พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 3 กรกฎาคม 2567
หลายคนเคยได้ยินชื่อตระกูลร็อคกี้เฟลเลอร์ คนที่พอมีอายุหน่อยก็จะรู้ว่านี่คือตระกูลอภิมหาเศรษฐี ไม่ใช่เฉพาะในอเมริกา แต่ว่าของทั้งโลกเลยทีเดียว แต่ว่าตระกูลนี้ไม่ใช่ว่าเป็นมหาเศรษฐีมาตั้งแต่แรก ดั้งเดิมคนในตระกูลนี้ก็ไม่ได้ร่ำรวย
คนที่เป็นอภิมหาเศรษฐีของตระกูลนี้คนแรกคือ จอห์น ร็อคกี้เฟลเลอร์ ถือว่าเป็นต้นกำเนิดเลยของชื่อเสียงที่ติดมากับตระกูลนี้ในฐานะที่เป็นอภิมหาเศรษฐี ในตระกูลนี้นายจอห์นยังเป็นต้นตำรับเป็นคนเก่ง ขยัน ตอนอายุ 25 ปีนี่ก็เป็นผู้บริหารโรงกลั่นน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา
ตอนนั้นอเมริกาก็เพิ่งค้นพบว่ามีบ่อน้ำมันในหลายรัฐโดยเฉพาะเท็กซัส ซึ่งน้ำมันนี่เป็นทรัพยากรสำคัญเพราะว่ารถยนต์ก็เพิ่งผลิตเพิ่งประดิษฐ์ได้ แล้วเขาก็พบว่าน้ำมันช่วยในการขับเคลื่อนรถยนต์ได้รวมทั้งเครื่องยนต์ต่าง ๆ ดีกว่าถ่านหินเยอะแยะเลย ฉะนั้น น้ำมันจึงเป็นทรัพยากรสำคัญของอเมริกาในช่วงเมื่อเกือบร้อยปีที่แล้ว
ด้วยวัยเพียง 25 ปี ร็อคกี้เฟลเลอร์ก็บริหารโรงกลั่นน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา พออายุ 31 ปีก็เป็นเจ้าของบริษัทกลั่นน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของโลก แล้วอายุ 38 ปีเขาได้กลายเป็นคนสำคัญที่ควบคุม 90% ของน้ำมันที่กลั่นในอเมริกา พูดได้ว่าน้ำมันปริมาณมหาศาลที่กลั่นในโลก อยู่ในการดูแลของร็อคกี้เฟลเลอร์ตั้งแต่เขาอายุ 38 ปี พออายุ 50 ก็เลยกลายเป็นเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลกเลย
อภิมหาเศรษฐีคนนี้ชีวิตก็น่าจะดูราบรื่น เพราะว่าพรั่งพร้อมด้วยทรัพย์สินบริษัทบริวารชื่อเสียง แต่ปรากฏว่าพออายุ 53 ปีก็ป่วย ป่วยหนักด้วยเป็นโรคเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร แถมยังเป็นโรคซึมเศร้าอีกต่างหาก กินไม่ได้นอนไม่หลับ คนที่รวยมากแต่ว่ากินได้แต่น้ำซุปแล้วก็ขนมปังแห้งๆ ไม่มีปัญญาที่จะกินอะไรมากกว่านั้น เรียกว่าร่างกายก็ผ่ายผอมไปเรื่อยๆ จนหมอบอกว่าเขาจะอยู่ได้อีกไม่เกินหนึ่งปี เพราะว่าเขาไม่มีเรี่ยวไม่มีแรงเลย แถมไม่มีกำลังใจที่จะใช้ชีวิต
เขาพบว่าเงินหรือทรัพย์สินมหาศาลที่เขามีนี่ มันช่วยอะไรเขาไม่ได้เลย ไม่สามารถทำให้เขารู้สึกดีขึ้นได้ ความทุกข์ที่เกิดจากความเจ็บป่วยแล้วก็โรคซึมเศร้านี่ เงินไม่ได้ช่วยเขาเลย พอเขารู้ว่าเขาคงจะอยู่ได้ไม่นาน เขาก็เลยตัดสินใจบริจาคเงินมหาศาลเลยเพื่อการกุศล โดยเฉพาะในเรื่องของการแพทย์และการศึกษา
มูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ที่เขาก่อตั้งขึ้นมาตอนหลังก็เป็นกำลังสำคัญในการส่งเสริมให้มีการค้นพบเพนนิซิลลินซึ่งเป็นยาปฏิชีวนะตัวแรกเลย ซึ่งมันช่วยลดอัตราการตายของผู้คนที่บาดเจ็บได้ ภายหลังเงินทุนที่ใช้ในการพัฒนาทางการแพทย์นี้ ก็ทำให้ค้นพบยาที่ช่วยรักษาโรคนานาชนิดที่คร่าชีวิตผู้คนมากมาย วัณโรค มาเลเรีย รวมทั้งโรคคอตีบ
เดี๋ยวนี้ไม่มีใครรู้จักโรคคอตีบ โรคนี้ทำให้คนเราตายได้ ทรมานมาก ไอกรน เดี๋ยวนี้คนลืมไปแล้ว ไม่รู้จักด้วย โรคคอตีบ สมัยอาตมาเด็กๆ ยังต้องฉีดยากันโรคไอกรน คอตีบ เพราะเป็นแล้วตาย แต่ว่าเดี๋ยวนี้เรามียารักษาและป้องกันด้วย ผลดีเหล่านี้ก็ต้องมอบให้กับมูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์
ในส่วนที่เกี่ยวกับจอห์น ร็อคกี้เฟลเลอร์ ปรากฏว่าพอเขาบริจาคเงินก้อนใหญ่ เขารู้สึกมีความสุข ชีวิตมีความหมาย อาการเขาก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ ตอนหลังเขาสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แล้วก็อยู่ได้จนอายุเกือบถึง 98 ปี ตอนที่ล้มป่วยตอนอายุ 53 แต่อยู่มาได้อีกตั้ง 45 ปี ส่วนหนึ่งคงเป็นอานิสงส์จากการที่เขาได้ทำความดีอุทิศเงินก้อนใหญ่จำนวนมหาศาลเพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติ ถ้าพูดแบบพุทธคือเขาเป็นคนชอบทำบุญ
ที่จริงก่อนหน้านี้เขาก็ชอบทำบุญ บริจาคเงิน ส่วนใหญ่บริจาคเงินให้โบสถ์ แต่ตอนหลังก็คงพบว่า เงินของเขานี่สามารถจะทำประโยชน์ได้มากกว่านั้น โบสถ์มีคนบริจาคเยอะแล้วแต่ว่าการศึกษาหรือภาคสาธารณสุขด้านการแพทย์หรือการช่วยเหลือคนที่ยากไร้นี่ ยังไม่ค่อยมีคนสนใจเท่าไร ร็อคกี้เฟลเลอร์เป็นอภิมหาเศรษฐีคนแรกๆ ที่เขาเอาเงินที่ได้จากการกลั่นน้ำมันมาใช้เพื่อการกุศล
ที่จริงก็มีคนโจมตีเขาเยอะ เรื่องวิธีการที่เขาใช้เป็นการผูกขาดการกลั่นน้ำมันทั้งในอเมริกาแล้วก็ขยายไปอีกหลายประเทศ มันเป็นวิธีที่ไม่ค่อยถูกต้องเท่าไหร่ตามประสาเศรษฐีที่มีเงินแล้วก็มีอำนาจทางอ้อมผ่านผู้แทนในอเมริกา ซึ่งแม้กระทั่งประธานาธิบดีก็ยังต้องฟังเขา แต่ว่าส่วนดีเขาก็มีคือ การที่เขาเป็นผู้ริเริ่มให้มหาเศรษฐีหันมาบริจาคเงินเพื่อการกุศล
ที่จริงพูดถึงเรื่องการทำความดี มันไม่จำเป็นต้องบริจาคเงินก็ได้ คนที่ไม่มีเงินก็สามารถทำความดีได้ และความดีก็สามารถจะส่งผลกลับมาที่ตัวเองได้ อย่างบางคนไปเป็นจิตอาสาช่วยเด็กที่ถูกพ่อแม่ทิ้งที่สถานสงเคราะห์เด็กอ่อน ปรากฏว่าไมเกรนที่เคยเป็นที่ต้องกินยาทุกวันนั้น มันบรรเทาเลย บรรเทาจนลืมกินยา มารู้ทีหลังว่าเป็นเพราะเราไปช่วยดูแลเป็นพี่เลี้ยงเด็ก
ความสุขที่เกิดจากการเป็นพี่เลี้ยงเด็กก็ทำให้ไมเกรนนี้มันบรรเทาลง แต่บางคนยิ่งกว่านั้น ไปเป็นจิตอาสาทั้งที่เป็นมะเร็ง ไปเป็นจิตอาสาให้กับเด็กที่ติดเตียงในโรงพยาบาล ปรากฏว่าวันดีคืนดีมะเร็งหาย เป็นมะเร็งครั้งที่สอง ก่อนหน้าเป็นมะเร็งครั้งแรกก็รักษาหายด้วยการฉายแสงฉีดคีโม แต่ผ่านไป 7 ปีมันกลับขึ้นมาใหม่แล้วก็แรงกว่าเดิม
วิธีการรักษาแบบเดิมๆ ใช้ไม่ได้ผลก็หมายความว่าคงตาย แต่แทนที่จะปล่อยเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ แทนที่จะนอนรอวันตาย ก็ลุกไปทำความดีทำให้ชีวิตมีคุณค่าด้วยการไปเป็นจิตอาสา ปรากฏว่าทำไปทำมาไม่ใช่แค่สุขใจอย่างเดียว ร่างกายก็กลับมาเป็นปกติสุขด้วย มะเร็งหาย เธอก็บอกว่าจิตอาสาเป็นคีโมขนานเอก
การเป็นจิตอาสามันช่วยได้เยอะจริงๆ ทำให้หลายคนนี่หายป่วย อย่างร็อคกี้เฟลเลอร์ หรือว่าอีกหลายคน บางคนไม่ได้ป่วยกายแต่ป่วยใจ เป็นโรคซึมเศร้าก็หายซึมเศร้า บางคนรู้สึกผิดหวังกับชีวิต รู้สึกตัวเองไร้คุณค่า แต่พอเป็นจิตอาสาหรือไปช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยากด้วยการร้องเพลง ด้วยการเล่นดนตรีหาเงิน ไปช่วยคนเหล่านั้น ปรากฏว่าหายทุกข์หายกลุ้มใจไปเลย เพราะว่าลืมความทุกข์ของตัวเอง เพราะมีความสุขมาแทนที่
ฉะนั้น การที่คนเราคิดถึงผู้อื่นช่วยเหลือผู้อื่น ไม่ว่าด้วยเงินหรือด้วยการไปเป็นจิตอาสานี่ จริงๆ ไม่ได้ช่วยคนอื่นอย่างเดียว มันช่วยเราด้วย.