พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 3 มิถุนายน 2567
มีเรื่องเล่าว่า คราวหนึ่งสัตว์นานาชนิดทั่วโลกมาประชุมกันเรียกว่าสภาสัตว์โลก หัวข้อหนึ่งที่สัตว์ต่าง ๆ สนใจมากก็คือ สัตว์ชนิดใดที่มีความสามารถเหนือมนุษย์
เพราะในที่ประชุมสัตว์นานาชนิดบ่นกันมากว่า มนุษย์ก่อปัญหาต่าง ๆ มากมาย แล้วก็มีความอหังการถือว่าตัวเองเป็นเจ้าโลก ทำอะไรกับโลกได้ทุกอย่าง ก็เลยมีการพูดกันว่า จริง ๆ แล้ว มีสัตว์ชนิดใดบ้างที่มีความสามารถเหนือกว่ามนุษย์
ช้างเสนอตัวเลย บอกว่าฉันนี้มีกำลังวังชาอย่างยิ่งกว่ามนุษย์ แต่ก็ถูกแย้งว่า เดี๋ยวนี้มนุษย์มีเครื่องจักรสามารถที่จะลากของหนักเป็นร้อย ๆ ตันได้ แค่รถแบ็คโฮอย่างเดียวก็กำลังเหลือเฟือช้างก็สู้ไม่ได้แล้ว
เสือก็บอกว่า ฉันสิ ฉันวิ่งเร็วที่สุด วิ่งเร็วกว่ามนุษย์ มนุษย์นี้งุ่มง่าม แต่ก็ถูกแย้งว่า เดี๋ยวนี้มนุษย์มีรถ รถวิ่งเร็วมาก 100-200-300 กิโลต่อชั่วโมง เป็นเรื่องธรรมดา
นกฮูกเสนอตัวบอกว่า ตาฉันนี้คม มองไกล มนุษย์สู้ไม่ได้หรอก แต่ก็มีเสียงแย้งว่า มนุษย์เดี๋ยวนี้มีกล้องโทรทัศน์ สามารถที่จะมองเห็นดาวฤกษ์หรือกาแล็กซี่ที่ไกลนับพันปีแสงได้ หรือว่าไกลถึงล้านปีแสงก็ยังได้เลย กล้องโทรทัศน์เดี๋ยวนี้ที่มนุษย์ใช้มองอะไรได้ไกลจนสุดขอบจักรวาลเลย
นกคีรีบูนก็บอกว่าฉันเหนือกว่ามนุษย์ ฉันร้องเพลงได้เพราะ มนุษย์นี้สู้ไม่ได้ แต่ก็มีเสียงแย้งว่า เดี๋ยวนี้มีมนุษย์ร้องเพลงไพเราะมาก นกคีรีบูนสู้ไม่ได้หรอก
ปลาวาฬเสนอตัวบอกว่า ฉันนี้สามารถจะว่ายน้ำข้ามมหาสมุทรหลายพันกิโลเมตร จากเหนือสุดจนใต้สุด ก็มีเสียงแย้งว่าไม่ใช่หรอก มนุษย์สามารถจะเดินทางด้วยเรือเป็นหมื่น ๆ กิโลเมตรก็ได้ ไปได้ไกลกว่าปลาวาฬ
แล้วทีนี้ ปลาตกเบ็ดก็บอก ฉันสิเหนือกว่ามนุษย์ ฉันอยู่ใต้น้ำในทะเลลึกกิโลสองกิโล ฉันอยู่สบายเลย มนุษย์อยู่ไม่ได้หรอก แต่ก็มีเสียงแย้งว่า เดี๋ยวนี้มนุษย์มีเรือดำน้ำ สามารถที่จะดำลึก ทะเลลึกแค่ไหน มนุษย์สามารถที่จะดำลึกด้วยเรือดำน้ำพิเศษ
ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ชนิดใด ก็ไม่ปรากฏว่าจะมีความสามารถเหนือมนุษย์ได้ แพ้มนุษย์หมดเลย แต่แล้วก็มีสัตว์เล็ก ๆ ตัวหนึ่ง นั่นคือ หอยทาก หอยทากคลานกระดึ๊บ ๆมาแล้วบอกว่า ฉันสิ ฉันมีสิ่งที่มนุษย์ไม่มี
เสียงของเหล่าสัตว์ถาม “มีอะไร !?!” หอยทากตอบ “มีเวลา”
หอยทากมีเวลา อันนี้เรียกว่าชนะมนุษย์เลยนะ เพราะมนุษย์ชอบบ่นว่า ไม่มีเวลา ไม่มีเวลา เวลาทำอะไรก็ทำรีบ ๆ กินข้าวก็กินรีบ ๆ เดินทางไปไหนก็จะรีบเดินทางให้เร็ว หงุดหงิดหัวเสียมากเวลาทำอะไรช้า แม้กระทั่งเวลาปฏิบัติธรรมก็สนใจเพียงว่าปฏิบัติธรรมแบบไหนมันจะให้ผลเร็ว ลดน้ำหนักวิธีใดมันถึงจะลดน้ำหนักได้เร็ว จะทำอะไรก็อยากจะได้ผลเร็ว ๆ เพราะไม่มีเวลา
มนุษย์มักจะบ่นมากว่า ไม่มีเวลา ไม่มีเวลา และที่ไม่มีเวลาส่วนใหญ่ สังเกตนะมันก็เป็นเรื่องดี ๆ ทั้งนั้นแหละ เช่น ไม่มีเวลาออกกำลังกาย ไม่มีเวลาให้กับลูก ไม่มีเวลาให้กับพ่อแม่ ไม่มีเวลาแม้กระทั่งพักผ่อน นอนก็นอนได้ไม่เต็มที่
แล้วมนุษย์ทุกวันนี้เวลาหายไปไหนหมด ส่วนใหญ่ก็หมดไปกับการกิน ดื่ม เที่ยว เล่น ช็อป ดูอย่างเวลากินนี่ ให้เวลาในการกินมาก กับการกินเลี้ยง ขวนขวายหาของกิน ดื่มก็เหมือนกัน มีเวลาเที่ยวเยอะมาก
มีเวลาเล่น เล่นเกมออนไลน์ก็เยอะ เล่นโทรศัพท์มือถือวันหนึ่งก็หลายชั่วโมง ช็อปเดี๋ยวนี้ก็ช็อปกันเยอะ ไม่ใช่เที่ยวห้างอย่างเดียว บางทีช็อปออนไลน์ เสียเวลาไปกับการช็อปออนไลน์วันละหลายชั่วโมง ดูอะไรนะดูหนังโดยเฉพาะทางเว็บไซต์ ทางแอปต่าง ๆ netflix มีเรื่องให้ดูเยอะไปหมดจนกระทั่งบ่นเลยด้วยซ้ำว่า ดูไม่หมด ดูไม่ครบ
เวลาของคนเราหมดไปกับเรื่องพวกนี้ แล้วมาบ่นว่าไม่มีเวลา ไม่มีเวลา มันน่าแปลกที่คนสมัยก่อนนี้ทั้ง ๆ ที่ทำอะไรก็ใช้เวลาเยอะ หุงข้าวกว่าจะกินข้าวได้ก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมง เดินทางไปไร่ไปนาก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมง แค่เดินทางไปหาญาติพี่น้องอีกหมู่บ้านหนึ่งก็เป็นชั่วโมงแล้วทั้งที่ห่างกันแค่ 4-5 กิโล จะอาบน้ำก็ต้องไปหาบน้ำมาจากไกล ๆ ไม่ใช่เปิดก็อาบได้ทันที เพราะเขาไม่มีเทคโนโลยีเหมือนสมัยนี้
แต่ทำไมคนสมัยก่อนเขาถึงมีเวลา ไม่มาบ่นว่าไม่มีเวลา ไม่มีเวลา เขามีเวลานอน เขามีเวลาให้กับลูกหลาน เขามีเวลาให้กับธรรมะกับศาสนา กับพ่อแม่ ก็คงเป็นเพราะว่าการกิน ดื่ม เที่ยว เล่น ช็อปที่มันกินเวลาของคนสมัยนี้ มันไม่ค่อยได้แพร่หลายสำหรับคนสมัยก่อนเท่าไหร่ ไม่มีสิ่งเสพสิ่งบันเทิงมาก ก็เลยมีเวลาที่จะทำสิ่งดี ๆ ที่มีประโยชน์
เพราะฉะนั้น คนสมัยนี้ถ้าจะมีเวลามากขึ้นก็ต้องให้เวลากับการกิน ดื่ม เที่ยว เล่น ช็อป ให้น้อยลง ลดละสิ่งเหล่านี้ให้มากขึ้น พูดง่าย ๆ คือ ลดละการเสพ เสพให้มันน้อยลง และอะไรที่สำคัญสำหรับชีวิต ก็ต้องรีบทำ อย่าผัดผ่อน ไม่ใช่ว่าเดี๋ยวก่อน ๆ มันต้องเดี๋ยวนี้เลย อะไรที่สำคัญต้องรีบทำเดี๋ยวนี้ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นการให้เวลากับครอบครัวกับลูกกับหลาน
และอะไรที่สำคัญ ต้องจัดเวลาให้ทำก่อนเลย แล้วก็ตั้งใจทำทุกวัน ไม่เช่นนั้นเดี๋ยวมันก็ผลัดไปเรื่อย สุดท้ายก็ไม่ได้ทำ กว่าจะนึกได้ก็สายไปเสียแล้ว อย่างเช่น ลูกก็โตกลายเป็นวัยรุ่น ชีวิตมีปัญหา พฤติกรรมติดยา คบเพื่อนไม่ดี ติดพนัน เพราะว่าตอนเด็ก ๆ พ่อแม่ไม่ได้ให้เวลากับลูก หรือบางทีอยากจะให้เวลากับพ่อแม่ แต่มานึกขึ้นได้ พ่อแม่ก็ตายไปซะแล้ว เพราะว่าผัดผ่อนอยู่เรื่อยไป
ฉะนั้นถ้าหากว่าเราจัดเวลาดี ๆ โดยการให้ความสำคัญกับสิ่งที่มีคุณค่า ให้เวลากับสิ่งนั้นทุกวัน ๆ วันละนิดวันละหน่อยก็ยังดี แล้วก็ลดละการกิน ดื่ม เที่ยว เล่น ช็อป แล้วก็ดู ให้มันน้อยลง เราก็จะมีเวลามากขึ้น แต่ก็คงยาก เพราะว่าเดี๋ยวนี้สิ่งล่อเร้าเย้ายวนมันเยอะ เทคโนโลยี่มันก็มาก ถ้าขาดสติเสียแล้ว ก็ไม่มีทางที่จะมีเวลาให้กับสิ่งดี ๆ ที่มีค่าได้.