พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 14 มิถุนายน 2567
คนแก่หลายคนมักจะบ่น ว่าแก่แล้วไม่มีอะไรดีเลย ตาก็ไม่ดี หูก็ไม่ดี ความจำก็ไม่ดี ไม่มีอะไรดีสักอย่าง ที่จริงไม่ใช่อย่างนั้น ความเข้าใจของคนแก่จำนวนมากเป็นอย่างนั้น
แต่ความจริงไม่ใช่อย่างนั้น คนแก่มีอะไรดีหลายอย่าง อย่างผู้รู้ที่ศึกษาเกี่ยวกับสุขภาพและจิตใจของคนแก่บอกว่า คนแก่มีดีหลายอย่าง
อย่างแรกคือ ทักษะการคิด อาจจะดูแปลกคนหนุ่มสาวเขาจะคิดอะไรได้ไว ส่วนคนแก่คิดอะไรได้ช้า แต่ข้อดีของคนแก่ก็คือว่า มีสมาธิดีกว่าคนหนุ่มสาว อันนี้เขาศึกษาการทำงานของสมองไม่ใช่คาดคะเนเอง สมองเกี่ยวกับการมีสมาธิจดจ่อนี้คนแก่มีดีกว่า
และมีความสามารถในการยับยั้งใจไม่ให้ไหลไปตามสิ่งเร้าภายนอก ซึ่งก็ทำให้สมาธิดีขึ้น เดี๋ยวนี้เวลาทำอะไรมันก็จะมีสิ่งเร้าต่าง ๆ มากมายแม้กระทั่งการฟังธรรมก็จะมีเสียงดังโน่นนี่ และหลายคนก็ลืมตัวเผลอไปจดจ่อใส่ใจกับสิ่งเร้า อ่านหนังสือก็เหมือนกันบางทีก็ไปนึกถึงโทรศัพท์มือถือ จิตใจวอกแวกขึ้นมา อันนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนหนุ่มสาว
แต่ว่า สว ผู้สูงวัย คือคนแก่นี้ เขามีสมาธิดีกว่า ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าเขายับยั้งใจไม่ให้ไหลไปตามสิ่งเร้าภายนอกไม่ว่าจะเป็นในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส หรือความคิดที่ผุดขึ้นมา ความมีสมาธิดีการคิดอะไรก็ดีขึ้นไปด้วย
เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่า คนแก่จำนวนไม่น้อยก็ยังมีผลงาน เกี่ยวกับงานวิชาการ งานคิด งานเขียน อาจจะช้าบ้าง แต่ว่าคุณภาพก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าตอนที่เป็นหนุ่มเป็นสาว หรือด้อยกว่าคนหนุ่มสาวทั่วไป
อย่างที่ 2 คือ ภูมิคุ้มกันของคนแก่ดีขึ้น ถึงแม้ร่างกายนี้จะอ่อนแอลง เพราะว่าเจอโรคนานาชนิดมาแล้ว การเจอโรคแต่ละชนิดแต่ละครั้ง ไม่ว่าจะเป็นไวรัส แบคทีเรีย มันทำให้ภูมิคุ้มกันของเรานี้มีประสบการณ์ เรียกว่ามีความจำดีขึ้น
หน่วยความจำของระบบภูมิคุ้มกันร่างกายดีขึ้น เพราะว่ามีประสบการณ์เยอะ แต่เด็ก ๆ หรือคนหนุ่มสาวมีประสบการณ์น้อย เวลาป่วยก็เลยป่วยนาน แต่ว่าคนแก่นั้นถ้าเป็นโรคเดิม ๆ เช่น โรคหวัดนี้จะป่วยไม่นาน เพราะว่าภูมิคุ้มกันนี้ไหวตัวเร็ว จัดการกับเชื้อโรคต่าง ๆ ได้
เพราะฉะนั้น จะเห็นได้ว่าคนแก่นี่ถ้าพูดถึงโรคติดเชื้อแล้วจะไม่ค่อยเจ็บไม่ค่อยป่วยเท่าไหร่ ในขณะเดียวกันภูมิแพ้ก็จะรุนแรงน้อยลง แต่ก่อนนี้ภูมิแพ้ถ้าเป็นกับคนหนุ่มสาวจะรุนแรง แต่ว่าคนแก่เราจะสังเกตได้ว่าโรคภูมิแพ้จะไม่ค่อยแรงเท่าไหร่ เกิดขึ้นก็ไม่นาน อันนี้เป็นข้อได้เปรียบหรือข้อดีของความชราภูมิคุ้มกันดีขึ้น และภูมิแพ้รุนแรงน้อยลง
ข้อที่ 3 คนแก่มีความสุข หรือมีโอกาสที่จะมีความสุขมากกว่าคนหนุ่มสาว มีการทำสำรวจความสุขความทุกข์ของคนทั่วโลกเกือบ 100 ประเทศ พบว่า ตอนที่มีความทุกข์มากคือ ตอนวัยกลางคนอายุ 40 กว่าถึง 50 หลังจากนั้นก็จะมีความสุขมากขึ้น
พออายุ 70 ก็ยิ่งมีความสุขมากกว่าตอนอายุ 40 กว่า เพราะอะไร เพราะว่ามีวุฒิภาวะมากขึ้น ผ่านโลกมามาก เห็นความผันผวนปรวนแปรของโลกของชีวิตเลยทำใจได้ดีขึ้น ปล่อยวางได้มากขึ้น ไม่ยึดติดถือมั่น ไม่โวยวายตีโพยตีพาย เพราะรู้ว่าความทุกข์ที่เกิดขึ้นเดี๋ยวมันก็ผ่านไป ส่วนความสุขที่มีมันก็อยู่ไม่นาน ไม่หลงเพลินในสุข โอกาสที่มันจะจมทุกข์มากกว่าสุขแปรผันไปก็น้อยลง
นอกจากวุฒิภาวะแล้ว คนแก่คนชราเขาจะมาสนใจกับปัจจุบันมากขึ้น เพราะรู้ว่าอนาคตมันไม่แน่นอนแล้ว รู้ว่าจะมีเวลาอยู่ในโลกนี้ไม่นาน อนาคตข้างหน้าไม่รู้ว่าจะอยู่ได้อีกกี่ปี เขาก็จะมาสนใจปัจจุบันมากกว่าที่จะไปรอความสุขจากอนาคต คนเราพอรู้จักหาความสุขจากปัจจุบัน ก็จะสุขได้ง่าย
ถ้าไปรอความสุขจากอนาคต ก็จะต้องคอย และก็ไม่รู้ว่าจะได้อย่างที่หวังหรือไม่ เช่น หวังว่าอีก 10 ปีหน้าจะมีบ้านหรู หรือว่ามีรถราคาแพง หรือว่าจะมีตำแหน่งสูง ๆ ความสุขจากการไปรออยู่ตรงนั้นซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะได้ไปถึงหรือเปล่า ตอนที่ยังไปไม่ถึงก็เครียด วิตกกังวล พอได้แล้วก็รู้สึกว่ามันก็งั้น ๆ แหละ
แต่ว่าคนแก่เขารู้แล้ว ว่าจะไปรอความสุขข้างหน้า มันไม่ได้การแล้ว เพราะว่าเส้นทางชีวิตมันไม่แน่นอน เพราะฉะนั้นมาหาความสุขกับปัจจุบันดีกว่า กับครอบครัว กับเพื่อนฝูงมิตรสหายที่คบกันมาตั้งแต่เล็ก หรือว่ากับเพื่อนร่วมงานที่ทำงานร่วมกันมา 30-40 ปี หรือว่าจากต้นไม้ในสวนที่ปลูกนี้ ความสุขนี้หาง่ายถ้าหากว่าเราหันมาสนใจกับปัจจุบัน
มีคนบอกว่าคนแก่มีแนวโน้มที่จะไปนึกถึงอดีตที่เป็นบวก ความทรงจำหรืออดีตของคนเรานั้นมีทั้งบวกและลบ แต่ว่าคนแก่มีแนวโน้มที่จะนึกถึงประสบการณ์ดี ๆ ที่เป็นบวก
และข้อสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ คนแก่นี้ควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น ไม่ปล่อยให้ความโกรธเข้ามาเผารนใจ ไม่ปล่อยให้ความเศร้ามาทิ่มแทงใจ หรือว่าไม่ปล่อยตัวปล่อยใจไหลไปตามอารมณ์ซึ่งจะไปสร้างปัญหาตามมา คนเราถ้าควบคุมอารมณ์ได้ มันก็จะไม่ไปสร้างความเดือดเนื้อร้อนใจให้ใคร รวมทั้งหาความทุกข์มาใส่ตัวด้วย ก็เลยมีแนวโน้มที่จะมีความสุขได้ง่ายขึ้น
และเขายังบอกอีกว่า คนแก่จะมีความพึงพอใจทางเพศดีขึ้นกว่าคนหนุ่มสาว นี่ก็เป็นเรื่องที่ผู้รู้ผู้มีประสบการณ์ที่เขาจะบอกได้
แต่ว่าแค่ 3 ข้อแรกนี้ก็เป็นเรื่องที่น่าใส่ใจแล้ว เพราะว่าถ้าคนเรามีทักษะการคิดที่ดีขึ้น การงานก็ยังสามารถทำได้ดี ภูมิคุ้มกันดีขึ้นเพราะผ่านโรคผ่านประสบการณ์มาเยอะ มันก็จะทำให้สุขภาพกายดีขึ้น และถ้ามีวุฒิภาวะยาวนาน รู้จักปล่อยรู้จักวาง รู้จักอยู่กับปัจจุบัน ก็จะมีความสุขได้ง่ายขึ้น เป็นความสุขใจถึงแม้ว่ากำลังวังชาจะลดน้อยถอยลง หรือถึงแม้ว่าจะมีเงินทองน้อยลง แต่ว่าใจนี้มีความสุขมากกว่าสมัยเป็นหนุ่มสาว
อันนี้พอคนแก่รู้อย่างนี้แล้ว ก็อย่าไปมองตัวเองในแง่ลบว่า นี่แก่แล้วไม่มีอะไรดี มีดีตั้งหลายอย่าง แต่อาจจะมองไม่เห็น เพราะว่าไปเปรียบเทียบกับคนหนุ่มสาว
เพราะฉะนั้น เวลาใครเรียกว่าลุงว่าป้านี้อย่าไปโกรธ ขอบคุณเขาที่เรียกว่าลุงว่าป้า ไม่ใช่โมโหเขามาเรียกฉันป้าได้ยังไง มาเรียกฉันลุงได้ยังไง ฉันแค่ 70 เอง