แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
พุทธทาส จักอยู่ไป ไม่มีตาย แม้ร่างกาย จะดับไป ไม่ฟังเสียง
ร่างกายเป็น ร่างกายไป ไม่ลำเอียง นั่นเป็นเพียง สิ่งเปลี่ยนไป ในเวลา
พุทธทาส คงอยู่ไป ไม่มีตาย ถึงดีร้าย ก็จะอยู่ คู่ศาสนา
สมกับมอบ กายใจ รับใช้มา ตามบัญชา องค์พระพุทธ ไม่หยุดเลย
พุทธทาส ยังอยู่ไป ไม่มีตาย อยู่รับใช้ เพื่อนมนุษย์ ไม่หยุดเฉย
ด้วยธรรมโฆษ ตามที่วาง ไว้อย่างเคย โอ้เพื่อนเอ๋ย มองเห็นไหม อะไรตาย ฯ
แม้ฉันตาย กายลับ ไปหมดแล้ว แต่เสียงสั่ง ยังแจ้ว แว่วหูสหาย
ว่าเคยพรอด กันอย่างไร ไม่เสื่อมคลาย ก็เหมือนฉัน ไม่ตาย กายธรรมยัง
ทำกับฉัน อย่างกับฉัน นั้นไม่ตาย ยังอยู่กับ ท่านทั้งหลาย แต่หนหลัง
มีอะไร มาเขี่ยคล้าย ให้กันฟัง เหมือนฉันนั่ง ร่วมด้วย ช่วยชี้แจง
ทำกับฉัน อย่างกับฉัน ไม่ตายเถิด ย่อมจะเกิด ผลสนอง หลายแขนง
ทุกวันนัด สนทนา อย่าเลิกแล้ง ทำให้แจ้ง ที่สุดได้ เลิกตายกัน ฯ
ไม้สามขา อาศัยกัน ขั้นเอกอุตตม์ คือพระพุทธ พระธรรม แลพระสงฆ์
ศาสตรามี สามอัน บั่นบาปลง ดั่งพระสงฆ์ คือศีลสมา -ธิปัญญา
โจรฉกรรจ์ สามก๊ก ฉกปล้นดะ ก๊กโลภะ ก๊กโทสะ และโมหา
ป่ารก สามดง หลงหลับตา ว่าเที่ยงแท้ ว่าสิ้นสุด ว่าไม่มีอะไร
เวียนวง มีสามวน ทนทุเรศ วนกิเลส กรรมวิบาก ยากแก้ไข
ให้ทุกข์ทน ทั้งสามโลก วิโยคใจ กามวิสัย รูปอรูป เฝ้าลูบคลำ
เขาโคกมี สามเนิน มานะรั้น ดีกว่ากัน เลวกว่ากัน เสมอสม่ำ
ทางห้ามเดิน มีสองแพร่ง แหล่งระกำ หย่อนด้วยกาม ตึงด้วยเกียรติ ไม่เฉียดญาณ ฯ
ตัวแมลง ห้าตัว ตอมหัวหู นิวรณ์ห้า กวนอยู่ ไม่สุขศานต์
มารน่ากลัว ห้าตน ตามรังควาน กิเลสขันธ์ มัจจุสังขาร มารเทวดา
บ่วงคล้องคน หกบ่วง ห่วงแห่งกาม ที่สวยงาม ไพเราะรส จดจ่อหา
เหตุทั้งปวง หกตำแหน่ง แห่งหูตา ชิวหา นาสา ผิวกาย และใฝ่ใจ
แหล่งอบาย สี่ขุม หลุมนรก เดรัจฉาน เปรตอสู- ระกายใหญ่
ที่ต้องคุม สามจุด ยุทธ์ให้ได้ กายวจีใจ ทั้งสามครอง ต้องสังวร
ทางแห่งวิมุตติ มีแปดองค์ ต้องเดินให้ ถูกตรง ดั่งตรัสสอน
วัตถุที่ พึงประสงค์ สองขั้นตอน ไม่ย่อหย่อน สำเร็จได้ ดังใจเอย ฯ
ต่อไปนี้จะว่า ก.ข. ศีลธรรม
ก.ไก่ ชอบข้าวสาร ไม่ชอบพลอย แต่ทีถ้อย อารี มันดีเหลือ
ข.ไข่ กิน ประโยชน์ดี มีเหลือเฟือ ต้องเอื้อเฟื้อ แตกง่าย ให้ระวัง
ฃ.ฃวด ดูสง่า กว่ากระบอก ใช้นอกคอก ตีกัน นั้นผิดหวัง
ค.ควาย คนว่าโง่ โมหะจัง แต่คนมั่ง มีเพราะควาย น่าอายมัน
ฅ.ฅน ถ้าฝึกฝน เสียงจะเพราะ ขัดคอกัน มันไม่เหมาะ ไม่สุขสันต์
ฆ.ระฆัง เสียงกังวาน หวานใจครัน เสียงสวรรค์ เชิญให้คน สนใจธรรม
ง.งู ที่ลนลาน พิษพาลน้อย ที่แช่มช้อย พิษแรงกล้า ดูน่าขำ
จ.จาน มีอาหาร ค่ามันล้ำ ถ้าจานคว่ำ ไม่เห็นมี ดีอะไร
ฉ.ฉิ่ง ที่ดีดี มีเสียงเพราะ ถ้าฉิ่งแตก ตีหรือเคาะ ฟังไม่ไหว
ช.ช้าง มีสติตั้ง ระวังภัย จะเคลื่อนไหว งามสง่า ทุกอาการ
ซ.โซ่ ไม่อาจล่าม ซึ่งน้ำใจ แม้ล่ามได้ กระทั่ง ถึงช้างสาร
ฌ.เฌอ ไม่เลินเล่อ เข้าสู่ฌาน ง่ายต่อการ จะประสบ พบปัญญา
ญ.ผู้หญิง สิ่งสร้างมา เป็นเมีย-แม่ หญิงสาระแน ชอบเป็น อีปลาร้า
ฎ.ชฎา หมายถึงเทริด เตลิดมา จากชฎา คือผมเซิง ยุ่งเหยิงจริง
ฏ.ปฏัก อย่าให้ปัก เอาผู้ใช้ เครื่องฝึกฝน วัวควาย ให้เก่งวิ่ง
ฐ.ฐาน แม้อยู่ต่ำ อย่าติติง สำคัญกว่า ตัวสิ่ง อยู่ข้างบน
ฑ.มณโฑ โสภา ยิ่งพายุ่ง ควรจะมุ่ง งามธรรม ตามเหตุผล
ฒ.ผู้เฒ่า ที่แท้ ต้องตื่นตน เพราะได้ยล โลกมา เวลานาน
ณ.เณร นั้น คือหน่อ สมณะ เริ่มตบะ เพื่อดับทุกข์ ทุกสถาน
ด.เด็ก ตัวยังเล็ก รู้ประมาณ เชื่อพ่อแม่ อาจารย์ ท่านอบรม
ต.เต่า แม้จะเขลา ก็หน่วงหนัก กระดองฝัก ใช้เป็นเกราะ อย่างเหมาะสม
ถ.ถุง ทอง มีค่า กว่าถุงลม น่านิยม อย่างสูง คือถุงธรรม
ท.ทหาร มุ่งกำราบ ปราบข้าศึก ถ้าไม่ฮึก เพื่อเกียรติกาม ก็งามขำ
ธ.ธง นั้น ธงชัย มีไว้นำ ให้เกิด กำลังใจ ได้มากมาย
น.หนู หนูน้อยน้อย คอยเชื่อฟัง ทำแต่ตาม พ่อแม่สั่ง จักสุขหลาย
บ.ใบไม้ ใช้เป็นยา ได้มากมาย ทั้งยาหม้อ ยาผงใช้ ให้จงดี
ป.ปลา มีหูตา ไม่เคยหลับ เป็นคติ ที่ควรรับ มาขับผี
ผ.ผึ้ง นับเป็นหนึ่ง แห่งสามัคคี ความเพียรมี มากกว่าคน ควรสนใจ
ฝ.ฝา หมายความว่า ไว้ป้องกัน สิ่งในนั้น ให้งามงด และสดใส
พ.พาน เพื่อเสริมความ งามวิไล ดำรงกาย วาจาใจ ดั่งใส่พาน
ฟ.ฟัน รักษามัน ให้ถูกต้อง เคี้ยวกัดคล่อง ชัดเสียง สำเนียงขาน
ภ.สำเภา เรา ใช้ข้าม ชลธาร ถึงนิพพาน เพราะถือเอา สำเภาธรรม
ม.ม้า ยิ่งเลี้ยงดี ยิ่งมีพลัง และมีทั้ง ท่าที ที่งามขำ
ย.ยักษ์ ดูจะรัก แต่บาปกรรม ซึ่งจะทำ ให้เป็นยักษ์ ไม่รักดี
ร.เรือ แล่นอยู่เหนือ ผิวน่านน้ำ อย่าให้คว่ำ ก็ถึงท่า สง่าศรี
ล.ลิง มีเหลี่ยมเหล่ หลายวิธี คนเรานี้ อย่าให้ลิง มันหลอกเอา
ว.แหวน สวมนิ้ว ดูงามขำ แหวนพระธรรม สวมใจ หายโง่เขลา
ศ.ศาลา คุ้มฝนฟ้า พาให้เรา มีร่มเงา สุขสบาย ได้ทุกวัน
ษ.ฤาษี แสวงหา สิ่งสูงสุด เพื่อมนุษย์ อยู่เย็น เป็นสุขสันต์
ส.เสือ ที่ดีดี มีคุณธรรม์ คนพากัน ให้เกียรติ ไม่เกลียดชัง
ห.หีบ เหมือนหทัย ใส่ชีวิต ชวนกันคิด ให้วิไล ดั่งใจหวัง
ฬ.จุฬา ยอดสมอง ต้องระวัง อย่าให้พลั้ง พลาดผิด ชีวิตวาย
อ.อ่าง วางไว้ ใส่ก้อนทอง รีบสนอง ใส่ให้ได้ ดั่งใจหมาย
ฮ.นกฮูก ตาดี มีประกาย มองเห็นได้ แม้ค่ำมืด ยืดยาวไกล ฯ
ก.ข.ปรมัตถธรรม
อันพระธรรม นำมาปรับ เป็นก.ข. เป็นหัวข้อ แสดงธรรม นำศึกษา ว่า
ก.ไก่ ขันก้อง ร้องบอกมา ใครอย่ากล้า ยึดอะไร ไว้เป็นตน
ข.ไข่ ข้อง เวียนวัฏฏ์ อยู่อัตตา โมหะหนา ออกไม่ได้ ให้ขัดสน
ฃ.ฃวด ใส่สุรา กายาคน ใส่ของเมา เมาล้น กว่านั้นไป
ค.ควาย หมายถึง อวิชชา ขี่หรือฆ่า มันทั้งผอง จักผ่องใส
ฅ.ฅน อย่าสัปดน ยื่นเข้าใน ห่วงโซ่ใหญ่ สายกรรม ช้ำมิวาย
ฆ.ระฆัง วังเวงเสียง สำแดง สัจจะ เป็นปรมัตถ์ แล้ววิมุตติ เป็นจุดหมาย
ง.งู งูอุปาทาน พาลพันกาย ดั่งผีพราย ยึดจับ ไว้กับทุกข์
จ.จาน เปรียบเหมือนกาย ใส่ธาตุขันธ์ ต้องคว่ำมัน ให้ว่างหาย กลายเป็นสุข
ฉ.ฉิ่ง ทิ้งจังหวะ อยู่กรุ๊กกรุ๊ก บอกว่าทุกข์ ทุกที ที่เกิดมา
ช.ช้าง ร้องอย่าง โกญจนาท มันไม่พลาด พลัดตก จากหน้าผา
ซ.โซ่ สายสงสาร ช่างมารยา ผูกแน่นหนา ไม่แสดง แห่งเงื่อนปม
ฌ.เฌอ ไม่พลั้งเผลอ เข้าสู่ฌาน แล้วเกิดญาณ เพราะปัญญา มาผสม
ญ.ผู้หญิง รู้จริง ไม่โง่งม เป็นบัณฑิต มีถม เทียมผู้ชาย
ฎ.ชฎา เลือนมา จากผมเซิง แสนยุ่งเหยิง คือกิเลส ฤทธิ์เดชร้าย
ฏ.ปฏัก ปักหรือตี ที่วัวควาย เหมือนขับไล่ อวิชชา หนีหน้าไป
ฐ.ฐาน ที่คงมั่น นั้นต้องมี ทุกคดี ธรรมหรือโลก ไม่โยกไหว
ฑ.มณโฑ โสภา ท่ากระไร ทั้งกายใจ ต้องโสภา มาด้วยกัน
ฒ.ผู้เฒ่า ที่แท้ รู้จักโลก สุขหรือโศก รู้จักจริง ทุกสิ่งสรรพ์
ณ.เณร คือหน่อ สมณะอัน- จะสร้างสรรค์ ศาสนา สถาพร
ด.เด็ก ใจยังเล็ก ยึดถือน้อย จึงไม่ค่อย ทุกข์ใจ หรือไถ่ถอน
ต.เต่า เอาแต่ จะกินนอน เหมือนคนเขลา เอาแต่ร่อน หาอารมณ์
ถ.ถุง นั้น บรรจุ อนุสัย ถ่ายเทไว้ ทุกครา อย่าหมักหมม
ท.ทหาร ของพระองค์ ต้องระดม พลังถล่ม กิเลสมลาย ร้ายศัตรู
ธ.ธง นั้น ธงชัย อรหันต์ มีธรรมขันธ์ เป็นกองทัพ ขับเคี่ยวสู้
น.หนู นั้น พ้นภัย เพราะได้รู เหมือนเรารู้ ใช้ธรรม กำบังตน
บ.ใบไม้ ใช้บังแดด ได้เย็นฉ่ำ ใบพระธรรม บังกิเลส วิเศษผล
ป.ปลา น้ำถึงตา พาวิกล ไม่เคยยล เห็นน้ำ ดั่งทำเมิน
ผ.ผึ้ง พึงเปรียบ คณะสงฆ์ ดำรงงาน ศาสนา น่าสรรเสริญ
ฝ.ฝา ถ้าปิดดี มีคุณเกิน เหมือนคนเจริญ สติไว้ คุ้มกายใจ
พ.พาน มีไว้ใส่ สิ่งสูงสุด กายมนุษย์ ใส่ธรรมรส อันสดใส
ฟ.ฟัน นั้น เคี้ยวกัด ตัดเยื่อใย ตัดอนุสัย ได้ด้วยฟัน คือปัญญา
ภ.สำเภา ข้ามสมุทร สุดลึกล้ำ สำเภาธรรม ข้ามมหรรณพ์ แห่งตัณหา
ม.ม้า เหมือน กายาดี ขี่ขับมา ตามมรรคา แปดองค์ ตรงนิพพาน
ย.ยักษ์ แปลว่าผู้ เขาบูชา มักกลายมา เป็นยักษ์ ผู้หักหาญ
ร.เรือ เปรียบเหมือนกาย ไว้ใช้งาน ถ้าเรือรั่ว จะป่วยการ งานใช้เรือ
ล.ลิง ที่แท้จริง มันหลอกเจ้า กิเลสเรา ก็หลอกเรา เอามากเหลือ
ว.แหวน ใส่นิ้วงาม ความเหลือเฟือ ถ้าใครเชื่อ ก็ทิ้งไป อย่าใส่เลย
ศ.ศาลา สร้างขึ้นมา บังแดดฝน ศาลาธรรม กำบังคน ทั้งโลกเหวย
ษ.ฤาษี แสวงหา มาอย่างเคย ไม่หยุดเลย วิปัสสนา แก่กล้าจริง
ส.เสือ ซุ่ม ในสมถะ วิปัสสนา จับได้มา ซึ่งมรรคผล พิมลยิ่ง
ห.หีบ ใส่ สุญญตา อย่าชังชิง เพราะเป็นสิ่ง เดียวเลิศ เหลือพรรณนา
ฬ.จุฬา ถือกันว่า สิ่งสูงสุด คือวิมุตติ จุดหมายมาด แห่งศาสนา
อ.อ่าง นั้น เป็นแอ่ง แห่งอาสวา ใช้ปัญญา ทุบทลาย อย่าให้รอ
ฮ.นกฮูก เห็นได้ ในยามค่ำ ผู้มีธรรม เห็นถึงใน หทัยหนอ
หัวข้อธรรม นำมาวาง อย่างเพียงพอ เป็นก.ข. ปรมัตถธรรม นำไปตรอง ฯ
ทำดี ดีแล้ว เป็นพร ไม่ต้องอ้อนวอน ขอพรกับใคร ให้กวน
พรที่ ให้กัน ผันผวน เป็นเหมือนลมหวน อวนไปอวนมา อย่าหลง
พรทำ ดีเอง มั่นคง วันคืนยืนยงซื่อตรง ต่อผู้ รู้ธรรม
อยากรวย ด้วยพร เพียรบำ- เพ็ญบุญกุศลนำ ให้ถูกให้พอ ต่อตน
ทุกคน เกิดมา เป็นคน ชั่วดีมีจนเป็นผล แห่งกรรม ทำเอง
ถือธรรม เชื่อกรรม ยำเยง บาปชั่ว กลัวเกรง ทำแต่กรรมดี ทวีพร ฯ
กรรมดี ดีกว่า มงคล สืบสร้างกุศล ดีกว่านั่งเคล้า ของขลัง
พระเครื่อง ตะกรุด อุทกัง ปลุกเสกแสนฉมัง คาดมั่งแขวนมั่ง รังรุง
ขี้ขลาด หวาดกลัว หัวยุ่ง กิเลสเต็มพุง มงคลอะไร ได้คุ้ม
อันธพาล ซื้อหา มาคุม เป็นเรื่องอุทลุม นอนตายก่ายเครื่อง รางกอง
ธรรมะ ต่างหาก เป็นของ เป็นเครื่องคุ้มครอง เพราะว่าเป็นพระ องค์จริง
มีธรรม ฤามี ใครยิง ไร้ธรรมผีสิง ไม่ยิงก็ตาย เกินตาย
เหตุนั้น เราท่าน หญิงชาย เร่งขวนเร่งขวาย หาธรรมมาเป็น มงคล
กระทั่ง บรรลุ มรรคผล หมดตัวหมดตน พ้นจากเกิดแก่ เจ็บตาย
บริสุทธิ์ ผุดผ่อง ใจกาย อุปัทวะทั้งหลาย ไม่พ้องไม่พาน สะท้านใด
เหนือโลก เหนือกรรม อำไพ กิเลสาสวะไหน ไม่อาจย่ำยี บีฑา ฯ
เราดี ดีกว่า ดวงดี เพราะดีนั้นมีที่เรา ดีกว่า ที่ดวง
ทำดี นั่นแหละ เราหน่วง เอาดีทั้งปวง มาทำให้ดวง มันดี
ดวงชั่ว ไม่ได้ เลยนี่ ถ้าเราขยันมี ความดีทำไว้ เป็นคุณ
อยู่ดี ตายดี เพราะบุญ ทำไว้เจือจุน ตลอดชีวิต ติดมา
ดวงดี มีอยู่ อัตรา ก็เพราะเหตุว่า เราทำดีเป็น เห็นไหม
เหตุนั้น เราท่าน ใดใคร ทำดีเสมอไป ดวงดีจักมี สมบูรณ์ ฯ
ฉันมีดี เพราะถูกด่า น่าหัวไหม ยิ่งดีใจ เพราะถูกด่า ดูน่าหัว
ใครจะด่า สักเท่าไหร่ ไม่เคยกลัว เรื่องจะชั่ว อย่างเขาด่า นั้นอย่าเกรง
ใครมีดี คนก็คิด ริษยา หาแง่ด่า กันขโมง ล้วนโฉงเฉง
เมื่อยปากเข้า ปากก็มุ๊บ หุบปากเอง ยิ่งครื้นเครง คือฉันท้า ให้ด่าฟรี
ฉันเป็นคน ได้ดี เพราะคำด่า กลายเป็นคน นำมา ซึ่งศักดิ์ศรี
ด่าเท่าไหร่ ก็ไม่เห็น จริงสักที เลยได้ดี เพราะถูกด่า น่าหัวครัน
มารไม่มี บารมี ยิ่งไม่แก่ จะมีแต่ ถอยถด หมดความหมาย
ไม่มีพลัง สร้างวิบาก ให้มากมาย หรือสอบไล่ ให้เรา เข้าใจตัว
มารยิ่งมี บารมี ยิ่งแก่กล้า ยิ่งรุดหน้า สามารถ ในธรรมทั่ว
สร้างวิบาก ได้มากมาย ไม่เนียนัว ให้ดอกบัว เบ่งบาน สะท้านสะเทือน
แล้วประหัตประหาร มารร้าย ให้ตายเตียน ได้แนบเนียน ไม่มี อะไรเหมือน
เมื่อมารมี ก็เหมือนมาร มาตักเตือน ให้พบเงื่อน งำกล้า ฆ่ามารเอง ฯ
ศีลธรรม ความปรกติ ของธรรมชาติ ศีลธรรม ตามอำนาจ คนจัดสรร
ศีลธรรม คือสุขสะดวก บวกเข้ากัน ศีลธรรม คนทุกวัน หันหัวลง
ศีลธรรม นำปุถุชน ดลอริยะ ศีลธรรม รวมฐานะ ที่พึงประสงค์
ศีลธรรม ทุกทุกส่วน ล้วนเส้นตรง ศีลธรรม นำสูงส่ง ตรงต่อญาณ
ศีลธรรม ปริยัติ จัดฐานราก ศีลธรรม มีวิบาก ล้วนสุขศานต์
ศีลธรรม สะอาดสว่างสงบ บรรจบงาน ศีลธรรม ส่วนอวสาน นิพพานแล ฯ
ศีลธรรมเลว คนก็ได้ กลายเป็นผี หาความดี ไม่ประจักษ์ สักเส้นขน
ศีลธรรมดี ผีก็ได้ กลายเป็นคน ที่เลิศล้น ภูมิใจ ไหว้ตัวเอง
ศีลธรรมต่ำ เปลี่ยนคน จนคล้ายสัตว์ จะกินกัด โกงกัน ขะมันขะเหมง
ศีลธรรมสูง คนสดใส ไม่อลเวง ล้วนยำเกรง กันและกัน ฉันท์เพื่อนตาย
ศีลธรรมนี้ ทุกวัน มันตายซาก คนมีปาก ก็ไม่พล่าม ศีลธรรมหาย
ศีลธรรมกลับ มาเมื่อไหร่ ทั้งใจกาย คงจะหาย จากทุกข์ เป็นสุขเอง ฯ
ศีลธรรม ศีลธรรม ศีลธรรม ต้องตกต่ำ ลงทุกวัน ถ้าฝันหา
คงไม่พอ ขอมาทำ น้ำหยอดตา เพราะบูชา กันแต่เงิน เกินพอแรง
ศีลธรรม ศีลธรรม ศีลธรรม ต้องตกต่ำ ไปเสียทั่ว ทุกหัวระแหง
เขารังเกลียด เดียดชัง ดังผีกระแชง อยากให้มัน แห้งแล้ง จากโลกนี้
ศีลธรรม ศีลธรรม ศีลธรรม ถูกเหยียบย่ำ โดยฝูงคน จนป่นปี้
โลกของคน ย่นถ่อยยับ เกินอัปรีย์ ที่คงที่ คือโลกสัตว์ ดูอัศจรรย์
โลกทุกวัน อยู่ในขั้น กลียุค ที่เบิกบุก เร็วรุด สู่จุดสลาย
จนสิ้นสุด มนุษย์ธรรม ด่ำอบาย เพราะเห็นกง จักรร้าย เป็นดอกบัว
กิเลสไส หัวส่งลง ปลักกิเลส มีความแกว่น แสนพิเศษ มาสุมหัว
สามารถดูด ดึงกันไป ใจมืดมัว เห็นตนตัว ที่จมกาม ว่าความเจริญ
มองไม่เห็น ศีลธรรม ว่าจำเป็น สำหรับอยู่ สุขเย็น ควรสรรเสริญ
เกียรติกามกิน บิ่นบ้า ยิ่งกว่าเกิน แล้วหลงเพลิน ความบ้า ว่าศีลธรรม ฯ
กลับมาเถิด ศีลธรรม กลับมาเถิด กำลังเกิด ภัยร้าย อันใหญ่หลวง
แก่สัตว์โลก ทั่วถิ่นจักร- วาลปวง น่าเป็นห่วง ความวินาศ ฉกาจเกิน
กลับมาเถิด ศีลธรรม กลับมาเถิด ในโลกเกิด กลียุค อย่างฉุกเฉิน
หลงวัตถุ บ้าคลั่ง เกินบังเอิญ มัวเพลิดเพลิน สิ่งกาลี มีกำลัง
กลับมาเถิด ศีลธรรม กลับมาเถิด ความเลวร้าย ลามเตลิด จวนหมดหวัง
รีบกลับมา ทันเวลา พาพลัง มายับยั้ง โลกไว้ ให้ทันการณ์ ฯ
ถ้าศีลธรรม ไม่กลับมา โลกาวินาศ มนุษย์ชาติ จะเลวร้าย กว่าเดรัจฉาน
มัวหลงเรื่อง กินกามเกียรติ เกลียดนิพพาน ล้วนดื้อด้าน ไม่เหนี่ยวรั้ง บังคับใจ
อาชญากรรม เกิดกระหน่ำ ลงในโลก มีเลือดโชก แดงฉาน แล้วซ่านไหล
เพราะบ้ากิน บ้ากาม ทรามเกินไป บ้าเกียรติก็ พอไม่ได้ ให้เมาตน
อยากครองเมือง ครองโลก โยกกันใหญ่ ไม่มีใคร เมตตาใคร ให้สับสน
ขอศีลธรรม ได้กลับมา พาหมู่คน ให้ผ่านพ้น วิกฤตการณ์ ทันเวลา ฯ
ต่อนี้ไปจะว่าด้วยเรื่องการงานกันบ้าง
อันการงาน นั้นประเสริฐ ตรงที่สนุก ยิ่งทำงาน ยิ่งเป็นสุข ทุกสถาน
ทำชีวิต ให้สดใส ใจเบิกบาน ในการงาน ประจำวัน นั่นเองนา
เมื่ออย่างนี้ มีแต่คน วิมลจิต เย็นสนิท ดวงใจ ไร้โทสา
เกิดสังคม ที่อุดม ด้วยเมตตา อยากเรียกว่า ธัมมิกสังคมนิยม
ผลของงาน ล้นเหลือ เผื่อแผ่ทั่ว สัตว์ทุกตัว ใหญ่น้อย พลอยสุขสม
ทั้งเมืองเล็ก เมืองใหญ่ ได้ชื่นชม โลกระดม สุขวาง ทางนิพพาน ฯ
อันที่จริง การงาน นั้นน่ารัก เมื่อยังไม่ รู้จัก ก็อางขนาง
ไม่รู้จัก ก็ปล่อยปะ แล้วละวาง บ้างร้องคราง เมื่อรอหน้า ว่าเบื่อจริง
แต่ที่แท้ การงาน นั้นน่ารัก สอนให้คน รู้จัก ไปทุกสิ่ง
ถ้ายิ่งทำ ยิ่งฉลาด ไม่พลาดยิง ได้ตรงดิ่ง สิ่งอุกฤษฏ์ คือจิตเจริญ
การงานนี้ ดูให้ดี มันน่ารัก เป็นการชัก ธรรมะมา น่าสรรเสริญ
คือมีสติ ฉันทะ ทมะเกิน ครั้นหยุดเพลิน จิตก็วาง ทางนิพพาน ฯ
อันการงาน คือคุณค่า ของมนุษย์ ของมีเกียรติ สูงสุด อย่าสงสัย
ถ้าสนุก ด้วยการงาน เบิกบานใจ ไม่เทาไหร่ ได้รู้ธรรม ฉ่ำซึ้งจริง
เพราะการงาน เป็นตัวการ ประพฤติธรรม กุศลกรรม กล้ำปนมา มีค่ายิ่ง
ถ้าจะเปรียบ ก็เปรียบคน ฉลาดยิง นัดเดียววิ่ง เก็บนก หลายพกมา
คือการงาน นั้นต้องทำ ด้วยสติ มีสมาธิ ขันตี มีอุตสาห์
มีสัจจะ มีทมะ มีปัญญา มีศรัทธา และกล้าหาญ รักงานจริง ฯ
ต่อไปนี้จะบอกยาแก้สารพัดโรค
ต้นไม่รู้ ไม่ชี้นี่ เอาเปลือก ต้นช่างหัวมัน นั้นเลือก เอาแก่นแข็ง
ต้นอย่างนั้นเอง เอาแต่ราก ฤทธิ์มันแรง ไม่มีกูของกู แสวง เอาแต่ใบ
ต้นไม่เอา ไม่เป็นนั้น เฟ้นเอาดอก ตายก่อนตาย เลือกออก ลูกใหญ่ใหญ่
หกอย่างนี้ อย่างละชั่ง ตั้งเกณฑ์ไว้ ดับไม่เหลือ สิ่งสุดท้าย ใช้เมล็ดมัน
หนักหกชั่ง เท่ากับ ยาทั้งหลาย เคล้ากันไป เสกคาถา ที่อาถรรพ์
สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะอัน- เป็นธรรมะ ชั้นหฤทัย ในพุทธนาม
จัดลงหม้อ ใส่น้ำ พอท่วมยา เคี่ยวไฟกล้า เหลือได้ หนึ่งในสาม
หนึ่งช้อนชา สามเวลา พยายาม กินเพื่อความ หมดสรรพโรค เป็นโลกอุดร ฯ