แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
เอาแหละ ไม่มีอะไร มาจะให้พร อนุโมทนายินดี ในการที่เธอมาจนถึงนี่ มาเยี่ยมวัดเรา ขอเป็นธรรมเนียมที่ว่าให้โอวาท ในเมื่อให้พร ให้โอวาท เท่านั้น ไม่มีอะไรมากไปกว่าเรื่องที่บอก ไอ้เรื่องที่ควรจะทราบ เด็ก ๆ ควรจะทราบเรื่องอะไร เราเห็นว่าเด็ก ๆ ควรจะทราบเรื่องสำคัญที่สุด นั่นคือเรื่อง เกิดมาทำไม
ที่นั่งอยู่ที่นี่ใครรู้แล้วว่าเกิดมาทำไม ใครรู้ลองยกมือซิ ใครรู้ว่าเกิดมาทำไม ลองยกมือซิ อ้าว ไม่มี คนเดียวไม่มี ไม่รู้เกิดมาทำไม เอ้อ เกิดมาทำไม (เกิดมาเพื่อบำเพ็ญประโยชน์แก่ผู้อื่นครับ) อือ ใครอีก ใครอีก เกิดมาทำไม เอ้าคนนี้ว่าเกิดมาเพื่อบำเพ็ญประโยชน์ผู้อื่น แล้วตัวเองเอาไว้ที่ไหน ตัวเองก็ต้องบำเพ็ญเหมือนกัน ต้องว่าบำเพ็ญประโยชน์ตนและบำเพ็ญประโยชน์ผู้อื่น เอ้า ใครตอบได้บ้าง ใครตอบได้อีก ยกมือซิ ใครตอบได้อีก ถ้านอกไปจากนี้นะ เอ้าตอบดูซิตัวเล็ก ๆ ก็ได้ เกิดมาทำไม หือ
เราว่า กำปั้นทุบดินเลย คือว่าเกิดมาเพื่อได้สิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษย์จะได้ จำไว้ทีหนึ่งก่อน ว่าเกิดมาเพื่อได้สิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษย์ควรจะได้ เอาแหละ พูดถึงตรงนี้ก่อน ว่าเราเป็นมนุษย์หรือเปล่า ที่นั่งอยู่นี้ใครไม่ใช่มนุษย์ ถ้าเป็นมนุษย์ก็ต้องยอมรับรองว่าเป็นมนุษย์ เมื่อเป็นมนุษย์ต้องได้สิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษย์ควรจะได้นะ ถ้าเป็นแมวก็ต้องได้สิ่งที่ดีที่สุดที่แมวควรจะได้ เดี๋ยวนี้เราเป็นมนุษย์ไม่ใช่เป็นแมว มนุษย์แปลว่า คนที่มีความเป็นมนุษย์ มีจิตใจสูงเหมือนมนุษย์ เป็นเหล่ากอของคนที่มีจิตใจสูง เขาจึงเรียกว่ามนุษย์
ทีนี้คนที่มีจิตใจสูงนี้ควรจะได้อะไรนี่ ที่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดของมนุษย์ ก็เหมือนที่ว่าเมื่อกี้แหละ อย่างน้อยก็ได้ประโยชน์กับตัวควรจะได้ เพื่อนควรจะได้ แต่เราจะสรุปว่า ให้ได้สิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษย์ควรจะได้นี้เพราะการทำหน้าที่ ฉะนั้นเราต้องเกิดมาเพื่อทำหน้าที่ เมื่อมนุษย์เกิดมาเพื่อจะได้สิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษย์ควรจะได้ แล้วมนุษย์ต้องทำหน้าที่ของมนุษย์ มนุษย์ต้องทำหน้าที่ของมนุษย์นี่จำไว้ก่อน
ทีนี้อะไรคือหน้าที่ ภาษาไทยเรียกหน้าที่ ภาษาบาลีเรียกธรรม ธรรมะ ธรรมะหรือพระธรรมนะ คำว่าธรรมะหรือพระธรรมนั่นแหละตามธรรมดาแปลว่าหน้าที่ โดยเฉพาะเขาแปลว่าคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า หรือว่าความดี ความจริง ความถูกต้องอะไรก็ แปลได้มาก แต่ว่าคำแปลโดยตรงที่เป็นธรรมดา ๆ ใช้ได้ทั้งทางศาสนาและทางโลกทางอะไรหมดเขาแปลว่าหน้าที่ เราต้องทำหน้าที่ของมนุษย์จึงจะเป็นมนุษย์ หน้าที่ก็คือธรรม ฉะนั้นทำหน้าที่ก็คือประพฤติธรรม ถ้าเราประพฤติธรรมคือเราทำหน้าที่ แล้วก็หน้าที่ของมนุษย์
ทีนี้เราจะประพฤติธรรมได้อย่างไรบ้าง เราอยากจะระบุว่า หนึ่งเป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา สองเป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์ สามเป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อน แล้วสี่เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติ แล้วห้าเป็นพุทธมามกะที่ดีของพระพุทธเจ้า เราว่าเอาเพียงห้าข้อนี้ก็พอ ที่จริงอาจจะพูดได้มากกว่าห้า แต่ก็ไม่จำเป็น ให้มันมากเยิ่นเย้อ เอาเพียงห้าข้อ
คอยฟังอีกทีนะ หนึ่งเป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา สองเป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์ สามเป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อน สี่เป็นพลเมืองดีของประเทศชาติ ห้าเป็นพุทธมามกะที่ดีของพระพุทธเจ้า ใครจำได้ ห้าข้อใครจำได้ยกมือ นี่ว่าซิห้าข้อ (หนึ่งเป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา สองเป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์ สามเป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อน สี่เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศ ห้าเป็นพุทธมามกะที่ดีของพระพุทธเจ้า) ใครอีก ใครจำได้อีก ยกมือซิ เอ้า (หนึ่งเป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา สองเป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์ สามเป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อน สี่เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศ ห้าเป็นพุทธมามกะที่ดีขององค์พระพุทธเจ้า) ดี มีคนจำได้อย่างน้อยสองคน ไม่เหนื่อยเปล่า
นี่เราคิดดูเถอะ เป็นศิษย์ที่ดี เอ้ย เป็นบุตรที่ดีของบิดามารดาข้อที่หนึ่ง เพราะทุกคนมีบิดามารดา เพราะว่าเราเกิดมาจากบิดามารดา หรือตรงนี้ใครไม่ได้เกิดจากบิดามารดาบ้าง หือ ใคร ถ้ามียกมือซิ ใครไม่ได้เกิดจากบิดามารดา นี้ไม่เถียง นี้ต้องไม่ ไม่มีปัญหา ว่าเราเกิดจากบิดามารดา เราต้องเป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา ทีนี้การเป็นบุตรที่ดีของบิดามารดาน่ะ คือทำอย่างไร คือเป็นอย่างไร อ่า เราถามก่อน ใครตอบได้ เป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา คือเป็นอย่างไร
เอ้า ใครตอบได้ยกมือ สูง ๆ เอ้า ใครเป็นบุตรที่เลวของบิดามารดา ยกมือ เอ้า ก็ไม่มี ใครเป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา ยกมือ เอ้า ทีนี้มี อ่า ยกให้สูง ๆ นับดูซิ เอ้า ตามเพื่อน เขายกคนสองคน นี้ตามเพื่อนยกหมด เอาแหละต้องตอบได้คนหนึ่งอย่างน้อย เป็นอย่างไร (ต้องเชื่อฟังบิดามารดา) นี่ตอบแบบนี้แหละถูกที่สุด เชื่อฟังบิดามารดาอย่างเดียวพอ เพราะบิดามารดาย่อมรักลูก แล้วคงสั่งแต่ในทางที่ให้ดี ฉะนั้นเราก็ทำตามคำสั่งบิดามารดา เป็นดีได้แน่
แต่ว่าถ้าตอบให้ชัดเจนนะ หมายความว่า ช่วยบิดามารดาให้ได้ความสบายใจ เพราะมี เพราะมีเราแหละ อย่าทำความร้อนใจให้บิดามารดา บุตรที่ดีนะ เราบัญญัติไว้ว่าไม่ ไม่ทำความร้อนใจให้บิดามารดา เมื่อเชื่อฟังบิดามารดาแล้วแน่นอนจะมี ไม่มีเรื่องอะไรที่ทำความร้อนใจให้บิดามารดา เขาพูดเป็นคำเปรียบอุปมาว่าเหมือนกับยกบิดามารดาจากนรก นรกแปลว่าความร้อนใจ เราไม่ให้บิดามารดาร้อนใจ เรายกบิดามารดาขึ้นจากนรก บุตรคนใดทำให้บิดามารดาร้อนใจ บุตรคนนั้นชื่อว่าจับบิดามารดาใส่ลงไปในนรก เป็นบุตรที่เลว บุตรคนใดทำบิดามารดาให้ร้อนใจ ฉะนั้นบุตรคนนั้นจับบิดามารดาใส่ลงไปในนรก ชื่อว่าเป็นบุตรที่เลว
เราจะถามดูว่าใครเป็นบุตรที่ทำบิดามารดาให้ร้อนใจบ้าง ที่นั่งอยู่ตรงนี้นะ เด็กคนไหนทำบิดามารดาให้ร้อนใจบ้าง นี่ ไม่กล้า เวลาเราดื้อ พ่อแม่ร้อนใจ เวลาเราใช้เงินเปลือง พ่อแม่ร้อนใจ เวลาเราขี้เกียจขี้คร้านในการงานการเล่าเรียน พ่อแม่ร้อนใจ บางคนเต็มทีมาก ทำตัวเป็นเจ้าชู้ตั้งแต่เด็ก นี่บิดามารดามันก็ร้อนใจยิ่งกว่าไฟเผาเสียอีก นี่เขาเรียกว่าคนทำความร้อนใจให้บิดามารดา จับบิดามารดาใส่ลงในนรก นี่ไม่ใช่บุตรที่ดี มันต้องละเสีย ต้องเชื่อฟังแล้วก็ทำตามบิดามารดาต้องการ นั้นแหละก็ตรงกันข้ามแหละ อย่าขี้เกียจขี้คร้านในการเล่าเรียนการงาน อย่าใช้เงินเปลือง อย่าดื้อ อย่าเหลวไหล อย่าทำอะไรที่บิดามารดาร้อนใจ พูดเท่านี้ก็ฟังถูก
ทีนี้ว่าเป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์ก็คล้าย ๆ กัน ต้องเชื่อฟัง คำว่าศิษย์แปลว่าผู้เชื่อฟัง ผู้ศึกษาคือผู้เชื่อฟัง ต้องเชื่อฟัง ฉะนั้นไม่เชื่อฟังก็ไม่เป็นศิษย์ ถึงจะปฏิญญาณว่าเป็นศิษย์ จะจดทะเบียนว่าเป็นศิษย์ มันก็ไม่เป็นศิษย์ เพราะไม่เชื่อฟัง ฉะนั้นเด็ก ๆ ปฏิบัติต่อครูเหมือนกับปฏิบัติต่อบิดามารดา คือเชื่อฟัง แล้วปัญหาก็จะหมด นี่ไม่เชื่อฟังแม้แต่เรื่องเล็ก ๆ น้อยๆ ครูว่าหยุด วางปากกา ฟัง นี่ไม่ฟัง ยังเขียนอยู่เรื่อย อะไรแบบนี้เป็นต้น นี่ไม่ใช่ศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์ เราดีเองไม่ได้ ไม่ว่าใครคนไหนดีเองไม่ได้ ต้องศึกษาเล่าเรียนทั้งนั้น ต้องมีครูบาอาจารย์ทั้งนั้น เพราะดีเองไม่ได้นะเราจึงเป็นหนี้บุญคุณของครูบาอาจารย์เพราะฉะนั้นต้องนับถือต้องกตัญญู ถ้าไม่มีบุคคลพวกครูบาอาจารย์แล้วเราก็โง่เป็นควาย คือทำอะไรไม่ได้ ไม่ว่าใครที่ไหนที่เมืองไหนต่อไหนก็ตามใจแหละ ศึกษาเล่าเรียนดีขึ้นมาได้เพราะครูบาอาจารย์
ทีนี้สาม เป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อน เราทุกคนก็มีเพื่อน เกิดมาในโลกนี้ เพื่อนทั้งโลกเลย เพราะว่าทุกคนมันเกิดมาเหมือนกัน เกิดมาอย่างเดียวกันแหละ มีปัญหาอย่างเดียวกันแหละ คือต้องเล่าต้องเรียน ต้องต่อสู้ ต้องทำหน้าที่ ต้องอะไรเหมือนกันหมดทั้งโลก ฉะนั้นเรา จะต้องเป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อน คืออย่าเบียดเบียนเพื่อนและต้องทำประโยชน์แก่เพื่อน เมื่อเดี๋ยวคนหนึ่งตอบถูกแล้ว เราต้องบำเพ็ญประโยชน์ผู้อื่น เพราะว่าทุกคนเป็นเพื่อน แล้วเราก็ไม่เบียดเบียนเพื่อนอยู่ในตัว ถ้าเราทำประโยชน์ผู้อื่นแล้วก็เราคือไม่เบียดเบียนผู้อื่น ถ้าเราเกิดชกกัน เกิดทะเลาะกันน่ะ หมายความว่าเราลืมไปแล้ว ในเรื่องนี้เราลืมไปแล้ว
นี่ที่นั่งอยู่ตรงนี้ใครไม่เคยชกเพื่อนบ้าง ยกมือทีซิ ใครไม่เคยชกเพื่อนบ้างที่นั่งอยู่ตรงนี้ยกมือซิ อ้าวทำไมไม่มีล่ะ ใครไม่เคยทะเลาะไม่เคยโกรธเพื่อนกันบ้าง คนไหนไม่เคยทะเลาะเพื่อน ไม่เคยโกรธเพื่อนไม่เคยชกเพื่อนไม่เคยว่าเพื่อน นี่เรายังไม่ได้เป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อน เราเอาแต่ใจตัวเองน่ะ ถ้าเราเอาแต่ใจตัวเองแล้วมันก็ไม่ไม่ไม่ใช่เพื่อนที่ดีของเพื่อน พระพุทธเจ้าสอนว่าให้ถือว่าเราทุกคนเป็นเพื่อนเกิดแก่เจ็บตาย มีปัญหาอย่างเดียวกัน คือต้องเกิดแก่เจ็บตายด้วยกัน มีปัญหาอย่างเดียวกัน ฉะนั้นต้องรักใคร่กัน เอาแหละช่วยกันต่อสู้ความทุกข์ เอาแหละ เรื่องเพื่อนมีเท่านี้แหละ เราอย่า อย่า อย่าทำอันตรายเพื่อนนี่ แล้วก็ทำประโยชน์แก่เพื่อน รายละเอียดมีมากมาย ครูสอนได้ทุกวัน ๆ
ทีนี้ข้อ ข้อที่ห้า อ๊ะ ข้อที่สี่ เราต้องเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติ รวมทั้งพระเจ้าแผ่นดินด้วย เพราะประเทศบางประเทศก็มีพระเจ้าแผ่นดินรวมอยู่ด้วย บางประเทศก็ไม่มี แต่ว่าเรารวมอยู่ในคำว่าประเทศชาติแหละ มีพระเจ้าแผ่นดินรวมอยู่ด้วย ถ้ามี เหมือนประเทศเราน่ะมีแหละ ฉะนั้นก็ต้องประเทศชาติต้องรวมพระเจ้าแผ่นดินด้วย เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติ นี่ครูสอนมากมายแล้ว เราสอนก็เดี๋ยวก็เกินไปเปล่า ๆ เธอลองอธิบายให้ฟังซิ เป็นพลเมืองดีของประเทศชาติน่ะเป็นอย่างไร ใครใครอธิบายได้ยกมือ หือ อ้าว ขี้ขลาด ขี้ขลาดกันหมด ใครอธิบายได้ว่าเป็นพลเมืองดีของประเทศชาติเป็นอย่างไร ให้เวลาอธิบายสามนาที เอ้า
(เป็นพลเมืองดีของชาติเป็นได้คือ หนึ่งเป็นหูเป็นตาให้แก่รัฐบาลเพราะว่าในขณะนี้มีคอมมิวนิสต์จะยึดครองประเทศไทย เพราะฉะนั้นเราทุกคนเป็นพลเมืองของคนไทย ทุกคนแล้ว ต้องเป็นหูเป็นตาสอดส่องสอดส่องความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามอยู่เสมอ สองไม่ก่อความวุ่นวายให้เกิดขึ้นภายในประเทศ ได้แก่การสร้างข่าวที่ว่าบิดเบือนความจริงแทบเป็นไปไม่ได้ สามช่วยกันพัฒนาประเทศ ด้วยความร่วมมือร่วมใจกัน ไม่เห็นแก่ตัว ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวเป็นใหญ่ ต้องเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ)
ได้สามข้อ ใครอีก นี่เขาเป็นนักการเมืองเต็มตัวแหละ คงจะพูดกันมากเรื่องนี้ เอ้า ใครอีก ใครอีก ไม่มีใคร ก็แหละ ถูกแหละ แบบนั้นแหละ สิ่งไรที่จะทำให้ประเทศชาติปลอดภัยและเจริญเราก็ทำแหละ ครูคงจะสอนทุก ๆ วัน อ่า ทุก ๆ สัปดาห์ ทุก ๆ เดือนอยู่แล้ว ให้ประเทศปลอดภัย และให้ประเทศเจริญรุ่งเรืองต่อไป กินความกว้าง เราจะได้มั่งคั่งสมบูรณ์ มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีกำลัง มีอะไรทุก ๆ อย่าง
ทีนี้ข้อสุดท้าย ควรจะพูดอย่างยิ่งเพราะเราพูดกันในวัด แล้วอา ครูบาอาจารย์ก็เป็นพระสงฆ์ เราจะเป็นพุทธมามกะที่ดีของพระพุทธเจ้าได้อย่างไร พุทธมามกะน่ะแปลว่าอะไร ใครตอบได้ยกมือเร็ว ๆ พุทธมามกะแปลว่าอะไร อ้า ตอบสิ พุทธมามกะแปลว่าอะไร แปลว่าอะไร (พุทธมามกะแปลว่าผู้ที่นับถือพุทธศาสนาครับ) อือ เราเป็นพุทธมามกะ นี่ถ้าว่าไม่เป็นพุทธมามกะเดี๋ยวโกรธแหละ พุทธะ หมายถึงพระพุทธเจ้า มามกะ แปลว่าปฏิญญาว่าของเรา มามะ น่ะแปลว่าของเรา มามกะแปลว่าผู้ผู้กล้าพูดว่าเป็นของเรา พุทธมามกะ แปลว่าผู้กล้าปฏิญญาว่าพระพุทธเจ้าเป็นของเรา ตามตัวหนังสือ นี่ก็คือนับถือพระพุทธเจ้าแหละ ถูกแล้ว เป็นเฉพาะตามตัวหนังสือ พุทธมามกะ ผู้ยืนยันว่าพระพุทธเจ้าเป็นของเรา
ถ้าเราทำชั่วทำไม่ดีอย่างใดอย่างหนึ่งอยู่ แล้วเรายืนยันว่าพระพุทธเจ้าเป็นของเรานี่ คนนั้นพูดจริงหรือพูดไม่จริง หือ คนหนึ่งปฏิญญายืนยันว่าฉันเป็นพุทธมามกะ แต่ทำความไม่ดีความชั่วความใดอย่างหนึ่งอยู่นี้ เรียกว่าเขาพูดจริงหรือพูดเท็จ ใครตอบได้ยกมือ ไม่กล้า คนที่ทำไม่ดี ก็คือไม่ทำตามความต้องการของพระพุทธเจ้า ฉะนั้นคนนั้นไม่ควรจะพูดว่าพระพุทธเจ้าเป็นของข้าพเจ้า เพราะไม่ทำตามคำของพระพุทธเจ้า ฉะนั้นเวลาทำอะไรไม่ดี เราก็จะไม่เป็นพุทธมามกะนะ แม้ที่สุดที่เราเหลวไหลไม่เป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา ไม่เป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์ นี่ก็มันไม่ ก็หมดเลยไม่เป็นพุทธมามกะ พระพุทธเจ้าต้องการให้ทุกคนเป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา เป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์ เป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อน เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาตินะ พอเราไม่เป็นไอ้สิ่งเหล่านั้น ก็เลยไม่เป็นพุทธมามกะของพระพุทธเจ้าด้วย
เราจะต้องปฏิบัติตนให้สมกับเป็นพุทธมามกะ นับถือพระพุทธเจ้า รวมถึงพระธรรมพระสงฆ์ ไอ้นี้มันแน่นอน เพราะว่าถ้าเรานับถือพระพุทธเจ้า เราก็ต้องทำตามคำของพระพุทธเจ้า ก็เลยนับถือพระธรรมไปด้วย แล้วก็เราก็ชอบผู้ที่ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าด้วย นี่เราต้องเข้าใจคำสอนของพระพุทธเจ้าให้ถูกต้อง แล้วปฏิบัติให้ได้อย่าอย่าเท่าแต่ท่องได้ นี่กลัวว่าเท่าแต่ท่องได้ แล้วไม่ปฏิบัติ คือปฏิบัติไม่ได้
พระพุทธเจ้าสอน หรือว่าต้องการให้เราปฏิบัติอย่างไร นี่ฟังดูให้ดีนะ พระพุทธเจ้าทรงพระประสงค์ ทรงสอน ทรงพระประสงค์ ทรงหวังอะไรก็ตาม ให้เราปฏิบัติอย่างไร ใครตอบได้ ใครตอบได้ตอบดู (พระพุทธเจ้าสอนให้เราปฏิบัติตนเป็นคนดีครับ) เอ้า เหมือนกับไม่ตอบแหละ ตอบแบบนั้น รายละเอียดแหละ เป็นรายละเอียดสักนิด เอ้า ตอบว่า (พระพุทธเจ้าสอนให้เรารู้จักซาบซึ้งในรสพระธรรม) อือ ใครอีก ใครอีก ใครอีก ใครอีกยกมือ (เช่นการสอนไม่ให้เราเบียดเบียนผู้อื่น การสอนให้เรายึดมั่นในศาสนาทำให้จิตใจเราสบาย เป็นต้น)
โดยหัวข้อ ขอให้จำไว้เป็นเป็นหลัก เป็นหัวข้อที่ที่มั่นคง ก็คือว่า อย่าทำความ อย่าทำความชั่ว คือไม่ทำบาป แล้วก็ให้ทำความดี คือบุญ กุศล แล้วทำจิตให้ผ่องแผ้ว ไม่มีกิเลสไม่มีความทุกข์ นี่หัวข้อสามหัวข้อนี้สำคัญ จำไว้พูด จำไว้ปฏิบัติ ให้ได้รับผลของการปฏิบัติ พระพุทธเจ้าสอนไม่ให้ทำสิ่งที่ไม่ควรทำ เรียกว่าความชั่ว ให้ทำแต่สิ่งที่ควรทำ เรียกว่าความดี แล้วหัวใจต้องผ่องแผ้ว ไม่เดือดร้อน คนทำความดีบางทีกำลังเดือดร้อนอยู่ก็มี ยากลำบากด้วยการทำอะไรต่ออะไร เดือดร้อนอยู่ก็มี คนทำความดีอยู่แท้ ๆ เลยนี่ เกิดอะไรสูญหายเป็นตายขึ้นมา นี่ก็เลยร้อง เป็นทุกข์ ร้อง แบบนี้มันก็เรียกว่าหัวใจไม่สะอาด
เราต้องไม่มีจิตใจที่เศร้าหมองหรือเดือดร้อนหรือเป็นทุกข์ บางคนทำความดียังไม่ทันได้สมหวังนี้ก็เป็นทุกข์เสียแล้ว ก็ยิ่งไม่ได้นะ เหมือนการเล่าเรียนนี้มันต้องเรียนด้วยใจคอที่ปกติ ใจคอที่ผ่องแผ้ว อยาก อยากมากเกินไปมันก็เป็นใจคอที่มืดมัวเหมือนกัน ก็ต้องทำใจคอให้อยู่ในระดับที่ผ่องแผ้วอยู่เสมอ ถ้าอยากจะสอบไล่ได้ต้องตั้งใจไว้ให้พอดีนะ ถ้าหย่อนไปขี้เกียจขี้คร้าน มันก็มันตก เขม็ง เขม็ง ขมวดมากเกินไป จนด้วยความที่ขี้ขลาด ความกลัว ความยึดถือมากเกินไป มันก็เรียนไม่ได้หรอก ทำไม่ได้เหมือนกันแหละ ต้องพอดี จะได้ใจคอพอดี ผ่องแผ้วพอดีนี่สำหรับเด็ก ๆ ก็ยังมีสูงไปกว่านั้นอีก คือว่า ไม่มีกิเลส ไม่มีความทุกข์อย่างใดอย่างหนึ่งรบกวนจิตใจ
นี่ถามว่าพระพุทธเจ้าสอนอย่างไร ให้เว้นทำความชั่ว ให้ทำแต่ความดี ให้ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว ให้เว้นความชั่ว คือให้เว้นอะไรบ้าง หือ ให้เว้นความชั่วเขาให้เว้นอะไรบ้างใครตอบได้ยกมือ เอ้า เด็กเล็ก ๆ สมัยนี้มันตอบได้ (“ลูกเคย” แปลว่า “เด็กเล็ก ๆ" นาทีที่ 28.19) แล้วตอบไม่ได้ทันทีแล้วน่าหัวแหละ เรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์มากี่อาทิตย์แล้ว หือ เอ้า เว้นความชั่วคือเว้นอะไรบ้าง (เว้นความชั่ว มีหนึ่งการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต สองการลักทรัพย์ สามการพูดเท็จ สี่การดื่มน้ำเมา ห้าการประพฤติผิดในกาม) อือ ครบแต่ไม่ไม่ถูกตามลำดับ
เอาแหละ ตอบคงจะตอบได้กันทุกคน อย่างน้อยให้นึก ถ้านึกคงนึกได้ ไอ้ห้าข้อนี้แหละสำคัญ ถือเอาแต่ความหมาย ถือเอาความหมายให้ถูกต้อง มันจะกว้างขวางดี ฉะนั้นเธอคอยฟังให้ดีนะ เขาพูดแต่ตัวตัวหนังสือนะ พยัญชนะไม่ค่อยจะสำเร็จประโยชน์ อรรถจึงจะสำเร็จประโยชน์ อรรถคือความหมาย
ข้อที่หนึ่ง ไม่ให้ประทุษร้าย ชีวิตและร่างกายของสัตว์อื่น ๆ ของผู้อื่น ไม่ให้ประทุษร้ายชีวิตและร่างกายของสัตว์อื่น ๆ หมายความว่าทั้งคนและทั้งสัตว์เดรัจฉาน ทั้งอะไรหมดเลย ถือไม่มีข้อแก้ตัวเหมือนกัน ไม่ให้ประทุษร้ายชีวิตและร่างกายของสัตว์อื่น ของผู้อื่น เธอพูดแต่ว่าไม่ฆ่าแบบนี้ ไม่ไม่หมด นี่ไม่ไปไปฆ่าเขาไม่ถึงตายหรือไปทำให้เขาเจ็บอะไรแบบนี้ก็ต้องรวมอยู่ในนี้ด้วย ฉะนั้นเราให้ถือเอาความหมาย เธอจำให้ได้แล้วเธอจะตีความหมายได้เอง ไม่ต้องถามใครมีอะไรบ้าง ไม่ประทุษร้ายชีวิตและร่างกายของสัตว์อื่นผู้อื่น ด้วยวิธีใดก็ตามนะ
ข้อที่สอง อทินนาทาน ไม่ให้ประทุษร้าย ทรัพย์สมบัติของผู้อื่น จะลักโดยวิธีไหน เท่าไหร่ มากน้อยอย่างไร โดยตรงโดยอ้อมอย่างไรแล้วก็ ผิดหมดเลย ผิดศีลข้อนี้หมดเลย อย่าประทุษร้ายทรัพย์สมบัติของผู้อื่น
ทีนี้ข้อที่สาม กาเมสุมิจฉาจารน่ะ อย่าประทุษร้ายของรักของผู้อื่น ข้อนี้เราเห็นยังเข้าใจผิดกันอยู่มาก สอนแต่เรื่องอย่าให้ทำชู้ มันสอนผิด พระพุทธเจ้าไม่ได้ว่าแบบนั้น พระพุทธเจ้าว่ากาเมสุ ในในของรักทั้งหลาย มิจฉาจาร คือประพฤติผิด ห้ามประพฤติผิดในของรักทั้งหลาย ในของรักใคร่ทั้งหลาย ของผู้อื่นนะ ทีนี้เรายังเป็นเด็ก ๆ ยังไม่มีภรรยาสามี ยังมีแต่ดินสอปากกา ตุ๊กตา อะไรแบบนี้ สิ่งใดที่เรารักนั้นน่ะมีความหมายยิ่งกว่าทรัพย์สมบัติ นั่นมีความหมายคนละชนิดกับทรัพย์สมบัตินะ เช่น เรารักตุ๊กตา เด็กเล็ก ๆรักตุ๊กตานี่ ถ้าสมมติว่ามันรักมันน่ะ ก็ต้องถือว่านั่นแหละ ของรักของเขา ไปประทุษร้ายล่วงเกินในตุ๊กตาของของเด็กด้วยกัน ก็ผิดศีลข้อนี้โดยสมบูรณ์
ไม่ใช่ต้องทำชู้ทำอะไร ไอ้ชู้สาวอะไรไม่ใช่ ชู้สาวนั่นเขาให้ผู้ใหญ่ ภรรยาสามี หรือว่า อะไรที่เขาเป็นของรักเหมือนดวงใจนี่แหละ ก็อยู่ในข้อนี้แหละ แต่ถ้าเด็ก ๆ ก็รักตุ๊กตาเหมือนกับดวงใจเหมือนกัน แม้ที่สุดแต่ของใช้ธรรมดาเป็นทรัพย์สมบัติ แต่ถ้าไอ้ของนี้มันรักพิเศษยิ่งกว่าทรัพย์สมบัติก็ต้องถือว่าเป็นของรัก จะเป็นปากกาเขียนหนังสือนี่ แต่ถ้ามันพิเศษหรือมันมีความหมายพิเศษ มันกลายเป็นของรักแหละ มันไม่ใช่ทรัพย์สมบัติ ฉะนั้นเขาเขาจึงแยกออกมาอีกข้อหนึ่ง ห้ามไม่ให้ประพฤติผิด หรือประทุษร้ายในของรัก ฉะนั้นไม่มีทางแก้ตัว เด็กเล็ก ๆ อนุบาลนี้ก็ยังต้องถือศีลข้อนี้ ไม่ใช่ว่าถ้าโตเป็นผู้ใหญ่มีภรรยาสามีจึงจะถือ ไม่ใช่ ฉะนั้นข้อสามไม่ให้ประทุษร้ายของรักของผู้อื่น
ข้อที่สี่ไม่ให้ประทุษร้ายความเป็นธรรม ความถูกต้องของผู้อื่นด้วยวาจา เช่นเราพูดเท็จนี้มันไปกระทบกระเทือนถึงความเป็นธรรม ความถูกต้อง ความชอบธรรมของผู้อื่น และเราประทุษร้ายความถูกต้องของผู้อื่นด้วยวาจา
ทีนี้ข้อที่ห้า สุราเมรัย นี้เราประทุษร้ายสติ สมปฤดี สติปัญญาของเราเอง สมปฤดีน่ะ คือการที่เรารู้สึกตัวดีอยู่แบบนี้ ไม่บ้าไม่สลดไม่เลอะ ๆ เลือน ๆ นี่เขาเรียกสมปฤดี ทีนี้สติปัญญา เราศึกษาเล่าเรียน มีสติปัญญา เนื่องกันอยู่กับปัญญา สติเนื่องกันอยู่กับปัญญานั้นเขาเรียกสติปัญญา ถ้าเรากินของเมาชนิดใดเข้าไปทำให้สมปฤดีเสียไป หรือให้สติปัญญาเสียไป ผิดศีลข้อนี้ เราจึงว่าประทุษร้ายสมปฤดีหรือสติปัญญาของตนเอง
ทีนี้คำว่าสุราเมรัยนี่ก็ต้องหมายถึงของเมา มึนเมาทุกชนิด ที่มันประทุษร้ายต่อสมปฤดีหรือสติปัญญานะ จดชื่อไม่ไหวแหละของเมาน่ะ หลายสิบชื่อหลายร้อยชื่อแหละ ยังมีมากออกไป มากออกไป ที่โลกมันเจริญนี่ แต่ว่าสิ่งใดกินเข้าไปแล้ว หรือว่าเสพคบเข้าไปแล้วมันทำทำอันตราย ประทุษร้ายสติสมปฤดีของเรา สติปัญญาของเรา ก็ผิดศีลข้อนี้หมด
ไปดูหนังเรื่องเลว ๆ ก็อยู่ในศีลข้อนี้ คือไปดูหนังเรื่องเลว ๆ เรื่องกามารมณ์เรื่องอะไรจนติด จนการงานเสีย สติปัญญาเสีย หนังที่เราชอบดูกันโดยมากเรื่องแบบนี้ทั้งเพ เรื่องเลว เรื่องเลว เรื่องยั่วกิเลสทั้งเพ มีความมึนเมา ทำให้สมปฤดีเสีย สติปัญญาเสีย ก็เรียกว่าผิดศีลข้อนี้แหละ แม้ที่สุดแต่ไอ้เรื่องบุหรี่ เรื่องน้ำชากาแฟ ถ้าว่ากินเข้าไปแล้วมันทำให้จิตใจผิดปกติ แล้วก็ต้องอยู่ในศีลข้อนี้เหมือนกัน มันหลายอย่าง ไม่ใช่เฉพาะสุราเมรัยในขวด ไม่ใช่
นี่เราบอกเธอว่าพยัญชนะไม่สำเร็จประโยชน์ อรรถคือความหมาย สำเร็จประโยชน์ ฉะนั้นเธอจงถือเอาทั้งอรรถ อ่า ทั้งพยัญชนะทั้งอรรถ เรื่องศีลห้าข้อนี้ให้มีความหมายเหมือนที่เราว่ากว้าง ๆ นี่ ไม่ประทุษร้ายชีวิตและร่างกายของสัตว์อื่น ไม่ประทุษร้ายทรัพย์สมบัติของผู้อื่น ไม่ประทุษร้ายของรักของผู้อื่น ไม่ประทุษร้ายความเป็นธรรมความชอบธรรมของผู้อื่นด้วยวาจา ไม่ประทุษร้ายสมปฤดีสติปัญญาของตนเอง นี่ห้าข้อ ถ้าถือเอาความหมายแบบนี้แล้ว จะไม่มีข้อแก้ตัว ไม่รอดไปได้ในความชั่วใด ๆ จะอยู่ในนี้หมด
ทีนี้ที่ให้ทำความดี เว้นทำเว้นทำความชั่วแล้ว ให้เว้น อ่า ให้ทำความดี เราวกกลับไปว่า จงเป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา เป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์ เป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อน เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติ เป็นพุทธมามกะที่ดีของพระพุทธเจ้า นั่นแหละคือทำความดี ทีนี้ก็ระวังจิตใจอย่าให้โง่ อย่าให้โลภ อย่าให้โกรธ อย่าให้หลงนี่ ทำใจให้ผ่องแผ้ว รวมสามอย่างเลย สามหมวด สามอย่าง ไม่ทำชั่ว ทำดี ทำใจให้ผ่องแผ้ว นี่คือคำสอนความต้องการอะไรของพระพุทธเจ้า เมื่อเราทำได้เราก็เป็นเป็นพุทธมามกะที่ดีของพระพุทธเจ้า มีสิทธิอันชอบธรรมที่จะพูดออกไปว่า พระพุทธเจ้าเป็นของข้าพเจ้า ถ้าไม่อย่างนั้นพูดแต่ปากและพูดเท็จด้วย ฉะนั้นถ้าเธอเหลวไหลในหน้าที่การงานการเรียนอะไร แล้วเธอมาพูดว่าเป็นพุทธมามกะนี่ จะเป็นพูดเท็จ เป็นผู้พูดเท็จขึ้นมาทันทีเลย
เอาแหละเรื่องมันก็จะพอกันที เวลามันมันมีน้อย รวมความว่าเราเกิดมาเป็นมนุษย์ต้องได้สิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษย์ควรจะได้ จะได้สิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษย์ควรจะได้ต้องทำหน้าที่ คือประพฤติธรรม ประพฤติธรรมคือเป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา เป็นศิษย์ที่ดีครูบาอาจารย์ เป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อน เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติ เป็นพุทธมามกะที่ดีของพระพุทธเจ้า แล้วก็หมดเท่านั้น เราก็เป็นมนุษย์ ได้สิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษย์ควรจะได้ ไปตามลำดับ ตามลำดับ ตามลำดับ จนถึงเขาเรียกว่า บรรลุมรรคผลนิพพานในอนาคต
นี่ขอให้เธอฟังให้ดี แล้วถ้าจำได้ติดติดไปในใจนั่นแหละคือสิ่งที่เราให้พร ให้โอวาทให้พร คือประโยชน์ คืออานิสงส์ในการที่เธอมาที่สวนโมกข์ สวนโมกข์นี่มีความหมายว่า ป่าไม้ ส่งเสริมความหลุดพ้น จากความทุกข์ โมกขะ แปลว่า หลุดพ้น พละ แปลว่ากำลัง อาราม แปลว่า ป่าไม้ ป่าไม้ที่เป็นกำลังของความหลุดพ้นจากความทุกข์ ก็คือว่าประพฤติธรรมนี้เหมือนกัน สิ่งต่าง ๆ ที่จัดทำขึ้นมีไว้แสดงในนี้ ให้ช่วย ช่วย ให้เราเข้าใจ สิ่งที่เรียกว่าพระธรรม หรือว่าช่วยให้ รู้รสในพระธรรม เช่น ความสงบ เป็นต้น
ฉะนั้นเธอจงได้สิ่งเหล่านี้กลับไปตามสมควร ถ้าว่ามาทัศนาจรก็ให้เติมคำว่าธรรมะ เข้าไปข้างหน้า มานี่ มาธรรมะทัศ ธรรมะทัศนาจร คือทัศนาจรตามทางธรรม ได้สิ่งที่เป็นธรรม ได้สิ่งที่เป็นประโยชน์แก่จิตใจ แก่วิญญาน หวังว่าทุกคนนี่คงจะได้รับสิ่งนี้กลับไป มีความผาสุก ทุกทิพาราตรี เพราะเป็นบุตรที่ดีของบิดามารดา เป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์ เป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อน เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติ เป็นพุทธมามกะที่ดีของพระพุทธเจ้า ทุก ๆ คน เทอญ สวัสดีทุกคน