พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้า วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567
ใครที่อยู่แถวกรุงเทพฯ หรือจังหวัดใกล้เคียง คงได้ยินหรือรู้จักวัดเศวตฉัตร เรียกย่อ ๆ ว่า วัดเศวต เป็นวัดที่อยู่ฝั่งธนบุรี มีชื่อเสียงด้านผลิตเครื่องบริขารสำหรับพระกรรมฐาน ในวงการพระโดยเฉพาะพระป่า พระกรรมฐานจะรู้จักวัดเศวต ญาติโยมก็คงจะรู้จักบ้าง
เมื่อสักร้อยปีก่อน วัดเศวตมีเจ้าอาวาสท่านหนึ่งชื่อว่า พระอาจารย์บุญ เป็นพระที่มีความสามารถในด้านการเทศน์ ที่มีชื่อเสียง ได้รับนิมนต์ให้ไปเทศน์ตามที่ต่าง ๆ อยู่เป็นประจำ เพราะความรู้ท่านก็ดี ความประพฤติก็เรียบร้อย และมีความสามารถในการเทศน์การสอน
มีเรื่องเล่าว่า คราวหนึ่งพระอาจารย์บุญได้รับนิมนต์ให้ไปเทศน์แถวปากน้ำ สมัยก่อนจะสัญจรไปไหนต้องใช้เรือ ฉะนั้นพระอาจารย์บุญกับพระรูปหนึ่งจึงว่าจ้างเรือให้พาไปยังที่นิมนต์ ซึ่งต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงทีเดียว
ตอนที่นั่งเรือไป ต้องไปต่อที่วัดด่านสำโรง ไม่ใช่ว่าไปทอดเดียวถึง กว่าจะถึงวัดด่านสำโรงก็ค่ำแล้ว พอถึงวัดด่านสำโรงก็ต้องว่าจ้างชาวบ้านมาพายเรือต่อไปยังปากน้ำ ก็ได้ชาวบ้านคนหนึ่งชื่อว่า นายดำ
ซึ่งจากวัดด่านสำโรง ปากน้ำไปยังวัดที่นิมนต์จะต้องใช้เวลานานถึง 3-4 ชั่วโมง ประกอบกับเป็นเวลาค่ำ พระอาจารย์บุญกับพระอีกรูปก็ถือโอกาสงีบ
หลังจากที่เรือลำนั้นออกจากวัดด่านสำโรงไปได้สักหนึ่งชั่วโมง นายดำก็หันหัวเรือเข้าฝั่ง เข้าไปทำไม ไปเด็ดไปตัดกัญชามาสูบ สูบจนสบายอารมณ์ เคลิ้ม แล้วก็พายเรือต่อ ระหว่างนั้นก็บอกกับพระอาจารย์บุญว่า ใกล้ถึงแล้ว ๆ
จนเวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมง เรือก็เทียบท่า พระอาจารย์บุญตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าท่าที่เทียบก็คือวัดด่านสำโรง จุดเดียวกับที่ออกเรือเมื่อ 2-3 ชั่วโมงที่แล้ว แปลว่าไม่ได้ไปถึงไหนเลยเพราะว่านายดำเมากัญชา หลงทิศหลงทาง
พระอาจารย์บุญโกรธมากเพราะว่าเจ้าภาพที่ปากน้ำกำลังรออยู่ จึงตะคอกใส่นายดำว่า “ก่อนที่มึงจะมาอยู่ที่นี่ มึงมาจากไหน” นายดำก็ตอบว่า “แถวหัวรอ อยุธยาครับ” “งั้น มึงดูหน้าข้าดี ๆซิ ” พระอาจารย์บุญว่า นายดำก็เห็นรอยบากตรงหน้าผากขนาด 3-4 นิ้ว
แล้วพระอาจารย์บุญก็ถามว่า “มึงรู้จักเสือบุญไหม ที่อยุธยา”
“กูนี่แหละเสือบุญ มึงต้องพายเรือให้ไปถึงปากน้ำก่อนสว่าง ไม่อย่างนั้นมึงตาย”
นายดำตกใจมาก ไม่คิดไม่ฝันว่าจะเจออดีตเสือบุญซึ่งเป็นโจรที่มีชื่อมาก ลนลานพายเรืออย่างไม่คิดชีวิต แล้วก็มาถึงวัดที่นิมนต์ก่อนสว่าง
พระอาจารย์บุญเดิมเป็นเสือที่มีชื่ออย่างที่ว่า เสือบุญชอบปล้นจี้แถวอยุธยา แต่มีคืนหนึ่ง ไปปล้นบ้านเขาแล้วปรากฏว่าพลาด เจ้าของบ้านเอาขวานจามหน้าจามหัวเป็นแผลเหวอะหวะใหญ่
เสือบุญสู้ไม่ไหวจึงถอยแล้วกระโจนลงน้ำ เพราะบ้านสมัยก่อนอยู่ติดน้ำ แล้วแผลก็ใหญ่มาก ทำท่าจะไม่รอด ต้องอาศัยกระแสน้ำ โดยตัวเองหลบอยู่ใต้ผักตบชวากอใหญ่ เกาะผักตบเพราะไม่มีเรี่ยวไม่มีแรงแล้ว กระแสน้ำพากอผักตบกับเสือบุญไป
จนไปสว่างที่วัดหนึ่งคือ วัดเศวต ฉะนั้นเสือบุญก็ไม่มีทางเลือก ก็เลยซมซานขึ้นวัด แล้วขอความช่วยเหลือจากเจ้าอาวาส เจ้าอาวาสท่านก็ดีเห็นคนเดือดร้อนมา ท่านก็ช่วยเลย บังเอิญท่านเป็นหมอยาด้วย เสือบุญก็บอกกับเจ้าอาวาสว่า ถ้าหากว่ารักษาเสือบุญได้ รอดตาย ก็จะมาบวชหนึ่งพรรษา
ปรากฏว่ารอดตาย แผลรักษาได้ แม้ว่าแผลจะเหวอะหวะมาก รอดตายแล้ว ก็เลยทำตามสัญญา คือบวช
ทีแรกตั้งใจจะบวชหนึ่งพรรษาตามที่รับปากเอาไว้ แต่เสือบุญนอกจากเป็นคนที่ทำตามคำพูดแล้ว เมื่อบวชแล้วก็ตั้งใจ ไม่ใช่แค่ตั้งใจสวดมนต์จนคล่องเท่านั้น แต่ว่าศึกษาพระธรรมวินัยด้วย แล้วก็เรียนบาลีจนจบประโยค 5 กว่าจะเรียนจบประโยค 5 ก็หลายปี
แต่ว่าที่บวชต่อมาหลายปีเพราะเกิดศรัทธา บวชแล้วเกิดศรัทธาในพระศาสนา เป็นผลจากการที่ตั้งใจศึกษาปฏิบัติ แล้วก็พบทางสว่าง ทางสงบก็เลยบวชเรื่อยมา
แล้วก็ศึกษาบาลีจนกระทั่งจบประโยค 5 ก็ไม่น้อยใช่เพราะว่าสมัยก่อนคนที่จบประโยค 5 มีน้อยมากที่เป็นพระ และเนื่องจากมีความรู้ทั้งปริยัติ ปฏิบัติ เวลาสอนธรรม ชาวบ้านก็เข้าใจ จึงเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้าน ตอนหลังก็ได้เป็นเจ้าอาวาส ท่านก็ครองวัดเศวตถึง 45 ปี มรณภาพปี 2500 ปีเดียวกับที่อาตมาเกิด
เรื่องนี้ก็น่าสนใจ ชี้ให้เห็นว่า คนที่มาบวชพระสมัยก่อนไม่ใช่ว่ามีเฉพาะคนที่สนใจศรัทธาในพระรัตนตรัย ผู้ที่หนีตายก็มี ที่เป็นโจรก็ไม่น้อย ที่มีพฤติกรรมด่างพร้อยก็มีอยู่พอสมควร แต่มาบวชแล้วสุดท้ายก็ได้กลายเป็นพระดีที่ชาวบ้านเคารพนับถือ
นี่ก็เป็นข้อเตือนใจพวกเราที่เป็นฆราวาสหรือคฤหัสถ์ว่า พระที่มาบวชมีหลากหลาย พระที่อาจจะเคยเป็นโจร เป็นผู้ร้าย หรือว่ามาบวชเพราะไม่ได้ศรัทธาในพระรัตนตรัยก็มี แต่ว่าถ้าได้รับการอุดหนุนอุปถัมภ์จากญาติโยม รวมทั้งได้รับการกล่อมเกลาจากวัด ก็มีโอกาสที่จะเป็นพระที่ดีได้
บางทีเวลาเราเห็นพระที่อาจจะประพฤติตัวไม่เรียบร้อย หรือบางรูปก็เคยติดคุกติดตาราง เป็นโจรมาอย่างนี้ หลายคนก็ไม่มีศรัทธา คิดว่าไปอุปถัมภ์บำรุงพระดีดีกว่า หรือว่ายิ่งถ้าเป็นพระอริยะยิ่งดี
ส่วนพระที่เป็นชาวบ้าน ๆ ไม่ค่อยเรียบร้อย มีประวัติด่างพร้อยก็ไม่ศรัทธา อันนี้ก็ไม่ถูกเพราะว่าพระเหล่านั้นแม้ว่าจะมีประวัติด่างพร้อย เป็นโจร ติดยา ติดคุก หรือว่ามาบวชเพราะไม่ได้ศรัทธาในพระรัตนตรัย แต่ว่าถ้าได้รับการอุปถัมภ์บำรุง ดูแลจากญาติโยม ก็สามารถจะเป็นพระดี เป็นกำลังสำคัญของพระศาสนาได้
บางทีพระเหล่านั้นก็อาจจะอยู่ใกล้บ้านเรา ไม่จำเป็นจะต้องมาถึงสุคะโตก็ได้ พระใกล้ ๆ บ้านก็อาจจะมีแบบนี้ ซึ่งแม้ว่าอาจจะไม่เรียบร้อย แต่ถ้าหากว่าญาติโยมดูแลเอาใจใส่ก็อาจจะเป็นพระดีในวันหน้าก็ได้
แต่ขณะเดียวกัน พระที่ไม่เรียบร้อยก็ให้ตระหนักว่า มาบวชแล้วเราต้องเป็นพระดีให้ได้ เหมือนกับเสือบุญ มาบวชแล้วตั้งใจศึกษาปฏิบัติ ทั้งปริยัติ และกรรมฐาน จนกระทั่งละทิ้งความเป็นโจรไป
แม้จะมีนิสัยบางอย่างตกค้างอยู่บ้าง อย่างเช่น ความโกรธ ความโมโห แต่ว่าก็สามารถระงับยับยั้งเอาไว้ได้ หรือว่าใช้ความโกรธให้เป็นประโยชน์ ไม่ใช่ปล่อยให้ความโกรธ ความก้าวร้าวออมมาพร่ำเพรื่อตามนิสัยความเคยชินเดิม.