แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ท่านสาธุชนผู้มีความสนใจในธรรมทั้งหลาย อาตมามาพบกับท่านทั้งหลายในรายการของพุทธธรรมนำสุขในวันนี้ อาตมาจะกล่าวกับท่านทั้งหลายโดยหัวข้อว่า ระวังความเจริญทางวัตถุระวังๆๆ ความเจริญทางวัตถุที่เรากำลังหลงบูชากันนักทั่วไปทั้งโลกให้ระวัง เดี๋ยวนี้มันมีประจักษ์พยานเห็นได้ชัดว่าสิ่งนี้มันก็ได้เป็นไปตามหลักของธรรมะที่กล่าวไว้แต่กาลก่อน ประจักษ์ในข้อที่ว่ายิ่งเจริญทางวัตถุก็ยิ่งวินาศในทางจิตใจ ยิ่งเจริญทางวัตถุก็ยิ่งวินาศทางในจิตใจและก็เป็นไปอย่างไม่รู้สึกตัว ถ้ารู้สึกมันก็ไม่ทำเดี๋ยวนี้มันไม่รู้สึกเพราะมันไม่เห็น เพราะว่าตามันฝ้ามันมัวไปด้วยความปิดบังของเสน่ห์ของวัตถุนั้นเอง แม้จะวินาศลงไปสักเท่าไรก็มองไม่เห็น และไม่รู้สึกตัว ความวินาศมันจึงเป็นไปได้มากเท่ากับว่ายิ่งเจริญทางวัตถุเท่าไรก็ยิ่งวินาศในทางจิตใจเท่านั้น ไม่กลัวหากคนป่าหัวเราะ อาตมาหมายถึงคนป่าโบราณดึกดำบรรพ์ที่ยังจะไม่นุ่งผ้าด้วยซ้ำไป เขาไม่เจริญทางวัตถุเลยจนว่าผ้าก็จะไม่มีนุ่ง แต่เขาก็ไม่มีความทุกข์ร้อนอย่างลึกซึ้ง อย่างละเอียดอ่อนเหมือนกับคนสมัยนี้ ซึ่งมันมีการทรมานจิตใจอยู่ทุกเวลานาทีจนชีวิตนี้ก็คือความทนทรมานไปเสียแล้ว แต่ว่าคนป่าไม่ได้มีโอกาสมาเห็นความเป็นอยู่ของคนสมัยนี้นี่เรากล่าวเชื่อมโยงกันโดยเอามาเปรียบเทียบกัน ว่าถ้าคนป่าเขามาเห็นพวกเราที่เจริญๆๆ ชนิดที่คนป่าไม่อาจจะเข้าใจ แต่แล้วทำไมคนสมัยนี้ต้องปวดหัวมากกว่าคนป่า เป็นโรคประสาทมากกว่าคนป่า เป็นโรคภัยไข้เจ็บชนิดที่คนป่าเขาไม่รู้จักเขาก็ต้องหัวเราะ ถ้าจะให้ผีสางเทวดาซึ่งเชื่อกันว่ามันมีอยู่เดี๋ยวนี้ทุกหนทุกแห่งดูมันก็คงจะช่วยหัวเราะกับคนป่าทั้งผีทั้งเทวดาทั้งคนป่า ก็จะช่วยกันหัวเราะเยาะความเจริญทางวัตถุของมนุษย์สมัยนี้ มันมีเหตุผลอะไรที่จะหัวเราะเยาะอาตมาคิดว่ามันเหตุผลง่ายๆ เหตุผลที่โจ่งแจ้งอยู่ในทุกหนทุกแห่ง ว่ายิ่งเจริญ ยิ่งเจริญแล้วทำไมต้องยิ่งต้องเพิ่มคุกเพิ่มตารางเล่า ยิ่งเจริญทำไมต้องยิ่งเพิ่มโรงพักสถานีตำรวจเล่า เพิ่มศาลเพิ่มเจ้าหน้าที่ทางกฎหมายเล่า ยิ่งเจริญทำไมต้องยิ่งเพิ่มโรงพยาบาลประสาท โรงพยาบาลโรคจิตเล่ายิ่งเจริญทำไมจึงยิ่งมากไปด้วยนักโทษ มากไปด้วยอันธพาล มากไปด้วยคนโรคจิตโรคประสาทเล่า เพียงเท่านี้เราก็ไม่มีทางจะพูดต่อสู้กับพวกคนป่าเหล่านั้น ซึ่งมันไม่มีปัญหาเหล่านี้เลยคนป่าเหล่านั้นไม่มีปัญหาเหล่านี้เลย ไม่ต้องมีคุกไม่ต้องมีตารางไม่ต้องมีโรงพยาบาลบ้า นี่เรียกว่ายิ่งเจริญทางวัตถุก็ยิ่งวินาศทางจิตใจจนให้คนป่าเขาหัวเราะเยาะได้ ทีนี้ก็อยากจะตั้งปัญหาถามว่า ถ้าให้เลือกเอาเพียงอย่างเดียว คุณจะเลือกเอาทางฝ่ายไหน จะเลือกเอาทางความเจริญฝ่ายวัตถุหรือว่าจะเลือกเอาความเจริญทางฝ่ายจิตใจลองคิดดูให้ดี อาตมาก็คิดว่าท่านจะคงจะเลือกเอาความเจริญฝ่ายจิตใจทั้งที่ท่านก็ไม่ค่อยชอบ แต่ว่ามันก็พอจะรู้สึกมองเห็นได้ด้วยตนเองว่าไอ้ความเจริญทางจิตใจนั่นมันไม่น่ารังเกียจ ความเจริญทางด้านวัตถุนี่มันเพิ่มภาระหนักอึ้งไปหมดเป็นความทุกข์และดูแล้วมันก็เห็นได้ว่าน่ารังเกียจ เพราะว่าเขาใช้วัตถุนั้นเป็นเครื่องมอมเมาแต่ละคนให้หลงใหล แล้วความเจริญทางวัตถุนั้นทำให้เกิดการแข่งขันแย่งชิง กระทั่งการเอาเปรียบสูบเลือดสูบเนื้อกันก็เพราะความเจริญทางวัตถุ ถ้าเจริญทางจิตใจไอ้เรื่องอย่างนี้มันก็ไม่มี ท่านทั้งหลายเห็นวี่แววอยู่อย่างนี้ก็ต้องตอบว่าเลือกเอาความเจริญทางจิตใจแต่แล้วท่านก็ไม่เอา ท่านก็ยังไปหลงความเจริญทางวัตถุ สร้างสรรค์ความเจริญทางวัตถุสืบต่อไป นี่แหละมันเป็นเรื่องอะไรถ้าไม่ใช่เรื่องหลอกลวงตัวเอง การหลอกลวงตัวเอง ใครเป็นคนเสียหายมันก็ตัวเอง แล้วใครเป็นคนหลอกมันก็ตัวเอง ฉะนั้นก็เป็นอันว่าตัวเองนั่นแหละมันได้ทำความพินาศให้แก่ตัวเองด้วยความหลงความเจริญทางวัตถุ เอาละทีนี้อาตมาอยากจะพูดต่อไปว่ามันเป็นสิ่งที่เราทำได้นะที่เจริญทั้งสองฝ่าย การที่จะเจริญทางฝ่ายวัตถุและจิตใจทั้งสองฝ่ายพร้อมกันไปนี่มันเป็นสิ่งที่ทำได้ ท่านก็ลองคิดดูว่าถ้าเจริญพร้อมกันทั้งสองฝ่ายมันจะหมดปัญหา มันไม่เจริญทางวัตถุและวินาศทางจิตใจ เดี๋ยวนี้เรามาเจริญกันทั้งสองฝ่ายและเป็นสิ่งที่ทำได้ ท่านจะไม่เชื่อก็ได้แต่ขอให้ศึกษาดู ธรรมชาติมันกำหนดมาให้ หรือว่ามันยอมให้มันจัดมาให้สำหรับเราจะเจริญได้ทั้งทางวัตถุและทางจิตใจ แต่เรามันก็โง่ไปเสียเองไปตกบ่วงความหลอกลวงทางวัตถุ เอากันแต่ทางวัตถุทุ่มเทกันแต่ทางวัตถุไม่สนใจในทางจิตใจ ยิ่งมีความทุกข์ทรมานก็ยิ่งเห็นเป็นของสนุกสนานไปเสียอีก มันก็เลยเรียกว่าเหมือนกับว่าจมอยู่ในกองทุกข์และก็ไม่รู้สึกตัวว่าจมอยู่ในกองทุกข์ อาตมาจะพูดต่อไปอีกว่าเดี๋ยวนี้ศาสนาของพระศรีอารยเมตไตรยเข้ามาครึ่งหนึ่งแล้ว ดูให้ดี ดูให้ดี ศาสนาของพระศรีอาริย์ พระศรีอารยเมตไตรยเข้ามาครึ่งหนึ่งแล้ว เรื่องนี้เราเคยพูดกันมามากแล้วว่าศาสนาของพระศรีอารยเมตไตรยเจริญทั้งทางวัตถุทั้งทางจิตใจ ทางวัตถุเจริญราวกับว่าเป็นของทิพย์ อะไรๆ ก็ได้ตามจิตใจ ตามความต้องการทางจิตใจไม่มีอะไรขาดแคลนนี่สมบูรณ์ทางวัตถุ แต่แล้วสมบูรณ์ทางจิตใจด้วย คือมีคุณธรรมพร้อม มีความเมตตากรุณาเป็นอย่างยิ่ง รักเพื่อนเกิดแก่เจ็บตายเต็มที่ไม่มีใครเบียดเบียนใคร มีแต่คนที่พร้อมที่จะช่วยเหลือผู้อื่นตลอดเวลา ไปทางไหนก็ยื่นมือกันสลอนว่าจะให้ช่วยอย่างไร ศาสนาพระศรีอารยเมตไตรย ถึงกับพูดว่าพอลงจากบ้านของตนแล้วก็จำไม่ได้ว่าใครเป็นใคร เพราะดีเหมือนกันหมดไปที่ไหนก็มันดีเหมือนกันหมดก็จำไม่ได้ว่าใครเป็นใคร ใครเป็นสามีของเรา ใครเป็นภรรยาของเรา ต่อเมื่อกลับมาถึงบ้านจึงค่อยรู้กันเพราะไม่มีใครมาคอยผสมโรง ในทางทรัพย์สมบัตินั้นกล่าวว่ามีที่อำนวยให้ตามต้องการใครขาดแคลนอะไรไปขอเอาได้ยิ่งกว่าสวัสดิการของมนุษย์แห่งยุคปัจจุบัน ก็เลยว่าไม่มีความขาดแคลนในทางวัตถุ ในทางจิตใจมีแต่ความรักไม่มีความเบียดเบียน และก็มีธรรมะพอที่จะพอควบคุมกิเลสในภายใน ทั้งในเรื่องความโลภ ความโกรธ ความหลงนี่คือศาสนาของพระศรีอารยเมตไตรยเต็มรูปแบบ ทีนี้ที่อาตมาว่าศาสนาของพระศรีอารยเมตไตรยเข้ามาครึ่งหนึ่งแล้ว ก็คือว่าโลกสมัยนี้มันเจริญด้วยวัตถุถึงขนาดที่จะว่าเป็นของทิพย์ของเทวดา สะดวกสบายอย่างยิ่งแล้ว ในทางวัตถุเจริญจนเฟ้อแล้ว แต่มันขาดทางจิตใจมนุษย์ยิ่งเห็นแก่ตัว เบียดเบียนกันอย่างไม่น่าเชื่อ ก็ลองสังเกตดูข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์แต่ละวันละวัน มีแต่ข่าวเบียดเบียนอันธพาลอย่างเหลือประมาณอย่างไม่น่าเชื่อนี่ส่วนจิตใจมันยังขาดอยู่มันยังฉ้อโกง และก็มันยังทุจริตยังคอร์รัปชั่นในหมู่ข้าราชการ จนเขาพูดกันว่านะไม่ใช่อาตมาว่านะว่าบ่อนการพนันเป็นของพวกส.ส.ไปแล้วทั้งหมดเลย เรียกว่ามันขาดในทางจิตใจ ครึ่งหนึ่งทางฝ่ายจิตใจมันยังไม่มีมามันมีมาแล้วแต่ครึ่งหนึ่งในทางฝ่ายวัตถุก็เป็นอันว่าศาสนาพระศรีอารยเมตไตรยได้เข้ามาครึ่งหนึ่งแล้วทำอย่างไรจะให้เต็มสองครึ่ง ในเรื่องนี้พูดกันง่ายๆ ก็คือว่าครั้งพุทธกาลตั้งสองพันกว่าปีสามพันปีมาแล้วนั้นเขาเจริญกันแต่ในทางจิตใจทางวัตถุมันไม่มี พระพุทธเจ้าขออภัยยังพูดว่า ท่านไม่รู้จักรถยนต์ พระพุทธเจ้าไม่ได้ใช้เครื่องบิน พระพุทธเจ้าไม่มีวัตถุไม่มีทีวีไม่มีอะไรอย่างที่พวกเรามี แม้จะเป็นพระพุทธเจ้าหรือพระราชาก็ตามประชาชนก็ไม่มีแต่ว่าทางจิตใจดีรู้จักควบคุมกิเลส ปัญหาทางจิตใจไม่ค่อยจะมี เรียกว่ามันเจริญทางจิตใจแต่มันขาดในทางฝ่ายวัตถุ เดี๋ยวนี้เราฟุ่มเฟือยทางวัตถุแต่ขาดในทางจิตใจ ที่เรียกว่า ศาสนาของพระศรีอารยเมตไตรยมาเพียงครึ่งเดียว ถ้าเมื่อไหร่เอาสภาพทางจิตใจที่สมบูรณ์ในธรรมะมาบวกเข้าครึ่งหนึ่ง เอาภาวะครั้งสมัยพุทธกาลทางจิตใจมาบวกเข้ากับภาวะวัตถุแห่งสมัยปัจจุบันก็จะเป็นศาสนาพระศรีอารยเมตไตรยที่สมบูรณ์ นี่เราจะประยุกต์เข้ากันได้อย่างไรในระหว่างความเจริญทางฝ่ายวัตถุและทางฝ่ายจิตใจเพื่อให้ครบถ้วนเป็นศาสนาของพระศรีอารยเมตไตรยให้สมบูรณ์กันเสียที เอาละถ้าจะให้พุทธธรรมนำสุข ก็ไม่อาจจะทำได้เพียงว่านั่งพูดนั่งอ้อนวอน บวงสรวงผีสางเทวดาอาศัยไสยศาสตร์อย่างที่คนเป็นอันมากเขาหวังกันนัก อาตมายืนยันว่าไม่มีทางมันต้องประพฤติธรรมะ ต้องมีความรู้อย่างถูกต้องในเรื่องเกี่ยวกับธรรมะและประพฤติธรรมะให้ถูกต้องให้บริสุทธิ์ให้สมบูรณ์ ความเจริญทางวัตถุก็จะไม่ครอบงำจิตใจ ของบุคคลที่มีธรรมะ เพราะว่าเขามีธรรมะต่อต้านกิเลสในทางวัตถุ ขอแสดงความหวังว่าพวกเราที่ได้ยินได้ฟังกันอยู่อย่างนี้คงจะพยายามเป็นอย่างดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ ถ้าคนอื่นเขาไม่เอาก็ตามใจเขาเราอย่าไปตามเขา เขาไม่เอาก็ตามใจเขา เราไม่ไปเอากับเขาเราจะคงยึดถือหลักของธรรมะหรือพุทธธรรม ประพฤติปฏิบัติให้ถูกต้องทั้งทางฝ่ายวัตถุ และทั้งทางฝ่ายจิตใจแล้วก็ได้รับผลของพุทธธรรมนำสุข หวังว่าท่านทั้งหลายท่านผู้ฟังทั้งหลายจะมีความเข้าใจในเรื่องนี้และดำรงตนให้ถูกต้องทั้งทางฝ่ายวัตถุและทางฝ่ายจิตใจ และจะมีความสุขอยู่ทุกทิพาราตรีกาลเป็นแน่นอน