พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้า วันที่ 1 มิถุนายน 2567
2-3 วันก่อน ได้เห็นภาพ ๆ หนึ่ง น่าประทับใจมาก เป็นภาพชายหนุ่มแต่งชุดครุยบัณฑิตคณะวิศวะ จุฬาฯ ก้มกราบพนักงานขับรถเก็บขยะ เป็นภาพที่ตัดกันมาก คนใส่ชุดครุยบัณฑิตจุฬาก้มกราบพนักงานขับรถเก็บขยะ ที่น่าประทับใจเพราะว่าพนักงานขับรถเก็บขยะนั้นคือพ่อของผู้ที่เป็นบัณฑิต
ชายหนุ่มที่เป็นบัณฑิตเล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่เล็กนั่งรถเก็บขยะไปกับพ่อ พ่อทำงานหนักมาก เก็บขยะ และพ่อเล่าว่า เราต้องทำงานแย่งหนอนกิน หนอนนี่คือหนอนในขยะ หมายความว่าบางครั้งต้องอาศัยอาหารที่เขาทิ้งแล้วเก็บมากินต่อ และต้องรีบเก็บด้วย ก่อนที่หนอนจะขึ้น แสดงว่ายากจนมาก
ตอนเด็ก ๆ เขารู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจว่าทําไมพ่อจึงไม่แต่งชุดเท่ ๆ เหมือนพ่อคนอื่น เช่น ชุดตำรวจ ชุดทหาร แต่พ่อบอกเขาว่า พ่อยากจน แม้ว่าไม่สามารถจะให้อะไรลูกได้เหมือนพ่อคนอื่น แต่สิ่งที่พ่อให้ได้คือ โอกาสทางการศึกษา พ่อจะสนับสนุนลูกให้ได้เรียนสูงสุดเท่าที่ลูกจะมีความสามารถ
พ่อเคยอยากให้ลูกเรียนทหาร แต่พอลูกสอบเข้าเตรียมทหารไม่ได้ พ่อเสียใจ แต่พ่อไม่ได้ร้องไห้ให้ลูกเห็น ไปแอบร้องไห้ ลูกจึงเกิดความขยัน ในที่สุดก็สอบเข้าจุฬาฯ ได้ วันที่ประกาศผลสอบ พ่อลางานไปดูผลสอบแทนลูก และดีใจมากที่ลูกสอบเข้าจุฬาฯ ได้ คณะวิศวะด้วย พ่อดีใจมาก น้ำตาซึมเลย ดีใจและภูมิใจที่ลูกสอบเข้าจุฬาฯ ได้
ชายคนนี้เล่าว่า ตอนเรียนปี 4 วันหนึ่งพ่อโทรศัพท์มาและถามลูกว่า น้อยใจไหมที่มีพ่อเป็นพนักงานขับรถเก็บขยะ ลูกถามว่า ทําไมต้องน้อยใจด้วย พ่อตอบว่า พ่อไม่สามารถจะให้อะไรเหมือนคนอื่น ลูกอยากไปเที่ยวที่ไหนพ่อก็พาไปเที่ยวไม่ได้ ลูกอยากกินอะไรพ่อก็ซื้อให้ลูกกินไม่ได้ พ่อไม่สามารถจะให้ลูกได้เหมือนพ่อคนอื่น ๆ
ลูกจึงตอบว่า ผมภูมิใจที่มีพ่อแบบพ่อ การที่พ่อสนับสนุนให้ผมมายืนตรงนี้ได้เป็นความภูมิใจของผมแล้ว ผมไม่รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจหรือน้อยหน้าใครเลย เพราะพอมายืนตรงนี้ คือว่า ได้มาเป็นนิสิตจุฬาฯ คณะวิศวะ และเรียนจนถึงปี 4 ใกล้จบแล้ว มายืนตรงนี้ได้ถือว่าไม่น้อยหน้าใครแล้ว
ดังนั้น พอเขาพูดเช่นนี้เสร็จจบ ได้ยินเสียงสะอื้น เสียงสะอื้นของพ่อ พ่อคงซาบซึ้งใจมากที่ลูกไม่รู้สึกด้อยที่มีพ่อเป็นพนักงานเก็บขยะ แถมมีความภาคภูมิใจด้วย พอได้ยินเสียงสะอื้นแบบนี้ ลูกจึงพูดอะไรไม่ถูก
และสิ่งหนึ่งที่ลูกตั้งใจคือ เมื่อเรียนจบรับปริญญา จะขอแต่งชุดครุยจุฬาฯ ซึ่งแสดงว่าเป็นบัณฑิตแล้ว มากราบเท้าพ่อ กราบเท้าไม่พอ ยังเขียนข้อความพูดถึงความสํานึกในบุญคุณของพ่อ บอกว่า
"ขอบคุณที่มีพ่อเป็นพ่อ ขอบคุณที่สนับสนุนทุกอย่าง ขอบคุณที่เหนื่อยไปด้วยกัน ร้องไห้ด้วยกัน ซึมไปด้วยกัน วันนี้ก็อยากให้พ่อมีความสุขกับความสำเร็จที่เราเหนื่อยมาด้วยกัน ขอบคุณจริงๆ ลูกคนเก็บขยะคนนี้ทำให้พ่อของมันภูมิใจได้แล้ว พ่อไม่ต้องอายอะไรใครทั้งนั้น เพราะพ่อคือพ่อคนดีที่หนึ่ง ไม่แพ้ใคร แม็กภูมิใจ"
เป็นภาพและเป็นความรู้สึกที่น่าประทับใจมาก เพราะว่าไม่ใช่ง่าย คนที่มีพ่อเป็นพนักงานขับรถเก็บขยะหรือพนักงานเก็บขยะจะมีความภูมิใจในตัวพ่อ เพราะเดี๋ยวนี้หลายคนน้อยเนื้อต่ำใจ มีพ่อหรือแม่ที่ยากจน มีพ่อหรือแม่เป็นชาวนาชาวไร่
หรือว่าเป็นพนักงานทำความสะอาด ไม่กล้าบอกว่าพ่อหรือแม่มีอาชีพอะไร เพราะว่าไปให้ค่ากับลาภยศสรรเสริญ แต่ที่จริงแล้ว การที่คนเรามีพ่อหรือแม่ที่รักลูก เสียสละเพื่อลูก เป็นโชคแล้ว และควรภูมิใจที่มีพ่อหรือแม่ที่รักลูกแบบนี้
ส่วนคนที่เป็นพ่อเป็นแม่ ถึงแม้จะมีอาชีพเก็บขยะ แต่ถ้าหากว่าอุตสาหะ ช่วยให้ลูกได้ประสบความสำเร็จในการศึกษา ก็เป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจแล้ว อย่างที่บัณฑิตคนนี้บอกพ่อว่า พ่อไม่ต้องน้อยหน้าใครแล้ว เพราะพ่อเป็นคนดีที่หนึ่งเลย
แค่เป็นคนดีเราก็ภูมิใจในตัวเองได้แล้ว ไม่ต้องน้อยหน้าใคร ถึงแม้จะยากจน ถึงแม้จะมีอาชีพเป็นพนักงานเก็บขยะ เป็นคนกวาดขยะ เพราะว่าคุณค่าของคนเราไม่ได้อยู่ที่อาชีพ ไม่ได้อยู่ที่เงินทอง ไม่ได้อยู่ที่ความร่ำรวย ไม่ได้อยู่ที่สถานภาพทางสังคม แต่อยู่ที่ความดี ความดีอย่างหนึ่งคือ ความดีที่อุทิศตัวเพื่อลูก อันนี้เป็นสิ่งที่เป็นแบบอย่างที่ดีมาก ที่น่าประทับใจ ทั้งตัวผู้เป็นพ่อและผู้เป็นลูก
พวกเราซึ่งเป็นลูกขอให้รู้สึกภาคภูมิใจในตัวพ่อแม่ของเรา ..และ..สํานึกในบุญคุณของท่าน แม้ว่าท่านอาจจะไม่ได้ดีตรงตามสเปค อาจจะชอบกินเหล้า อาจจะเล่นไพ่ เล่นการพนัน แต่การที่ท่านรักเรา เสียสละเพื่อเรา อันนี้ก็เป็นเหตุผลมากพอแล้วที่เราจะสํานึกในบุญคุณของท่าน และภูมิใจที่ท่านเป็นพ่อเป็นแม่ของเรา.