่งการรักหน้าที่ หรือการรักความดีของลูกเด็กๆ ทารกนั้นให้ยังอยู่ติดต่อกันไปตลอดกาลนาน ขอให้สังเกตดูให้ดีจะเห็นว่าลูกเด็กๆ ทารกเพิ่งจะเดินได้ เดินไม่ได้นี่ เขาจะขอเข้ามาทำงาน หนูทำเองๆ หรือว่า ถ้าพ่อแม่สรรเสริญว่า เออ, ดี เขาก็เต้นแร้งเต้นกา ชอบใจในการที่มีผู้หา กล่าวหาว่าดี ดีนี่ เด็กมีสัญชาตญาณรักดี เด็กมีสัญชาตญาณอยากจะทำเอง อยากจะทำแทนผู้อื่น อย่างนี้ไม่ได้รับการส่งเสริมไม่เท่าไรมันก็หายไปหมด เพราะเด็กนั้นโต โตขึ้นมามันเป็นทาสของกิเลสเสียแล้ว มันก็ไม่เอาดี ที่ว่าดีแล้วมันไปเอาดีที่การได้ ตามอำนาจของกิเลสเสียแล้ว ที่ว่าหนูทำเองๆ ก็ไม่ค่อยมีเสียแล้ว ขี้เกียจเสียแล้ว หนีไปเล่นไปเที่ยวเสียแล้ว ขอให้รู้จักสัญชาตญาณอันนี้ของลูกเด็กๆ ทั้งหลาย แล้วก็ช่วยกันรักษาไว้ แล้วก็ช่วยกันส่งเสริมให้เจริญงอกงามยิ่งๆ ขึ้นไป ให้บูชาหน้าที่ บูชาความดี เข้ารูปเข้ารอยกับความรู้สึกคิดนึกตามสัญชาตญาณของลูกเด็กๆ เหล่านั้น อย่างน้อยที่สุดก็ทำให้เขารู้ว่าหน้าที่แหละคือสิ่งประเสริฐที่สุด สิ่งที่มีชีวิตต้องทำหน้าที่ ถ้าไม่ทำหน้าที่มันจะตาย หรืออยู่อย่างเป็นทุกข์ ต้นไม้นี่ก็ต้องทำหน้าที่ ไม่ทำหน้าที่มันก็ตาย สัตว์เดรัจฉานมันก็ต้องทำหน้าที่ ไม่ทำหน้าที่มันก็ตาย คนก็ทำหน้าที่อย่างคน ก็เป็นคนอยู่ได้ไม่ตาย แต่ยังไม่เป็นมนุษย์ ต้องทำหน้าที่สูงขึ้นไปกว่านั้นจึงจะเป็นมนุษย์ ถ้าทำหน้าที่สูงไปกว่านั้นอีกจึงจะเป็นเทวดา ถ้าทำหน้าที่สูงขึ้นไปกว่านั้นอีกจึงจะเป็นพรหม ซึ่งจัดว่าเป็นสัตว์สุดท้ายที่มีความดี มีคุณค่า มีเกียรติ ทุกชีวิตต้องทำหน้าที่และทุกๆ แบบ หรือชนิดของหน้าที่ หน้าที่มันมีหลายชนิด เช่น ว่าเราเป็นเด็กมีหน้าที่อย่างเด็ก เป็นผู้ใหญ่มีหน้าที่อย่างผู้ใหญ่ เป็นบิดามารดามีหน้าที่อย่างบิดามารดา เป็นเจ้าเป็นนายมีหน้าที่อย่างเป็นเจ้าเป็นนาย นี้อยากจะพูดว่าจะต้องทำหน้าที่ทั้งหมดนี้ให้สมบูรณ์ ให้มนุษย์เต็มไปด้วยหน้าที่ทุกคนๆ ตั้งแต่มหาจักรพรรดิ์ลงไปถึงคนขอทาน หรือว่าตั้งแต่คนขอทานขึ้นมาจนถึงมหาจักรพรรดิ์ ทุกขั้นตอนจะต้องทำหน้าที่ มนุษย์นั้นจึงจะมีชีวิตเป็นธรรมชีวี ไม่ใช่ๆ กิเลสชีวี ไม่ใช่กิเลสชีวี น่าเกลียดน่าชัง แต่เป็นธรรมชีวี มีธรรมะเป็นชีวิต สิ่งที่จะทำชีวิตนี้ให้เป็นอะไรก็ได้นั้น มันคือหน้าที่ของสิ่งที่มีชีวิตนั่นเอง เป็นคนนี่แหละลองไปทำหน้าที่อย่างสัตว์ มันก็เป็นสัตว์ไป เป็นคนนี่ไปทำหน้าที่อย่างเทวดา มันก็เป็นเทวดาไป ดังนั้นหน้าที่นั่นแหละคือสิ่งที่จะทำให้คนหรือมนุษย์นี้เป็นอะไรๆ ได้ตามที่ควรจะเป็น มันจะซื้อกันด้วยเงินไม่ได้ หรือจะให้ผู้อื่นช่วยทำให้ก็ไม่ได้ ดังนั้นมันต้องทำเอง ทำหน้าที่ชนิดไหนมันก็เป็นสัตว์ชนิดนั้น จึงหวังว่าทุกคนจะรู้จักสิ่งที่เรียกว่าหน้าที่ หน้าที่ หน้าที่ หน้าที่นี้เป็นที่พึ่งแก่คนทุกคน จงได้ทำให้สนุก ทำหน้าที่ให้สนุก แล้วเป็นสุขเสียเมื่อกำลังทำหน้าที่นั้นเอง อย่าต้องไปใช้เงินซื้อหาความเพลิดเพลินที่หลอกลวง นั้นไม่ใช่ความสุข และนั้นไม่ใช่หน้าที่ ไปทำเข้าแล้วมันก็จะวินาศ หวังว่าท่านทั้งหลายคงจะได้รู้จักหน้าที่ถึงที่สุด เพราะอยู่ในโลกนี้ก็ทำไปอย่าง ถ้าต้องการจะออกไปจากโลกนี้ก็ทำไปอีกอย่าง ล้วนแต่เป็นหน้าที่ ผู้ใดมีความปรารถนาจะมีความสุขอยู่ในโลกก็ทำหน้าที่อย่างชาวโลก ผู้ใดจะมีความสุขอยู่เหนือโลกขึ้นไปก็ทำหน้าที่อย่างพระอริยเจ้าทั้งหลาย บรรลุมรรคผลนิพพานก็เป็นพระอรหันต์ไป เรียกว่าหน้าที่มันสูงสุดที่นั่น ขอให้สนใจในสิ่งที่เรียกว่าหน้าที่ หน้าที่ แล้วประพฤติกระทำให้ถูกต้องตามเรื่องราวของหน้าที่แล้ว มีความสุขอยู่ทุกทิพาราตรีกาลเทอญ