พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 23 กรกฎาคม 2567
ที่ภาคใต้นั้นมีวัดๆ หนึ่งมีต้นไม้สูงใหญ่ แต่ว่าชอบทิ้งใบและกิ่งหักลงบนหลังคาห้องน้ำที่อยู่ใกล้ๆ เจ้าอาวาสต้องซ่อมอยู่บ่อยๆ ซ่อมห้องน้ำ ตอนหลังก็คิดว่า แก้ปัญหาอย่างนี้ดีกว่าคือ โค่นต้นไม้ต้นนั้นลง จะได้ไม่ต้องซ่อมห้องน้ำบ่อยๆ
เผอิญมีพระหนุ่มในวัดเดียวกัน ท่านก็ท้วงว่าไม่ควรตัดต้นไม้ ต้นไม้สูงใหญ่อย่างนี้หายาก แต่เจ้าอาวาสก็ยังยืนกรานว่าจะตัดต้นไม้ให้ได้ พระหนุ่มทักท้วงหลวงพ่ออยู่หลายครั้ง ก็ไม่ได้ผล
สุดท้ายมีคืนหนึ่ง พระหนุ่มนี้แอบเอาค้อนปอนด์ไปทุบห้องน้ำจนพังหมดเลย ปรากฏว่าพอไม่มีห้องน้ำ ปัญหาเรื่องซ่อมห้องน้ำก็หมดไป ต้นไม้จะทิ้งกิ่งทิ้งใบอย่างไรก็ไม่เป็นปัญหาแล้ว
ก็เป็นอันว่าต้นไม้นี้รอดพ้นจากการถูกโค่น
เจ้าอาวาสเจอแบบนี้ก็ไม่บ่นอะไร แต่ว่าตัวพระหนุ่มนี้หลังจากที่ทุบห้องน้ำจนพังหมด ท่านก็หนี ย้ายวัดเลย เพราะว่ากลัวชาวบ้านจะมาเล่นงานเอา ข้อหาทำลายทรัพย์สินของวัด แต่ชาวบ้านก็ไม่ได้บ่นอะไร หรือไม่ได้รู้สึกไม่พอใจอะไร
พระหนุ่มรูปนี้ท่านบอกว่า ย้ายวัดก็ยังดีกว่าปล่อยให้ต้นไม้ถูกโค่นล้ม ท่านพูดดีท่านบอกว่า การที่ท่านรักษาต้นไม้ให้อยู่รอดได้โดยเฉพาะต้นไม้เก่าแก่นี้ ก็ถือว่าไม่เสียชาติเกิดแล้ว ถ้าหากจะต้องย้ายวัดก็ไม่ใช่เรื่องลำบากอะไร เพราะว่าไม่นานก็คงจะหาวัดใหม่ได้ เข้าใจว่าป่านนี้ท่านก็คงจะกลับไปวัดเก่าแล้วเพราะว่าเจ้าอาวาสก็ไม่ได้บ่นว่าอะไร ชาวบ้านก็ไม่ได้คิดอะไร
แต่เรื่องนี้น่าสนใจ เวลามีปัญหาแบบนี้คือ ห้องน้ำนี้ต้องซ่อมบ่อยๆ เพราะว่าต้นไม้ใหญ่ทิ้งใบ ทิ้งกิ่ง หักลงมาที่หลังคา หลายคนก็นึกถึงว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไร ส่วนใหญ่ก็แก้ปัญหาด้วยการโค่นต้นไม้เลย คือโค่นต้นไม้เพื่อรักษาห้องน้ำเอาไว้
ที่จริงต้นไม้นี้มีค่ากว่าห้องน้ำมากเลย โดยเฉพาะต้นไม้ที่สุดใหญ่ เพราะว่าเป็นประโยชน์ทั้งกับคนและสัตว์จำนวนมาก สัตว์ก็ได้พึ่งพาอาศัย ส่วนคนก็ได้อาศัยร่มเงา และความร่มรื่นนี้ก็ทำให้จิตใจสดชื่น สงบเย็น แถมยังได้รับออกซิเจนจากต้นไม้ เกิดบรรยากาศที่เป็นรมณีย์
รมณีย์นี้เป็นคำสำคัญของพุทธศาสนา วัดในพุทธศาสนาต้องมีความเป็นรมณีย์ หรือเป็นถิ่นรมณีย์ คือสงบร่มรื่นด้วยต้นไม้ก็แปลก หลายคนแก้ปัญหาด้วยการตัดต้นไม้ใหญ่เพื่อรักษาห้องน้ำเอาไว้
แต่พระหนุ่มรูปนี้ก็คิดว่า ต้องรักษาต้นไม้เอาไว้ ส่วนส้วมนี้เอาไว้ทีหลัง เพราะต้นไม้นี้กว่าจะเติบโตสูงใหญ่นี้ ใช้เวลาอาจจะเป็นร้อยปีหรือหลายสิบปี แต่การก่อสร้างห้องน้ำนี้ไม่กี่วันเอง
แต่เดี๋ยวนี้คนเราไปให้ความสำคัญกับพวกอิฐปูนมาก ต้นไม้จำนวนมากก็เลยหลีกทางให้ บางทีอยากจะหาที่จอดรถก็ตัดต้นไม้ แทนที่จะแก้ปัญหาด้วยการรักษาต้นไม้เอาไว้ ส่วนรถนี้ไปจอดที่อื่น หรือบางแห่งนี้ต้องการสร้างถนนปูน สะดวก ก็ตัดต้นไม้ แต่ที่จริงแล้วต้นไม้นี้นับวันจะหายาก รักษาต้นไม้เอาไว้ดีกว่า
ในพุทธศาสนามีพุทธภาษิตอันหนึ่งว่า
พึงสละทรัพย์เพื่อรักษาอวัยวะ
พึงสละอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต
พึงสละชีวิตเพื่อรักษาธรรม
ก็คือต้องรู้จักว่าอะไรเป็นหลัก อะไรเป็นรอง เดี๋ยวนี้ค่านิยมเราตัดต้นไม้เพื่อรักษาส้วม หรือรักษาวัตถุที่ทำด้วยอิฐ ด้วยปูน ด้วยคอนกรีต ที่จริงมันกลับหัวกลับหาง ก็ไม่ต่างจากคนทุกวันนี้ที่ยอมสละชีวิตเพื่อรักษาหรือเพื่อเพิ่มพูนทรัพย์ ด้วยการทำงานหนัก บางทียอมตายได้เพื่อรักษาทรัพย์
ทั้งที่ควรจะตรงข้าม ต้องสละทรัพย์เพื่อรักษาชีวิต แต่เดี๋ยวนี้ทำตรงข้าม ทำงานหนักจนกระทั่งหัวใจวายตาย หรือจนกระทั่งเป็นโรคร้าย เพื่ออะไร เพื่อเงิน บางทีก็ทิ้งลูก ทิ้งครอบครัว ไม่สนใจลูกไม่สนใจครอบครัว ก็เพื่อจะได้มาทุ่มเทกับงานการ ทำเพื่ออะไรก็เพื่อเงิน คิดว่าถ้ามีเงินเยอะๆ ครอบครัวจะได้สบาย
ทีแรกก็อาจจะทำเพื่อครอบครัว ทุ่มเทงานการ ทุ่มเทเวลา ทุ่มเทพลังงานเพื่องานการ จุดหมายคือเพื่อให้ครอบครัวสุขสบาย มีเงินมีทองใช้ในภายภาคหน้า แต่ทำไปทำมากลับทิ้งครอบครัว เอาเงินเป็นเป้าหมายสำคัญ เสร็จแล้วสุขภาพก็ย่ำแย่ ครอบครัวก็ไม่มีความสุข
ไม่ใช่เฉพาะเงินทอง บางทีเพื่อชื่อเสียงเกียรติยศนี้ ก็ยอมทุ่มเทชีวิตเพื่อสิ่งนี้ บางทียอมทำชั่วก็เพื่อสิ่งนี้ อันนี้คือยอมทำชั่วเพื่อเงินเพื่อทองด้วย ตามหลักมันต้องตรงข้าม สละทรัพย์เพื่อรักษาอวัยวะ สละอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต สละชีวิตเพื่อรักษาธรรมะ
เดี๋ยวนี้ตรงข้ามหมดเลย สละธรรมะเพื่อรักษาชีวิต หรือว่าสละธรรมะเพื่อรักษาหรือเพิ่มพูนเงิน ยังไม่ได้สละชีวิตแค่อย่างเดียว สละครอบครัว ลูกเมีย สุขภาพก็เพื่อเงิน.
หรือบางทีถูกโจรมาดักปล้นเอาเงิน หลายคนยอมตายเพราะไม่ยอมให้เงิน ไม่ยอมให้เพชรหรือว่าสร้อยทอง อันนี้ก็เรียกว่ายอมสละชีวิตเพื่อรักษาทรัพย์เอาไว้ เวลาไฟไหม้นี้ตกใจตัวเองรอดตายแล้ว แต่นึกได้ว่าเก็บเงินหรือว่าเก็บพวกเพชรพวกทองไว้ในบ้าน กลัวไฟทำลายยอมเข้าไปในกองไฟ เข้าไปในบ้านที่กำลังถูกไฟลุกไหม้ ยอมตายนะเพื่อเงิน อันนี้เป็นความสับสน ความเข้าใจผิด ไม่เข้าใจว่าอะไรคือหลัก อะไรคือรอง อะไรคือสิ่งสำคัญกว่า
เราต้องมีสติกลับมาใคร่ครวญนะว่าสิ่งที่เราทำนี้ มันกลับหัวกลับหางหรือเปล่า? ทิ้งครอบครัว ไม่สนใจสุขภาพก็เพื่อเงินทอง หรือว่ายอมรักษาส้วมเอาไว้ด้วยการตัดต้นไม้นี้ อันนี้เป็นตรรกะที่คลาดเคลื่อนมาก.