แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
วันนี้ทำบุญอะไร ใครรู้ วันนี้ทำบุญอะไร ใครรู้ รู้ทุกคนนะ ทำบุญอะไร หา, ทำบุญอะไร ทำบุญตายาย ตายายนั้นใคร อยู่ที่ไหนล่ะตายาย หา, ใครรู้ หมด ไม่มีใครรู้ ไม่รู้ตายาย ตายายเป็นอะไรไม่มีใครรู้แล้วนะ รู้แต่ว่าทำบุญตายาย ซึ่งตายายเป็นอะไร ไม่มีใครรู้ ตายายเป็นอะไร ไม่มีใครรู้ ตายายเป็นอะไรใครรู้ยกมือ อือ, ดูท่าจะไม่ไหวต้องช่วยนะ มันสอนสืบกัน ตายายเป็นอะไรอยู่ที่ อยู่ที่ไหนตายาย ตายายอยู่ที่ไหน ใครรู้ หือ, อือ, หมดท่าเลย ตายายเป็นอะไร ก็ไม่รู้ ตายายอยู่ที่ไหน ก็ไม่รู้ ใครมีแม่ยกมือ ใครมีพ่อยกมือ มาจากไหนล่ะ พ่อแม่มาจากไหน พ่อแม่มาจากไหน เออ, พ่อแม่ก็คือลูก เออ, มาจากพ่อมาจากแม่ มาจากพ่อ มาจากแม่ของพ่อ แม่ก็มีพ่อ พ่อก็มี เออ, พ่อมี ต่อๆกันมา คนทั้งที่แรกๆ นั้นแหละ พ่อของพ่อเขาเรียกว่าอะไร พ่อของพ่อเรียกว่าอะไร หา, เรียกว่าอะไร โอ้โฮ, พ่อของพ่อเรียกว่าอะไร หา, เรียกว่าอะไร เออ, เรียกว่าปู่ คนนี้ยังตอบถูก แม่ของแม่เรียกว่าอะไร หา, เรียกว่าอะไร หา, เออ, เรียกของแม่เรียกว่ายาย พ่อของพ่อเรียกว่าปู่ ฟังเข้านะ พ่อของพ่อเรียกว่าปู่ พ่อของปู่เรียกว่าอะไร ใครรู้ คือหมด คือหมด คือหมด พ่อแม่มันไม่สอนนี่ อือ, พ่อของปู่เรียกว่าอะไร หา, เรียกว่าอะไร หา, อือ, ทวดเฉยๆ ไม่ถูก เรียกว่าอะไร หา, เรียกว่าอะไร เออ, เรียกว่า เออ, พ่อของพ่อเรียกว่าปู่ พ่อของปู่เรียกว่าปู่ทวดแน่ะ ปู่ทวด ตาทวด ยายทวด เรื่อยขึ้นไปๆ จนไม่รู้จะเรียกว่าอะไร นี่เขาเรียกว่าตายาย คนที่เกิดก่อน คนที่เกิดก่อนที่สุด แล้วให้เกิดต่อๆๆๆมานี่เขาเรียกว่าตายาย พ่อแม่มี มีคุณ พ่อแม่มีบุญคุณหรือไม่ มีเพราะเหตุอะไร แม่พ่อมีบุญคุณน่ะ เพราะเหตุอะไร ใครรู้ อือ, (นาทีที่ 5.46-5.47) ฟังไม่ชัด พ่อแม่มีบุญคุณน่ะเพราะเหตุอะไร ใครรู้ ใครรู้ยกมือ วะ, เอาการแล้วเว้ย อือ, นี่เราก็ต้องถามว่า ใครเกิดจากโพรงไม้ยกมือ ใครเกิดจากแมว ยกมือ เอ้า, ใครเกิดจากแมว ใครเกิดจากควาย ยกมือ ใครเกิดจากแม่ เออ, นั่นแหละคราวนี้พอถามว่า แม่มีคุณ แม่มีบุญคุณอย่างไร ทำไมตอบไม่ถูก แม่มีบุญคุณอย่างไร ใครตอบถูก แม่บุญคุณอย่างไร หา, คนนี้เหรอ ไม่ได้เกิดที่ (นาทีที่ 6.41-6.44) ฟังไม่ชัด เอ้า, แม่มีบุญคุณอย่างไร หา, เออ, เกิดเรามาและเลี้ยงเรามา ถ้าแม่ไม่ได้เกิดเรามา เราจะเป็นอย่างไร หา, ใครรู้ หา, เราคงไม่ได้อยู่ในโลกแล้วอยู่ที่ไหนล่ะ หา, ถ้าแม่ไม่ได้เกิดเรามา เราอยู่ที่ไหนล่ะ หือ, อยู่นรกหรืออยู่ไหน ถ้าแม้ว่าแม่ก็ไม่ได้เกิดเรามา เราก็ไม่ได้มาเป็น ผู้เป็นคน รู้จักโลกรู้จักทำประโยชน์ เพราะฉะนั้นแม่มีบุญคุณเพราะเกิดเรามาให้มีประโยชน์ คราวนี้แม่มีบุญคุณเพราะเกิดเรามา ฟังให้ดีๆนะ อย่านั่งเพลินนะ แม่มีบุญคุณเพราะว่าเกิดเรามา แล้วยายมีบุญคุณอย่างไร หือ, อือ, ไม่มีใครรู้ ยายมีบุญคุณอย่างไร หา, เออ, เพราะเกิดแม่มาอีกทีหนึ่ง ยายมีบุญคุณเพราะเกิดแม่มาอีกที แม่มีบุญคุณกับเรา ยายมีบุญคุณเพราะเกิดแม่มาอีกทีหนึ่ง นี่ยายทวด ตาทวด มันก็เหมือนกันแหละ ก็เกิดมา เกิดมา ให้ได้เกิดมาจึงว่ามีบุญคุณ เกิดมาได้เห็นโลก ได้เป็นคนมีประโยชน์ นั่นเพราะว่า พ่อแม่ ตายาย ปู่ทวด ด้วยก็มีบุญคุณ เราต้องนึกถึงอยู่เสมอ ใครนึกถึงอยู่เสมอ ใครนึกถึงอยู่เสมอ ใครไม่นึก ใครไม่นึก วันนี้นึกเป็นพิเศษ วันนี้ต้องนึกเป็นพิเศษ นึก นึกอยู่เสมอ ทุกวันๆๆแหละ แต่ว่าวันนี้นึกเป็นพิเศษ นึกให้ละเอียด ใครกินนมแม่ ใครกินนมควาย เออ, ไม่มี ใครกินนมแม่ เออ, แม่กินนมใคร ใครรู้ หา, แม่กินนมใคร เออ, กินนมยาย ยายกินนมใคร ใครรู้ หือ, เออ, ยายทวด ยายทวดกินนมใคร หมด หมดท่า กินนมใคร เออ, คนนี้เก่งๆ มันยังตอบได้ กินนมแม่ของยายทวดอีกชั้นหนึ่ง คราวนี้ถ้าถามอีกมันไม่รู้จะถามว่าอย่างไรแล้ว เอาเป็นว่ากินนมต่อๆๆๆๆ ล่ะ ไอ้นม ที่เอามาให้กินน่ะ เอามาจากไหน หือ, เอามาจากไหน เออ, เลือดในอก เลือดในอกของแม่ แม่เอามาทำเป็นนมให้เรากิน นั่นแหละ เธอคิดดูสิว่า แม่มีบุญคุณมากหรือน้อย แม่มีบุญคุณมากหรือน้อย คนที่ไม่รักแม่น่ะ เป็นคนดีหรือคนชั่ว โอ้, เป็นคนดีคนชั่ว หา, เออ, คนชั่ว ชั่วเท่าไหร่ หา, ชั่วเท่าไรๆ ๆ ที่ว่า คนนี้ ชั่วเท่าไร ใครว่า ชั่วเท่าไรๆ อือ, ไม่รู้ ใครว่าชั่วที่สุด เออ, นั่นแหละ คนที่ว่าไม่รักแม่ คนที่ไม่รักแม่ ทำให้แม่รำคาญ ทำให้แม่เดือดร้อน ทำให้แม่เป็นทุกข์ จำไว้นั่น คนชั่วที่สุดนะ คือทำให้แม่รำคาญ ทำให้แม่เดือดร้อน ทำให้แม่เป็นทุกข์ ทำให้แม่กลุ้มใจ ใครเคยเห็นลูกหมาทำให้แม่หมากลุ้มใจบ้าง ใครเห็น ใครเคยเห็น เรามีหมาเกิดหลายครอกในวัด ไม่เห็นลูกหมาทำให้แม่หมากลุ้มใจ ใครเคยเห็นลูกคนทำให้แม่คนกลุ้มใจ มากนะ ลูกคนทำให้แม่คนกลุ้มใจ ลูกหมาไม่เคยทำแม่หมาให้กลุ้มใจบ้าง หา, ใครเห็น ใครเคยเห็นบ้าง ไอ้ลูกหมาทำให้แม่หมากลุ้มใจนะ ใครเคยเห็น อือ, เราก็มีหมาเกิดหลายครอกแล้วในวัดนี้ ไม่เคยเห็นลูกหมาทำให้แม่หมากลุ้มใจ แต่ลูกหมาไม่เคยทำแม่หมาให้กลุ้มใจ ใครเคยเห็นลูกคนทำให้แม่คนกลุ้มใจ โอ้, หมาหรือเปล่านี่ คือหมานักเล่า ลูกคนทำให้แม่คนกลุ้มใจ แต่ลูกหมาไม่เคยทำแม่หมาให้กลุ้มใจ ใครไม่เคยเห็น เอาละเว้ย, ใครเคยทำให้แม่กลุ้มใจ โอ้, แน่ะดีๆๆ สารภาพ เคยทำให้แม่กลุ้มใจ ทีนี้จะทำอีกหรือไม่ทำ ใครจะทำอีกๆ พูดแล้วต้องจริงนะๆ ว่าทีนี้จะไม่ทำให้แม่พ่อปู่ตากลุ้มใจ ทำให้กลุ้มใจนะ เขาเรียกว่าไม่ ไม่ไหวแล้ว เขาเรียกว่าอะไร หา, ทำให้พ่อแม่ปู่ตาย่ายายกลุ้มใจ เขาเรียกว่าคนอะไรวะ หา, คนอะไรใครรู้ เออ, เอาคำว่าเนรคุณมาพูดได้แล้วทีนี้ ทีนี้จำไว้นะ ถ้าทำให้พ่อแม่ปู่ตากลุ้มใจเขาเรียกว่าคนเนรคุณ เมื่อเดี๋ยวว่าแล้วว่าไอ้ลูกหมาก็ยังไม่เคย เคยทำให้แม่หมากลุ้มใจ มัน มันทำไม่เป็นด้วยแหละ ที่เราจะไม่ทำให้บิดามารดา ปู่ ย่า ตา ยาย กลุ้มใจ คนที่ทำให้แม่ ให้พ่อสบายใจน่ะ เขาเรียกว่าคนอะไร เขาเรียกคนอะไร ฝั่งนี้ไม่มีเลยเหรอ คนที่ทำให้พ่อแม่สบายใจ เขาเรียกว่าคนอะไร หา, นี่ คนอะไร เออ, คนมีกตัญญู โอ้, นี่เคยได้ยินคำว่ากตัญญูมาแล้วนะ คนที่ทำให้พ่อแม่สบายใจเขาเรียกว่าคนกตัญญู ถ้าตรงข้ามเขาเรียกว่าอะไร เออ, ถ้า ถ้าคำคล้ายๆกัน เขาเรียกว่าอะไร คำคล้ายๆ กันเขาเรียกว่าอกตัญญู คนที่รู้บุญคุณของพ่อแม่ เขาเรียกว่าคนกตัญญู ไม่รู้บุญคุณของพ่อแม่ เขาเรียกว่าอกตัญญู คนที่ทำให้พ่อแม่เดือดร้อน เขาเรียกว่าคนเนรคุณ รู้กันแล้วว่าลูกหมาไม่เคยทำให้แม่หมาเดือดร้อน เราต้องไม่ทำให้พ่อแม่เดือดร้อน เดี๋ยวเราจะอะไร เดี๋ยวเราจะเป็นอะไร เราจะเลวกว่าลูกหมา ถ้าเราทำให้พ่อแม่เดือดร้อน ทำให้พ่อแม่เดือดร้อนบาปนะ บาปที่สุดนะ ใครรู้จักบาป บาปคืออะไร ใครรู้จักบาป บาปคืออะไร อ้าว, นี่ไม่รู้เลย บาปคืออะไรไม่รู้เลย พ่อแม่ยังไม่ได้สอนโว้ย ไอ้ลูกเด็กๆ ยังไม่รู้ว่าบาปคืออะไรทีนี่ พ่อแม่ยังไม่ได้สอนนั่น คือปล่อยกันจนป่านนี้แล้วลูกยังไม่รู้ว่าบาปคืออะไร บาปคือสิ่งที่เลวที่สุดในโลกแหละ สิ่งที่เลวที่สุดในโลกเขาเรียกว่าบาป บาป บาป จำไว้แหละ บาปคืออะไร หา, คืออะไร เอ้า, ว่าพร้อมๆ กัน บาปคือสิ่งที่เลวที่สุด หนูไม่ทำสัญญาวันนี้ เออ, ว่าหนูทุกคนจะไม่ทำบาป เพราะว่าบาปเป็นสิ่งที่เลวที่สุดในโลก เราจะไม่ทำ เหตุอะไรบาปจึงเลว หา, เพราะเหตุอะไรบาปจึงเลว เออ, อันนี้ตอบยาก ไม่ยกมือก็ดีแล้ว มันตอบยาก ตอบยาก บาปมันเลว เพราะมันผิดมันชั่วมันอะไรอยู่ที่นั่นทั้งหมด คนมีบาปแล้วก็ไม่มีความเจริญ คนที่บาปจะไม่เจริญ จะยากจน เจ็บไข้ได้ป่วย จะไม่มีอะไรกิน แล้วจะตาย คนที่บาปมากๆ แล้วก็จะต้องตายในที่สุดแหละ ใครชอบซวยๆ ใครชอบซวยที่นั่งๆ ใครชอบซวย บาปนั่นล่ะคือซวย คำว่าซวยมันก็มีความหมายเหมือนกับบาปแหละ เราไม่ชอบซวย อย่าทำบาป ฉะนั้นเราไม่รู้คุณของแม่ก็บาป เราเนรคุณแม่ก็บาป พ่อแม่ปู่ตาย่ายายตาทวดยายทวดทุกคนแหละ กระดูกที่อยู่ในโกศนั่นกระดูกใคร หา, ใครรู้ นั่นกระดูกที่อยู่ในโกศเต็มเลย กระดูกใคร ใครรู้ เออ, เอก กระดูกใคร หา, กระดูกใคร ยกมือแล้วไม่ตอบเหรอ อือ, คนนี้ว่ากระดูกใคร เออ, กระดูกปู่ย่าตายาย ตาทวด ปู่ทวด กระดูกก็เขาเก็บๆๆ กันไว้ เพราะว่าเขามีความรัก ปู่ตาย่ายายตาทวด วันนี้เขาทำบุญกันใหญ่ เขาทำบุญให้ใคร นั่นแหละ เขาเอาโกศนี่มาทำไม หา, เขาเอาโกศนี่มาทำไมบังสุกุลน่ะทำอะไร หือ, กรวดน้ำ เขามาบังสุกุล เอายืมใช้ ก็ว่าวันนี้เขามาทำบังสุกุล เอามาทำบุญให้ตายาย วันนี้ถ้าถือศีลกัน ถือศีลกัน ให้เอาบุญให้ตายาย ถ้าให้ทานกันก็ทำบุญให้ตายาย ถ้าฟังเทศน์ก็ทำบุญให้ตายาย ทุกๆอย่างที่กระทำในวันนี้เป็นการกระทำให้ตายาย (นาทีที่ 19.50-19.51) ฟังไม่ออก คราวนี้เธอทุกคนนี่ทำอะไรให้ตายายวันนี้ เธอทำอะไรให้ตายาย ทำอะไร ทำบุญ เธอทำอย่างไรวันนี้ เธอทำบุญวันนี้ เธอทำอย่างไร หา, ทำอย่างไร ส่วนของเธอทำอย่างไร หา, เอ้า, ใครทำบุญให้ตายายอย่างไรวันนี้ ใครทำบุญอย่างไร ใครเอาปิ่นโตมา เออ, เอามาจากไหนปิ่นโต ใครทำให้ ใครทำให้ ปิ่นโต ทำเอง ใครเชื่อว่าคนนี้ทำเอง หา, ปิ่นโตที่เอามาวันนี้ ใคร ใครทำให้ ใครทำให้ เอ้า, แม่แล้วแหละ เสื้อเอามาจากไหน เสื้อใครซื้อให้ หา, ใครซื้อให้ กางเกง กางเกงใครซื้อให้ เข็มขัด ปิ่นโตก็แม่ทำให้ เอามาทำบุญ ให้ ให้ ให้ลูกหลานเอามาทำบุญให้ปู่ย่าตายาย เพราะฉะนั้นแหละเรามาทำบุญให้ตายายเพราะว่าตายายมีบุญคุณแก่เรา เกิดเรามาตามลำดับ ถ้าเรายังรู้บุญคุณอยู่ เราก็ทำให้ ให้ชั่วไม่ได้ ตายายตายแล้ว ตายายต้องการให้เราทำอะไร หา, ใครรู้ ตายายหวังให้เราทำอะไร ตายายต้องการให้เราทำอะไร ทำอะไร ทำบุญ ใครตอบได้ดีกว่านั้น ตายายต้องการให้เราทำอะไร ให้เราทำดี เอ้า, ใคร ตายายต้องการให้เราทำอะไร ข้อนี้ใครตอบให้ดีกว่านี้ ตายายต้องการให้ทำอะไร ทำดี ตอบตามเพื่อน เอ้า, ใครตายายต้องการให้เราทำอะไร หา, อือ, ตายายต้องการให้เราเป็นอะไร หา, เป็นอะไร เป็นอะไร บอกอะไรๆ เออ, ตายายต้องการให้เราเป็นคนดี ก็ตอบอยู่คงที่ ตายายตายไปแล้วต้องการให้เราเป็นบุตรที่ดีๆ และต้องการให้ดีทุกอย่าง ต้องการให้เราเป็นนักเรียนที่ดี ต้องการให้เราเป็นเพื่อนที่ดีซึ่งกันและกัน ตายายต้องการให้เราเป็นคนดี แน่ ไม่ได้ต้องการให้เราเป็นคนเลวนะ ใครคิดว่าตายายต้องการให้เราเป็นคนเลว ไม่มี ใครคิดว่าตายายต้องการให้เราขี้คร้านเรียนหนังสือ ใครคิดว่าตายายของเราต้องการให้เราโตแล้วเป็นโจรเป็นขโมย หา, ใครคิดว่าตายายต้องการให้เราโตแล้ว แล้วเป็นคนเป็นโจรเป็นขโมย เอ้า, ร้องเพลงน้ำนมของแม่ เอานะ เอ้า, ลักขึ้นสิ ดังๆ สิ ดังๆ สิ เอ้า, ว่าพร้อมๆกันแหละ (นาทีที่ 24.05-25.44) ไม่ได้ถอดเสียงร้องเพลงค่าน้ำนม อือ, บวชพากเพียรเล่าเรียนจนสิ้น หยดหนึ่งน้ำนมกินทดแทนไม่สิ้นพระคุณแม่เอย มันก็บวช บวชน่ะ ก็ยังทดแทนค่าน้ำนมไม่สิ้น คนที่บวชแล้วนี่ทดแทนค่าน้ำนมไม่สิ้น เธอจำไว้นะ ใครร้องไม่ได้ยกมือๆ ร้องเพลงนี้ ร้องเพลงเมื่อกี้ ใครร้องไม่ได้ ใครไม่ได้ร้อง ใครนั่งหุบปากยกมือ ยกมือ อย่าล้อกันนะ หา, เราเห็นหุบปากอยู่หลายคน นี่ไม่ได้ร้องนี่ เอ้า, ไวทีกันนะ ปรับ ว่าดัง ๆ เลย ว่าดังๆ เลย ว่าเสียง ๆ เลย เอ้า, ขึ้น (นาทีที่ 26.34-28.13) เสียงร้องเพลงค่าน้ำนม เอ้า, สองคนนี้ยังเล็กนักว่าไม่ได้ ยังเล็กนัก ใหญ่ขึ้นว่าได้ เอ้า, ใครยังว่าไม่ได้ รีบไปหัดร้องให้ได้ นี่ว่าตามเพื่อน พลอยว่าตามๆ ให้ว่าลำพังเองก็ว่าไม่ได้ เอาแหละ พอแหละ ทำความเข้าใจว่าวันนี้ทำบุญให้ตายาย คือบิดามารดาของบิดามารดา ของบิดามารดา ของบิดามารดา ว่าเราไม่ได้เกิดมาจากโพรงไม้ เราเกิดมาจากบิดามารดา ซึ่งเกิดมาต่อๆกัน เพราะฉะนั้นเราจึงรู้จักบุญคุณ วันนี้เป็นวันที่มาขอบพระคุณ ขอบพระเดชพระคุณ ของบิดามารดา ของปู่ ของตา ของย่า ของยาย ของตาทวด ปู่ทวด ตาทวด ยายทวด วันนี้เป็นขอบพระคุณ ตายาย ฟังให้ดีเถอะ ฟังให้ดีวันนี้เป็นวันขอบพระคุณตายาย เราเป็นหนี้บุญคุณของตายาย เรามารู้บุญคุณของตายาย เราตั้งใจจะสนองพระคุณของตายาย ด้วยการจะทำให้ดีทุกๆคน เอ้า, สัญญาว่าพร้อมๆกัน “หนูตั้งใจทำดีที่สุดบูชาคุณของปู่ย่าตายายโดยแท้จริง สัญญา” เอ้า, ปิดประชุม กราบซะๆ เอาคุกเข่าให้ดีๆ กราบพร้อมๆ อย่าทำ คนที่ยืนให้คุกเข่าดีๆ คุกเข่าดีๆ คุกเข่าดีๆ เอาใหม่ๆ ๆ คุกเข่าดีๆ คุกเข่าดีๆ เออ, คุกเข่าดีๆ กราบๆๆ กราบเสีย เขาต้องเดิน เดินให้ถูกวิธีๆ ต้องเดินเอามือขวาไว้ข้าง เดี๋ยวหยุดๆๆๆ ฟังก่อนอย่าเพิ่ง อย่าเพิ่งลุกขึ้น ฟังนะ ท่าเดินให้ถูกวิธีคนแก่ๆ ก็ฟังกันแหละ มันต้องเดินให้เป็นระเบียบ ที่ว่าเอามือขวานะไว้ข้างสิ่งที่เราเคารพ จะเป็นอะไรก็ตาม ไอ้สิ่งที่เราเคารพนี่ เราจะเดินออกไปก็ต้องให้มือขวาอยู่ฝ่ายนั้นแล้วเดินออกไป เพื่อให้ถูกต้องตามระเบียบตามวิธี นี่ทุกคนจะต้องเดินไปทางนี้ทั้งหมด อย่าไปเดินทางโน้นบ้างทางนี้บ้าง อย่าลุกขึ้นถึงปัดซ้ายใส่ ให้ว่าผู้ที่อยู่ที่เราจะแสดงความเคารพอยู่ฝ่ายไหนก็ต้องมือขวาไว้ฝ่ายนั้น ถึงเดินไปให้เป็นระเบียบเรียบร้อย พอพ้นไปสมควรแล้วจึงค่อยกระจัดกระจายให้ไปตามต้องการ เวลานี้ทุกคนต้องเดินเอามือขวาไว้ทางตาหลวงทุกคน แล้วไปทางฝ่ายนั้น แล้วลงไปโน่น เอ้า, ยืนเสีย เดินไปทางฝ่ายโน้น เอามือขวาฝ่ายนี้ ไปเดินไปทางโน้น ไปให้สุดเสียก่อนให้ลงไปข้างล่างเสียก่อน ยกๆ น้องไปกันเสีย ไปข้างหลังก่อนๆ แล้วค่อยแยกย้ายกันไป ไปข้างหลังเสียก่อนๆ
เอาแหละ สำหรับ สำหรับผู้เฒ่าผู้แก่นี่ก็มีเรื่องพูดแล้ว เป็นห่วงแต่เรื่องเด็กๆ เด็กๆ บาปคืออะไร มันยังไม่รู้ คุณไม่ได้สอนน่ะ ถามว่าบาปคืออะไร ตอบไม่ได้สักคนหนึ่ง เพราะว่าคุณยังไม่ได้สอน ฉะนั้นช่วยกัน ช่วยกันอีก ช่วยกันอีก ช่วยกันต่อๆไปอีก ให้เด็กๆ รู้ อย่างน้อยเรื่องบุญคุณของบรรพบุรุษ
ทำบุญตายายนี่ก็เหมือนกับเช็งเม้งของจีนแหละ จีนวันเช็งเม้งเขาเรียกว่าทั้ง ทั้งหมด วันเช็งเม้งต้องพาลูกหลานไปที่ฮวงซุ้ย ไปแสดงความขอบคุณ ไปเคารพบูชา ไปทำพิธีที่เป็นบุญเป็นกุศลแก่ฮวงซุ้ย เขาเรียกวันเช็งเม้งทำกันหมดทั่วโลกของเมืองจีน ทั่วโลกของคนจีน ไอ้เราทำบุญตายายก็แบบเดียวกันแหละ มีความหมายแบบเดียวกันแหละ คือเป็นวันที่รู้บุญคุณ ขอบพระคุณ และทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ตายาย บรรพบุรุษ ถ้าว่ายังทำกันอยู่อย่างนี้ ก็ยังดีแหละ คือคนก็ยังกตัญญู ยังดีอยู่แหละ จงทำ จงช่วยกันทำรักษาไว้อย่าให้ขาดตอน แล้วเตือนลูกเตือนหลานไว้แหละ ว่าวันตายายแหละ ต้องไปแหละ ต้องไปวัดแหละ เตือนลูกเตือนหลานไว้ เดี๋ยวมันจะไม่ไป มันจะไม่มาวัด แล้วมันจะสูญหายไปเสีย ทำบุญตายายมันจะสูญหายไปเสีย แล้วคนก็ไม่มีน้ำใจกตัญญู เพื่อว่าให้คนมีน้ำใจกตัญญู ติดต่อกันไปไม่รู้ขาดตอน เรารักษาการทำบุญตายายไว้ นั้นแหละช่วยกันทำ แล้วช่วยกันเตือน ตักเตือนลูกหลานเด็กๆให้มันกระทำว่าวันนี้มันสำคัญที่สุดก่อนๆ ตั้งแต่โบราณ เขาทำให้เห็นไว้แล้ว เป็นวันทำบุญตายายแล้วทำกันที่สุด ให้ดีที่สุดทุกอย่าง ทุกประการเลย นี่สมัยใหม่มามันก็เริ่มลดลง นั่นแหละคือว่ามันจะเลวลงแหละ ความเอาใจใส่ต่อบรรพบุรุษมันจะลดลงแล้วมันก็จะเลวลงเป็นธรรมดา เพราะฉะนั้นช่วยกันรักษาไว้ทุกอย่าง รักษาขนบธรรมเนียมประเพณี รักษาจิตใจให้ยังคงมี รักษาประเพณี แม้แต่ว่าการทำบุญ จะต้องทำด้วยอะไรบ้าง จะ แม้แต่จะทำขนม ก็ขอให้ทำขนมที่เคยทำกันมาตั้งร้อยๆ ปี ตั้งพันปีแล้วก็ได้ ทำบุญตายายนี่ เคยทำขนมอะไรสำหรับตายาย แล้วก็พยายามทำไปเรื่อย อย่าให้มันสูญไปเสีย ไอ้ขนมที่ว่า แม้จะว่าสมัยนี้ไม่ค่อยจะชอบกินกันแล้ว ก็ ก็เราทำดีกว่า ทำให้ดี มันก็ยังกินได้ ทำให้ดีมันยังกินได้ กินอร่อย อย่าโง่เหมือนลูกหลานสมัยใหม่ มันไปเรียนเมืองนอก มันต้องกินขนมฝรั่ง กระป๋องตั้งร้อยบาทสองร้อยบาท ไอ้ลูกหลานโง่ มันกินไอ้ขนมที่ว่า ทิ้งให้หมากินนี่ ไปก่อนดีกว่า ทำต้ม ทำลา ทำขนมทอด ทำที่ปู่ย่าตายายเคยกิน แล้วพอกินถึงจะได้ระลึกถึงปู่ย่าตายาย ฉันว่าตายายยังชอบกินแบบนั้น อย่าไปซื้อขนมของฝรั่ง กระป๋องละร้อยบาทมาเลี้ยงตายาย มันบ้า อย่าเอามาวันเลี้ยงตายาย ขอให้เอาขนมที่สำหรับตายายที่ตายายเคยกินมาหลายร้อยปีแล้วนั่นแหละ เอามาเถอะ อันนี้จะทำให้จิตใจมั่นคง มั่นคงที่สุดไม่เปลี่ยนแปลง รักษาสภาพทุกอย่างไว้ให้ ให้ตรงตามที่บรรพบุรุษเคยทำมา เรื่องนี้ไม่ต้องเปลี่ยนแปลง ถ้าเปลี่ยนแปลง มันจะหมดไปๆ จนว่า จนไม่รู้ว่าเคยทำกันอย่างไร ไอ้ขนมลา ขนมพอง ไอ้ต้มมัดเชือก ที่เคยทำขอให้ทำไว้ก่อน แล้วทำให้ดี แล้วมันก็ดีแหละ ไอ้ต้มมัดเชือกน่ะ ลูกยาวๆ ต้มมัดเชือกน่ะ บางคนทำหมาไม่กินน่ะ มันทำมาหมาไม่กินน่ะให้หมากินมันไม่กิน แต่บางคนทำดี เค็มพอดี หวานพอดี มันก็ดี หมากินนะ มันต่างกันถึงขนาดนี้ ฉะนั้นขอให้ทำชนิดที่เหมือนกับปู่ย่าตายายเคยทำ นี่ทำต้มหมาไม่กินน่ะ คิดดู มันขี้เกียจ เพราะมันไม่นึกถึงบุญคุณของตายาย มันก็ขี้เกียจทำให้ดี มันลืมใส่เกลือได้นะ มันก็ไม่ใส่มะพร้าวให้มัน แล้วมันก็ลืมใส่เกลือ หมาไม่กิน ฉะนั้นขอให้นึกถึงไอ้บุญคุณสูงสุดของตายาย แล้วทำให้ดีที่สุดตามที่เคยทำเพื่อรักษาไอ้จิตใจอย่างเดิมเอาไว้ ไม่ต้องเห่อตามสมัยใหม่ ไม่ต้องเอาอาหารสมัยใหม่มาเลี้ยงดูตายาย เพราะนั่นมันเห็นแก่ตัว คือมันเห่อ เห่อเกินตายายไปเสียแล้ว ตายายยังชอบของเก่าลูกหลานรักษาประเพณีวัฒนธรรมไว้ได้ตั้งพันๆปี
เอาละมีเรื่องพูด (นาทีที่ 38.3-38.33) ฟังไม่ออก เพราะพูดกันมาเรื่อยๆ ไอ้เรื่องบังสุกุลนี้มันเป็นเรื่องที่เรียกว่าทำกันมานมนานที่สุด รักษาไว้ได้ก็ดี อย่าหัวเราะเยาะ ไอ้คนสมัยใหม่อย่าหัวเราะเยาะว่าคนสมัยเก่ายังงมงาย ที่เขายังรักษาไว้ได้น่ะ มันดี ทำใจยังเหมือนเดิม ไม่ ยังไม่เปลี่ยนแปลง ไอ้ความกตัญญูกตเวทีนี่เป็นธรรมะ เป็นพระธรรม พระธรรมเปลี่ยนแปลงไม่ได้ รู้ไว้ด้วยว่าพระธรรมน่ะ เปลี่ยนแปลงไม่ได้ พอเปลี่ยนแปลงแล้วก็ไม่ใช่พระธรรมขึ้นมาแล้ว เพราะฉะนั้นอย่าเปลี่ยนแปลง ความกตัญญูนี่อันเดิม เมื่อหลายๆพันปีไม่ต้องเปลี่ยนแปลง ความกตัญญูมันมีอย่างนั้น เท่านั้นแหละ แบบอื่นไม่มี กี่พันปีมันก็ยังเป็นอย่างนั้นแหละมันไม่ต้องเปลี่ยนแปลง ธรรมะไม่เปลี่ยนแปลง ธรรมะไม่เก่าชรา เรามีจิตใจอย่างเดิมได้ ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องกลัวจะว่าไม่ทันสมัย ทันสมัยของคนบ้านั้นไม่ต้องทัน ไม่ต้องทัน อย่าไปเอากับมัน เอา เอา เอาสมัยตามเดิมนั่นแหละมันถูกต้องดีแล้ว รักบิดามารดา ปู่ย่าตายาย ให้เหมือนกับบรรพบุรุษเคยรัก ทำบุญให้เหมือนกับบรรพบุรุษเคยทำ นี่จะรักษาความเป็นไทยไว้ได้มั่นคง แน่นแฟ้นตลอดกาลนาน รวมความว่าวันตายาย ก็คือ ย้ำ ย้อนระลึกไปถึงความที่เคยกระทำต่อตายาย ขอบพระคุณตายาย บูชาคุณตายาย ตั้งจิตอธิษฐาน จะสืบลูกหลานที่ดีของตายายว่าอย่าให้ขาดสูญไปจากโลก ให้โลกยังมีคนดีๆ เอาละ ถึงเวลาแล้ว เก้าครึ่ง รอเวลาก็จะเริ่ม เอาเลย เริ่มพิธีเลย ใครเป็นประธานนะ ใครเป็นประธานคนนั้นจุดเทียนเสีย