ท่านสาธุชนผู้มีความสนใจในธรรมทั้งหลาย อาตมามาพบกับท่านทั้งหลายในรายการพุทธธรรมนำสุขในวันนี้อาตมาจะกล่าวโดยหัวข้อว่า กามคุณเป็นต้นเหตุแห่งปัญหาทุกปัญหา  เพื่อเราจะได้พิจารณากันถึงสิ่งที่เรียกว่ากามคุณ ใจความสำคัญอยู่ตรงที่ว่ามันเป็นต้นเหตุแห่งปัญหาทุกปัญหาของปุถุชนก็ระบุไปยังพวกปุถุชน ถ้าเป็นพระอริยเจ้าแล้วไม่มีปัญหา นี่ให้ขอให้ดูให้ดีๆ ให้พบความจริงข้อนี้ เพราะว่าเรามิได้รู้จักมันในฐานะที่เป็นต้นเหตุของปัญหาและกลายเป็นว่ามันเป็นสิ่งที่เราปรารถนากันอย่างยิ่งเรียกว่าอย่างสุดชีวิตจิตใจ ทำอะไรๆ ของปุถุชนนี้ีไม่พ้นไปจากเพื่อกามคุณหรือว่าความต้องการในกามคุณนั่นแหละเป็นเหตุให้ทำอะไรทุกๆ อย่าง นับตั้งแต่ให้ทำมาหากินให้ทำอีกหลายๆ อย่างที่เกี่ยวกับความเป็นไปในชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งก็คือสะสมปัจจัยเพื่อกามคุณทั้งนั้น บริโภคกามคุณก็คือการแสวงหาความสุขทางรูป เสียง กลิ่น รส โผฐฐัพพะที่เนื่องด้วยเพศ โดยคิดว่าเราได้บริโภคกามคุณ ไม่เคยรู้สึกว่ากามคุณมันบริโภคเรา ไม่เคยรู้สึกว่ากามคุณมันกัดกินเราเคี้ยวกินเรา แต่ขอให้ดูให้ดีๆ ว่าการบริโภคกามคุณนั้นเป็นการชนะกามคุณหรือว่าเป็นทาสของกามคุณ ท่านรู้สึกว่าบริโภคกามคุณ ...(นาทีที่ 0:03:09) อยู่เป็นเบี้ยล่างของเราๆ ชนะมัน แต่แล้วไม่เคยดูไม่เคยเงยดูว่ามันอยู่บนเราแล้วมันก็ขบกัดเรา จึงมีปัญหาเกิดขึ้นว่าการบริโภคกามคุณนั้นเป็นการชนะกามคุณหรือเป็นทาสของกามคุณ ถ้าถามอย่างนี้กิเลสมันก็ตอบอย่างหนึ่งโพธิปัญญามันก็ตอบอย่างหนึ่ง บางคนมีกิเลสเป็นเจ้าเรือนมันก็ตอบอย่างหนึ่งคนมีโพธิปัญญามันก็ตอบอีกอย่างหนึ่ง คนหนึ่งตอบว่าเราชนะกามคุณอีกคนหนึ่งมันตอบว่าเราเป็นทาสของกามคุณ ถ้าหมดตัวถึงจะเป็นทาสของกามคุณ ระวังให้ดีปัญหาอย่างเดียวกันตอบได้เป็นสองอย่างแล้วแต่ว่าผู้ตอบนั้นนะมันเป็นคนชนิดไหน ถ้าเป็นคนเจ้ากิเลสมันก็ตอบอย่าง ถ้าเป็นคนเจ้าโพธิปัญญามันก็ตอบอีกอย่างหนึ่ง แล้วน่าสังเกตที่ว่าสมัยนี้ทั้งโลกก็ว่าได้นะ เขาถือกันว่าถ้าไม่ส่งเสริมกามคุณโลกก็จะไม่พัฒนานี่ขอฝากไว้ด้วย ไอ้คนที่มันพูดอย่างนี้อาตมาขอฝากไว้ด้วยว่าขอให้ดูให้ดีๆ มันจะไม่จริงอย่างคุณว่า กลัวว่าส่งเสริมกามคุณแล้วก็พัฒนาจนได้ลงไปนอนจมอยู่ในปลักของกามคุณ โลกทั้งโลกกำลังไปนอนจมอยู่ในปลักของกามคุณ เขาถือหลักที่ว่าต้องพัฒนาโลกด้วยการส่งเสริมกามคุณ ดูให้ดียิ่งพัฒนาทางกามมันก็เย็นข้างนอกแต่มันร้อนข้างใน มันมีไฟลุกอยู่ข้างในเย็นข้างนอกร้อนข้างใน หรือจะเอากันอย่างนั้นตลอดเวลาเย็นข้างนอกร้อนข้างใน จะเอากันอย่างนั้นหรืออย่างไร สิ่งที่เรียกว่ากามคุณนั้นพระพุทธเจ้าท่านตรัสว่าให้ความทุกข์มากให้ความสุขน้อยอย่างไม่สมกันเลย อาตมาเห็นด้วยอย่างยิ่งตรงตามที่พระพุทธเจ้าตรัสจึงพูดอย่างนี้   แต่คนส่วนมากกลับเห็นตรงกันข้ามเห็นตรงกันข้ามว่าได้สุขมากมายมหาศาล ทุกข์นิดเดียวจนไม่มีปัญหาแล้วเขาก็ได้เป็นทาสของกามคุณ เพราะเป็นทาสของกามคุณเสียแล้วนั่นแหละถึงรู้สึกอย่างนั้น   ดูให้ดี ดูให้ดี กามคุณหรือเรียกสั้นๆ ว่ากามมันเป็นนายจ้างหรือว่าเป็นนายเหนือหัวหรือไม่ กามคุณเป็นนายจ้าง ธรรมชาตินะอันลึกซึ้งลึกลับธรรมชาติมันใส่กามคุณมาไว้เป็นเรื่องของชีวิตเพื่อให้สัตว์ที่มีชีวิตทำการสืบพันธุ์ เพราะว่าการสืบพันธุ์นั้นยุ่งยากลำบากไม่น่าสนุกเลยแต่ธรรมชาตินะฉลาดกว่า มันก็ใส่กามคุณมาไว้ให้เป็นบทนำหน้าของการสืบพันธุ์ คนหลงใหลในกามคุณก็ไม่รู้สึกในความยุ่งยากลำบากเกี่ยวกับการสืบพันธุ์ มันก็เลยทำการสืบพันธุ์เพราะอำนาจของกามคุณนี่เราเรียกว่ากามคุณมันเป็นนายจ้าง มันเป็นนายจ้างสัตว์ทั้งหลายเป็นลูกจ้างรับจ้างกามคุณทำการสืบพันธุ์เป็นลูกจ้างที่เขาจูงจมูกไปด้วยค่าจ้างนี้มันก็อย่างหนึ่ง ที่ๆ ว่ากามคุณเป็นนายเหนือหัวนี่มันหนักยิ่งขึ้นไปอีก ความหมายมันมากกว่าการเป็นนายจ้างเป็นนายเหนือหัวเหมือนกับพระเจ้าที่เขามีชื่อเรียกกันว่ากามเทพๆ ในบางยุคบางสมัยบางถิ่นยกเป็นพระเจ้าไอ้กามเทพนี่เป็นพระเจ้าองค์หนึ่งในบรรดาพระเจ้าทั้งหลาย วัฒนธรรมเฮเลนพวกกรีซพวกโรมันอะไรนั่นดูจะมียกเอากามคุณนี่เป็นเทพเจ้าองค์หนึ่ง เป็นพระเจ้าองค์หนึ่งในบรรดาพระเจ้าแล้วก็อ่อนน้อมบูชามีพิธีรีตรองกันมากมายเพื่อให้พระเจ้ากามเทพโปรด อย่างนี้เรียกว่ากามคุณเป็นนายเหนือหัวจนยกขึ้นมาเป็นพระเจ้าตามที่เราโง่เอาเอง เราโง่เอาเอง ไม่มีใครทำให้นอกจากความโง่ของเราเอง เราฉลาดกันเสียบ้างเถิดลดเอากามเทพลงมาเป็นผู้ช่วยเหลือมนุษย์ธรรมดาๆ ลดกามลงมาให้เป็นเพียงอุปกรณ์แห่งการสืบพันธุ์อย่าเอามาบูชาไว้เหนือเศียรเหนือเกล้าเหมือนคนบางถิ่นบางพวกเลย อย่างดีที่สุดก็ให้เหมือนกับของกินเล่น คนเรามันต้องมีอะไรกินเล่น ถ้ากามคุณอันสูงสุดนะลดมันลงมาเสียเป็นเหมือนของกินเล่นของเด็กๆ นี่เรียกว่าไม่เป็นทาสของกามคุณเป็นนายเหนือกามนั่นแหละคือความสุข ไม่ใช่ว่าเป็นทาสของกามคุณแล้วเป็นความสุขต้องเป็นนายเหนือกามคุณจึงจะเป็นความสุข ความสุขต้องสดชื่นต้องเยือกเย็นต้องไม่เหี่ยวแห้งต้องไม่ตรากตรำต้องไม่ทรมานใจ เมื่อเป็นทาสของกามคุณแล้วมันทรมานเหลือเกินมันร้อนเหลือเกินมันเหี่ยวแห้งเหลือเกิน มันก็เป็นความสุขของคนโง่ที่รู้แต่ความรู้สึกทางผิวหนังเท่านั้นเอง ไม่รู้ลึกไปถึงเรื่องจิตใจว่าจะเป็นอย่างไรกัน ลดลงมาเสียให้มาเป็นทาสอย่าให้มันเป็นนายอีกต่อไป ให้พระเจ้ากามเทพนั่นแหละ ลดลงมาเป็นคนรับใช้ของมนุษย์เสียบ้าง เราก็จะเป็นอิสระมากขึ้น ควรจะมองเห็นเหตุการณ์อันนี้ หรือสถานการณ์อย่างนี้ว่ามันเป็นความโง่ของเรา มันจึงสร้างสถานการณ์อย่างนี้ขึ้นมาได้และมันเป็นความหลอกลวงของกามคุณมันจึงสร้างสถานการณ์อย่างนี้ขึ้นมาได้ มันเป็นทั้งความโง่เป็นทั้งความหลอกลวง แต่เราก็เห็นเป็นความอร่อยเป็นความสุขเป็นสวรรค์เป็นบรมสุขไปเสียเลย ในพระบาลีกล่าวถึงคนพวกหนึ่งเอากามารมณ์เป็นนิพพานเอากามคุณเป็นนิพพานอย่างนี้ก็มี นั่นมันหลงสุดเหวี่ยงเอากามคุณเป็นนิพพาน ที่จริงมันเป็นความโง่ของคนนั้นและเป็นความหลอกลวงของกามคุณ ขอให้ลืมหูลืมตาในเรื่องนี้กันเสียบ้าง ถ้าเป็นสุขมันไม่ต้องทรมาน ถ้าว่าอร่อยมันก็ไม่ต้องเป็นการทรมาน ถ้ามันมีการทรมานจะเรียกว่าความสุขหรือความอร่อยไม่ได้ ถ้าจะเรียกว่าสวรรค์มันก็ต้องแบ่งกันว่าสวรรค์ของคนโง่หรือสวรรค์ของคนฉลาด ถ้าเป็นสวรรค์ของคนฉลาดมันต้องมีความเยือกเย็นพอสมควร ไอ้ส่วนที่จะเรียกว่าบรมสุขนั้นอย่าหวังเลย สุขธรรมดาสามัญมันก็จะไม่ได้เสียแล้วมันเป็นสุขหลอกๆ เท่านั้นเอง ทีนี้ี่เรามาศึกษาเรื่องความอร่อยไปหาสิ่งที่อร่อยที่สุดที่แพงที่สุด คล้ายๆ กับว่ากินคำเดียวพันบาทคำละพันบาทหรือบำรุงบำเรอกามคุณทางตาหู จมูก ลิ้น ผิวหนังอะไรครั้งเดียวพันบาทครั้งเดียวหมื่นบาทที่เขามีกันมาลองดู เคี้ยวไปพลาง อร่อยไปพลาง สัมผัสไปพลาง อร่อยไปพลาง มาศึกษาว่าความโง่ของเราอยู่ที่ตรงไหน เคี้ยวไปพลาง สัมผัสไปพลาง อร่อยไปพลาง มาศึกษาดูว่าความโง่ของเราอยู่ที่ตรงไหนความหลอกลวงของมันอยู่ที่ตรงไหนให้พบอย่างชัดเจนแจ่มแจ้งครบถ้วนว่าความโง่ของเราอยู่ที่ตรงไหนความหลอกลวงของมันอยู่ที่ตรงไหน นี่เรียกว่าลืมตากันเสียทีโงหัวกันเสียที อย่าก้มหน้าหลับตา ให้กามคุณอยู่เหนือหัวอีกต่อไปเลย ถ้าจะให้พุทธธรรมนำสุขต้องทำอย่างนี้ คือเงยหัวเงยหน้าขึ้นมาดูสิ่งที่เคยอยู่เหนือหัวตามที่เป็นจริง อย่าให้มันอยู่เหนือหัวเราอีกต่อไป อย่าให้มันบังคับบัญชาอะไรเราได้อีกต่อไป แล้วเราก็จะมีความสุขที่แท้จริงไม่หลอกลวงโดยประการทั้งปวง ความสุขอันประเสริฐที่ไม่ต้องใช้เงินซื้อหา ไม่ขบไม่กัด ไม่ประมาณจิตใจ ไม่ร้อนเป็นไฟ ไม่มีความเลวร้ายประการใดโดยประการทั้งปวง หวังว่าท่านทั้งหลายจะรู้จักสิ่งที่เรียกว่ากามคุณอันเป็นต้นเหตุแห่งปัญหาอันเลวร้ายทั้งปวงของปุถุชน หลุดจากความเป็นทาสแล้วมีความสุขอยู่ทุกทิพาราตรีกาลเทอญ