พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 2 มิถุนายน 2567
อาจารย์คนหนึ่งพอเกษียณแล้ว มาใช้ชีวิตบั้นปลายอยู่กับครอบครัว คือ ภรรยากับลูกสาวซึ่งมีอยู่คนเดียว ตอนหลังลูกสาวก็ไปต่างประเทศ มีงานดีที่อเมริกา ที่บ้านก็เหลือแค่สองคนคือ สามีกับภรรยา ก็อยู่ด้วยกันมาจนกระทั่งอายุได้ 80 ทุกเช้าสามีออกไปจ่ายตลาด สายๆ ก็ไปกินอาหาร กินกาแฟที่ร้านของลูกศิษย์ ส่วนใหญ่ก็พบปะกันมากกว่า เพื่อนๆ ก็ค่อยๆ ล้มหายตายจากไปทีละคนสองคน
ตอนหลังใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเป็นส่วนใหญ่กับภรรยา
เช้าวันหนึ่งตื่นขึ้นมาปรากฏว่าภรรยาเสียชีวิตแล้ว ไปอย่างไม่มีการส่งสัญญาณเลย สำหรับคนทั่วไปถือว่าไปดีคือไม่ทุกข์ทรมาน แต่ว่าผู้ที่เป็นสามีคืออาจารย์คนนี้ แกก็เศร้าสร้อยมาก หลังจากจัดงานศพ ก็อยู่คนเดียว ลูกสาวติดพันกับงานมาก ไม่สามารถที่จะมาร่วมงานศพของแม่ได้เลยแม้แต่วันเดียว วันเผาก็มีแต่สามีที่ส่งภรรยาคืนสู่ธรรมชาติ ลูกสาวก็ไม่สามารถกลับมาได้
หลังจากงานศพ อาจารย์แกก็หงอยเหงายิ่งกว่าเดิม แม้จะมีคนมาปลอบโยน แสดงความเสียใจก็ไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่ ลูกศิษย์มาเยี่ยมเยียน อาจารย์ก็รู้สึกดีสักพัก พอลูกศิษย์กลับไปก็เหงาใหม่ ไม่มีชีวิตชีวาเลย
คืนหนึ่งแกเขียนจดหมายถึงลูก แล้วก็สั่งลาลูกเรียบร้อย ผนึกซองเสร็จก็หยิบยานอนหลับมา ว่าจะกรอกยานอนหลับนี้ให้มันหมดขวดเลย จะได้ไปพบกับภรรยาที่สุคติ แต่ก่อนที่จะกินยาก็มีเสียงโทรศัพท์ดังมาที่หัวเตียง แกไม่ค่อยได้ใช้โทรศัพท์มือถือเท่าไหร่ ก็อาศัยโทรศัพท์บ้านปรากฏว่า ปลายสายคือลูกสาว ลูกสาวบอก พ่อ ตอนนี้อยู่ที่สนามบินแล้ว เจ้านายใจดีให้หนูพักงานมาอยู่กับพ่อเดือนหนึ่ง อีกครึ่งชั่วโมงเจอกัน หนูรักพ่อมากเลย
ลูกบอกแค่นั้น อาจารย์ก็สดชื่นเบิกบานเลย แทนที่แกจะไปกินยานอนหลับ ก็มาดื่มน้ำชาแทน รอลูกสาวกลับมาที่บ้าน และนับแต่นั้นมาแกก็เลิกคิดฆ่าตัวตายเลย วันหนึ่งลูกศิษย์มาเยี่ยมแกก็เล่าถึงประสบการณ์ช่วงนั้นในคืนนั้นให้ฟัง แล้วแกก็ถามลูกศิษย์ว่า เธอรู้ไหม อะไรที่ทำให้คนเราเลิกคิดฆ่าตัวตาย แล้วแกก็ตอบเองว่า ไม่ใช่ทรัพย์สมบัติ ไม่ใช่ชื่อเสียง ไม่ใช่แม้กระทั่งคำสอนหรือหลักธรรมทางศาสนา หรือคำแนะนำทางจิตวิทยา แต่มันคือความรู้สึกว่าตัวเองยังมีคนรัก
อาจารย์คนนี้เลิกคิดฆ่าตัวตายเมื่อรู้ว่ายังมีลูกสาวที่ยังเขารักตัวเองอยู่ ทีแรกคิดว่าลูกสาวนี้คงจะไม่สนใจพ่อแล้ว ขนาดงานศพแม่ก็ยังไม่มา แต่ที่จริงแล้วลูกสาวรักพ่อมาก พอมีโอกาสก็กลับมาเยี่ยมบ้าน เยี่ยมพ่อทันที คนเรานั้นคงไม่มีอะไรที่จะชุบชูใจได้ดีเท่ากับความรักของคนใกล้ชิด โดยเฉพาะความรักของลูกๆ
เดี๋ยวนี้พ่อแม่หลายคนนี้พออายุ 80 หรือแม้แต่ 70 เหงามากๆ เพราะว่างานการก็ไม่ได้ทำแล้ว อยู่กับบ้าน แถมบางทีคู่รักก็ล้มหายตายจากไป พ่อหรือแม่ก็อยู่คนเดียว ที่จริงที่บ้านก็มีลูก แต่ลูกก็ไม่ค่อยได้อยู่กับพ่ออยู่กับแม่เท่าไหร่ ไปทำงาน ลูกหลายคนก็รักพ่อรักแม่ เป็นห่วงพ่อห่วงแม่
หลายคนถามอาตมาว่า ถ้าอยากให้พ่อแม่ตายอย่างสงบ ตายดี ทำยังไงจะให้เขาได้มาสนใจธรรมะ อาตมาก็บอกว่า อย่างแรกที่ลูกควรจะทำคือ ให้เวลากับพ่อหรือแม่มากขึ้น ไม่ใช่ว่าวันๆ ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่เลย คิดแต่ว่าจะให้พ่อแม่มาสนใจธรรมะได้อย่างไร แล้วคนที่อยู่ห่างวัดไกลวัดนี่ จะให้มาสนใจธรรมะตอนบั้นปลายชีวิตมันยาก แค่คิดถึงความตายหรือเจริญมรณสตินี้ก็เครียด
หลายๆ คนพอนึกถึงธรรมะ นึกถึงการพาพ่อแม่เข้าหาธรรมะก็นึกถึงแต่การสวดมนต์ ไหว้พระ ฟังธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยทำ ถ้าจะเริ่มต้นต้องเริ่มต้นจากการที่ลูกนะให้เวลากับพ่อแม่มากขึ้น ทำให้เขามั่นใจว่าเรารักเขา หรือว่าเขายังเป็นที่รักของเรา พอเขามั่นใจว่าเรารักเขา หรือเขารู้สึกอบอุ่นใจที่มีลูกๆ อยู่ใกล้ๆ ใจก็ผ่อนคลาย สบาย เป็นกุศล ตอนนี้พอลูกจะแนะนำอะไร เช่น แนะนำให้พ่อแม่ทำบุญ แนะนำให้ฟังธรรมะบ้าง เขาก็เริ่มจะคล้อยตาม หรือเชื่อมากขึ้น เพราะว่าความสัมพันธ์มันดีขึ้น
แต่ถ้าหากว่าลูกกับพ่อแม่ยังเหินห่างกัน ลูกแนะนำอะไรไปเขาก็ไม่ฟังหรอก เพราะว่าสิ่งที่ลูกแนะนำ มันก็เป็นแค่แนะนำคนอื่น แต่ไม่ได้เรียกร้องตัวเองนะว่าควรจะทำอะไร
ในทางตรงข้าม ถ้าลูกๆ ให้เวลากับพ่อแม่มากขึ้น กินข้าวพร้อมหน้ากัน หรือว่าพาเขาไปเที่ยว พาเขาไปทำบุญบ้าง ให้ความสัมพันธ์กระชับแน่น ให้เขามั่นใจว่าเรารักเขา ถึงตอนนั้นเราแนะนำอะไรไป เขาก็อาจจะคล้อยตามได้ง่าย
เดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่ลูกคิดแต่จะให้พ่อแม่ทำโน่นทำนี่ แต่ไม่ได้ถามตัวเองว่า แล้วตัวเองทำอะไรบ้างหรือเปล่า อยากจะให้พ่อแม่ฟังธรรม อยากจะให้พ่อแม่สวดมนต์ อยากจะให้พ่อแม่นั่งสมาธิ แต่ตัวเองไม่ทำเลย หรือว่าไม่มีเวลาที่จะให้กับเขาเลย แนะนำเขาทำโน่นทำนี่แต่ตัวเองไม่ได้ทำอะไรที่มันเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเลย อย่างนี้ก็ยาก แสดงว่าเราไม่ได้จริงจังกับการช่วยเหลือเขาเท่าไหร่ เพราะถ้าเราจริงจังกับการช่วยเหลือให้เขาจากไปอย่างสงบ ก็ต้องทำให้เขามีความรู้สึกดีๆ เกิดขึ้นในบั้นปลายชีวิต
ซึ่งความรู้สึกดีๆ จะเกิดขึ้นได้ ที่สำคัญก็คือการที่ได้ให้เวลา ให้ความรักกับเขา แต่อย่างไรก็ตามคนที่เป็นผู้ชราเนี่ยนะ จะว่าไปแล้วก็อย่าไปคาดหวังว่า คนอื่นเขาจะมาดูแลเรามากน้อยแค่ไหน มีคนรักดูแลก็ดีแล้วแต่อย่าลืมรู้จักอยู่กับตัวเองให้เป็นด้วย
คนเราถ้าอยู่กับตัวเองไม่เป็น มันก็ลำบาก เพราะพอจะถึงบางช่วงบางขณะของชีวิตที่ต้องอยู่คนเดียวจริงๆ อยู่กับตัวเองให้เป็น รวมถึงการอยู่กับความเหงาให้ได้ อยู่กับความเหงาเป็น มันก็ไม่รู้สึกว่าชีวิตมันไร้ค่า สามารถจะอยู่คนเดียวได้ด้วยใจที่ไม่ทุกข์ จะไปรอพึ่งคนอื่นอย่างเดียวไม่พอ ต้องรู้จักพึ่งตัวเองด้วย แล้วก็ต้องทำตั้งแต่ตอนนี้ไม่ใช่ไปรอทำตอนบั้นปลายชีวิต ถึงตอนนั้นก็สายไปแล้ว.